ความคิดเห็นที่ 1 เช้า วันเสาร์ ที่  27 พวกเราเดินทางจาก อ.เชียงกลาง  อีกราวๆ 70 กม.  ไปยัง รร.เฉลิมพระเกียรติ  ที่อ.เฉลิมพระเกียรติ ใกล้จุดผ่านแดนด้านห้วยโกร๋น  ซึ่งเป็นจุดนัดพบสุดท้ายก่อนออกเดินทาง เนื่องจากเส้นทางสายนี้  ค่อนข้างโหด  ระยะทาง จากด่านห้วยโกร๋น ไป จนถึงหลวงพระบาง แค่ 150-160 กม.(ระยะทางตามไมล์รถ KLX ที่ผมขี่ วัดได้ 170 พอดี) แต่ว่า ต้องใช้เวลาเดินทางกันราวๆ 6-7 ชม. ถือว่าโหดพอดู ดังนั้น แม้ก๊วนนี้ ส่วนใหญ่ จะเป็นพวก ที่ใช้ BMW GS กันเกือบทั้งนั้น แต่ทุกคน  ก็เลือกเอารถยนต์เดินทางมาที่น่าน หรือ เอา GS ขี่มาเที่ยว แต่จอดไว้ที่จุดพักรถที่นี่  แล้ว ใช้รถวิบาก ลุยเข้าไปแทน กลุ่มเราทริปนี้ ไปกัน ทั้งหมด มอร์เตอร์ไซค์ 43 คัน และรถยนต์ติดตาม และเซอร์วิส อีก 5 คัน รถส่วนใหญ่ ที่ใช้ทริปนี้ รวมทั้งผม เป็นรถเช่า Kawasaki  KLX 250 จากเชียงใหม่  30 กว่าคัน นอกนั้น ก็เป็นรถส่วนตัวของเพื่อนๆ ที่เอาไปเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็น KLX250 และ มี KLX140  วิบากตัวเล็ก ผสมไปราวๆ 4-5 คัน นอกจากนั้นก็มี Yamaha XR 250  ปนมาอีก 3-4 คัน กับอย่างอื่นอีกประปราย ดังนั้นไม่แปลก ที่ เสาร์อาทิตย์  ที่ 28-29 พย.ที่ผ่านมาจะเห็น KLXสีเขียวเต็มหลวงพระบาง ไปหมด เมื่อไปถึงตลาดชายแดนหน้าด่าน เราจัดการเติมน้ำมันให้เต็มถังกันทุกคน ซึ่ง KLX มันเติมได้แค่ ราวๆ 7 ลิตร ดังนั้นกับเส้นทางโหดๆ แบบนั้น 160 กม. ทำให้ต้องลุ้นนิดๆ สูสีว่า จะพอถึงหลวงพระบางหรือไม่ หลังจากรับเอกสารผ่านแดน และ stamp passport ทางด้านฝั่งไทย ซึ่งไม่เสียเวลาไรมาก เราก็ ขี่ข้ามสันเนิน เส้นแบ่งแดนไทยลาว ไปยังด่านลาว ที่ห่างกันราวๆ 500 เมตร ที่ฝั่งลาว ต้องตรวจเอกสาร ข้ามแดนกันใหม่ ก็มีบางคัน ที่ เลขเครื่องเลขคอ ไม่ตรงกับทะเบียนที่แจ้งไป แต่ทางหัวหน้าฝ่ายลาวก็ใจดี ช่วยแก้ไขให้ตรงกัน โดยการประสานงานของไก๊ด์ ที่คงติดต่อ ไว้ล่วงหน้าแล้ว (ใคร ที่ไม่เอกสารกับรถไม่ตรงกัน ผ่านไปดื้อๆ  เค้าจะแก้ให้หรือป่าว ผมไม่รู้นะ อิๆ) กว่าจะเสร็จพร้อมเริ่มเดินทางกันจริง ก็ราวๆ 10 โมงกว่าๆ ระยะทาง 30-40  กว่ากม.แรกจากด่านห้วยโกร๋น น่าน ฝั่งไทย ซึ่งติดกับด่านเมืองเงิน ของฝั่งลาว ถึงเมืองหงสา ยังไม่มีเขามากนัก เป็นทางราบ แต่โค้งเยอะ และถนนไม่ดี บางส่วนอยู่ระหว่างทำทาง อยู่เป็นระยะ ผมเองไม่ค่อยได้ขี่ทางวิบากเท่าไร ระยะแรก พอเจอ ทางฝุ่นหนาๆ  และหินลอยกรวดลอยก้อนใหญ่ๆ  แถมมีร่องน้ำเต็มไปหมด  รถมีอาการท้ายปัดจนเหวอๆ ไม่กล้าไปเร็วเลย แต่เมื่อเริ่มจับจังหวะได้ ลดเกียร์ลงต่ำใช้บิดคันเร่งถ่ายแรงลงพื้นรถเกาะถนนดีขึ้น เจอร่องก็ลุยข้าม ไปเต็มๆ   ก็สนุกไปกับเส้นทาง ตลอด เราพักทานอาหารกลางวันง่ายๆ ที่ตลาดหงสา  และ เติมน้ำมันอีกรอบเพื่อความชัวร์ ว่าถึง หลวงพระบางแน่ๆ กันอีกที ผมเติมได้อึกแค่ ไม่ถึงสองลิตร ดี กับระยะทางที่วิ่งมา 30 กว่าโล ดังนั้น กับระยะที่เหลืออีก 130 โล กับน้ำมัน 7 ลิตร นี่น่าจะถึงสบายๆ อิๆ ตลาดหงสา (ของลาว นะไม่ใช่หงสาวดีของพม่า ) เป็นตลาดใหญ่ พอสมควรถนน กลางตลาดมีถนนราดยางคุณภาพต่ำๆ อยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คงเป็นฝุ่น คล้ายชนบทไทย แต่หลังจากออกจากหงสา ไปแล้ว ระยะทางที่เหลือ อีก 120 กว่า ถึง 130 โล นี่มันส์สุดๆทางขึ้น เขาลงเขา ตลอด หินลอย ฝุ่น ร่องน้ำ ทางชัน คดเคี้ยว และ ริมด้านนึงเป็นเหวเกือบตลอดทาง ทุกคนต้องตื่นตัวกัน ตลอด ขี่กันไป พอล้าต้องพัก  และนอกจากขึ้นเขา ก็มี ลงห้วยลึก ระดับประมาณ ครึ่งล้อกว่าๆ ให้ลงไปลุย ราวๆ 7-8 ห้วย บางห้วยก็มีสะพานให้ข้าม แต่ส่วนใหญ่ไม่มี หลายห้วยลึกมองไม่เห็นหินข้างล่าง ก็ต้องอาศัยวัดดวง ลุย เล็งไลน์กันดีๆ โชคดีผมไม่ดับในห้วย แม้แต่ห้วยเดียว แต่ก็เปียกถึงก้นแหละ การเดินทาง เนื่องจากทางแคบ และ วิ่งกันยาว เราเลยแยกกันเป็นกลุ่มๆ ขี่ตามๆกันไป ใครเหนื่อยก็พัก ดื่มน้ำ เป็นระยะ ผมเองพักทุก 30 กม.(ยกเว้น ห้าสิบกม.สุดท้ายที่ยิงยาวตลอด) มีรถเซอร์วิส คอยตามดูแล เพื่อนๆที่มีปัญหา ขาไป เพื่อนเรา เจออุบัติเหตุสองคัน หลังจากออกจากหงสา มาได้ไม่ไกล คันแรกเจอร่องน้ำและหินลอยแล้วสไลด์ พอเท้ายัน แล้วมันติดทำให้เสียหลักพลิกลงไปข้างทาง  ข้อเท้าหลุด ขี่ต่อไม่ได้  ต้องยกขึ้นรถเซอร์วิส  แล้ว พอถึงหลวงพระบาง หมอน้อย(นักศึกษาแพทย์ปี 3) ที่พวกไก๊ดเรียกกันเป็น ก็ลูกสาวผมนั่นแหละ  กับแฟนผม  กับคนขับรถ เซอร์วิส ก็พาไปหาหมอที่ รพ.ที่หลวงพระบาง เอ็กซ์เรย์ แล้วพบว่าข้อเท้าแตก เลย ต้องบิน กลับมา ผ่าตัดที่ กทม.ในวันรุ่งขึ้น ส่วนอีกราย เป็นสาวแกร่งคนเดียว ของทริปนี้ ที่ใช้ KLX140 ลุยไป พอดี เสียหลักล้ม เจ็บยอก ขัดตามตัว  ต้องเลิกขี่  ยกขึ้นรถ ไปอีกคัน รถเซอร์วิสสองคัน ของเรา เลยเต็มตั้งแต่ขาไป แต่ สาวแกร่งเราไม่เป็นไรมากอยู่เที่ยว หลวงพระบาง ได้อีกวัน ก่อน บินกลับวันอาทิตย์ ทางจากหงสา ผ่านบ้านห้วยงัด ไปจนถึงท่าเรือ ข้ามฝากที่หลวงพระบาง นี่ต้องบอกว่า พวกชอบทางวิบาก Cross Country คงสะใจกันตามๆกัน มีทุกรูปแบบให้เล่น และ ก็มีบางช่วงที่ทางดี ดินแน่นพอที่จะให้เรารูดทำเวลากันขึ้นมาได้ถึง ระดับความเร็ว ราวๆ 70-80 กม.ชั่วโมง แต่หลายช่วง ก็ต้องค่อยๆคลานลงเขากันแบบเกือบล้อตาย โดยมีเหวลึกอยู่ด้านซ้าย จนแซวๆกันว่าเฮ้ย ใครผ่านโค้ง โหดๆ มองลงไปหน่อยนะ มีพวกเรา ห้อยอยู่ข้างล่างหรือป่าว นอกจาก 2 คันแรก ที่ล้มเจ็บ แล้ว ขาไป นอกจาก สไลด์ กันบ้าง ประปราย แ ละรถเสีย ซ่อมแซมกันนิดหน่อย แล้วทุกคนถึง ท่าเรือกันโดยสวัสดิภาพ เมื่อราวๆ ห้าโมงเย็น เพื่อรอแพขนานยนต์ รับข้ามฝากไปหลวงพระบาง แต่ที่แน่ๆ เกือบทุกคัน กระจกมองหลัง กระเป๋าเครื่องมือ  มือเบรค และคลัช ตลอดจน น้อตต่างๆ คลายหลวม ตกหาย ป้ายหลุด ต้องไขอัดให้แน่นกันเป็นระยะตลอด เพราะว่า โดนทางที่ผ่านมาขย่มเอา อิๆ กว่าจะข้ามฟากมาถึง หลวงพระบาง กันค่ำๆ ทุกคนมอมแมม กันถ้วนหน้า เลยงดทำกิจกรรม ต่างคนต่างหาอาหารเย็น แล้ว แยกย้ายกันเข้าพัก  กลุ่มใหญ่ของเรา เข้าพักที่ รร.วิชุน  รร.เปิดใหม่ ในเมือง ไม่ใหญ่มาก แต่โอเค ครับ สะอาดสะดวกสบาย กับค่าห้อง แค่ 850 บาท ต่อคืน พร้อมอาหารเช้า   สำหรับครออบครัวผม อาบน้ำแล้ว สดชื่นขึ้น ยังมีแรงเหลือ ก็เลย ออกไปเดินช้อป ตลาดกลางคืน กันต่อ จนตลาดปิด แล้วค่อยกลับมานอน ส่วนหนุ่มโสดทั้งหลาย เค้าก็ไปมีแว่บไปสนุกสนานเฮฮา แล้ว มาเล่าให้เราอิจฉาตอนเช้า อิๆ วันเสาร์ เป็นวันปล่อยผี อิสระ แยกย้ายกันเที่ยว ในเมือง และ ออกนอกเมือง ครอบครัวผม  3 คน แต่มีรถแมงกาไซค์คันเดียว ก็เลย ไปเช่าแมงกาไซค์ มาคันนึง วันล่ะ 600 บาท ใช้เที่ยวในเมือง  และ ออกไปเที่ยวน้ำตก แต่ ไม่สะดวกเท่าไร เนื่องจากเค้าขู่กันว่า รถจักร(รถมอร์เตอร์ไซค์ ) ที่นี่หายเยอะ ต้องหาที่ฝากเวลาจอด ทำให้ เวลไปเที่ยววัด ต่าง หรือ ไปตลาดต่างๆ นี่ จอดแล้ว ต้องคอยระวัง น่าหงุดหงิด วันนั้น แว่บไปไหน ในหลวงพระบาง ซึ่งเมืองเล็กนิดเดียว  ก็จะเจอ  KLX เขียวจอดกันเป็นแผงๆทั่วไป มองเผลอคิดว่าคิดว่าเป็น ร้านรถเช่าทุกที   ตอนบ่าย หนีออกจากเมือง ขี่แมงกาไซค์ กันไป 25 โล ไปน้ำตกตาดกวางสี ปีนี้น้ำน้อยทำให้สวยกว่า ที่ผมไปคราวก่อน ที่น้ำมากดูสวยอลังการณ์ กลับจากน้ำตกตาดกวางสี ตอนแรกว่าจะขี่รถไปอีก 15 โลไปเที่ยวน้ำตกตาดแส้  แต่ว่า แดดร้อนและเพลียแดด ชักง่วงกันทั้งสามคน เลยตัดสินใจเอารถไปคืน ร้านแล้ว เข้าที่พักนอนพักเก็บแรง ก่อนไปร่วมปาร์ตี้ มื้อค่ำที่ทางกลุ่มที่มาด้วยกันจัดกัน ปิดท้ายคืนวันเสาร์ ด้วยวิญญานนักช้อป ไปเดินตลาดกลางคืนอีกรอบ ขนผ้าพันคอ และของฝาก มาฝากเพื่อนๆก่อนเข้านอนเตรียมตัวออกเดินทาง เช้ามืด ที่เรานัดกันว่า ใครพร้อมออกไปกันก่อนได้เลย เรือเที่ยวแรกรอรับ ที่ท่าเรือ  6 โมงเช้า รถเซอร์วิสจะตามปิดท้าย ให้ ผมเองออกจาก รร. 6 โมงเช้าพร้อมกับเพื่อนอีกกลุ่มราวๆ สิบคน มารอเรือเที่ยวแรกที่ท่าเรือ  แล้วก็ลุยกันมาพักเป็นระยะ  ด้วยความที่เริ่มคุ้นกับทางขามา ทำให้ทำความเร็วกันได้ดีขึ้น ทุกอย่างราบรื่นดีมาตลอด จนกระทั่ง ผ่าน 120 กม.แรกไปแล้วเหลือทางลงเขา ช่วงสุดท้าย ก่อนเข้าทางเรียบเข้าเมืองหงสา ผมกำลังลงเขาที่เป็นทางโค้งพับ และชัน ถนนเป็นกรวดและร่องน้ำ พอพ้นโค้งลงมา มีมอร์เตอร์ไซค์ของม้งชาวลาว สองคัน สวนขึ้นมา โดยตำแหน่งต่างคนต่างอยู่ตรงกลางทาง ผมเองค่อนไปทางซ้าย ส่วนม้งนั่นค่อนไปทางขวาของผม รถผมที่กำลังไหลลงเนินบนหินร่วน เบรคไม่อยู่ แต่มองเห็นช่องด้านซ้ายที่ว่างก็เลยหักห่าง ออกจากเค้าไปด้านนั้น แต่ฝ่ายเค้า หักตามเข้ามาตามเลนที่เค้าต้องวิ่ง เลยจะเอ๋กัน  ไม่แรงนัก ฝ่ายเค้ามีแผลถลอกเล็กน้อย บังโคลนหน้าฉีกขาด  ส่วนรถผมไม่เป็นไร แต่เท้าซ้ายผมนั่นแหละ โดนรถทับไป การ์ดที่ประกบข้อเท้าที่บูท แตก ตอนนั้นมันปวดและชา พอลุกเดินแล้วเหมือนมันรองเท้าบีบแล้ว เท้าจะพับลง ไปเดินงอหลังเท้าไม่ได้ ต้องลงด้วยซ่นเท้า คิดในใจว่ากระดูกฝ่าเท้า หรือ ใกล้ข้อเท้าแตกมั้งหว่า เนื่องจากไม่อยากมีปัญหาให้เสียเวลา และตำแหน่งที่รถเฉี่ยวมันหักหลบมาอยู่ในตำแหน่งเลนเค้า(กลางป่า อิๆ) ก็เลยจ่ายค่าซ่อมรถให้เค้า ตามที่เค้าขอ(ตอนแรกขอพันห้า ก่อนขอเพิ่มเป็น 2 พันบาท เสร็จแล้ว ขออีก 200 ค่ายา ก็ไม่ว่ากัน อิๆ ) ตอนนั้นคิดว่า จะรอยกรถขึ้นรถเซอร์วิส แล้ว นั่งรถเซอร์วิสมา แต่พอรถเซอร์วิส มาถึง มันเต็มเนื่องจากมีรถที่ยกขึ้นไปก่อนแล้วสองคัน น้องๆที่ไปด้วยก็ ถามว่าพี่หมอ ลองเอาส้นเท้าเกี่ยวเกียรฺ์แทนงัดไหวมั้ย ก็ลองๆยืนๆ แล้วลองดู เออ งัดไม่ได้ แต่ถ้าเอาส้นเท้าเกี่ยวพอได้  และคำนวนระยะทาง ที่เหลือก็ไม่โหดมาก ก็เลย เอาก็เอา ลองดู ไม่งั้นต้องรอรถวิ่งไปกลับมาขนรถ นานหลายชม.แน่ เลยแข็งใจ ขี่ต่อเปลียนเกียร์โดยใช้เงี่ยงหลังรองเท้า(ตัวกันเอ็นร้อยหวายเกี่ยวดึงเกียร์) แทนกันการงัด ก็มาได้เรื่อยๆ พอไหว แต่ตอนจะจอด ตั้งขาตั้งนี่ ต้องใช้เท้าปัดขาตั้งขึ้นลง นี่สิ เจ็บค่อดๆ) มาถึงหงสา พักทานน้ำนิดหน่อยแล้ว เลยตัดสินใจ ขี่กลับห้วยโกร๋นต่อเลย เพื่อไม่ให้มันบวมมากเกิน จนขี่ไม่ไหว  ก็มาได้ตลอด สบายๆ ยกเว้นเวลาเดินลงไปทำเรื่องผ่านด่าน ทรมาณดี อิๆ พอผ่านด่านมาแล้ว มาถีงรร.ที่เราจอดรถกันไว้ ราวๆบ่ายโมง กว่าๆ อาบน้ำถอดรองเท้าออก โอ้ววววววว มันบวมได้ใจ ปวดจนไม่อยากเดิน นั่นรอกลุ่มหลังๆ รวมทั้งแฟนผมที่ตามมากับรถเซอร์วิส   กว่าจะมากันครบ ผ่านด่านมาหมดก็ บ่ายสามบ่ายสี่ เนื่องจาก ช่วง 6-7 กม.ก่อนถึงด่าน เป็นทางลงเขา ถนนกำลังก่อสร้างเป็นฝุ่นหนา แต่พอ กลุ่มแรก คือพวกผมผ่านมาแล้ว ซักพัก รถทำทางเค้าฉีดน้ำแฉะทำให้ทางลื่นผลคือ พวกเราที่ตามมากลิ้งไปอีก 3 คัน มีเจ็บหนักเข่าหลุด หนึ่งคน ต้องเอารถเซอร์วิส วิ่งมาขนรถ ที่ล้มวิ้งต่อไม่ได้ วิ่งไปกลับสองสามรอบกว่าจะเสร็จ ส่วนผม ก็เดินทางกลับบ้านเลย โชคดีที่เท้าที่เจ็บเป็นเท้าซ้าย ขับเกียร์ออร์โต้ วางเฉยๆ ทำให้ขับรถกลับได้ไม่มีปัญหา (ขับรถไม่เจ็บ )แฟนผมจะช่วยขับเปลี่ยนเลยบอกไม่ต้อง ลุยเอง อิๆ ผ่านเมืองนาน เลยพาแฟนมาแวะไหว้พระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำปีเกิด ของเค้า  ซะหน่อย ตอนเดินลงจากรถไป นี่ปวดแปล๊ยบๆ ต้องเขย่งกลับรถ ยอมแพ้ อิๆ ถึงบ้าน รีบจัดการเอ็กซ์เรย์ดู  หลายๆมุม รวมทั้งส่งฟิล์ม ไปให้น้องหมอเอ็กซ์เรย์  ช่วยดูให้ ว่าแตกร้าวหรือไม่ เนื่องจาก ผมมีทริป ไปดำน้ำที่มาลาปาสคัว ฟิลลิปินส์ รออยู่ วันที่ 11-16 นี้ พอพบว่าไม่หักแตก ค่อยยังชั่ว มีลุ้นหายทัน ถ้าประคบเย็นและอัดยาเต็มที่ วันแรก เท้าปกติ กลายเป็นหน้าตาอย่างนี้ อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:49:23

ความคิดเห็นที่ 2 สามวันแรก ประคบเจลเย็นตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน ถึงเมื่อวาน อาการบวมช้ำยุบไป แปดสิบเปอร์เซนต์แล้ว ปวดน้อยลงมาก ยังคงเดินกระเผลกเล็กน้อย เสียวๆกระดูกข้อเท้านิดหน่อยเวลาลงน้ำหนัก แต่ เหลืออีก สี่วัน คาดว่าคงจะทุเลาหายทันพอที่จะไปโบกฟิน ได้ค่อนข้างแน่  อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:50:36

ความคิดเห็นที่ 3 บรรยายยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พยายามใส่ข้อมูล ที่คิดว่าน่ารู้เผื่อใครจะเดินทางไปตามรอยเส้นทางนี้ ว่าแล้ว มาไล่ดูรูปกัน รูปบางส่วน ฉกมาจากกล้องน้องหนึ่ง ในเว็บ nan2day.com ครับ ขอบคุณ ด้วยครับ อิๆ อากาศยามเช้า ขับรถจาก อ.เชียงกลางไปเฉลิมพระเกียรติ แม้เส้นทางคดเคี้ยว แต่ ไอหมอกกับอากาศเย็นเปิดกระจกขับรถชื่นใจหายง่วง จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:52:27

ความคิดเห็นที่ 4 ขับมา 70 กว่า โลเห็นป้าย นี้ อ้า แม่นแล้ว ใกล้ถึง อ.เฉลิมพระเกียรติ สุดแดนไทย ออกด่านห้วยโกร๋น จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:53:50

ความคิดเห็นที่ 5 รร.เฉลิมพระเกียรติ นี่คือจุดนัดพบ ที่พวกเรา นัดเจอกัน และ เปลี่ยนรถ เอารถ ยนต์และมอร์เตอร์ไซค์ใหญ่ทิ้งไว้ เปลี่ยนเป็นวิบากไปลุยกัน จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:54:50

ความคิดเห็นที่ 6 หลายคนใช้ Trailer บรรทุก มอร์เตอร์ไซค์มากันเอง จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:57:13

ความคิดเห็นที่ 7 ส่วน คันนี้แหละ เสือเขียว ที่ผมเช่า และเค้าใช้สิบล้อสองคัน ขนมาจากเชียงใหม่ ราวๆ สามสิบกว่าคัน จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 20:58:22

ความคิดเห็นที่ 8 GS 1200 คันนี้ โกเอก เพื่อนผมจากภูเก็ต คนที่ขาย F650 GS ให้ผม แล้วไปเล่นคันนี้ แทนนี่แหละ ขับคนเดียว จากภูเก็ต พันหกร้อยโล  มาถึงน่าน แล้ว  เปลี่ยนวิบากไปหลวงพระบาง กลับมา แล้ว ยังไม่ยอมกลับบ้าน ต่อไปลุยเชียงใหม่แม่ฮ่องสอน ก่อน ยิงยาว Solo เดี่ยวกลับภูเก็ต อึดและมันส์จริงๆนับถือ อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:00:24

ความคิดเห็นที่ 9 GS เพื่อนเราชาวน่านคนนี้ ไม่ได้ไปด้วย แต่ขี่มาส่ง ผมมองไปแว่บแรก เฮ้ยสวยดี แต่เหมือนแปลกๆ พอดูดีๆ อ้าวววววววว มัน D Tracker แปลงเป็น GS ชนิดที่ BMW อ้าปากหวอ เลย อิๆ แถมปี๊บข้าง Pooratech ที่แกใช้ ลังกระสุนมาทำ แข่ง กับ Touratech ที่ ชุดล่ะเกือบแสน นี่ก็เจ๋ง อ่ะ นับถือ อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:02:33

ความคิดเห็นที่ 10 เท่ห์จนอดไม่ได้ ต้องขอลองคร่อมมั่ง แต่หล่อไม่เท่าเจ้าของเค้า จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:03:40

ความคิดเห็นที่ 11 กว่าจะพร้อมกันดี ก็ราวๆ สามโมงเช้า มุ่งต่อไปอีกราวๆ หกกม.ไปยังจุดผ่านแดน ด่านห้วยโกร๋น ตรงนี้แหละที่จะเป็นประตูเปิดไป ทั้งหลวงพระบาง และ จีนด้วย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:05:24

ความคิดเห็นที่ 12   ^^^  DTX  สีเหลืองคันนี้เห้นบ่อยเลย  อิอิ.... น้ำมัน 2 ถังนั่น  แกกะไม่เติมกลางทางเลยใช่ปะ #8   ก็สุดยอด.............. จากคุณ : PaNok@WanDeRer เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:06:48

ความคิดเห็นที่ 13 ถึงตอนนั้นหน้าด้านห้วยโกร๋น ซึ่งปกติเป็นด่านเงียบๆ ไม่ค่อยมีรถผ่าน กลายเป็นคึกคักด้วยพวก ตั๊กแตนตำข้าว สีเขียว และพวกพ้อง แล้ว อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:08:29

ความคิดเห็นที่ 14 ตรงนี้ XR 250 จับกลุ่ม กัน ขาแรง ทั้งนั้น อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:09:30

ความคิดเห็นที่ 15 พอผ่านด่าน ฝั่งไทย แล้ว ก็ไป รอ อีกทีตรงด่านฝั่งลาว ตรงไม้กั้นนั่นห้ามขี่ ให้ไส ผ่านเท่านั้น ตรงนี้แหละ ที่มาตรวจเลขเครื่อง เลขคอ ว่าเอกสารตรงกันมั้ย ใครไม่ตรง อ้ายลาว หัวหน้าใจดี ก็แก้ให้ ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกตัวน้อยๆ ทั้งหลาย ส่วนพวกรถเช่าทะเบียนถูกต้อง ไปอยู่แล้ว ก็ผ่านได้ ไวหน่อย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:12:31

ความคิดเห็นที่ 16 พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันได้ ทางช่วงแรก  สามสิบกิโลแรก ไปหงสา เป็นทางกำลังสร้างมีฝุ่นหนา ร่วน และ ร่องน้ำเยอะ ขี่ท้ายปัดกันดีจัง แถมกินฝุ่นกันอิ่ม จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:14:09

ความคิดเห็นที่ 17 นึกว่าไม่มาแล้วพี่หมอ นั่นเท้าพี่หมอเหรอครับ บรรยาย ซะเห็นภาพเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : srich เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:15:22

ความคิดเห็นที่ 18 ใครตามหลัง คนอื่น โดยเฉพาะรถเซอร์วิส นี่ มองไม่ค่อยเห็นทางกันเลย ต้องทิ้งระยะ ผมเองดันเอา ชิลด์หน้าดำกันแดดไป เพราะว่า ยังไม่มีหมวกวิบาก และ ไม่มีแว่น บางช่วงต้องยกชิลด์หน้าออก ก็กินฝุ่นเต็มๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:15:57

ความคิดเห็นที่ 19 วิ่งไป ข้างหน้ารถอะไรหว่า ขอกลั้นใจแหวกแซงไปก่อนดีก่า อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:16:59

ความคิดเห็นที่ 20 กินฝุ่นกันอิ่ม กับมีหินกลิ้งๆ ให้ท้ายปัดเล่นประปราย สามสิบกว่าโล ก็มาถึงหงสา เมืองใหญ่ อีกเมืองนึง ของลาวเหนือ (ปล.เวลามาดูรูป จากกล้องทีเค้าถ่ายมา ทำไมเหมือนทางมันดี๊ดี แต่ตอนตูไปขี่ มัน โหดจังฟะ อิๆ เลือกถ่ายนี่หว่า พวกตากล้อง อิๆ ถนนในเมืองหงสา มีลาดยางด้วย ดูให้เห็นยาง คนทีนี่ ส่วนใหญ่ก็ใช้จักรยาน และ รถจักร(แมงกาไซค์กัน) จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:19:29

ความคิดเห็นที่ 21 ยังไม่ได้อ่าน.......ขอเขียดก่อนละกันนะน้า ผมรอกระทู้น้าตั้งนาน  นึกว่าลืมไปแล้ว....ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ดอยภูทาย เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:21:01

ความคิดเห็นที่ 22 ตลาดหงสา ก็เหมือนตลาดเล็กตามชนบทไทย มีแผงลอยขายของ กระจุกกระจิก และอาหาร ส่วนผม กับเพื่อนอีกกลุ่มแว่บ ออกนอกตลาดไป หา เฝอ เจ้าอร่อย กับ ผัดกระเพราะไข่ดาวเติมพลังกัน จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:21:57

ความคิดเห็นที่ 23 ตามกลิ่นดองเค็มเข้ามาดูพี่หมอ ออกทริป โหด มันส์ ฮา จากคุณ : spajan เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:22:53

ความคิดเห็นที่ 24 กินอิ่มแล้ว ก็ออกเดินทางกัน ทาง 120-130 โลต่อจากนี้แหละ ลุยขึ้นเขา ลงเขา ลงห้วยกัน สนุก โหด มัน ฮา (ไม่ออก) จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:23:35

ความคิดเห็นที่ 25 วิ่งๆไป มันก็มีปลักควาย มาดัก คน เล่นมั่ง แก้เหงา จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:24:33

ความคิดเห็นที่ 26 หินลอยๆ ร่วนๆ อย่างนี้แหละตัวดี เรียบๆอย่างนี้ไม่เท่าไร แต่ประเภท ขึ้นเขา หรือ ลงเขา แล้ว เจอก้อนใหญ่ๆ ขวางๆเต็มๆ พร้อมกับร่องน้ำใหญ่ๆ  ขนาด ลึกเป็นฟุตๆ แล้ว ด้านข้างเป็นเหวลึกลงไป อันนั้นแหละ ที่มัน ปราบเซียน ทำให้ต้องคลานกัน ในบางช่วง จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:26:40

ความคิดเห็นที่ 27 ดังนั้น ไม่แปลกที่ วิ่งๆไปจะต้องช่วยกัน ยกมันกลับ มาเข้าเลน กันหน่อย   จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:27:49

ความคิดเห็นที่ 28 ตรงนี้อีกคัน แต่คราวนี้เจ็บหน่อย ข้อเท้าแตก ไปต่อไม่ได้ ต้องยอมแพ้ ส่วนสาวแกร่งของทริปเรา แค่เจ็บนิดหน่อย  แต่ ก็ต้องหยุดขี่แค่นี้ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:29:45

ความคิดเห็นที่ 29 ข้อเท้าแตกไปต่อไม่ไหว แม้ใจจะสู้ แต่ก็ต้องหามขึ้นรถเซอร์วิส ก่อนบินกลับ กทม.ในวันรุ่งขึ้น วันอาทิตย์เราเช็คข่าวกันได้ข่าวว่า ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว หายไวๆนะครับ (ตูเองยังไม่หายเลยนี่หว่า อิๆ) จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:31:19

ความคิดเห็นที่ 30 ห้วยแบบนี้ มีให้ลุย 7-8 ห้วย รถยนต์ต้องลุยแน่ๆ อยู่แล้น ส่วนมอร์เตอร์ไซค์ ส่วนใหญ่ก็ต้องลุยตามเหมือนกัน ปล.ห้วยนี้เหมือนไม่ค่อยลึกเท่าไร บางห้วยแคบ กว่านี้แต่ลึกกว่านี้ แต่น้ำใสเย็นดีจัง เหนื่อยๆ พักล้างหน้า ชื่นใจ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:34:09

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาชมด้วยคนครับ จากคุณ : ทัพยั้ง327 (popvcd1) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:35:15

ความคิดเห็นที่ 32 บางห้วย ก็มีสะพานไม้อย่างนี้ให้พวกแมงกาไซค์อย่างเราไต่ร่องไปตาม ไม้ขอนผุนิดๆ แบบมีลุ้น จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:35:36

ความคิดเห็นที่ 33 ขี่ไป ทั้งฝุ่นทั้งเหนื่อย อิจฉา บักHumน้อย นั่งแช่น้ำ เย็นไข่ สบายอุรา จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:37:24

ความคิดเห็นที่ 34 ทางช่วงท้ายๆก่อนถึงหลวงพระบาง มีบางส่วนที่บดอัดเป็นดินแน่นแบบนี้ แล้ว ทำให้ ได้ซิ่ง ออกกำลังกายกัน แถว 70-80 ได้บ้าง หลังจากอึดอัดอั้นมานาน อิๆ แต่เล็งเหว ด้านข้าง กับระวังเด็ก ที่คอยจะวิ่งออกมาโบกมือทักทาย ข้างทาง กันหน่อย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:39:31

ความคิดเห็นที่ 35 หน้าตาคนลาว แถว เขา และชนบท ไม่ต้องแปลกใจ ที่คุ้นหน้า เพราะว่าพวกนี้ ก็คือ พวกม้ง เหมือนที่บ้านเรา ซึ่งบางส่วนก็อพยพ มาจากลาว นี่แหละ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:40:43

ความคิดเห็นที่ 36 ในทีสุด เส้นทาง ก็หมดลงที่ริมน้ำโขง ตรงท่าเรือ ข้ามไปหลวงพระบาง ตรงนี้แหละ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:41:51

ความคิดเห็นที่ 37 แพขนานยนต์ ที่ ขนรถยนต์ได้ราวๆ ห้าหกคัน หรือถ้าแมงกาไซค์อย่างพวกรา ก็ราวๆ สิบกว่าเกือบยี่สิบคัน  คอยวิ่งรับส่งข้ามฝาก เริ่ม ตอนหกโมงเช้า เที่ยวสุดท้าย ห้าหกโมงเย็นใครมาไม่ทัน นี่นอนฝั่งนี้ แหละเพราะว่า เค้าไม่ยอมวิ่งให้ บอกมองไม่เห็นกลัวชนตอใต้น้ำ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:43:50

ความคิดเห็นที่ 38 จากบนเรือ มองผ่านท่าเรือ ซึ่งอยู่ตรงกับวังเจ้ามหาชีวิต  จะเห็นพระธาตุภูสี แลนด์มาร์คหลัก ของหลวงพระบาง ไปไหนไม่ถูกเล็ง ยอดพระธาตก่อน อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:45:31

ความคิดเห็นที่ 39 โอยยยย เปลี่ยนบรรยากาศ ไปอย่างงี้สงสัยจะมันส์นะครับ ^^ อยากเปลี่ยนไปขี่แบบนี้แต่ไม่มีกลุ่ม แหะๆ จากคุณ : Norulejune เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:45:45

ความคิดเห็นที่ 40 กว่าจะรอรถข้ามมากันหมด แสงสุดท้ายของวัน เกือบหมดพอดี เพราะว่าหน้าหนาว ยังไม่หกโมงดี มืดซะแล้ว จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:46:50

ความคิดเห็นที่ 41 ตามมาเที่ยวค่ะ ขอให้เท้าหายเร็ว ๆ นะคะ จากคุณ : โมลี เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:48:13

ความคิดเห็นที่ 42 เอ้าพวกไปถึงก่อน ยกพลขึ้นบกหลวงพระบาง ได้ เลย ส่วนใครถึงหลวงพระบางมั่ง ต้องเช็คกันเอาเอง ผมมีปิ่นโตไปด้วยไม่เกี่ยว อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:48:14

ความคิดเห็นที่ 43 โห  ดีนะเนี่ย  ไม่คิดจะขี่ตามพี่หมอไป รถ steed น้อยของผม ตายตั้งแต่ก่อนถึงด่านแหงๆ หาทางเข้าทางหนองคายให้ได้อย่างเดิมดีกว่า -_-' จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:49:42

ความคิดเห็นที่ 44 ถึงที่พักแล้ว ยังอาบน้ำไม่ได้เนื่องจากรถเซอร์วิส  ขนกระเป๋ายังมาไม่ถึง เพราะว่าพาคนเจ็บไป รพ. หมอน้อยลูกสาวผม ไปรพ.สนุกสนานใหญ่ ถ่ายรูป รพ.ทั้งป้าย และชื่อห้องต่างๆมาเต็ม เด๋วว่างๆจะเอาไปลงที่ไทยคลินิค กับภาษาลาวน่ารัก แล้วจะเอาลิ้งค์มาฝากครับ นั่งหน้าห้อยกันจนเกือบทุ่มกว่าๆ หลายคน ทนไม่ไหว หนีไปอาบน้ำ แล้ว นุ่งผ้าเช็ดตัวมารอชุด หน้ารพ.เหมือน นั่งเรียกแขก เลย อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:50:36

ความคิดเห็นที่ 45 ดูเส้นทางกันแล้ว มาชมเมืองกันซักนิด แนะนำตัว พาหะนะที่เช่ามาใช้ ซักหน่อยคันเท่านี้แหละ ค่าเช่าวันล่ะ หกร้อยบาทไทย คิดถึงแมงกาไซค์เช่า ที่ปายวันล่ะร้อยบาทเลย อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:52:39

ความคิดเห็นที่ 46 มา หลวงพระบาง นอกจากเดินเล่นดูเมืองแล้วก็ต้องเที่ยววัด คราวก่อนผมเดินมันหมดทุกวัด สองคนกับแฟน รอบนี้เพลียๆเหนือ่ยเลย แวะ ไปแค่วัดหลัก วัดเชียงทอง ภาพนี้คือภาพคุ้นตาของคนมา วัดนี้ ศาลา เก็บราชรถ ทีใช้ในงานราชพิธี จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:54:57

ความคิดเห็นที่ 47 ราชรถที่ใช้ในงานราชพิธี ที่ชาวลาวภูมิใจในงานศิลปะหัตถกรรมแกะสลัก สวยครับ แต่ ของไทยเราก็มี งามไม่แพ้เค้าหรอก จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:56:11

ความคิดเห็นที่ 48 สิม หรือ โบสต์วัดเชียงทอง นี่ก็เป็นศิลปะที่งดงาม ที่เป็นไฮไลท์ ที่ใครไปหลวงพระบาง ต้องแวะเยี่ยมและถ่ายรูป ฉัตรที่แต่ง เหนือหลังคา นั่นจำนวน มากน้อย บอกความสำคัญของวัด อย่างของวัดนี้ มากที่สุด เป็นวัดหลวง อ่ะ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:58:00

ความคิดเห็นที่ 49 หายไวไวกันทุกคนนะครับ จากคุณ : .................. (marp395) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:58:46

ความคิดเห็นที่ 50 ศาลาหลังน้อยที่มีรูปวาดเหมือนการ์ตูนนี่ ก็น่ารัก หลายคนชอบเข้าไปแล้วโผล่ หน้าออกมาทางหน้าต่างถ่ายรูป เป็นไฟล์ท์บังคับของสาวๆที่มาวัดนี้ เด๋วไม่คุ้มค่าตั๋วผ่านเข้ามาชม สองร้อยบาทไทย อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 21:59:36

ความคิดเห็นที่ 51 ส่งท้ายวัดนี้ ด้วยภาพ โรงเก็บราชรถ จากกล้อง คุณหนึ่ง อีกซักรูป สวยดี จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:00:47

ความคิดเห็นที่ 52 อันนี้ ภาพมุมกว้าง ยอดนิยม ของวังเจ้ามหาชีวิต ที่นิยมถ่ายผ่านแนวต้นตาล ที่เรียงสองข้างทางเดิน เข้าไป จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:01:53

ความคิดเห็นที่ 53 สภาพบ้านเรือนของ หลวงพระบาง ดูคลาสสิคเหมือนเชียงใหม่สักสามสิบปีก่อน ดูสงบ เดินเล่นเพลินๆ ดูร้านกาแฟ ร้าอาหารข้างทาง แต่งเหมือนทางยุโรป ปนโบราณนิดๆ นี่แหละ คนมาหลวงพระบาง ก็เที่ยวกันแค่นี้ แหละ ใช้ชีวิตสบายๆ เดินไปเดินมา  คล้ายๆเราไปเดินเล่นปาย หน้าหนาว จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:04:09

ความคิดเห็นที่ 54 ขอตามไปเที่ยวด้วยคันนะคะ ชอบจริงๆ อะไรที่ลำแบก ๆ  เอ๊ย! ลำบาก ๆ แบบนี้ ปล. เริ่มฟิต ร่างกาย และเตรียมอุปกรณ์ ไว้บ้างแล้วล่ะค่ะ พร้อมเมื่อไหร่  ก็จะไปเหมือนกัน จากคุณ : ไออิ (goldwing) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:04:34

ความคิดเห็นที่ 55 อีกมุม จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:04:49

ความคิดเห็นที่ 56   อ่านมันดีครับ...คุณหมอ บรรยายเหมือนกับได้ไปเองเลย.. ขนาดนั่งดูยังสนุกเหมือนได้ไปเองเลย.. สำหรับเท้า..(teen)ขอให้หายทัน..ทริปดำน้ำนะครับ.. ไม่งั้นดำไม่สนุก..ถ้าteen ป่วย..อิอิ จากคุณ : uncle@toms_pt เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:05:16

ความคิดเห็นที่ 57 อันนี้กล้องคุณหนึ่ง สะพานข้ามแม่น้ำ ไม่แน่ใจ ว่าเป็นแม่น้ำโขง หรือแม่น้ำคาน เพราะว่าหลวงพระบางมีแม่น้ำสองสาย ไหลผ่าน จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:06:10

ความคิดเห็นที่ 58 อีกภาพ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:06:53

ความคิดเห็นที่ 59 ภาพคุ้นตายามเช้า ตักบาตรข้าวเหนียว ที่พระ หลายร้อยรูป จะมาเดินรับบาตร ใครช้าไม่ทันพระนะ พระเยอะท่านเดินเร็ว ต้องรีบหยิบปั้นใส่กันมือเป็นระวิง อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:08:11

ความคิดเห็นที่ 60 มาหลวงพระบาง อีกหนึ่งกิจกรรมที่เค้าฮิตกัน แต่ผมพลาด ทั้งสองเที่ยว คือ ไปนั่งทานกาแฟ  กับปลาท่องโก๋ ร้านประชาราษฏร์ หรือประชา อะไรซักอย่างที่ริมโขงนั่นแหละ   คราวก่อนผมไปผิดเวลา คราวนี้ลืม   ยืมรูปเค้ามาแทน อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:10:07

ความคิดเห็นที่ 61 รูปจากกล้อง คุณหนึ่งอีกภาพ ชอบจังครับ คนแก่หลวงพระบาง ดูน่ารัก สงบ มีความสุข จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:11:08

ความคิดเห็นที่ 62 แค่อ่าน ก็มันส์แล้วค๊าบบบบ จากคุณ : 9TonEos เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:14:02

ความคิดเห็นที่ 63 พาออกไปเที่ยวน้ำตกกันหน่อย ขับรถออกไป 25 กม.ตามทางหลวง ที่สร้างเพื่อไปที่น้ำตก ตาดกวางสีโดยเฉพาะ สิ้นสุดทางที่น้ำตกเลย (ตาดแปลว่าน้ำตก) ถนนราดยางเนียบ ตลอดแนว เรียกว่า ตั้งแต่ผมไปลาว มาไม่ว่าจะเป็นหลวงพระบาง หรือเวียงจันทร์ หรือทางไปวังเวียง ดูเหมือนถนนเส้นนี้เนียบสุด เสียดาย วันที่ไปคราวนี้ น้ำน้อยมากทำให้ความงามของน้ำตก ลดไปเยอะ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:14:36

ความคิดเห็นที่ 64 เอาภาพ จากแฟ้ม เมื่อตอนไปเที่ยวคราวก่อนมาเทียบ คราวนั้นน้ำเยอะกว่า น้ำตก แรงแผ่กว้าง ไอน้ำจากน้ำตกฟุ้งกระจายออกมา ทั่วบริเวณเลย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:15:58

ความคิดเห็นที่ 65 ไอ้นี่ดอกอะไรก็ไม่รู้ หน้าตาแปลกดี เห็นแถวข้างน้ำตก อิๆ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 52 22:19:03 จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:17:59

ความคิดเห็นที่ 66 พี่หมอบรรยายได้สนุกดีครับ  ขอบคุณครับ ไม่ได้ไปเที่ยว ก็เหมือนไป ครับ จากคุณ : =Razzo= เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:18:48

ความคิดเห็นที่ 67 น้ำที่ กวางสี สีออกฟ้าๆ คล้ายมีแร่ธาตุเยอะเหมือนแหล่งน้ำหลายแห่ง ของไทยเรา อย่างเช่นที่ ถ้ำเชียงดาว จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:19:32

ความคิดเห็นที่ 68 แฮ่ะๆ ไล่โพสต์โดยยังไม่ได้ตอบเพื่อนๆเลย ถึงภาพสุดท้าย ที่เตรียมไว้แล้ว ปิดท้ายด้วยพระธาต แช่แห้ง พระธาตุประจำวันเกิด คนเกิดปีเถาะ ปีเกิดแฟนผม อยู่ใน เมืองน่าน   ผมไม่เคยไปมาก่อนพอเห็นครั้งแรก อืมมมมมมมม สวยกว่าที่คิด ตอนแรกคิดว่า จะไม่สวยเหมือนพระธาตุช่อแฮ พระธาตุประจำคนเกิดปีขาล ที่ อยู่แพร่ บ้านใกบ้เรือนเคียงซะอีก จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:21:47

ความคิดเห็นที่ 69 # 43 พี่ 1 เส้นทางสาย หนองคาย - วังเวียง - หลวงพระบาง ระยะทาง ไม่ถึง 400 กม.  แต่ทางวิ่งสบายกว่ากันเยอะ   ( อาจจะต้องวิ่งสัก 2 วัน ) พี่ 1 เอา steed น้อย  ไปลุยได้เลยค่ะ จากคุณ : ไออิ (goldwing) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:22:23

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณเพื่อนๆที่แวะเยี่ยมชม ครับ ใครไปเส้นทางนี้ ระมัดระวังเป็นพิเศษนิดนึงนะครับ จะไปรีบไปนะ เด๋วเค้าทำทางเสร็จหมดทางดี อดโหด มัน ฮาไม่ออก อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:22:36

ความคิดเห็นที่ 71 คงสนุกนะครับ อาหมอ มีโอกาสไปหลี่ผีดูซิครับ เขาบอกสวย ฝรั่งไปอยู่กันเยอะ ปลาก็เยอะดีแถมถูกมากๆ คนที่บ้านไปกันหมด แต่ผมไม่เคยได้ไป เพราะหนีมาทำงาน กทม. จากคุณ : dib2000 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:24:32

ความคิดเห็นที่ 72 รูปถ่ายวัดและบรรยากาศ สวยมากครับ จากคุณ : sunny2003 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:29:55

ความคิดเห็นที่ 73 แถมน้ำตก ตาดแส้ ประกบกวางสี อีกซักรูป สำหรับคนที่จะแวะไปหลวงพระบาง ห่างจาก หลวงพระบาง สิบกว่าโล ทางไม่ค่อยดี ต้องลงเรือต่อไปหน่อย แต่ก็สวยดี มีเวลาน่าไปเยือน จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:30:06

ความคิดเห็นที่ 74 หลี่ผี ผมไปปีแล้ว ครับ แต่ว่า ไปด้วย รถยนต์ ถ้าเป็นแมงกาไซค์ ก็น่าจะมันส์นะ ปล.เดือนมค.เพื่อนๆกลุ่ม GS นัดออกด่านห้วยโกร๋นกันอีกครั้ง ครั้งนี้ ทางดีหน่อย พอเอา GS ไปกันได้ จะออก ทางด่านห้วยโกร๋น แล้วหักขึ้นเหนือ ไปจนสุดแดนที่พงศาลี ติดชายแดนจีน เป็นทริปแมงกาไซค์ สี่วัน ถ้าได้ไป จะเก็บภาพ มาฝากครับ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:31:53

ความคิดเห็นที่ 75 แวะเข้ามาชม ครับผม จากคุณ : CDNew เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:32:01

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณภาพสวย ๆ คำบรรยายเห็นภาพนะคะ ขอให้พี่หมอและผู้บาดเจ็บทุกคนหายป่วยโดยเร็วนะคะ จากคุณ : ธ.ทหารอดทน เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:33:10

ความคิดเห็นที่ 77 เห็นเท้าพี่หมอแล้วสยิวกิ้วมากเลยครับ จากคุณ : katana เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 22:47:51

ความคิดเห็นที่ 78 ตามอ่านด้วยลุ้นระทึก    โหด และ มันส์แฮะ.. ขอให้หมอเจ  หายไว ๆ ทันทริปดำน้ำ เน้อ   และคนเจ็บที่ร่วมทริปด้วย    ขอให้หายเจ็บไว ๆ ด้วย ขอบคุณค่ะที่รีวิวมาฝาก   อยากไปอยู่ จากคุณ : KJ_FBI เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 23:00:45

ความคิดเห็นที่ 79   ไม่ทราบว่า ทริปนี้ คุณหมอได้ไปแวะชม หอพระบาง หรือเปล่าครับ.. จากคุณ : uncle@toms_pt เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 23:03:10

ความคิดเห็นที่ 80 หายไวๆ นะครับ อ่านเพลินจนลืมไปเลยว่า "ผมง่วงนอน" จากคุณ : ทาเคโซ เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 23:03:55

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณหมอเจ ที่มาแบ่งปันความสนุกครับผม เดินทางปลอดภัยครับ จากคุณ : radar_gamo เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 23:23:50

ความคิดเห็นที่ 82 สนุกมาก เพลินเลย จากคุณ : tkroot เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 23:38:35

ความคิดเห็นที่ 83 เท้าหายไวๆนะครับ พี่บีก็ชวนไปพงสาลี เหมือนกัน เห็นว่าทริปนี้ จะไปกลุ่มเล็กๆ 300 กว่ากิโลเมตร น่าสนเหมือนกัน จากคุณ : ตั้มขาว เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 23:40:10

ความคิดเห็นที่ 84 เห็นทางแล้วน่ากลัวมาก ไม่รู้ว่าจักรยานที่คนขี่ ขี่ไปได้อย่างไรถึงหลวงพระบาง 1 ทุ่ม ผมแค่รู้ว่าอายุ 40+ เป็นนักแข่งได้ถ้วยมาหลายใบแล้ว แต่ก็เหอะทางมันโหดจริงๆ ถ้าผมปั่นจักรยาน คงนอนพักที่หงสาหนึ่งคืนครับ คงไปไม่ไหวใน 1 วันแน่ๆ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 52 23:42:09

ความคิดเห็นที่ 85 สุดยอดครับพี่หมอ ทางไม่ค่อยดีเลยจริงๆ ขอให้หายเร็วๆนะครับ จากคุณ : กอล์ฟ (spry_dragon) เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:09:09

ความคิดเห็นที่ 86 ไป ลาว พม่า เนี่ยเวลาขี่ท่องให้ขึ้นใจเลย ชิด ขวา ชิด ขวา แซง ซ้าย แซง ซ้าย จากคุณ : digital_ok เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:33:10

ความคิดเห็นที่ 87 ล่าสุดไป เยี่ยม พี่รังสรรค์มาแล้วครับ พี่บอกว่า สู้ๆ ครับ ใกลหัวใจ แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 52 00:34:15 จากคุณ : digital_ok เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 00:34:01

ความคิดเห็นที่ 88 ถือว่าฟาดเคราะห์รับปีใหม่ครับ   จากนี้ไป จะมีแต่โชคดีครับพี่หมอเจ อิจฉาจัง  ได้ขี่ที่ลาว   อยากตามรอย  แต่ยังไม่มีโอกาส จากคุณ : คุณจริงใจ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 01:29:18

ความคิดเห็นที่ 89 เอาลิ้งทัวร์รพ.ลาว และ ภาษาลาว วันล่ะหลายคำมาฝาก ครับ อๆ http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl?board=doctorroom;action=display;num=1260294536;start=0 จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 01:42:02

ความคิดเห็นที่ 90 สุดยอดเลยครับพี่ นับถือๆ จากคุณ : vecchio เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 02:15:44

ความคิดเห็นที่ 91 ไม่รู้ชีวิตนี้ จะได้ทำอย่างพี่หมอหรือเปล่า.. สุดยอดจริงๆ จากคุณ : หนุ่ม ณ เมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 04:36:12

ความคิดเห็นที่ 92 สุดยอดครับ จากคุณ : tonky96 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 08:02:13

ความคิดเห็นที่ 93 พี่หมอเจจ๋า   บอกด้วยนะ ว่าตากล้องชื่อหนึ่งทริปนี้  คนละคนกับผมนะคร๊าบบบบบบบบบ มีคนโทรมาถามผมสองคนแล้ว  T_T หายเร็วๆนะครับพี่หมอ   ทริปหน้าอยากเกาะท้ายรถ service ไปด้วยจังเลย จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 08:39:22

ความคิดเห็นที่ 94 ขอยืนยันคำเดิมครับ อุ้ง teen หมี ชัดๆ จากคุณ : แมงแกลบ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 09:06:59

ความคิดเห็นที่ 95 แจ่ม... จากคุณ : chem chem เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 09:25:28

ความคิดเห็นที่ 96 อยากลุยอย่างนี้มั้งครับ ถ้าเอารถตลาด  จะไหวหรือเปล่าเน้ีย ภาพคห.1 น่ากลัวจัง  หายไวไวครับพี่หมอ จากคุณ : hs9keq เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 10:05:05

ความคิดเห็นที่ 97 พี่หมอเจ หายเร็วๆๆๆนะครับ จากคุณ : f18hornet เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 52 14:26:30