ความคิดเห็นที่ 1 งั้นพวกเอาขนมบีป มาแบ่งใส่ถุงขาย หรือ ร้านขนมดังๆ อาคิโก๊ะ อะไรซักอย่าง ที่เอา ขนมโน่น มะม่วงดองมั่ง ขนมถุงบ้าง มาpackageใหม่เป็นแบร์นตัวเอง ผิดหรือ? จากคุณ : น้ำตาลเปรี้ยว vs มะนาวหวาน เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 08:13:12

ความคิดเห็นที่ 2   1# อาชีพแพทย์ครับ ไม่ใช่อาชีพขายถั่ว ขายหอย ขายรถ ขายบ้าน อาชีพแพทย์...จุดประสงค์โดยตรงคืออะไร อาชีพขายรถ ขายบ้าน ขายสินค้า...จุดประสงค์โดยตรงคืออะไร หัดใช้เหตุผลให้มันถูกๆครับ จากคุณ : ปลิง เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 08:29:15 A:125.26.143.100 X: TicketID:274700

ความคิดเห็นที่ 3   ถึง เรียก "ประกอบโรคศิลป์" ไงคร๊าบบบบ ภาพนูดที่ถูกวาดโดยศิลปิน.....เราก็ ไม่รู้ซะหน่อยว่า มานเอาสีไรเขียน ... อาจซื้อมาจากร้านค้าถูกๆ แถวนี้ก็ได้ ถ้าคุณ ชอบ "ภาพนูดของเค้า"..... ก็ตกลงซื้อและจ่ายตามที่เค้าเรียก... ไม่มีการบังคับ....เป็นความ "ชอบ" แต่ถ้าคุณมองว่า "มันเป็นรูปโป๊ข้างถนน" คุณก็อาจสะบัดก้นหนีแล้ว เดินไปที่แผงหนังสือ เลือก "หนังสือโป๊"ดีๆซักเล่ม ที่มี ภาพสีสวยสดใส ทุกอณู...ละเอียดยิบ แถม ราคาเท่ากัน ไม่ว่าจะซื้อแผงไหน.. ส่วนตัวผม...ชอบนั่งดู ศิลปินวาดภาพนูด มากกว่า....ผมชอบดูว่า... "เค้าผสมสียังไง"...ทำไมบางคนถึง เป็น ศิลปิน แต่บางคน เป็นแค่ คนรับจ้างวาดรูปตามงานวัด ผมคงไม่กล้าบอกหรอกว่า..สีนั้นมันมาจากหลังบ้านผม ที่มันเป็นตลาดทั่วไป หรือมาจากต่างประเทศ... ผมสนใจที่ "วิธีการผสมและฝีมือมากกว่า" แต่... ศิลปินที่ดี ต้องไม่หลอกผู้ชม ถึงที่มาของสี ถ้าหลอกเมื่อไหร๋....จบเห่... จากคุณ : "หมาขี้เรื้อน" สะบัดพู่กัน เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 08:30:59 A:61.19.121.50 X: TicketID:286658

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วถ้ามาบรรจุภัณฑ์ใหม่เป็นแบรนด์ตัวเอง ต้องขออนุญาตไหมครับ จากคุณ : GolfGear เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 08:57:13

ความคิดเห็นที่ 5 การแบ่งบรรจุยาถือเป็นการ "ผลิต" ค่ะ    ต้องขออนุญาตตามกฎหมาย    แต่กฎหมายมีช่องว่างเว้นไว้ให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (แพทย์)   สามารถทำให้กับคนไข้ของตนเฉพาะรายได้ค่ะ   ดังนั้นถ้าทำใช้ในคลินิกเข้าใจว่าได้นะคะ    แต่ถ้าแบ่งบรรจุแล้วเอาไปขายทั่วไปนี่ไม่ได้ค่ะ ช่องว่างนี้จะว่าไปก็มีประโยชน์   หรือจะมองว่าเป็นจุดอ่อนก็ได้   ข้อที่ว่ามีประโยชน์คือแพทย์สามารถแบ่งบรรจุยาบางชนิด  เช่นยาครีมที่อาจจะมีราคาแพง    แต่คนไข้จำเป็นต้องใช้แค่เล็กน้อย    ก็สามารถแบ่งยาและขายให้คนไข้ในราคาที่ถูกลงได้โดยไม่จำเป็นต้องให้คนไข้ซื้อไปทั้งกระปุก    แต่จุดอ่อนก็คือ   ในกระบวนการผลิตหรือแบ่งบรรจุนั้นไม่มีการควบคุมในเรื่องมาตรฐานและความสะอาดเหมือนสินค้าที่ออกมาจากโรงงาน     จึงอาจจะทำให้คนไข้ได้รับผลเสียหากแพทย์ผู้ผลิตหรือแบ่งบรรจุขาดความตระหนักในเรื่องนี้     บางคลินิกแบ่งบรรจุยาโดยไม่บอกว่าเป็นยาอะไร     แต่ใช้ชื่อหรือรหัสเฉพาะคลินิกของตัวเอง     เป็นช่องทางในการแสวงหาประโยชน์ในการขายแพงๆเพราะคนไข้ไม่ทราบตัวยาจึงไม่สามารถไปซื้อยาที่อื่นมาใช้เองได้    และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ   หากเกิดการแพ้ยาก็จะไม่ทราบว่ายานั้นคือยาอะไร    ซึ่งลักษณะนี้พบได้บ่อยตามคลินิกความงาม    ซึ่งเจ้าของคลินิกจะจัดคอร์สอบรมว่าลักษณะอาการแบบนี้ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ของคลินิกตัวไหน     บางครั้งแพทย์ที่จ่ายยาเองก็ยังไม่ทราบเลยว่าผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองจ่ายนั้นจริงๆแล้วมันคือยาอะไร จากคุณ : SWEET TOFFY เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 09:46:24

ความคิดเห็นที่ 6 เขา"เลือกแล้ว"ที่จะไปคลินิก ทั้งที่รู้แก่ใจว่ามา รพ ฟรี (โดยเฉพาะตาสียายสา) เขาก็คงพอใจจะจ่าย ซื้อความพึงใจ ซื้อความศรัทธา ส่วนผิดจรรยาบรรณมั้ย...ไม่รู้เหมือนกันค่ะ  ไม่ได้เปิดคลินิก จากคุณ : อับปัญญาชน เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 11:11:03

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบยากจริงๆ  ขึ้นกับเจตนาค่ะ หมอที่ชาร์ทราคาแพงๆ ก็อาจจะเกินไปหน่อย หมอบางคนก็มองว่า ต้องเอามาแพ็คใหม่ เพื่อไม่ให้ไปซื้อยากินต่อกันเอง อันจะส่งผลให้เกิดการดื้อในภายหลัง จากคุณ : แอนด้า เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 11:11:16

ความคิดเห็นที่ 8   จขกท. อธิบายสถานการณ์ให้เข้าใจกว่านี้หน่อยได้ไหมฮะ อ่านแล้วงง ไม่ได้โง่นะ แต่ไม่เข้าใจจริงๆ "เวลารับยาจะได้รับยาแบบกล้องยาบ้าอะไรไม่รู้"  กล้องอะไร งง จากคุณ : uncontrollable เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 11:18:12

ความคิดเห็นที่ 9 ฟังๆดู เหมือน จขกท จะเหวี่ยงๆนะ ถามหน่อยนะครับ 1. การที่หมอสั่งยามาขายให้คนไข้ สมมุตว่าหมอไปซื้อยามาจากร้านขายส่ง กระปุกละ500 เม็ด ไม่ทราบว่าจะให้หมอ เอาอะไรแบ่งให้คนไข้สัก10เม็ดครับ ก็ต้องเป็นซอง เป็นห่อ เป็นอะไรก็ว่าไปหน้าซองก็พิมพ์ชื่อคลีนิก มันก็แค่นั้น 2. ที่ว่าชาร์จราคาแพงๆอ่ะครับ เท่าไรครับที่ว่าแพง ระบุหน่อย พารา หมอซื้อมาเม็ดละ 1 บาท ขายให้คนไข้ 2บาท กำไร100%แพงไม๊ครับ ขายหมดกระปุกที่ซื้อมาพึ่งได้500 บาท 3.ที่คุณเห็นควักเหรียญมาจ่ายอ่ะครับ ได้ถามไหมว่า เค้าจ่ายกี่บาท แล้วเค้ารักษาโรคอะไร ความจริงอาจจะไม่ได้เยอะมากก็ได้นะครับ 4.คุณหมายถึงจะให้แพทย์เอายาแผนปัจจุบันมาเลยแล้วค่อยชาร์ตราคา(คือยาที่เป็นยี่ห้อๆ เช่น ให้ใช้ไทลีนอล แทน ยาแก้ปวดองค์การ หรือ local made ซึ่งหลายๆที่ก็ทำแบบนี้) อันนั้นต้นทุนจะสูงกว่า อีกนะครับ คุณก็จะด่าแพทย์หนักกว่าเดิม 5.ยอมรับว่า แพทย์พาณิชย์มีจริงผมเองก็เห็นอยู่บ่อย และอยากเสนอว่า แพทย์ท่านใดที่ไม่ใด้ทำงานราชการ /หน่วยราชการ ควรมีประกาศหรือกฏ ให้ทำเพื่อสังคม/ส่วนรวม เช่น ให้มีการออกตรวจ เคลือ่นที่ ปีละกี่ครั้งก็ว่าไป ถือว่าแพทย์ก็ได้ทำบุญด้วยนะครับ ปล ไม่ได้มาเชียร์หมอ แต่อยากอธิบายให้ จขกท ฟังเฉยๆ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 53 11:25:35 จากคุณ : พียอร์ (พียอร์น้อยต่อยเตะ) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 11:24:08

ความคิดเห็นที่ 10   เขาห้ามทำนะ มีหมอแห่งหนึ่งที่ รักษาเสริมความงามอะไรนี่แหละ มีสาขาด้วย ให้ลูกน้องบรรจุแคปซูลเองก็ไม่เห็นมีอะไรเลย จากคุณ : อย.หรือใคร เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 12:42:47 A:182.52.222.212 X: TicketID:224344

ความคิดเห็นที่ 11 คงเอากล่องใส่ยาประจำวันสวยๆมาใส่ให้น่าตาดูดีมากกว่า น่าจะเอายาจากกระปุก ไม่น่าใช่แบบแผงหรือกล่อง ไปหาหมอคลีนิกถ้าหายเท่าไหร่ก็ยอมจ่าย จากคุณ : popyim เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 13:15:29

ความคิดเห็นที่ 12 ผิดกฎหมายครับ ข้อยกเว้นในพรบ. ยาบอกว่า ให้ผลิตได้ แต่ผลิตนั้น ต้องมีฉลากครบถ้วนสมบูรณ์ครับ ไม่มีถือว่าผิด ทั้งพรบ. ยา และละเมิดสิทธิผู้บริโภคขั้นพื้นฐาน จากคุณ : Epinephrine เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 14:42:48

ความคิดเห็นที่ 13 ไปว่าคห.1 ก็ไม่ถูกนะคะ จากคุณ : สวยERROR เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 15:04:15

ความคิดเห็นที่ 14   ตอบนาย 18 และ 19(ตัวเดียวกัน) มันจะเป็นอย่างที่คุณบอกได้ไงหา ยาถ้าเอาแพคเกจกล่องมาขายทั้งกล่อง ราคาก็ต้องเท่าราคาตลาดดิจะแพงกว่าราคาตลาดได้ไง ถ้าแพทย์คนนั้นไม่พอใจก็บวกค่าความรู้ก็พอแล้ว ชาวบ้านที่ผมเห็นเขาจ่ายเกินหลักพันครับ เพราะผมนั่งข้างๆเขาได้ยินคนจ่ายยาบอก ทั้งๆที่ยามันแค่อาทิตย์เดียว พันอัพเป็นไปได้ยังไง แถมหม าอคนนั้นยังนั้นมาอีก คอยดูมันจะเลี้ยงไข้ไปถึงไหน 12# สรุปผิดกฎหมายไหมครับ เพราะยาที่คลินิคพวกนั้นผมไม่เช่นฉลากเชียอะไรเลย แล้วจะแจ้งความดำเนินคดียังไงได้บ้างครับ จากคุณ : ปลิง เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 15:07:33 A:202.12.97.118 X: TicketID:274700

ความคิดเห็นที่ 15   Edit ตอบนาย 8 และ 9 (ตัวเดียวกัน) จากคุณ : ปลิง เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 15:08:43 A:202.12.97.118 X: TicketID:274700

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ขอ comment เพราะไม่รู้้จักกล้องยาบ้าบอนะครับ แต่ขอหน่อยเรื่อง clinic เวลาจะให้ยาคนไข้ กรุณาเขียนชื่อยากำกับไว้ด้วย เวลามารักษาต่อนี่ไม่รู้เลยจริงๆว่าท่านให้ยาอะไรมาบ้าง (ทุกทีให้คนไข้โทรไปถามด้วยตัวเองเลย)   แล้วราคาที่ติดป้ายผมว่ารับมาก็คงไม่ถึงอยู่แล้ว ขายราคาป้ายก็กำไรพอควรแล้ว ไม่ควร charge เพิ่มนะ ส่วนค่าหมอก็คิดไปเลย 300 บาท แบบเปิด computer ไปเลย ซ่อมได้ไม่ได้ก็คิดไปเลย 300 (โดนมากับตัว แพงกว่าค่าเราตรวจอีกแฮะ ผมได้แค่ 50 เอง) จากคุณ : xanyz เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 16:06:13

ความคิดเห็นที่ 17   เมืองไทยไม่ใช่อเมริกา ที่นั้นหมอตรวจเขียนใบสั่ง ยาไปหาซื้อเอง รายได้ก็จะไม่ใด้ชาร์จจากค่ายา ได้จากการตรวจ เมืองไทยมันยังลำบากอยู่นะ ยาตัวเดียวกันยี่ห้อเดียวกันได้มาต่างที่คนกินยังคิดว่าไม่เหมือนกันเลย จากคุณ : ชาวนาแก่ๆ78 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 19:33:13

ความคิดเห็นที่ 18   ดูจากคำถาม สรรพนาม ว่ามัน คุณก็น่าจะมีคำตอบอยู่แล้ว มาถามทำไม เหรอออ จากคุณ : therumo (therumo) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 19:33:55

ความคิดเห็นที่ 19 1จขกท อยากทราบว่า ตัวเดียวกันคืออะไร 2 คุณรู้ไหมว่าแพทย์จ่ายยาอะไรให้คนไข้ ยาบางอย่างแพงจริง ก่อนที่จะโวยอะไรถามให้รู้แน่ก่อนดีไหม ไม่ใช่คิดเอง บวกกับ อคติส่วนตัว 3 การที่หมอชาร์จค่ายา มันผิดตรงไหน บางที่ไม่ชาร์จค่ายา แต่มาคิดค่า doctor fee บางที่คิดdoctor fee น้อยแต่มาบวกค่ายาเยอะ 4 คนไข้มีสิทธิถามว่าได้รับยาอะไร ราคาเท่าไร เป็นโรคอะไร ถ้าไม่ได้เขียนหน้าซองคุณก็แจ้งเค้าให้เขียนว่าเป็นยาอะไร ก็จบ 5 ส่วนหมอจะเลี้ยงไข้หรือไม่ ผมไม่่ทราบ แต่ผมว่าเค้าคงมีจรรยาบรรณพอ และไม่ตัดสินใจใคร เพราะ อคติ และ ความไม่รู้ จากคุณ : พียอร์น้อยต่อยเตะ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 23:12:13

ความคิดเห็นที่ 20   เท่าที่ดู คือ จขกท ไปพบแพทย์ที่คลินิค รักษาอะไรซักอย่าง แล้วได้ยาแบบแบ่งขาย แล้วถูกคิดเงินแพง เลยโกรธ แต่มาเล่าประมาณว่า ไปอยู่คลินิคเดียวกัน บังเอิญ เห็นคนข้างๆต้องควักตังค์จ่ายมากมาย รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม ก็เลยต้องมาโพสต์ด่าหมอ (ที่คุณเรียกว่า มัน และ หมา ) ซักหน่อย ใช่ไหมครับ จริงๆน่าจะเล่าเลยว่าไปรักษาเรื่องอะไร ได้ยาอะไร แล้วเค้า แบ่งขายให้คุณยังงัย คิดราคาเท่าไร จะได้บอกได้ถูกว่าสมเหตุผลไหม เพราะเหตุใดจึงไม่ไปใช้สถานพยาบาลตามสิทธิ และปกติถ้าไม่ใช่คลินิค ผิวหนัง/เสริมความงามก็มักไม่ค่อยมีการแบ่ง/เปลี่ยน บรรจุภัณฑ์ นะครับ ดังนั้น ถ้า จขกท. ไปคลินิคเสริมความงาม ก็ไม่ใช่ไปรักษาโรค ทางคลินิค จะคิดแพงขนาดไหนก็ขึ้ยอยู่กับ ความสมัครใจ ดังนั้น จะมาด่าว่าหมอโดยรวมก็ไม่ใช่ ถ้าไม่กล้าเล่าเรื่องจริงทั้งเรื่อง กล้าแต่จะด่า ก็ขอให้คนอื่นๆอ่านผ่านๆอย่าไป คอมเม้นต์ให้เสียเวลาเลยครับ เพราะถ้าไม่เห็นด้วย ก็เจอ จขกท. เหวี่ยงใส่เปล่า เพราะเค้าโกรธ อะไรหมอในเรื่องที่เค้าไม่ได้เล่านี่แหละ ถือซะว่า บัวนั้นมีหลายเหล่า เราก็ไม่ควรลงไปเกลือกกลั้วกับตมน่ะครับ จากคุณ : Terrarex เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 53 23:35:48

ความคิดเห็นที่ 21   การที่หมอชาร์ตยามันผิดสิครับ เพราะเป็นการเอากำไรจากชีวิตคน ปกติคิดแค่ค่าความรู้มันก็มากพอแล้วนะผมว่า นี่ยังมาชาร์ตค่ายาเพิ่มอีก คนไข้มีสิทธิถามว่าได้ยาอะไรเหรอ แล้วใครมันจะบอกครับ ว่ายาอะไร ยานี้ราคาตลาดมีค่าเท่าใด คุณลองถามสิเขาจะตอบตรงๆไหม มีกี่เจ้าที่ตอบตรงๆไม่โกหก คุณจะบอกว่าหมอทุกคนไม่เลี้ยงไข้เพราะเขาคงมีจรรยาบรรณพอ น่าจะมองโลกง่ายไปมั้งครับ 20# ดูจากท่าทางแล้ว น่าจะเป็นหมอคลินิคห้องแถว หรือไม่ก็มีพ่อแม่เป็นหมอ แน่ๆปลอมตัวมาแบบนี้ เปิดเผยตัวดีกว่าไหมครับ ตามคลินิคทุกวันนี้หมาที่ไหน มันก็ไม่จ่ายยาที่ทำแพคเกจแบบตลาดหรอก ทำกล่องใหม่เองด้วยซ้ำ ดูจากท่าทางแล้วคุณคงจะรับไม่ได้ที่ผมด่าหมอคลินิคห้องแถวนะ เพราะพวกนี้ดูเจตนามันก็รู้แล้วล่ะว่าต้องการเอากำไรจากค่ายา ถ้าคุณรับไม่ได้ที่ผมตั้งกระทู้ เพียงเพราะคุณเป็นหมอตามคลินิคห้องแถวและเสียประโยชน์ก็อย่าเข้ามาดโพสดีกว่า จากคุณ : ปลิง เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 07:03:33 A:125.26.141.47 X: TicketID:274700

ความคิดเห็นที่ 22 จขกท ก่อนอื่นคุณควรจะมี คือ ความสุภาพ และ เคารพในความคิดเห็นไม่ตัดสินใครบนพื้นฐานความคิดคุณเองนะครับ 1 ผมยืนยัน หมอชาร์ฺจค่ายา ไม่ผิด เพราะว่าหมอคลีนิค ไม่ได้เปิดเป็นองค์กรการกุศล การที่คุึณตัดสินผิดหรือไม่ผิด มันขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายไปมากกว่า รพ รัฐ ก็ชาร์จค่ายาจากคนไข้ แต่น้อยกว่า เอกชน 2 ถ้าคนไข้ถามชื่อยา หมอ/สถานพยาบาลมีหน้าที่ต้องตอบคำถามเพราะว่าเป็นสิทธิผู้ป่วย ส่วนเรื่องราคาตลาดคงไม่บอกและบอกไม่ได้ ไม่ต้องให้อธิบายนะครับว่าเพราะอะไร 3 เรือ่งหมอเลี้ยงไข้ ถ้าหมอเลี้ยงไข้ เป็นการฆ่าตัวตายในอาชีพไหมครับ บางคนหาหมอแต่หายช้า เป็นได้หลายอย่าง เช่น โรคที่เป็น ระยะของโรคที่เป็น ระยะเวลาในการรักษาแต่ละโรคไม่เท่ากัน การดูแลตัวเองของผู้ป่วย และที่สำคัญคือ ความเชี่ยวชาญของหมอ คุณได้คิดว่าหมอเลี้ยงไข้แล้วล่ะก็เท่ากับคุณมีอคติ มีประโยชน์อะไรที่จะไปรักษากับหมอท่านนั้น แต่เท่าที่ดูคุณตัดสินไปเองแล้วว่า หมอจะเลี้ยงไข้คนนั้นที่ควักเหรียญออกมาจ่าย (คุณคิดเองอีกแล้ว) 4 เลิกเรียกหมอว่า มัน/หมา ได้เเล้ว เป็นการไม่ให้เกรียติคนอื่น โดยเฉพาะตัวคุณเองนั่นแหล่ะ ผมดูจากคอมเมนท์คุณล่าสุด คุณควรขอโทษ#20 นะครับ ---เป็นครั้งแรกที่จะพยายามอธิบายอะไรยาวๆ---- จากคุณ : พียอร์น้อยต่อยเตะ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 53 10:56:08

ความคิดเห็นที่ 23 เคยเจอเหมือนกัน  หมอจ่ายยาเม็ดแบบในซองของคลีนิคโดยไม่ระบุว่าเป็นยาอะไร   เป็นคลีนิคเก่ามากๆ คุณหมอท่านอายุมากๆๆแล้ว คือ  คาดว่าเป็นระบบแบบเก่าๆ ท่านเคยทำยังไงเมื่อ 20 ปีที่แล้ว  ก็ยังคงทำอย่างนั้นอยู่ ซึ่งครั้งนั้น  เราได้ยาขยายหลอดลม  ซึ่งเรามีอาการข้างเคียงคือ  หัวใจเต้นเร็วมาก  อ่อนเพลีย  มือเท้าปากชา  มือสั่นไม่มีแรง สั่นเกือบเท่าคนเป็นพากินสันเลย ขนาดเพื่อนเราที่เป็นหมอ  เห็นซองยายังบอกไม่ได้ว่าซองไหนคือยาขยายหลอดลม  รู้แต่เป็นผลข้างเคียงของยานี้แน่ๆ  จนเราต้องหยุดยาทุกตัว เพราะไม่ไหวแล้ว  มันจะช็อคตาตั้งอยู่รอมร่อ แต่ตอนนี้เท่าที่เจอไม่ค่อยมีแล้วนะ  ยกเว้นคลีนิคความงาม ส่วนใหญ่ยาเค้าซื้อมากระปุกใหญ่ๆ ก็ต้องแบ่งใส่ซองอยู่แล้ว แต่จะระบุหน้าซองว่ายาอะไร   ซึ่งราคาก็แพงกว่าเราไปซื้อร้านยา  ก็ต้องเข้าใจว่าหลายๆ คลีนิค หมอไม่ได้คิดค่าตรวจ  แต่เฉลี่ยอยู่ในค่ายา   และในแง่ธุรกิจ  คงไม่มีใครซื้อยามาเก็บไว้ล่วงหน้าแล้วขายโดยไม่เอากำไรเลย จะบอกว่าใน รพ.เอกชนชาร์ตค่ายาเยอะกว่าคลีนิคหลายเท่า  แถมมีค่า doctor fee อีก ยืนยันว่าคนไข้ถามได้ค่ะ  ว่ายานี้คืออะไร  เค้าตอบค่ะ  ไม่เคยมีหมอคนไหนไม่ตอบ   แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 53 15:51:51 จากคุณ : Makit เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53 15:45:35

ความคิดเห็นที่ 24 ไปหาหมอแล้วถามชื่อยาว่าจ่ายยาอะไร ชื่ออะไร รักษาอาการอะไร หมอก็บอกนะคะ แต่ไม่เคยไปถามหมอว่า ยาชนิดนี้ราคากี่บาท ยาชนิดนั้นราคากี่บาท จริงๆ ถ้าอยากรู้ก็จำชื่อยาแล้วไปถามตามร้านยาก็ได้ค่ะ จะได้รู้ว่าหมอร้านนี้คิดกำไรกี่บาท ถ้าเยอะไปก็อย่าไปรักษาที่ร้านนี้อีก ^^ จากคุณ : อยากสวย อยากกิน อยากเที่ยว เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 23:23:58