ความคิดเห็นที่ 1 อืม....ขอโทษนะคะ สำนวนการเขียนของเจ้าของกระทู้ทำให้เราแอบขำค่ะ แต่ก็เข้าใจความรู้สึกนะคะ ของเราคุณหมอที่ดูแลอยู่เป็นผู้ชาย แต่ออกแนวหมอกลัวเรามากค่ะเพราะเปิดเสื้อก่อนตลอด บางทียังไม่ทันเข้าหลังม่านก็เปิดเสื้อแล้ว ฮ่าๆๆ แต่แปลกกับคุณหมอคนนี้เราไม่อายนะคะ แต่ถ้าเจอแบบคุณ ผู้ชายนับสิบคงทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน จากคุณ : สาวน้อยถอย Jazz เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 23:45:44

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ^ แอบฮา ทำหมอกลัว 555 จากคุณ : ดอกกระเจียวหลงทุ่ง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 23:47:49

ความคิดเห็นที่ 3 เสียใจที่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าของกระทู้รู้สึกแบบนี้ ปฏิเสธได้นะครับ จากคุณ : ปรายภพ เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 23:53:35

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นใจ จขกท เหมือนกันนะครับ แต่คิดซะว่าเพื่อเป็นวิทยาทนให้แพทย์รุ่นใหม่ที่กำลัจะจบมาเป็นแพทย์จริงๆ จากคุณ : topmania เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 23:54:39

ความคิดเห็นที่ 5 ขออภัยคุณจขกท. ที่วันนั้นพวกกระผมทำรุนแรงไปด้วยอารมณ์คึกคนองชั่ววูบจริงๆ พอดีเห็นชุดนักศึกษาแพทย์กองอยู่หลายชุด พวกผมก็เลยลองเอามาใส่เล่น จู่ๆ คุณป้า พยาบาลก็ดันตะโกนเรียกให้เข้าไปที่ห้องที่คุณผู้หญิงอยู่ หลังจากนั้น ก็เกิดเรื่องตาม5 ย่อหน้าสุดท้ายที่คุณผู้หญิงเล่ามานั้นแหละครับ.....ให้อภัยกลุ่มแว๊นซ์ผู้ขลาดเขลาอย่าง พวกเราด้วยเถอะครับ.... ปล. คนที่สวมรอยเป็นอาจารย์หมอ จริงๆแกเป็นนักการประจำอยู่ที่นั้นๆล่ะครับ อาเมน จากคุณ : วิทย์ดอส เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 23:56:34

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ #5 วันนั้น ดิฉันโดนหลอกเหรอค่ะเนี่ย Y_Y จากคุณ : ดอกกระเจียวหลงทุ่ง เขียนเมื่อ : 9 ก.พ. 55 23:59:09

ความคิดเห็นที่ 7 5555555555555555555555555 จากคุณ : takai1987 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 00:02:25

ความคิดเห็นที่ 8 รู้แบบนี้.......ตอนนั้นผมยอมทำตามแม่บอก ตั้งใจเรียนให้ได้เป็นหมอดีกว่า จากคุณ : โทนี่ (ChadChad) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 00:14:01

ความคิดเห็นที่ 9 มาฮาอีกละคุณดอกกระเจียว 5555 ว่าแต่หายคันรึยังอ่ะครับ จำได้นะตั้งแต่กระทู้ที่แล้วอ่ะ 5555 จากคุณ : HE_DEAD เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 00:20:48

ความคิดเห็นที่ 10 กำลังง่วงๆ มาอ่านกระทู้นี้ตาสว่างเลยทีเดียว555+ จากคุณ : Reigaz เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 01:20:01

ความคิดเห็นที่ 11 555+ ช่วยชีวิตคนดีกว่าสร้างเจดีย์ 7 ชั้น ขอบคุณที่ทำให้ผมอมยิ้มก่อนนอน อิอิ แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 55 01:32:06 จากคุณ : Elizarah เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 01:26:53

ความคิดเห็นที่ 12 ก็คงต้องทำใจละครับ แต่ก็เห็นใจ จขกท.นะว่าชายหนุ่มรูปงามเป็นสิบนี่เยอะไปจริงๆ แต่โดยปกติเค้าก็ขอคุณก่อนทำอะไรนะครับ ถ้าไม่อยากเป็นครูวันหลังก็ไปโรงพยาบาลที่ไม่ใช่โรงเรียนนะครับ จากคุณ : ชิโฮจัง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 04:45:58

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าไม่อยากให้นศพ.ตรวจก็ปฏิเสธได้นะครับ ของคห5 น่าเอาไปเป็นพล็อตหนัง AV จริงๆ จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 05:44:57

ความคิดเห็นที่ 14 นึกภาพตัวเองไปตรวจช่วงล่าง แล้งโดนเด็กๆโดนรุมบีบไข่  สงสัยคงเดินไม่เป็นกลับบ้านแน่ จากคุณ : เฒ่าอ่ำ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 08:00:35

ความคิดเห็นที่ 15 มาช้าไปมั้ย อยากรู้จัง คห 5 จริงหรือหลอกคะ....ฤาเย้ากันเล่น ๆ อะ เป็นไปได้งัยที่พยาบาล(ที้่ไม่เบื้อ) จะไม่รู้จักหน้าค่าตาคนทำงานที่เดียวกันหรือนักศึกษาแพทย์ เกินไปมั้ยให้ นศ แพทย์เยอะขนาดนั้นมาจับต้องของสงวนถึงจะเป็นสาธิตเชิงวิชาการก็เถอะ ไม่น่าจะเอิกเกริกซะขนาดนั้น...อะ..จี๋ย..ย...แค่นึกก็สยองแล้ว แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 55 08:37:34 จากคุณ : คนขี้บ่น (kjean) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 08:36:11

ความคิดเห็นที่ 16 555555 คุณคห.5คะ ข้ามห้องมาอำแถวนี้เลยนะคะ กลับบ้านเด่วนี้เลยค่ะ ลูกๆไม่มีใครชงนมให้กิน "^_^" จากคุณ : โรฮันนา of น้ำหนาว เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 08:52:25

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านแล้วเห็นภาพ..... 55555 หายง่วงทันที ถือว่า....ให้จับเป็นความรู้ไปละกันเนอะ จากคุณ : jkpn1207 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 09:15:07

ความคิดเห็นที่ 18 ขำตรง...คห.5เน่ยแหละ จากคุณ : jkpn1207 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 09:16:14

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าไปตรวจอีกที พกนมปลอมไปให้พวกนศพ.จับแทน  พออาจารย์มาค่อยเปิดนมจริงให้ตรวจ จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 09:24:15

ความคิดเห็นที่ 20 คนที่มาอ่านไม่ต้องกลัวนะคะ ถ้าเป็นกรณีแบบนั้น พอแพทย์ตรวจ หรือสอนตรวจ ให้บอกเลยว่า ไม่ให้ นศพ ตรวจด้วย มันเป็นสิทธิ ผป จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 09:28:48

ความคิดเห็นที่ 21 ถือสะว่า เป็นวิทยาทานแก่ อนาคตเด็กไทยละกันครับอย่าไปคิดมาก จากคุณ : HyohaZ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 09:30:38

ความคิดเห็นที่ 22 การจะ "ปฏิเสธการเป็นเคสให้นักศึกษาแพทย์" ไม่ง่ายนะครับ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว การขอของ แพทย์จะเป็นแนว แกมบังคับ อย่าง เช่น พานักศึกษาไปสิบกว่าคน ยืนรอบเตียงแล้ว บอกว่า.. "ผม ขออนุญาต เอากรณีของคุณสอนนักศึกษา นะครับ/ได้ไหมครับ?" (ส่วนใหญ่ จะเป็น "นะครับ" มากกว่า "ได้ไหมครับ" <--จริงๆ) แล้ว คนไข้ผู้โดดเดี่ยว ในวงล้อม คุณหมอ จะตอบอย่างไรได้อีกเล่า แต่...ให้คิดซะว่า...คุณคือ ครู ผู้มีพระคุณกับ หมอเหล่านั้นนะครับ หากไม่มีคนไข้อย่างพวกคุณ....พวกเราก็คงไม่มีวันนี้กัน...ขอบคุณครับ จากคุณ : foren161 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 09:46:02

ความคิดเห็นที่ 23 เคยมีอาการไ่ม่ดีเกิดขึ้นที่จุ๊ดจู่ เจอเลยครับ เป็นเหยื่อให้ นศ แพทย์ อ.หมอ ให้เปิดจู๋ แล้วให้ นศ ทาย ว่าผมเป็นโรคอะไร นศ. ชาย 2 หญิง 3 ก็มายืนดู หน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น ผมก็เปิดแช่อยู่อย่างนั้น แล้วแถมด้วยความเป็นมือใหม่ของน้อง นศ ช่วยกัน 5 คนแล้ว ก็ยังทายกันไม่ถูกสักกะทีว่าเป็นอะไร มี อ.แพทย์คอยใบ้ให้ ก็ยังตอบกันไม่ถูก บางจังหวะ ศิษย์กับอาจารย์หันไปสนทนากัน ผมล่ะก็คิดว่า "กรุจะเก็บเข้ากุงเกงได้ยังฟะ" แทบอยากจะบอกจริง ๆ ว่า น้อง ๆ ครับ ช่วยเก็บภาพ แล้วจินตนาการเอาได้มั้ยครับ พี่เปิดนานแล้ว แอร์มันเย็น จากคุณ : แตงโมสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 09:55:33

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านแล้วขำสำนวนค่ะ...555   เราเคยคล้ายๆ กัน แต่เป็นตรงหัวค่ะ  คือหัวปูดไม่รู้เป็นอะไร ตรงกลางหัวเลยนะคะ เจ็บๆ ด้วย....แม่ก็พาไปให้เพื่อนที่เป็นพยาบาลช่วยดูให้   เพื่อนแม่ก็ด้วยความหวังดี  เห็นอาจารย์หมอเดินผ่านมา (แน่นอน...พร้อมหมู่มวลลูกศิษย์หมอหนุ่ม)...แกก็ขอร้องให้ช่วยดูให้หน่อย....มาเลยค่ะ...ทั้งกลุ่ม (จำได้ว่าใหญ่มว๊ากกก)     จารย์หมอ : เอ้านักศึกษา...มาดูตรงนี้...อันนี้เป็น !@#$@!%$@#$% อาการจะ &%^&^%#& นะ แล้วก็ %^$%^#^$*^&$% (ฟังไม่ออกเลยสักนิด) นักศีกษา : (มาจิ้มๆ ดูหลายคนเลย TT__TT) จารย์ครับ !@#%#^^%$^ ใช่ไหมครับ &^%*&(&^ แล้วก็ #$%#@^#$@ เรา : (ตกลงตรูเป็นโรคร้ายไหมเนี่ย...ตรูเป็นอารายยยยย  อายนะเนี่ย เริ่มโตเป็นสาวแล้ว หัวปูดแบบนี้เค้าจะว่าไม่สระผมรึเปล่า T_T)     สุดท้ายมันก็ยุบหายไปเองในเวลาต่อมา  เอาตรูไปขายหน้าทำไมเนี่ย       เพื่อนที่ทำงานอีกคนหนักเลย  เป็นแผลที่น้องชายค่ะ  ไปนอนโรงพยาบาลเพราะพ่อเพื่อนเป็นหมอจะได้ช่วยดูแล...ที่ไหนได้ "ดู" มากกว่าที่คิด...พานักศึกษามาดูเป็นหมู่คณะเลย...พลิกซ้ายพลิกขวาทุกวันตั้งแต่เข้ายันออกโรงพยาบาล...55555 อารมณ์โน้ตอุดมเลยค่ะ...55555 จากคุณ : แม่นาล่าจัง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 10:03:59

ความคิดเห็นที่ 25 จริงๆแล้วผู้ป่วยมิสิทธิปฏิเสธค่ะ จะให้เราเป็นเคส สตัดดี้ ควรจะมีการแจ้งล่วงหน้าก่อนด้วย ไม่ใช่อยู่ๆเปิดประตูแล้ว นศพ.เดินกรูกันเข้ามาจะมาเลิกผ้าดูกันได้ง่ายๆ ถ้าเป็นเรา ไม่ขออนุญาตล่วงหน้า เราปฏิเสธค่ะ จากคุณ : สาวน้อย ร้อยกระบวนท่า เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 10:13:30

ความคิดเห็นที่ 26 เราถึงไม่ตรวจโรงพยาบาลรัฐเลยค่ะ กลัว..... จากคุณ : veenew เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 10:30:29

ความคิดเห็นที่ 27 ดิฉันเคยไปตรวจมดลูกแบบส่องกล้องเอาเครื่องมือสอดเข้าไปค่ะ แล้วเค้าให้ปิดตา สักพักเหมือนมีเซนส์ว่าไม่ใช่แค่หมอคนเดียว เลยเอามือเปิดผ้า พบภาพ นศพ. ผู้ชาย ยืนรุมดู พวกเขาก็ทำหน้าตกใจผงะเลย ดิฉันก็ตกใจ ทำไ้ดแค่เอาผ้าปิดตามเดิม อายมากอะ ขอบอก ทำไมไม่บอกก่อนละ เซ็งนะคะ ตอนนั้นเป็นสาวนะคะ 555 เมื่อ 3 ปีก่อนนะคะ จากคุณ : TheOuTlaNdEr (TheOuTlaNdEr) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 10:46:54

ความคิดเห็นที่ 28 ดีนะที่ตอนผ่าฝีที่ก้น หมอวางยานอนหลับ ไม่งั้นคงอายแย่ เพราะเปิดเผยหมด ตื่นมาอีกที อยู่ห้องดูอาการแล้ว จากคุณ : หมูน้อยเบอร์7 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 10:47:50

ความคิดเห็นที่ 29 ตอนที่อิฉันไปคลอดลูก ที่รพ.ศิริราช อิฉันฝากพิเศษค่ะ   ยังไงซะก็โดนมือหมอ แค่คนเดียว อิอิ แต่คนดูเพียบบบบ 555555 กลายเป็นจิ๋ม มหาชน เลยทีเดียว 5555 จากคุณ : อู๋ซ่า เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 11:09:43

ความคิดเห็นที่ 30 ตอนเรียนที่มหาวิทยาลัยปีหนึ่ง  มีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง   เป็นคนรูปร่างดี  หน้าอกใหญ่   แต่อยู่มาวันหนึ่งรุ้สึกเจ็บที่หน้าอกข้างนึง  ไปหาหมอ เจอหมอผู้ชายตรวจให้พบว่า เป็นซีสต์ที่หน้าอกข้างนึง เพื่อนบอกเราว่า เป็นข้างเดียว แต่หมอจับนมทั้งสองข้างเลย เพื่อนมาบอกเราหลังจากตรวจเสร็จและโมโหหมอมากเลยว่า ทำไมต้องจับนมเค้าทั้งสองข้างด้วย เป็นซีสต์ข้างเดียวเอง   เราก็บอกเพื่อนว่า หมอน่าจะจับเปรียบเทียบกันนะ คือ เราก็ไม่รู้หรอก...แต่ปลอบเพื่อนไป  เพื่อนทั้งอายทั้งโมโหที่หมอจับนมทั้งสองข้างอ่ะ   จริงๆ แล้วถึงตอนนี้เราก็ยังไม่รุ้จริงๆ ว่า ต้องตรวจจับนมทั้งสองข้างไหม หรือตรวจเฉพาะด้านที่เป็นซิสต์   พอมาอ่านกระทู้นี้ เลยคิดถึงเหตุการณ์นี้ขึ้นมา... จากคุณ : Jintawanee เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 11:52:49

ความคิดเห็นที่ 31 ^ อะไรก็ตามที่มี 2 ข้าง ก็ต้องตรวจทั้งสองข้างค่ะ ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่ก็ตาม จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:27:28

ความคิดเห็นที่ 32 เรียน คคห. ที่ 30 เราไปหาหมอ หมอจับแค่ข้างเดียวอะ ข้างที่บอกว่าเจ็บแปล๊บๆ ค่ะ จากคุณ : ผลไม้ตามฤดูกาล เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:28:07

ความคิดเห็นที่ 33 ลงชื่อไว้  คิดว่า มีเฮ   อิอิ จากคุณ : Bhind`hazeL`eyeS เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:33:57

ความคิดเห็นที่ 34 ลงชื่อฮาด้วยคน คห. 23 อาการเดียวกันเลยย แต่ผมไปผ่าฝี ทั้งยัดหมุด และดึงหมุด แต่มันเสียววุ๊ยยย จริงๆ นะ จากคุณ : ฒ. มือใหม่ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:49:04

ความคิดเห็นที่ 35 ฮา คห.23  ก็แอร์มันเย็นอ่ะ 555+ จากคุณ : ดอกกระเจียวหลงทุ่ง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:53:07

ความคิดเห็นที่ 36 ในฐานะนักศึกษาแพทย์ยอมรับว่าน่ากลัวจริงครับ แต่ที่น่ากลัวกว่าคือถ้าตัวเองเป็น นศพ แล้วมีปัญหาพวกนี้(อย่างเช่นริดสีดวง)ซะเองนี่... เรื่องใหญ่นะครับ เพือนท่านจะขอดูตั้งแต่อยู่ในหอเลยครับ  แอร๊ยยย(บอกอาจารย์อีกตะหาก) T.T แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 55 13:03:02 จากคุณ : นศพ :P (Troponin) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 12:59:17

ความคิดเห็นที่ 37 มาลงชื่อว่าเคยเหมือนกันครับ ของผมเป็นตุ่มเนื้อขาหนีบอยู่ใกล้ปิกาจู้ แต่ที่ทำให้ไม่สบายใจจนต้องไปหาหมอเพราะมันโตขึ้นๆเร็วมากๆ บวกกับความเจ็บที่ทำให้เดินไม่สะดวก หมอก็บอกไม่น่าจะมีอะไรแต่เพื่อสบายใจจะผ่าออกก็ได้นะ เลยตัดสินใจผ่าก็ผ่า ก็ไปรายงานตัวเข้าห้องผ่าตัดเล็ก พยาบาลให้เปลี่ยนกางเกงเป็นผ้าเขียว ไปนอนบนเตียง เอาผ้าเขียวคลุมหน้า จากนั้นก็เอาผ้าเจาะรูคลุมช่วงล่างโผล่แต่ปิกาจู้และตุ่มนั้น จากนั้นเสียงกลุ่มเท้าก็มาครับ หมอที่ผ่าก็จัดการสั่งฉีดยาชา แล้วก็อธิบายไป อธิบายเสร็จเอามีดจี้ตุ่มถามว่ายังรู้สึกไหม แหม่ มีดเย็นๆจ่อใกล้ๆปิกาจู้ เสียวแว๊บเลย แต่ยังเจ็บ หมอก็สั่งฉีดอีก แล้วก็ให้ นศพ. มาดูใกล้ๆ พร้อมกับเอาแท่งเหมือนมีดเย็นๆ มาวาดลีลาไปมาว่าจะทำแบบนั้นแบบนี้ ให้ระวังนั้นนี่ จากนั้นหมอก็เอามีดจี้แบบไม่ถาม รู้สึกถึงความบางแต่ไม่เจ็บ หมอก็อธิบายว่านี่คือชาแบบไม่เจ็บพร้อมผ่าได้ จากนั้นก็มะรุมมะตุ้มปิกาจู้ผม จับพลิก ดัน เจี๋ยน เย็บ เช็ด เสร็จ กลุ่มรองเท้าก็ออกไป พยาบาลค่อยเอาผ้าที่ปิดออก ให้ผมนุ่งผ้าซะให้เรียบร้อย จากนั้นก็ปล่อยผู้ถูกรุมกระทำอย่างผมเดินงอๆออกจากห้องไป ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เป็นปิกาจู้มหาชนไปด้วยครับ จากคุณ : ลุงอ้วนน่ารัก เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 13:14:16

ความคิดเห็นที่ 38 คห32 ตรวจเต้านมข้างเดียว ไม่ได้มาตรฐานครับ ต้องตรวจทั้งเต้านมและรักแร้ทั้ง2ข้าง และต้องปลดตะขอบราด้วยไม่ใช่ยกขึ้นไปเฉยๆ จากคุณ : ละเหี่ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 13:14:31

ความคิดเห็นที่ 39 ตอบคห.30 และ 32 เรามีก้อนเนื้อที่เต้านมข้างเดียว แต่เวลาหมอคลำจะคลำทั้งสองข้างนะคะ เ่ช่นเดียวกับหมออัลตร้าซาวน์จะทำทั้งสองข้างรวมถึงรักแร้ด้วยค่ะ แมมโมแกรมก็เช่นกัน จากคุณ : สาวน้อยถอย Jazz เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 13:20:17

ความคิดเห็นที่ 40 อ่าาาาา ผมว่า มันน่าเกลียด+ล่วงละเมิดเกินไปนะครับ ได้ถามหรือไม่ว่า คนไข้้เต็มใจโชว์หน้าอกให้ผู้ชายอื่นๆดูหรือไม่ และเต็มใจหรือไม่ ที่จะถูกผู้ชายนับสิบมาแตะเนื้อต้องตัว ส่วนตัว คิดว่าน่าเกลียดเกินไปจริงๆ ถ้าอยากให้เป็นวิทยาทาน ทำไมแพทย์ พยาบาล ไม่ถลกเสื้อลงมาให้ นศ จับแทนละครับ ถ้าศึกษาเรื่องปิกาจู้หรือจิมิ ก็ใช้หมอ ใช้พยาบาลนั่นแหละ หมอมีสิทธิ์คิดตัดสินใจแทนคนไข้หรือยังไง ถ้ากรณีนี้ไม่ผิด ระวังนะครับ นอนซมอยู่ รพ ด้วยฤทธิ์ยาสลบ หมอก็เรียก นศ มาจับจิมิ ปิกาจู ของเราได้สิเนี่ยะุ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 13:35:35

ความคิดเห็นที่ 41 เพื่อนผมโดนเหมือนจขกท.แต่เป็นการตรวจภายในนะ (ตอนวัยรุ่น) จากคุณ : คนเคยล้ม เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 14:14:22

ความคิดเห็นที่ 42 จขกท. เล่าได้น่ารักมากเลยครับ ตอนอ่านนั่งอมยิ้มอยู่ แต่พอมาอ่าน comment หัวเราะเลย 555 จากคุณ : thep497 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 14:24:04

ความคิดเห็นที่ 43 เราโดนตอนไปผ่าคลอดนะ แบบว่านศ.พยาบาลอ่ะค่ะเต็มห้องเลยมาบวชชีและสวนให้เรา แบบว่าเข้าใจมั้ยคะว่ามันกลัวอยู่แล้วไม่เคยโกน แล้วเอาคนไม่มีประสบการณ์มาบวชชีให้ กลัวมันจะปาดไอ้สิ่งที่ไม่ต้องปาดทิ้งไปด้วย อายก็อาย แต่ทำไรไม่ได้อ่ะเค้าจู่โจมกันแบบไม่ทันให้ได้สติเลย จากคุณ : แม่น้องฟ้าใส (มามี๊ตัวกลม) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 14:36:12

ความคิดเห็นที่ 44 อิอิ "สิบตาดูไม่เท่ามือคลำ" ครับ อ่านไปยิ้มไป ขอบคุณอาจารย์ดีๆ อย่างท่านแล้วกัน อิอิ จากคุณ : ขื่นอุราพารื่นรมย์ (Dojo-mAn) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 14:37:08

ความคิดเห็นที่ 45 ผมว่าทางอาจารย์แพทย์จะต้องแจ้งหรือขออนุญาตคนไข้ก่อนนะครับ อันนี้ เค้าเรียกว่า มารยาท ไม่ว่าที่ไหนๆก็ต้องมี เค้าลืมไปรึเปล่าครับว่ามีสิทธิ์ของผู้ป่วย จากคุณ : sundancer เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 14:45:13

ความคิดเห็นที่ 46 จขกท. คงจะแต่งเรื่องเอาฮานะครับ เพราะในกรณีเคสนี้ อาจารย์หมอจะต้องมาขอความยินยอมจากคุณก่อน เผลอๆ ต้องมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะอาจเป็นเรื่องฟ้องร้องกันภายหลังได้ ขออภัยถ้าผมซีเรียสเกินไปครับ จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 14:59:51

ความคิดเห็นที่ 47 มันเป็นเรื่องแนวคิด ทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสีย แนวคิดในการสอนนักเรียนแพทย์สมัยเก่า - มาโรงเรียนแพทย์คนไข้ทุกคนต้องทำใจยอมรับการเป็นตัวอย่างในการสอนผู้ป่วย อาจารย์ไม่ต้องถาม อาจแจ้งให้ทราบนิดหน่อยแล้วในนักเรียนลุยได้เลย ข้อดี นักเรียนแพทย์ได้เรียนมาก ได้ฝึกเยอะ ได้นักเรียนแพทย์ที่เก่ง ข้อเสีย เป็นการละเมินสิทธิผู้ป่วยอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่ชอบโรงพยาบาล บางครั้งเนื่องจากเป็นนักเรียนแพทย์แม้จะมีอาจารย์คุมอยู่ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายกับผู้ป่วยได้ แนวคิดแบบใหม่ - ทำอะไรกับคนไข้ต้องขออนุญาต บางที่ถึงกับต้องให้คนไข้เซ็นยินยอมก็มี ข้อดี ผู้ป่วยรับรู้ ยินยอมร่วมมือในการสอน ผู้ป่วยไม่รู้สึกแย่มากเพราะเตรียมใจมาก่อน ข้อเสีย ผู้ป่วยจำนวนมากปฏิเสธเป็นกรณีศึกษา ทำให้นักเรียนแพทย์ได้เรียนน้อยลง นักเรียนแพทย์จะเก่งด้านปฏิบัติลดลง ณ ปัจจุบัน แนวคิดแบบใหม่แพร่กระจายและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น จนปัจจุบันโรงเรียนแพทย์ที่ไม่ใช่สถาบันสมทบไม่น่าจะมีที่ไหนทำแบบเก่าอีกแล้ว จากคุณ : megacure (SET50.com) เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 15:11:30

ความคิดเห็นที่ 48 อ่านแล้วขำจริงๆกระทู้นี้ เป็นผม ผมยินดีนะ อยากให้ความรู้กับน้องหมอๆทั้งหลาย ผมชอบสนับสนุนเรื่องการเรียนครับ ปล. จริงๆผมเป็นพวกชอบโชว์ครับ ฮ่าๆๆ ถ้าต้องโชว์จริง มีตั้งแน่ จากคุณ : House Of FlyingBird เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 15:18:57

ความคิดเห็นที่ 49 ดีนะของเราแค่มุงดู"หู" เราคันหูมีน้ำออกมาด้วย หมอมาดู และก็พาศิษย์มาดูหู จากคุณ : เป๋าตังค์เป๋าตุง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 15:25:16

ความคิดเห็นที่ 50 คห.30 เราโดนจับสองข้าง เหมือนหมอจะเปรียบเทียบ แล้วก็ดูว่าอีกข้างมีก้อนแข็งๆ อะไรหรือเปล่า เหมือนอย่างที่คห.38 บอกเลยค่ะ เรียกว่าโดนจับไม่ต่ำกว่าสิบรอบ ฮ่าๆๆ เพราะต้องขึ้นเตียงผ่าตัดด้วย แต่เราเฉยๆ นะ ถึงหมอจะเป็นผู้ชายก็เถอะ อาจจะเป็นเพราะอายุห่างกันมาก เลยไม่ค่อยอายมั้ง ถ้าอายุใกล้เคียงกันก็อาจจะอาย ฮ่าๆๆ (แต่หมอเขาเป็นคนเฮฮา เลยลดอาการเกร็งลงไปเยอะ) แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 55 15:27:37 จากคุณ : comicclubs เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 15:26:59

ความคิดเห็นที่ 51 เข้ามาบอกว่า  กระทู้นี้ คนเข้าเยอะจังเลย ^__^ อ้าว...ผมก็เข้ามานะ หุหหุหุ จากคุณ : CHM เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 16:21:22

ความคิดเห็นที่ 52 555 จากคุณ : sweet_bee18 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 16:22:55

ความคิดเห็นที่ 53 โธ่ หมอเค้าไม่คิดอะไรหรอกคุณ หนูก็โดนตรวจภายในจากหมอมาเป็นสิบๆคนแล้ว โดนตรวจมาตั้งแต่อายุ22กำลังสาวสะพรั่ง จนอายุ38แล้ว โดนรุมดูอีกร่วมครึ่งร้อยแล้วมั้ง พวกหมอเค้าไม่คิดอะไรจริงๆ เค้าก็คิดว่า ร่างกายของเราก็คืออวัยวะส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่เค้าคิดน่ะ คือทำยังไงถึงจะรักษาเราได้อย่างถูกต้องด้วยวิธีไหน จากคุณ : น้องจุ่น เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 16:50:00

ความคิดเห็นที่ 54 เอิ่ม... เราก็คิดว่าคุณหมอและนักศึกษาแพทย์คงไม่คิดอะไร แต่น่าจะขออนุญาตคนไข้ก่อนนะคะ ปล. จขกท.เล่าได้ฮามากๆ : P จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:01:20

ความคิดเห็นที่ 55 คนไข้จะรู้สึกอาย เป็นธรรมดาค่ะ แต่หมอส่วนใหญ่ 99% จะไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ว่าจะดู ทั้งนม ทั้งจู๋ ทั้งจิ๋ม บางทีจะแอบคิดด้วยซ้ำว่าคนไข้จะอายทำไมคร้าบ ของใครก็เหมือนๆกันแหละคร้าบบ ตอนเราเป็น นศพ. เราก็มีก้อนที่นมค่ะ แล้วก็ไปผ่าที่โรงบาลที่เรียนอยู่นี่แหละ ไปช่วงปิดเทอม แต่งตัวธรรมดา ไม่ได้บอกพยาบาลว่าเป็น นศพ. โหย...อาจารย์เอารุ่นพี่มารุมดู รุ่นพี่ดันจำเราได้อีก เฮ้ย น้อง xxx นี่นา   อาย >___< เข้าห้องผ่าตัดก็ยกโขยงพากันไปหมด แต่รุ่นพี่ก็ดีมากค่ะ อาจารย์ผ่า เราก็เกร็งๆเพราะว่าแค่ฉีดยาชา แต่ยังพอรู้สึกว่ามีเครื่องมือมาดึง มากรีด เจ็บนิดๆเหมือนกัน (อาจารย์ก็ใจร้าย ฉีดยาชาปุ๊บเอา forceps หนีบ ถามว่ารู้สึกไม๊ เราบอกว่ารู้สึกค่ะ(จะดูว่าชารึยัง ปกติต้องรอให้คนไข้ตอบว่า รู้สึกหนาๆชาๆ อะไรก็ว่าไป) ...​แล้วอาจารย์ก็ลงมีดเลย .. มันเจ็บนะค้าาาา แล้วจะถามทำไมคะ!) พี่ก็ช่วยจับมือ บอกว่า ไม่เป็นไรนะ ทนหน่อย ใกล้เสร็จแล้ว ฯลฯ ตอนนัดมาตัดไหมก็ยังไม่วาย...​อาจารย์เอารุ่นพี่มารุมอีก โอ๊ย อายโว้ย! พอเรามาเรียน ได้ดูคนไข้จริงๆ  เราก็ไม่เคยสนใจเลยนะ คนนี้นมใหญ่ นมเล็ก จู๋เค้าเป็นยังไง ฯลฯ อยากจะบอกอยู่หรอกว่าอย่าอายหมอเลย  เค้าหวังดี อยากเรียนรู้ อยากรักษา กันทั้งนั้น ...แต่ยังไงยังไง๊...​มันก็อายอยู่ดีเนอะ จากคุณ : Winki เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:23:11

ความคิดเห็นที่ 56 เข้าใจว่าโรงพยาบาลที่ จขกท ไป เป็นโรงเรียนแพทย์ด้วย ซึ่งถ้าไม่อยากให้ นศ มาตรวจ ก็สามารถบอกความต้องการได้ครับ  แต่ถ้าไม่บอก ก็ต้องเข้าใจว่า เป็นโรงเรียนแพทย์ ก็ต้องมีการเรียนรู้เกิดขึ้น จากคุณ : ToNtONz เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:38:20

ความคิดเห็นที่ 57 ต้องจำหน้าไว้ แล้วไล่เอาคืนให้หมด.. จากคุณ : ชายเขา เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 17:59:40

ความคิดเห็นที่ 58 นึกถึงตอนสมัยคบกะอดีตแฟนช่วงปับปี้เลิฟ (เรียนมหาลัยปี 2 เห็นจะได้) แฟนเค้าดันปวดท้องและถ่ายเป็นเลือด เลยต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลรัฐแถวอนุสาวรีย์ พยาบาลก็ให้ถอดช่วงล่างออก ละนอนตะแคงหันหน้าเข้าข้างฝา ยกสองขาคู้ขึ้น เพื่อจะได้สอดเครื่องมือเข้าช่องได้อย่างสะดวกโยธิน แฟนก็ทำตาม แต่นอนได้แป๊บเดียวมาเลยค่ะ เป็นคณะเลย นักศึกษาแพทย์ แถมผู้หญิงซะ 2 ใน 3 ด้วย 55555 พอดีเค้าเหลือบไปดูแว๊บนึง  อาจารย์มาถึงก็คุณคะๆ ขออนุญาตนะคะ  แล้วก็เอาไม้หรือแท่งอะไรซักอย่างมาเขี่ย ....ของเค้าที่แล่บออกไปด้านหลัง 55555 นึกแล้วก็ขำ ทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามานี่ไม่ได้อยู่ในห้องตรวจด้วยนะคะ พอดีเค้าออกมาละหน้าตาแบบอายมากก รีบรับยาแล้วกลับเลย ก็ออกมาเล่าให้ฟังข้างนอกรพ.อ่ะ  น่าสงสารเนาะ จากคุณ : เจ้าหญิงกิงก่องแก้ว เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 18:02:53

ความคิดเห็นที่ 59 เอ่อ..อ่านแล้วฮา แต่ก็ยิ่งไม่กล้าไปตรวจเข้าไปอีก แค่คิดว่าจะต้องมีหมอผู้ชายที่ไม่ใช่สามีมาจับๆ คลำๆ นี่ก็หนักแล้วนะ ยังจะนักศึกษาแพทย์เป็นกลุ่มอิ๊ก.....--* ตายๆ ไม่ไปดีกว่าๆ T^T จากคุณ : Lovely Creature เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 18:26:14

ความคิดเห็นที่ 60 เคยตรวจภายใน โดยอัลตราซาว์แบบสอด หมอให้นักเีรียนเข้ามาดูมากันตรึม อายก็อาย แต่ก็ช่างมัน ไปบ่นกับเพื่อนที่เป็นเทคนิคการแพทย์ เพื่อนก็ว่า อายทำไม เขาจำหน้าแกไม่ได้หรอก   แต่จำอย่างอื่นได้...อิ..อิ จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 19:57:32

ความคิดเห็นที่ 61 มีประสบการณ์เหมือนกัน   เพื่อนชวนไปทำหมัน รพ.รัฐ   บอกว่าสนิทกับหมอ  ทำแป๊บเดียวเสร็จ นัดล่วงหน้าไปพร้อมกันเลย พอไปถึง  ปิดตา  นอนนิ่งๆ รอรับชะตากรรม เสียงมาเลย  ทั้งชายหญิง จับของเรา  พลิกไปพลิกมา ดูล่างดูบน  ฉีดยา อธิบายกันอีก ท่องในใจ   หน้าหนาเข้าไว้... แต่ที่อายหนักสุด  ไปผ่าเนื้องอกในถุงน้ำดี   รพ.เอกชน สภาพร่างกายแข็งแรงปกติ พยาบาลสาวสวย  มาโกน  มือนุ่มมาก ไม่อยากพูด  มันสู้มือน้องเค้า  แทบแทรกแผ่นดินหนี มันควบคุมไม่ได้   สวดมนต์ก็แล้ว ไม่ยอมยุบ พอผ่าเสร็จ  น้องเค้ามากับเพือนตามหมอมา แอบได้ยินเสียงกระซิบกระซาบ  คิกๆๆๆ เลิกไปเหยียบโรงพยาบาลนั้นอีกเลย ผู้ชายก็อายเป็นนะครับ จากคุณ : พ่อปั้นหยา เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 20:34:56

ความคิดเห็นที่ 62 แหมเป็นอิชั้นหน่อยไม่ได้ จะถามอย่างเกรงใจเลยว่า คุณหมอคะ  มีอีกไหม๊   ล้อพอขำๆนะคะ   ตอนนี้คุณได้เป็นอาจารย์หมอแล้วค่ะ จากคุณ : Boon MM เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 21:19:40

ความคิดเห็นที่ 63 สมัยก่อนเมื่อผมยังเป็นเด็ก ตอนทำฟันครับน่ากลัวมาก น่ากลัวเพราะมีคนมาดูฟันผม 10 คน ผมเลยกลัว 5555 ทำฟันไม่เจ็บครับแต่คิดว่าตัวเองเป็นอะไรมากไหมถึงได้รุมกันขนาดนี้ จากคุณ : TAN2527 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 21:59:51

ความคิดเห็นที่ 64 จขกท เล่าเอาแค่ขำๆกันใช่ไหม ไม่มีร็อกเหตุการณ์แบบที่เล่ามาน่ะ ขอเอาหัวเป็นประกัน การเรียนการสอนนักศึกษาแพทย์น่ะ คนจะเป็นครูได้น่ะ ต้องเข้าอบรมแพทยศาสตร์ศึกษามาก่อนทุกคน ไมใช่สักแต่เป็นหมอก็มาสอนได้ การสอนนักศึกษาแพทย์โดยใช้ผู้ป่วยจริง ครูต้องเลือก ไม่เลือกเอาเด็กสาวๆมาให้นศพ.ตรวจร็อก ก่อนที่จะให้นศพ.ตรวจ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ป่วยก่อน ผู้ป่วยหนึ่งคน จะได้รับการตรวจจากนศพ.เพียง 1 คน โดยเฉพาะการตรวจเต้านม ตรวจภายในและตรวจทางทวารหนัก การตรวจเต้านม และตรวจภายใน นศพ ต้องหัดตรวจกับหุ่นก่อนจนคล่อง จึงจะได้ไปตรวจผู้ป่วยจริง ไม่มีเหตุการณ์อย่างที่ จขกท เล่ามาแน่นอน เล่าเอาขำก็ช่วยมาบอกด้วย แบบนี้วงการแพทยศาสตร์ศึกษาเสียหายนะ เราไม่ขำด้วยสักนิด จากคุณ : OG เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 22:12:56 A:171.99.152.108 X: TicketID:324242

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่คิดอะไรกันหรอก กลัวอาจารย์หันมาถามมากกว่าว่าเคสนี้เป็นอะไร 5555 จากคุณ : เพราะคุณคนเดียว เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 22:24:15

ความคิดเห็นที่ 66 แอร๊ยยย  คห 61 คะ ถ้าสามีเราจะไปผ่าตัด แล้วต้องโกน เราจะบอกหมอได้มั๊ยว่า อิชั้นขอโกนและสครับให้เองค่ะ อิชั้นโกนขนทำแผลน้องหมาน้องแมวบ่อย .... มันน่าจะคล้ายๆ กัน จากคุณ : เด็กหญิงจริงใจ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 22:39:44

ความคิดเห็นที่ 67 จริงไม่จริงไม่รู้ แต่ตอนเป็นไข้เลือดออกเฉยๆ เช้ามานั่งๆ นอนๆ หมอเข้ามาตรวจก็มีนักศึกษาแพทย์หนุ่ม 3 คน (หน้าตาดีมาก) เดินตามมาด้วยนะคะ ตอนนั้นเราอยู่ ม. 2 อยู่ในห้องพิเศษคนเดียวด้วย...........(ไม่ได้เป็นเคสติดเรทเหมือนคนอื่นๆ นะ แหะๆ) จากคุณ : primaverapeace เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 22:47:18

ความคิดเห็นที่ 68 ทำใจอย่างเดียวเลยครับ ย่างกรายเข้าไปในโรงเรียนแพทย์ ทุกพวกเค้ากำลังจ้องคุณอยู่ นศ.แพทย์ไงครับ รอจับนม 5555 เออไม่ใช่  รอตรวจ นะครับ อย่างน้อยๆ จขกท ก็ได้เป็นครูไปโดยปริยายนะครับ อนุโมทนา อิอิ จากคุณ : zhoU_POP เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 23:33:22

ความคิดเห็นที่ 69 เคยเจอครั้งนึง เราปวดท้องเขาโรงบาลรัฐ ก่อนหน้าที่เราจะเข้าโรงบาล เราเคยไปผ่าไส้ติ่งมาก่อนที่สมิติเวช แล้วที่นั่นก็ใช้วิธีส่องกล้องผ่าแล้วเอาคลิปหนีบ พอx-rayก็จะเห็นอะไรบางอย่างหนีบตรงไส้ติ่งน่ะค่ะ เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน แต่เหมือนหมอเค้าจงใจทิ้งไว้นะ ปรากฎว่า หมอกับนศ.มารุมดูฟิล์ม ยืมล้อมเตียงเราเป็นกลุ่มใหญ่เลย คุยกันแบบ เอ๊ วิธีผ่าไส้ติ่งแบบนี้ไม่ค่อยเจอ เอ้า เข้ามาดูเป็นกรณีศึกษากันนะ แต่เราไม่ได้คิดมากนะที่เค้าเข้ามารุมๆ ถ้าเรามีประโยชน์ก็โอเค แค่รู้สึกตื่นๆแปลกๆยังไงไม่รู้ ฮ่าๆ แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 02:30:00 จากคุณ : คานเหล็กกล้าทาแล็กเกอร์ เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 02:28:48

ความคิดเห็นที่ 70 เราเคยค่ะ ไปตรวจภายใน ก็ตรวจจิ๊มิ๊นั่นแหละ ตอนนั่งเล่าอาการให้หมอฟังอยู่ พวกนศ แพทย์ชายมายืนออกันเต็มไปหมด เราก็หน้าแดงแล้ว แดงอีก คุณหมอก็อธิบายไป หนุ่มๆเค้าก็จดไปยิกๆ แล้วก็จ้องหน้าเราไปด้วย โคดอายเรยค่ะ แต่ดูท่าทางนศ กลุ่มนั้นน่าจะอายกว่าเราอีก พอเราสบตา เค้าก็หลบตาเราแล้วหน้าแดงๆด้วย แต่ก็ยังวางมาดขรึม อิอิ เรางี้กลั้นหัวเราะแทบไม่อยู่ จากคุณ : แพรไชน่าทาวน์ เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 03:46:39

ความคิดเห็นที่ 71 เคยไปขูดหินปูนที่คณะทันตแพทย์ ใน รพ.รัฐ แห่งหนึ่ง เจออาจารย์หมอมาตรวจเยี่ยม นศ. พอดี ก็เลยใช้ฟันเราเป็น case study นศ. ประมาณ 5-6 คน มารุมดูฟัน ไอ้เราเขินก็เขิน เมื่อยปากก็เมื่อย อาจารย์หมอให้อ้าปากค้างไว้ แล้วใช้ pointer (เหมือนเสาอากาศหนวดกุ้ง ขนาดประมาณ ครึ่งฟุต) ชี้ไปตามฟันซี่ต่างๆ แล้วก็ตั้งคำถามให้ นศ. ตอบ กว่าจะ discuss กันเสร็จก็นานพอสมควร ปากแทบจะเป็นตะคริว ตั้งแต่นั้นมาเข็ด ไม่ไปทำฟันที่นั่นอีกเลย จากคุณ : samunchon เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 04:11:42

ความคิดเห็นที่ 72 นานมาแล้วเคยไปตรวจภายในค่ะ  ตอนกำลังอยู่บนขาหยั่ง มีพยาบาลมาถามก่อนนะคะว่าจะขออนุญาต ให้ นศพ. มาดูด้วยได้มั๊ย เป็นวิทยาทาน แล้วก็จะปิดตาให้ด้วย  ไอ้เราก็โอเค เป็นวิทยาทานนี่มา ทีนี้มากันเป็นสิบเลยค่ะ  (เอ่อ คิดผิดหรือเปล่านี่เรา) อาจารย์หมอก็อธิบาย *+*++** แล้วก็ล้วง อธิบาย  *+ *+ *+ แล้วก็ให้ นศพ.ทั้งหลายเปลี่ยนกันล้วง ....ทุกคน.. อายมากกกก  ส่วนใหญ่นศพ.ผู้หญิงมือหนักจังทำให้เจ็บมาก แต่ นศพ.ชาย  มือเบาทะนุถนอม  สงสัยเค้าคงเกรงใจด้วยมั้ง มาถึงตอนนี้เวลาไปตรวจภายใน  ไปคลีนิคหมอผู้หญิงอย่างเดียวเลย ^^ จากคุณ : พี่น้องผองเพื่อน เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 09:34:29

ความคิดเห็นที่ 73 หลังปีใหม่ไปตรวจภายในมาค่ะ อายมากๆเพราะที่นี่เค้าไม่ได้เป็นชุดผ้าที่มีสายคาดรัดเอวเหมือนเมืองไทย เค้าเป็นชุดกระดาษไขบางๆ ซึ่งมันปิดชั้นบนไม่อยู่เพราะไม่รู้จะไปหาเทปมาปิดได้จากที่ไหน -.-* โชคดีค่ะที่หมอเป็นผู้หญิงแล้วก็มีพยาบาลผู้หญิงอีกคนเท่านั้น ไม่งั้นมันเหมือนไปนอนถ่ายนู้ดเลย ^^ จากคุณ : Gwan เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 10:39:08

ความคิดเห็นที่ 74 เคยโดนเหมือนกันสมัยปีสอง กะลังเอ๊าะๆเลย ไปผ่าซีสต์ที่เต้านมที่พระมงกุฏ หมอเป็นอาจารย์ชื่อดังมาก เพื่อนพ่อเราเป็นนายเค้า เลยขอให้เค้ามาผ่าเรา ตอนจะผ่า พี่แกให้นศแพทย์เป็นคนผ่า ไม่ได้ผ่าเองนะ ในห้องเต็มไปด้วยนศแพทย์หนุ่มๆ คิดดูสิว่าเด็กสาวๆมันจะอายขนาดไหน เรากำมือแน่นแบบไม่รู้ตัวเลยนะ มันทั้งอายทั้งเจ็บ แต่มีนศแพทย์คนนึงมากุมมือเราไว้ด้วย เค้าคงสงสารมากอ่ะ คิดแล้วยังแค้น ไปเล่าให้พ่อฟัง พ่อยังฉุนเลย อะไรวะเอาหนุ่มๆมาดูนมลูกตรู แถมคุณหมอยังนั่งนินทาหมอคนนู้นคนนี้ตลอดเวลาการผ่าตัดเลยนะ ไม่เห็นจะสอนอะไรเท่าไรเลย ดีที่พี่คนที่ทำการผ่าเค้าไม่ค่อยนินทาไปกะแกด้วย ลืมเล่าว่าตอนไปตรวจ อยู่ดีๆแกก็พูดว่า แม่เนี่ยออกไปได้แล้ว เราก็ไม่คิดว่าพูดกะเรา พยาบาลยังถามเลยว่า หนูเหรอคะ เค้าก็ย้ำว่า ไม่ใช่!!!  แม่เนี่ย (แล้วบุ้ยหน้ามาทางเรา) โห พูดกะคนไข้ได้น่ารักมากกกกกก เกลียดหมอคนนั้นมาจนปัจจุบัน นี่ถ้าไม่ติดว่ามีลูกนะ เราเชื่อแน่ๆว่าแกเป็นตุ๊ด ปากจัดโคดๆ จากคุณ : ปลาคังผัดคึ่นไช่ เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:14:16

ความคิดเห็นที่ 75 ขนาดคนป่วยเอามาเล่า ..ยังมีฮา มีเพื่อนเป็นหมอมาเล่า.........มิฮากว่าหรือ ปล. ฟังเพื่อนหมอคุยกันแล้ว...รู้งี้เรียนหมอดีกว่า (โรคจิตชัดๆ) จากคุณ : เบิ้มจัง เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:50:22

ความคิดเห็นที่ 76 เคยโดนเหมือนกันค่ะ สมัยมหาวิทยาลัย ตัดเล็บเท้าไม่ดี เลยกลายเป็นเล็บขบที่นิ้วโป้ง (2ข้างเลย -*-) พอไปหาหมอ ทำใจละว่าต้องถอดเล็บ แต่กว่าจะถอดได้ หมอเรียกนักศึกษาแพทย์มาดูเป็น case study อย่างอาย -*- เขินเท้าตัวเองขึ้นมาทันที แล้วประเด็นคือมีเพื่อนอยู่ในกลุ่มนักศึกษาแพทย์นั้นด้วย เจอหน้าทีไร พี่แกล้อตล๊อด อุตส่าห์ผิดคนอื่นไว้ เจอพี่แกล้อซะคนอื่นรู้หมดเลย ตูอายเป็นนะเฟ้ย!!! จากคุณ : Pimmony เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:58:59

ความคิดเห็นที่ 77 เห็นภาพหนัง AV ลอยออกมาจากกระทู้เลยครับ ^^" ยังไงก็ดีใจด้วยนะครับที่ จขกท. ไม่ได้เป็นมะเร็ง และ ได้เป็นอาจารย์เล็ก (ถ้าไร้วิญญาณก็เป็นอาจารย์ใหญ่) แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 13:44:11 จากคุณ : Are Yoi เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 13:43:53

ความคิดเห็นที่ 78 #คห.61   ดีนะที่แค่สู้ ไม่อ้วกใส่น้องพยาบาลเค้า จากคุณ : minkexotic เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 18:38:27

ความคิดเห็นที่ 79 เพื่อการศึกษาเข้าใจค่ะ แต่เป็นเรา เราไม่ยอมค่ะ ถ้าขอล่วงหน้าแล้วเป็นนักศึกษาหญิงเรายอมค่ะ แต่เป็นผู้ชายก็ไม่ยอมอยู่ดี ถ้าเจอแบบ เซอร์ไพรส์ เราคงไม่ยอมแน่ๆๆ ยังไงๆ ก็ไม่ได้ -*- จากคุณ : เหมียวอ้วนนึ่งมะนาว เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 19:47:37

ความคิดเห็นที่ 80 สมัยเป็นนักศึกษาพยบ เคยไปผ่านที่ห้องตรวจภายใน เจอคนไข้ผญ มาตรวจ แต่ขณะที่กำลังขึ้นขาหยั่ง ก็มี นศพ พร้อมอาจารย์หมอ กรูกันมาเป็น10 จิงๆนะ คนไข้ตกใจมากตัวสั่นเลย ไม่ยอมให้ตรวจท่าเดียว หมอเลยกรูกันออกไป แต่เจ้าหน้าที่ตรงนั้นอะ เป็นผู้ช่วย จายร้ายมาก มาว่าคนไข้ใหญ่เลยอะ เราทำได้แค่กุมมือเค้าไว้แล้วบอกไม่เป็นไร เค้าไม่ให้นศพมาแล้ว พี่แกร้องไห้เลยนะ ตั้งแต่นั้นมา จำจนตายเลยอะ บอกกับตัวเองด้วยว่า ถ้าชั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตรงนั้นจะไม่ทำตัวแย่ๆอย่างพี่คนนี้เลย สงสารคนไข้คนนั้นมาก ตอนนี้ขนาดเป็นพยบ แล้วตอนนี้ บอกตรงๆยังไม่กล้าตรวจที่ รพ.ตัวเองเลย กลัวเจอคนรู้จัก 555 ( ซึ่งก็เยอะซะด้วยดิ 555 ) จากคุณ : คนธรรมดาคนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 20:25:22

ความคิดเห็นที่ 81 แอบเนียนถาม ปกติแล้วก่อนที่แพทย์จะอนุญาตให้นักศึกษาแพทย์มารุมดูคนไข้ แพทย์จะขอคนไข้ก่อนหรือเปล่าคะ หรือว่าพากันเดินดุ่มๆเข้ามาเมียงมองกันเลย? สงสัยมานานแล้วนะคะ จากคุณ : เสียงจากบ้านนา เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 20:59:53

ความคิดเห็นที่ 82 ก็นาน ๆ จะมีคนไข้ อาการแบบนี้ แบบนั้นมา ถ้า อ.หมอขออนุญาตคนไข้ แล้วคนไข้ปฏิเสธ นศพ. ก็ไม่ได้เรียนรู้กรณีแบบนี้ไป เสียดายแย่นะครับ จริง ๆ อ.หมอ และ นศพ. เขาไม่ได้สนใจจะดู หน้าอก จิมิ ปิกาจู แต่สนใจว่าจะต้องรักษาแบบไหนมากกว่า อายตอน อ.หมอ และ นศพ.ตรวจ แต่หลังจากตรวจเสร็จ... กลายเป็นเรื่องคุยกับเพื่อน ๆ สนุกสนานกันที่เดียว หมดอายกันเลย 55++ จากคุณ : ออนไลน์ 24 ชั่วโมง เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 21:04:04

ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อสมัยเป็นเด็กประถม ผมมีอาการเส้นเลือดขอดที่ถุงอัณฑะ ที่รู้เพราะสังเกตเองว่าทำไมมันดูใหญ่ผิดปกติ แม่ก็พาไปหาหมอจนวินิจฉัยได้ว่าเป็นอะไร (ตอนแรกนึกว่าไส้เลื่อน) แน่นอนว่าผมโดนพาตัวขึ้นเขียงผ่าตัด เป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ด้วยความเป็นเด็ก (มั้ง) เลยไม่ค่อยคิดอะไรเท่าไหร่ ก็เดินตามคุณหมอผู้หญิงไปที่ห้องผ่าตัด (โรงพยาบาลรัฐแน่นอน) พอเดินเข้าไปก็เห็นเตียงอยู่ทางขวา ส่วนทางซ้ายมีคนเต็ม หมอท่านหนึ่งกำลังพูดอธิบายโน่นนี่ให้หมอหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็แน่นอนนักศึกษาแพทย์ ผมเลยกลายเป็นเคสศึกษาให้บรรดานักศึกษาแพทย์ไปเลย ^ ^ แต่มันไม่อายเพราะเป็นเด็ก ที่กลัวก็แค่ตูจะเป็นหมันไม่เนี่ย แต่หมอบอกแม่ว่าไม่ต้องห่วงครับ ไม่เป็นแน่นอน ฮ่า ๆ จากคุณ : Mr.Learning เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 21:35:54

ความคิดเห็นที่ 84 เอิ่มม.. . เขาน่าจะขออนุญาตก่อนนะคะ  ทำแบบนี้ก็แย่สิ T^T จากคุณ : Nattyam เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 21:55:31

ความคิดเห็นที่ 85 คุณจขกท. เล่าซะน่ารักไปเลย เดินผ่านนักเรียนแพทย์พวกนี้บ่อยๆ ไว้จะตะโกนบอกให้ จากคุณ : bogie gang เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 22:20:54

ความคิดเห็นที่ 86 อ่านแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเลย ถึงจะเป็นหมอก็เถอะ  ผู้ชายหลายๆคนมารุมกันจับนมดูยังไงไม่รู้  เหมือนโดนล่วงละเมิดทางเพศ เป็นเราไม่ยอมเด็ดขาด  ถ้าคุณ จขกท สูงวัยแล้วก็ว่าไปอย่าง แต่เท่าที่อ่านคงจะยังเป็นสาวอยู่ คงจะเขินอายไม่น้อย จากคุณ : สวยแล้วหยิ่งที่จริงไม่ผิด เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 22:32:43

ความคิดเห็นที่ 87 นึกถึงพี่เราเลย สาวโสด เป็นริดสีดวง แค่ไปหาหมอก็อายจะแย่อยู่แล้ว ไปถึงก็โก้งโค้งให้หมอตรวจๆอยู่ เอ้า นศพ.เข้ามาเต็มเลย ส่องดู อู้หูอู้หา ศึกษากันใหญ่ โดยพี่เราก็โก้งโค้งเปิดตูดโชว์ริดสีดวงอยู่อย่างนั้น แกบอก 10นาทีนี่ยาวนานเหมือนเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว กรั่กๆ จากคุณ : กลมกลิ้งกะลุกกุ๊ก เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 23:12:55

ความคิดเห็นที่ 88 อ่านกระทู้แล้วนึกถึงเรื่องของตัวเอง ตอนที่ดิชั้นอายุสิบหก รู้สึกมีก้อนผิดปกติที่หน้าอก ปล่อยไว้นาน เพราะนึกว่าเป็นไตหัวนม และไม่กล้าปรึกษาใครเลย อาย แต่มันโตขึ้นทุกวัน เลยต้องบอกแม่ให้พาไปหาหมอ สุดท้ายก็ต้องผ่าซีสย์ออกและต้องดูชิ้นเนื้ออีกทีหนึ่ง ตอนนั้นกลัวเป็นมะเร็งมาก กลัวได้ตัดนมตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนตรวจ ก็ตรวจกับหมอ ไม่มีนักศึกษาแพทย์มาศึกษาด้วย หลังผ่าตัด ก็นอนพักฟื้น ที่นี้แหละ อาจาร์ยหมอ กับกลุ่มนศพผู้ชาย มาตรวจแผล ต้องเปิดนมให้ดูแบบ 3D พวกเขาก็พูดจาภาษาหมอ พออาจาร์ยเดินออกไป นักศึกษาแพทย์คนหนึ่งถามเราว่า" น้องๆ น้องเป็นคนเชียงใหม่ใช่ไหม? "ดิชั้นงง และ บอกว่า "ใช่ !" เขาเลยหันหน้าไปบอกเพื่อนสองสามคนว่า "เห็นไหม กรูทายถูก ว่าหน้าอย่างนี้ คนเชียงใหม่แน่นอน " ดิชั้นเลยถามไปว่า ไปเห็นหน้าดิชั้นมาก่อนตรงไหนหรือค่ะ พี่แกบอกว่า ก็ตอนผ่าตัด พวกพี่ทายกันว่า หนูเป็นคนจังหวัดอะไร? (ในห้องผ่าตัดสลบเหมือดค่ะ) อ้าว!!นึกว่าผ่าตัดจะเห็นแค่นม นี่เห็นหน้าเราด้วยเรอะ จำได้คร่าวๆ ว่าปิดหน้าแล้วนะ เฮ้อ จำหน้าจำนมเราได้เป็นกลุ่ม เหอๆๆ ..แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่า ดิชั้นหาย ไม่เป็นมะเร็ง เรื่องอายเป็นเรื่องเล็กไปเลย (( รพ.ที่ไปรักษาเป็นรพ.ที่มีคนหลายๆจังหวัด จำนวนมากๆ ไปรักษาค่ะ)) จากคุณ : ลูกชุปมะนาว เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 03:23:37 A:62.168.0.15 X: TicketID:255237

ความคิดเห็นที่ 89 ห่างหายจากห้องนี้ไปนาน เรื่องหมอๆ กะคนไข้ ก้อต้องห้องนี่สิเนอะ.... ของเราตรวจกับ รพ. นี้มาหลายโรคมาก เพราะฉะนั้นจะคุ้นเคยกับอาจารย์หมอกับเดอะแก๊งค์หัวเกรียน 5555 เช้าๆ นี่ต้องลุกตั้งแต่ีตีห้า เพื่ออาบน้ำ ทาแป้งรอหมอมาตรวจ พูดๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก้อหายวับไปแบบนินจา พร้อมกับเสียงอื้ออึงลอยไปกับสายลม คือ ถ้าจะถามอาการต้องบันทึกในสมอง แล้วรีบถาม ไอ้เคสมะเร็งที่แขนยังพอทำเนา แต่ตอนปอดรั่วนี่ มีอาจารย์หมอผู้หญิงมากับ นศษ. กว่าสิบคน "ขอเปิดเสื้อ เพื่อให้น้องๆ นศษ. ได้ศึกษาเคสหน่อยนะคะ" โอวววว ผู้ชายทั้งนั้น จะใ้ห้ปฏิเสธอย่างไรได้.... "ไม่ต้องกลัวค่ะ อนาคตหมอทั้งนั้น" ไม่ได้กลัว อายเฟ้ยยยย พอเปิดเสื้อ คุณหมอก้อเคาะๆ ตรงหน้าอกพร้อมกับฟังเสียงในปอด แล้วน้องๆ ก้อมาฟังเสียงกันทีละคน ทีละคน ทีละคน ครบสิบ เห้อ...โล่งอก....แค่ฟังเสียง ปิดเสื้อก้อได้นี่นา ไม่เห็นต้องเปิดเลยอ่า... โอ๊ะ แม่เจ้า...มาอีกชุด เป็นสิบ...เอาเครื่องมือมาฟังเสียงทีละคนๆๆๆ เห้อ...หมดสักที.... โอ๊ย.....มาอีกชุดที่สาม.....เอาว่ะ เห็นไปยี่สิบกว่าคน อีกสักสิบจะเป็นไรไป ชิส์ส์ สรุปวันนั้นสามสิบชีวิตมาฟังเสียงปอดอิชั้นในการหายใจ....บร่ะเจ้า.... นี่ถ้าเป็นจิ๊มิ๊...สงสัยโดนทะลวงด้วยนิ้ว น้ำตาเล็ดแน่.... จากคุณ : ผู้หญิงราศีพิจิก เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 03:48:32

ความคิดเห็นที่ 90 ฟังหลายๆคนเล่าแล้ว ดูเหมือนว่า ความเห็น #64 จะเป็นทาง "ทฤษฏี" มากกว่าทาง "ปฏิบัติ" นะ ข้อกำหนดวางไว้อย่างหนึ่ง แต่เวลาทำจริง เป็นอีกอย่างหนึ่ง จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 05:21:26

ความคิดเห็นที่ 91 คุณความเห็นที่ 64 น่าจะตกยุกต์ไปแล้ว เดี๋ยวนี้ทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะจำนวน นศ แพทย์มีมากกว่าแต่ก่อนมากๆ ไม่มีเวลาและ case พอที่จะทำแบบคุณว่าหรอก จากคุณ : Sage เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 08:27:10 A:1.20.1.129 X: TicketID:164502

ความคิดเห็นที่ 92 อยากจะบอกว่านักเรียนแพทย์ หรือ แม้กระทั่งแพทย์เองก็ตาม เวลาตรวจ ลูบ คลำ คนไข้ ไม่ว่าจะภายในหรือภายนอก ไม่มีใครคิดไปในทางไม่ดีหรอกค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะมองเป็นสิ่งของทั่วไปอย่างนึง ที่ต้องทำการศึกษาและเรียนรู้ เพื่อที่จะนำมารักษาคนไข้ให้ถูกต้องต่อไป การเรียนโดยทฤษฎีเพียงเดียว หรือดูรูปเพียงอย่างเดียว เวลาจบออกไปจะรักษาคนไข้จริงๆได้ยังไงล่ะ มันก็ต้องมีตัวอย่างร่างกายคนจริงๆที่ปกติให้ศึกษา และตัวอย่างที่ผิดปกติให้ศึกษาด้วย ประสบการณ์การเห็น การสัมผัสยิ่งมากเท่าไหร่ การรักษาคนไข้ให้ได้ผลดีก็มีมากเท่านั้น (ยิ่งเก่งขึ้น) เข้าใจทุกๆคนว่าอาจจะอายหรือรู้สึกไม่ดีที่มีใครก็ไม่รู้มาจ้อง สัมผัสเรา โดยเฉพาะตรงอวัยวะที่เป็นส่วนตัว แต่อยากให้เข้าใจว่าคุณได้ทำประโยชน์ให้แก่คนหลายๆคนนะคะ การมารับการรักษาในโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ ต้องเจอแบบนี้เกือบจะ100%ค่ะ ถ้าไม่อยากเจอก็อาจจะหลีกเลี่ยงไปโรงพยาบาลอื่น หรือว่าถ้าจำเป็นจริงๆก็บอกอาจารย์หมอหรือพยาบาล ไว้ล่วงหน้าไว้ได้เลยว่า ขอไม่ให้มีนักเรียนแพทย์มาดู สิทธิผู้ป่วยสำคัญเป็นอันดับหนึ่งค่ะ ย้ำอีกทีนึงว่า ไม่มีนักเรียนแพทย์ที่ปกติคนไหนหรอกมั้ง ที่จ้องจะคอยจับหน้าอก คลำหน้าอกคนไข้เพื่อความสุขส่วนตัว จากคุณ : ไข่หวานรสchoco เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 08:39:12

ความคิดเห็นที่ 93 เอาน่าไม่บุบไม่สลาย มีเรื่องเม้าส์ไปตลอด จากคุณ : popyim เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 09:17:37

ความคิดเห็นที่ 94 เข้ามาอ่านอยู่บ่อยๆ ไม่มีหมอเข้ามาชี้แจงเท่าไรเลย ปล่อยให้เม้าท์กันเมามัน ขอสิทธิ์พาดพิงหน่อยนะ คุณความเห็น 91 ถ้าคุณเป็นแพทย์เราขอบอกว่าเราเสียใจมาก ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป การเรียนการสอนที่เรานำมาชี้แจงให้รู้กันในความเห็น 64 นั้น เป็นการเรียนการสอนแพทยศาสตร์ในปัจจุบัน ที่ จขกท เล่ามานั้นมันแบบหลังเขา โรงเรียนแพทย์ดีๆเขาไม่ทำกันแล้ว ปัจจุบันศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ และสิทธิผู้ป่วยเป็นสิ่งที่บุคลากรด้านสุขภาพต้องยึดเป็นหลักปฏิบัติ ไม่ใช่เฉพาะแพทย์เท่านั้น รวมไปถึงพยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกระดับในโรงพยาบาล แม้กระทั่งเวรเปลและคนทำความสะอาด อาจจะมีหลุดๆอยู่บ้างด้วยสันดารของแต่ละบุคคล ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะปรากฏออกมาจากคำร้องเรียนเพื่อทางรพ.จะต้องนำไปปรับปรุง มองด้านดีที่มีอยู่เยอะแยะของเรา แล้วเอามาบอกเล่ากันบ้าง อย่าสนุกแต่กับด้านลบที่เกิดจากคนไม่กี่คนกันนักเลย จากคุณ : OG เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 11:08:39 A:171.99.152.108 X: TicketID:324242

ความคิดเห็นที่ 95 ยังไม่หมดกับความเห็น 91 ที่คุณว่านศพ. มากขึ้น เวลาน้อยลง ไม่มีทางมาตรวจผู้ป่วยตามที่เราว่าได้หร็อก( ผป. 1 คน ต่อนศพ 1-2 คน เท่านั้น) การแก้ปัญหาจำนวนผป. ไม่พอกับจำนวนนศพ. เขาแก้โดยจัดหาสถาบันสมทบ เพื่อให้นศพ. ได้ไปเรียนและฝึก โดยอาจารย์ของสถาบันหลักตามไปสอนเอง หรือให้สถาบันสมทบเป็นผู้สอน แล้วแต่จะตกลงกัน อาจารย์ในสถาบันที่ตกลงเป็นสถาบันสมทบ ต้องเข้าอบรมแพทยศาสตร์ศึกษาด้วย จึงจะเป็นอาจารย์สอนได้ ไม่ใช้วิธี " รุม " ตรวจค่ะ รร.แพทย์แก้ปัญหาอย่างมีศิลปะค่ะ จากคุณ : OG เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 12:06:55 A:171.99.152.108 X: TicketID:324242

ความคิดเห็นที่ 96 ป้า OG เครียดจัง จากคุณ : ขุนกระบี่ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 12:46:51

ความคิดเห็นที่ 97 หลงเข้ามาอ่าน พออ่านจบเห็น log in ถึงรู้ว่าเพื่อนฉ้านนนนน อ่านแล้วฮาอะเธอ จากคุณ : i_am_fah เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 15:55:55

ความคิดเห็นที่ 98 ความเห็นส่วนตัวนะครับ โรงเรียนเเพทย์ คือสถานที่ฝึกสอนแพทย์ครับ ไม่ว่าที่ไหนก็ตามที่เป็นโรงเรียนแพทย์ เมื่อคุณเข้าไปตรวจ มีโอกาสที่จะได้เป็นอาจารย์ ให้นักศึกษาแพทย์ได้เรียนรู้ครับ ดังนั้นถ้าอยากไปตรวจกับอาจารย์หมอ ก็ต้องรู้ข้อมูลส่วนนี้ด้วยครับ และถ้าไม่อยากให้นักศึกษาเเพทย์ตรวจด้วย สามารถปฏิเสธได้ครับ แต่ควรบอกตั้งแต่รอตรวจครับ เจ้าหน้าที่จะได้จัดคิวสำหรับให้แพทย์ที่ไม่ได้สอนวันนั้นตรวจให้ เพราะตอนนี้ปัญหาแพทย์ขาดแคลนมีมากแม้แต่อาจารย์แพทย์ก็ขาดเหมือนกันครับ ตอนที่ผมเป็นนักศึกษาแพทย์ บางแผนกอาจารย์แพทย์ 1 คน ต้องดูแลนักศึกษาแพทย์ 10-12 คนครับ และการที่เป็นโรงเรียนแพทย์ การที่อาจารย์ที่ดูแลนักศึกษาแพทย์อยู่ในวันนั้น จะตรวจคนไข้ได้หลายๆ คนเป็นไปได้ยากครับ เพราะต้องตรวจไปด้วย สอนนักศึกษาเเพทย์ไปด้วย ดังนั้นบางวัน อาจารย์ที่ต้องดูแลนักศึกษาแพทย์อยู่อาจจะตรวจคนไข้ได้แค่ 3-4 คน ซึ่งถ้ามองในอีกเเง่หนึ่ง คุณคือคนที่มีโอกาสได้ตรวจกับอาจารย์แพทย์ที่เก่งพอจะดูแลนักศึกษาเเพทย์ได้หลายๆ คนนะครับ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกก็คือ บางครั้งการที่คุณอุทิศตนเป็นอาจารย์ให้นักศึกษาแพทย์ อาจจะได้ สิทธิบางอย่าง เช่น การได้ตรวจกับอาจารย์เเพทย์เก่งๆ เหมือนที่บอกไป หรือได้ตรวจก่อนทั้งที่คิวตรวจคุณอาจจะอยู่ท้ายๆ อันนี้ที่ผมเจอนะครับ ถือว่าเป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้กับผู้ที่มีพระคุณให้เราได้เรียนรู้ครับ ในส่วนประเด็นที่พูดถึงกันว่า แพทย์หรือนักศึกษาเเพทย์ดูอวัยวะคนไข้เป็นเรื่องสนุกหรือลามกนั้น โดยส่วนตัวเองตอนเป็นนักศึกษาเเพทย์ เวลาจะตรวจ คนไข้ 1 คน นั้น ต้องทำการบ้านมาตอบอาจารย์มากมายครับ เครียดตั้งแต่ก่อนตรวจ เเละเมื่อคนไข้ออกจากห้องตรวจไป เรายังต้องตอบคำถามอาจารย์ ซึ่งค่อนข้างเครียดมากครับ อาจารย์ท่านก็จริงจังมากทุกครั้ง ผมเองไม่เคยตลกกับเรื่องการตรวจคนไข้เลยครับ จริงจังทุกเคส เพราะกว่าจะได้ดูเคสตัวอย่างซักเคส มันยากมากครับ แม้ปัจจุบันจบมาเป็นหมอแล้ว เวลาตรวจภายในหรือตรวจเต้านมคนไข้ ผมก็ไม่ได้มองเป็นเรื่องลามกนะครับ เพราะเรากำลังทำงานของเราครับ มันมีคำว่าวิชาชีพอยู่ นอกจากนี้เวลาคนทุกใจมาหรือไม่สบายมาตรวจ เช่น ตรวจเต้านม เวลาผมตรวจขณะที่มือคลำนั้น ผมก็นึกกายวิภาคตอนเรียนผ่าอาจารย์ใหญ่ครับ เพื่อหาความผิดปกติ ไม่ได้มองว่า ภาพตรงหน้าเป็นภาพที่ดูลามกครับ ซึ่งผมเชื่อว่าแพทย์ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบผมครับ ยังไงในฐานะหมอก็ขอขอบคุณคนไข้ทุกคนที่ให้โอกาสผมได้เรียนรู้ตั้งแต่สมัย เรียน แม้กระทั่งจบมาทำงานครับ ถ้าไม่มีพวกคุณก็คงไม่มีหมอแบบผมในวันนี้ครับ จากคุณ : DoctorPeem เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 18:12:27

ความคิดเห็นที่ 99 ตอบคุณความเห็นที่ 30 ครับ การตรวจร่างกายคนไข้ทุกคนนะครับ ในทางการแพทย์ อวัยวะทุกอวัยวะที่เป็นคู่ ไม่ว่าจะเป็น ตา หู แขน ปอด เต้านม และอื่นๆ แพทย์ต้องตรวจทั้ง 2 ข้างครับ เพราะมีประโยชน์หลายอย่างครับ เช่น ไว้เปรียบเทียบความเเตกต่างระหว่าง 2 ข้าง หรือเพื่อหาความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับอีกข้างหนึ่งด้วย เป็นต้นครับ เวลาสอบ ถ้าแสดงการตรวจร่างกายเพียงข้างเดียวเนี่ย สอบตกกันเลยนะครับ ^^ ดังนั้น ยังไงก็ต้องตรวจทั้ง 2 ข้างครับ จะสังเกตุว่า เวลาหมอฟังปอดก็จะฟัง 2 ข้าง ตรวจหูก็มักจะตรวจทั้ง 2 ข้างครับ ส่วนในกรณีที่บางครั้ง ตรวจข้างเดียว ผมขอตอบสิ่งที่ผมเคยเจอนะครับ คือ อาจจะเนื่องจาก เห็นความปกติ ของอีกข้างหนึ้งชัดเจนเช่น ไม่เคืองตา ไม่ปวดตาขวาเลย มองจากภายนอกปกติ และคนไข้เยอะมาก ก็อาจแค่ตรวจด้วยการมองครับ หรือเต้านมบางครั้งคนไข้ปฏิเสธการตรวจอีกข้าง ผมก็ไม่ตรวจนะครับ แต่ยืนยันว่า การตรวจอวัยวะ ที่มี 2 ข้าง ต้องตรวจทั้งสองข้างเสมอครับตามหลักการและเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วย ส่วนชีวิตจริงอันนั้น จะมีปัจจัยอะไรที่ทำให้ตรวจได้ข้างเดียว ก็ว่ากันไปครับ ^^ ยังไงฝากบอกเพื่อนคุณความเห็นที่ 30 ด้วยนะครับ ^^ จากคุณ : DoctorPeem เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 18:27:21

ความคิดเห็นที่ 100 ให้ผู้ชายเลิกหื่นนี่ยากจริงๆ แต่ละคห.ข้างบน น่ากลัวมากๆ ขอบคุณจขกท.ที่มาบอกนะคะ ถ้าต้องไปตรวจ ขอหมอผู้หญิง นางพยาบาลอย่างเดียวโลดค่ะ ทำใจไม่ได้ จากคุณ : นางสาวคานทอง เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 19:07:33

ความคิดเห็นที่ 101 อีตาขุนกระบี่มาเรียกชั้นป้า เดี๋ยวเหอะ จากคุณ : OG เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 19:52:24 A:171.99.152.108 X: TicketID:324242

ความคิดเห็นที่ 102 เราตรวจ รพ รัฐหลายที่ ทั้งที่มหาลัย และไม่ใช่ จะโดนรุมดูเคสตลอดเลย ไม่ได้ขอก่อนด้วยจากประสบการณ์ส่วนตัวและคนรอบข้าง หมอไม่แจ้งล่วงหน้านะ คือมาถึงตัวแล้วค่อยบอกว่า ขอให้นศ.ดูเคสหน่อย ยังเคืองอยู่เลย แต่ก้ถือว่าได้บุญเนอะ บางทีก้เลยไม่อยากไปหาหมอ มันเหมือนเราเป็นโรคประหลาดอ่ะ มีครั้งนึง พบหมอผิวหนัง อาจารย์หมอให้นศพ. มาตรวจก่อนแล้วค่อยพบอาจารย์เพื่อดูว่าวิเคราะห์ตรงมั้ย เราก้ทำใจได้ นศพ คนเดียวเนอะ อ่ะเค แต่พอไปพบอาจารย์หมอ เพื่อสรุปการตรวจนั่นแหละ เรียกนศพ.ทั้งหมดในห้องมารุมดูเรา คือโรคเราไม่ร้ายแรงสำหรับเค้า เป็นอารมณ์ความสวยงาม เค้าก็พูดซะเรารู้สึกผิดที่ไปหาหมอเลยอ่ะ จำได้ประมาณว่า ดูสิ คนไข้อาจจะมาหาหมอด้วยอาการนี้ได้ อายก็อาย เคืองก้เคือง จากคุณ : เหมือนข้างบน เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 22:45:56

ความคิดเห็นที่ 103 -*- จากคุณ : หมู มาราธอน เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 23:32:34

ความคิดเห็นที่ 104 ปกติก็จะขออนุญาตก่อนนะครับ ถ้าคนไข้ปฏิเสธหรือดูหน้าตาท่าทางแล้วอึดอัดก็จะไม่ไปตรวจ แต่กรณีอย่าง จขกท. อาจารย์บอกให้ไปตรวจ ก็แสดงว่าอาจารย์น่าจะขออนุญาตแล้ว(มั้ง) แต่ยังไงไม่น่าถึงสิบคนอย่างที่ จขกท. เล่าหรอกครับ OPDโรงพยาบาลนั้น นศพ. ออกกับอาจารย์ครั้งละไม่เกิน3คน ยกเว้นว่าเป็นกรณีเคสพิเศษน่าสนใจ ที่อาจารย์จะพาไปดู แต่ก็ต้องมีการบอกกล่าวและขออนุญาตว่าจะมาตรวจหลายคน แต่มั่นใจได้เลยครับว่า นศพ. ไม่ได้คิดอะไรหรอก ตั้งใจตรวจจริงจังเพื่อเป็นแพทย์ที่ดีในอนาคต ที่ต่างประเทศ บางประเทศ นศพ. ห้ามแตะคนไข้เลย จนกว่าจะจบเป็นหมอ ก็ไม่รู้ว่าถ้าทำอย่างนั้นเพียงแค่ความรู้อย่างเดียวแต่ไม่ได้ฝึกจะสามารถวินิจฉัยโรคได้ดีแค่ไหน จากคุณ : Sir.ขงเบ้ง เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 01:00:47

ความคิดเห็นที่ 105 ได้ขออนุญาต จขกท. ก่อนมั้ยคะ ถ้าไม่ได้ขอ เป็นเรานี่คงโมโหมาก =_= ถึงจะบอกว่าเป็นการศึกษาก็เถอะ รับไม่ได้ TT TT จากคุณ : นู๋เป็นสาววาย เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 01:34:44

ความคิดเห็นที่ 106 เวลาฟังเสียงปอด ถ้าฟังผ่านเสื้อ สอบตกกันเลยทีเดียวครับ นักศึกษาแพทย์ ไม่มีเวลามาคิดเรื่องลามกแบบที่หลายๆ คห.ว่าหรอกนะ แค่จะหาคำตอบให้ทันอาจารย์ยิงคำถามก็ไม่ทันแล้วล่ะ เวลาตอบคำถามอาจารย์ไม่ได้นี่ โดนว่ายับเลยนะ มันเครียดจริงๆ จากคุณ : iHot เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 02:18:13

ความคิดเห็นที่ 107 ของผมโดนพยาบาลสาวสวย 2 คน รุมกันรูดครับ ตอนนั้นผมฉี่ไม่ออก พวกเธอก้เลยพากันรูดของผม จากนั้นก้เอาสายอะไรสักอย่างมาซุกตรงจู๋ผม จากนั้นก็ดูดเอาฉี่ออก ผมทั้งกลัว ทั้งเสียว ทั้งอาย บอกไม่ถูก **พยาบาลรูดจนของผมแข็งขึ้นมาด้วย T.T อายดี จากคุณ : อายกว่า เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 08:29:31 A:119.46.176.222 X: TicketID:344527

ความคิดเห็นที่ 108 อายแทน #61 เลยครับ สู้มือ 5555 :P จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 10:32:22

ความคิดเห็นที่ 109 เห็นด้วยกับคห.40      45            และ 46คะ             ขอขอบคุณผูตั้งกระทู้นี้ด้วยคะ       เห็นด้วยกับคห.105ด้วยคะ        อยู่ๆก็มาทำกันแบบนี้        น่าจะเรียกว่า ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนะ จากคุณ : แตงไทยสีฟ้า เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 17:36:25