ความคิดเห็นที่ 3

------------------------------------------ HONDA 2009 : FREED มาแน่ๆ ช่วงกลางปี 2010 : ECO Car ยืนยัน เจอกัน เร็วสุด ช่วงต้นปี + JAZZ & CITY MINOR CHANGE 2011 : ALL NEW CIVIC (PROJECT 2HC)
การเปิดตัว แจ้สใหม่ ในเดือนมีนาคม และ ซิตี้ใหม่ เมื่อ 10 กันยายน รวมทั้ง ซีวิค ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมระบบนำร่อง GPS ทั้งรุ่น 1,800 และ 2,000 ซีซี ถือเป็นการถล่มระเบิดลูกโตๆ 3 ลูกรวด เข้าใส่ตลาดรถยนต์นั่ง ต่อเนื่องจากซีอาร์-วี ในปี 2006 และ แอคคอร์ดใหม่ ปลายปี 2007 ผลลัพธ์ก็คือ ความนิยมในตลาดรถยนต์นั่งของฮอนด้า บางรุ่น ก็เริ่มทำยอดขายแซงหน้าคู่แข่งตลอดกาลอย่างโตโยต้าได้เป็นผลสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แจ้สกับซิตี้ ที่เล่นเอา โตโยต้าถึงกับปาดเหงื่อ กุมขมับกับยอดขายของ วีออส และ ยาริส กันเลยทีเดียว แม้ว่า สถานการณ์ราคาน้ำมัน ปัญหาเศรษฐกิจโลกและการเมืองไทย จะรุมเร้ามากแค่ไหนก็ตาม แต่ ฮอนด้า ยังคงเป็นผู้ผลิตรายเดียว ที่ยื่นขอเพิ่มกำลังการผลิต แถมยังเปิดโรงงาน 2 ในพื้นที่ส่วนต่อขยาย ของโรงงาน โรจนะ สวนกระแสอย่างน่าทึ่ง เพราะปั้มไม่ทันขาย ทั้งที่ชาวบ้านชาวช่อง เขาปรับลดการผลิตลงเป็นทิวแถว ถึงจะคาดการณ์ไว้แล้วว่า ปี 2009 จะเหนื่อยหน่อยก็ตาม
แต่ใช่ว่า อาวุธจะหมดคลังแสง เพราะฮอนด้ายังซุ่มเงียบ และกำลังสำรวจตลาดเพื่อ เตรียมแผนนำเข้า FREED มินิแวน 7 ที่นั่ง ประตูบานเลื่อน บนโครงสร้างวิศวกรรม และเครื่องยนต์ 1,500 ซีซี จาก แจ้ส และ ซิตี้ โดยคราวนี้ ฮอนด้าตั้งใจจะ สั่งนำเข้า จากโรงงานในอินโดนีเซีย ซึ่งจะถูกปรับปรุงงานด้านคุณภาพ ตามนโยบาย GLOBAL STANDARD หรือ มาตรฐานเดียวทั่วโลก เพื่อหวังพิฆาต โตโยต้า อแวนซ่า ให้ราบคาบ คาดว่าราคาน่าจะอยู่ในช่วง 6 - 8 แสนบาท ตามแต่ละรุ่นย่อย ซึ่งได้แต่หวังว่า ฮอนด้าจะศึกษาบทเรียนด้านการควบคุมคุณภาพ จากกรณีของ มินิแวน รุ่นสตรีม รองรับไว้แล้ว)
จากนั้น ในช่วงปลายปีนี้ ซีอาร์-วี จะถึงเวลาปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ กันเสียที ถามว่าจะปรับโฉมกันอย่างไร ให้ดูแนวทางจาก ซีอาร์-วี เพรสทีจ ที่เพิ่งเปิดตัวไปในมอเตอร์เอ็กซ์โปครั้งล่าสุดนี้เป็นเกณฑ์ ระบบนำร่อง พร้อมจอมอนิเตอร์แบบสหกรณ์ ของฮอนด้า แอคเซส ที่มีหน้าตาเหมือนเครื่องเล่น DVD จากคลองถม จะตามมาประจำการในรุ่น 2,400 ซีซี และ 2,000 ซีซี ขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นหลัก
ด้านอภิมหาโครงการรถเล็ก ECO CAR ที่จะสร้างขึ้นจากพื้นตัวถังรถขนาดเล็กร่วมกับ เค-คาร์คันจิ๋วรุ่น ไลฟ์ อันเป็นจิ๊กซอร์ชิ้นสำคัญ ที่จะต่อยอดเป็นภาพ โครงการพัฒนารถยนต์ขนาดเล็ก Sub-B-segment ระดับโลกยุคใหม่ ที่มีขนาดเล็กกว่า แจ้ส ล่าสุด มีการยืนยันว่า รูปแบบของตัวรถจะเป็นแบบแฮตช์แบ็ก 5 ประตู วางเครื่องยนต์ บล็อก 3 สูบ 1,200 - 1,300 ซีซี น้ำหนักเบา มีกำลังประมาณไม่เกิน 90 แรงม้า (PS) ขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะเป็นพื้นฐาน ส่วนเกียร์อัตโนมัติ เป็นแบบ 4 จังหวะ พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยจะไปโผล่ในรุ่นท็อป ซึ่งอย่างน้อยๆ ต้องมีถุงลมนิรภัยมาให้ 1 ลูก ฝั่งคนขับมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และมีกำหนดจะส่งขึ้นโชว์รูมได้ภายใน ช่วงต้นปี 2010 แม้จะไม่ฉับไวเท่านิสสัน ที่ชิงเล่นมุขจับ เอามาร์ชใหม่ มาตีตั๋วเด็ก (อ่านรายละเอียดต่อ ในบทความนี้ ส่วนของนิสสัน) แต่ก็ถือว่าเร็วทันใจกว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ โดยเฉพาะคู่รักคู่แค้นอย่างโตโยต้า ซึ่งต้องรอกันจนถึง 2012
ส่วนใครที่ถามไถ่ว่า เมื่อไหร่ ซีวิค จะเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ คำตอบก็คือ ไม่ต้องรอ ยังซื้อรุ่นปัจจุบันมาใช้ได้เลย เพราะตอนนี้ ซีวิครุ่นใหม่ เพิ่งจะมีรหัสโครงการหลุดรอดออกมาว่า 2HC และทุกอย่าง ยังคงไม่เสร็จสมบูรณ์ และกว่าที่จะมีความ เคลื่อนไหวอีกครั้ง คงต้องรอกันจนถึง ปลายปี 2010 ถึงจะเริ่มเห็นเค้าโครงหน้าตาของรถคันจริง เพราะกว่าจะเปิดตัวในตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และไทย เหลื่อมล้ำกันนั้น จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ กันยายน - พฤศจิกายน 2011 หนทางยังอีกยาวไกล อย่าเพิ่งรีบไต่ถามกันในตอนนี้
------------------------------------------ HYUNDAI SONATA MINOR CHANGE แม่สายบัวแต่งตัวเก้อ?
ตลอด ขวบปีแรกที่เริ่มกลับมาทำตลาดอีกครั้ง ภายใต้การดูแลของ ฮุนได มอเตอร์ ประเทศไทย ในเครือของ SOJITSU เทรดดิง คัมพานี รายใหญ่จากญี่ปุ่น ที่มักเป็นพาร์ตเนอร์คู่หูรายสำคัญของฮุนไดทั่วโลก ถือว่าทำยอดขายไปได้ในระดับน่าพอใจ ด้วยยอดขายรวมทุกรุ่นเกินกว่า 800 คัน อย่างไรก็ตาม ในเมื่อรถตู้ H-1 กลายเป็นอัศวินม้าขาว ที่ช่วยกอบกู้ยอดขายของฮุนได ด้วยตัวเลขมากถึง 500 กว่าคัน ที่เหลือ มีทั้งโซนาต้า 2,.000 ซีซี ทั้งแบบมาตรฐาน และแบบ CNG (เปิดตัวช่วงเดือน สิงหาคม) และรุ่น 2,400 ซีซี รวมทั้งคูเป้ อสยูวี ซานตา เฟ และรถบรรทุกเล็ก H-100 (3 รุ่นหลัง เป็นรถยนต์นำเข้าจากเกาหลี) พอประคับประคองให้ฮุนได ผ่านพ้นปีแรกไปได้อย่างน่าพอใจ
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับฮุนไดในปีหน้าคือ ความกังวลของผู้บริหารชาวญี่ปุ่น และบริษัทแม่ในเกาหลี ต่อสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาอันเป็นตลาดหลักของฮุนได ที่ฟุบไปเรียบร้อยแล้ว จนต้องเล่นแคมเปญแจกส่วนลด 3,000 เหรียญสหรัฐ รวมทั้งในเมืองไทย ที่น่าจะได้รับผลกระทบอยู่ไม่น้อย ดังนั้น ในปีหน้า นอกจากจะต้องเดินหน้าขยายผู้จำหน่าย และศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง แล้ว ดูเหมือนว่า ฮุนได จะมีแค่การนำ H-1 มาตกแต่งเป็น รุ่นพิเศษ จำพวก SPACIAL EDITION อันเป็นมุขกระตุ้นตลาดในช่วงบางกอกมอเตอร์โชว์ ปลายมีนาคมนี้
นอกนั้น โซนาตา ไมเนอร์เชนจ์ ที่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ด้านหน้า ไปจนถึง การปรับปรุงห้องโดยสารใหม่ ให้ดูดีขึ้น แต่ยังคงสมรรถนะที่น่าลองขับเอาไว้เหมือนเดิม ยังคงอยู่ในสภาพลูกผีลูกคน ว่าสมควรจะสั่งนำเข้ามาประกอบในประเทศอีกหรือไม่ ขณะเดียวกัน แผนประกอบ เอสยูวีรุ่น ซานตา เฟ พร้อมขุมพลังดีเซล เทอร์โบ คอมมอนเรล นั้น บัดนี้ แผนดังกล่าว ถูกพับเก็บเข้าลิ้นชักไปเรียบร้อยแล้ว ไม่นับรวมรุ่นคูเป้ ที่จำหน่ายออกไปจนเหลือรถในสต็อกไม่กี่คันเท่านั้น ทั้งหมดนี้คือสถานการณ์ ของฮุนได ในเวลานี้ ต่อเนื่องจนถึงปีหน้า
----------------------------------------- ISUZU 2009 : GOLD, PLATINUM & THEN...WHAT?? 2010 : THE NEXT D-MAX "RT50 PROJECT" ? 2011 : ALL NEW RT50 SUV ( MU-7 REPLACEMENT)?
แม้จะเสียแชมป์ตลาดรถกระบะให้กับโตโยต้าไปแล้ว แต่ปีนี้ ด้วยเหตุที่ผู้บริโภคพากันผิดหวังว่า โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ไมเนอร์เชนจ์ ปรับเปลี่ยนไม่เยอะ เลยหันกลับมาหา ดีแมกซ์รุ่น แพล็ตตินัม (เพิ่มอุปกรณ์พิเศษเล็กน้อย) ทำให้ยอดขายของ รถกระบะอีซูซุ พุ่งขึ้นมาในช่วง 4 เดือนหลังของปีนี้ หลังจากที่ซบเซาอย่างหนักในช่วงที่ราคาน้ำมันดีเซล แพงเกินจริง อีกทั้งการกระตุ้นยอดขายด้วย รุ่น GOLD-SERIES ในช่วงต้นปี ตามด้วยรุ่น PLATINUM-SERIES ในช่วงเดือนกันยายน ก็ช่วยให้โชว์รูมของอีซูซุยังพอมีลูกค้าเดินแวะเวียนเข้าไปใช้บริการกันบ้าง แม้ว่าลูกค้าจะหายในช่วง ราคาน้ำมันดีเซลแพงกระหน่ำ ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ไปหลายเดือนก็ตาม
แต่ปี 2009 คาดว่า อีซูซุ อาจจะต้องประคองตลาดของตน ด้วยรุ่นกระตุ้นตลาด อีกสักครั้งหนึ่ง ก่อนการมาถึงของ รุ่นเปลี่ยนโฉมโมเดลเชนจ์ สำหรับ ดีแมกซ์ รหัสโครงการ RT50 เพราะมิเช่นนั้น การลากทำตลาดดีแมกซ์รุ่นปัจจุบัน โดยไม่มีการปรับโฉมอะไรเลย ในปีนี้ อาจจะถึงขั้นทรุดจนเข่าอ่อนได้ง่ายๆ แต่จะใช้ชื่ออะไรนั้น คงต้องดูกันต่อไป แต่คาดว่า ไม่พ้น ชื่อบัตรเครดิตอะไรสักอย่างอีกเป็นแน่...
ด้านโครงการ RT-50 ยังคงปิดเป็นความลับ และดูจะไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมใดๆมากไปกว่าการที่อีซูซุ จะยังพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่นี้ต่อไป โดยอาศัยความร่วมมือจากจีเอ็มเช่นเคย แต่คงจะลดการพึ่งพากันให้น้อยลง หลังจากที่ จีเอ็ม ถอนหุ้น ออกจากอีซซุไปมากแล้ว ดังนั้น ฐานการพัฒนาหลัก จึงยังคงอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และไทย เบื้องต้นนั้น RT50 จะใช้โครงสร้างวิศวกรรมร่วมกับ รถกระบะรุ่นใหม่ของเชฟโรเลต จากโครงการ GMI700 แต่ปรับปรุงจุดด้อยต่างๆ ให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ อีกทั้งยังต้องเพิ่ม บานแค็บเปิดได้ ตามเสียงเรียกร้องของลูกค้า ขณะที่เครื่องยนต์ จะถูกปรับปรุงใหม่ บนพื้นฐานของเครื่องยนต์เดิมที่ออกขายกันอยู่แล้ว ทั้ง 2,500 และ 3,000 ซีซี
กำหนดคลอดอย่างเป็นทางการนั้น เดิมที จะเริ่มขึ้นสายการผลิตจริง SOP (START ON PRODUCTION) ในเดือนมกราคม 2010 แต่ด้วยเหตุที่กระแสข่าวว่ามีซัพพลายเออร์บางราย รับแจ้งการเลื่อนคำสั่งซื้อ อย่างไม่มีกำหนด ทำให้เราต้อง จับตาดูว่า โครงการนี้จะถูกเลื่อนออกไปอีกนานแค่ไหน หรือว่าจะยังเดินหน้ากันต่อไปตามแผนเดิม ซึ่งความเป็นไปได้ น่าจะเป็นประการหลังมากกว่า แต่ที่แน่ๆ อีซูซุ จะเปิดตัวก่อนหน้าเวอร์ชันของ เชฟโรเลต โคโลราโด GMI 700 แน่นอน
ส่วนเวอร์ชันเอสยูวี หรือรุ่นเปลี่ยนโฉมของ มิว-7 นั้น จะถูกสร้างขึ้นบนโครงสร้างพื้นฐานของ ดีแมกซ์ใหม่ RT-50 ตามกำหนดการเดิม ถูกวางไว้ให้ขึ้นสายการผลิตจริง ในเดือนมกราคม 2011
----------------------------------------- JAGUAR รอดู XF-R
การถูกซื้อกิจการจากอ้อมอกของฟอร์ด ผู้ร้อนเงิน ไปอยู่ในเครือของ ทาทา มอเตอร์ ร่วมกับแลนด์โรเวอร์ คือข่าวใหญ่ของแจกัวร์ ในต่างแดน ช่วงเดือนมีนาคมที่แล้ว แต่การเปิดตัว XF ซีดานใหม่ กลางสยามพารากอน คือไฮไลต์ สำคัญของ แจกัวร์ ในเมืองไทย จัดงานได้อลังการไม่เบาเลยทีเดียว แถมค่าตัวก็อลังการไม่แพ้กัน คือว่ากันที่ 6.2 ล้านบาทขึ้นไป แต่ใช้วัสดุในห้องโดยสาร เกรดเดียวกับ วอลโว S80 อดีตเพื่อนพ้องร่วมสำนัก แต่ในปีนี้ AAS ในฐานะผู้นำเข้ายนตรกรรมระดับพรีเมียม วางแผนจะนำเข้า XF-R เวอร์ชันสุดฮ็อต ของ XF มาให้ได้สัมผัสกันในราคาที่คาดว่าไกลเกินเอื้อมอีกแน่นอน ------------------------------------------ KIA / NAZA เมื่อมี FORZA แล้ว ECO CAR ก็หมดความหมาย
การเปิดตัว นาซา ฟอร์ซา ซึ่งยนตรกิจอ้างว่า เป็นรถยนต์มาเลเซีย ทั้งที่แท้จริง เป็นรถยนต์จากจีน ยี่ห้อ ฮาเฟ่ย โลโบ้ ราคึาเริ่มต้น 389,000 บาท ดูจะเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญรายการเดียวในปีที่ผ่านมา เพราะนอกนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูจะเงียบ สำหรับ เกีย ในเครือของยนตรกิจ นอกนั้น อย่าคาดหวังว่าจะเห็นรถยนต์รุ่นใหม่จากเกียกันได้ง่ายดายเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป มีเพียง K2700 รถกระบะส่งของ ที่ยังคงพอจะมียอดขายเข้ามาบ้าง ไม่มากนัก ที่เหลือ ทั้งโซเร็นโต แกรนด์ คาร์นีวัล ก็ยังคงทำตลาดต่อไปเรื่อยๆ ไม่หวือหวา
------------------------------------------ LAMBORGHINI & LOTUS (BY NICHE CAR) LP560-4 SPYDER และ EVOLA น่าจะมา
ค่ายกระทิงดุ ภายใต้การทำตลาดของ NICHE CAR รวมทั้งผู้นำเข้ารายย่อยอีกมากมาย กลับมาได้รับความนิยมในหมู่นักเลงรถไฮโซชาวไทยอีกครั้งหลังจากที่ รถสปอร์ตรุ่นใหม่ๆ เริ่มทะยอยเข้ามา พร้อมกับสมรรถนะที่จัดจ้าน และคุณภาพ การประกอบที่ดีขึ้นผิดหูผิดตาจากเดิม ทั้งมรูธิเอร์ลาโก และกัลญาร์โด และจะว่าไปแล้ว เกือบจะทุกรุ่น ก็ถูกนำเข้ามาทำตลาดในบ้านเราเกือบหมด (ยกเว้น REVENTON เพราะทำออกมาแค่ 20 คัน และ1 ในนั้น มีเจ้าของเอาไปมิดจนพังยับ เรียบร้อยแล้ว -_-' เห็นว่าชาวประชาบ้ารถในโลกไซเบอร์ พากันสวดชยันโต ให้กับเจ้าของรถดวงซวยรายนั้นกันใหญ่โต) ขณะเดียวกัน โลตัสเอง ก็ยังคงมียอดขายไปได้เรื่อยๆ แม้ไม่ถึงกับหวือหวาเท่าแลมโบกีนีก็ตาม
ปีนี้ มีวี่แววว่า เราอาจจะได้เห็น กัลญาร์โด LP560-4 สไปเดอร์ เปิดประทุน วางเครื่องยนต์ วี 10 5,200 ซีซี 560 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 55.02 กก.-ม. ที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดโลกไปหมาดๆ กันบนถนนเมืองไทย หากไม่มีอะไรคลาดเคลื่อน รายละเอียดของ ตัวรถ เปิดไปอ่านได้ ในคอลัมน์ NEW CAR ฉบับนี้ ส่วน โลตัส นั้น ปีนี้มีแนวโน้มว่า รถสปอร์ตรุ่นล่าสุด อีโวลา อาจจะเข้ามาเปิดตัวในบ้านเราด้วยเช่นเดียวกัน
จากคุณ :
JIMMY
- [
วันปีใหม่ 00:04:58
]
|
|
|