ต้องขอเล่าย้อนกลับไปนะครับผมเริ่มจัดฟันมาตั้งแต่ 6 ปีที่แล้วครับ มาเสร็จสิ้นเอาเมื่อประมาณกลางปี 2551 ช่วงที่ใกล้จะจัดฟันเสร็จนั้นผมสังเกตว่าเริ่มมีอาการเสียงดังคลิ๊กเวลาอ้าและหุบปากทำให้รำคาญเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะมีปัญหาอะไร เคยพูดให้หมอที่จัดฟันฟังครั้งหนึ่งแต่หมอก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
จนมาถึงช่วงเดือน 10 ของปี 2551 ผมประสบอุบัติเหตุรถล้มจากการถูกรถข้างหน้าที่ขับเลี้ยวกระทันหัน ฟันหน้ากระแทกอย่างแรงเข้ากับพื้นถนนส่งผลให้ฟันร้าว หักบิ่น โยก ได้เข้ารับการรักษากับทันตแพทย์ ที่โรงพยาบาลทันตกรรม ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หมอตรวจสอบบอกว่าฟันตาย 4 ซี่ต้องทำการรักษารากฟัน ซึ่งหลังจากล้มรถสีฟันทั้ง 4 ซี่นั้นก็เริ่มคลํ้าลงอย่างชัดเจน ได้ทำการรักษารากฟันมาเสร็จสิ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้และได้ทำการอุดฟันไว้ หมอได้ทำการส่งต่อให้กับนักศึกษาทันตแพทย์อีกคนหนึ่งเพื่อรับเรื่องดูแลการทำครอบฟันให้ ได้นัดมาตรวจซึ่งก็ได้สอบถามต่างๆอย่างดีและละเอียด ผมในตอนนี้เริ่มมีปัญหากับฟันก็ได้บอกไปหมดทุกอย่างเรื่องเสียวฟัน เรื่องเสียงคลิ๊กที่เริ่มจะเป็นมากขึ้น เมื่อเสร็จสิ้นจาการสอบถามก็จะมีอาจารย์หมอมาตรวจสอบซํ้าอีกครั้ง อาจารย์หมอคนนี้ชื่อสมมติ หมอ พ. หมอเขาอ่านประวัติผมที่ได้บอกไปปุ๊ป หมอเขาเริ่มสงสัยอะไรบางอย่างเขาถามว่าผมเคยจัดฟันไหม ผมบอกว่าเคยครับ หมอเขาก็ดูเฟรมเอ็กซเรย์ในช่วงที่ผมเริ่มเข้ารักษารากฟันตาย หมอบอกเลยครับว่าเรื่องเสียงคลิ๊กนี่เป็นโรคเกี่ยวกับข้อต่อขากรรไกรที่รักษายากมาก รักษาอาจแค่ดีขึ้นแต่ก็มีโอกาสที่จะไม่มีวันหายได้เลย ปล่อยทิ้งไว้จะมีอาการมากขึ้นปวดเมื่อยและท้ายสุดจะอ้าปากขยับขึ้นลงไม่ได้เลย เสี่ยงต่อขากรรไกรหลุดในระยะยาว และมีความเกียวข้องกับเรื่องการจัดฟันของผมแน่นอน
หมอเขาชี้ให้ผมดูฟิล์มเอ็กซเรย์ครับ ได้บอกว่ารากฟันของผมนั้นมีปัญหามาก่อนแล้วเนื่องจากรากเคลื่อนและหลอมละลายมาสังเกตได้จากการที่รากฟันไม่มีความเรียวแหลม ช่องว่างและอะไรต่างๆนาๆผมจำได้ไม่หมดครับ หมอเขาบอกอุบัติเหตุล้มรถครั้งเดียวรากฟันไม่มีทางเป็นแบบนี้ได้แน่ ไอ้โรคเสียงคลิ๊กของผมมาจากจัดฟันโดยไม่วางแผนให้ดี หมอถามผมว่าคุณจัดฟันที่ไหน ผมบอกว่าที่โรงพยาบาลนี้ครับ ทำเอาอาจารย์หมอถึงกับอึ้งไป แล้วก็พูดให้ผมฟังให้เรื่องความด้อยคุณภาพของหมอใหญ่เลยครับ
ผมได้รับฟังเรื่องจริยธรรมแพทย์มาอีกพอสมควรเลยครับ หมอบอกว่าคุณโชคร้ายมากรากฟันไปก่อนแล้วประจวบเหมาะกับอุบัติเหตุอีกเลยเหมือนเคราะห์ซํ้ากรรมซัดไปกันใหญ่ คุณต้องอย่ากลัว ต้องกล้าไหนๆเรื่องที่่ผ่านมาแก้อะไรไม่ได้แล้ว คุณต้องเรียกร้องเอาทุนกลับมาไว้ที่ตัวคุณสำหรับการรักษาต่อไปข้างหน้า ซึ่งต้องใช้เงินเยอะแน่นอน ลำพังผมยังหาเงินเองไม่ได้ตอนนี้ไม่มีปัญญาแน่ครับ
ผมประทับใจกับอาจารย์หมอคนนี้มากเลยครับ ไม่เข้าข้างคนอาชีพเดียวกัน สถานที่เดียวกัน ผมแอบสังเกตเห็นตอนมีนักศึกษาเข้ามาสอบถามนี่ท่านจะใส่ใจในเรื่องประโยชน์ผลดีผลเสียที่มีต่อคนไข้มากครับ
นอกเรื่องไปหน่อย ต่อครับ
ที่เล่าให้อ่านไปนี้ผมเนื่องจากไม่มีความรู้ในด้านนี้เลย ไม่ใช่ผมไม่เชื่อคุณหมอนะครับ ผมควรทำอย่างไรดีครับ ควรไปเรียกร้องดีหรือไม่
ขออนุญาตผู้มีความรู้หรือทันตแพทย์ในด้านนี้ ช่วยแนะนำวิถีทางแก่ผมด้วยใจยุติธรรมด้วยครับ ผมไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ถ้าอยู่ๆไปเรียกร้องก็กระไรอยู่ ผมมีแค่คำพูดลอยไป ผมเครียดจริงๆ
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 21:41:34
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 21:45:09
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 53 00:01:35
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 53 00:03:45