ความคิดเห็นที่ 1 ปล่อยคลัชท์ จะต้องสัมพันธ์กับการเหยียบคันเร่งด้วยครับ ต้องปล่อยคลัชท์ถึงจุดหนึ่งแล้วเริ่มเหยียบคันเร่งลงไป ลองฝึกดูสักพักแล้วจะสามารถจับจังหวะได้ หรือเทคนิคง่ายๆ ครับลองปล่อยคลัชท์ช้าๆ จนรู้สึกว่าเครื่องยนต์สั่นหรือเครื่องจะดับ จุดนั้นล่ะคือจุดที่จะต้องเริ่มเหยียบคันเร่ง การลดเกียร์ ถ้าขับๆ แล้วความเร็วลดลงแบบรถเลื้อยๆ ก็ค่อยๆ ปรับจาก3-2-1 แต่ถ้าสมมติเจอไฟแดงแล้วรถหยุด ก็ปล่อยไว้เป็นเกียร์นั้น (เช่นเกียร์ 3) พอรถใกล้หยุดก็เหยียบคลัชท์ให้หมด พอรถหยุดก็ปรับเป็นเกียร์ว่างหรือ 1 ครับ เช่นกัน คือต้องอาศัยจับจังหวะของรถด้วย ก็คงต้องฝึกฝนครับ จากคุณ : JMU - [ 7 มี.ค. 49 10:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วระหว่างที่ปล่อยคลัช ต้องเหยียบคันเร่งไปด่วยหรือป่าวครับ หรือค่อยๆปล่อยคลัช จนเครื่องเริ่มสั่น แล้วค่อยเหยียบคันเร่ง จากคุณ : moo - [ 7 มี.ค. 49 10:16:27 A:203.146.209.6 X: TicketID:107257 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ออกตัวใช่ไหม กรณีนี้ คือ  หาระดับของคลัช ที่ควรจะกดคันเร่งคับ  (มือใหม่ลองดูได้ ปกติเป็นแล้วไม่ต้องคับ) ยกคลัช ค่อยๆช้า  คับ(อย่าตกใจ) ถึงระดับที่ว่า เครื่องเหมือนจะดับ สั่นๆ  นั้นแหละคับ ก็ค่อยกดคันเร่งช่วยไม่ให้เครื่องดับ  พอเครื่องนิ่งแล้ว ค่อยยกคลัชต่อ และกดคันเร่งให้รถพุ่งออกไปข้างหน้าต่อไป จากคุณ : JoJoeSaj - [ 7 มี.ค. 49 11:42:32 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ปล่อยคลัช กะ ยกคลัช อันเดียวกันนะอิอิ แต่วิธีที่ผมสอนคนอื่นนะ   ออกตัว หรือเปลื่ยนเกียร์ขึ้นทุกเกียร์   ผมจะให้  กด คันเร่งนิดหนึ่งนะ แล้วก็ปล่อยคลัชอย่างต่อเนื่อง แล้วกดคันเร่งสวนให้รถมีกำลังแล้วมันจะวิ่งไปปกติ(ไม่สั่น เพราะรถมีกำลังจากเครื่อง ไม่ดัน) เพิ่งเริ่มขับใหม่   ข้อควรจำ รถทุกคันระดับ เข้าเกียร์ 1 แล้วปล่อยครัช เลยหรือว่าต้องเหยียบค้างไว้ครึ่งนึงครับจนกว่ารถจะวิ่งแล้วค่อยปล่อย หรือว่า ค้างไว้อย่างนั้น??  ไม่ใช่เสมอไปนะคับ ขึ้นอยู่กับการตั้ง หรือ สภาพคลัชเองนะครับ อยากให้ฝึก ที่เกียร์1 เกียร์เดียวไปก่อนให้เก่งแบบคนเป็นเลยคับ  แล้วเกียร์อื่นจะง่าย เพราะ ก1 ต้องใช้คลัชกะคันเร่งให้สัมพันธ์กันอย่างดี (รถจะไม่สั่นหรือดับ หรือ เสียงเครื่องดังแต่รถไม่วิ่ง) ต้องฝึกจนให้ควบคุมขา 2 ข้างอย่างดี จากคุณ : JoJoeSaj - [ 7 มี.ค. 49 11:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ฝึกดู  เกียร์1 ฝึกเพื่อออกตัว ขึ้นลูกกระดกหลังเต่า หรือขึ้นทางชันความเร็วต่ำ ค้างทางชัน(สะพาน)   สำคัญมากต่อความปลอดภัยทั้งเราและ คันข้างหลัง จุดประสงค์มีอยู่ 2 อัน (พยายามอย่าให้มีลักษณ์ดังนี้) - เครื่องดับ เพราะ ไม่กดคันเร่ง,กดคันเร่งไม่พอต่อการยกคลัชของคุณ ยกคลัชเร็วแล้วไม่กดคันเร่งให้สัมพันธ์ เครื่องไม่มีแรงเลยดับ - เครื่องยนต์มีเสียงดังแต่ไม่วิ่ง เพราะ กดคันเร่งมากไป แล้วไม่ยกคลัช ให้สัมพันธ์กัน คลัชไม่จับกับเกียร์ เกียร์เลยไม่มีกำลังไปส่งล้อ  แต่เครื่องทำงาน รอบเครื่องยนต์สูงเลยดัง(เครื่องร้อง อิอิ) จากคุณ : JoJoeSaj - [ 7 มี.ค. 49 12:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 วิธีทำ ที่โล่งไม่มีคน และสิ่งกีดขว้าง  ใช้เกียร์1 อย่าให้เกิน 20กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่า(ลากเกียร์ = ความเร็วสูงสุดของเกียร์ เครื่องยนต์รอบสูงจะทำงานหนัก) ลงมือ  พื้นที่แนวระดับ ราบเรียบ    เข้าเกียร์1  ค่อยๆกดอันเร่งช้าๆ +ปล่อยคลัชออก(2 ขา พร้อมกัน)เรื่อยๆ รถจะออกตัว ปล่อยคลัชให้สุดยกเท้าซ้ายออกจากคลัชไปเลย  ส่วนคันเร่งรักษาระดับหรือ กดให้รถเพิ่มความเร็วได้  อย่าให้เกิน 20km/h   แล้วหยุดรถโดย กดคลัชให้สุดก่อน แตะเบรคให้รถหยุดนิ่มๆ   เริ่มทำซ่ำ  จนกว่า จะไม่มีอาการ 2 อย่างตามจุดประสงค์ จากคุณ : JoJoeSaj - [ 7 มี.ค. 49 12:17:36 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วลอง ขับผ่านลูกกระดก โดยใช้เกียร์1 อีก (ฝึกให้ไต่ลูกกระดก ช้าๆนิ่ม เหมือนกลัวคนนั่งด้วยจะตื่นนะ) ไม่เอาแบบคนขับคนนั่งกระโดดขกหลังคารถนะ   ลักษณะจะพัฒนามาจากแบบฝึกหัดแรกเลย  แต่จะมี  การเน้นควบคุม   คลัช กับ คันเร่ง   ในส่วนการ ชะลอการเคลื่อนไหว+ พยายามเดินหน้าเพื่อไต่ไปข้างหน้า  รถเคลื่อนที่เข้าหาลูกกระดก ** ชะลอ เพื่อ ให้รถขึ้นลูกกระดกช้าๆนิ่มๆ  โดน กดคลัช แล้วกดเบรคอย่างนิ่มนวล(รถจะกระดกทั้งคันนิดเดียว) แล้ว เกียร์1อยู่นะ ก็ปล่อยคลัช กดคันเร่งไป เชื่อว่าคงเชียวชาญจากการฝึกอันแรกมาแล้ว           ***  เน้น ขึ้น นิ่ม ลง นิ่ม  ***     ไม่เอา แบบ taxi บ้าเลือดนะ เข้าหมู่บ้าน วิ่งสะเร็ว ลูกกระดก หลังเต่า ตูไม่เบรค ไมเบา  รถจะพังเอา จากคุณ : JoJoeSaj - [ 7 มี.ค. 49 12:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขั้นสุดยอด   ค้างสะพาน  ทางขึ้นห้าง เนินชัน (ใครๆก็ไม่อยากจะค้างเสียว ผมขับมานานก็จะเสียวเลย 555+) เอารถไปค้าง จะหาสะพานกี่องศาก็แล้วแต่ ยิ่งชันมาก ก็ยิ่งยาก คือ รถจะไหลตอนออกตัวสูงระยะไหลถอยหลังจะเยอะ จากคุณ : JoJoeSaj - [ 7 มี.ค. 49 12:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 9 กำ กด enter ทำไมเป็น post สะเนี่ย อิอิ ง่ายๆ ถ้าติดแล้ว - ดึงเบรคมือให้สุดค้างไว้ (เบรคอยู่ไม่อยู่ ดึงให้สุด) กดเบรคเท้าไว้ด้วยนะ (ตั้งสติ นึกภาพว่าจะเคลื่อนเท้า ขวาอย่างไร )อิอิ - พร้อมที่เกียร์1  กดคลัชไว้นะ - มือซ้าย ถือเบรคมือ พร้อม ปลดเบรคมือออก ตอนรถเดินหน้า  เหมือนออกตัวบนแนวระนาบปกติเลย แต่   เน้น***  กดคันเร่งไว้มากหน่อย  อย่ากัวพุ่ง ตาบใดที่คลัช ไม่ยกแบบกระชาก (แต่ดีกว่าเครื่องดับ นะคับ คันหลังเค้าจะเสียวเอา)  เลี้ยงคลัช  แบบฝึก ตอนลูกกระดก เลย  ทั้งผ่อนทั้งกด  ท้งคู่สลับกัน เพื่อให้รถเดินหน้า หรือ ชะลอ เลี้ยงคลัช คันเร่ง ไปจน ขึ้นสะพาน หรือเนินขันได้อย่างปลอดภัย  หรือ ถ้าของจริงไปติดข้างหน้า ก็เบรค แล้ว ทำเหมือนเดิม ถ้าเก่งแล้วเบรคมือ ไม่ใช้ก็ได้ *** เบรคเท้าอย่างเดียวได้***  แต่ต้องมั่นใจ 2 ประการ -เคลื่อนเท้าขวา ไปกดคันเร่งได้ เร็ว -ต้องควบคุมรถไม่ดับ แล้วนะ ถ้าดับ กดเบรค ดึงเบรคมือ  รีบ start เครื่องอย่างด่วน เพราะ เบรคเท้ามันต้องมีแรงดันน้ำมัน เดี๋ยวจะเบรคไม่อยู่ จากคุณ : JoJoeSaj - [ 7 มี.ค. 49 12:42:47 ]

ความคิดเห็นที่ 10 555   อ่านไม่เข้าใจ ไง ถามคนเป็นแถวบ้าน  มันจะสั่นกว่านี่  เข้าใจ + เห็นภาพ ด้วยนะคับ  เรียนกับ อาจารย์ฝึกสอนขับแล้ว ก็อุ่นใจไปเยอะ  นะคับ อิอิ  ลองดู จากคุณ : JoJoeSaj - [ 7 มี.ค. 49 12:44:52 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปล่อยคลัทช์ ลองฝึกกับ เกียร์ 1 ก็ได้ครับ.. ลองๆ.. ดูนะครับ.. เหยียบคลัทช์ เข้าเกียร์ 1  ทางราบๆ นะครับ ไม่ต้องเหยียบคันเร่งเลยนะครับ..  ค่อยๆ ปล่อยคลัทช์ ช้าๆ... รถจะค่อยๆ ออกตัวครับ.. แต่จะวิ่งช้ามากๆ.. โดยที่รถไม่สั่น.. แต่ถ้าปล่อยมากไป มันจะ กระตุกๆ..  ตรงนี้ล่ะครับ ให้ค่อยๆ เหยียบคันเร่งเพิ่ม รถจะวิ่งเร็วขึ้น + รถไม่สั่นครับ.. ถ้าคล่องแล้ว.. ก็ปล่อยคลัทช์ พร้อมกับเหยียบคันเร่งเลยครับ.. ทางราบ คล่องแล้ว.. ก็ฝึกต่อ ทางขึ้นสะพาน ตามซอยที่ไม่ค่อยมีรถครับ.. ผมฝึกอยู่ ราวๆ 3 วันครับ (วันล่ะ ราวๆ ครึ่งชั่วโมง) ทางเรียบๆ.. ทางลาดเอียง  แล้วก็ ทางเป็นเนิน.. ลูกรัง..   จากนั้น ก็ ขับฝึกฝีมือไปไหนต่อไหนเลยครับ.. หาคนติดรถไปด้วยคนนึง ให้คำแนะนำ เวลาหัดขับรถนะครับ ฝึกเรื่อยๆ เดี๋ยว ก็คล่องครับ..  พยายาม ฝึกให้คล่องๆนะครับ ออกตัวช้าๆ..นิ่มๆแล้ว ค่อยๆ เบรก ควรจะต้องทำให้ได้เลยนะครับ แบบไม่ต้องใส่ใจในเรื่องนี้อีก.. เพราะเวลาเจอทางแคบมากๆ .. หรือ คนเยอะๆ.. มันจำเป็นต้องใช้นะครับ.. เพราะเราต้องมาดูรถ กะระยะดีๆ ว่าจะไปขูดสีรถเค้า เอาหรือเปล่า.. จะชนคนไม๊.. การกะระยะ ยากกว่าเยอะครับ.. เพราะมันต้อง ประสบการณ์ล้วนๆ เลย.. ถ้ายังมาต้องห่วง เรื่องการเหยียบคันเร่ง กับคลัทช์ อันตรายนะครับ.. โชคดีครับ กะระยะ  ผมยังไม่ค่อยจะชัวร์ เท่าไหร่เลยครับ..  ถ้าขับไปเรื่อยๆ ด้านหน้า ด้านหลัง ก็ได้อยู่ครับ.. แต่เวลาถอยรถ เข้า หรือ ออกจากช่องจอด..ข้างถนน มีรถปิดหัวท้ายเนี่ย.. ยากจริงๆครับ.. เพราะ ไม่รู้ว่า จะต้องถอยขนาดไหน.. กันชนหลัง กันชนหน้า อยู่ห่างจากรถเค้าเท่าไหร่.. ยากจัง.. -*-" ผมยังไม่ถึงกับคล่องกับตรงนี้ล่ะครับ.. แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 49 13:09:57 จากคุณ : kamthorn (kamthorn) - [ 7 มี.ค. 49 12:59:36 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อ้อ ลืมไป   เคล็ดลับ คือ ขาคุณยังไม่ปรับตัวคับ หรือเรียก มือแข็งขาแข็ง อิอิ วิธี  ฝึกอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนการชะลดรถ (ไม่หยุดกระทันหัน + รู้ว่าระยะทางที่จะเบรค) แนะนำกดคลัช เปลื่ยนเป็นเกียร์ว่าง ปล่อยไหล  แล้ว เบรคเท้าอย่างเดียวกดเบรคอยู่อย่าไป จูบ คันหน้า หรือ ค่อยกดเบรค นิดแล้ว ปล่อย กด ปล่อย เรื่อยๆ แต่ต้องดูความเร็วด้วยนะ มาเร็วก็กดเบรคหนักหน่อย (ต้องหยุดกระทันหัน หรือ ระยะเบรคน้อย นิดเดีย๋ยวถึงคันหน้าแล้ว)   อันนี้ ใช้เกีบร์ช่วยเบรคด้วย ไม่เอาเกียร์ว่าง  - ถ้าไม่ได้เบรคกระทันหันมาก และไม่อย่ากดเบรคมากนัก ก็ถอนคันเร่ง อยู่เกีนร์เดิมไว้ได้ แล้วค่อย ลดเกียร์ทีละ 1 เกียร์มันก็จะลากเกียร์เป็นการลดความเร็วให้ จาก ก 5  ไป ก4   ไป ก3  ใช้ต้องดูความเร็วแต่ละเกียร์ด้วย ที่คุณเปลี่ยนขึ้นกันนั้นแหละ แต่นี่เปลี่ยนลงเท่านั้นเอง - ถ้าเบรคกระทันหันมากๆ (โดนตัดหน้า)   ก็เบรคเท้าอย่าเดียวกดเอาให้อยู่  แล้วใช้เกียร์ข้ามได้ ส่วนใหญ่  ก5  มาเป็น ก3  อะนะ   ความเร็ว 60กิโล เข้าเกียร์ 3 ดู รถจะหยุดได้ เครื่องช่วยเบรค+ มีแรงเบรค มันใจในเบรคได้ อิอิ สรุป   -เกียร์ว่าง+เบรค  ภาระอยู่ที่เบรคเท้าอย่างเดียวเหมาะเบรคแบบเรื่อยๆ ไม่เร็วนัก เบรคเท้ารับการเบรคอย่างเดียว เบรคหมดเร็วขึ้นนิด แต่เครื่องยนต์ไม่ต้องช่วยเบรคเครื่องไม่เหนื่อย สึกหรอ เฉพาะตอนวิ่งไปข้างหน้า กับ ลงเนินเท่านั้น -ใช้เกียร์ ไล่ลงที่ละเกียร์ตามความเร็ว + เบรค สถานะการณ์แบบเรื่อย เรารู้ว่าควารเบรคขนาดไหนเอาอยู่  *อันนี้แนะนำ* ความสึกหรอของเครื่องน้อยกว่า ข้ามเกียร์มาก แต่ปลอดภัย กว่า เบรคเท้าอย่างเดียว   - ใช้เกียร์ ข้ามเกียร์ + เบรค  กระทันหัน ใช้ได้ดี (แต่อย่าทำเล่นบ่อยๆเดี๋ยวเครื่องพัง) อย่าขับให้หวาดเสียว ** ชะลอ 1  กับ 2     แล้วแต่กรณี อยู่การขับของแต่ละคน + เงิน     ถ้า อัน 1 ไม่เสียดายผ้าเบรค เอาเครื่องไว้ก่อน          2  เบรคเท้า + เครื่องยนต์เบรค  ไม่เป็นไร พังอะไรก็ซ่อม ไป อัน3  พยายามอย่าให้เกิดบ่อย จะเกิดบ่อยๆกับคนที่ขับรถเร็ว+หวาดเสียว เพราะต้องขับแบบนี้ ถึงจะได้อันดับหนึ่งในการแข่งรถบนท้องถนน      ไม่ขับรถเร็วเกินไป ค่าใช้จ่ายของชีวิต และ ทรัพย์สิน จะน้อยลง ขับรถไม่ช้าไม่เร็ว และมันใจ อ่านใจรถชาวบ้านออก ก็จะไม่มีคำว่าอุบัติเหตุนะจ๊า จากคุณ : JoJoeSaj - [ 7 มี.ค. 49 13:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกท่านและคุณ JoJoeSaj ด้วยนะครับ ตอบละเอียดมากเลยครับ ^ ^ จากคุณ : moo - [ 7 มี.ค. 49 16:08:12 A:203.146.209.6 X: TicketID:107257 ]