ความคิดเห็นที่ 1 เดี๋ยวไปทานข้าวก่อน แล้วจะกลับมาเม้นต่อครับ จากคุณ : คนไทยในต่างมุม เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 12:03:59

ความคิดเห็นที่ 2 ลดฮวบฮาบมากค่ะ  -*-  แต่สังเกตว่าผู้ชายจะลดน้ำหนักได้มากกว่าผู้หญิง ในระยะเวลาอันสั้น สมัยอยู่เมืองนอก มีรุ่นพี่ผู้ชายคนนึง ตอนปิดเทอม แกกลับเมืองไทย 1-2 เดือน แกเล่าว่าที่บ้านกระตุ้นให้ลดน้ำหนัก ก็ไปฟิตเนส เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน พอกลับไปอีกที....แกลดน้ำหนักจนผอม แบบสิบกว่ากิโล เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนมากๆๆๆ จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 12:40:06

ความคิดเห็นที่ 3 เยี่ยมเลยค่ะ เดี๋ยวจะเอาวิธีนี้ไปใช้บ้างง จากคุณ : งูสามเหลี่ยม เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 13:36:12

ความคิดเห็นที่ 4 ลดน้ำหนักเก่งจังเลยค่ะ เปลี่ยนไปเยอะเลย ^^ ไว้เราวิ่งบ้างดีกว่า ขอบคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์นะคะ จากคุณ : nidandkeak เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 13:41:49

ความคิดเห็นที่ 5 กินข้าวเสร็จแล้ว มีนำเสนอในที่ประชุมต่อ พูดเสร็จแล้วครับ แหะแหะ มาดูกันครับว่าแต่วันผมกินอะไรบ้าง อย่างแรกที่ต้องคิดเสมอคือ ไม่กินแป้ง และ ไม่กินของทอดครับ (แค่สองเงื่อนไขนี้ เ้ข้าเซเว่นไป แทบไม่มีอะไรให้กินแล้วล่ะ) บางคนเข้าใจว่าไส้กรอกคือโปรตีน กินได้ แต่โปรดทำความเข้าใจใหม่ว่าส่วนประกอบหลักของใส้กรอกคือไขมันนะครับ เพรามันทำให้ใส้กรอกนุ่มอร่อย ถ้ามีแต่โปรตีนมันจะแข็งมากๆครับ มื้อเ้ช้า ผมกินปลานิล หรือปลาดอรี่อบลมร้อนครับ (ถ้าปลาดอรี่ซีพีมันแพงมาก กินปลาบาซะที่แมคโครก็ได้ครับ โลละ 100 กินได้หลายวัน....แต่ปลาบาซะที่แมคโคร เค้าเขียนว่าดอรี่นะ แบบว่าลวงโลกมาก) บางวันก็กินเกาเหลาหรือก๋วยจั๊บครับ ถ้ากินก๋วยจั๊บ ต้องไม่กินเครื่องใน และหมูกรอบนะ (เพราะเครื่องในมีไขมันสูงมาก และหมูกรอบเป็นของทอด) ตอนไปซื้อก็แวะซื้อผักมากำนึง และเอาไปลวกๆๆๆ กินเนื้อกินผักในถ้วยหมดแล้ว เหลือแต่น้ำซุป ก็เอาผักลวกเทลงไป กินต่อได้อีกเยอะ อิ่มสบายท้อง ไม่ต้องกลัวอ้วน (คนกินผัก ไม่อ้วนเหมือนควายกินหญ้าหรอกนะ) พอดึงมื้อเที่ยง ก็กินเบาๆหน่อยก็ได้ครับ เ่ช่น มะละกอ แอปเปิ้ล หรือต้มเลือดซะถ้วยใส่ตำลึงเยอะๆ หรือไม่ก็ไก่นึ่งจิ้มน้ำจิ้มซีฟูด ก็อร่อยคับ หรือจะกินเกาเหลาเหมือนเมื่อเช้าก็ได้ ไม่ว่ากัน มื้อเย็นนี่ ผมชอบกินเยอะๆครับ เพราะมันไม่ต้องรีบ ก็กินผักลวกจิ้มน้ำจิ้มสุกี้ ปลานึ่ง ปลาราดซอสเทอริยากิอบลมร้อนก็อร่อยมากๆครับ หรือถ้าอยากลดเร็วๆ ก็จัดแอปเปิ้ลไปซักสองลูก ก็คงอิ่มแล้ว ตามด้วยนมขาดมันเนยอีกซักขวดก็หลับสบายแล้วครับ ที่สำคัญ อย่าลืมออกกำัลังกาย โดยการวิ่งหรือเต้นแอโรบิก (ผมใช้วิธีการวิ่ง เพราะเต้นแอโรบิกมันยากเกินไป) ให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันนะครับ ติดต่อกันอย่างน้อย 40 นาทีต่อครั้ง เพราะเมื่อเรางดแป้งแล้ว ร่างกายจะเข้าสู่โหมดสะสมไขมันครับ เพราะนึกว่าเราจะขาดอาหาร ทั้งๆที่กินผักผลไม้ไปเยอะแล้ว แต่ไม่มีแป้งให้มัน ร่างกายจะลดอัตราการเผาผลาญลงไปมาก เราต้องไม่ยอมให้มันหยุดเผาผลาญ โดยการออกกำลังกายครับ ทีนี้ต่อให้มันไม่อยากเผาผลาญยังไง ก็ต้องยอมครับ ไม่งั้นก็ไม่มีพลังมาวิ่งออกกำลังกาย จากคุณ : คนไทยในต่างมุม เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 15:32:00

ความคิดเห็นที่ 6 บางคนสงสัยว่า ไม่กินข้าวได้ยังไง ไม่ทรมานเหรอ เพราะบางคนบอกว่าไม่ได้กินข้าวแล้ว เหมือนไม่ได้กินอะไรเลย มันไม่แล้วเสร็จกระบวนการกินยังไงก็ไม่รู้ ที่หลายท่านรู้สึกแบบนั้น เป็นเพราะร่างกายของพวกเรา "ติดแป้ง" ครับ เนื่องจากแป้งเป็นแหล่งพลังงานที่เอาไปใช้ได้ง่าย และเอาไปสะสมเป็นไขมันได้ง่าย ร่างกายไม่ต้องออกแรงอะไรมากมาย มันก็เลยชอบแป้งมากๆครับ ต่างกับโปรตีน หรือ ผักใบเขียว ที่ย่อยยาก ต้องออกแรงเยอะในการคั้นเอาสารอาหารออกมา ร่างกายก็เลยไม่ค่อยอยากจะต้อนรับมันซักเท่าไหร่ พอเรากินแต่โปรตีนและผัก ร่างกายมันจึงงอแงครับ มันจะกินแป้ง มันก็เลยส่งสัญญาณลวงๆไปที่สมองว่า "นี่แก หิวได้แล้วนะ ไปกินข้าวหรือไม่ก็ขนมปังหวานๆได้แ้ล้ว" ทั้งที่จริงๆแล้วอาหารยังเต็มท้องอยู่เลย พอเราหลงกลมัน ความไฝ่ฝันที่ัตั้งไว้ก็ย่อมพังครืนลงมา แต่ร่างกายก็เหมือนเด็กครับ มันงอแงได้ไม่นานหรอก เมื่อผ่านไปซักสัปดาห์ เมื่อพ่อแม่ไม่สนใจไปตอบสนอง ร่างกายมันจะรู้เองว่า สัญญาณลวงที่่ส่งไปเป็นการเสียแรงเปล่า สู้เอาเวลาไปออกแรงย่อยอาหารดีกว่าครับ ดังนั้น งดแป้ง น้ำตาล และข้าว ไปซัก 1 สัปดาห์ ท่านจะไม่อยากเอาของพวกนี้เข้าปากอีกเลยครับ เพราะสมองท่านจะคิดแล้วว่า มันไม่ดีต่อร่างกาย จากคุณ : คนไทยในต่างมุม เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 15:41:19

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบ คห.2 ผู้หญิงจะมีวิธีคิดเข้าข้างตัวเองได้เก่งกว่าผู้ชายเสมอ อิอิ แซวเ่ล่นนะครับ แม่ผมลูกสองคน ผมเป็นคนโต ท่านลองเอาวิธีผมไปใช้ ก็ลดลงฮวบฮาบเหมือนกันครับ ประมาณ 7 กิโลกรัม ใน 1 เดือน จนพ่อบอกว่าไม่มีเนื้อจะให้กอดแล้ว แต่ท่านก็ดูดีขึ้นมากคับ ดูกระฉับกระเฉง และสุขภาพดีขึ้น แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะใจอ่อนครับ เห็นอะไรก็อยากกินไปหมด และพอถึงเวลาอยากจะกินอะไรซักอย่าง ก็จะชอบคิดว่า "กินๆไปเถอะ เดี๋ยวตายไปไม่ได้กิน" ......แต่กินแล้วก็มานั่งเครียด เพราะมันไม่ตายซะที มีแต่อ้วนเอา อ้วนเอา ผมมีเพื่อนนักศึกษา นอรเวย์ ที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ แกชื่อมิสดาด้า เมื่อสองเดือนก่อน แกดูเหมือนโอ่งมังกรเลยครับ แต่ปัจจุบัน เธอผอมเพรียวลงมาก เนื่องจากปฎิบัติตามคอร์สของ ม.เคมบริดจ์อย่างเคร่งครัด (ให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะไม่มีคาร์โบไฮเดรตใช้ จึงต้องดึงไขมันมาใช้แทน แต่ต้องระวังและปรึกษาแพทย์ตลอดครับ เนื่องจากของเสียจากการสลายไขมัน ทำให้เลือดเสียสมดุลได้) คอร์สนี้เค้าอนุญาตให้กินแค่ Skim milk อย่างเดียวเท่านั้น เป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นก็ค่อยปรับไปกินอย่างอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทีละอย่างสองอย่าง (แต่ไม่สามารถกลับไปกินแบบเดิมได้นะ ต้องกินเฉพาะอาหารที่ดีต่อสุขภาพเ่ท่านั้น) ตอนนี้แกบอกว่า ไขมันที่ตับ และอาการบวมน้ำ ปวดหลัง ปวดขา หายไปหมดแล้ว สุขภาพดีขึ้นมากครับ เธอคำนวนไว้คร่าวๆว่า เธอลด 19 กิโลกรัม ในเวลา 2 เดือนเท่านั้นเอง ตอนนี้เธอกลับมากินอาหารได้แล้ว ไม่ได้กินแต่นม แต่ก็กินแบบเลือกกินนะครับ จากคุณ : คนไทยในต่างมุม เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 15:59:35

ความคิดเห็นที่ 8 ฟัง ฟัง ฟัง วิธีนี้ฟังดูจับต้องได้ดีจัง จากคุณ : I forgive ,just not forget เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 54 21:32:32

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากค่ะ รีบนำไปทำตามทันที >< จากคุณ : SUN THAWAN (SUN THAWAN) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 00:16:03

ความคิดเห็นที่ 10 ยังไงๆ โดยส่วนตัว ไม่ขอยึดตามสูตร เป๊ะๆๆๆๆๆ ค่ะ เพราะคงแอบเครียด และมันทำไม่ได้ต่อเนื่องอ่ะค่ะ ถ้ากลับมากินแบบปกติ สงสัยจะน้ำหนักพุ่งแน่นอน... ชีวิตคนปกติ ถ้าไม่ได้มีเวลาอยู่บ้านเฉยๆ จัดเตรียมอาหารเอง ใช้ชีวิตแบบชาวบ้านๆ ซื้ออาหารข้างนอกกินบ้าง และมีกิจกรรมที่ต้องออกแรง .... ยังไงก็ต้องกินแป้งบ้าง กินของหวานให้ชื่นใจบ้าง .... เราลดมา 8 กิโล เท่ากับ จขกท. ( จาก 56 เหลือ 48 ) แต่เราใช้เวลา 3 เดือนค่ะ  กินอาหารแคลอรี่ต่ำ แต่ก็กินแป้ง กินโปรตีน กินของหวานด้วย แต่ว่าลดปริมาณลง ออกกำลังกายวันละ 30 นาที ขอไม่เร่งรัด เพราะว่า 8 กิโลใน 1 เดือนนี่ ยังไงก็แอบน่ากลัวนิดนึงนะ ^^" จากคุณ : ค.ห. 2 (จำฉันได้ไหม) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:38:22

ความคิดเห็นที่ 11 >>> คอร์สนี้เค้าอนุญาตให้กินแค่ Skim milk อย่างเดียวเท่านั้น เป็นเวลา 1 เดือน จากนั้นก็ค่อยปรับไปกินอย่างอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทีละอย่างสองอย่าง ( แต่ไม่สามารถกลับไปกินแบบเดิมได้นะ ต้องกินเฉพาะอาหารที่ดีต่อสุขภาพเ่ท่านั้น ) ลดลง 19 กิโล ใน 2 เดือน .... และต้องใช้ชีวิตตามสูตรเป๊ะๆๆ น่ากลัวค่ะ  T_T" ขอเป็นคนปกติๆ ดีกว่านะ  ^^"  ผอมได้เหมือนกัน แต่ไม่โหดเท่า ( จะไปเร่งระยะเวลาทำไมล่ะคะ ) แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 09:45:19 จากคุณ : คห. 2 (จำฉันได้ไหม) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:41:40

ความคิดเห็นที่ 12 ผมเองก็ทำคล้ายๆแบบนี้งงตัวเองมากเหมือนกันครับ เริ่ม 3 กค 54 นน. 100 ชั่งล่าสุด 25 กค 54 เหลือ 93.5-94.0 ตั้งใจจริงๆ ไม่อดอาหาร   เลือกทานปลา ทานผัก ทานผลไม้ที่ไม่หวานและมีกากใย ออกกำลังกายทุกวัน ผมว่ามันเหมือนการเดิน เท้าข้างนึงคุมอาหาร เท้าอีกข้างออกกำลังกาย เผาผลาญ ใจเราอยู่ตรงกลางอย่างมีสติ เลือกนำของเข้าสู่ปาก และบอกจงออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ อารมณ์ไม่เครียด เห็นด้วยกับหลายๆข้อเพราะทำอยู่เช่นกัน เคยไม่เชื่อกับคำพูดที่ว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจ ตอนนี้เข้าใจกับคำนี้แล้วจริงๆครับ สุดท้ายชื่นชมกับการเขียน บรรยายมากๆเป็นเหมือนการคุยกันแบบเพื่อนสนิท+นักโภชนาการเลยนะครับนี่ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 11:10:10 จากคุณ : tosamart เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 11:06:15

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณ จขกท. มากๆค่ะ จากคุณ : ปุ๊กแม่น้องเบสท์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 14:34:11

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณคุณ จขกท. มากๆ เลยค้า ความรู้ใหม่ๆ เยอะเลย > < จากคุณ : playprae เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 18:33:46

ความคิดเห็นที่ 15 ถึงคุณความคิดเห็นที่ 11  จำฉันได้ไหม คือมันเป็นแบบนี้ครับว่าบางคนเนี่ย ร่างกายระบบเผาผลาญจะไม่ดี ร่างกายมันจะเก็บสะสมไขมันท่าเดียว คนพวกนี้จะอ้วนง่ายครับ ตามใจปากไปซักสัปดาห์จะเริ่มเห็นผลแล้ว ว่าบวมฉึ่งขึ้นมาก ผิดกับหลายคน ที่กินในนิสัยเดียวกัน แต่ก็ไม่อ้วน เพราะกลไกของเค้าจะนิยมเผาทิ้ง มากกว่าจะเอามาเก็บครับ มันเป็นธรรมชาติที่แตกต่างกันของแต่ละคน ซึ่งใครนิยมเก็บมากกว่าก็ซวยไปครับ ดังนั้นพวก "นิยมเก็บ" อย่างผมเนี่ย จะต้องอาศัยวินัยและความตั้งใจมากกว่าปกติอยู่แล้วครับ เพราะอ้วนง่ายมาก ทำเหลาะๆแหละๆ ไม่มีทางสำเร็จแน่นอน แต่ถ้าเพื่อนๆที่อ้วนง่าย ปฎิบัติตามแนวทางของผม จะรู้เลยครับว่า เมื่อเอาชนะนิสัยกินไม่เลือกได้แล้ว และคิดต่ออาหารแต่ละชนิดอย่างถูกต้อง ว่าอะไรควรกิน อะไรไม่ควรกิน ความรู้สึก "ทรมาน" จะไม่มีเลยครับ เพราะร่างกายมันรับรู้ไปแล้วว่าระบบการกินแบบใหม่ของเราคืออะไร อะไรคือแหล่งพลังงานใหม่ อะไรคืออัตราการเผาผลาญที่ดี วิธีของผมไม่ได้ให้ "อดอาหาร" ครับ แต่แนะนำให้ "อดใจ" เพื่อผละหนีจากอาหารที่ทำให้เราบวมฉึ่ง ไปกินอาหารที่ทำให้เรากลับมาใส่กางเกงยีนส์ตัวเก่าได้อีกครั้งครับ รับรองว่ามันทรมานแค่สัปดาห์แรกเท่านั้นแหละ สัปดาห์ต่อๆไปก็ชิวๆแล้ว ยิ่งเห็นน้ำหนักลงฮวบๆ ยิ่งมีกำลังใจครับ จากคุณ : คนไทยในต่างมุม เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 20:07:07

ความคิดเห็นที่ 16 กินข้าวทุกมื้อเลยค่ะ มื้อละทัพพี เห็นแบบนี้ จะลองพยายามลดข้าวดูนะคะ - -" จากคุณ : eMeduza เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 02:31:27 A:130.215.169.184 X: TicketID:275559

ความคิดเห็นที่ 17 เราเคยลอง ไม่กินข้าว เช้า กลางวัน เย็น   กินแต่เกาเหลาหมู  งดน้ำอัดลมของหวานทุกชนิด ประมาณ 2 อาทิตย์ ควบคู่กับเล่นฮูล่าฮูป  รู้สึกเลยว่าน้ำหนักลง แต่ด้วยความขี้เกียจของตัวเอง เลยกินหมูกะทะแบบ 2-3 วัน ครั้ง และก็ติด pepsi มาก น้ำหนักเลยไม่ลง ต้องไปคงต้องใจแข็งหน่อยแล้ว จากคุณ : golove2 เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 22:20:49

ความคิดเห็นที่ 18 จริงค่ะ พอลดแป้งไปได้ซักอาทิตย์2อาทิตย์จะมีความรู้สึกยี้ข้าว ยี้ขนมปัง ไม่อยากเอาเข้าปาก จริงๆนะ จากคุณ : BlueSeasons เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 03:00:25

ความคิดเห็นที่ 19 เราเลือกและลดปริมาณอาหารจำพวกแป้งค่ะ จากที่เคยกินขนมปังขาว ก็เปลี่ยนมาเป็น Whole Wheat หรือไม่ก็ Oat Meal  เน้นผักและผลไม้มากขึ้น ไม่ค่อยกินพวก dairy อาหารรสจัด และของทอดค่ะ เมื่อก่อนเป็นคนติดกาแฟ ตอนนี้แทบไม่แตะเลยค่ะ ก็อยู่ได้นะ   ส่วนอาหาร เราจะกินแค่พอรู้สึกอิ่ม และออกกำลังกายวันละ 30-45 นาที หนักเบาสลับกัน หกวันต่อสัปดาห์และหยุดหนึ่งวันเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน แต่ก็ทำนู่นทำนี่ตลอดค่ะ อย่างเดินเล่น หรือว่ายน้ำแทน ทำสวนทุกวันเพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว เราไม่เคยลองสูตรต่างๆนะคะ เพราะไม่อยากให้ร่างกายเครียดเกินไป จากคุณ : aArMel เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 19:37:37

ความคิดเห็นที่ 20 เราทำแบบนี้มาหนึ่งเดือนเป๊ะๆลดไป5กิโลค่ะ สู้สู้! จากคุณ : เขียนบน iPhone (gogoget) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 54 11:52:28

ความคิดเห็นที่ 21 ของผมหนึ่งเดือน กินอาหารน้อยลงแต่กินทุกมื้อมีแต่มีหลุดบ้างอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง ออกกำลังกายสม่ำเสมออาทิตย์ละไม่ต่ำกว่าสี่วัน น้ำหนักลงไปห้ากิโลครับ จากคุณ : คนไทยหัวใจแกร่ง เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 54 00:24:35

ความคิดเห็นที่ 22 ที่คุณโพสมา ได้ความรู้เยอะเลยค่ะ มีแต่คนบอกว่าหน้าสวย แต่ทำไมปล่อยให้ตัวเองอ้วน เลยตั้งเป้าหมายไว้ จนถึงสิ้นปี 5 เดือนนี้จะรักตัวเองให้มากๆ จะลดให้ได้ซัก 10 กก. ขอบคุณสะหรับความรู้ดีๆที่มาแบ่งปันนะคะ จากคุณ : MaiEsTa เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 54 20:13:37

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆเลยค่ะ ^^คุณ...คนไทยในต่างมุม ขอนำไปใช้ลองดูนะคะ ... วิธีนี้น่าสนใจมากๆ ตั้งใจจะลดให้ได้ซัก 10 กก.เหมือนกันค่ะ จากคุณ : minpae เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 54 20:00:03

ความคิดเห็นที่ 24 ต๊าย มหัศจรรย์มาก รูป Before& After ต่างกันอย่าง.... ดูดีขึ้นเยอะเลยนะ จากคุณ : หมูผี (หมูผี) เขียนเมื่อ : 2 ส.ค. 54 22:32:00

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณ จขกท..มากครับได้ความรู้มากมายเลย แต่เบื่อพวกชอบมาแขวะ  ทั้งทีทำแบบ จขกท..ก็ครบสารอาหาร และเป็นคนปกติ ใครกันแน่ไม่ปกติ เฮ้อ จากคุณ : เท็นโคจิ เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 54 14:32:05