Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    แค่ใช้ “สิทธิ”...ต้องแลกด้วย “ชีวิต” เชียวหรือ

    แด่ผู้ถางแผ้ว.....คุณรวีวรรณ เสตะรัตน์

    คดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่าง ด้านสิทธิผู้บริโภคในประเทศนี้เมืองนี้เลยก็ว่าได้ อย่างที่เราก็รู้กันดีว่าในส่วนของสิทธิผู้บริโภคในเมืองไทยนี้ ด้อยกว่าเมืองนอกมาก เมืองนอก แค่คดีเล็กๆ อย่างเจออะไรแปลกๆในอาหาร เค้าก็ฟ้องร้องเป้นเรื่องๆเป็นราว เพราะคนเมืองเค้ารู้สิทธิหน้าที่ของตัวเอง อีกทั้งกฎหมายก็เอื้อต่อการฟ้องร้องเอาผิดได้สะดวก ผิดกับเมืองไทยนอกจากคนส่วนใหญ่ไม่รู้สิทธิและหน้าที่ของตัวเองแล้ว(มองเป็นเรื่องไกลตัว) กฎหมายที่คุ้มครองเราก็อ่อนมาก ไหนจะติดกับค่านิยม ที่แย่ๆอยู่คู่กับคนไทยมานานอย่าง พวกพ้องมาก่อนใคร ความเหมาะสมมาก่อนความถูกต้อง เงินซื้อกฏหมายไม่ได้แต่ซื้อคนของกฎหมายได้ ข่มขู่คู่กรณี ศาลเตี้ย และอำนาจมืด การคอรัปชั่น ค่านิยมเหล่านี้ที่เราสามารถพบได้ในทุกชนชั้น ดังเราจะเห็นจากหลายๆคดีด้านสิทธิผู้บริโภคที่ผ่านมา เช่น กรณีหมู่บ้านคริตตี้ ที่มีปรอทหรือตะกั่วปนเปื้อนแหล่งน้ำ การร้องเรียนหรือเรียกร้องก็ไร้ประโยชน์ หรือได้รับการเยียวยาจากภาคเอกชนน้อยมาก คนที่รับผิดชอบจริงๆ ก็คงเป็นภาครัฐ หรืออย่างกรณีการฟ้องร้องคดีแพทย์ที่รักษาผิดพลาดหลายๆคดี ที่ผลออกมาอย่างหน้ากังขา ยกฟ้อง หรือไม่ก็เป็นลุหะโทษ ชดเชยแบบได้ไม่คุ้มเสีย กับผู้เสียหาย แถมมีหลายคดีที่ ผู้เสียหายที่ถูกสังคมมองในแง่ลบ หาว่า เป็นคนเลวหาประโยชน์จากความไม่สมบูรณ์ของการรักษา ถูกมองเป็นตัวปัญหาด้วซ้ำ ทั้งที่มันเป็นสิทธิของผู้ป่วยที่ทำได้และควรทำ โดยเฉพาะในระบบราชการของเรา เจ้าหน้าที่มักคิดว่าตน เป็น one special เป็นผู้มีอำนาจ ไม่ใช่ผู้บริการประชาชน ประชาชนเป็นแค่ผู้รับการปฏิบัติไม่มีสิทธิจะเรียกร้อง หรือร้องขอใดๆ

    ถึงเวลารึยังที่เราจะต้องเปลี่ยนทิศทางสิ่งเหล่านี้ หรือเราต้องรอผู้กล้ามาปฏิวัติ(ทิศทาง) อย่างเช่น กรณีพี่สืบ นาคะเสถียร ในกรณีปกป้องป่าไม้ จนตัวตาย สังคมถึงจะหันมาสนใจ ทั้งที่ทั้งเรื่องป่าและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของคนทุกคนในสังคม แต่ผู้คนไม่เคยนึกหรือคิดที่จะห่วงแหนมันเลย หรืออาจจะมีบ้างแต่คงเป็น จุดย่อยๆ ซึ่งไม่มีพลังหรืออำนาจที่จะทัดทาน อำนาจมืด อำนาจที่ถูกต้องตามกรอบแต่ไม่ถูกต้องทางศีลธรรมของเหล่านักคอรัปชั่นบ้านเรา แต่เมื่อวีรบุรุษที่เสียสละยิ่งที่หาญกล้าที่จะทานต่ออำนาจเหล่านั้น ก็อาจเป็นการตบหน้าสังคม ให้ได้หันกลับมาครุ่นคิดได้ไม่มากก็น้อย กรณี ของพี่สืบนี้ เป็นกรณีที่ดีมากนอกจากที่จะทำให้สังคมหันกลับมาตระหนักถึงปัญหาแล้ว ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดคนที่มีใจอนุรักษ์รุ่นต่อๆมาอย่างเรื่อยๆ(For contineu)

    กรณีสิทธิผู้บริโภคก็เหมือนกรณีป่าไม้เหมือนกัน ตอนนี้ในสังคม คิดกับเรื่องสิทธิผู้บริโภคน้อยมาก นอกจากคนที่โดนกับตัวเอง หรือแม้กระทั่งที่โดนกับตัวเองยังยอมๆไปเลยก็มีเยอะ หลายคนได้ยินเรื่องอาหารมีแมลง สัตว์ประหลาด สิ่งแปลกปลอม ต่างๆปะปนมาในอาหาร ดีไม่ดีถึงขั้นทานแล้วเกืดอันตรายต่อชีวิต จนบางครั้ง เราชินกับข่าวเหล่านี้จนมองเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว

    หรือถ้าหนักขึ้นมา ก็เป็นกรณีโรงงานปล่อยของเสียลงแม่น้ำ จนปลาที่ชาวบ้านเลี้ยงตายเป็นเบือ หรือโรงงานปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ เป็นพิษต่อทางเดินหายใจ ทำให้เกิดฝนกรด ดังข่าวที่เพิ่งผ่านไป เมื่อเป็นข่าว เจ้าของก็รับปากจะชดใช้จะชดเชย อย่างโนน อย่างนี้ แต่เมื่อข่าวเงียบ นายทุนก็เบี้ยวหรือลดค่าชดเชยสะงั้น ชาวบ้านตาดำๆจะเหรือไม่เอาหล่ะ ถ้าไม่เอาก้ไปฟ้องเอา ตามี ตามา ตาสา ตาสี กลัวศาลจะตาย มีเหรอที่จะ ทันตาหัวหมอ หรือหากฟ้องเอาจริง ไหนจะค่าศาล ไหนจะเสียเวลา กฎหมายก็มีช่องสะเยอะแยะ ทนายยังให้คำแนะนำเลย ว่าถึงฟ้องก็ไม่คุ้ม ดีไม่ดีอาจไม่ได้อะไรเลย แย่กว่านั้นอาจโดนฟ้องกลับด้วยซ้ำ

    เป็นสะอย่างงี้ จึงไม่มีใครเอาจริงเอาจังกับการเอาเรื่องพวกนายทุนที่ละเมิดสิทธิหรอก หากเป็นเมืองนอก นายทุนเหล่านี้ คงอาจไปอยู่ในคุก หรือไม่ก็ต้องชดใช้นับร้อยล้าน(กรณี Erin berkovich)

    กรณี คดีฆาตกรรม คุณรวีวรรณนี้น่าสนใจยิ่งนัก แต่สังคมกลับไม่ให้ความสนใจหรือความสำคัญเท่าไร กลับมองเป็นว่า แก รนหาที่เอง อยากสวยเอง อยากเสริมโน้นเสริมนี้ จะไปโทษใครได้ ทั้งๆที่เป็นสิทธิโดยชอบทำของเธอ สถานบริการต่างหากต้องมีมาตราฐานบริการที่มีคุณภาพและรับผิดชอบต่อผู้รับบริการ ต้องชมหัวจิตหัวใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ต้องต่อสู้กับอำนาจสัตว์ป่าในคราบผู้เยียวยา โดนทั้งคำขู่ และลงมือจริง แต่เธอก็ไม่หวั่น เพราะอยากให้ความจริงปรากฎและเป็นกรณีตัวอย่างของสังคม เธอหาพยานมาได้ในที่สุด ก็มีวายถูกฆ่าตายไปอย่างไม่สะทกหรือแสดงถึงการไม่ครั้นต่อกฎหมายแต่อย่างได้ของผู้จ้างวาน เมื่อเย้ยกฎหมายได้ถึงขั้นจ้างฆ่าคนโดยไม่กลัวกฎหมายอย่างนั้นแล้ว มันยังโทรมาข่มขู่คุณรวีวรรณอยู่เรื่อยๆว่าถ้าไม่หยุด คิวต่อไปคือคุณรวีวรรณ หากเป็นคนอื่นคงหวาดกลัวและหยุดเรียกร้อง รักษาชีวิตตัวไว้เป็นดีที่สุด แต่คุณรวีวรรณไม่เช่นนั้น เธอเชื่อในกฎหมายและความยุติธรรม ว่าจะช่วยเธอได้ หรือหากเธอต้องตายจริงๆ ขณะมีชีวิตกรอบไม่สามารถช่วยเธอได้ นั้นเธอตาย เธอจะเฮี้ยนให้ดู ชีวิตหลังความตายคงยุติธรรมพอ ให้เธอจัดการกับสัตว์ป่าตัวนั้นได้

    และอย่างที่เห็นกฎหมายอาจจะเป็นที่พึ่งเธอได้ แต่ไม่สามารถรักษาชีวิตเธอไว้ได้ เพราะบ้านนี้เมืองนี้ มันป่าเถื่อนเกิน หรือ ความปลอดภัยในบ้านนี้เมืองนี้มีค่าเป็นลบ

     
     

    จากคุณ : ไซโคแมน - [ 28 ก.ย. 50 18:23:04 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom