 |
แปลว่า ไปวิ่งแล้วเทรนไม่ดี บาดเจ็บซ้ำซากแล้วดูแลตัวเองไม่ดี ถ้าเสื่อมแล้ว แล้วไปวิ่งแบบกล้ามเนื้อเทรนไม่ดี ก็มีแต่ทำให้เสื่อมเร็วขึ้น แต่ถ้ายังไม่เสื่อมแล้วไปวิ่ง วิ่งแบบดูแลร่างกายเป็น ฟื้นฟูเป็น ก็ไม่เสื่อม
เพราะงานวิจัยต่างประเทศ เขาก็พิสูจน์แล้วว่า วิ่งไม่ได้ทำให้เข่าเสื่อม มีแต่มวลกระดูกหนา และติดตามผลนักวิ่งมาราธอนก็ไม่พบคนข้อเข่าเสื่อม
ตปท เขาวิ่งกันตั้งแต่แข็งแรง เป็นกีฬายอดฮิต วิ่งกันก่อนเสื่อม หมอเขาก็เป็นหมอที่ออกกำลังกายกันเป็นทุนเดิม ให้ความรู้การดูแล ป้องกัน กันอย่างถูกต้อง นักวิ่งเขาถึงไม่เข่าเสื่อมไง แต่ก็ไม่รู้ทำไมเมืองไทย ยังมีความเข้าใจที่ผิดๆกันอยู่ หมอๆเองก็เถอะ ถ้าเป็นหมอแล้ววิ่งแล้วยังเสื่อมก็ไม่รู้ว่าศึกษาก่อนวิ่งดีหรือเปล่า หรือ เอาแต่วิ่ง จนลืมศึกษา
สมัยก่อน 20 กว่าปีที่แล้ว กรุงเทพฯพยายามจะบูมเรื่องการวิ่ง เริ่มการจัดงานวิ่ง สนับสนุนให้วิ่ง แต่ไม่มีการให้ความรู้ผู้วิ่งกันอย่างถูกต้อง คนแก่ๆ อายุเยอะๆ ก็วิ่งกันเป็นแถว แต่วิ่งแบบไม่ศึกษา ไม่มีใครให้ข้อมูลอย่างถูกต้องถึงการเทรนกล้ามเนื้อให้ดีๆก่อนไปวิ่ง สำหรับคนอายุเยอะ คนอายุเยอะก็ไปวิ่งกัน สรุปก็เข่าเสื่อมกันเป็นแถว แล้วก็เริ่มโทษการวิ่ง จนเป็นที่ปลูกฝังจนถึงคนรุ่นใหม่ ว่าวิ่งแล้วเข่าเสื่อม จนหมอหลายท่านที่ได้คุยกัน ไม่ว่าหมอที่เป็นญาติ ก็ยังมีความเชื่อเรื่องว่ิงแล้วเข่าเสื่อม แต่กลับกัน เมืองนอกเขาวิ่งกันมานานนม จนเป็นเรื่องปกติ ก็ไม่มีเสื่อมกัน จนมีงานวิจัยมาสนับสนุนว่าไม่เสื่อม แต่ไทยวิ่งแล้วเสื่อม ก็ต้องดูว่า วิ่งอย่างไรถึงเสื่อม ศึกษาก่อนวิ่งดีหรือเปล่า หมอมีความรู้เรื่องวิ่งดีแค่ไหน ทำไมหมอเมืองนอกวิ่งกัน หมอมาเขียนตำราวิ่งกันเองเลย เขาก็ไม่เข่าไม่เสื่อมกันแต่หมอเมืองไทยวิ่งแล้วเข่าเสื่อม ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นหล่ะ ************** มีบทความมาให้อ่าน อ่านแล้วจะได้เข้าใจ **************
วิ่งไม่ได้ทำให้ข้อเสื่อม
ปี 2005 คณะนักวิจัย UK วิเคราะห์การศึกษาแบบสุ่ม 13 รายงานพบว่า การเดิน การเสิรมสร้างความแข็งแรง เช่น ยกน้ำหนัก เล่นเวท ฯลฯ ปลอดภัยสำหรับคนไข้ข้อเข่าอักเสบ-เสื่อม แถมยังทำให้อาการปวด และความทุพพลภาพลดลง [ Intelihealth ]
ปี 2006-7 คณะนักวิจัยจากเนเธอร์แลนด์และ UK พบว่า การออกกำลังจากน้อยไปหามาก หรือจากเบาไปหาหนัก และค่อยๆ เพิ่มความแรงขึ้นทีละน้อยปลอดภัย และช่วยรักษาข้อสะโพก-ข้อเข่าอักเสบ-ข้อเสื่อม ....................................................
อาจารย์ รศ.นพ.ฮาร์เวย์ บี. ไซมอน แห่งวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ดและสถาบัน MIT ผู้ได้รับรางวัล 'London Prize' ด้านการสอนจากผลงานที่ฮาร์วาร์ดและ MIT ตีพิมพ์เรื่อง 'Running and your joints' = "การวิ่งและข้อของคุณ (joint = ข้อต่อ)" ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟัง [ Intelihealth ]
การวิ่งมีช่วงเท้าลอยอยู่ในอากาศ ทำให้มีแรงกระแทกตอนเท้ากระแทกพื้นได้มากจนถึง 8G หรือ 8 เท่าของแรงดึงดูดโลก หรือ 8 เท่าของน้ำหนักตัว
...
แรงกระแทกนี้แปรตามความเร็วด้วย คือ ยิ่งวิ่งเร็ว แรงกระแทกยิ่งมาก ทว่า... ไม่ได้หมายความว่า การวิ่งทำให้ข้อเสื่อม
การศึกษาเร็วๆ นี้พบว่า การออกกำลัง โดยเฉพาะการวิ่ง ปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป แถมยังช่วยป้องกันข้อเสื่อมด้วย
...
เมื่อก่อนนี้คนเราเชื่อเรื่อง 'wear and tear' หรือ "ใช้มาก-ข้อสึกมาก (เสื่อมมาก)" ทว่า... การศึกษาใหม่ๆ พบว่า การวิ่งและออกกำลังไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ข้อเสื่อม
สาเหตุของข้อเสื่อมส่วนหนึ่งมาจาก "อะไรที่เราไม่รู้" ซึ่งทางแพทย์เรียกว่า 'idiopathic' อีกส่วนหนึ่งมาจากการมีกล้ามเนื้ออ่อนแอ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าขา
...
(1). 'Framingham Offspring Cohort' = การศึกษาติดตามลูกหลานของชาวฟรามิงแฮม"
ปี 1948 มีการศึกษาในอาสาสมัครชาวฟรามิงแฮม US 5,200 คน ทำให้เรารู้ว่า อะไรเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและสโตรค (stroke = กลุ่มหลอดเลือดสมองแตก-ตีบตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต)
...
ปี 1971 คณะนักวิจัยทำการศึกษาในลูกหลานและคู่สมรสของอาสาสมัคร และทำการศึกษาผลของการออกกำลังและข้ออักเสบในปี 1993-1994 อายุเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างที่ไม่มีข้ออักเสบ = 53 ปี ติดตามไปจนถึงปี 2002 & 2005
การศึกษานี้มีการซักประวัติ และตรวจเอกซเรย์เข่าเปรียบเทียบ อ่านฟีล์มโดยผู้เชี่ยวชาญที่ไม่รู้ประวัติแยกกัน 2 ท่าน ทำให้เรารู้ว่า การออกกำลังไม่ได้ทำให้ข้อเสื่อม
...
การศึกษานี้พบว่า การออกกำลังไม่มีผลทำให้ข้อเสื่อม แถมคนที่อ้วนหรือผอมและออกกำลังมีข้ออักเสบ-ข้อเสื่อมมากเท่าๆ กัน
นั่นคือ คนที่ออกกำลังมากที่สุดมีความเสี่ยงข้ออักเสบ-ข้อเสื่อมเท่ากับคนที่ออกกำลังน้อยที่สุด
...
(2). การศึกษาจากออสเตรเลีย
กระดูกอ่อน (cartilage) ของข้อไม่มีเลือดไปเลี้ยง อาศัยการซึมซาบของน้ำไขข้อเข้า-ออก คล้ายการบีบน้ำ-ซับน้ำของฟองน้ำล้างจานเป็นสำคัญ หลักการนี้ทำให้การเคลื่อนไหวข้อมีแนวโน้มจะทำให้ข้อได้รับสารอาหารมากขึ้น
...
คณะนักวิจัยออสเตรเลียทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่มีสุขภาพดี และไม่มีประวัติข้อเข่าอักเสบหรือบาดเจ็บ อายุ 40-69 ปี 297 คนในช่วง early 1990s = 1990-1995 ติดตามไปจนถึง 2003-4 เปรียบเทียบภาพสแกนสนามแม่เหล็ก-วิทยุ MRI
ผลการศึกษาพบว่า คนที่ออกกำลังรับแรงหนักที่สุด (เช่น วิ่ง ยกน้ำหนัก ฯลฯ) มีความหนากระดูกอ่อนหัวเข่ามากที่สุด และสุขภาพข้อดีที่สุด
...
(3). ข้อเข่าของนักวิ่งระยะไกล
การศึกษาในปี 2008 เปรียบเทียบนักวิ่งระยะไกล 284 คนกับคนที่ไม่ได้วิ่ง 156 คนไม่พบว่า การออกกำลังทำให้ข้ออักเสบ-ข้อเสื่อมถึงนัยสำคัญ (little evidence; little = น้อยมากๆ; evidence = หลักฐาน)
...
หลังจากติดตามนักวิ่งระยะไกลไป 21 ปีพบว่า นักวิ่งมีความทุพพลภาพ (บาดเจ็บ + เสื่อมสภาพ) ของกล้ามเนื้อ-เอ็น-กระดูก หรือระบบโครงสร้างน้อยกว่าคนที่นั่งๆ นอนๆ แถมนักวิ่งยังมีอัตราตายน้อยกว่า 39%
การศึกษาใหม่เปรียบเทียบนักวิ่งกับนักว่ายน้ำทีมมหาวิทยาลัยพบว่า นักวิ่งไม่ได้มีข้อเสื่อมเพิ่มขึ้น และแชมป์วิ่งไม่ได้มีข้อสะโพกอักเสบ-เสื่อมมากกว่าคนที่ไม่ได้เป็นนักกีฬา
...
ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การบาดเจ็บ
เป็นที่ทราบกันดีในสหรัฐฯ ว่า นักอเมริกันฟุตบอลมักจะมีการบาดเจ็บของข้อ (การศึกษาอื่นๆ พบว่า คนกลุ่มนี้เป็นเบาหวานมากกว่าประชากรชัดเจน) คำตอบคือ ข้อที่บาดเจ็บจะไม่เหมือนเดิม (อีกต่อไป) และจะค่อยๆ กลายเป็นข้ออักเสบ-ข้อเสื่อม
...
การศึกษาศิษย์เก่าวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ด 1,321 ท่านพบว่า หมอที่เคยมีข้อสะโพกบาดเจ็บตอนเรียนมีข้อเสื่อมที่อายุ 65 ปีเกือบ 14% สูงกว่าหมอที่ไม่เคยมีข้อสะโพกบาดเจ็บ ซึ่งมีข้อเสื่อม 6%
หมอที่มีข้อเข่าบาดเจ็บตอนอายุน้อยเสี่ยงข้อเข่าอักเสบ-ข้อเสื่อมเพิ่มเป็น 5 เท่าเมื่ออายุมากขึ้น
...
มีความเป็นไปได้ว่า กีฬาที่ทำให้ข้อบาดเจ็บได้ง่ายมีแนวโน้มจะเป็นกีฬาประเภทต่อสู้ ปะทะ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล ฯลฯ รวมทั้งอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ-ง่วงแล้วขับ ทำให้ข้อเสื่อมมากกว่าวิ่ง เดิน ว่ายน้ำ
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ > [ วิ่งทำให้ข้อเสื่อมจริงหรือ ]
-------------------------------------- เครดิต...ผู้เขียน นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ ที่มา http://health2u.exteen.com/20090924/entry-1
แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 55 11:47:12
จากคุณ |
:
Yoja&Jiji
|
เขียนเมื่อ |
:
20 เม.ย. 55 11:42:49
|
|
|
|
 |