เราเป็นผู้ป่วยโรคทางจิตเวชคนหนึ่งที่รับการรักษาจากจิตแพทย์อยู่ค่ะ รักษา
มานานและค่อนข้างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2542 แต่ความไม่สบายของเรานั้นเกิด
ขึ้นและสะสมมานาน ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ที่ต้องเข้าพบจิตแพทย์ในปี 2542 นั้น
เนื่องจากมีเหตุให้เกิดความตึงเครียดและวิตกกังวลรุนแรง ซึ่งเป็น trigger ให้
ความซึมเศร้าและเครียดสะสมที่มีอยู่แต่เดิมลุกลามจนออกอาการชัดเจน
แล้วในที่สุด หมอจึงวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรค major depressive disorder
(โรคซึมเศร้า) อาการตอนนั้นมีหลายอย่าง ทั้งที่เกิดในหัวสมอง ในจิตใจ
ในหัวใจ และในร่างกาย ซึ่งรวมทั้งอาการวิตกกังวลรุนแรง ที่ จขกท กำลัง
รู้สึกว่าอาการนี้กำลังเกิดขึ้นกับตนเองอยู่ ..
ตามที่เราเข้าใจ อาการวิตกกังวลที่เกิดขึ้น จะทำให้คนเรามีความสามารถใน
การคิดและตัดสินใจที่สมเหตุผลน้อยลง ดังนั้น หมอจะให้ผู้ป่วยกินยา
คลายความกังวล หรือยานอนหลับ อย่างน้อยเมื่อความกังวลลดลง ผู้ป่วยก็
จะมีกำลังกายและกำลังความคิดมากขึ้น ทำให้สามารถคิด ตัดสินใจและดำเนิน
ชีวิตได้ตามปกติต่อไป ..
นอกจากยาดังกล่าว หมออาจพิจารณารักษาด้วยการทำจิตบำบัดให้ จิตบำบัด
มีหลายแนวทาง ขึ้นกับว่าหมอเห็นว่าแนวทางไหนเหมาะที่จะใช้รักษา เราเอง
รับการรักษาด้วยจิตบำบัดมาแล้วหลายคอร์ส ล่าสุดหมอใช้วิธี cognitive-
behavioural psychotherapy เนื่องจากสาเหตุหนึ่งของการเจ็บป่วยของเรา
นั้นอยู่ที่รูปแบบการคิด (patterns of thought) ที่ไม่ healthy นัก อาทิ คิดแทน
คนอื่น คิดมากเกินกว่าที่จำเป็นต้องคิด ฯลฯ หมอแนะนำให้พยายามรู้ตัวเมื่อเกิด
ความคิดและอารมณ์ที่เป็นโทษต่อสุขภาพจิต เมื่อรู้ตัวแล้ว หมอขอให้หยุดตัว
เอง ..
สิ่งนี้ทำให้เราเริ่มมีความเข้าใจชุดใหม่เกิดขึ้น จากเดิมคิดว่าอารมณ์ควบคุม
เรา เป็นว่าเราเองต่างหากที่ควบคุมอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดและพฤติกรรม
ของตนเองได้ ..
ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นการรักษาที่เราได้รับอย่างดีจากจิตแพทย์หลาย
ท่าน แม้ยังไม่หาย แต่ก็นับได้ว่าอาการดีขึ้นกว่าเดิมมาก ..
นอกจากรับการรักษาจากจิตแพทย์แล้ว เรายังหาทางรักษาความไม่สบาย
ของเราด้วยวิธีอื่นๆ อีก ซึ่งรวมทั้ง การทำสวน ปลูกและดูแลต้นไม้ ซึ่งเป็น
กิจกรรมที่ชอบ ทั้งยังทำให้ได้ใช้แรงและได้ถูกแสงแดดบ้าง และนอกจาก
นั้น เราอาศัยการศึกษาธรรมะ เพื่อเข้าใจความจริงของสรรพสิ่ง (รวมทั้ง
ชีวิต) และพยายามเรียนรู้วิธีปฏิบัติสมาธิ เพื่อจะได้มีสติดำรงอยู่กับปัจจุบัน
ให้ได้มากเท่าที่จะทำได้ ..
ความวิตกกังวลมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่จิตใจของคนเรากระโดดจาก
ปัจจุบันไปอยู่ที่อนาคตและอดีต .. และความไม่เข้าใจและยอมรับว่า
ทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปตลอดเวลา ไม่มีสิ่งใดอยู่นิ่ง ทั้งความเปลี่ยน
แปลงที่เกิดนั้นก็ไม่อยู่ในอำนาจของคนเราที่จะบังคับให้เป็นความเปลี่ยน
แปลงที่เรายินดี เราพึงพอใจ .. สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็เพียงทำเหตุให้ถูกต้อง
โดยไม่ควรคาดหวังผล ..
เพื่อจะได้มีสติอยู่กับปัจจุบัน เราพยายามเรียนรู้วิธีการฝึกสติและทำสมาธิมานาน
แต่ก็ไม่ประสบผล จนกระทั่งไม่นานมานี้ มีกัลยาณมิตรท่านหนึ่งที่รู้จักผ่าน
ทางพันทิปแห่งนี้ กรุณาแนะนำแนวทางและวิธีการต่างๆ ให้ ตลอดจนหาซื้อ
หนังสือมากมายมาให้เราด้วย ..
ในจำนวนหนังสือที่เพื่อนมอบให้นั้น มีเล่มหนึ่งที่ช่วยทำให้การทำสมาธิของ
เราก้าวหน้าขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ นั่นคือ วิปัสสนานุบาล เขียนโดยคุณดังตฤณ ..
ที่ผ่านมา พบว่าการรักษาโดยจิตแพทย์และการศึกษาธรรมะและฝึกสมาธิมี
ความคล้ายคลึงกัน ราวกับเป็นสิ่งเดียวกัน เพียงแต่ใช้ถ้อยคำภาษาแตกต่าง
กัน และต่างก็เอื้อประโยชน์ต่อกัน ..
หวังว่าประสบการณ์ของเราจะเป็นประโยชน์แก่ จขกท และเพื่อนสวนลุมฯ อยู่
บ้าง .. และขออภัยที่เขียนยาว ..
ขอส่งแรงใจเข้มแข็งให้ จขกท ผ่านพ้น ช่วงเวลาไม่สบายนี้ไปได้ในเร็ววันค่ะ ^^
แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 50 07:02:12
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 50 21:23:17
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 50 20:32:03
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 50 20:17:00