ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่า รถจะทนไม่ทนอยู่ที่ user มากกว่ารถนะ จากคุณ : Sidewinder เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:46:16

ความคิดเห็นที่ 2 พอกัน..เพราะงบฯของความแข็งแกร่งของตัวรถ ไปอยู่ที่งบการตลาดแล้วแหละ ฮ่าๆๆ จากคุณ : LOBAMAN เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:48:30

ความคิดเห็นที่ 3 คุณว่ารถแท๊กซี่มันใช้งานโหดหรือป่าวละครับ แล้วทําไมถึงมีแต่โตโยต้าละครับที่ส่วนมากเอาไปทําแท๊กซี่ เป็นรถที่ดีแต่ใช่ว่าจะดีทุกด้านแค่นั้นครับ จากคุณ : moovit เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:49:05

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องตัวถังและช่วงล่างน่าจะพอๆกัน เครื่อง โตต้าน่าจะกินครับ ส่วนอะไหล่ และ ช่างซ่อม ต้องเป็นพี่โตเลยครับ เยอะมาก จากคุณ : นอนตากลม เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:52:24

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่จริงครับ อยู่ที่ คนใช้ ใช้แล้วไม่รู้จักบำรุงรักษา ขับ "รถถัง" มันก็พังครับ จากคุณ : *PIPPO* เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:54:25

ความคิดเห็นที่ 6 คุณว่ารถแท๊กซี่มันใช้งานโหดหรือป่าวละครับ แล้วทําไมถึงมีแต่โตโยต้าละครับที่ส่วนมากเอาไปทําแท๊กซี่ เป็นรถที่ดีแต่ใช่ว่าจะดีทุกด้านแค่นั้นครับ จากคุณ : moovit ------------------------------------------------------------------------------------- Honda รักษาภาพลักษณ์ ของตราสินค้ามากกว่าครับ เพราะเห็นว่า เจอทำ Taxi บริษัท ก็ซื้อกลับหมด  กลัวลูกค้ารับไม่ได้ บางคนเหมือนพูดแบบประชดว่า Honda  ไฮโซ มากกว่า ส่วนรถค่ายไหนจะทนกว่ากัน ผมว่าพอๆกัน แต่น่าจะเทียบว่ารุ่นไหนจุกจิ๊กกว่ากัน มากกว่า อันนี้ Comment ได้ชัวร์ จากคุณ : Mukzaki เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:56:36

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่จริงเลยครับ   อยู่ที่การบำรุงรักษาของผู้ใช้อย่างเดียวเท่้านั้น   ส่วนถ้าเป็นค่ายตะวันตกแท้ๆ ผมไม่เถี่ยงเพราะตัวถังเหล็กหนากว่าเจแปนเยอะ   เครื่องยนต์อึดและทนทานกว่าครับ จากคุณ : SGT.AIRMAN เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:59:08

ความคิดเห็นที่ 8 3 ฮอนด้า เค้าทำสันญาห้ามเอารถไปใช้ในการ พานิช แท๊คซี่ ห้ามครับ บิตซู มี เชฟมี  อีซูสุมี ดีสสันมี ฮอนด้า เค้าห่วงเรื่องภาพพจ น๊ะครับ จากคุณ : โลกต้องตะลึง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 08:59:36

ความคิดเห็นที่ 9 แต่ผมว่าการที่พี่โตเอามาทำ Taxi กันเยอะ ทำให้ดูเป็นรถที่ทนทาน ทนทรีนมากกว่านะครับ จากคุณ : ถูกทิ้งที่รังสิต เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 09:03:19

ความคิดเห็นที่ 10 มีจริงเหรอครับ เรื่องที่ฮอนด้าห้ามทำแท็กซี่แล้วซื้อคืนเนี่ย เพราะผมเจอ Honda เป็นแท็กซี่บ่อยพอสมควร ก็เป็นคันเดิมๆ เพราะรถจำนวนมีน้อย ตอนรับรถ มีเซ็นเอกสารห้ามนำรถไปทำแท็กซี่หรือเปล่าครับ จากคุณ : FyGI เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 09:11:05

ความคิดเห็นที่ 11 หน่วยแก้ข่าวในเน็ทมันเยอะครับ ระวังให้ดี  ใช้สติปัญญาไตร่ตรองเหตุผลให้ดี  เชื่อมั่นในความคิด การวิเคราะห์ของตนเองแต่ในขณะเดียวกันก็เปิดใจรับฟังโดยใช้ปัญญาเหตุผล  ไม่เช่นนั้นท่านอาจถูกทีมแก้ข่าว ทีมการตลาดแทคทีมมาเป็นสิบๆความเห็น  ปั่นกระแส สร้างกระแสได้ ถ้าพูดถึงความทนทาน  โตโตต้ากินขาดอยู่แล้วครับ   แท็กซี่คือข้อพิสูจน์  อู่แท็กซี่อู่ไหนบ้างที่ใช้ฮอนด้า  รถแท็กซี่ฮอนด้าก็มีครับเคยมีคนเอามาลงให้ดู  เป็นแท็กซี่ส่วนบุคคลมีไม่กีคัน   แท็กซี่สหกรณ์แท็กซี่อู่แท็กซี่เถ้าแก่ให้เช่าไม่มีฮอนด้าครับ แท็กซี่วิ่งกันเป็นกะ  วิ่งทั้งวันหลายมือหลายเท้า  ติดแก็ซตั้งแต่ต้น  ไม่ทนทานจริง อะไหล่หาไม่ได้ ซ่อมไม่ง่ายจริงแท็กซี่เค้าจะใช้ไม๊ครับ  ส่วนเรื่องนโยบายฮอนด้ามีเกรดเลยไม่ยอมให้ทำแท็กซี่นั้น   เป็นวิชาการตลาดเปลี่ยนจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็งมากกว่าครับ   เพราะก่อนออกนโยบายอู่แท็กซี่เค้าก็ไม่เคยใช้ฮอนด้าอยู่แล้ว  ไม่รู้จะมาประกาศนโยบายแก้เกี้ยวไปหาหอกอะไร ทำไม ให้ผู้ซื้อรถงงเล่นเปล่าๆ คำถามนี้  คนทั่วๆไปทราบคำตอบดีครับ  แต่หลายๆท่านก็ไม่อยากพูด พูดไปจะถูกสาวกฮอนด่าเอา  สำหรับผมศึกษาธรรมะมาบ้าง  พอจะทราบว่าถ้าเราทำสิ่งใดด้วยใจบริสุทธิ์ เพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่น  ด้วยความจริง  ใครมาด่าผมย่อมได้รับผลกรรมนั้นเอง    พระพุทธเจ้าพระองค์ยังไม่พ้นคำติฉินนินทา  ใส่ร้ายเลยครับ จากคุณ : myst-man เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 09:11:29

ความคิดเห็นที่ 12 เคยเห็น TAXI ที่เป็น  HONDA ครับ..เห็นไม่บ่อย...แต่ก็เห็นเรื่อยๆ  honda เป็นรถที่สวย...แต่เดี๋ยวนี้ทำไมเห็นรถ honda มีแต่ปัญหากันเยอะ....toyota ก็มี...แต่ไม่เยอะเท่า honda แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 09:18:42 จากคุณ : pediee เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 09:14:58

ความคิดเห็นที่ 13   ถ้าเอาเฉพาะรถที่ผลิตในไทยนะครับ ความแข็งแรงผมว่าพอๆกันนะ เพราะเหล็กบางๆ ด้วยกันทั้งคู่ ก็อาจจะเป็นเพราะโครงสร้างที่ออกแบบมารองรับการชนให้มีช่วงที่ชนแล้วยุบก่อนที่จะมาถึงห้องโดยสาร โดยที่แผ่นเหล็กที่หุ้มรถจะบาง ยืนพิง เอามือดันรถแล้วบุบก็ไม่เป็นไร แต่ไปดู crash test จะเห็นว่ารถของฮอนด้า บางรุ่น ความเสียหายจากการชนนั้นยุบมากกว่าของโตโยต้าในรถระดับเดียวกัน เรื่องความทนทานของเครื่องยนต์ ผมก็ให้โตโยต้า ทนกว่า ความจุกจิกน้อยกว่า ทนทาน ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แถมอะไหล่ก็หาได้ง่ายเหลือเกิน ราคาก็ไม่แพง แต่ ถ้าดูราคารถที่ขายในประเทศไทย รุ่นเดียวกัน ของที่ขายในประเทศ option ต่างๆ น้อยกว่าของที่ขายใน ตปท เช่นยุโรป ทั้งๆที่เมื่อเทียบเป็นเงินไทย รถที่ขายบ้านเราราคาแพงกว่า น่าสงสารคนไทยที่ต้องซื้อรถแพง ทั้งๆที่ผลิตในประเทศตัวเองแท้ๆ แต่ให้ผมซื้อ ผมคงไม่เลือกทั้ง 2 ยี่ห้อนี้แหละครับ ยังมีอีกหลายยี่ห้อนะในบ้านเราที่มีรถดีๆน่าใช้ เรื่อง honda ไม่ให้ทำ taxi ลองไปค้นกระทู้เก่าๆดูนะครับ มี แต่มีน้อยมากๆ จากคุณ : SkyTrekker เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 09:17:46

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเองคิดว่าโครงสร้างของรถปัจจุบัน เปลี่ยนจากความเชื่อเดิมๆไปแล้ว ที่ว่ารถที่ให้ความปลอดภัยสูง คือรถที่ใช้โครงสร้างของเหล็กหนาๆ ซึ่งมีข้อพิสูจน์มากมายว่า แท้จริงแล้วเล็กที่ว่าหนาๆเหล่านั้น มิได้ช่วยอะไรมากมายเลย ปัจจุบันรถบุคคล น่าจะทั้งหมดแล้ว ทำโครงสร้างตัวถังแบบที่เรียกว่าโมโนค็อก คือตัวถังชิ้นเดียว มีจุดทีออกแบบซับแรงกระแทกได้ดีระดับหนึ่ง ไม่ต้องพึ่งเหล็กที่หนาเทอะทะ และก็มีอุปกรณ์ปลอดภัยอื่นๆเสริมเข้ามา เราจึงเห็นว่ารถปัจจุบัน ค่อนข้างจะบอบบางกว่าสมัยก่อน ถ้าใครเคยดูในยูทูป ที่เอาวอลโว่รุ่นบิ๊กบัมเปอร์ มาชนกันตรงๆกับเรโนลท์ที่เล็กกว่ามาก ปรากฏว่าวอลโว่พังเสียหายมากกว่า ผิดความรู้สึกไปเลยจริงๆ จากคุณ : dansivilai เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 09:47:58

ความคิดเห็นที่ 15 เบื่อแล้ว กระทู้แบบนี้ ตั้งซ้ำๆ ซากๆ อยู่ได้ ไม่ชอบก็เก็บไว้ในใจ ก่อนตั้ง หาในกระทู้เก่าๆ ก็ได้ จากคุณ : napatn เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 09:54:03

ความคิดเห็นที่ 16 มิสแมน ว่าตัวเองรึเปล่า อิ อิ อิ (พูดอะไรระวังเข้าตัว นะ)555555 จากคุณ : ปัญญาประดิษฐ์ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:00:41

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องที่นำ Honda มาทำแท๊กซี่แล้ว บ.ซื้อคืนเพื่อรักษาภาพลักษณ์นี้  เป็นเรื่องไม่จริงครับ  มีกระทู้เก่าๆ เคยถกเถียงกันเรื่องนี้หลายรอบแล้ว และรถแท๊กซี่ที่เป็น Honda ก็มีหลายๆ คัน  เคยมีกระทู้เก่าๆ โพสไว้เยอะมาก แต่เทียบสัดส่วนแล้ว Toyota เยอะกว่า ส่วนเหตุผลที่ทำไมนิยมเลือก Toyota มาทำแท๊กซี่ ก็มีกระทู้เก่าๆ โพสไว้เยอะแล้ว  อาทิเช่น  Toyota นำมาดัดแปลงติดระบบ lpg แล้วไม่มีปัญหาจุกจิกมากกว่า  อะไหล่หาง่าย ดัดแปงง่ายกว่า ฯลฯ ลองใช้ Smart search หากันดู จากคุณ : ช่า ช่า ช่า เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:02:33

ความคิดเห็นที่ 18 Toyota ทนกว่าครับ อะไหล่ถูกกว่าด้วย Taxi honda ผมเห็นบ่อยครับ ของอู่ ก็มี ไม่ได้มีแค่ เหลือง-เขียว คนใจรัก Honda เท่านั้นครับ ถึงจะเอามาทำ Taxi แล้วถ้าซื้อมือ 2 มา แล้วเอาไปทำ Taxi บริษัท honda คงซื้อคืนไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้ซื้อออกจากศูนย์ครับ ดังนั้นบอกได้เลยว่าซื้อคืนไม่ได้ ถ้ารถได้ซื้อออกมาแล้ว เว้นแต่มันจะซื้อคืนที่รคาคาเต็ม อิอิ แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 10:12:57 จากคุณ : XenoType เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:11:36

ความคิดเห็นที่ 19 อยู่ที่รุ่นมากกว่าครับ ถ้าเอาง่ายๆ เหมือนที่หลายๆ คนคิด อย่าง Civic กับ Altis แบบนี้ Altis ทนกว่าแน่ๆ ครับผม ถาม ว่าทำไม ? เพราะช่วงล่างหลังของ Civic เป็นอิสระ ส่วน Altis เป็นเทอร์ ชั่นบีมครับ ถ้าไม่แกล้งทำโอเวอร์ำซท์จริงๆ คานบิดใน Altis ทนกว่าแน่นอนครับผม แต่ ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะทาง Honda พยายามสร้างรถอย่าง Civic ออกมาให้เหนือกว่าชาวบ้านครับ (คือแนวคิดนะครับไม่ ได้หมายความว่ามันเหนือกว่าจริง แต่ละคน ย่อมมีความคิดที่ ต่างกันออกไปครับ) และมีเทคนิคการยกมาพูดที่ต่างกัน ตลอด จนคนซื้อส่วนใหญ่เอง ก็มักคิดไปในทางที่บริษัทต้องการครับ อย่าง ช่วงล่างหลังแบบอิสระดีกว่า หนึบกว่า เข้าโค้งได้ดีกว่า คนก็เออ ดีกว่าจริงๆ วุ้ย แต่ไม่ได้ยกเรื่องความทนทานขึ้นมา พูด หรือ ค่าซ่อมบำรุงแต่อย่างใดครับ กลับกัน หาก Civic ทำช่วงล่างเป็นคานแข็งหมดสี่ล้อ ผมว่ามัน ทนกว่า Altis แน่นอนครับ แต่ ... จะมีคนคิดว่า "ดี" เหมือนผม หรือเปล่า มันก็อีกเรื่องหนึ่ง (จริงๆ ผมอยากให้มันมีแชสซีย์ด้วย ซ้ำไป จะได้ทนทาน) สรุปว่า ตลาดส่วนใหญ่ที่ซื้อรถค่ายนี้ เขามองเรื่องทนเป็นเรื่อง รองลงมาครับผม รถที่จะขายได้ ไม่จำเป็นต้องดีที่สุดในสายตาทุกคนครับ แต่มัน ดีเพียงแค่สายตาคนที่จะซื้อมันก็พอครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:12:27

ความคิดเห็นที่ 20 เอามาจากกระทู้เก่าที่เคยมีคนนำมาให้ดูครับ ขอยืมท่านที่เคยนำมาลงไว้ด้วยนะครับ จากคุณ : Phak Phoom เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:13:28

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าเป็นยุคต้น 70 ถึงต้น 80 พี่โตทนกว่าครับ เพราะเครื่องเป็นเหล็กหล่อทั้งดุ้น ทน หนัก อึด แต่ อืด เครื่องร้อนจัดก็ไม่เคยพัง โซ่ราวลิ้นสะบัดจนทะลุฝาครอบ น้ำมันเครื่องทะลักออกมา ก็ไม่พัง ออกแบบคล้ายๆรถทเมริกันที่เน้นทน อึด ------------------------------ แต่ถ้ารุ่นใหม่ ผมว่าพอๆกันครับ อยู่ในคนใช้มากกว่า จากคุณ : NoFlyZone เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:14:56

ความคิดเห็นที่ 22   ฮอนด้า เค้าเอาจุดอ่อนเป็นจุดขาย ยอมรับว่าฮอนด้าเมืองไทยเก่งมากเรื่องการสร้างภาพ รถฮอนด้าในความเป็นจริงอู่ไหนก็ไม่อยากเอามาทำแท๊กซี่หรอก ไปแก้ปัญหาต๊อค หรือดีเฟตจากโรงงานยังแก้ไม่ได้เป็นตั้งแต่ป้ายแดงซะเยอะ มิหนำซ้ำเวลารถลูกค้ามีปัญหา ตัวอย่าง crv,city,civic ที่โดนทุบมาแล้ว ยังไม่ยอมซื้อคืนลูกค้า ต้องให้ทุบก่อน แค่นี้ก็เป็นคำตอบแล้วยี่ห้อนี้ทำไมเจ้าของอุ่เค้าไม่เอามาทำ จากคุณ : มัวแต่สร้างภาพ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:22:03 A:58.8.120.255 X: TicketID:282684

ความคิดเห็นที่ 23   สุดทน! “ฮอนด้าลำปาง” จ่าทหาร มทบ.32 ลากรถประจานซื้อ 3 ปีผ่าเครื่อง 3 ครั้ง ลำปาง – สุดทน!! “ฮอนด้าลำปาง” ทหารร้อย มทบ.32 นำ “ฮอนด้า ซิตี้” ประท้วงบริษัทผู้ค้ารถ อ้างซื้อไม่ถึง 3 ปี ต้องผ่าเครื่องแล้ว 3 ครั้ง ช่วงเลขไมล์ไม่ถึงหมื่นน้ำมันเครื่องแห้งตลอด แต่บริษัทขอทดลองแก้ไขมาเรื่อย มาถึงวันนี้ยอมรับทนไม่ไหว ยื่นขอเปลี่ยนเครื่องใหม่ หากไม่ได้พร้อมทุบรถทิ้ง รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า จ.ส.อ.จรัล อุบลศรี ทหารสังกัดกองร้อย มทบ.32 อายุ 49 ปี ได้นำรถยนต์เก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์ ทะเบียน กจ-6914 ลำปาง ที่ซื้อจากบริษัท เชียงแสงยนตรการ จำกัด ในปี 2549 พร้อมป้ายผ้าข้อความ “ร้องผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ผ่าน ศคบ.ลำปาง Honda ลำปาง ผ่าเครื่อง 3 ครั้ง แก้ปัญหาไม่ตก” มาจอดขวางบริเวณปากทางเข้าบริษัท เมื่อ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอเจรจากับผู้จัดการ คือ นายบุญชัย หารกิตติวัฒน์ เพื่อขอให้เปลี่ยนเครื่องยนต์ให้ หลังจากที่เคยเข้ามาให้ทางบริษัทแก้ไขเกือบ 3 ปี แต่ทางบริษัทบ่ายเบี่ยงและไม่ยอมเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ จ.ส.อ.จรัล กล่าวว่า ตนซื้อรถคันดังกล่าวเมื่อปี 2549 ขับไปได้ประมาณ 9,600 กิโลเมตร น้ำมันเครื่องก็ลดลงเกือบหมดถัง โดยระยะเวลาดังกล่าวต้องนำรถเข้าซ่อมกับทางบริษัทถึง 3 ครั้ง และเวลาขับก็ต้องคอยตรวจน้ำมันเครื่องตลอดเวลา เพราะกลัวจะหมดและเครื่องจะไหม้ โดยทุกครั้งบริษัทก็จะขอแก้ไขเพื่อทดลอง เช่น ขอเปลื่ยนน้ำมันตัวใหม่บ้าง ต่างๆ นานา จนเวลาผ่านไปเกือบ 3 ปี ต้องผ่าเครื่องและให้โอกาสบริษัททดลองในการแก้ไขถึง 3 ครั้ง ซึ่งตนเห็นว่ามากเกินไปและตนก็ไม่พร้อมจะเอาชีวิตทั้งของตนเองและครอบครัวมาเสี่ยงอีกต่อไป จึงขอเจรจาให้บริษัทเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้ใหม่เท่านั้น แต่ก็ถูกบริษัทบ่ายเบี่ยงและจะขอทดลองแก้ไขอีก ดังนั้น ตนจึงได้ร้องไปยังผู้สื่อข่าว จนในผู้จัดการยอมออกมาเจรจาและจะประสานงานไปยังส่วนกลางเพื่อขอเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ให้ ซึ่งหากทางบริษัทยังไม่ยอมรับปากว่าจะเปลี่ยนให้ตนก็จะทุบรถยนต์คันดังกล่าวทิ้งเสีย เพราะคงจะขับต่อไปไม่ไหว แม่บ้านที่ใช้รถก็ไม่มีความรู้ซึ่งเป็นการเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก แต่ก็ยอมรับว่าที่ผ่านมาฮอนด้าให้บริการด้านอื่นๆ เป็นอย่างดีเช่นกัน www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000079222 จากคุณ : คนฉลาดที่ไหนเอามาทำ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:23:01 A:58.8.120.255 X: TicketID:282684

ความคิดเห็นที่ 24   www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9520000141601 สาวใหญ่นักธุรกิจสุดทน ขับเก๋ง “ฮอนด้า ซีวิค” มาทุบกลางโรงพักพหลโยธิน หลังซื้อมาใช้ได้แค่ 2 ปี แต่กลับมีปัญหาตลอด แฉวันรับรถถูกบังคับให้เซ็นรับสภาพว่าหากรถเกิดปัญหาทำได้แค่ส่งซ่อมเท่านั้นเปลี่ยนคันใหม่ไม่ได้ พอใช้ได้สัปดาห์เดียวก็มีเสียงดังทั้งคัน แถมปัญหาอีกสารพัด ต้องส่งซ่อมที่ศูนย์หัวหมากไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (22 พ.ย.) ที่ สน.พหลโยธิน นาง ชมพูนุท วานิชกุล อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/65 ซอยบุญศิริ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว ได้นำรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชว-5399 กทม.ที่เกิดปัญหาหลังจากซื้อมาตลอดระยะเวลา 2 ปี มาทุบต่อหน้าสื่อมวลชน นางชมพูนุทเปิดเผยว่า ตนซื้อรถคันดังกล่าวมาจากโชว์รูมฮอนด้า ซัมมิท สาขาอุดมสุข เมื่อประมาณเดือน ก.ย.50 ในราคา 800,000 กว่าบาท โดยศูนย์นัดให้มารับรถเมื่อวันที่ 13 ก.ย.50 แต่เมื่อตนเข้าไปรับรถ พนักงานที่โชว์รูมกลับบอกว่ารถมีปัญหา และนัดให้ตนมารับรถอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น เมื่อตนมาตามนัดทางโชว์รูมกลับให้ตนเซ็นสัญญารับสภาพว่าหากรถเกิดปัญหาภายหลังจะไม่สามารถเปลี่ยนคันใหม่ได้ ทำได้อย่างเดียวเพียงแค่เข้ามาซ่อมที่ศูนย์บริการเท่านั้น “ดิฉันก็ยอมเซ็นสัญญา เพราะต้องการรถมาใช้ แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น รถก็เกิดปัญหามีเสียงดังทั้งคัน ดิฉันก็เอารถเข้าไปซ่อมที่ศูนย์บริการที่ออกรถ แต่ทางทีมช่างกลับไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้หายขาดได้ แก้ปัญหาได้เพียงแค่ตรงจุดที่เกิดเท่านั้น ซึ่งต่อมาปัญหาใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นมาอีก เช่น กระจกไฟฟ้าเลื่อนขึ้นลงไม่ได้ ช่างก็ได้แก้ปัญหาเอาน้ำยาหล่อลื่นมาฉีดให้เท่านั้น แถมยังมีเสียงดังเพิ่มขึ้นที่บริเวณคอนโซลหน้าอีก” นางชมพูนุทกล่าว นางชมพูนุทกล่าวต่อว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถไม่เพียงแค่นี้ ยังมีตามมาตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ที่ตนใช้รถคันนี้ และต้องเอาไปซ่อมที่ศูนย์บริการแห่งนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง ทุกครั้งที่ตนเอารถเข้าไปซ่อมก็ไม่ได้รับการบริการที่ดี เพราะเอารถไปซ่อมมาแล้วก็ยังมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตนเริ่มไม่พอใจในบริการ เลยทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้จัดการประจำโชว์รูม แต่เจ้าตัวกลับนิ่งเฉย เมื่อเป็นเช่นนี้ตนจึงหนังร้องเรียนไปยังบริษัท ฮอนด้า ออโต้ โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แต่ก็ยังไม่ได้รับส่งหนังสือตอบกลับ ทำให้ตนต้องทำหนังสือร้องเรียนไปยังบริษัทฮอนด้า ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตนก็ได้รับหนังสือตอบกลับมาว่าจะเข้ามาดูแลเรื่องให้ แต่สุดท้ายก็เงียบหายไปอีก “ดิฉันรอจนหมดความอดทนเลยโทร.ไปยัง เอเชี่ยน ฮอนด้า ก็มีพนักงานหญิงเป็นคนรับโทรศัพท์ ดิฉันก็แจ้งปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถให้ฟัง พร้อมบอกว่าจะทุบรถแล้วนะ เพราะยังไม่มีอะไรดีขึ้น แต่เขากลับตอบมาว่าให้ดิฉันทุบรถไปเลยตามใจ ฉันจึงขอพูดสายกับผู้บริหารระดับสูง แต่ก็ได้รับคำตอบว่ากรุณารอซักครู่ และถูกปล่อยให้รอนานกว่า 30 นาที ก่อนที่สายถูกตัดไป” นางชมพูนุทกล่าว นางชมพูนุทกล่าวด้วยว่า ก่อนที่จะโทร.ไปแจ้งเรื่องที่เอเชี่ยน ฮอนด้า ตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปที่ สคบ.แล้ว เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา และทาง สคบ.มีจดหมายตอบกลับมาว่า วันที่ 26 พ.ย.นี้ จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ให้ แต่ตนอดทนรอไม่ไหวแล้ว เลยต้องเอารถมาทุบเพราะว่าอยากให้ผู้มีส่วนรับผิดชอบดูแลลูกค้าอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยแบบนี้ ตนรู้สึกผิดหวังกับบริษัท ฮอนด้า เป็นอย่างมาก ทั้งที่เมื่อก่อนเคยรู้สึกรักและผูกพันเนื่องจากรถคันนี้เป็นคันที่ 3 ที่ตนซื้อรถยี่ห้อฮอนด้ามาใช้ แต่เมื่อเกิดปัญหาแบบนี้ตนก็ต้องซื้อรถค่ายของคู่แข่งมาใช้แทน นางชมพูนุทกล่าวด้วยว่า สำหรับอุปกรณ์ที่ตนเตรียมมาทุบรถในครั้งนี้ มีด้วยกัน 4 ชนิด คือ “สากกะเบือ” ซึ่งหมายถึงผู้จัดการโชว์รูมรถแห่งหนึ่งย่านหัวหมาก ที่นิ่งเฉยกับเรื่องของตน อย่างที่ 2 คือ “พลั่ว” เป็นเครื่องหมายที่สื่อไปยังการไว้อาลัยให้บรรดาผู้บริหาร ชนิดที่ 3 คือ “จอบ” ตนใช้ทุบเพื่อให้ส่งเสียงดังไปถึงหูของประธานฮอนด้าที่ประเทศญี่ปุ่น และอย่างสุดท้ายคือ “ค้อน” สำหรับการบริการที่ย่ำแย่ของศูนย์บริการย่านหัวหมาก ที่เข้าไปซ่อมกี่ครั้งก็มีแต่ปัญหาทุกที เมื่อวานช่างจากส่วนกลางเข้ามาตรวจสอบแล้ว พบว่าอาการเสียงดังต๊อกๆ ดังกล่าว ที่เป็นปัญหาใหญ่ของ FD ในขณะนี้ จากคุณ : สาวกพูดไม่ออก เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:24:01 A:58.8.120.255 X: TicketID:282684

ความคิดเห็นที่ 25   ได้รับแจ้งกลับมาจากทางศูนย์ว่า ปัญหาเกิดจาก เสื้อสูบ แบริ่ง ข้อหวี่ยง และอาจจะเป็นที่ลูกสูบ ตอนนี้รอเคลมประมาณ 2-3 เดือน (คิวเยอะจริงๆ) และผมได้มีโอกาสคุยกับทางหัวหน้าช่างที่ศูนย์ สอบถามไปดังนี้ Q: ทำเครื่องเครื่อง 2.0 ไม่มีปัญหาดังกล่าว A: เครื่อง 2.0 ใช้บล็อกเครื่องตัวเดียวกับ CRV ปี 04 Q: งั้นที่มีปัญหา ก้อจะเป็นรุ่น 1.8 ใช่มั้ย เป็นตั้งแต่ปี 06 เลยรึป่าว A: รุ่นปี 06 ตอนนี้ยังไม่พบว่าลูกค้าปัญหาครับ Q: อ้าว งั้นตั้งแต่รุ่น 07 เป็นต้นไปทำไมถึงมีปัญหาละ A: คือว่า เครื่อง 1.8 รุ่น 06 พวกเสื้อสูบ แบริ่ง ข้อเหวี่ยง ลูกสูบ วาล์ว หรืออะไรอีกหลายอย่าง (บอกไม่ได้ครับ) นำเข้ามาจากจีน Q: อ่าว รถญี่ปุ่นทำไมเอาอะไหล่จากจีนมาล่ะครับ ญี่ปุ่นมันก้อไม่ได้ไกลจากจีนเท่าไหร่ A: ผมว่าเอาจากจีนนี่ดีกว่านะครับ เพราะว่า ตั้งแต่รุ่นปี 07 เป็นต้นไป พวกเสื้อสูบ แบริ่ง ข้อเหวี่ยง ลูกสูบ วาล์ว หรืออะไรอีกหลายอย่าง ผลิต หรือ หล่อขึ้นที่ประเทศไทยครับ Q: แล้วทางฮอนด้ามีนโยบายแก้ไขเรื่องนี้อย่างไรให้กับทางลูกค้า A: ยังไม่มีคับ Q: งั้นลูกค้าต้องฟังเสียงเอาเอง สังเกตเอง ใครหมดประกันก้อซวยอ่ะดิ A: ใช่ครับ ถ้ามีเสียงก้อเข้ามาให้ทางศูนยืบริการตรวจสอบเอาครับ Q: อ่าว งั้นพวกประเภทขึ้นรถปุ๊บ เปิดเพลงปั๊บแบบผม ก้อซวยไป A: เงียบ!!! ลูกค้าส่วนใหญ่ก้อจะไปหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตครับ เพราะฉะนั้น ท่านใดที่ขับรุ่น 2.0 หรือ 1.8 ตั้งแต่ปี 06 (แม้ว่ารุ่น 2.0 และ 1.8 ปี 06 จะยังไม่มีปัญหา) ลองขับรถแล้วปิดเพลง สังเกตเสยงดังต๊อกๆ จากส่วนหน้าคอนโซลรถ ฝากระโปรงรถ เสียงฟังเองได้ครับ ไม่ต้องให้ใครอัดเทปไปให้ฟังเหมือนหลายๆ ท่านที่อยากให้สมาชิกที่มีปัญหาอัดเสียงไปให้ฟัง หากมีเสียงดังต๊อกๆ เข้าข่ายหมดละครับ ที่สำคัญลองไปขับในวอยที่รถวิ่งได้ช้า เพราะเสียงยางจะไม่ดังกลบเสียงดังกล่าว และลองชลอเบรกดูครับ เสียงส่วนใหญ่จะดังเวลาที่ชลอเบรกครับ จากคุณ : คนโง่เหยื่อคนฉลาด เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:24:36 A:58.8.120.255 X: TicketID:282684

ความคิดเห็นที่ 26   civic 2.0 เพลาขับพัง ปั้มน้ำมันเครื่องพัง ชาร์ปพัง เฮ้อ เพิ่่งออกรถมา 5000 km เรื่องมีอยุว่า ตอนกิโลประมาน 2000 ได้มีเสียง กึกๆ ทุกครั้งเวลาความเร็ว 40 - 60 ผมเลยไปเข้าศูนย์ ช่างบอกว่าเป็นที่ตุ๊กตาเพลาขับช่าง เลยจัดการเคลมให้ พอซักประมาน 4700 กิโล ก็มีเสียงดังเหมือนลูกรอก แต่ไปเชคแล้วไม่ใช่ เชคภายนอกทุกอย่าง ก็ไม่เจอ ช่างเลยขอรื้อเครื่องดู ช่างก็บอกว่า ปั้มน้ำมันเครื่องพัง แล้วจะส่งผลให้ชาร์ปพังด้วย อาไรกันนักกันหนาไม่รุ ช่างได้บอกว่า ขับรถไปลุยน้ำมาใช่มั้ย ผมบอกว่าเปล่า เพราะไม่ได้ลุยน้ำเลยซักนิด เหมือนจะไม่เคลมให้ แต่สุดท้ายก็บอกว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย จะเคลมให้เฉพาะที่พัง มันจามีปันหาอะไรรึเปล่าถ้าเคลมเป็นส่วนๆ หรือยกเครื่องใหม่จะคุ้มกว่าหว่า มาเล่าให้ฟังเฉยๆน่าจาเปนอิกปันหาของ fd รถต้องเข้าศูนย์ 2 3 อาทิตย์ เฮ้อ คิดถึงรถ www.civicfdthailand.com/ipb_forum/index.php?showtopic=97460 จากคุณ : เอาไปทำเลย เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:25:04 A:58.8.120.255 X: TicketID:282684

ความคิดเห็นที่ 27 รถอะไร ตะบี้ตะบันใช้ ก็พัง เหมือนกันนั่นแหละ แปลกจริงวุ้ย ทำไมชอบเปรียบเทียบกันระหว่า T กับ H ทำไม ไม่เป็น T กับ Mi หรือ T กับ Ma หว่า อ้อ ... ที่บาง คห. บอกว่า H ซื้อคืน ถ้าเอามาทำแท็กซี่ ไม่จริงนะคะ ที่เค้าไม่เอา  H มาทำแท็กซี่ เพราะมันไม่ค่อยจะถูกกับแก๊สน่ะ เป็นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อีกอย่างแท๊กซี่ ที่วิ่งกัน ส่วนมากจะเปลี่ยนเครื่องเป็นเครื่องของ 3 ห่วง (มันวางใน H ไม่ได้) เพราะเครื่องรุ่นนี้มันทน ซ่อมง่ายช่างบ้านๆที่ไหนก็ซ่อมได้ อะไหล่หาง่าย ถูกกับแก๊สมากมาย ส่วนมากเจ้าของอู่แท๊กซี่ จะถอดเครื่องติดรถมาออก แล้วขายอ่ะ (อันนี้เจ้าอู่แท๊กซี่เค้าบอกอ่ะ) จากคุณ : DuskyDuck เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:37:11

ความคิดเห็นที่ 28 สู้กันเข้า ระหว่าง marketing ของ Toyota กับ Honda...... ณ เวลานี้ Toyota นำ Honda อยู่เล็กน้อย... สำหรับผม รถทนไม่ทนอยู่ที่นิสัยคนขับเป็นส่วนใหญ่ครับ ถ้าสักแต่ว่าขับ แต่ว่ากระทืบมันลงไป ไม่ดูแล ยังไงก็ไม่ทนครับ จากคุณ : FatBoy99 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:38:16

ความคิดเห็นที่ 29   ตอบ คคห 28 ฮอนด้ายังห่าโตโยต้าอยู่เยอะหลายเท่า อย่ามาเทียบกันเลย เหมือนคนละชั้นเลย โตโยต้าต้องแข่งกับตัวเองเพราะเบอร์1ของโลกไปแล้ว ส่วนฮอนด้าแข่งได้แต่โตโยต้าในไทย เมืองนอกไม่มีคนเล่นและชื่อชั้นอะไรไม่ ติด Top5 ด้วยซ้ำ จากคุณ : คนละชั้น เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:43:13 A:58.8.120.255 X: TicketID:282684

ความคิดเห็นที่ 30 555+ TicketID:282684 ความพยายามเป็นเลิศเลยอ่ะ จากคุณ : DuskyDuck เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 10:52:08

ความคิดเห็นที่ 31 กระทู้ ระหว่าง T กับ H  มีคนตั้งเมื่อไร  ได้เรื่องเมื่อนั้น ปูเสื่อรอ กระทู้นี้อีกยาวววววววววววววววววววววววววววววววววววววว จากคุณ : ช่า ช่า ช่า เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 11:00:10

ความคิดเห็นที่ 32 555555  แข่งกับตัวเอง แล้วทำไมยัง โพสข้อเสีย ของยี่ห้ออื่นอยู่ (กลัวรึเปล่า เริ่มปอดแล้วละสิ) 555555 จากคุณ : ปัญญาประดิษฐ์ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 11:10:34

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่รู้เหมือนกันครับว่าใครทนกว่า แต่มีประสบการณ์ขำๆมาเล่าให้ฟัง ครั้งหนึ่งรถ honda ของผมระบบ gas มันเสีย ก็เลยเข้าอู่ อันเป็นเหตุให้ต้องใช้บริการ taxi อยู่ 1 วัน 1 คืน เวลาที่ผมนั่ง taxi ทั้งสองวันนั้นมักจะมีเพื่อนโทรเข้ามาคุยกัน และจะลงเรื่องรถที่เสียทุกครั้ง และทุกๆครั้ง พี่คนขับ taxi ก็จะคุยปิดท้ายไปซะทุกครั้ง และทุกๆคันที่ผมขึ้นเป็น taxi toyota เป็นปรกติ แต่ที่ขำๆคือ พี่คนขับ taxi ให้ความเห็นต่อเรื่องความทนทานของรถต่างๆกันไป พี่คนขับ taxi คันที่ 1 ให้ความเห็นว่า อะไหล่ honda แพงกว่า toyota นะ แต่ทนทานกว่ากันเยอะตามราคาที่แพงกว่า O.o พี่คนขับ taxi คันที่ 2 ให้ความเห็นว่า มันทนพอๆกันนั่นแหละ ดีเสียคนละอย่าง ได้ยินว่า honda ทำ taxi เมื่อไหร่ เดียวมีมาขอซื้อคืนกันบ่อยๆ(ผมไม่ยืนยันนะครับ พี่ taxi เล่ามาแบบนี้) คุณลุงคนขับ taxi คันที่ 3 ให้ความเห็นว่า โอ้ยน้องเปลี่ยนเป็น toyota เถอะมันทนกว่าเยอะ พร้อมเล่า ประสบการณ์การขับ เจ้า โดเรมอน ไฮทอค altis ให้ฟังเป็นฉากๆ  แต่ตบท้ายว่า รุ่นใหม่ๆมันขับไม่ดีท่ารุ่นเก่า แต่แกยังไว้ใจ toyota มากกว่า เล่าให้ฟังขำๆนะครับ จากคุณ : saraph เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 11:12:05

ความคิดเห็นที่ 34   ถ้าให้ผมใช้ฟรีทั้ง 2 ยี่ห้อที่กล่าวมา รับรองได้ว่า พังคาตรีน ผมทั้งคู่ครับ จากคุณ : มันอยู่ที่คนขับ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 11:51:34 A:202.151.7.23 X: TicketID:280855

ความคิดเห็นที่ 35 เรื่องความทนทาน เครื่องกับเกียร์ผมยังถือหางโตโยต้าอยู่นะครับ เพราะมันเป็นจุดเด่นของโตโยต้าครับ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับคนขับด้วยแหละ ถ้าเหยียบตะบี้ตะบัน มันก็กลับบ้านเก่าไวแน่ จากคุณ : mongolia เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 12:14:04

ความคิดเห็นที่ 36 นี่ถ้าบรรดาเถ้าแก่เจ้าของอู่แทกซี่มาซื้อฮอนด้าจำนวนมากไปทำแทกซี่ มีหรือฮอนด้าจะไม่อยากขาย ยอดขายเยอะเน้นๆเห็นๆ     แต่ฮอนด้าพลาดตรงที่ไม่ทำตลาดโปรโมชั่นเอาใจเค้า(บรรดาเถ้าแก่)ตั้งแต่แรก  บรรดาเถ้าแก่เลยไม่ค่อยนึกถึงชื่อนี้เวลาจะซื้อรถมาทำแท็กซี่ซะมากกว่า จากคุณ : ฮิวเยียก เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 12:23:33

ความคิดเห็นที่ 37 กระทู้นี้พูดถึงเรื่องความทน ถ้าเรื่องทนยกให้โตโยต้า เรื่องขับดี ผมว่าโตโยต้าอยู่ท้าย ๆ เรื่อง Taxi ทายซิว่าพี่ Taxi เค้าจะเืลือกอะไรระหว่าง ทนดี กับ ขับดี จากคุณ : gavee เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 12:44:07

ความคิดเห็นที่ 38 ใครว่า taxi ทน ???? มาดู ที่ หลังตึก ที่ทำงานผม ดิครับ สุทธิสาร อู่ taxi ~ 10 อู่ ซ่อม กันเต็มเหนี่ยว ครับ ที่เห็นๆ พูดๆ กัน นะ มัน ตอน วิ่ง บน ถนน ครับ ตอนเปลี่ยนกะ ส่งรถ มาดู ดิครับ จากคุณ : ชัยพร (c_sujjitporn) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 12:58:47

ความคิดเห็นที่ 39 ห่วยทั้งคู่ครับ ผมไม่เห็นว่ามันจะทนเลย รักฮอนด้าก็มาปล่อยไก่ ว่าฮอนด้าไม่ให้ทำแท๊กซี่ (ไปอยุ่ไหนมา) รักโตโยต้า ก็มาประโคม จริงๆรถมันหลากหลาย แพร่หลาย ผมว่ามันดีคนละแบบ ต่างกันคนละรุ่นนะครับ ยี่ห้อเทียบไม่ได้หรอก ถ้าจะเทียบ ก็เทียบแบบ ตัวตัว ยาริสvsแจ๊ส  อัลติสvsซีวิค เป็นต้น มาเหมารวมยี่ห้อ มันยากว่ะทั่น จากคุณ : กลิ้งยาง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 13:59:39

ความคิดเห็นที่ 40 ที่มาเถียงๆกัน มันก็รถญี่ปุ่นทั้งนั่น ไม่ใช่ของไทย ผมว่า คูโบต้า ทนกว่าครับ จากคุณ : กลิ้งยาง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 14:02:28

ความคิดเห็นที่ 41   ใครว่า taxi ทน ???? มาดู ที่ หลังตึก ที่ทำงานผม ดิครับ สุทธิสาร อู่ taxi ~ 10 อู่ ซ่อม กันเต็มเหนี่ยว ครับ ที่เห็นๆ พูดๆ กัน นะ มัน ตอน วิ่ง บน ถนน ครับ ตอนเปลี่ยนกะ ส่งรถ มาดู ดิครับ -------------------------------------------------- แท็กซี่วิ่งทั้งวัน ทั้งคืนจะไม่ให้เขาซ่อมบำรุงเลยรึครับ ทนยังไงมันก็ต้องมีเสียบ้าง การเลือกรถทำเเท็กซี่เขาต้องเลือกรถที่เสียยาก เเต่ซ่อมง่าย อะไหล่ถูกหาง่ายไว้ก่อน จากคุณ : เฮียเล้ง เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 14:07:10

ความคิดเห็นที่ 42 โตโยต้าทนเหมือนควายใช้มา8ปีวิ่งเหมือนแท็กซี่จะสามแสนโลแล้ว ไม่เปนไรเลยแค่ดูแลตามกำหนดเท่านั้น คันต่อไปก็จะใช้โตโยต้าอีก เรื่องจริงไม่มีใครจ้างโพส จากคุณ : ซักทีก้อดี (ซักทีก้อดี) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 14:42:24

ความคิดเห็นที่ 43   โตโยต้าทนเหมือนความคิดเห็นที่ 42 จิงๆด้วย จากคุณ : ตำปูปลาหล้า เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 15:06:37 A:119.46.124.2 X: TicketID:094471

ความคิดเห็นที่ 44   ที่บ้านก็เคยใช้ทั้ง 2 ยี่ห้อ มี toyota hilux hero จะ 25 ปีแล้ว วิ่งเกือบ 4 แสนโลแล้ว ปัจจุบันยังวิ่งฉิวอยู่เลย ขึ้นเขาค้อสะบายมาก ส่วนอีกคัน Honda civic รุ่นก่อนตาโต เลิกใช้ไปละ จุกจิกจริงๆ ปัจจุบันเลยมาออก altis แทน ก็ยังไม่มีปัญหาอะไร จากประสบการณ์ส่วนตัวนะ บางคนอาจไม่ได้เจออย่างผมก็ได้ จากคุณ : แทกซี่หรือไม่คงไม่เกี่ยว (Ex_Machina) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 15:19:04

ความคิดเห็นที่ 45 ต้องยอมรับความจริงครับ ว่าเรื่องความทนทาน ฮอนด้าเป็นรองโตโยต้าอยู่พอสมควร เพราะการพัฒนายังมีข้อจำกัดหลายๆด้าน ฮอนด้าจะโดดเด่นเรื่อง ความสวยงามในการออกแบบ แต่ถ้าแข่งในระดับโลกแล้ว ฮอนด้ายังเป็นรองนิสสันด้วยซ้ำเลยครับ จากคุณ : พิพัฒน์ (โอหยาง) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 16:09:26

ความคิดเห็นที่ 46   คห 11 คุณ มิสแมน คำถามนี้ คนทั่วๆไปทราบคำตอบดีครับ แต่หลายๆท่านก็ไม่อยากพูด พูดไปจะถูกสาวกฮอนด่าเอา สำหรับผมศึกษาธรรมะมาบ้าง พอจะทราบว่าถ้าเราทำสิ่งใดด้วยใจบริสุทธิ์ เพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่น ด้วยความจริง ใครมาด่าผมย่อมได้รับผลกรรมนั้นเอง พระพุทธเจ้าพระองค์ยังไม่พ้นคำติฉินนินทา ใส่ร้ายเลยครับ ^ ^ เนี่ยเหรอครับศึกษาธรรมะมา เห็นกระทู้ก่อนๆยังไปว่าคนที่ใช้รถรุ่นหนึ่งเป็นพวก"ไพรา"อยู่เลยนะครับ ไม่ทราบว่าธรรมะศาสนาไหนสอนเหรอครับ ไปว่าคนอื่นเป็นพวก"ไพรา"เพียงเพราะใช้ของไม่เหมือนคุณเนี่ย คราวที่แล้วก็editข้อความหนีเฉยเลย คราวนี้ช่วยตอบทีครับ จากคุณ : บัตรผ่านบ้านจนๆ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 16:35:41 A:124.120.130.70 X: TicketID:251398

ความคิดเห็นที่ 47   บัตรผ่าน282684 เซลล์โตโยต้า เค้าจ้างมากี่บาทครับ โพสต์ข้อความก๊อปๆเค้ามาทั้งนั้น ยี่ห้อไหนก็มีโดนหมดแหละ ขยันจังนะ แค้นเรื่องอัลติสโดนด่าเหรอจ๊ะ กลับไปเฝ้าเมเนเจอร์ไปเถอะ ยิ่งมายิ่งหน้าแตกว่ะ 5555 จากคุณ : บัตรผ่านบ้านจนๆ เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 17:01:35 A:124.120.130.70 X: TicketID:251398

ความคิดเห็นที่ 48   ^^^ หนักหัวบิดาหรือทับหางมาม๊าใครเรอะ ? จากคุณ : ใครจะทำไม เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 17:59:04 A:58.8.153.28 X: TicketID:282684

ความคิดเห็นที่ 49   คห  22-26 ดูแล้วรู้ทันทีเลยคับ ว่าใครถอดล๊อคอินมา ชอบเอาข่าวโวยวายฮอนด้ามาลงนี่นะ ห้าๆๆๆ อย่าทำเนียนเล้ยย จากคุณ : kadnarong เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 53 23:03:15

ความคิดเห็นที่ 50 รถทนทาน หรือแข็งแรงแค่ไหน มันวัดที่อะไร ผมว่าวัดยาก ขึ้นอยู่ว่าชนยังไง ลักษณะยังไง ไม่ใช่เอาฮอนด้าไปชน รถบรรทุก เอา โตโยต้าไปชนรถไฟ แล้วบอกว่า ฮอนด้าแข็งกว่า เพราะยังมีคนรอด มันไม่เกี่ยวครับ อยู่ที่ลักษณะการชน การใช้งานหากดูแลกันจริงๆ เรื่องอื่นก็ไม่ต้องพูดถึงหรอกครับ อยู่ที่ความชอบและการใช้งานครับผม แต่ผมก็ชอบทั้งสองยี่ห้อนะ ถ้าเงินพอซื้อมันอย่างละคันเลย อิอิ จากคุณ : takkub เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 16:47:17