ความคิดเห็นที่ 1 รูปไม่ขึ้นอีกละ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:02:47

ความคิดเห็นที่ 2 ... จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:03:12

ความคิดเห็นที่ 3 ... จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:03:52

ความคิดเห็นที่ 4 รอขมครับ ^^ จากคุณ : harryoop เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:04:45

ความคิดเห็นที่ 5 สงสัยต้องยกเลิก โพสรูปไม่เข้าเลยครับ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 54 10:21:37 จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:05:05

ความคิดเห็นที่ 6 เป็นกำลังใจให้ครับ.  โพสได้แล้วนี่ครับ จากคุณ : kaikk เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:10:45

ความคิดเห็นที่ 7 รูปไม่เกิน 200kb ครับ ย่อดีๆ จากคุณ : XenoType เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:11:29

ความคิดเห็นที่ 8 รอดูครับ แต่ไม่มีปัญญาซื้อหรอก ฮิฮิ จากคุณ : แฟนน้องดา เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:13:44

ความคิดเห็นที่ 9 น่าจะได้แล้ว มั๊ง... ก็สืบเนื่องมาจากได้อ่านรีวิวรถหลายๆรุ่นจากคนอื่นมาแล้ว ก็ถึงเวลาของที่จะได้ทำรีวิวของตัวเองบ้าง หลังจากมีรถป้ายแดงคันใหม่คันแรก (ที่ซื้อให้กับตัวเอง) แต่ก็ใช้เวลาเกือบสองสัปดาห์กว่ารีวิวอันนี้จะเสร็จ เนื่องจากงานที่รัดตัว เป็นความตั้งใจอยู่แล้วว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเปรียบเทียบรถยอดนิยม 2 รุ่น 2 ค่าย คือ Honda Accord และ Toyota Camry เนื่องจากคิดว่าคงมีหลายๆคนที่ตัดสินใจระหว่างรถ 2 รุ่นนี้ เนื่องจากราคาที่ใกล้เคียงกัน หลายคนจึงมักจะมองที่สองรุ่นนี้ เป็นตัวเลือกลำดับต้นๆซัก โดยที่ผมจะรีวิวตัว Honda Accord 2.0EL 2011 เป็นหลัก และจะเปรียบเทียบกับ Camry 2.0G ปี 2009 ที่เห็นว่าเป็นจุดสังเกตุที่แตกต่างกันของทั้งของรถทั้งสองรุ่น ในจุดไหนที่มันเหมือนกันก็คงพูดเฉพาะของ Accord เท่านั้น สำหรับ Accord นั้น ระยะทางวิ่งถึงวันที่รีวิวก็ประมาณ 4,000 กม. อายุรถ 1 เดือนเต็ม แล้ว ส่วน Camry นั้นวิ่งไป 37,000 กม. อายุรถ 1 ปี 10 เดือน จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:14:12

ความคิดเห็นที่ 10 ในรีวิวนี้ ผมจะไม่พูดถึงเรื่อง Spec. หรือตัวเลขมากนัก พวกแรงม้า แรงบิด อะไรต่างๆ เพราะบางทีค่าพวกนี้วัดได้จากการทดสอบแต่ในการใช้งานจริงไม่รู้สึกถึงความแตกต่างได้ ฉะนั้นมันจึงเป็นรีวิวจากความรู้สึกตัวและสิ่งพบเจอจากการใช้งานจริงๆ บ่อยครั้งที่เราไปดูรถใหม่จะพบว่า เซลล์ขายรถรู้ข้อมูลแค่พื้นฐาน ซึ่งก็จำมาจากในโบรชัวร์นั่นแหละ รู้แค่ว่าเครื่อง 2.0 ต่างกับ 2.4 ยังไง ราคาต่างกัน แรงม้าแรงบิดต่างกัน Option ต่างกัน แต่ไม่รู้ในรายละเอียดลึกๆที่ในโบรชัวร์เองก็ไม่มีบอก อาจทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดกับรถคันหนึ่งไปอย่างน่าเสียดาย เพราะคงไม่มีรถยี่ห้อไหนเอาคู่มือรถมาให้นั่งอ่านก่อนซื้อรถแน่ๆ ในรีวิวนี้ผมก็จะพยายามเน้นตรงนี้มากกว่าพวกเรื่องตัวเลข Spec. อะไรต่างๆ ซึ่งหาอ่านได้ทั่วไปอยู่แล้ว จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:14:47

ความคิดเห็นที่ 11 อีกเรื่องก็คือหลายๆท่านซึ่งกำลังตัดสินใจระหว่างรถระดับรองลงมาอย่างพวก Altis หรือ Civic รุ่นท็อป ที่เป็น Compact Car เทียบกับ Camry หรือ Accord รุ่นล่าง ซึ่งมีราคาไม่ต่างกันมาก จะได้ทราบว่า นอกจากขนาดตัวถังที่ต่างกันแล้ว มันมีอะไรอีกบ้างที่ต่างกันสำหรับรถคนละ Class เพราะบางครั้งรถรุ่นเล็กกว่าแต่เป็นรุ่นท็อป ในโบรชัวร์ก็จะบรรยายคุณสมบัติพิเศษไว้เยอะแยะ ในขณะที่รถใหญ่รุ่นล่างสุดมักจะดูเหมือนว่ามี Option น้อยกว่า จริงหรือไม่จริงก็พิจารณาดูได้จากรีวิวนี้ได้ครับ และแน่นอน ผมคิดว่าคนทุกคนก็มีความลำเอียงบ้างเป็นธรรมดา บางทีความลำเอียงนั้นมันก็เกิดจากความชอบส่วนตัว ฉะนั้นหลังจากอ่านรีวิวนี้แล้ว กรุณาอย่ามองว่าผมชอบค่ายใดค่ายหนึ่งมากกว่าเลยครับ เพราะยังไงผมก็ซื้อมาใช้แล้วทั้งสองคัน และก็ไม่อยากให้กระทู้นี้กลายเป็นเวทีของสาวกทั้งสองค่ายที่จะมาโพสโต้ตอบกันว่าค่ายนั้นดีกว่าหรือค่ายนี้ดีกว่า หมายเหตุ: รูปที่เอามาลง บางรูปผมถ่ายไว้ต่างเวลาต่างวาระนะครับ เพราะไม่มีเวลาที่จะไปนั่งถ่ายทีเดียวทุกๆรูป วันไหนนึกอะไรได้ก็ถ่ายเก็บไว้ แล้วเอามารวบรวมที่เดียวครับ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 19:15:55 จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:15:05

ความคิดเห็นที่ 12 เดิมที่ผมใช้รถ Altis 1.8G ปี 2004 ซึ่งซื้อมือสองมา ชอบมากๆ เพราะเป็นรุ่น Top ด้วย และเป็นรุ่นที่ผมคิดว่าดีที่สุดรุ่นหนึ่งของ Toyota เลย เพราะอัด Option มาให้เพียบชนิดที่ว่ารถในระดับเดียวกันเทียบไม่ได้เลย หลังจากนั้นเมื่อปีที่แล้วก็ซื้อ Camry 2.0G มาเนื่องจากแฟนอยากได้ Camry มาก แต่ผมก็ยังใช้คันเดิมเพราะไม่อยากขายรถเนื่องจากแต่งไปเยอะ ติดแก๊สอย่างดี และผมก็ชอบมันมาก ผมเปลี่ยนโช้คแต่งใส่สปริงโหลด นุ่มหนึบถูกใจจริงๆ แต่เนื่องด้วยอายุรถที่มากขึ้น และผ่านการใช้งานมาแล้ว 250,000 กม. (ตอนซื้อจากเต๊นท์ไม่รู้โดนกรอไมล์ไปอีกเท่าไหร่) หลายๆอย่างเริ่มเสีย ต้องทยอยไล่เปลี่ยนเรื่อยๆ และเกียร์ก็เริ่มหอนมาเกือบปี ดังขึ้นมากเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ต้องตัดใจขายทั้งที่รักมันมาก จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:16:19

ความคิดเห็นที่ 13 สำหรับคันใหม่โจทย์ที่วางไว้ก็มีอยู่ว่า ต้องเป็นรถที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งผมเองก็ชอบ Camry ตัวไมเนอร์อยู่เหมือนกัน แต่แฟนบอกว่าจะซื้อมาทำไม 2 คัน ให้ไปซื้ออย่างอื่น ผมก็เลยมาคิดว่าอยากได้รถที่แปลกจากที่เคยใช้บ้างเพราะขับ Toyota มาตลอด มีทั้ง Vios, Altis, Camry เริ่มเบื่อแล้ว อยากลองอะไรใหม่ๆบ้าง จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:16:52

ความคิดเห็นที่ 14 วันที่ 13/11/53 ที่ผ่านมาก็เลยไปจอง CR-V 2.0E สีน้ำตาลไว้ ไปเงียบๆ ไม่ได้บอกใครแม้แต่แฟน ซึ่งใจก็อยากได้ CR-V มานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาเงื่อนไขยังไม่โอเค เลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้ไปถามแล้วเงื่อนไขโอเคก็จองเลย กำหนดรับรถเดือนต้นเดือนมกราคม (จองกันข้ามปี) ส่วนอีกรุ่นที่ชอบ แต่ไม่ได้ไปดูเลยก็คือ Nissan Teana เพราะเท่าที่หาข้อมูลพบว่ามันนุ่มหนึบมาก อยากลองจริงๆ แต่ติดปัญหาเดียวคือเบาะหนังและภายในห้องโดยสารที่เป็นโทนสีครีมอ่อนมาก ซึ่งไม่เหมาะกับอาชีพการงานของผมที่ทำงานในโรงงานทั้งวัน ตัวมีแต่ฝุ่น เลยต้องตัดใจจาก Teana ไปเลย วันถัดมาเป็นวันอาทิตย์ แฟนก็บอกว่า Accord ออกใหม่แล้ว เห็นในทีวีสวยมาก ให้เอา Accord ไอ้ผมก็มัวแต่ดู CR-V ไม่รู้เลยว่า Accord มีปรับโฉม ไม่เคยดูทีวีมาเป็นปีแล้ว ก็เลยนัดแฟนไปดูวันจันทร์ที่ 15/11 แฟนก็ชอบบอกให้จองเลย เราก็เลยบอกว่าจอง CR-V ไปแล้ว พอดีน้องเซลล์บอกว่าสามารถเปลี่ยนให้ได้ และถ้าเอา Accord รุ่น 2.0EL สีเทาโพลิชจะมีรถเข้ามาวันสองวันนี้ เป็นคันแรกที่เป็นรถสำหรับขาย สามารถออกรถได้เลย แฟนก็เลยฟันธงว่าให้เอา Accord สีเทา ทั้งๆที่ในใจผมไม่เคยอยากได้รถสีเทาเลย แต่ก็อยากได้รถเร็ว ขี้เกียจรอนาน เพราะปกติซื้อรถ Toyota มาหลายคันไม่เคยรอเกิน 1 สัปดาห์เลย ก็เลยตกลง เพิ่มเงินจองเล็กน้อย ของแถมก็ได้แค่หน่อยเดียว เนื่องจากเป็นรถเพิ่งเปิดตัว ก็เข้าใจน้องเซลล์แหละ หลังจากไฟแนนซ์ผ่านเรียบร้อยเซลล์ก็เร่งให้ออกรถเลย ผมก็บอกว่าขอออกวันที่  26/11 ก็แล้วกัน เป็นช่วงเย็นเพราะไม่อยากลางาน   เท่านั้นแหละโดนคุณแฟนบ่นอุบเลย บอกว่าใครเขาออกรถตอนเย็นหละ ต้องไปออกตอนเช้าเท่านั้น (ก็ผมว่างเวลานี้นี่นา คนทำงานเป็นลูกจ้างนะ มีแอบค้อนเล็กน้อย) ก็เลยปรับแผนเป็นออกรถ 27/11 เช้า แต่จะขอไปตรวจรับรถก่อนในวันที่ 26 ช่วงเย็น ซึ่งในวันนั้นก็ได้พบปัญหากับตัวรถ ตามที่ได้เคยโพสไว้ใน pantip แต่ในรีวิวนี้ไม่ขอพูดถึงแล้วครับ เพราะรถก็ออกมาแล้ว มาเริ่มกันเลยดีกว่า จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:17:17

ความคิดเห็นที่ 15 รถที่ซื้อเป็น Honda Accord 2.0EL ซึ่งเป็นรุ่นที่เพิ่มเข้ามาในโฉมไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งต้องบอกว่ามาได้จังหวะพอดีทีเดียว เพราะหากไม่มีรุ่นนี้ผมก็คงไม่มอง Accord แน่ๆ เพราะผมไม่ชอบล้อแม็กซ์ขอบ 16 ของตัว 2.0E เดิมเอาซะเลย แต่มาตัวนี้จะได้ล้อแม็กซ์ขอบ 17 ลายเดียวกับรุ่น 2.4 เดิม (ส่วนรุ่น 2.4 ก็จะเปลี่ยนไปใช้ลายอื่นแทน) และได้ลายไม้ข้างในมาด้วย ไม่ต้องไปทำเพิ่ม ก็เลยจบที่ตัวนี้ และสำหรับรถรุ่นสูงๆของ Honda มักจะมีโทนสีภายในให้เลือก 2 แบบขึ้นอยู่กับสีรถนะครับ อย่างคันนี้ภายนอกสีเทาโพลิช ภายในจะเป็นสีดำตัดสีเบส แต่ถ้าอยากได้ภายในสีดำ ต้องเลือกสีภายนอกเป็นสีบรอนซ์เงินหรือสีขาวเท่านั้นครับ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:18:25

ความคิดเห็นที่ 16 เริ่มกันที่ด้านหน้าจะเห็นจุดที่เปลี่ยนแปลงจากตัวเก่าชัดเจนก็คือกระจังหน้าที่ดูหรูหราและลดความดุดันลงจากเดิม กันชนหน้าที่เปลี่ยนไปเพื่อให้รับกับกระจังหน้าใหม่ ที่เหลือก็เหมือนตัวเดิมทุกอย่าง ชุดแต่งไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ เนื่องจากกันชนหน้าต่างกันนั่นเอง  มีไฟตัดหมอกแบบทรงกลม เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น แต่ดูเรียบๆไปนิดนึง น่าจะมีการเล่นลวดลายอะไรบ้าง จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:18:56

ความคิดเห็นที่ 17 ไฟหน้าเป็นแบบ Multi-reflector หลอดฮาโลเจนธรรมดา ไม่มีระบบปรับสูงต่ำมาให้ กรอบไฟเป็นแบบรมดำเล็กน้อย ดูดุดันเหมือนเดิม ทีแรกก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน แต่พอดูไปดูมาหลายๆวัน เออ มันก็สวยดีนะ แต่อยากได้ Projector แบบ Camry จัง น่าจะเข้ากับ Accord มากกว่า แต่ถึงจะเป็น Muti-reflector เวลาเปิดตอนกลางคืนก็สว่างและให้ Cut-off ที่ชัดเจนทีเดียว เนื่องจากขนาดของจานฉายที่ใหญ่พอสมควร จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:19:15

ความคิดเห็นที่ 18 อันนี้ของ Camry ครับ  เป็น Projector เวลาเปิดตอนกลางคืนแสง Cut-off คมชัดเชียว และยังสามารถปรับระดับไฟหน้าจากภายในรถได้ ซึ่งมีประโยชน์มาก เวลามีคนนั่งเต็มรถเราก็สามารถลดระดับไฟหน้าให้ต่ำลงได้ เพื่อไม่ให้แสงไปแยงตาคนอื่นที่ขับรถสวนมา จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:19:39

ความคิดเห็นที่ 19 ผ่านมาที่ด้านข้าง ดูโล่งๆเนื่องจากไม่มีคิ้วด้านข้างเหมือนรถของ Toyota หลายๆรุ่น ไว้หลังโบนัสออก  คงต้องไปติดชุดแต่งรอบคันสักหน่อย จะได้ดูเต็มขึ้นกว่านี้ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:19:59

ความคิดเห็นที่ 20 มือจับประตูใหญ่โต ดูดีมีชาติสกุลมาก เทียบกับของ Camry แล้ว รายนั้นมือเปิดประตูเหมือนกันแทบทุกรุ่นตั้งแต่รถกระบะยังเก๋งรุ่นท็อป จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:20:16

ความคิดเห็นที่ 21 รอชมครับ ป.ล. Teana เบาะดำก็มีนะครับ จากคุณ : harryoop เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:20:52

ความคิดเห็นที่ 22 แต่ก็มาเสียตรงคิ้วโครเมียมชิ้นนี้ ทำไมมันต้องมีรอยต่อด้วยนะ แล้วทำไมของ BMW Series 5 ถึงไม่มีรอยต่อ? จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:22:10

ความคิดเห็นที่ 23 กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถและมีไฟเลี้ยว มีในทุกรุ่นย่อย เหมือนกันทั้ง Accord และ Camry แต่ไม่มีระบบพับอัตโนมัติ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:22:26

ความคิดเห็นที่ 24 ล้อแม็กซ์ขอบ 17 นิ้ว ลายเดียวกับของรุ่น 2.4 เดิม รัดด้วยยาง Michelin Enerrgy MXV8 ขนาด 225/50 R17 ลายของแม็กซ์เข้ากับตัวรถได้ดีทีเดียว คงไม่ต้องเสียงเงินไปเปลี่ยน เพราะถ้าเปลี่ยนต้อง 20 นิ้วเท่านั้น 555 น่าแปลกใจที่ทาง Honda ใส่ยางหน้ากว้างถึง 225 แต่ใช้แก้มเตี้ย ทำให้ดูไม่สมกับขนาดรถเท่าไหร่ และที่สำคัญทำให้มันกระด้างและเสียงดังมากอย่างชัดเจน ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นยางขนาด 215/55 R17 จะเหมาะสมกว่า แต่เท่าที่หาข้อมูลพบว่ายางรุ่นนี้เองก็มีปัญหาในเรื่องของเสียงดัง ไว้หมดอายุก่อนคงต้องลองรุ่นอื่นบ้าง ดูว่าจะเงียบขึ้นขนาดไหน จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:22:50

ความคิดเห็นที่ 25 ส่วน Camry 2.0G จะเป็นล้อขอบ 16 นิ้ว ลายโบราณ กับยาง 215/60 R16 ของ Michelin เหมือนกันแต่เป็นรุ่น Vivacy ซึ่งรถคันที่ซื้อมานี้มีปัญหาว่ายางมันจะหอนทุกครั้งที่กลับรถเร็วๆหน่อย และเป็นตั้งแต่รับรถวันแรกจนถึงวันนี้ยังหอนไม่เลิกเลย ส่วน Camry รุ่นสูงกว่านี้จะเป็นแม็กซ์ขอบ 17 แต่ถ้าเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์จะได้ขอบ 16 ทั้งหมดเท่าเทียมกัน จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:23:11

ความคิดเห็นที่ 26 ด้านหลัง มีเพิ่มคิ้วโครเมียมด้านล่างของไฟท้ายขึ้นมา เพื่อบอกว่า "ไมเนอร์เชนจ์แล้วนะ!" (แต่เพื่อนที่ทำงานบอกว่าไม่เข้ากับตัวรถ...) ส่วนไฟท้ายก็ยังเป็นแบบหลอดไส้ธรรมดา ยังไม่ยอมให้ LED มาสักที อาจะต้องเสียเงินไปเปลี่ยนอีกในอนาคต ราคาก็แรงเอาเรื่องเลย ไฟเบรคดวงที่ 3 ก็เป็นแบบธรรมดาเหมือนกัน ต้องเป็นรุ่น 2.4 ถึงจะได้แบบ LED ส่วนของ Camry เป็น LED ทุกรุ่น (ไม่นับรถ Fleet car) แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 23:01:09 จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:23:29

ความคิดเห็นที่ 27 ตรงฝากระโปรงหลัง มีตัวหนังสือบอกรุ่นว่าเป็น Accord และเครื่องยนต์ i-vtec ไม่มีบอกว่าเป็นรุ่น 2.0 แต่อย่างใด จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:23:44

ความคิดเห็นที่ 28 ปลอกท่อไอเสีย เป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องเสียตังค์เพิ่ม ถ้าไม่มีคงดูโล่งพิกล แต่ถ้าได้ท่อคู่หละแจ่มเลย จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:24:23

ความคิดเห็นที่ 29 กันชนหลังขนาดใหญ่ พร้อมสัญญาณกะระยะด้านท้ายแบบ 4 จุด ไม่สามารถปิดระบบได้ การเตือนจะมีเสียงเตือนดังปกติ ดังถี่ขึ้น และดังค้าง (ถ้าเป็นรุ่นสูงกว่านี้จะเป็นกล้องมองหลังให้แทน) ตรงนี้ของ Camry 2.0G ไม่มี จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:24:37

ความคิดเห็นที่ 30 จุดนี้หลายคันมีปัญหาเรื่องช่องไฟระหว่างกันชนกับตัวถังด้านข้างมันไม่สม่ำเสมอ บางช่วงห่างมาก บางช่วงชิดมาก ของผมก็เป็นเหมือนกัน ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:24:51

ความคิดเห็นที่ 31 เมื่อเปิดกระโปรงหน้ารถออกมา รู้สึกได้ว่าเบากว่าของ Camry พอสมควร ไม่แน่ใจว่าเกิดจากฝากระโปรงมันบางกว่า หรือว่าพื้นที่ฝากระโปรงมันเล็กกว่า หรือว่าโช้คฝากระโปรงมันหนืดกว่า ของ Camry นั้น หนักเหมือนรถยุโรปเลย (BMW)   แต่ที่แน่ๆ ทั้งสองรุ่นหนัก (ตอนยกขึ้น) และแน่น (ตอนปิดฝากระโปรง) มากกว่า Altis อย่างเห็นได้ชัด  ฝากระโปรงมีโช้คค้ำให้เรียบร้อย (เดี๋ยวนี้ Compact Car หลายๆรุ่นก็มีให้แล้ว) จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:25:44

ความคิดเห็นที่ 32 โช้คฝากระโปรงหน้า มีมาให้ 2 ตัว เพิ่มความมั่นใจขึ้นหน่อย ว่าฝากระโปรงจะไม่หล่นทับหัวหลังจากใช้งานไปนานๆ มีจุดสังเกตุเล็กน้อย เวลาปิดฝากระโปรงผมไม่สามารถปล่อยฝากระโปรงลงมาแล้วให้มันปิดเองได้ ยังต้องใช้แรงผลักช่วยด้วย ต่างจากของ Camry ซึ่งผมยกฝากระโปรงสูงขึ้นมาประมาณ 1 ฟุตแล้วปล่อยลงไป มันจะปิดสนิทได้เลย ถามว่ามีผลเสียยังไง ก็คือกลัวว่าถ้าเราใช้มือผลักเพื่อให้มันปิดบ่อยๆฝากระโปรงมันจะบุบนั่นเอง จะปล่อยสูงกว่านี้ก็ไม่กล้าอีก เสียงมันดังน่ากลัว แต่อ่านในคู่มือของ Honda เองก็ระบุว่า ให้ใช้มือช่วยผลักลงมา ถ้าบุบก็ไม่รู้จะเคลมได้หรือเปล่า จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:26:07

ความคิดเห็นที่ 33 ห้องเครื่องดูโล่งไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะว่าไม่มีพลาสติกปิดหน้าเครื่องหรือท่อไอดีแผ่นใหญ่ๆเหมือนที่รถยนต์สมัยนี้มีกัน เพราะ Accord ตัวนี้จะมีพลาสติกสีดำปิดเฉพาะตรงบริเวณฝาครอบวาล์วเท่านั้น แต่ด้านที่ติดกับกระจังหน้าหน้ามีพลาสติกปิดแผงคอยล์ร้อนและแผงหม้อน้ำให้ด้วย ทำให้ดูเรียบร้อยขึ้นมาก   อีกจุดที่สังเกตุเห็นก็คือค้ำโช้คหน้า ซึ่งคงถูกใจวัยรุ่นแน่ๆ เมื่อก่อนถ้าเป็นรุ่น 2.0 จะไม่มี แต่ตอนนี้ใส่มาให้ด้วยเลย  Honda น่าจะแถมให้ เพราะในโบรชัวร์ไม่มีบอก  หลายๆคนอาจจะส่งสัยว่ามันคืออะไร ... มันก็ทำหน้าที่ตามชื่อเลย คือในเวลาที่เราเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงๆ ตัวถังมีการบิดตัวได้บ้าง ค้ำโช้คตัวนี้มันก็จะช่วยลดการบิดตัวของตัวถังให้น้อยลง ช่วยให้การทรงตัวของรถดีขึ้น จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:26:28

ความคิดเห็นที่ 34 ห้องเครื่องของ Camry 2.0G ดูโล่งเช่นกัน ให้ความรู้สึกโบราณยังไงชอบกล ไม่มีแผ่นพลาสติกปิดหม้อน้ำด้วย แต่ก็ง่ายต่อการบำรุงรักษา บริเวณฝากระโปรงของ Camry จะมียางกันฝุ่น (หรือกันเสียง) ติดอยู่รอบเลยฝากระโปรงเลย แต่ของ Accord มีแค่ด้านหน้าเท่านั้น จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:26:52

ความคิดเห็นที่ 35 แบตเตอรี่เป็นแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ส่วนของ Camry ยังเป็นแบบเก่า การใช้งานจริงก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหนโดยที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:27:06

ความคิดเห็นที่ 36 ข้ามมาดูด้านหลังกันอีกครั้ง ฝากระโปรงหลังสามารถเปิดได้จากภายในรถ หรือเปิดโดยใช้รีโมท ซึ่งเป็นรีโมทแบบพับได้ เอกสิทธิ์เฉพาะ New Accord 2011 ครับ :) ตัวรีโมทมีปุ่มอยู่ 3 ปุ่ม ไว้จะพูดถึงต่อไปครับ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:27:32

ความคิดเห็นที่ 37 เปิดฝากระโปรงหลังออก จะเห็นพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังลึกมากทีเดียว ประมาณด้วยสายตาน่าจะลึกกว่า Camry แต่กลับมีความสูงน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังดูเล็กลงไปอย่างน่าเสียดาย แถมที่พื้นยังเป็นสองระดับ ตรงบริเวณด้านในสุดจะลึกกว่าด้านนอก (จริงๆต้องบอกว่าด้านนอกมันตื้นกว่าด้านใน  เอ๊ะชักงง)   ถาดท้ายของแท้ ซื้อต่างหากมาครับ ราคาพันต้นๆเอง ถูกกว่าของข้างนอกอีก ใช้เวลาสั่งนานถึง 2 สัปดาห์ สำหรับ Honda Accessories คุณภาพไม่ดีเท่าไหร่ เป็นแบบนิ่มๆ ของ Totota จะเป็นแบบแข็งๆ แต่ก็แพงกว่าเยอะ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:28:10

ความคิดเห็นที่ 38 เมื่อเปิดพรมขึ้นมาดูก็จะพบสาเหตุที่ทำให้พื้นมันตื้นกว่าที่ควรจะเป็น ก็เนื่องจากมันติดส่วนที่เป็นช่องสำหรับใส่อุปกรณ์ต่างๆนั่นเอง ทั้งๆที่ยางอะไหล่เองไม่ได้สูงอะไรเลย จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:28:24

ความคิดเห็นที่ 40 ขอพักหน่อยครับ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:29:41

ความคิดเห็นที่ 41 ของ Toyota ไม่ต้องพูดถึง เอาเครื่องมือใส่ถุงและโยนไว้ในช่องยางอะไหล่เหมือนรถเมื่อ 20 ปีที่แล้วไม่มีผิด แถมล้ออะไหล่ก็ขอเป็นล้อกระทะเหล็กสีดำอีกต่างหาก จะลดต้นทุนกันไปถึงไหน ยังดีมีช่องใส่รองเท้าไว้ให้ ดูดีขึ้นมาหน่อย แต่การที่ไม่มีช่องเก็บของมันก็ทำให้พื้นห้องเก็บสัมภาระด้านหลังของ Camry นั้นเหลือแบบเต็มๆ ได้ทั้งความกว้าง ความลึก ความสูง ครบเลย แถมรายนั้นยังมีตาข่ายด้านหลังพร้อมตะขอไว้ผูกโน่นผูกนี่ได้อีก เหมือนรถยุโรปอีกละ (ของรกไปหน่อย ต้องขออภัย พอดี ผจก.ที่บ้านไม่ให้เคลื่อนย้าย) จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:33:52

ความคิดเห็นที่ 42 โปรเจคเตอร์ทำเพิ่มได้ครับ เลนส์แท้ของเบนซ์+ซีนอน แสงตัดคมกริบ ปรับสูงต่ำออโต้ ทั้งชุดสามหมื่นกว่า ไม่มีคำว่าโดนด่าว่าไฟแยงตา จากคุณ : FC_Barcelona01 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:34:19

ความคิดเห็นที่ 43 ขออนุญาตลงชื่อรอชมครับ ^_^ จากคุณ : นายแว่นธรรมดา เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:34:27

ความคิดเห็นที่ 44 อีกจุดที่อยากให้ดูก็คือไฟแสงสว่างในห้องเก็บสัมภาระครับ ของ Accord มีฝาปิดเรียบร้อย แบบที่รถรุ่นใหม่ๆเขามีกัน แต่ก็มาเสียตรงสายไฟที่ไม่มีการเก็บงานให้เรียบร้อยเลย จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:35:47

ความคิดเห็นที่ 45 ส่วนของ Camry นั้นสายไฟเก็บซ่อนเรียบร้อย แต่ก็มาเสียตรงหลอดไฟซึ่งเป็นตะแกรงพลาสติกหุ้ม เหมือนกรงนก ดูกระจอกสุดๆ และผมเห็นแบบนี้มาตั้งแต่รถเก๋ง Toyota Corona รุ่นปี 1988 แล้ว ช่วยเปลี่ยนให้มันทันสมัยกว่านี้ได้หรือเปล่าครับเนี่ย จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:36:02

ความคิดเห็นที่ 46 ตรงฝากระโปรงที่แผ่นปิดหุ้มด้วยกำมะหยี่ ดูเหมือนเรียบร้อยดี แต่พอดูใกล้ๆจะพบงานประกอบที่ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่  แผ่นปิดยังไม่สนิทในบางจุด ส่วนของ Camry นั้นงานประกอบเนียนเลย ตรงขายึดฝากระโปรงหลังทั้งสองด้านมีพลาสติกปิดให้เรียบร้อย และถ้าตาไม่ฝาดไป ผมว่ารุ่นก่อนไมเนอร์ไม่มีนะ ส่วนทาง Camry ก็ไม่มีเหมือนเคยครับ รถ Toyota แทบทุกรุ่นไม่มีตรงนี้ แต่ Honda บางรุ่นมี, Nissan Sunny Neo รุ่นเกือบ 8 ปีที่แล้วก็มี  ถ้าถามว่ามีแล้วได้ใช้งานหรือเปล่า ก็คงไม่ได้ใช้ แต่มีไว้ก็สวยกว่าและเรียบร้อยกว่าไม่มีนะครับ ในห้องสัมภาระด้านท้ายจะมีปุ่มไว้สำหรับดึงเพื่อพับเบาะนั่งด้านหลังด้วย ไว้จะพูดถึงต่อไปครับ ตอนนี้ขอปิดกระโปรงไปเปิดประตูละครับ เสียงปิดกระโปรงหลังค่อนข้างโปร่งไม่แน่นเท่าไหร่ครับ ไม่เหมือน Camry ที่หนักแน่นกว่า จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:36:24

ความคิดเห็นที่ 47 งานประกอบไม่เรียบร้อย จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:36:59

ความคิดเห็นที่ 48 อันนี้ของ Camry ครับ งานประกอบแน่นหนา ขอบสนิทแนบแน่นตลอด แต่ไม่มีฝาครอบขายึดฝากระโปรงให้ครับ เลยดูด้อยราคาไปหน่อย แต่โดยรวมก็ยังเหนือว่า Accord อยู่ดี จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:38:15

ความคิดเห็นที่ 49 ก่อนจะเข้าไปดูในตัวรถ ย้อนมาดูที่รีโมทอีกทีครับ ตอนซื้อจะได้กุญแจรีโมทมา 2 ดอก และกุญแจธรรมดามาอีก 1 ดอก ซึ่งกุญแจธรรมดาจะไม่สามารถเปิดฝากระโปรงท้ายได้ครับ ใช้สำหรับเวลาเราเอารถเข้าศูนย์เราเอาของเก็บไว้ในห้องสัมภาระด้านท้าย และล็อกฝากระโปรงท้ายด้วยกุญแจหลัก แล้วเอากุญแจสำรองให้ทางศูนย์บริการไปใช้แทนครับ สำหรับตัวกุญแจรีโมทจะเป็นแบบพับเก็บได้ ดูหรูหราดีทีเดียว จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:39:00

ความคิดเห็นที่ 50 ตอนเปิดให้ดอกกุญแจกางออกมา จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:39:11

ความคิดเห็นที่ 51 ของ Camry ซึ่งรีโมทใช้พิมพ์เดียวกันเลยกับรถทุกรุ่น เพียงแต่เพิ่มลดจำนวนปุ่มเท่านั้นเอง แต่ของ Camry จะดีกว่าตรงที่ มีปุ่ม Panic มาให้อีกปุ่ม ใช้สำหรับกดค้างไว้ เพื่อให้รถส่งเสียงแตรออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน เช่นโดนจี้รถ หรืออะไรต่างๆ เอาเข้าจริงๆก็ไม่เคยใช้ครับ แต่มีไว้ก็ดีกว่า จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:39:23

ความคิดเห็นที่ 52 ทั้งสองรุ่นสามารถเปิดกระจกหน้าต่างทั้ง 4 บานได้จากรีโมทเหมือนกัน ตัวอย่างการใช้งานก็เช่นเวลาที่รถจอดตากแดดแล้วเราสั่งเปิดหน้าต่างไว้ก่อนเพื่อระบายความร้อนสักพัก จากนั้นค่อยเดินเข้าไปเปิดประตูสตาร์ทเครื่อง แต่เวลาจะเปิด ถ้าเป็นของ Accord ต้องเดินเข้าไปปิดเองครับ ปิดด้วยรีโมทไม่ได้ ไม่ทราบเหตุผลเหมือนกัน   และทั้งสองรุ่นสามารถเปิดและปิดกระจกหน้าต่างทั้ง 4 บานโดยใช้กุญแจเสียบเข้าไปตรงมือเปิดประตูด้านคนขับแล้วบิดเพื่อเปิดหรือปิดได้เลย โดยที่หมุนตามเข็มนาฬิกาจะเป็นการเปิด และทวนเข็มเป็นการปิด แต่ของ Accord ผมพบปัญหา (หรือทำผิดวิธีหรือเปล่า) คือบางครั้งใช้กุญแจแล้วปลดล็อก (หรือล็อก) ไม่ได้ ซึ่งก็ทำให้เปิด  (หรือปิด) หน้าต่างไม่ได้ด้วย ไม่มั่นใจว่าตรงนี้มันมีกลไกอะไรมาควบคุมอีกชั้นหรือเปล่า จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:39:44

ความคิดเห็นที่ 53 หลังจากนั้นมาเข้ามาดูในรถครับ กดปุ่มเปิดประตูจากรีโมทได้เลย กดครั้งแรก เอ๊ะ เปิดหรือยัง กดอีกที อ้าวเงียบ สรุปว่า New Accord 2011 มันเป็นใบ้ครับ ไม่มีเสียงเวลากดรีโมทสั่งงาน มีเพียงแค่ไฟเลี้ยวสว่างเพื่อบอกสถานะ Lock หรือ Unlock เท่านั้น ไม่แน่ในว่ารุ่นอื่นๆของ Honda เป็นแบบนี้หรือเปล่า ถ้าเป็นก็น่าเสียดายจริงๆ เพราะยังไงก็ควรจะมีเสียง Beep สักหน่อย เพราะมีไว้ถ้าไม่ใช่ก็สามารถปิดได้ ตอนนี้เวลาล็อกก็ต้องคอยมาดูไฟเลี้ยวว่ากระพริบกี่ที แล้วตอนนี้ก็ไม่แน่ใจด้วยว่าถ้าเกิดรถโดนทุบกระจกมันจะมีเสียงร้องเตือนหรือเปล่า เปิดประตูออกมา ภายในห้องโดยสารของคันนี้จะเป็นสีทูโทน คือด้านบนสีดำ ด้านล่างสีเบจเข้ม ภายในของ Honda Accord จะมีโทนสีให้เลือก 2 แบบคือ สีดำหมด กับสีดำ-เบจ นึ้นอยู่กับสีภายนอกรถ ถ้าเลือกสีภายนอกเป็นสีเทา, สีดำ, หรือสีน้ำตาล จะได้ภายในเป็นสีทูโทน แต่ถ้าเลือกสีภายนอกเป็นสีขาวหรือสีบรอนซ์เงิน จะได้ภายในเป็นสีดำครับ ส่วนของ Camry นั้นจะเป็นสีทูโทนทุกรุ่น ยกเว้นจะเลือกเป็นรุ่นพิเศษ (Extremo) ถึงจะได้ภายในสีดำ แผงคอนโซลเป็นพลาสติกแข็งฉีดขึ้นรูป ทำให้ดูด้อยราคาไปนิด อยากได้แบบเป็นโฟมฉีดที่เวลากดแล้วให้สัมผัสนิ่มๆหน่อยมากกว่า เพราะของ Toyota ทั้ง Altis และ Camry เป็นแบบนั้น ตรงกลางของคอนโซลจะเป็นคิ้วสีเงินด้านคาดไว้ ดูดีเหมือนกัน แต่ถ้าอยากได้ลายไม้ก็มีของแท้ขายในราคาแค่พันกว่าบาท ไว้เบื่อแล้วว่าจะไปใส่สักหน่อย หลังจากเปิดประตูไฟที่หน้าปัดจะเรืองแสงสลัวๆขึ้นมาเป็น Welcome Light ดูดีทีเดียว (Civic FD ก็มีแบบนี้เหมือนกัน) และเมื่อเสียบกุญแจเข้าไปไฟก็จะสว่างขึ้นมาอีกระดับ ตรงช่องเสียบกุญแจมีไฟเรืองแสงสีเขียวไว้ให้ด้วยไม่ต้องไปดิ้นรนติดเพิ่มเติม จริงๆไฟรูกุญแจนี้มันมีประโยชน์มากเวลากลางคืน และมันก็มีมาตั้งแต่รถกระบะสมัย 20 ปีที่แล้ว แต่พอมารถรุ่นใหม่หลายๆรุ่นกลับตัดมันออก หรือไม่ก็มีเฉพาะรุ่นท็อป แล้วปล่อยให้เจ้าของรถต้องดิ้นรนไปติดเพิ่มเอง ทุกๆค่ายน่าจะติดมาให้เลย คงไม่ได้ทำให้ต้นทุนเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:42:49

ความคิดเห็นที่ 54 ประตูด้านหน้าเปิดได้กว้างและมีจังหวะการเปิดคือ เปิดกลางๆ และเปิดสุด เหมือน Camry  (รถยนต์ระดับ Compact หลายๆรุ่นก็มีแบบนี้เหมือนกัน) เวลาปิดก็ให้เสียงที่หนักแน่น และไม่ต้องออกแรงปิดมาก คือผลักเข้าไปเบาๆมันก็จะปิดแน่นเอง ทั้ง Accord และ Camry เป็นแบบนี้ ให้ความรู้สึกที่ดีในการเปิดปิดมากกว่า Altis พอสมควร ทั้งที่ในเรื่องความแน่นของเสียงปิดประตูนี่ Altis ก็ถือว่าดีมากในรถระดับเดียวกัน แผงประตูเป็นสีทูโทน หุ้มหนังเช่นกัน มีสวิตช์ควบคุมกระจกมองข้าง, กระจกหน้าต่างทั้ง 4 บาน สวิตช์ทุกตัวเรืองแสงเวลาเปิดไฟหน้า ถัดลงมาเป็นลำโพงหน้า และมีช่องสำหรับใส่ขวดน้ำได้ มีไฟประตูแยกทุกประตูครบทั้ง 4 บาน จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:44:39

ความคิดเห็นที่ 55 ตรงขอบประตูจะมีสวิตช์สำหรับใช้เปิดฝากระโปรงหลัง (โดยการดึงขึ้น) และเปิดฝาถังน้ำมัน (โดยการกดสวิตช์ลง) และมีรูกุญแจสำหรับล็อกฝากระโปรงหลังด้วย โดยต้องใช้กุญแจหลักในการล็อกเท่านั้น เมื่อล็อกแล้วจะไม่สามารถเปิดฝากระโปรงหลังได้โดยใช้การดึงอีก ต้องกดจากรีโมทเท่านั้น ไว้ใช้เวลาเราต้องการเอารถไปเข้าศูนย์ เราก็สามารถเอาของใส่ไว้ด้านท้ายรถ แล้วล็อกฝาท้ายจากนั้นก็ให้กุญแจสำรองไป เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาเปิดฝากระโปรงหลัง สำหรับ Camry ก็ใช้หลักการเดียวกัน แต่รูกุญแจจะอยู่ตรงฝากระโปรงท้ายเลย ก็สะดวกไปคนละอย่าง จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:44:53

ความคิดเห็นที่ 56 คิ้วบันไดสแตนเลสเรืองแสงอันนี้เป็นของแต่ง Honda Accessories ที่หักคอเซลล์เอามา ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีนะครับ มีแต่พลาสติกโล้นๆให้ เวลาเปิดประตูด้านไหน ตรงตัวหนังสือมันจะเรืองแสงสีฟ้า สวยมากครับ ชอบเป็นการส่วนตัว ตรงนี้มีเรื่องขำนิดหน่อย ตอนรับรถผมเห็นมันเป็นสีขาวๆ ไม่ได้เป็นสีเงินๆของสแตนเลส เลยถามน้องเซลล์ว่า อันนี้เป็นของแท้หรือเปล่า เพราะผมเคยให้ของแท้มันเป็นสีเงินๆเลย น้องเซลล์ก็ตกใจ บอกว่าแท้แน่นอน มีใบเบิกจากศุนย์มายืนยันเลย ผมเลยถามต่อมันมีสติ๊กเกอร์ติดอยู่หรือเปล่า ช่วยแกะให้หน่อย น้องเซลล์ก็พยายามจะเอาเล็บแกะ สักแป๊บก็บอกว่า แกะไม่ได้นะค่ะพี่ มันเป็นแบบนี้แหละ สีนี้เลย ไอ้เราก็งงๆ ก็ไม่กล้าให้แกะเหมือนกัน ก็รับรถมาทั้งอย่างนั้นแหละ มารู้ทีหลังว่ามันเป็นสติ๊กเกอร์ติดไว้จริงๆ     พรมแท้ ติดรถมาอยู่แล้ว พวกเซลล์ชอบเอามาอ้างเป็นของแถม ส่วนผ้ายางเข้ารูป อันนี้เซลล์แถมมาให้ ส่วนของ Camry จะมีคิ้วสแตนเลสธรรมดามาให้เลย มีพรมแท้และผ้ายางแท้แถมให้เหมือนกัน เวลาซื้อรถระวังนะครับ ร้อยทั้งร้อยเซลล์ชอบบอกว่าแถม จริงๆมันใส่มาให้กับตัวรถเลยครับ จะใส่ในถุงพลาสติกมา แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 54 22:45:39 แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 54 19:07:10 จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:47:07

ความคิดเห็นที่ 57 เบาะนั่งเป็นสีเบจแบบเข้มเหมือนคอนโซลเบาะของรถระดับนี้จะเป็นหนังแท้ที่หนาขึ้นกว่าของ Altis ที่เคยใช้ เบาะของ Accord ตัวนี้คู่หน้าเป็นแบบปรับไฟฟ้า ด้านคนขับปรับได้ 8 ทิศทางพร้อมตัวดันหลัง ด้านคนนั่งปรับได้แค่ 4 ทิศทาง คือเดินหน้า ถอยหลัง และพนักพิง ไม่สามารถปรับสูงต่ำได้ และไม่มีตัวดันหลัง จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:47:39

ความคิดเห็นที่ 58 เบาะด้านคนนั่ง ปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:47:59

ความคิดเห็นที่ 59 ของ Camry  เบาะหนังจะเป็นโทนสีอ่อน และเป็นเบาะแบบมีรูระบายอากาสด้วย ด้านคนขับปรับได้ 8 ทิศทางเหมือนกัน แต่ด้านคนนั่งปรับได้ 6 ทิศทาง คือปรับสูงต่ำได้ด้วย จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:48:26

ความคิดเห็นที่ 60 และที่ Camry มีแต่ Accord ไม่มี คือตรงเบาะด้านคนนั่งจะมีปุ่มปรับอยู่อีกจุดไว้สำหรับให้คนขับปรับได้สะดวกหน่อย ซึ่งตรงนี้เป็นแนวคิดที่ดีทีเดียว เนื่องจากบางทีคนนั่งด้านหน้าปรับไม่เป็น คนขับก็สามารถช่วยปรับได้ อย่างวันที่แม่ผมที่อายุเกือบ 60 นั่ง Accordครั้งแรก แกก็ปรับไม่เป็นผมก็ต้องเอื้อมไปปรับให้ แต่ถ้าเป็น Camry ก็จะสะดวกสบายมากกว่ากันหน่อย จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:48:51

ความคิดเห็นที่ 61 เปิดเข้ามาดูด้านหลังกัน  ประตูด้านหลังเปิดได้กว้าง การเข้าออกทำได้สะดวกมาก ตรงแผงประตูมีช่องใส่ขวดน้ำ (หรือขวดนมถ้าคุณจะเลี้ยงเด็กในรถ) มีช่องสำหรับที่เขี่ยบุหรี่ แต่ไว้ตรงนี้คงใช้งานลำบากพอสมควร และยังมีไฟประตูที่ประตูหลังด้วย เจ้า Altis คันเก่ามันไม่มี จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:49:23

ความคิดเห็นที่ 62 พื้นที่ด้านหลังดูด้วยสายตาเหมือนจะแคบกว่า Camry ตอนไปดูรถครั้งแรกแฟนทักว่าทำไมมันแคบจัง แต่พอไปนั่งจริงๆ กลับนั่งได้สบายกว่า เนื่องจากเบาะส่วนที่รองรับขานั้นยาวกว่าของ Camry ทำให้นั่งแล้วรู้สึกว่านั่งได้เต็มก้นมากกว่า พื้นที่ Leg room กว้างเหลือเฟือ พนักพิงหลังก็เอนกำลังพอดี นั่งแล้วสบายๆไม่อึดอัด เข็มขัดนิรภัยมีให้ทั้ง 3 จุด จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:51:09

ความคิดเห็นที่ 63 ตรงกลางสามารถพับออกมาเป็นที่วางแขน พร้อมมีฝาเปิดออกมาเป็นที่วางแก้วน้ำได้  และยังมีช่องสำหรับเปิดเข้าไปเอาของเล็กๆน้อยๆด้านท้ายรถได้ ซึ่งทั้งหมดที่พูดมา ก็ไม่แตกต่างจาก Camry ครับ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:51:34

ความคิดเห็นที่ 64 เบาะหลังสามารถพับได้ แต่ต้องพับลงมาทั้งตัวไม่สามารถแยก 60:40 ได้ ก็เป็นอีกจุดที่น่าผิดหวัง เพราะรถของ Honda เองรุ่นต่ำกว่านี้ยังสามารถทำได้เลย ของ Camry เขาก็ทำได้ นอกจากนี้เวลาจะพับเบาะ จะต้องเปิดฝากระโปรงท้ายรถ เพื่อไปดึงปุ่มสำหรับพับเบาะที่อยู่ด้านท้ายด้วย แต่ของ Camry หรือ Toyota รุ่นอื่นๆจะมีปุ่มดึงอยู่ตรงเบาะหลังเลย ทำให้การใช้งานดูแล้วสะดวกมากกว่า ผมไม่แน่ใจว่ามันมีเหตุผลอะไรลึกๆหรือเปล่าที่ต้องทำแบบนี้ หากท่านใดทราบช่วยแนะนำด้วยครับ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:51:55

ความคิดเห็นที่ 65 กลับเข้ามานั่งในรถกันเลยครับ เมื่อเสียบกุญแจไฟหน้าปัดจะสว่างขึ้นมาอีกเล็กน้อย และหลังจากสตาร์ตแล้วก็จะสว่างสุด ส่วนของ Camry จะสว่างตอนที่บิดกุญแจไปแล้วเท่านั้น ตอนปกติจะดำมืดเลย เนื่องจากกระจกตรงแผงหน้าปัดเป็นสีดำ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:53:21

ความคิดเห็นที่ 66 ไฟแผงหน้าปัดเรืองแสงสีฟ้า มองเห็นได้ชัดเจนดี แต่อาจจะไม่ดูหวือหวากับของ Camry ที่มีทั้งไมล์เรืองแสง จอ MID แบบ Graphic รวมถึงแผงหน้าปัดที่มองแล้วมีมิติสูงต่ำด้วย แต่ของ Accord ก็สามารถแสดงข้อมูลสำคัญๆได้ครบถ้วน ได้แก่ มาตรวัดรอบ วัดความเร็ว ไฟเตือนต่างๆครบครัน รวมถึงไฟประตูทั้ง 5 บาน ซึ่งตรงนี้รถระดับ Compact Car ส่วนใหญ่ไม่มี แต่ก็ยังขาดไฟเตือนฝากระโปรงหน้าไป มาตรวัดระยะทางเป็นแบบตัวเลข Digital ธรรมดา วัดได้แค่ Odometer, Trip A,B แล้วก็อุณหภูมินอกรถเท่านั้น ไม่สามารถวัดอัตราสิ้นเปลืองและอื่นๆได้เลย ความสว่างของแผงหน้าปัดและไฟตามปุ่มเครื่องเสียงสามารถปรับได้จากก้านปรับทางด้านขวา แต่.....ถึงแม้จะปรับจนสุดก็ยังไม่สว่างเท่ากับแผงหน้าปัด Optitron ของ Toyota อยู่ดี จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:54:01

ความคิดเห็นที่ 67 เขาว่า "น้ำขึ้นให้รีบตัก โพสได้ให้รีบโพสครับ" ก็เลยต่อเนื่องเลยครับ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:54:25

ความคิดเห็นที่ 68 จขกท. โพสไวมากครับ ^^ จากคุณ : harryoop เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:55:52

ความคิดเห็นที่ 69 อันนี้เป็นตอนกลางคืน ชอบตรงเข็มสีแดงสะท้อนแสงกับวงแหวนสีเงินตรงวัดรอบกับวัดความเร็ว แล้วออกมาเป็นเงาสีแดง จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:56:02

ความคิดเห็นที่ 70 ของ Camry เป็นจอ MID ทักทายคนขับตอนเสียบกุญแจ ดูทันสมัยและมีประโยชน์กว่าเยอะ แสดงผลได้หลายอย่างมากทั้งอัตราสิ้นเปลือง, ระยะทางที่วิ่งได้จากน้ำมันที่เหลือ, ความเร็วเฉลี่ย รวมถึงการเตือนต่างๆเช่น เตือนประตูปิดไม่สนิท, ไม่ได้ปลดเบรคมือ, อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นสูง รวมถึงระดับน้ำฉีดล้างกระจกต่ำ และอื่นๆอีกเพียบ ถ้าเป็นรถระดับ Compact Car ส่วนมากจอ MID ก็จะแสดงแค่พวกอัตราสิ้นเปลือง, ระยะทางที่วิ่งได้ ประมาณนี้ จะไม่ค่อยแสดงสัญลักษณ์เตือนต่างๆ แต่....ทั้งสองรุ่นมีข้อเสียเหมือนกันคือ เมื่อเปิดประตูรถแต่ไม่ได้เปิดสวิตช์กุญแจไว้ ไฟแสดงสถานะประตูมันไม่ติดเลย (ของ Camry จอ MID ไม่ทำงาน) ฉะนั้น ถ้าไม่เปิดสวิตช์กุญแจก็ต้องดูเอาจากไฟที่ประตูแต่ละบานถึงจะรู้ว่าประตูบานไหนปิดไม่สนิท ของ Camry ดีกว่าหน่อยตรงที่มีไฟสีแดงดวงเล็กๆที่หน้าปัด เตือนประตูปิดไม่สนิท (แต่ไม่บอกว่าบานไหน) จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:58:12

ความคิดเห็นที่ 71 F5 รัวเลย จากคุณ : viewer17 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 19:58:27

ความคิดเห็นที่ 72 น่าเอาตัว 2.4 แต่ราคาแรงไปก็ตามงบละกันครับ รถสวยดี จากคุณ : FC_Barcelona01 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:00:15

ความคิดเห็นที่ 73 ตอบ คห. 68 ครับ เตรียมข้อมูลไว้แล้วครับ copy and paste เลยครับ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:03:15

ความคิดเห็นที่ 74 ตอบ คห. 72 2.4 ไม่ไหวอะครับ ผ่อนหนักเกินอาชีพลูกจ้างครับ ใจอยากไ้ด้ 2.0EL Navi ครับ แต่ตัวนี้ได้รถเลย ก็เลยเอา จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:04:54

ความคิดเห็นที่ 75 ตอนแรกที่ออกจากศูนย์มารู้สึกว่าหนังที่นำมาหุ้มเบาะค่อนข้างแข็ง แต่พอใช้ไปได้สักเดือนมันเริ่มนิ่มละ อาจจะเป็นเพราะผมลงน้ำยาเคลือบหนังแท้ทุกอาทิตย์เลย แต่ขนาดลงบ่อยขนาดนั้นตอนนี้เบาะด้านคนขับก็ดำแบบเห็นได้ชัดละ ตัวเบาะนั่งค่อนข้างแข็งและออกแนวกระชับ ต่างจาก Camry ที่ออกแนวนุ่มสบายๆ แต่จุดที่ไม่น่าให้อภัยเป็นอย่างยิ่งก็คือพนักพิงศีรษะที่มันยื่นออกมามากและไม่สามารถปรับมุมได้ ปรับได้แค่สูงต่ำเท่านั้น ตอนนี้เวลาขับก็เมื่อยคอพอสมควร ยังปรับตัวไม่ได้เลย ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ทำให้มันปรับได้ และตอนซื้อผมก็ไม่ได้ดูด้วยว่ามันปรับไม่ได้ เพราะไม่คาดคิดว่ารถระดับนี้มันจะปรับไม่ได้ ขนาด Altis ตัวเก่าที่ใช้อยู่มันยังปรับได้เลย ตำแหน่งเบาะนั่งสูงกว่า Camry พอสมควร สังเกตุจากถ้าขับ Accord ผมต้องปรับเบาะลงต่ำสุดถึงจะขับได้สะดวก แต่ขับ Camry ปรับที่กลางๆ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:06:00

ความคิดเห็นที่ 76 เข็มขัดนิรภัยของ Accord ปรับสูงต่ำได้ และมี Sensor ตรวจจับด้วยว่าหากมีคนนั่งบนเบาะแต่ไม่คาดเข็มขัดแล้วเราขับรถออกไปมันก็จะส่งเสียงร้องพร้อมไฟกระพริบที่แผงหน้าปัดเป็นระยะๆ ส่วนของ Camry ไม่มีเสียงเตือน แต่มีไฟเตือนแยกให้ 2 ดวง ทั้งด้านคนนั่งและคนขับ ด้านไหนมีคนนั่งแล้วไม่คาดเข็มขัด ไฟเตือนก็จะติดขึ้นมา นอกจากนี้ของ Accord หากขับรถออกไปโดยไม่คาดเข็มขัดจะมีเสียงเตือนอีกแบบคือเสียงหัวเข็มขัดกระทบกับเสา B เวลาที่รถสะเทือน บ่อยเข้าก็น่ารำคาญเหมือนกัน และของ Camry เหนือกว่าอีกนิด ตรงเข็มขัดนิรภัยด้านหลัง จะมีสายเลื่อนเข็มขัดนิรภัยเพิ่มขี้นมา เพื่อกันไม่ให้เวลาคาดเข็มขัดแล้วสายเข็มขัดไปโดนคอของผู้โดยสาร เจ้าสายตัวนี้ปกติแล้วมันจะถูกเก็บซ่อนอยู่ข้างๆเบาะหลังนั่นเอง ใครใ้ช้ Camry ก็ลองไปล้วงดูได้ครับ ข้างๆพนักพิง เปิดประตูออกมาก็เจอเลย จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:09:12

ความคิดเห็นที่ 77 พวงมาลัยแบบหนังแท้ ขนาดกำลังดี และที่สำคัญจับกระชับมือดีมาก เพราะจะมีช่วงที่เป็นเนื้อปูดๆสองก้อนทำให้จับได้กระชับ (เรียกไม่ถูก) เหมือนพวกรถสปอร์ตมีกัน (แบบ Toyota Wish อะ) สามารถปรับสูงต่ำ เข้าออกได้ ซึ่ง Camry ก็ทำได้เช่นกัน ตรงกลางเป็นปุ่มแตร เสียงแตรดัง แต่นุ่ม ฟังชัดเจน ต่างจากรถ Altis คนละเรื่องเลย ของ Camry ก็ดังเหมือนกัน จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:11:46

ความคิดเห็นที่ 78 ด้านซ้ายจะมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียง เรืองแสงสีเขียวเวลาเปิดไฟหน้า สามารถปรับระดับเสียง เลือกเพลง เปลี่ยน Mode การเล่น อันนี้เหมือนกันทั้ง Accord และ Camry จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:12:58

ความคิดเห็นที่ 79 สุดยอดเลย คับ  รถเงามากๆๆ  อิอิ จากคุณ : siapingpong เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:13:30

ความคิดเห็นที่ 80 รีเฟรชไปเรื่อยๆ  ^ ^ จากคุณ : ทำใจนิ่งๆ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:14:23

ความคิดเห็นที่ 81 ด้านขวาเป็นปุ่มควบคุมระบบ Cruise Control เรืองแสงเหมือนกัน ซึ่งเมื่อเปิดระบบจะมีไฟสัญลักษณ์สีเขียวสว่างขึ้นก่อน และเมื่อเริ่มล็อกความเร็วก็จะมีไฟแสดงสถานะการทำงานติดเพิ่มมาอีกดวง ซึ่งดีกว่าของ Camry ที่มีไฟบอกแค่ดวงเดียว คือเปิดระบบเท่านั้น แต่ไม่มีไฟบอกว่าระบบกำลังทำงานอยู่หรือเปล่า แต่ระหว่างใช้งาน ปกติแล้วถ้ากดปุ่มเพิ่มหรือลดความเร็ว มันควรจะขยับให้ครั้งละ 1.6 กม. (คู่มือว่าไว้แบบนั้น) แต่ของ Accord ดูเหมือนมันจะเพิ่มหรือลดความเร็วให้ไม่ถึง เวลาจะเพิ่มความเร็วต้องกดหลายๆที ถ้ากดค้างมันจะเปลี่ยนเกียร์ลง แล้วลากรอบขึ้นไปเลย จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:18:41

ความคิดเห็นที่ 82 นั่งหน้าคอม อย่างใจจดใจจ่อ จากคุณ : jobikung เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:19:23

ความคิดเห็นที่ 83 พวงมาลัยของ Camry เป็นหนังสลับลายไม้ มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและมีปุ่มควบคุมแอร์ด้วย  โดยย้ายปุ่มควบคุม Cruise Control ไปอยู่ทางด้านหลังแทน จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:19:52

ความคิดเห็นที่ 84 รูปข้างบนมีส่วนเกิน (เท้่าของ จขกท. เอง) โทษที :) จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:23:52

ความคิดเห็นที่ 85 กลับมาที่ Accord ครับ ด้านซ้ายของพวงมาลัยเป็นก้านสวิตช์ปัดน้ำฝน เป็นแบบพื้นฐานไม่มี Rain Sensor ให้ สามารถตั้งค่าให้ปัดครั้งเดียว ปัดช้า ปัดเร็ว (ซึ่งความถี่ก็ยังแปรผันกับความเร็วรถด้วย) หากดึงเข้าหาตัวจะเป็นการฉีดน้ำล้างกระจก ซึ่งน้ำที่ฉีดออกมาจะเป็นฝอยละออง ไม่ได้ฉีดเป็นเส้นๆเหมือนรถรุ่นเล็กทั่วไป ในคู่มือระบุว่า หลังจากปล่อยมือจากก้านสวิตช์ฉีดน้ำล้างกระจกแล้ว ใบปัดน้ำฝนจะปัดต่ออีก 1 ครั้ง  แต่ผมทดลองดูยังไม่เห็นมันปัดอย่างที่ว่า แต่ของ Camry มีระบบนี้เหมือนกัน โดยการทำงานก็คือระหว่างฉีดน้ำล้างกระจกใบปัดก็ปัดตามปกติ แต่พอเราหยุดฉีดใบปัดหยุดแล้ว บางทีคราบน้ำจะยังไม่หมดดีเนื่องจากรถมันวิ่งไปด้วย ของ Camry มันจะปิดเก็บให้อีก 1 ครั้งหลังจากปัดครั้งสุดท้ายประมาณ 1-2 วินาทีเพื่อนให้สะอาดขึ้น   นอกจากนี้ Camry 2.0G ยังมีระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติพร้อม Sensor วัดปริมาณน้ำฝนด้วย จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:25:44

ความคิดเห็นที่ 86 ตรงจุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่ต้องขอตำหนิทาง Honda อีกครั้ง เพราะงานประกอบห่วยจริงๆ จากรูปด้านล่างเห็นงานประกอบไม่สนิทชัดเจน เป็นทั้งสองด้านเลย รถโชว์ก็เป็น ก็เลยไม่รู้จะสรุปว่า "QC ของ Honda แย่" หรือ "มาตรฐานของานประกอบแย่"  เพราะรู้สึกว่า CR-V ก็มีปัญหาจุดนี้เหมือนกัน แล้วอย่าบอกนะว่ามีปัญหาสามารถเข้าไปแก้ไขได้ ใครจะอยากเอาไปแก้ ต้องรื้อออกมาดัด มาประกอบเข้าไปไม่ ไม่รู้จะดีกว่าหรือแย่กว่าเดิม จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:28:22

ความคิดเห็นที่ 87 อันนี้โพสให้ดู ของ Camry ครับ ต้องยอมรับว่า Toyota ทำได้ดีกว่าจริงๆ รูปมันฟ้อง Altis คันเก่าก็เรียบร้อยดีครับ ไม่มีรอยแยกใหญ่ๆให้เห็นแต่อย่างใด จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:29:35

ความคิดเห็นที่ 88 ระบบอำนวยความสะดวกเยอะดีจัง อิจฉา จากคุณ : FC_Barcelona01 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:30:10

ความคิดเห็นที่ 89 ด้านขวาเป็นก้านสวิตช์ไฟเลี้ยว, ไฟใหญ่ และไฟตัดหมอก เหมือนปกติทั่วไป สำหรับรุ่น 2.0EL ไม่มีระบบเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติให้ แต่ของ Camry มีตั้งแต่รุ่น 2.0G เลย แต่ของ Accord มีระบบปิดอัตโนมัติที่สามารถหน่วงเวลาได้เหมือนรถยุโรปบางรุ่น หลังจากที่ดับเครื่องและถอดกุญแจออกแล้ว  (โดยที่ยังเปิดไฟหน้าไว้)เมื่อล็อกรถ ระบบจะหน่วงเวลาไว้ให้ประมาณ 30 วินาทีก่อนที่ไฟทั้งหมดจะดับ ไว้เพื่อส่องทางเวลาเดินเข้าบ้านหรือว่าเปิดประตูบ้าน พูดถึงเรื่องระบบแสงสว่าง ขอเสริมอีกนิดว่า สำหรับรถรุ่นใหญ่พวก Accord และ Camry นั้น ระบบไฟส่องสว่างและระบบล็อกประตูสามารถปรับได้หลายรูปแบบตามการใช้งาน เช่นสามารถตั้งให้ไฟแสงสว่างภายในรถติดหรือดับตอนไหน หน่วงเวลาหรือไม่หน่วงเวลา ส่วนระบบล็อกก็สามารถตั้งได้ว่าจะล็อกรถตอนไหน ล็อกตอนเกียร์เลื่อนออกจากเกียร์ P หรือว่าล็อกหลังจากความเร็วรถถึงค่าที่กำหนด การปลดล็อกก็เช่นกัน ตั้งได้ว่าจะให้ปลดล็อกทันทีที่เข้าเกียร์ P หรือว่าปลดล็อกเมื่อดับเครื่อง และอื่นๆ เหล่านี้ รถยนต์ระดับ Compact ทั่วไปทำไม่ได้ หรือได้ก็ไม่ละเอียดเท่า แม้แต่ Altis 1.8G ก็ทำไม่ได้เหมือนกัน จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:35:32

ความคิดเห็นที่ 90 เกียร์อัติโนมัติแบบ 5 Speed แต่เป็นแบบกดปุ่มแล้วเลื่อนเกียร์ธรรมดา ไม่มีปุ่มปรับ Mode อะไรเลย หัวเกียร์ขนาดใหญ่ หุ้มหนัง (น่าจะแท้) ด้านข้างคันเกียร์มีรูสำหรับเสียบกุญแจ เพื่อเลื่อนเกียร์มาเป็นเกียร์ว่าง เวลาที่จำเป็นต้องจอดรถขวางทาง ถ้าเป็นของ Toyota จะทำเป็นปุ่ม Shift Lock สำหรับกดค้างแล้วเลื่อนเกียร์ได้เลยไม่ต้องใช้กุญแจ เลยไปด้านบนของคันเกียร์มีช่องที่จุดบุหรี่ และเที่เขี่ยบุหรึ่ มีฝาบิดเรียบร้อย แต่ทำไมฝาปิดต้องทำเป็นนูนๆสูงๆขึ้นมา ดูไม่ลงตัวเท่าไหร่ น่าจะทำเรียบไปเลยและใช้การกดเปิดปิดมากกว่า ด้านบนที่เห็นเป็นฝาปิดสีเทาเป็นช่องเก็บของ การใช้งานจริงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เพราะฝาปิดค่อนข้างเปิดยาก เนื่องจากเป็นแบบที่ต้องใช้มือดึงเปิดออก ไม่ใช่แบบกดแล้วปล่อยให้เด้งออก จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:42:09

ความคิดเห็นที่ 91 คันเกียร์ของ Camry 2.0G จะเป็นเกียร์ 4 Speed แต่เป็นแบบ Gate Type และมีปุ่มปรับ Mode การขับขี่แบบปกติหรือแบบเน้นอัตราเร่งได้ ซึ่งส่วนตัวแล้วชอบเกียร์แบบ Gate Type มากกว่า เพราะตั้งแต่ขับกระบะแล้วเปลี่ยนมาเป็น Altis 1.8G ก็ได้ใช้เกียร์แบบ Gate Type ตลอด มันไม่ต้องจำว่าเลื่อนเกียร์จากตำแหน่งไหนไปไหนต้องกดปุ่มหรือไม่กดปุ่ม เหมือนเป็นตัวกันโง่ในตัว ไม่มีโอกาสเข้าเกียร์ผิดได้ และจังหวะเลื่อนเกียร์เพื่อเปลี่ยนเกียร์มันให้ความรู้สึกที่ดีกว่าเกียร์แบบเลื่อนตรงๆ นอกจากนี้จะสังเกตุว่าคันเกียร์ของ Camry จะไม่ได้อยู่ตำแหน่งตรงกลางคอนโซล แต่จะอยู่ใกล้มาทางด้านคนขับมากกว่า ซึ่งจุัดเล็กๆจุดนี้ก็สำคัญเหมือนกัน เนื่องจากตัวรถมีขนาดใหญ่ ถ้าเกียร์อยู่ห่างตัวมากก็ต้องเอื้อมแขนไปมากหน่อย ยิ่งถ้าคนขับเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ อาจจะเห็นชัดก็ได้ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:44:39

ความคิดเห็นที่ 92 ที่เห็นๆเลย Accord มีเบรคมือ   แต่ Camry ไม่มีครับ กลายเป็นเบรคเท้าไป   อิอิ.. จากคุณ : ทำใจนิ่งๆ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:46:57

ความคิดเห็นที่ 93 ข้างๆคันเกียร์มีคันเบรคมือ ซึ่งชื่อจริงๆแล้วมันคือ Parking Brake แต่มันมาเป็นคันโยกสำหรับใช้มือดึง คนไทยก็เลยติดปากว่าเบรคมือ ส่วนของ Camry มันเป็นคันเหยียบอยู่ที่เท้าเหมือนรถยุโรป (แต่จะเรียกว่าเบรคเท้าก็คงไม่ถูก) ส่วนตัวชอบแบบใช้มือดึงมากกว่า เพราะมันง่ายต่อการ Drift... ทั้งสองรุ่น หากลืมปลดเบรคมือแล้วขับรถออกไปจะมีเสียงเตือนด้วย ถูกใจมากกับระบบนี้ เพราะผมลืมบ่อยจริงๆ ของ Camry จะมีเตือนบนหน้าจอ MID ด้วย ถัดลงมาเป็นช่องสำหรับเปิดเพื่อวางแก้วน้ำได้ ช่องวางแก้วน้ำมีสองช่อง สูงต่ำต่างกันด้วย ตัวกั้นแก้วน้ำสามารถพับเก็บได้ถ้าไม่ใช้ หรือกรณีที่ต้องการจะวางของใหญ่ๆหน่อย เช่นกล่องนม จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:47:04

ความคิดเห็นที่ 94 โดน คห. 92 ปาดหน้าไปซะแล้ว จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:47:53

ความคิดเห็นที่ 95 คอนโซลกลาง ขอเรียกว่าแบบชั้นครึ่งก็แล้วกัน (ก็มันไม่ได้เป็น 2 ชั้นเต็มๆแบบที่สามารถเปิดแยกกันได้เหมือนของ Toyota) เมื่อเปิดออกมาจะมีช่องเก็บของเหมือนปกติ 1 ช่อง แต่จะมีถาดอยู่ด้านบนเล็กๆให้อีก 1 อันเอาไว้ใส่ของจุกจิกได้บ้าง ฝาปิดยังสามารถเลื่อนเดินหน้าถอยหลังได้ เพื่อปรับให้รองรับกับข้อศอกของเรา น่าแปลกที่ภายนอกดูใหญ่ แต่เอาเข้าจริงๆไม่ต่างจากของ Altis คือใส่อะไรไม่ได้มากนัก ภายในจะมีช่องต่อไฟ 12V ให้ พร้อมกับช่องต่อสาย USB  ซึ่งจะพูดถึงต่อไป จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:52:04

ความคิดเห็นที่ 96 ขออภัยครับ  กด F5 ต่อไปอย่างเงียบๆ  ^ ^ จากคุณ : ทำใจนิ่งๆ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:52:26

ความคิดเห็นที่ 97 ด้านคนนั่งมีลิ้นชักเก็บของให้เหมือนรถทั่วไป เวลาเปิดปิดให้ความรู้สึกเหมือนมันหนามาก เพราะมันออกหนักๆ หนืดๆ เวลาเปิดไฟหน้าก็จะมีไฟส่องภายในลิ้นชักให้ด้วย เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถระดับนี้ทุกๆค่าย การใช้งานจริงก็ตามรูป เก็บอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เพราะมันหนา ด้านนอกใหญ่ ด้านในเล็ก ของ Altis เก็บได้มากกว่าอีก ของ Camry ข้างในจะมีการบุด้วยกำมะหยี่เพื่อความหรูหรา และเข้าใจว่าเพื่อลดเสียงของที่วางในลิ้นชักมันกระทบกับตัวลิ้นชัก ตรงที่วางเท้าด้านคนขับทั้งซ้ายขวาจะมีไฟ Dim Light สีฟ้าเข้ม ตอนเปิดไฟหน้าจะสว่างขึ้นมาเพื่อสร้างบรรยากาศชวนฝันอีกด้วย แต่มันหรี่มากจริงๆ ต้องอยู่ในที่มืดๆถึงจะเห็นว่ามันมีไฟเรืองแสดงนะ ถ้าอยุ่บนถนนใหญ่ในกรุงเทพฯคงไม่ได้เห็น พยายามถ่ายรูปแล้วก็มองไม่เห็นจริงๆ จากคุณ : Donkey เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 54 20:53:15