Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
"แสนชัย เวสารัชตระกูล" นักสะกดจิตเปลี่ยนจิตใต้สำนึก ติดต่อทีมงาน

ข่าวที่ทำให้คนเป็นพ่อแม่รู้สึกสะเทือนใจไม่น้อยในช่วงที่ผ่านมา เรื่องหนึ่งคงเป็นรายงานเกี่ยวกับการจัดอันดับไอคิวเด็กไทย ที่กรมสุขภาพจิตออกมาระบุว่า ไอคิวเด็กไทยไม่พัฒนา แถมยังลดระดับต่ำสุดในเอเชีย โดยไอคิวของเด็กไทยอยู่ที่ประมาณ 91 จัดอยู่ในระดับที่ 53 จาก 192 ประเทศทั่วโลก ต่ำกว่าระดับไอคิวของเด็กในประเทศอื่นๆ ในเอเชีย อย่างจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง เวียดนาม รวมทั้งมาเลเซีย

ขณะที่สมองเด็กทั่วโลกจะมีรูปแบบที่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้ไอคิวเด็กต่างกัน คือ วิธีการส่งเสริมการเรียนรู้ การเลี้ยงดู เซลล์สมองส่วนไหนที่ไม่ได้เชื่อมโยงกันจะทำให้ประสิทธิภาพของสมองส่วนนั้นถูกทำลาย ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ก็จะไม่มี ซึ่งสรุปได้ว่า จินตนาการของคนไทยหายไป เพราะเราไม่ได้กระตุ้นความคิดให้เด็กฝึกคิด

"ไทยรัฐออนไลน์" ได้มีโอกาสพูดคุยกับอาจารย์นักคิดผู้หนึ่ง ซึ่งมีความเชื่อว่า เราสามารถสอนให้คนฉลาดได้ และการสอนให้คนอื่นคิดได้เอง ดีกว่าไปคิดแทนคนอื่น อาจารย์ท่านนี้คือ อาจารย์แสนชัย เวสารัชตระกูล หรือ อาจารย์แซม เจ้าของ Creative Academy สถาบันสอนคนธรรมดาให้มีความคิดสร้างสรรค์ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้โฆษณา ที่ปรึกษาสมาชิกสภากรุงเทพฯ นักโฆษณา และวิทยากร

อาจารย์แซม บอกว่า หนึ่งวิธีการสอนคน หรือสั่งคนให้ฉลาดได้ นั่นคือ การสะกดจิต เป็นการสั่งหรือเปลี่ยนจิตใจ ส่วนที่เป็นจิตใต้สำนึก ซึ่งเป็นจิตที่กำหนด ความคิดความคำนึง ความทรงจำฝังใจ จนก่อให้เกิดเป็นลักษณะนิสัยต่างๆ  ซึ่งประกอบไปด้วยเรื่องที่ดีและไม่ดี เรื่องที่ชอบและไม่ชอบ แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นสิ่งที่ไม่ดี และสะสมจนสร้างปัญหาให้กับเรา การควบคุมจิตใต้สำนึกของผู้ที่มีปัญหา ซึ่งในที่นี่เราจะเรียกว่าผู้เข้ารับการบำบัด ไม่ใช่ผู้ป่วย ให้เป็นในสิ่งที่เขาอยากให้เป็น เช่น เรียนไม่เก่งให้เรียนเก่ง นอนไม่หลับให้นอนหลับ โดยตนจะเป็นผู้ออกคำสั่งต่อจิตใต้สำนึกของเขา ด้วยการใช้คลื่นเสียงอัลฟ่า ทีต้า เดลต้า และคอสมิก ซึ่งเป็นคลื่นเสียงที่มีผลต่อการทำงานของจิตใต้สำนึก เสียงเหล่านี้จะทำให้เคลิ้ม เหมือนตกอยู่ในภวังค์ โดยจะเริ่มรู้สึกสบายใจ หยุดคิดถึงปัญหา ในตอนนี้เองก็คือการเริ่มสะกดจิต 


"ศาสตร์การสะกดจิตที่เมืองนอกอย่างญี่ปุ่น หรือยุโรป มีมานานแล้วเป็น 1,000 ปี คนที่เริ่มการสะกดจิตคนแรกคือ โยคี ของอินเดีย ด้วยการควบคุมตัวเองไม่ให้กินอาหารได้นานๆ กินอาหารได้น้อยๆ ช้าๆ มันเป็นเรื่องของการบังคับจิต การควบคุมจิตใต้สำนักให้เป็นอย่างที่อยากเป็นซึ่งทุกคนทำได้ แต่ต้องศึกษาหลักการของจิตก่อน จิตมีอยู่ 4 จิต จิตสำนึก จิตใต้สำนึก ซึ่งเป็นพลังแฝงอยู่ในร่างกายของเรา จิตเหนือสำนึก พวกนักบวช ผู้วิเศษ มีอยู่ และจิตไร้สำนึก พวกเมายาบ้าแล้วเอามีดไปจ่อคอชาวบ้าน ดังนั้น เราต้องเข้าใจเรื่องจิตก่อน เมื่อเข้าใจกระบวนการของจิตแล้ว ก็จะสามารถสะกดจิตตัวเองได้ ซึ่งในต่างประเทศเขาใช้วิธีบำบัดด้วยการสะกดจิต รักษาอาการต่างๆ เหล่านี้ได้สำเร็จมานานมากแล้ว"




ขั้นตอนการสะกดจิต ก็จะเริ่มตั้งแต่การพูดคุยกับผู้บำบัด เพื่อหาปัญหาที่เกิดขึ้นในตัวคนๆ นั้น ทั้งสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู ปัญหาครอบครัว หรือจากโครโมโซม ซึ่งปัญหาที่มาจากโครโมโซมนั้น จะรักษาได้ยากหน่อย แต่ข่าวดีก็คือ มีไม่เกิน 3-5 เปอร์เซ็นต์

"การสะกดจิตของผมคือ Delete ความต้องการออกไปจากจิตใต้สำนึก ในขณะที่จิตใต้สำนึกกำลังล่องลอยอยู่ ซึ่งการสะกดจิตตัวเองง่ายมาก สะกดจิตคนอื่นยากกว่า ซึ่งต้องอาศัยการเรียนรู้"

นอกจากนี้ อาจารย์แซม ยังได้วิเคราะห์กรณีของเด็กไทยที่มีเกณฑ์ไอคิวต่ำว่า เป็นเพราะสิ่งเร้ารอบตัวที่มีอยู่เยอะ ทั้งเรื่องของเกม อาหารการกิน ที่มีคุณค่าน้อย ฮอร์โมนเยอะ โตไวขึ้น มีความต้องการทางเพศเร็วขึ้น ฯลฯ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้มันหล่อหลอมเด็กไทยทุกวัน ถ้ามัวแต่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุจะไม่ทันการณ์ โดยมองว่า การสะกดจิตช่วยได้เพื่อเปลี่ยนนิสัยและพฤติกรรม อย่างที่บอกบุคคลเหล่านี้ไม่ใช่คนป่วย แต่คือคนปกติที่ต้องเข้ารับการพัฒนาให้ดีขึ้น หน้าที่ของผมคือ ช่วยทำให้พวกเขาสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างมีความสุข




หลายคนถามทำไมไม่ใช้บ้านของตัวเอง เปิดเป็นสถานที่สะกดจิต อาจารย์แซมบอกว่า ที่ไม่อยากตั้งสำนักสะกดจิตที่บ้าน เพราะมันจะไม่ต่างอะไรกับเณรแอร์ ผมอยากให้การสะกดจิตเพื่อการรักษาอยู่ในโรงพยาบาล ตอนนี้ผมเปิด "Mild Clinic" ในโรงพยาบาลบีแคร์ ซึ่งเป็นคลินิกสะกดจิตในโรงพยาบาลแห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทย ตอนนี้ประสบความสำเร็จมาก เนื่องจากถนนทุกสายวิ่งมาที่เรา

ดูเหมือนว่าการทำหน้าที่ของนักสะกดจิต จะคล้ายกับการทำหน้าที่ของนักจิตวิทยา แต่อาจารย์แซมบอกว่า มันยังมีความต่างกันอยู่มาก เนื่องจากนักจิตวิทยา จะเป็นผู้ที่ให้คำแนะนำในการดำเนินชีวิต แต่นักสะกดจิต จะบังคับผู้บำบัดได้ด้วยการสะกดจิต

"เรื่องของการพัฒนาไอคิวเด็กไทย ผมแอบฝันว่า ในวันข้างหน้าถ้าเรามีแผนกสะกดจิตในโรงเรียน ก็ไม่เลวเหมือนกัน เด็กที่มีปัญหา ก็มาสะกดจิต เหมือนมาแนะแนว ก็น่าจะทำให้เกรดดีขึ้น เรียกว่า การสะกดจิตบำบัด แต่เราต้องสร้างบุคลากรขึ้นมา ซึ่งต้องใช้เวลานาน ก็ต้องฝากไปทางกระทรวงศึกษาธิการด้วย"

คงต้องย้อนกลับมาดูว่า ที่วันนี้ไอคิวเด็กไทยส่วนใหญ่ไม่ได้รับการพัฒนา นอกจากสภาพแวดล้อมแล้ว การศึกษามีผลอย่างไร ไม่แน่ว่าการสอนให้เด็กคิด มากกว่าท่องจำ อาจทำให้วันหนึ่งไอคิวเด็กไทยอาจพุ่งขึ้นติดอันดับท๊อปเท็นโลกก็เป็นได้.


http://www.thairath.co.th/content/edu/136068

จากคุณ : หมาป่าดำ
เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 54 13:32:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com