ความคิดเห็นที่ 1 -- ท้าวความกันก่อนนะครับ Optra เปิดตัวครั้งแรก ในปี 2003 โดดเด่นด้วยกระจังหน้า แบบ 3 ช่อง เส้นสายรอบคัน มาจากปลายปากกาของ PININFARINA ครับ มีให้เลือกกัน 2 เครื่องยนต์คือ 1.6 และ 1.8 ครับ -- พวกรุ่นแรก ตัว 1.6 จะได้ล้อขอบ 14 นิ้ว 5 ก้านครับ ในขณะที่ตัวแพง คือ 1.8 จะได้ล้อ 15 นิ้ว ครับผม (แต่หลังจากนั้น 1.6 ก็ได้ล้อ 15 นิ้ว เหมือนตัว 1.8 แล้วล่ะ) แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 21:24:50 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:21:35 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:39:56 ]

ความคิดเห็นที่ 2 -- พอมาถึงปี 2005 ก็มีการไมเนอร์เชนจ์อีกครั้งครับ ด้วยการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ เป็นแบบช่องเดียว ปรับเปลี่ยนแผงหน้าปัดใหม่ จากช่องแอร์เหลี่ยม เป็นช่องแอร์กลม (ช่วงนั้น ยังมีปนกันนะครับ กระจังหน้าช่องเดียว แอร์เหลี่ยม ก็มี แอร์กลม ก็มี ครับ งงมะ) รวมถึง เพิ่มสีภายในจากเดิมที่มีแต่สีเบจ เป็น สีเทา ด้วยครับ -- จำได้ว่า ช่วงนั้น Chev ช็อคตลาดด้วยการทำโปรข้าราชการ - โปรหมอ ที่ไม่ต้องดาวน์ ผ่อนอย่างเดียวครับ เลยมีรถรุ่นนี้ออกมาให้เห็นหนาตาขึ้นพอสมควรครับ -- นอกนั้น ยังมีการทำตลาดด้วยรุ่น Estate ด้วยครับ รุ่น Estate แอบทำตลาดเงียบๆ มานั่งแต่ช่วงปลาย ของรุ่นกระจังหน้าสามช่องแล้วล่ะ แต่ไม่ค่อยโปรโมท มาขยันหน่อยก็ตอนรุ่นช่องเดียวครับ จำได้ว่า มันเป็นรถ Estate ที่ดีไซน์ได้ลงตัวมากๆคันหนึ่งเลยล่ะ ออกมาตอนแรกมีแต่เกียร์ M/T เครื่อง 1.6 หลังจากนั้นอีกพักใหญ่ๆจึงใส่ A/T มาให้ครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 21:25:28 แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:21:56 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 -- และในปี 2008 (ความจริงก็ปลาย 07 แหละ) ก็มีการไมเนอร์เชนจ์อีกครั้ง คราวนี้ เปลี่ยน Look ที่เคยดูภูมิฐาน ให้ดูสปอร์ตขึ้น ไฟหน้าตาเล็กลง กันชนที่ดูสปอร์ตขึ้น ลดอายุคนขับได้แยะเชียว ครับ -- อ้อ และในระหว่างนี้ ยังมีพวกรุ่นย่อย อย่าง SS ที่มีการตกแต่งเพิ่ม Mag 16 นิ้ว สเกิร์ตรอบคัน และสีขาวพิเศษ ออกมา รวมถึงพวกรุ่น CNG ทั้งหลาย แต่จะขอไม่กล่าวถึงนะครับ (เพราะจำไม่ได้ แหะแหะ) แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:22:10 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:40:34 ]

ความคิดเห็นที่ 4 -- สำหรับรถ ที่ผมจะนำข้อมูลมาแชร์วันนี้ เป็นรถรุ่นปี 2008 ครับ ตัวไมเนอร์เชนจ์ ครั้งหลังสุดนี่แหละ รถคันนี้ออกมาราวๆปลายปี 07 นะครับ นับถึงวันนี้ ก็ปีเศษๆ  กับระยะทางบนมาตรวัดที่ 34,500 กม.ครับ รถเข้าศูนย์ตามระยะ  ผู้หญิงใช้ครับผม  ตั้งแต่ออกมาก็เจออุบัติเหตุหนักๆไป 3 ครั้งแล้วล่ะ รถยับ แต่คนขับไม่เคยได้รับบาดเจ็บนะครับ -- ออกตัวก่อนว่า ผมถ่ายภาพตอนช่วงเย็นใกล้มืด ซึ่งเจ้า RICOH R6 ผม ไม่ค่อยชอบแสงน้อยด้วยสิ การถ่ายเลยจำเป็นต้องใช้แฟลช ซึ่งภาพออกมาก็ไม่ค่อยจะได้เรื่องสักเท่าไหร่ครับ ภายนอก -- รถคันนี้เป็นรุ่น LS A/T ซึ่งก็คือ รุ่นถูกสุดของ Optra ล่ะครับ จุดต่างจากรุ่นแพง ( LT) ก็คือ ไม่มีถุงลมนิรภัย, ล้อฝาครอบ, ไม่มีสปอร์ตไลท์, ไม่มีไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ครับ -- ด้านหน้า ด้วยโคมไฟหน้าที่เล็กลง แต่ คุณภาพดีขึ้น (ไม่เป็นฝ้า จนต้องเคลม แบบตัว ตาโต) กันชนหน้าทรงใหม่ ฝังสปอร์ตไลท์ไว้ด้านข้างซ้ายขวา (คันนี้ขอเป็นของแถม) บวกกับสเกิร์ตหน้า ทำให้ดูสปอร์ตขึ้นแยะเลยล่ะ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:22:37 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:41:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 -- ด้านข้าง ยังเหมือนรุ่นก่อนเกือบทั้งหมดครับ ยกเว้น มือเปิดประตู ที่เปลี่ยนใหม่ เป็นแบบดึงครับ ดูดีขึ้น แต่ ยังดีไซน์ไม่ดีครับ เพราะเจอปัญหาสีถลอกบริเวณจุดหมุน ที่มือเปิดของประตูทั้ง 4 บาน ครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:22:48 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:42:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อันนี้ สังเกตจุดขาวๆ นะครับ นั่นแหละ ถลอกทุกด้านเลย จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:42:42 ]

ความคิดเห็นที่ 7 -- คันนี้ได้ สเกิร์ตรอบคัน ทรงศูนย์ แต่เป็นของเทียม แถมมาให้ครับ ก็คุณภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ชอบอ้าตรงกลางครับ ขับๆไป เสียงสเกิร์ตตีกับด้านข้างตัวรถตลอด เข้าศูนย์ที่ออกรถแก้แล้ว แก้อีก ยังไงก็ไม่หาย จนเจ้าของร่ำๆจะถอดทิ้งอยู่แล้ว ... จนมาให้อู่ทำสีข้างถนนทำให้ หุหุ ทีเดียวหายสนิทครับ ก็แค่หมุดยึดหลุด !!! จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:43:41 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ด้านท้าย  เหมือนกันหมดตั้งแต่รุ่นแรก จน รุ่นปัจจุบัน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงครับ แต่มีจุดสังเกตระหว่างรุ่น 1.8 และ 1.6 อยู่ 2 จุด (ถ้าไม่ดูป้ายท้ายรถ) คือ 1. ไฟท้าย รุ่น 1.6 จะเป็นโคมกลมด้านใน 2 โคม ในขณะที่ตัว 1.8 นั้น จะเป็นโคมเหลี่ยม 3 โคม โดยโคมล่างสุดจะเป็นไฟตัดหมอกหลังครับ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:44:14 ]

ความคิดเห็นที่ 9 2. คิ้วฝาท้าย รุ่น 1.6 จะเป็นสีเดียวกับตัวรถ ในขณะที่ตัว 1.8 จะเป็น โครเมี่ยม ครับ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ภายใน -- แผงหน้าปัด ทรงใหม่ (ตั้งแต่ไมเนอร์เชนจ์คราวก่อน) ก็ดูไม่เลวครับ คันนี้ตกแต่งด้วย ลายไม้วอลนัทรอบคัน ช่วยให้ดูไม่จืดเกินไปครับ เริ่มจากด้านขวา ของคอนโซลนะครับ ก็เป็นช่องแอร์ทรงกลม ต่ำลงมาเป็น สวิทช์ปรับความสว่างของเรือนไมล์ และ ช่องเก็บของจุกจิกครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:23:08 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:45:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 -- ขยับมาดูเรือนไมล์กันมั่ง ไฟยามค่ำคืนเป็นสีเขียวดูสบายตา ตรงกลางเป็นมาตรวัดความเร็ว ที่มีตัวเลขให้ใช้ถึง 220 กม. ส่วนซ้ายมือเป็นมาตรวัดความเร็ว ขวามือเป็นเกจ์วัดความร้อน และ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิงในถังครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:23:21 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 12 -- มาดูที่กลางคอนโซลกันมั่ง ก็ไล่ตั้งแต่ ช่องแอร์ พร้อม สวิทช์ปิดเปิดลม (สงสัยจังว่า ทำไมรถญี่ปุ่นหลายยี่ห้อ ช่องแอร์ตรงกลาง มักจะไม่มีสวิทช์ปิดเปิด ซึ่งผมว่า จำเป็นนะครับ) ต่ำลงมาเป็นสวิทช์ไฟฉุกเฉิน ตามด้วยวิเครื่องเสียงแบบ 2DIN เล่น CD/MP3 ได้ครับ (คุณภาพเสียงดีกว่า และทนกว่า BLAUPUNKT ที่ให้มาในรุ่นก่อนหน้าแยะ) -- ใต้เครื่องเสียงจะเป็นสวิทช์ควบคุมระบบปรับอากาศ ซึ่งมี HEATER และปุ่ม A/C มาให้ครบครัน ตรงนี้ถ้าเป็นตัว 1.8 คุณจะได้ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ (ก็แอร์ออโต้แหละ) มาใช้ครับ พูดถึงระบบแอร์ ขอเพิ่มเติมนิดนึง ระบบแอร์ของ Optra นั้น จะไม่เหมือนรถญี่ปุ่นครับ เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์ ถูกออกแบบให้ทำงานตลอด ไม่มีการตัดต่อการทำงาน ข้อดีก็คือ ยามแอร์ตัดต่อรอบเครื่องไม่มีสวิงขึ้นลง ยึกๆ ยักๆ แบบเจ้า Civic ให้น่ารำคาญเล่น รวมถึง อุณหภูมิจะคงที่ตลอดเวลา ไม่เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็นครับ -- แต่ข้อเสียก็มีนะ นั่นคือ ประสิทธิภาพในการทำความเย็น ยามรถร้อนๆ เจ้า Optra จะเย็นช้ากว่า พี่ต้า และ พี่ด้า พอตัวนะ  รวมถึง คุณภาพคอมแอร์ ที่ทำใน มาเลเซีย ไม่ดีเลยครับ (คันนี้เคลมมาแล้วว เมื่อเดือนก่อน มันหอนน่ะครับ) แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:23:48 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:46:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 -- ขยับมาฝั่งผู้โดยสารกันมั่ง ก็โล่งๆไม่มีอะไรครับ ลิ้นชักขนาดกลางๆ เด่นตรงที่ มีช่องรักษาความเย็น อยู่ขวามือ ดีไซน์ง่ายๆ ด้วยการต่อท่อ ของระบบแอร์มาเป่าลงตรงช่องนั้น ง่ายๆแต่ใช้ได้ดีทีเดียวครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:24:01 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:46:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 -- มาดูแผงประตูกันมั่ง ทางด้านคนขับ จะเป็นศูนย์รวมสวิทช์ต่างๆครับ ทั้งกระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน (ด้านคนขับ Auto เฉพาะขางลง) สวิทช์ล็อค/ปลดล็อค เซนทรัลล็อค รวมถึง สวิทช์ปรับกระจกมองข้างไฟฟ้า ที่อยู่บริเวณหูช้างครับ (แต่ผมว่า มันไกลมือไปหน่อยอ่ะ ไม่ค่อยสะดวก) -- ด้านบนของแผงประตู ถูกประดับไว้ด้วยลายไม้ เข้าชุดกับคอนโซลครับ มือเปิดประตูเป็นสีดำ (ถ้ารุ่น 1.8 จะเป็นโครเมี่ยม) ตรงนี้ ในรุ่นก่อนๆเห็นหักกันเป็นประจำ ไม่รู้รุ่นนี้แก้หรือยังนะครับ ติดกับมือเปิดเป็นลำโพงทวีตเตอร์ครับ ช่วยให้เวทีเสียงไม่จมลงกับพื้น (แต่คันนี้ตัดออกละ เพราะเปลี่ยนลำโพง 2 ทางแกนร่วมใส่เข้าไป) แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:24:23 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 -- เบาะนั่งด้านหน้า รูปทรงธรรมดา ส่วนรองนั่งเล็กไปนิดนึง ซัพพอร์ทด้านข้างค่อนข้างต่ำ คนตัวโตนั่งสบาย แต่คนขับซิ่งบอก "มันชอบหลุด" ตัวเบาะหุ้มด้วยหนังแท้ (ของแถมเซลล์) ความสบายของเบาะ ผมถือว่า ใช้ได้นะครับ สอบผ่านครับ ชอบอีกจุดก็คือ ที่ท้าวแขนบริเวณคอนโซลกลาง ที่ใช้งานได้จริง ไม่ได้มีเอาไว้ "คุย" เหมือนรถบางค่ายครับ -- เบาะหลัง ถ้าเป็นรุ่น 1.8 จะมีหมอนอิงศีรษะแยกออกมา 3 จุด พร้อมกับที่ท้าวแขนครับ แต่ตัว 1.6 ถือว่า รุ่นประหยัด ดังนั้น เอาเบาะแบบ Limo (ไม่มีที่ท้าวแขน)ไปก่อนละกัน แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:25:05 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 หุหุ ไฟดับครับ เดี๋ยวมาต่อนะคร้าบบบ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 15:48:46 ]

ความคิดเห็นที่ 17 กำลังเพลินเลย ต่อๆๆๆๆ ไวๆๆนะครับ จากคุณ : smiledear - [ 10 พ.ค. 52 16:03:37 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ไฟมาละ ... ต่อครับ ที่ท้าวแขน พร้อมช่องวางแก้วน้ำ 2 ช่อง ครับ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:03:53 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ไฟอ่านหนังสือ สำหรับ ที่นั่งด้านหน้าครับ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ที่บังแดด พร้อมกระจกแต่งหน้า เฉพาะผู้โดยสาร นะคร้าบบบ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:05:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กุญแจรีโมทในตัว สามารถเปิดฝากระโปรงท้ายได้จากรีโมทครับ สะดวกดี จุดรับสัญญาณฝังไว้บริเวณกลอนประตูด้านคนขับ แต่ตินิดนึงว่า ระยะการทำงานใกล้ไปหน่อยนะ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 มาดูท้ายรถกันมั่งครับ ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ กว้างขวางดีครับ ... แผ่นปิดยางอะไหล่ ดีไซน์ได้ไม่เลวครับ ออกแบบให้เกี่ยวกับขอบด้านบนของตัวรถได้ครับ เรื่องง่ายๆที่หลายค่ายมองข้ามนะ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:08:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อเปิดขึ้นมา ก็จับเกี่ยวแบบนี้ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:08:30 ]

ความคิดเห็นที่ 24 สมรรถนะการขับขี่ -- รถคันนี้มากับ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 4 สูบ DOHC 16V 107 แรงม้า ที่ 5,800 รตน. ส่วนแรงบิด 15.3 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน.  ส่งผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 จังหวะ ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นของ DAEWOO ครับ -- การตอบสนองของเครื่องยนต์ ยังค่อนข้างอืดครับ โดยเฉพาะยามออกตัว แต่พอลอยตัวขึ้นไปแล้ว ระดับสัก 60 - 70 กม./ชม. ขึ้นไป จะเริ่มขึ้นได้เร็วไม่ต่างจากรถยี่ห้ออื่นล่ะครับ ส่วนยามเร่งแซง ยังต้องเผื่อระยะไว้สักหน่อยครับ เท่าที่จับอัตราเร่งมา 0 - 100 กม./ชม. อยู่ที่ 14 วิเศษ ความเร็วสูงสุด กดยังไง ก็ค้างอยู่ที่ 170 กม./ชม. ครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:25:52 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:09:39 ]

ความคิดเห็นที่ 25 -- การทำงานของเกียร์ นุ่มนวลดี ไม่มีกระตุกครับ มีปุ่ม HOLD ให้ใช้ ยามต้องออกตัวบนถนนลื่นจัด หรือ ยามอยากมันส์ ล็อคเกียร์เพื่อเร่งแซงคันหน้าน่ะครับ -- รางเกียร์เป็นแบบขั้นบันได น้ำหนักกำลังดี ไม่เบาโหวง จนเหมือนมันจะหลุดคามือ แต่ก็ไม่หนักจนต้องออกแรง นะครับ -- หัวเกียร์เป็นยูรีเทนธรรมดา จับกระชับมือดีครับ ... มีทริคนิดนึง สำหรับการเข้าเกียร์ถอยของรถรุ่นนี้ก็คือ ต้องกดหัวเกียร์ลงนะครับ อย่าลืมล่ะ ไม่งั้นเข้าเกียร์ถอยไม่ได้นะครับ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:11:38 ]

ความคิดเห็นที่ 26 -- ช่วงล่าง รถคันนี้มากับช่วงล่างแบบ อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ทั้ง 4 ล้อครับ การทำงานกระชับ แข็งนิดๆ แต่ไม่กระด้างครับ เรื่องการทรงตัวหายห่วงครับ เกาะถนนดีมาก เจอโค้งถ้าไม่แคบมาก ก็หักพวงมาลัยเข้าได้เลย รถเป็นกลางค่อนข้างมากครับ ยามขับทางไกล เหมือนขับรถใหญ่ระดับ Cefiro หรือ Accord ครับ มันนิ่งสนิทดีจริงๆ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับ พวงมาลัย ที่แม้จะไม่แปรผันตามความเร็วรถ แต่ถูกเซ็ทน้ำหนักมาค่อนข้างมาก สาวๆอาจจะไม่ชอบยามขับในเมือง แต่วิ่งทางไกลคุณจะชอบมันครับ -- ระบบเบรก เป็นดิสค์ทั้ง 4 ล้อ ไม่มี ABS ที่เคยขับ 1.8 LT, 1.6LT หรือคันที่มี ABS นิสัยของ Optra ก็คือ เบรกลึก ช่วงแรก ระยะฟรีค่อนข้างเยอะ แต่พอผ้าเบรกได้จับตัวแล้ว มันจะจับอย่างต่อเนื่อง ระยะเบรกสั้นครับ (แต่ใครชินรถญี่ปุ่น มาขับ Optra ใหม่ๆ ส่ายหน้าทุกคนครับ) -- มาถึงเจ้ารถคันนี้ เป็นรุ่น LS ซึ่งผมเคยขับรถของเพื่อนในคลับคนนึง ที่เป็น LS เหมือนกัน บอกเลยว่า นิสัยเบรกเหมือนกันเลย ต่างจากตัว LT แยะเลยล่ะ เบรกตื้นเหมือนรถญี่ปุ่น แต่การจับตัวยังค่อนข้างช้า โดยเฉพาะเจ้าคันนี้ เบรกไม่ค่อยอยู่ครับ ต้องกดหนัก ยิ่งนั่งเยอะ เหมือนรถไม่มีเบรกเลยล่ะ ... เอาเข้าศูนย์เช็คหลายรอบแล้ว ศูนย์ยืนยันว่า เบรกปกติทุกอย่าง นี่กำลังรอเจ้า "Si-tech" อยู่ครับ ของมาเมื่อไหร่ เปลี่ยนเมื่อนั้นแหละ -- การเก็บเสียง เจ้ารถคันนี้ได้ยาง Maxxis MA-P1 ขนาด 195/55R15 ติดรถมา ซึ่งตอนนี้เริ่มแข็งแล้ว ส่งเสียงรบกวนดังพอสมควรครับ ส่วนเสียงอื่น อย่างเสียงลม แทบไม่มีให้ได้ยินครับ ก็ถือว่า เงียบใช้ได้ (ถ้าได้ยางเงียบๆ) แต่อย่าไปเทียบกับรถในยุคปัจจุบันนะครับ มันต่างยุคกันน่ะครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:13:33 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:12:27 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ตกไปนิดนึง -- อีกจุด ที่ Optra ต่างจากรถญี่ปุ่นชัดเจนก็คือ ก้านไฟเลี้ยว ก้านปัดน้ำฝน จะอยู่กลับข้างกันครับ มาขับใหม่ๆ เปิดปัดน้ำฝน แทนไฟเลี้ยวเป็นประจำเลยล่ะ -- ไฟตัดหมอก ของแท้ สวิทช์เปิดปิด อยู่ที่ก้านนะครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 16:16:40 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:16:15 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขออนุญาตคุณเด็กบูรพาครับ เกียร์ A/T ของ 1.6 เป็นของ Aisin รุ่น 81-40LE   แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 20:46:31 จากคุณ : Steakknife - [ 10 พ.ค. 52 16:19:20 ]

ความคิดเห็นที่ 29 -- รูปทรงของก้านดูดีครับ แต่ มันสั้นไปหน่อยอ่ะ เทียบกับ มิตซู คันเก่า หรือ Civic ทำให้คนนิ้วสั้น อย่างผมไม่ค่อยถนัดครับ -- อีกจุด ที่ข้อติ สำหรับคนเรื่องมากอย่างผมก็คือ ... ฟิลลิ่งในการยกก้านน่ะครับ เบาๆโหวงๆก๊องๆแก๊งๆ ชอบกล ... อาการนี้ เหมือนขับ Triton อ่ะ ... ใครอยากรู้ว่า ที่แน่นๆ ฟิลลิ่งดีๆเป็นยังไง ลองพวก Jazz, Civic, Teana, Tiida ดูสิครับ -- ทางด้านก้านปัดน้ำฝน ที่อยู่ฝั่งขวามือ ... สามารถปรับหน่วงเวลาได้ครับ ก็สะดวกดีครับ จะว่าไป Chev ก็ใจดีเนอะ ไม่เหมือน Civic แหม พูดแล้วแค้น รุ่นเล็กสุด ปัดน้ำฝน ดันตั้งหน่วงเวลาไม่ได้ ... MIGHTY X เหมือนสิบกว่าปีก่อน ยังมีมาให้เลยคร้าบบ HONDA จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:19:49 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ด้านการดูแลรักษา -- เอาเท่าที่จำได้นะครับ 1. เคลมประตูหลังขวา ปิดยาก ปิดหนัก ... แก้มาหลายรอบละ ยังไงก็ไม่หาย 2. เคลมวาล์วน้ำจากรุ่นพลาสติค เป็น อลูมิเนี่ยม (ทราบข้อมูลจาก Optra Club ว่า เคลมได้ ก็เลยเข้าศูนย์ขอเคลม ไม่เช่นนั้น พลาสติคหมดสภาพ วาล์วน้ำระเบิด คราวนี้มีโอกาสฝาโก่งครับ) 3. เคลมช่วงล่างหน้าเสียงดัง ... สาเหตุจากลูกหมากกันโคลงหลวม ศูนย์บอกว่า Chev ประกันแค่ 1 หมื่นกม. เลยแก้ไขเบื้องต้น ตอกอัดท้ายให้ ก็ไม่ดังให้ได้ยินอีก 4. เคลมคอนแอร์เสียงดัง .. วิ่งร้อนๆ หอน ว่องๆๆๆ เลย ก็เปลี่ยนคอมแอร์ใหม่ครับ ครับ ก็มีเท่านี้ ถือว่าจุกจิกไหม ก็ไม่นะ เพราะรถยี่ห้อก็มีเคลมเหมือนกันแหละ อย่าง Civic FD ผม เคลมท่อยางหม้อน้ำรั่ว ตั้งแต่ป้ายแดง รับรถได้ 7 วันน่ะครับ เรื่องค่าดูแล ค่าอะไหล่ ยืนยันว่า เข้าศูนย์ด้วยกัน อะไหล่ Chev ไม่แพงเลยครับ ถูกกว่า MITSUBISHI ที่ผมเคยใช้เสียอีก แต่นอกศูนย์ แน่นอนครับ หายากกว่ารถญี่ปุ่นครับ จุดติ นิดเดียวของ Chev ก็คือ 1. เค้าต้องเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง + สายพานหน้าเครื่อง + ลูกรอก ทุกตัว ทุกๆ 6 หมื่นกม. ซึ่งตรงนี้จะมีค่าใช้จ่ายราวๆ 1.3 -1.4 หมื่นบาทครับ (ก็เหมือนมิตซู แต่มิตซู เสียทุก 8 หมื่นกม.) 2. อะไหล่หลายชิ้น ไม่ทนเอาเสียเลยครับ อายุการใช้งานสั้นกว่า เมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่น 3. ศูนย์บริการ ยังมีที่แย่ๆอีกหลายแห่งครับ แต่ที่ดีๆก็มีแยะนะ อย่างที่รถคันนี้เข้าประจำที่ บางแค ก็ถือว่า สอบผ่านครับ ส่วนจุดดีของเค้าก็คือ 1. ช่วงล่างแสนหนึบ ที่คุณหาไม่ได้จากรถญี่ปุ่น (ยกเว้น Mazda 3 ไว้คัน) ขับแล้วเหมือนขับรถใหญ่ วิ่งทางไกลมั่นใจครับ 2. ตัวถังแข็งแรงมากๆครับ คานกันชนหน้า - หลัง มีมาให้ครบ ขับชนท้ายปิคอัพเข้าไป ปิคอัพกันชนท้ายลงมากองกับพื้น แต่ Optra แค่ถลอกครับ รวมถึง เพื่อนผม 2 คน รอดชีวิตมาได้ ก็เพราะรถรุ่นนี้แหละ คนนึงคว่ำหลายตลบ อีกคนมุดท้ายสิบล้อ ครับ เอาเป็นว่า ลองตอบตัวเองก่อนครับว่า อยากได้อะไรจากรถคันนี้ ถ้าอยากได้รถที่ดูแลถูกๆ ทนๆ ประหยัดน้ำมัน ผมว่า คุณมองรถคันอื่นดีกว่าครับ แต่ถ้าคุณอยากได้เพื่อนรู้ใจ ที่ไปไหนไปกัน วิ่งทางไกลแล้วไม่เหนื่อย ขับทางไกลแล้วมั่นใจ โดยต้องแลกกับความเอาใจใส่ให้กับเค้าสักนิดนึง เจ้ารถคันนี้น่าสนครับ แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 52 21:32:57 จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:21:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 แถมให้อีกนิด -- เบาะหนัง หุ้มโดย Kin's แต่แหม เก็บงานไม่เรียบร้อยเลย ดูด้ายที่หลุดออกมาสิครับ ยังไม่มีเวลาเอาเข้าไปแก้เลยครับ หมดแล้วครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:27:41 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณเด็กบูรพาครับ ราคาเปลี่ยนสายพานราวลิ้นกับชุดลูกรอกของผมไม่ถึงหมื่นครับ ถ้าค้นหาบิลเจอจะเอามายืนยันอีกทีหนึ่ง ของผมเป็น Optra Estate 1.6 ปี 2006 ส่วนเรื่องยางนั้น Maxxis คุณภาพแย่จริงๆ ผมเพิ่งเปลี่ยนมาเป็น Goodyear Assurance ดีกว่ากันเยอะครับ ถึงตอนนี้เกือบ 22,000 กม.แล้วก็ยังนุ่ม เกาะดี และยังเงียบอยู่ ทั้งๆที่ก่อนนี้เคยใช้ NCT5 กับรถคันก่อนๆแล้วสาปส่ง Goodyear ไปหลายปีเลย เพราะแค่หมื่นกว่าๆก็กระด้างและเสียงลั่นไปหมด อีกปัญหาหนึ่งที่เจอเหมือนกันคือเรื่องแอร์ไม่ค่อยเย็น และมีอาการคล้ายๆน้ำแข็งเกาะบังทางลมข้างในค่อนข้างง่ายเกินไป หน้าร้อนปีนี้ในวันที่่อากาศร้อนจัดๆต้องปิดแอร์ชั่วคราวเพื่อละลายน้ำแข็งจนเหงื่อแตกหลายครั้งแล้วครับ ผมบรรเทาปัญหาด้วยการไปเปลี่ยนฟิล์มรอบคันให้เข้มขึ้นกว่าเดิมก็พอประทังไปได้บ้าง ส่วนข้อดีของ Optra ก็เหมือนๆกับที่จขกท.บอกเล่าเป็นส่วนใหญ่ ที่เด่นมากๆคือการทรงตัวที่สร้างความมั่นใจได้ดีจริงๆ เรื่องอัตราค่าบริการตรวจเช็คตามระยะและอะไหล่เท่าที่ผ่านมาอยู่ในระดับรับได้ครับ จากคุณ : สัมมาชน - [ 10 พ.ค. 52 16:44:10 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ดีครับ จากคุณ : thongchai9309 - [ 10 พ.ค. 52 16:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณครับ -- แต่ถ้าเทียบ MAXXIS กับ S306 ที่ติด Optra ตัวก่อนๆมา เจ้า MAXXIS ดีกว่าเยอะเลยนะครับ เจ้า S306 มันหอนตั้งแต่ 1 หมื่นกม.แรกแล้วล่ะครับ -- อาการน้ำแข็งเกาะ อันนี้ต้องเคลมคอมเพรสเซอร์แอร์ล่ะครับ อย่างที่บอก คอมทำในมาเลเซีย เกรดต่ำไปหน่อยครับ -- เรื่องเช็คระยะ ผมคิดราคาตอนเข้าศูนย์น่ะครับ ถ้าอยากประหยัด จัดการเฉพาะสายพาน กับ ลูกรอก ที่อู่ข้างนอก อย่างที่คุณสัมมาชน ว่าก็ได้ครับ ถูกกว่าแยะเลย -- พูดถึงเรื่องฟิล์ม อยากเปลี่ยนทิ้งเหมือนกันครับ ติด Lamina ANL35 บานหน้าเต็ม กับ ANL20 รอบคันมา หุหุ เจอแดดร้อนๆนี่ แทบสุกเหมือนกันครับ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 10 พ.ค. 52 16:48:44 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอเซฟนะครับ จากคุณ : P_Wut - [ 10 พ.ค. 52 17:09:13 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ผมจำได้ว่าเคยอ่านเจอเกี่ยวกับระยะเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งของ Optra กับ Aveo ที่เมืองนอกโดยผู้ผลิตสายพาน Gates ระบุว่าระยะเปลี่ยนอยู่ที่ 60,000 ไมล์ (ไม่ใช่กิโลเมตรนะครับ) ซึ่งจะเท่ากับ 100,000 กม. เหมือนรถทั่ว ๆ ไป  ผมไม่แน่ใจว่าทาง Chev เมืองไทยแปลคู่มือจาก 60,000 ไมล์มาเป็น 60,000 กม. ในภาษาไทยหรือเปล่า เพราะสายพานไทม์มิ่งสมัยนี้น่าจะทนได้เกิน 100,000 กม. สบาย ๆ ปล. ผมไม่ได้ใช้ Chev นะครับ เพียงแต่ส่งสัยในอายุของสายพานไทม์มิ่งที่สั้นมากผิดปกติ จากคุณ : ไผ่หิน - [ 10 พ.ค. 52 17:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ออฟตร้ากำลังจะตกรุ่นปลายปีแล้วนะคะ จะผลิตรุ่นใหม่มาแทนค่ะ จากคุณ : บ๊วย...นิยามของคำว่าสวย - [ 10 พ.ค. 52 18:14:55 ]

ความคิดเห็นที่ 38 อ่ะ หาข่าวเจอแล้วค่ะ จาก นสพ.ประชาชาติธุรกิจ อ่านดูนะ.. จีเอ็มโละออพตร้าขึ้นไลน์ใหม่"ครูซ" ลุยปลุกแบรนด์"เชฟโรเลต"เข็นโปรเจ็กต์"ยูสคาร์"เสริม "จีเอ็ม" พร้อมขึ้นไลน์ผลิต "เชฟโรเลต ครูซ" ดีเดย์เปิดตัวในเมืองไทยปีหน้า ตั้งเป้ายกชั้นเป็นรถธงทำตลาดแทน "ออพตร้า" ระบุเสียงตอบรับดีมาก มีเครื่องดีเซลให้เลือกด้วย พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการ "ยูสคาร์" ทั่วภูมิภาค หวังเพิ่มรายได้ให้ดีลเลอร์และเพิ่มมูลค่าให้แบรนด์ในระยะยาว แหล่งข่าวระดับบริหารจากบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการที่ จะขึ้นไลน์ผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด โดยรถยนต์รุ่นนี้จะเป็นรถยนต์นั่งขนาดกลาง ในชื่อ "ครูซ" (Cruze) ที่จะมาแทนเชฟโรเลต ออพตร้า ซึ่งจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน บริษัทคาดว่าจะสามารถเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ได้ในปีหน้า "สำหรับแผนการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ๆ นั้น บริษัทได้กำหนดระยะเวลาในการผลิตไว้อย่างค่อนข้างชัดเจนแล้ว เนื่องจากต้องให้ทางซัพพลายเออร์จัดทำแม่พิมพ์และ ชิ้นส่วนต่างๆ ไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะมีการขึ้นไลน์ประกอบรถยนต์ที่โรงงานระยอง ดังนั้นแผนงานทุกอย่างจะเป็นไปตามกำหนดที่บริษัทได้วางแผนไว้" อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ คงต้องดูเรื่องระยะเวลาที่เหมาะสม รวมทั้งพิจารณาถึงความต้องการของตลาดประกอบด้วย ทั้งนี้ หากมีการเปิดตัวในช่วงที่ความต้องการในตลาดไม่มี รถยนต์รุ่นนั้นอาจ จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ถ้าเปิดตัวในช่วงที่ตลาดกำลังมีความต้องการพอดี รถยนต์จะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ดังนั้นบริษัทจึงยังไม่สามารถกำหนดใน ขณะนี้ได้ว่าจะสามารถเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่นี้ในช่วงเวลาใดของปีหน้า สำหรับรถเชฟโรเลต ครูซนี้ มีการเปิดตัวออกสู่ตลาดโลกอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่แล้ว และสำหรับตลาดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีการเปิดตัวในงาน "เซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ 2009" เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา นายจอห์น ธอมสัน ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจเครือข่าย แผนกการขาย การบริการหลังการขาย และการตลาด บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส เอเชีย แปซิฟิก จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์เชฟโรเลตในตลาดเอเชีย-แปซิฟิกเมื่อปีที่ผ่านมา ถือว่า มียอดขายที่ค่อนข้างดี โดยมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 15% สำหรับรถยนต์ เชฟโรเลต ครูซนั้น จะมีการเปิดตัวในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งจะทยอยเปิดตัวในประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาค "ในระยะเวลาที่ผ่านมาถือว่ารถยนต์รุ่นนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดี ทั้งรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม ดูหรูหรา ขณะที่อุปกรณ์และการตกแต่งภายในยอดเยี่ยม ซึ่งเมื่อเทียบกับคู่แข่งในรุ่นเดียวกันแล้ว ถือว่าเหนือกว่าทุกรุ่น นอกจากนั้น ในด้านของความปลอดภัย ยังผ่าน 5 Star Euro Ncap ซึ่งถือเป็นสแตนดาร์ดในการวัดความปลอดภัยของรถยนต์อีกด้วย" สำหรับรถรุ่นนี้มีเครื่องยนต์ 3 แบบด้วยกัน คือ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร, 1.8 ลิตร และ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ดีเซล และยังมีข้อดีในเรื่องของการบำรุงรักษาต่ำ ในด้านของระบบส่งกำลังนั้นมีให้เลือก ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ประหยัดกว่าเดิม โดยเกียร์ออโต้ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ในการใช้งานตามสภาวะปกติ เป็นต้น "สำหรับแผนการเปิดตัวในประเทศไทยนั้น เรายังบอกเวลาที่ชัดเจนไม่ได้ในขณะนี้ แต่สำหรับตลาดในประเทศไทยหรืออินโดนีเซีย ที่ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องยนต์ดีเซลในรถเชิงพาณิชย์นั้น ในส่วนของเครื่องยนต์ดีเซลตัวใหม่ของเรา ถือว่าได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ทั้งในเรื่องของความประหยัด และเสียงที่เงียบขึ้นกว่าเดิม ซึ่งโอกาสที่จะจำหน่ายในเมืองไทยนั้นจะขึ้นอยู่กับการตอบรับของตลาดเป็นสำคัญ" นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนงานที่จะรุกธุรกิจการจำหน่ายรถยนต์มือสองในภูมิภาคอย่างจริงจัง โดยจะมีการเปิดตัวโครงการ ยูสคาร์ที่ได้รับการรับรองจากเชฟโรเลต มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจำหน่ายรถใหม่ และมีการแลกเปลี่ยนรถยนต์มือสอง เพื่อเพิ่มธุรกิจให้กับตัวแทนจำหน่าย และยังเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์เชฟโรเลตในระยะยาว รวมทั้งยังเป็นการสร้างความจงรักภักดีในแบรนด์ได้ในระยะยาว "ปัจจุบันมีรถยนต์เชฟโรเลตวิ่งอยู่ในท้องถนนของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเป็นจำนวนเพิ่มมากขึ้นในระยะเวลาอันรวดเร็ว ดังนั้นยูสคาร์โปรแกรมคือช่องทางในการสร้างตลาดรถยนต์มือสอง ซึ่งในอินเดียวางแผนที่จะเปิด 50 สาขาในปีนี้ และในประเทศไทยจะเปิด 6 สาขาในปีนี้เช่นกัน" นายธอมสันกล่าว หน้า 37 จากคุณ : บ๊วย...นิยามของคำว่าสวย - [ 10 พ.ค. 52 18:18:09 ]

ความคิดเห็นที่ 39 Optra Estate นี่ผมชอบมากๆนะ แข็งแรงปลอดภัยพื้นที่ภายในกว้างขวางมากแบบไม่มีคู่แข่งเพราะว่ามีขายอยู่เจ้าเดียว แต่ไม่ชอบหน้าใหม่เลยแฮะ จากคุณ : yamaha111 - [ 10 พ.ค. 52 18:29:57 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ตะก่อนผมขับ aveo มึนก้านไฟเลี้ยวกะปัดน้ำฝนไปรอบแรก ตอนนี้ขับวีออส มึนอีกรอบสอง จะแต๊กไฟหน้าคันข้างหน้า น้ำฉีดกระจกพุ่งมาซะงั้น 5555 จากคุณ : ผมเสียโสดให้หญิงร้าย - [ 10 พ.ค. 52 18:52:51 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ใช้ตัว 1.6 CNG Auto ปี 2008 ยืนยันเรื่องคุณภาพรถ ยิ่งเดินทางไกลขับสบายไม่เครียดกับการควบคุมรถ จากคุณ : ทองทา - [ 10 พ.ค. 52 19:06:42 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ESTAET ออกปี 05 M/T ตอนนี้หน้าปัดขึ้น 130000 กิโลเมตร อาการจุกจิกก็มี 1.ซีลมอเตอร์ปั้มฉีดกระจกรั่วแก้ไป 2 ครั้ง(เครม) 2.โช็คอัพหลังรั่วที่ 45000 กิโลเมตร(เครม) 3.แอร์เหม็น อันนี้ล้างตู้ก็จบ เป้นเพราะน้ำหอมในรถ ผมอยากจะบอกว่าลืมเปลี่ยนไทม์มิ่งเพราะส่วนมากหลังจาก 50000 กม. ก็ไม่ค่อยได้เข้าศูนย์มารู้ตัวอีกทีตอนเข้าศูนย์ที่ 100000 กม. มันก็ยังทนได้ อะไหล่บางอย่างถูกบางอย่างก็แพง เป็นธรรมดาของการค้า ส่วนที่พอใจคือช่วงล่าง เวลาขับทางไกลๆ คุณจะเหลือแรงไว้เดินเที่ยว หิ้วถุงช็อปปิ้ง และเบรคที่ช่วยชีวิตผมมา 2 รอบ จากคุณ : ^^aka^^ - [ 10 พ.ค. 52 20:04:51 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ยืนยันอีกคนว่าช่วงล่างนิ่งมากๆ ครับ แต่ติตรงเข้าเกียถอยต้องกดนี่แหละขัดใจจังเลย ห้องโดยสารก็โล่งสบายพอได้ แต่ไม่ค่อยหรูครับ ที่เหลือผมชอบมากครับ จากคุณ : *380 Z - [ 10 พ.ค. 52 21:05:13 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ตัวใหม่ ต้องรอลุ้น ถ้าสวย คุณภาพไม่ตก ติดแก็สมาเลย และที่สำคัญต้องมาลุ้นให้ GM ไม่เจ๊งไปซะก่อน จะเป็น เจนเนอเรชั่นใหม่ที่น่าจับตามองครับ จากคุณ : Tong tongie - [ 10 พ.ค. 52 21:22:57 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณคร้าบ จากคุณ : JIRATH - [ 10 พ.ค. 52 21:46:20 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แวะมารอชมต่อครับ จากคุณ : JIMMY - [ 10 พ.ค. 52 22:29:01 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาชมครับ เป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจ จากคุณ : NoMuTo - [ 11 พ.ค. 52 00:01:01 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เคยเช่าขับครั้งนึง เข้าเกียร์ถอยหลังไม่ได้ แทบแย่แหนะครับ รถที่เช่ามาก็ป้ายแดงไม่น่าจะเสีย ก็ต้องเอารถไปจอดแอบๆ แล้วเปิดคู่มือดู ผมว่าออพตร้าขับดีนะครับ ยิ่งตัว CNG นี่ประหยัดสุดๆ ครับ วิ่งกลับจากหัวหินหมดค่า NGV ไปร้อยกว่าบาทเอง จากคุณ : joufo - [ 11 พ.ค. 52 01:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ้อ เรื่อง รูซ หนะ ข่าวเก่าแล้วละครับ ใครติดตามรัชดาบ่อยๆ จะจำได้ว่า ผม กับน้อง Homy Demio นำเรื่องนี้มาบอคุณๆ กันตั้งแต่ปีที่แล้ว แล้วละ จากคุณ : JIMMY - [ 11 พ.ค. 52 05:34:34 ]

ความคิดเห็นที่ 50 เครื่องยนต์ E-TEC II บล๊อกเหล็ก ตัวนี้ไม่ใช่ของDaewooครับ เป็นของHoldenผลิตขึ้นมา จากคุณ : Bluedoft - [ 11 พ.ค. 52 06:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ลงชื่อเข้าชมค่ะ จากคุณ : ส่งเสียน้องออส - [ 11 พ.ค. 52 08:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณคร๊าบบบ จากคุณ : เงินเดือนสามพันขับวอลโว่ - [ 11 พ.ค. 52 10:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่เห็นมีรูป เจ้าของรถเลยนะคะป๋า.. จากคุณ : TsuTaYa - [ 11 พ.ค. 52 13:03:32 ]

ความคิดเห็นที่ 54 #28 Focus ไม่มีเครื่อง 1.6 นะครับ จากคุณ : Fly boy - [ 11 พ.ค. 52 18:29:29 A:61.19.67.171 X: TicketID:149505 ]

ความคิดเห็นที่ 55 #54 ผิดจริงๆครับ ขอบคุณครับ พอดีหาข้อมูลเรื่องน้ำมันเกียร์ให้ Optra 1.6A/T ของตัวเองครับ แต่ยืนยันว่าเกียร์ของ Optra1.6 ใช้ของ Aisin แน่นอน แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 52 20:46:05 จากคุณ : Steakknife - [ 11 พ.ค. 52 20:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 56 เครื่องตัว 1.8 D-Tec เป็นของ Holden วิ่งดีมากๆแต่สูบน้ำมันไปหน่อย... จากคุณ : sia cha - [ 11 พ.ค. 52 22:22:30 A:125.26.161.187 X: ]

ความคิดเห็นที่ 57 ไปเสิซดู cruze มาเห็นข้อผิดพลาดมาทันที ทุกอย่างดูจะทันสมัยเหมือน ฮอนด้าซีวิค แต่ขอติ ติเพื่อก่อ ติตรงที่ล็อคประตู ยังเป็นแบบดึงแบบโบราณทั้งที่รถเก๋งค่ายอื่นๆเขาซ่อนไว้ตรงมือจับเรียบร้อยตั้งนานชาติที่แล้วแค่เล็กๆน้อยนี่แหละไม่ควรมองข้าม ประเด็นเดียวกันกับรถกระบะฟอร์ดและมาสด้าทำไมไม่เปลี่ยนเบรคมือให้มาเป็นคันโยกอยู่ตรงกลาง จากคุณ : ดูจะทันสมัยแต่ยังมีโบราณแฝง - [ 14 พ.ค. 52 08:08:35 A:125.26.129.239 X: ]