ความคิดเห็นที่ 1 ......มองได้สองมุมคับ หรือจะปล่อยให้มั่วกันจนเกิดปัญหาจากการไม่ป้องกัน..... .....ครอบครัว สำคัญคับ ถ้าครอบครัวแข็งแรงก็ไม่ใช่ปัญหา....... ....อันนี้ผมว่าก็ดีนะ  แต่อันก่อนที่สอนเด็กอนุบาลให้รู้จักถุงยางนี่ ผมว่าปัญญาอ่อน..... จากคุณ : คาซีโอเพย่า. - [ 28 ก.ค. 50 00:23:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 คือทำไมเค้าไม่ทำให้มันพอดี ในความคิดผมนะครับ วัยรุ่น เป็นวัยที่พร้อมจะมีเพศสัมพันธได้แล้ว แต่ยังไม่ควร...ไม่ควร ไม่ใช่ว่ามีไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าจะส่งเสริม คือทำไมไม่รณรงค์ สอนไปเลยว่าให้ใช้ถุงยางทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าห้ามมี ก็บอกไปแหละว่ามีก็อย่าลืมใช้ถุง แต่ไม่ใช่เอาถุงยางไปแจก ทำไมหาความพอดีไม่เจอหว่า? จากคุณ : CARAGIO - [ 28 ก.ค. 50 00:48:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แจกถุงอย่าง ผมก็ได้มาตั้งแต่เรียนม.ต้นแล้วครับ ตอนนั้นเอาไปใส่น้ำพองกลายเป้นอันเบ่อเร้อ ไล่ปากันโคดมันเลย   เพื่อนผมบางคนก็เอามาทำเป็นหน้ากาก จากโจรถุงน่องกลายเป็น โจรถุงยาง (แต่อย่าเลียนแบบมันว่าหายใจไม่ออก) เรื่องพวกนี้ผมว่าเค้าทำดีแล้วนะ แจกไปเถอะครับ ไม่ใช้มันก็ไม่ใช้ คงไม่ได้ไปกระตุ้นอะไรเท่าไหร่หรอกมั้ง   การมีเซ็กส์ไม่ได้มีด้วยตัวคนเดียวซะเมื่อไหร่ มันต้องมีอีกฝ่าย จะใส่ขัดจรวดก็กระไรอยู่ ทำให้ครบอย่างสังคมอื่นเค้า "ให้ความรู้ ผูกฝั่งจริตธรรม และสอนให้รู้จักป้องกัน" แต่สอนขนาดเซ็กส์เป็นสิ่งน่ารังเกลียดนี่ผมไม่เห็นด้วยนะ ดูทีวีหลายช่องคนมาพูด พูดยังกะไม่เคยเอากัน จากคุณ : I.Brother - [ 28 ก.ค. 50 02:06:49 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนเรียนมีอยู่คน พกจนเปื่อย.. ยังจำได้เลย ยังถามเลยว่า เฮ่ย.. เค้าต้องพกกันทุกคนเลยเหรอ มันบอกก็พกอ่ะ เพื่อฉุกเฉิน ..แต่สภาพของมันเปื่อยจริงๆ แล้วคิดว่า ผู้ชายที่ได้แจกแล้วพก ก็จะพกจนเปื่อยเสียมากกว่า ส่วนไอ้ที่น่าจะใช้ กลับไม่พกไปใช้ 555 คิดถึง ไอ้บ้านั่นจัง จากคุณ : หวานใจนายโหด - [ 28 ก.ค. 50 03:35:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นด้วยแบบคห.3 ทุกประการครับ จากคุณ : ตักสุรา - [ 28 ก.ค. 50 04:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราว่าน่าจะเริ่มจากการสอนให้รู้เรื่องเพศศึกษาอย่างถูกต้องอ่ะ จะได้ไม่มีปัญหาสังคม และกระทู้หนูจะท้องไหมคะ ตามมา ... จากคุณ : oldword - [ 28 ก.ค. 50 09:29:55 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ยืดอก พกถุง อย่างโฆษณา.... จากคุณ : ST.Exsodus - [ 28 ก.ค. 50 10:15:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนเด็กๆ จำได้ว่า โฆษณาผ้าอนามัยหรือกางเกงในยกทรงนี่ ทำกันแบบเหนียมๆอายๆมาก ไม่มีหรอกไอ้รูปก้นรูปนมโจ่งครึ่มแบบสมัยนี้ ตอนนั้นถ้าในทีวี มีฉากXXแค่แก้มแนบแก้ม ปากแนบปาก ผู้ใหญ่ที่นั่งดูด้วยจะรีบเอามือปิดตา บอก ห้ามดู เดี๋ยวใจแตก สมัยนั้น เห็นหนังสือไม่ต้องโป๊ แค่นางแบบชุดว่ายน้ำ เราก็หน้าแดงแล้ว แบบว่าเห็นเรื่อง xx เป็นเรื่อง ลึกลับ ดำมืด น่ากลัว และบาปหยาบช้า กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็เมื่อมีเพื่อนในห้องท้องกับเพื่อนชาย และถูกโรงเรียนไล่ออก ถูกประจานหน้าเสาธง ฯลฯ กลายเป็นชั่วโมงเพศศึกษาที่มีเพื่อนเราเป็น case study โอ้โห มอสามแล้วตอนนั้น ยังถูกสอนว่า การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่อง เลว เลว เลว และเลว พอโตมามีลูกเป็นของตัวเอง ตอนลูกเล็กๆเราก็เผลอ ทำเหมือนที่เคยโดนทำ พอพระเอกประกบปากนางเอกในทีวีปุ๊บ   เราก็หันไปบอกเด็กที่นั่งตาแป๋วปั๊บ .. เขากัดกันไงลูก เด็กตาแป๋วคนนี้ละ ที่หันมามองหน้าเราแบบ งง ๆ แล้วถามว่า เขาจูบกัน ทำไมแม่บอกว่ากัดกัน เขารักกันเขาถึงจูบกันไง แม่ไม่รู้หรือไง เราก็เลยจ๋อยๆ เหมือนโดนเด็กจับได้ ที่คิดว่าเด็กโง่ บางที พวกผู้ใหญ่ก็เป็นอย่างเรา ชอบคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง แต่แทนที่จะสอนให้เด็กรู้จักคิด กลับชอบวิธีลัด ด้วยการสั่งให้เด็กทำ ด้วยการห้ามนั่นห้ามนี่ และปิดบังทุกเรื่อง เหมือนเรื่องถุงยางไง ผู้ใหญ่หลายคนก็กรี๊ดกร๊าดโวยวาย หาว่าการแจกถุงยาง คือการให้ท้ายเด็ก ส่งเสริมการมีเพศสัมพันธ์ ทำยังกับว่า ถ้าไม่แจกถุงยาง สถิติการท้อง แท้ง ทิ้ง มันจะไม่เกิด ทำยังกับว่า การแจกถุงยาง ทำให้เกิดความต้องการทางเพศ แล้วก็ทำยังกับว่า เรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่อง ผิดและเลว (มรึงอย่ารู้เลย มรึงยังเด็ก รอโต แล้วค่อยทำอย่างที่ตรูทำ) รู้ไหมเราเบื่ออะไรของประเทศไทย ประเทศนี้อุดมไปด้วยพวกชอบบริภาษ วิเคราะห์ วิจารณ์ คนอื่น ... แต่ตัวเอง...ไม่ได้ทำอะไร โลกนี้ ไม่มีใครสร้างอนุเสาวรีย์ให้นักวิจารณ์สักหน่อย จากคุณ : แม่ขวัญข้าว - [ 28 ก.ค. 50 10:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แจกไปเถอะ ดีกว่าตอนจะใช้ไม่มี จากคุณ : ตวงสิทธิ์ - [ 28 ก.ค. 50 10:46:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ก็ถ้าแก้ไขที่สาเหตุมันได้ มันก็เลยต้องแก้ไขที่ปลายเหตุไงคะ ครูไม่ใช่พ่อแม่ ดูแลได้แค่ตอนเด็กอยู่ในโรงแรียน ซึ่งมันก็มีสอนทั้งเพศศึกษาและศีลธรรม และอะไรหลายๆอย่าง สำคัญก็คือตอนที่เค้าไม่ได้อยู่โรงเรียนล่ะ เค้าจะไปที่ไหน ถ้า.. ..nobody's home.. (-_-") ... จากคุณ : Spirited A's way - [ 28 ก.ค. 50 11:05:39 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ... ไม่รู้นะครับ เท่าที่ผมรู้มา ที่เค้าบอกว่า "แจก" น่ะ ไม่ได้แจกแบบว่า "นักเรียน เข้าแถว เดินมาหาครูช้าๆ รับถุงยางกันทีละคน เอาไปใช้กันทุกคนเลยนะ" พร้อมกำชับ "พกติดตัวเสมอ อย่าได้ขาด" ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ แต่จะมีแจกใน 2 กรณี 1.ในกิจกรรมรณรงค์ในช่วงวันวาเลนไทน์ หรือวันเอดส์โลกอะไรพวกนั้น แจกๆไปเด็กก็เอาไปเล่นเอาไปทำอะไรก็ตามสบาย ประมาณว่า แจกเตือนความจำให้พอจะนึกถึงถุงยางบ้าง หากเผลอตัวคิดจะมีเพศสัมพันธุ์ 2.อันนี้ไม่เชิงแจก แต่จะทำตู้หยอดเหรียญขายถุงยางแอบๆไว้นอกโรงเรียน (บางโรงเรียนเอาไว้ในโรงเรียนเลยนะ แต่เป็นมุมลับตาคนหน่อย) ให้เด็กที่คิดจะมีเพศสัมพันธุ์หาทางป้องกันได้ แต่ก็ไม่วางให้เห็นเด่นชัดจนเหมือนส่งเสริมกันจนเกินไป ทุกวันนี้ต้องยอมรับจริงๆว่า การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เช่น การปลูกฝังเด็กให้ยับยั้งชั่งใจได้นั้น ไม่สามารถทำให้เกิดกับเด็กได้ครบทุกคนทั้ง 100% เพราะปัจจัยทางด้านครอบครัว การเลี้ยงดูที่ถือว่าควบคุมได้ยากมากที่สุด กลับเป็นปัจจัยที่จะสร้างลักษณะนิสัยของบุคคลนั้นๆ แทบไม่เกี่ยวกับครู หรือใครหน้าไหนทั้งนั้น จึงต้องมีมาตรการแก้ปัญหาปลายเหตุแบบนี้ (ซึ่งเด็กที่ยับยั้งชั่งใจได้ เห็นตู้ถุงยางมาติด ก็ไม่ได้ทำให้เค้าริเริ่มที่จะมีเพศสัมพันธุ์หรอกนะครับ) ผมจำได้ว่าดูข่าวอยู่ เค้าบอกว่า ในอดีต ปัญหาโรคเอดส์และกามโรค อันดับต้นๆจะเกิดในกลุ่ม ของ ... - บุคคลอาชีพรับจ้าง อายุช่วงประมาณ 25-35 ปี - ราชการในกลุ่มทหาร ตำรวจ แต่ในปี 2549 ได้เปลี่ยนไปแล้วครับ ช็อคมากๆที่ อันดับ 1 คือ "นักเรียน นักศึกษา" ครับ มาแรงแซงทางโค้ง มันก็เลยต้องทำกันแบบนี้ล่ะครับ - -" จากคุณ : TalkyWalky - [ 28 ก.ค. 50 12:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โลกมัน หมุนเร้วขึ้นมาก นะครับ อยากให้เจ้าของกะทู้ มองโลกใหม่ เด็กเดียวนี้มีเพศสัมพันธ์เร็วนะครับ ตั้งเเต่ประถม การสอนเพศศึกษา ม.ต้น ผมว่ายังช้าไปด้วยซ้ำ จากคุณ : กล้วยน้ำไท - [ 28 ก.ค. 50 19:17:01 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องนี้เถียงกันมานาน เป็นเพราะวิธีคิดต่างกันไงครับ คือเป็นเพราะเราอับจนสิ้นหนทางต่อการห้ามเด็กมีเพศสัมพันธ์ได้ ก็เลยคิดแบบว่า ไหนๆก็ไหน ห้ามมันไม่อยู่แล้วก็ ทำให้มันปลอดภัย ในแง่นึงก็ถูกนะ แต่การคิดแบบนี้แต่เพียงด้านเดียวเป็นการคิดแบบแยกส่วน และยอมจำนน มันเป็นวิธีคิดเดียวกันกับ หวยใต้ดิน ไหนๆมันห้ามไม่ได้ ก็เอาขึ้นมาบนดิน โสเภณี ไหนๆห้ามไม่ได้ ก็ทำให้มันถูก ยาบ้า ห้ามไม่ได้กำจัดไม่หมด ก็ลงมาจัดระเบียบ ควบคุมราคา แข่งรถซิ่งกวนเมือง  ห้ามไม่ได้ ก็ปิดถนนให้มันแข่งกันซะ นักเรียนตีกัน ห้ามไม่ได้ ก็จัดสถานที่ให้มันตีกันอย่างถูกต้อง นักเรียนมีเพศสัมพันธ์ ห้ามไม่ได้ก็แจกถุงยางในโรงเรียนมันซะ และถ้าอีกหน่อย (ไม่อีกหน่อยอะเดี๋ยวนี้ก็เยอะแล้ว) เราก็จะเห็นว่าเด็กม.ต้นเอากัน เป็นเรื่องปกติ แต่มีปัญหา เรื่องเด็กถ่ายคลิปมาประจาน ก็อาจมีคนเสนอว่า ไหนๆก็ไหนแล้ว โรงเรียนก็ควรจะจัดสถานที่ ให้นักเรียนเอากัน ภาใยใต้การควบคุม ไม่ให้พกกล้อง หรือโทศัพท์มือถือเข้าไป หรือไม่ก็ทางโรงเรียนเป็นผู้ถ่ายทำให้เอง จะได้ปลอดภัย  .....ไม่ต่างกันเลยครับ เพราะทุกวันนี้ เวลาเรามองปัญหาอะไร เรามักจะคิดกันแบบแยกส่วน ไม่มององค์รวม ปัญหาต่างๆที่มันเกิดขึ้น มันมีที่มา มันสัมพันธ์กันทั้งนั้น ทำไมเด็กมีเพศสัมพันธ์กันเร็วขึ้นคือถ้ามองแค่นี้ แล้วบอกว่าการแก้ปัญหาคือการให้เด็กรู้จักป้องกันก็ถูก อย่างน้อยเด็กก็ไม่ท้อง ไม่ติดเอดส์ แต่เราก็จะกลายเป็นสังคมเสพติดเซ็กส์ มากขึ้น เราไม่เคยไปดูเลยว่า สังคมทำอะไรกับเค้าบ้าง แล้วจะป้องกันกันอย่างไร สื่อต่างๆ โฆษณา  หนัง เพลง ที่เป็นสิ่งเร้ากระตุ้นให้เด็กๆเข้าถึงเรื่องแบบนี้เร็วขึ้น และสร้างค่านิยมใหม่ เกี่ยวกับการมีเซ็กส์ ที่ต่างไปจากเดิม คือในขณะที่เรากังวลกับปัญหานี้ แต่สังคมก็ยกย่อง ชื่นชม เผยแพร่ แนวคิดเรื่องเซ็กส์อยู่ทุกวัน แล้วจะไม่ให้เด็ก มันคิดได้ไง ก็บางทีผู้ใหญ่ มันก็มั่วกันให้เห็น ดาราคนนั้นเป็นแฟนคนนี้ แต่เสือกไปนอนกับอีกคน เป็ฯกิ๊กกับอีกคน หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ก็เอามาลงราวกับมีการปฏิวัติ คือการแก้ปัญหาของเรา มันแก้แบบเฉพาะหน้าไปเรื่อย เพราะเราปฏิเสธ ที่จะยอมรับว่า เราเป็นผลพวงของการและกัน ปัญหาทั้งหลายทั้งปวง ที่พูดๆกัน และมันกำลังหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ มันก็คือราคาที่ต้องจ่าย ที่สังคมเราได้กระทำลงไปจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม จากคุณ : รักข้างขวด (รักข้างขวด) - [ วันอาสาฬหบูชา 10:33:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โลกเรามีโรคเอดส์เป็นสิ่งสะท้อนความเป็นจริงของสิ่งที่มีอยู่บนโลกนี้มาแล้วนานแสนนาน ไม่พร้อมต้องรู้จักป้องกัน ส่วนเรื่องมีเซ็กส์ตั้งแต่อายุยังน้อยคนพูดๆเนี้ย ลืมคิดไปหรือเปล่าว่าคนเมื่อก่อน ไม่ต้องย้อนไปเป็นพันปี แค่ 50-60 ปีที่แล้ว เฉลี่ยเป็นคู่ผัวเมีย ฝ่ายหญิงอายุแค่ 16-17 ปี อายุแค่นี้ก็มีลูกมีผัวกันแล้ว (ส่วนใหญ่ของประเทศไทย เป็นอย่างงี้ตั้งแต่ช่วง สโขทัย จนถึงหลังสงครามโลก ข้อมูลอ้างอิงมีหลักฐานจาก หนังสือหมายเหตุประเทศไทย) แล้วมันจะวิเศษกว่าตอนนี้ซักแค่ไหนกันเชียว ดีกว่าหน่อยตรงไม่มีเอดส์ ผมเดาไม่ออกเลย เรื่องเอากันนี่ไม่ทำแบบนี้ มันจะทำแบบไหน มันไม่เหมือน ยาเสพติด หรือ อาวุธปืน ที่มีของกลาง ที่กฎหมายบัญญัตไว้แล้วว่ามีไว้ครอบครองผิดกฎหมาย แจกถุงยางมันไม่ใช่การแก้ปัญหาไม่ให้เด็กมีเซ็กส์ แต่มันเป็นเรื่องการป้องกัน ให้เด็กมีเซ็กส์กันอย่างปลอดภัย เรื่องสอนแล้วเพ้อฝันว่าเด็กจะดี ไม่เอากัน เรื่องหลอกเด็กครับ ของพวกนี้ชีวิตใครชีวิตมัน ความใคร่ความต้องการแตกต่างกัน เอาบรรทัดฐานของคนนึงไปใช้กับอีกคนนึงมันเป็นไปไม่ได้ มีอะไรกันตั้งแต่เด็กผมก็ไม่ได้ชื่นชม แต่ผมก็คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้บอกเลยว่าเด็กคนนั้นจะโตขึ้นมาเป้นประชากรที่มีคุณภาพของสังคมหรือเปล่า มันไม่เห็นจะเกี่ยว สิ่งที่ควรทำมากกว่าบอกว่าเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องต้องห้ามน่าจะเป็นการสอนให้มันมีกันอย่างถูกวิธี ประเทศแถบแอฟริกา ไปเที่ยวเมือสองปีที่แล้ว ตามชานเมืองมีสิ่งเร้าซะที่ไหน ทีวีนี่นับบ้านที่มีได้เลย แต่ทำไมคนที่นั้นถึงเป็นเอดส์มากที่สุดในโลก แล้วก็เฉลี่ยอายุสืบพันธ์ถึงต่ำมาก เรื่องพวกนี้ส่วนตัวคิดว่ามัน สัญชาติญาณล้วนๆ สรุป ผมคิดว่าเรื่องพวกนี้ใครจะไปห้ามมันได้ล่ะ ยาเสพติดยังจับคนขาย รถแข่งยังจับคนขับ ปืนใครพกก็ผิด แต่เด็กเอากันจะทำยังไง หน้าที่พ่อแม่แล้วก็ครูก็สอนว่าอะไรเป็นยังไง สอนแล้วก็อย่าไปฝันมากว่าเด็กมันจะทำตาม สำนึกของคนเรามีไม่เท่ากัน สอนให้เป็นรูปธรรมที่สุดคือทำไงไม่ท้อง แล้วไม่ติดโรค อันนั้นจับต้องได้นะ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 50 15:57:49 แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 50 12:30:07 จากคุณ : I.Brother - [ วันอาสาฬหบูชา 12:28:47 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับ คุณ : I.Brother โลกมันเปลี่ยนไป กว่าจะเห็นด้วย  เราทำใจอยู่ 3 ปี เราไม่ทำก็ใช่ว่า คนอื่นจะไม่ทำเหมือนเรา...มันของใครของมัน ใครไม่มีลูกหลานผู้หญิงนี่  ไม่รู้ซึ้งถึงความทุกข์จริงๆ สิ่งที่ทำได้ก็คือ  สอนวิธีป้องกัน  ไปพร้อมๆกับคำว่าเหมาะ ควร..ฯลฯ ศีลธรรม  จรรยา  ..ผลกรรมของการไม่รับผิดชอบ  การไม่ตระหนัก จนหลานสาว  มันหันไปคบทอมแล้วว !!! เวนกำ !!! จากคุณ : pipim - [ วันอาสาฬหบูชา 19:16:02 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง จากคุณ : นายเหนือเมฆ - [ 31 ก.ค. 50 02:11:41 ]