ความคิดเห็นที่ 28 |
โรคมากมาย และที่สำคัญคือ HPV ไวรัสครับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิงและมะเร็งองคชาติใน เพศชาย
ฉะนั้นจึงพบว่าผู้ชายที่ขลิบปลายอวัยวะเพศแล้วจะมีอัตราการ เกิดโรคนี้ต่ำมาก ๆ เนื่องจากดูแลสุขอนามัยได้ดีขึ้นและข้อดีนี้ก็ยังเผื่อแผ่ไปถึงสุขภาพของ ผู้หญิงด้วย
และปัจจุบันทางการแพทย์ยังพบว่าการขลิบยังทำให้โอกาสติดเชื้อ HIV ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ลดลงมากกว่าคนที่ไม่ได้ขลิบถึง 60 เปอร์เซนต์นะครับ
เรื่องจำเป็นหรือไม่นี่อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนครับ คนที่ไม่เคยมีปัญหา ก็จะมองว่าไม่จำเป็น หรือไม่สำคัญ ส่วนคนที่เคยประสบกับปัญหา หรือมีคนใกล้ตัวมีปัญหา ก็คิดว่าทำน่าจะดีกว่าครับ
การขลิบก็คือหัตถการการแพทย์อย่างนึง ซึ่งประโยชน์ของมัน ก็คือเพื่อการดูแลทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ทำให้ดูแลสุขอนามัยได้ดีขึ้น อย่างที่หลาย ๆ คนรู้กัน คือผู้ชายทุกคนจะมีหนังหุ้มบริเวณปลายของอวัยวะเพศ ซึ่งบางคนที่โชคดีหน่อย หนังไม่ยาวมาก ดังนั้นเวลาโตขึ้นหนังก็จะร่นไปด้านล่างได้ แต่ก็มีผู้ชายอีกจำนวนมากเช่นกัน ที่หนังหุ้มปลายยังยาวอยู่ ทำให้มันคลุมบริเวณหัวของตัวอวัยวะ ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เกิดปัญหาได้ เพราะเวลาเราเข้าห้องน้ำแต่ละครั้ง หลังทำธุระเสร็จก็จะมีคราบหรือหยดของฉี่มาค้างไว้ และยิ่งประกอบกับเมืองไทยเป็นเมืองร้อน ทั้งเหงื่อ ทั้งขี้ไคลมาหมัก ๆ คลุกเคล้า ๆรวมกันจนเข้าที่ ตรงนี้แหละครับที่ทำให้เกิดคราบและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ครับ ซึ่งคนที่ขลิบจะช่วยเรื่องนี้ได้เยอะครับ
หลายคนเข้าใจว่าการที่รูดเปิดได้นั้นก็เพียงพอแล้ว หรือตอนแข็งแล้วรูดเปิดได้ก็โอเค
แต่จริง ๆ แล้วตอนตื่นตัวนี่ ผู้ชาย 95 เปอร์เซนต์ก็เปิดได้ทุกคนแหละครับ
อย่าลืมว่าวันนึงเราตื่นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่อีก 23 ชั่วโมงนี่มันหลับนะครับ
ฉะนั้นหากเวลามันหลับ และยังมีหนังหุ้มปิดไว้
ตรงนี้แหละครับที่จะทำให้เกิดความหมักหมมได้
เวลาเราเหงื่อออก เวลาเราทำกิจกรรมแต่ละวัน เวลาปัสสาวะ
พวกนี้แหละครับ มันจะมาหมัก ๆ รวมกัน ทำให้เกิดเป็นกลิ่นและคราบไม่พึงประสงค์ได้ครับ
กว่าเราจะรูดทำความสะอาดอาบน้ำก็วันละ 2 ครั้ง
แสดงว่าสิบกว่าชั่วโมงนี่ จูเนียร์เราต้องอยู่กับแบคทีเรียตรงนั้นตลอดเวลา
ซึ่งการขลิบก็จะช่วยลดตรงนี้ไปได้ครับ
ดังนั้น หากว่าตอนหลับ มันเปิดของมันได้ตลอดแล้ว ก็คงไม่จำเป็นต้องขลิบ เพราะไม่มีอะไรให้หมักหมม
แต่ถ้าไม่ การขลิบก็เป็นวิธีนึงที่ดีครับ
เจ็บหรือไม่นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ เด็กๆหลายคนก็แค่ฉีดยาชาก็ไหวครับ ไกลหัวใจ
เมืองไทยเมืองร้อน ใส่เสื้อแขนยาวทำอะไรก็ลำบาก จะล้างมือ จะหยิบของก็ไม่สะดวก จะถกแขนเสื้อไปข้อศอก ซักพักแขนเสื้อก็ตกลงมาอีก และพอแขนเสื้อเปียกน้ำ มันก็ชื้น เหนอะหนะครับ ดังนั้นหาเสื้อแขนสั้นมาใส่ดีกว่า จะทำอะไรก็ง่ายขึ้นครับ
ลองเข้าไปอ่านข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องขี้เปียกก่อนครับ
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaicirc20&date=01-05-2007&group=4&gblog=5
ส่วนใครมีข้อแนะนำไงก็ฝากไว้ได้นะครับ
ปล.อาจมีภาพไม่เหมาะสมกับเยาวชนบ้าง แต่เจตนาเพื่อการศึกษานะครับ เรื่องเพศศึกษาหรือสุขอนามัยของอวัยวะส่วนสำคัญเมืองไทยเราไม่ค่อยมีคนพูดหรือสอน ปล่อยให้ไปหาความรู้กันเองแบบผิด ๆ แอบถามกันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ คนตอบก็ถูกบ้าง ผิดบ้าง ตอนสอนครูก็สอนไปอายไป พยายามข้าม ๆ ให้จบ ๆ ผมเลยอยากจะทำเวบเกี่ยวกับเรื่องการดูแลอวัยวะส่วนสำคัญของผู้ชายครับ ไปดูแล้วช่วยกันเผยแพร่หน่อยนะครับ เพราะทุกวันนี้ผมอยู่รพ. มีคนไข้มากมายที่มาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในพันทิพเองก็มีคำถามแบบนี้มาทุกวัน ทั้งที่จริง ๆ เป็นเรื่องที่ควรจะมีการสอนและปลูกฝังให้กับเยาวชนของพวกเราครับ
จากคุณ |
:
สาลิกาโบยบิน
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ก.ย. 52 18:02:17
|
|
|
|