ความคิดเห็นที่ 1 อันนั้นเป็นเรื่องปกติครับ ถ้ารู้สึกอย่างนั้น แนะนำให้เติมลมให้แข็งกว่าเดิมอีกหน่อย จากคุณ : SP (Naicollo) - [ 11 เม.ย. 50 16:17:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใช่แล้วค่ะ เช่นเคยเติม 30 ก็ให้เติมเผื่อไว้เป็น 32 ค่ะ จากคุณ : เบญจลักษณ์ - [ 11 เม.ย. 50 18:57:54 ]

ความคิดเห็นที่ 3 แปลกแฮ่ะผมเพิ่งเปลี่ยนยางมาใหม่ เป็นตะพานหิน ที่ ค็อกพิท แล้วเติมไนโตรเจนมารู้สึกว่ามันแข็งกว่าใช้ลมธรรมดาของเดิม แฟนยังบ่นเลยไม่เห็นมันจะนิ่มกว่าเดิมตรงไหน จากคุณ : NoomCha - [ 11 เม.ย. 50 23:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ คคห3 เจอเหมือนผมนะครับ จากกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V5309948/V5309948.html ความคิดเห็นที่ 7   ตามที่คุณ akeb ว่าไว้ครับ จากการใช้งานของผม  เรื่องแรงดันลมยาง  มันก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ต่างจากลมธรรมดาที่ผมใช้อยู่เลยเลย ลมธรรมดาที่เอามาเติมรถ  มันก็มีหลายแหล่งที่มา ลมบางแหล่งมีความชื้นมาก  เติมเข้าไปแล้วแรงดันลมก็จะเปลี่ยนมาก ข้อดีของลมไนโตรเจน ที่เห็นคือแรงดันลมมันหายช้ากว่าลมธรรมดา ปกติผมใช้ลมธรรมดาประมาณ 1 เดือนก็จะมีแรงดันลมหายไปบ้าง 1psi แต่ลมไนโตรเจนผ่านไป 1 เดือน  มันแทบไม่ลดเลย จากเดิมที่เคยเติมลมเดือนละครั้ง ก็อาจจะเป็นสองเดือนครั้ง แต่ลมไนโตรเจน นี่เติมลำบากกว่าเยอะ  เพราะต้องขับไปให้ร้านเดิมนั้นเติมให้ ถ้าเป็นลมธรรมดา  เติมที่ปั้มแถวๆบ้านสบายกว่าเยอะ เรื่องความนิ่ม ที่คนชอบคุยกัน ผมรู้สึกอย่างนี้  จังหวะที่กระแทกเบาๆเหมือยว่า ไนโตรเจนจะนิ่มกว่า แต่จังหวะที่กระแทกแรงๆ  ไนโตรเจนจะกระเทือนกว่า โดยที่ผมใช้แรงดันลมเท่ากันในขณะที่ยางเย็น คนที่รู้สึกว่านิ่มขึ้นนั้นผมไม่รู้ว่าเขาเติมลมแบบไหนกัน อาจจะเป็นไปได้ว่าลมธรรมดาที่ใช้อยู่ก่อนนั้นมีความชื้นมาก เลยทำให้แรงดันลมในยางเปลี่ยนแปลงมาก  ในขณะที่ใช้งาน หรือไม่ก็ตอนที่วัดลมยางก็ไม่ได้วัดในตอนที่ยางยังเย็นอยู่ เลยทำให้ได้แรงดันลมยางจริงๆไม่เท่ากัน เรื่องจะเติมลมไนโตรเจน ผมว่าให้ดูว่าคุณสามารถไปเติมลมยางได้สะดวกหรือเปล่า ถ้าสะดวกเหมือนไปเติมที่ปั้มก็ไม่เป็นไร  แต่ถ้าลำบากมากก็อย่าไปเติมมันเลย เติมลมธรรมดาเดือนละครั้งสบายกว่าเยอะ  เงินก็ไม่ต้องเสียด้วย จากคุณ : ton99   - [ 11 เม.ย. 50 17:20:17 ] จากคุณ : ton99 - [ 12 เม.ย. 50 03:39:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ค่านิยมแปลกๆ นะคนเรา  ขับแค่รถยนต์ แต่ไปเติม ไนโตรเจน  ถ้ามีเครื่องบินส่วนตัวจะไม่แปลกเลยครับ เติมไนโตรเจนเนี่ย สักแต่ว่าเค้าว่าดี ก็ต้องเติมตามเค้าอ่ะ จากคุณ : i'm not so cute - [ 12 เม.ย. 50 10:59:03 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การเติมไนโตรเจนมีเครื่องกรองความชื้นออก เลยทำให้ขณะใช้งานมีการเปลี่ยนอุณหภูมิบ้างแต่น้อยกว่าลมธรรมดา เมื่อวิ่งทางไกล กรุงเทพ เชียงใหม่ เมื่อวิ่งได้สักพักเรียกว่ายางร้อนได้ที ยิ่งวิ่งนานยางร้อนมากขึ้น แต่เราจะรู้สึกว่ายางนิ่มกว่าตอนยางเย็น ทั้งที่ตอนยางเย็นก่อนเดินทางวัดได้ 30ปอนด์ แต่ปลายทางวัดได้ 34 ปอนด์ ทำให้เคยสงสัยไหมว่าระหว่างเดินทางทั้งที่แรงดันเพิ่มขึ้น ยางควรตึงหรือแข็งขึ้น แต่กลับรู้สึกว่ายางนิ่มกว่าตอนยางเย็น ผมสรุปด้วยเหตุผลผมเองว่า แรงดันลมธรรมดาภายในยางมีความชื้นทำให้แรงดันภายในสูงขึ้น ผิวยางขยายตัวตามแรงดัน แต่อัตราส่วนการขยายตัวของผิวยางกับแรงดันไม่สัมพันธ์ในช่วงที่ยางร้อน เลยทำให้แรงดันที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงพอให้หน้ายางมีความตึงเท่าเดิม จนเกิดความรู้สึกว่าวิ่งตอนยางร้อนนิ่มกว่าวิ่งตอนยางเย็น อันเป็นเหตุที่มาของคำแนะนำให้รถขับทางไกลควรเติมลมเพิ่มประมาณ 2-4 ปอนด์ ทั้งๆที่วิ่งทางไกลไม่ต้องเติมลมเพิ่ม แรงดันก็เพิ่มเองอยู่แล้วประมาณ 2-4 ปอนด์ แต่ไนโตรเจนมีความชื้นน้อย การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้อย แรงดันภายในเพิ่มน้อย ความตึงผิวยางจึงรักษาสภาพคงเดิมใกล้เคียงตอนยางเย็น อันเป็นเหตุไนโตรเจนมีความตึงผิวยางและคงประสิทธิภาพการทรงตัวได้ดีกว่าลมธรรมดาที่มีความชื้นเมื่อวิ่งทางไกล แต่ลมธรรมดาแก้ได้ด้วยการก่อนเดิมทางเติมลมเพิ่มเข้าไปตามที่ทั่วไปแนะนำ ระยะยาวน่าจะทำให้อายุการใช้งานเพิ่มขึ้น เพราะการที่ยางร้อนและความชื้นในลมธรรมดาทำให้ยางเสื่อมตามปกติ แต่ไนโตรเจนเสื่อมช้ากว่าปกติได้ ท่านอื่นเห็นไปอย่างอื่นช่วยชี้แนะด้วยครับ เพราะข้างต้นผมคิดตามหลักการและเหตุผลเอง จากคุณ : นที - [ 12 เม.ย. 50 12:19:39 A:125.27.118.225 X: TicketID:072386 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สำหรับ คห.5 ผมว่าอะไรที่คนเขาว่าดี แล้วเราจะลองก็ไม่แปลก ยกเว้นมันราคาค่างวดแพงเกินไปก็ไม่ไหว เหมือนคนอื่นเขาบอกว่าเติมน้ำมันยี่ห้อนั้น น้ำมันเครื่องยี่ห้อนี้ ดีนะ ก็ไม่แปลกที่เราจะลอง เพียงแต่ว่าเมื่อลองแล้วไม่ถูกใจก็ไม่กลับไปใช้อีกก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ จะไปว่าคนที่ลองแล้วแปลกไม่น่าจะถูกเท่าไรนะ จากคุณ : นที - [ 12 เม.ย. 50 12:23:02 A:125.27.118.225 X: TicketID:072386 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คห.ที่ 5 ครับ ผมไปขอเงินญาติคุณมาเติมเหรอ จากคุณ : puff & pie - [ 12 เม.ย. 50 12:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอ็งไม่ได้ขอเงินญาติข้ามาเติมหรอก          แต่การที่ต้องเสียเงิน เพิ่มขึ้น กันการเติมลม แบบไนโตรเจนเนี้ยมันคุ้มกันหรือปล่าว  OK บ้านข้าก็ไม่ได้รวย เก้บเงินไว้กินดีกว่า เติมลมธรรมดาก็วิ่งได้ ไปทั่วประเทศแล้ว รถยนต์มันมีขีดจำกัด เหมือนกะเครื่องบินหรือปล่าว  เครืาองบินมันจำเป็นต้องใช้ไนโตรเจนเติม  มันบินสูง อากาศมันเย็นอ่ะนะ เดียวยาง:-)อ่อนเอาอ่ะ แรงดันไม่คงที่  ที่พูดนี่เพราะมันสิ้นเปลืองในสิ่งที่ไม่จะเป็นอ่ะนะ เพราะข้าก็จบช่างมาถึงกล้าบอกอ่ะนะข้ารู ข้าก้อยากแนะนำอยากบอก ว่าไรดีไม่ดี  อ่ะ จากคุณ : i'm not so cute - [ 12 เม.ย. 50 14:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอน คห.5 ให้ความเห็นยังพอฟังได้ แต่ คห.10 ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปว่าคนที่เติมว่าโง่ด้วยก็ไม่เข้าใจ หรือไปมองว่าความเห็นของคนที่เติมแล้วชอบ เติมแล้วดี เป็นพวกร้านค้า เลยไม่ยอมฟังความเห็นของคนที่เติมแล้วดี ผมใช้แล้วถูกใจก็มาออกความเห็นด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน เพราะหลายๆเรื่องมันยังมีข้อมูลที่ต้องรวบรวมเยอะ ในใจไปตั้งเป้าอคติเอาไว้ก่อนแล้วเลยทำให้ไม่ฟังความเห็นคนอื่น มันอาจจะไม่เหมาะสมนะครับ ผมใช้ไนโตรเจนมาแล้ว 4 คัน จะสรุปว่าโง่มา 4 ครั้งยังไม่ฉลาดอีกหรือ เอาว่าใช้แล้วมันชอบ.... จากคุณ : นที - [ 12 เม.ย. 50 15:19:34 A:125.27.119.202 X: TicketID:072386 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เปรียบกันง่ายๆ ลมไนโตรเจน เหมือนกับน้ำแร่ครับ น้ำแร่มีคุณค่า มีประโยชน์มากกว่าน้ำธรรมดา แต่ราคาจะแพงกว่า เราจะทานน้ำแร่ หรือน้ำธรรมดา ก็แล้วแต่ความพอใจของเรา แต่ถ้าน้ำแร่ ให้คุณทานฟรีๆ คุณจะทานมั๊ยครับ... ส่วนตัวผม จักรยานที่บ้าน ยังเติมไนโตรเจนเลยครับ เพราะปกติรถจักรยาน ยางจะซึมเร็วมาก เติมแป็บเดียว 3-4วัน ลมอ่อนแล้ว... แต่พอเติมไนโตรเจน บางทีเดือนนึงยังไม่ซึมเลยครับ จากคุณ : หมู (sportmag100) - [ 12 เม.ย. 50 16:02:10 ]

ความคิดเห็นที่ 13 การที่จะลองอะไรใหม่ๆนี่มันถือว่าโง่มากเลยเหรอเนี่ย แค่เติมแล้วมาเล่าสู่กันฟัง มาแชร์ข้อมูลความคิดเห็น จากคุณ : puff & pie - [ 12 เม.ย. 50 16:09:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ข้าไม่ได้ว่าเอ็งโง่นะ.....อ้าย ทิด จากคุณ : i'm not so cute - [ 12 เม.ย. 50 16:12:39 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ป่าวครับคุณ i'm not so cute ผมหมายถึงความเห็นที่ 10 น่ะครับ ยังไงขออภัยด้วยที่พิมพ์ไปว่า "ขอเงินญาติคุณมาเติมเหรอ " คือผมมาเล่าความรู้สึกหลังจากเติมก็แค่นั้น แต่ไหงกลายเป็นว่าคนเติมไนโตรเจนโง่ไปซะนี่ จากคุณ : puff & pie - [ 12 เม.ย. 50 16:21:31 ]

ความคิดเห็นที่ 16 กินกันซะแล้ว จากคุณ : เจ็ดเจ็ด - [ 12 เม.ย. 50 17:47:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็เติมไนโตรเจนครับ รู้สึกดีครับ เพราะรถผมวิ่งไกลบ่อย ถ้าเติมลมธรรมดา ต้องเช็คทุกอาทิตย์เลย แต่พอเป็นไนโตรเจน 2 เดือนหรือเกือบๆ เติมที สบายกว่าเยอะครับ แล้วก็ถามศูนย์ เขาก็บอกว่า ช่วยรักษาคุณภาพยาง และช่วยลดอันตรายจากการขับใกลๆ บ่อยๆ แบบผม แต่อาจจะแพงหน่อย ซื้อความสบายกายและใจส่วนตัวครับ รักชอบแตกต่างก็อย่าว่ากันครับ รักพ่อ อย่าทะเลาะกัน... จากคุณ : สรัล - [ 12 เม.ย. 50 19:02:15 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมยังคาใจกับเรื่องที่คุณ นที มาบอก ที่ว่าใช้ลมไนโตรเจนแล้ว ยางนิ่มนานขึ้นเงียบนานขึ้น จาก 40,000km เป็น 50,000km ตรงนี้ผมมองว่า  มันอาจจะเป็นผลมาจากลมไนโตรเจนจากที่คุณนทีบอก แต่ผมยังหาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ว่า  ทำไมเติมลมไนโตรเจนแล้วยางคงสภาพได้นานกว่า อีกมุมก็มองได้ว่า  ถึงคุณนทีจะใช้ยางรุ่นเดิม แต่ส่วนผสมหรือวัสดุที่เอามาทำยาง  มันอาจจะไม่เหมือนกับชุดเดิมแล้ว จึงทำให้ยางคงสภาพได้นานขึ้น รถที่บ้านผมอีกคันก็เติมไนโตรเจนมา คันนี้เรื่องนุ่มเงียบผมก็ไม่รู้ว่าแต่ต่างยังไง   เพราะว่าผมเปลี่ยนรุ่นยางเป็นคนละรุ่นกับของเดิม แต่ผมว่าลมมันอ่อนลงเร็วเหมือนลมธรรมดาเลย  คือเดือนหรือสองเดือนต้องไปเติมทีนึง เมื่อกี้ผมก็เพิ่งขับเอาไปเติมลมที่ปั้มมา  เพราะขี้เกียจขับไปที่ร้านยาง แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 50 19:10:49 แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 50 19:10:09 แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 50 19:09:14 จากคุณ : ton99 - [ 12 เม.ย. 50 19:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมไม่อยากอ้างอิงข้อมูลจากผู้ผลิตว่าไนโตรเจนทำให้คุณภาพยางนานขึ้น 25 % เพราะว่าจะกลายเป็นการเชื่อคำโฆษณา แต่จากการใช้งานมันเป็นไปทางลักษณะนั้น เพราะยางที่ซื้อมาใช้จะเป็นยางเกรดเดิมๆ ระยะหลัง 3-4 ปีมานี้ใช้ยี่ห้อบริดสโตนยี่ห้อเดียว ถ้าให้สันนิษฐานอย่างมีเหตุมีผล น่าจะเกิดจากความชื้นน้อยกว่า แรงดันเปลี่ยนแปลงน้อยกว่า เลยทำให้ยางเสื่อมช้ากว่า เหมือนลองเอาหนังสติ๊กมา 2 เส้น เส้นหนึ่งพ่นละอองน้ำเข้าไปและยืดเข้ายืดออกด้วยความยาวมากกว่า(เปรียบเสมือนยางมีการบิดตัวมากกว่า) อีกเส้นหนึ่งแทบไม่พ่นละอองน้ำลงเลย ระยะยืดเข้ายืดออกสั้นกว่า นานๆเข้ายางเส้นไหนจะขาดก่อนกัน และก่อนยางขาดคุณสมบัติด้านการยืดหยุ่นอันไหนถึงเร็วถึงช้าก่อนกัน อันนี้คิดเอาเองแต่อิงเหตุผล ท่านอื่นเห็นเป็นอย่างอื่นช่วยแนะนำด้วยครับ จากคุณ : นที - [ 12 เม.ย. 50 23:49:21 A:125.27.118.11 X: TicketID:072386 ]

ความคิดเห็นที่ 20 นั่นซิขอรับ มันจะยืดอายุยางได้ยังงัย ในเมื่อมันอยู่ในยาง แต่ส่วนที่สึกหรอ และเสื่อมสภาพ มันเป็นด้านนอก ของยาง ขออนุญาติ คุณ นที คัดลอกข้อความมาแปะ เพราะผมรู้สึกว่ามันขัดแย้งกันเอง "แรงดันลมธรรมดาภายในยางมีความชื้นทำให้แรงดันภายในสูงขึ้น ผิวยางขยายตัวตามแรงดัน แต่อัตราส่วนการขยายตัวของผิวยางกับแรงดันไม่สัมพันธ์ในช่วงที่ยางร้อน เลยทำให้แรงดันที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงพอให้หน้ายางมีความตึงเท่าเดิม" "แต่ไนโตรเจนมีความชื้นน้อย การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้อย แรงดันภายในเพิ่มน้อย ความตึงผิวยางจึงรักษาสภาพคงเดิมใกล้เคียงตอนยางเย็น " เรื่องอุณหภูมิยาง และ ความดัน คุณว่า ลมธรรมดา ความร้อนเพิ่ม ความดันเพิ่ม แต่ยางอ่อนลง ไนโตรเจน ความร้อนน้อย ความดันเพิ่มน้อย แต่ยางกลับแข็งเหมือนเดิม ผมว่ามันจะตรงข้ามมากกว่านะครับ ในความเห็นผม ผมว่าแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างจากลมธรรมดา ถ้าเติมลมที่แรงดันเท่ากัน เริ่มวิ่งพร้อมกัน ยางก็เริ่มร้อนขึ้นเท่าๆ กัน จนร้อนถึงอุณหภูมิหนึ่งที่ มันจะคงที่ เพราะมีลมพัดผ่านระบายความร้อนให้ สมมุติว่า มันคงที่ที่ 60 องศา เมื่ออุณหถูมิ ไม่ต่าง ความดันก็ไม่ต่าง T1/T2 = P1/P2ตามหลักของ เทอร์โมไดนามิกส์ ที่มีผลน่าจะเป็นตัวความชื้นมากกว่า ที่จะเปลี่ยนสภาพเป็นแก้ส แล้วความดันมันเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย ผมเห็นว่าประโยชน์ ที่เห็นชัดเจนสุด ของไนโตรเจน คือความแห้ง และความเฉื่อย ของตัวมันเอง ที่จะทำให้ไม่มีการเกิดปฏิกิริยา ที่ยางและล้อ ทำให้ซีลจุ๊บไม่เปื่อย ไม่ซึม ถ้าปั๊มลมมีกรอง มีดรายเออร์ และมีการเดรนน้ำทิ้งเสมอ ก็ไม่แตกต่าง ปล. มันเป็นเกมของธุรกิจเค้า ร้านอื่นมี แล้วมันเกทับ เค้าก็ต้องมีตาม เพื่อไม่ให้เสียลูกค้าไปให้ร้านอื่น เมื่อลงทุนซื้อมาแล้วก็ต้องขายของให้ได้ ไม่งั้นมันจะจม ทำยังงัยถึงจะขายได้ล่ะ ก็ต้องโฆษณาชวนเชื่อซิครับ แล้วการโฆษณาที่ไหนมันไม่เกินจริงบ้าง แฟนใครเคยใช้ครีมหน้าขาวแล้ว เปลี่ยนจากดำเป็นขาวแบบในทีวีบ้าง ใครใช้ยาสระผมแล้วรังแคหายตั้งแต่ครั้งแรกที่สระบ้าง ใครใช้โอโม่แล้วผ้าขาวแบบนั้นบ้าง จากคุณ : . (Tread'em all) - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 02:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าสะดวกที่จะใช้ก็ใช้ ข้อดีของมันดีกว่าเติมลมธรรมดาแน่ๆ แต่ว่าดีพอที่จะคุ้มค่ากับความยุ่งยากที่จะตามมาไหม ถ้าคิดว่าคุ้มก็เติม ไม่คุ้มก็ไม่ต้อง จากคุณ : penn's - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 12:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 22 นั้นคงต้องวานผู้ที่จำหลักการเรื่องยางเมื่อวิ่งทางไกล เหตุใดควรเติมลมเพิ่มขึ้นเอาไว้ประมาณ 2-4 ปอนด์ ทั้งๆที่เมื่อยางวิ่งนานๆแรงดันก็เพิ่มในตัวอยู่แล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปอนด์ หากเราเพิ่มไว้ก่อนเดินทางอีก 2 ปอนด์ กลายเป็นแรงดันรวมเพิ่มประมาณ 4 ปอนด์หรือมากกว่านั้น คงเป็นเรื่องที่ต้องเก็บข้อมูลไว้ถกเถียงกันต่อไปในโอกาสหน้า จากคุณ : นที - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 14:15:09 A:125.27.118.136 X: TicketID:072386 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แต่เรื่องทำให้ยางมีคุณสมบัตินานขึ้น ล่าสุดได้สอบถามข้อมูลจากผู้ใช้รถรุ่นเดียว ยางติดรถเหมือนกัน ใน lancerthailand ให้ข้อมูลว่าวิ่งได้สัก 20,000 โลเริ่มดังนิดๆ พอถึง 30,000 กว่าโลดังและกระเทือนเหมือนขับแรลลี่ จนอยากเปลี่ยนยางแล้ว แต่รถผมเองตอนนี้วิ่งมา 42,000 โล ยังจัดว่านิ่ม กระด้างบ้าง พอๆกับยางตอน 20,000 โลกว่าได้ (เพราะตอนแรกเติมลมธรรมดา มาเติมไนโตรเจนตอนสัก 20,000 โล) แรงดันก็ปกติ ตก 2 เดือนเช็คทีจะลดไปประมาณ 1 ปอนด์ จากคุณ : นที - [ วันมหาสงกรานต์ (13) 14:32:30 A:125.27.118.136 X: TicketID:072386 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องแรงดันลมยางที่เปลี่ยนแปลง ผมมองไม่เห็นความแตกต่างระหว่าง ลมธรรมดาที่ผมใช้อยู่กับไนโตรเจนที่แถมฟรีและที่เสียเงิน200เลย วิ่งใกล้ๆขึ้น 2psi นี่ก็ปกติ วิ่งยาวหน่อยขึ่น 4psi นี่ก็ปกติ ถ้าวิ่งเร็วจัดๆถนนร้อนๆ 6psi  นี่ก็ปกติ ถ้าลมอ่อนหน่อยก็จะขึ้นเยอะหน่อยด้วยกันทั้งคู่ ท่านที่บอกว่าแรงดันมันต่างกัน  ผมอยากให้ลองวัดเทียบกันดูหน่อยว่าได้ผลเป็นอย่างไร เพราะที่ผมวัดมา  ก็ไม่เห็นมันจะต่างกันเลย ลมยางที่หายก็หายไปแทบไม่ต่างกันเลย คือเดือนกว่าๆถึงสองเดือนหายไป 1psi เรื่องขับทางไกลแล้วเพิ่มลม  ผมไม่รู้ว่าไปจำจากไหนกันมา รถผมคันนึง  วิ่งไกลหรือไกล  ผมก็เติมเท่ากันตลอด ล้อหน้า 30  หลัง 27-28  แล้วแต่ว่ามีคนนั่งหลังหรือเปล่า ไม่เคยคิดจะเพิ่มลมให้มากกว่านี้เลย  เพราะว่าถ้าเพิ่มยางมันจะกระด้างขับแล้วไม่สบายเลย แค่นี้ก็กระด้างเอาเรื่องแล้ว อีกคันตาม spec บอกว่าถ้าขับต่ำกว่า 160km/h ให้เติม 29 ทั้งสี่ล้อ ถ้าขับเกิน 160km/h ให้เติม 32 ทั้งสี่ล้อ แต่ผมลองเติม 32 ตอนวิ่งหลายไกลอยู่หลายครั้ง  แต่ไม่ประสบผลสำเร็จสักครั้ง เพราะว่ายางมันกระด้างจนเกาะถนนได้แย่ลง ผมก็เติม 30-31 เอาไว้แล้วแต่อารมณ์ แรงดันลมที่ผมวัด  ผมจะวัดตอนดึกหรือไม่ก็ตอนเช้าเลย เพราะถ้าไปวัดที่ปั้มแล้วมันจะขึ้นมาอีกเยอะพอสมควร เคยวัดที่บ้านได้ 29 แล้วขับไปที่ปั้มวัดได้ 32 เติมที่ปั้มเพิ่มเป็น 34 ขับกลับบ้านแล้ววัดใหม่เหลือ 33 ทิ้งไว้ดึกๆมาวัดเหลือ 32 เรื่องแรงดันที่เพิ่มขึ้นตอนยางร้อน มันไม่ได้เพิ่มแบบตายตัว เช่นเติม 30 ขับไปแล้วขึ้น 36   พอเติม 32 จะขึ้นเป็น 38 จากที่ผมวัดมา  มันจะเป็นลักษณะนี้มากกว่า คือเติม 30 ขึ้นเป้น 36 พอเติม 32 จะขึ้นเป็น 37 ที่เป็นอย่างนี้เพราะ ยางแข็งกว่ามันจะบดถนนน้อยกว่าความร้อนของยางน้อยกว่า ทำให้ความร้อนที่ถ่ายเทไปที่ลมยางมีน้อยกว่า  แรงดันจึงเพิ่มน้อยกว่า คนที่ใช้ลมไนโตรเจนแล้วบอกว่านิ่มขึ่น ผมว่าน่าจะเป็นเพราะว่า  ลมยางเก่าอาจจะชื้นมาก พอขับไปแล้วยางร้อน  แรงดันลมขึ้นสูง  ยางก็เลยแข็ง พอมาเปลี่ยนเป็นไนโตรเจน  แรงดันตอนยางร้อนจะขึ้นสุงไม่มากเท่า  ก็เลยไม่รู้สึกแข็ง แต่ที่แปลกคือลมไนโตรเจน ที่ใครๆชอบบอกว่าเติมแล้วนิ่มขึ้น ผมเติมแล้วกลับรู้สึกว่ามันกระเทือนมากขึ้น อีกเรื่องที่น่าสงสัยคือ  ลมไนโตรเจนที่เติมๆกันนั้น จะดูได้ยังไงว่าลมนั้นมันเป็นลมไนโตรเจนที่มีคุณสมบัติดีกว่าลมธรรมดา ร้านยางบางร้านผมดูแล้วเหมือนว่าลักไก่เอาลมธรรมดามาหลอกลูกค้าว่าเป็นลมไนโตรเจนมากกว่า ลูกค้าบางคนอาจจะบ้าจี้ว่าขับแล้วรู้สึกนิ่มขึ้นก็ได้ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 50 02:48:27 แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 50 02:47:41 จากคุณ : ton99 - [ วันเนา (14) 02:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ทราบครับ คงต้องขอเก็บข้อมูลต่อไป ยังไม่ได้ข้อสรุป จากคุณ : นที - [ วันเนา (14) 08:20:54 A:210.86.221.174 X: TicketID:072386 ]

ความคิดเห็นที่ 26 กับเรื่องถ้าปัญหาสำคัญคือความชื้นในอากาศ เราจะเติมลมธรรมดาได้ที่ไหนที่มีการกรองความชื้นได้ดีๆ คงจะหายากมาก เพราะเครื่องปั๊มลมแต่ละแห่งเวลาติดเครื่องแล้วมันปั๊มลมได้เจ้าของเครื่องก็ไม่สนใจแล้วว่าตัวกรองน้ำจะดีอยู่หรือไม่ จะสนใจอีกทีตอนเครื่องเสียต้องซ่อม จากคุณ : นที - [ วันเนา (14) 08:29:30 A:210.86.221.174 X: TicketID:072386 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จากประสบการณ์ที่ร้านนะครับ ผมคิดว่า การเติมไนโตรเจนครั้งแรก ไม่ว่าจะเติมอย่างไร ก็ไม่สามารถเติมไนโตรเจนได้ 100เปอร์เซนต์ เพราะจะมีลมธรรมดาค้างอยู่ในยาง แต่พอเราเติมไนโตรเจนแล้ว พอลมยางเริ่มซึม(ซึ่งผมเข้าใจว่า ลมที่ซึมคืออ๊อกซิเจน เพราะอ๊อกซิเจน มีโมเลกุน เล็กกว่าไนโตรเจน 3เท่า) เราเติมไนโตรเจนเพิ่มเข้าไป ไนโตรเจนก็จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะดูจากรถลูกค้าที่เติมไป บางคันที่เติมต่อเนื่อง ผ่านไป 4เดือนมาเช็คลม ลมยังเท่าเดิมเลยครับ ผมคิดว่า ประโยชน์แค่ลมยางซึมช้าลง ก็เป็นประโยชน์มหาศาลแล้ว สำหรับชีวิตคนในเมืองครับ จากคุณ : หมู (sportmag100) - [ วันเนา (14) 17:37:46 ]