ความคิดเห็นที่ 1 รัฐบาลเกบภาษีมากเกินไปคับ ไปดูประเทศอื่นๆ ออสเตรเลีย นิวซีแลน แคนาดา ถูกกว่าบ้านเราทั้งนั้น จากคุณ : ธีรวีร์ เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:20:23

ความคิดเห็นที่ 2 คิดว่า น่าจะเพราะภาษีครับ 1. ภาษีสรรพสามิตรถยนตร์ - ถ้าเป็นรถเก๋ง อย่างต่ำ (และรถเก๋งส่วนใหญ่) ก็ 25% - 35% - รถกระบะ ก็น้อยหน่อย 3 - 12% 2. VAT อีก 7% จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:24:11

ความคิดเห็นที่ 3 ภาษี เพราะรัฐบาลพยายามสนับสนุนให้มาลงทุนประกอบรถในประเทศ บ้านเราค่าซ่อมรถ ค่าประกัน ถูกมากเลยถ้าเทียบกับต่างประเทศ ค่าแรงเขาโหดมาก จากคุณ : kunimihero เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:24:43

ความคิดเห็นที่ 4 พวกคนมีสี มีอำนาจถึงซื้อรถหนีภาษีไง อย่างมินิขายกัน2ล้าน พวกนั่นซื้อได้ไม่ถึงล้าน จากคุณ : เจ้าพ่อเจริญกรุง เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:27:05

ความคิดเห็นที่ 5 รถบ้านเราแพงเพราะภาษี แต่มันมีเหตุผลที่ต้องตั้งไว้สูง มันไม่ได้ขึ้นกับค่าครองชีพอย่างเดียว(รายจ่าย) แต่มันขึ้นกับรายได้ เพราะขนาด ศก.เราเล็กกว่าอเมริกามาก หรือเล็กกว่าประเทศอีกหลายประเทศ ถ้าเราขายรถในราคาถูก จะเกิดการนำเข้ามหาศาล ซึ่งจะทำให้เราขาดดุลการค้า เพราะเราส่งออกแต่ผลผลิตเกษตรที่มีมูลค่าเพิ่มต่ำ แต่รถยนต์เป็นสินค้าที่ มีมูลค่าเพิ่มสูง เราแค่รับจ้างประกอบ ไม่ใช่เจ้าของเทคโนโลยี เมื่อขาดดุล เราก็ต้องปรับค่าเงินให้อ่อนลงไปเรื่อยๆ เราจะเข้าสู่ภาวะล้มละลาย เงินเฟ้อมากมาย แล้วด้วยเหตุผลทำนองเดียวกันทำให้เราต้องเก็บภาษีน้ำมันใน ราคาสูงๆ ไม่งั้นจะเกิดการขาดดุล เพราะเราผลิตเองไม่ได้ พอเข้าใจมั้ยครับ มันเป็นเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ความได้เปรียบทางการค้าระหว่างประเทศ จากคุณ : เลขสาม เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:28:20

ความคิดเห็นที่ 6 คิดเหมือน #3 ครับ บ้านเรา ถึงรถแพง แต่ค่าซ่อม/ประกันถูกกว่าเค้านะ จากคุณ : kittipatr เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:29:36

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านคห.5 นึกถึงตอนปี 2540 เลย จากคุณ : thisname เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:32:34

ความคิดเห็นที่ 8 คห. 3 ครับ อันนั้น ผมว่า มันก็อีกประเด็นนึงนะ ทุกวันนี้ รถส่วนใหญ่ที่วิ่งบนถนน ก็ประกอบใน ทั้งนั้น แต่ ราคาที่จะซื้อมันออกจากโชว์รูมมาได้ ก็แพงกว่าที่ขายในต่างประเทศอยู่ดีครับ สรุป เพราะภาษี - ประกอบใน ก็ภาษีน้อยหน่อย อย่างที่ผมตอบใน คห.2 - ถ้าเป็นรถนำเข้าทั้งคัน ภาษีแพงกว่านี้อีก 2-5 เท่า จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:35:24

ความคิดเห็นที่ 9 รถแพงไม่ว่า แต่ราคาน้ำมันช่วยทำให้มันถูกลงหน่อย ไม่มีตังค์จะเติมละ จากคุณ : nongpreawza เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:48:00

ความคิดเห็นที่ 10 ภาษีสูงกว่าไง ค่ายรถกำไรมากไปหรือเปล่า ไม่แน่ใจถ้ากำไรมาก น่าจะมีคนอยากส่งรถมาขายมากกว่านี้นะ ภาษีมากไปหรือเปล่า จริงภาษีมากจริงๆ จากคุณ : เซวิอุส เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:50:59 A:unknown X:124.120.109.247 TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 11 คห 5  สุดยอดครับ ซูฮกๆ     จากคุณ : กูนเน่อร์ เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:51:28

ความคิดเห็นที่ 12 น้ำมันก็ต้องแพงครับ แต่ต้องแพงด้วยภาษีเท่านั้น เพราะเราผลิตเองไม่ได้ ถ้าน้ำมันถูก จะเกิดการใช้อย่างไม่ประหยัด และหายนะก็จะมากับคนทั้งประเทศ แต่รัฐต้องพัฒนาการขนส่ง ที่มันแย่คือ รัฐทำด้านเดียว เก็บภาษีแพง แต่ไม่พัฒนาขนส่งมวลชน พูดไปมามันจะเข้าสู่นักการเมืองนะ น่าเศร้าที่นัการเมืองมันไม่คิดถึงเรื่องนี้ จากคุณ : เลขสาม เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 22:54:24

ความคิดเห็นที่ 13 แสดงว่ารัฐบาลอภิสิทธิมาถูกทางแล้วซินะ เหลือแต่พัฒนาระบบขนส่ง จากคุณ : เจ้าพ่อเจริญกรุง เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 23:02:10

ความคิดเห็นที่ 14 มันถูกตามทฤษฎี ที่ภาษีต้องแพง แต่การใช้จ่ายภาษีนี่สิ เราไม่รู้เลยว่าจะใช้ถูกประเภทไหม ผมถึงรังเกียจนักการเมืองมาก อาชีพอะไร เงินเดือนไม่เกินแสน(เดาเอา จำไม่ได้) แต่แต่ละคนรวยเป็นร้อยเป็นพันล้าน เหมือนข้าราชการ เช่นทหารระดับสูงๆ ทำไมรวยมากทั้งที่เอาเงินเดือนมาดูมันเป็นไปไม่ได้เลย มันมีการคอรัปชั่นกันเยอะมาก ขออภัยเป็นกระทู้การเมือง จากคุณ : เลขสาม เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 23:11:43

ความคิดเห็นที่ 15 คุณเลขสาม ตอบได้ดีมากครับ จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 23:17:23

ความคิดเห็นที่ 16 ไหนๆก็ไหนๆ เรื่องการเมือง กับการพัฒนาประเทศมันเป็นไปไม่ได้เลย หรือน้อยมาก สำหรับไทย เพราะ สิ่งที่พัฒนาอย่างยั่งยืนที่สุดคือ พัฒนาการศึกษาให้ประชาชน ให้รู้เท่าทัน อย่างประเทศที่เจริญแล้ว แต่มันยากเพราะอะไรรู้มั้ย เอาแค่ ป.ตรี  ลงทุนกับประชาชนต้องใช้เวลา 20 ปี แต่ อายุรัฐบาลเต็มที่ 8 ปี(2สมัย) ดังนั้นเค้าก็ต้องเลือกทางที่กอบโกยเพราะระยะสั้น เพราะถ้ามัวแต่วางรากฐาน ก็ไม่ได้กิน แล้วก็พาลคิดไปว่า ผลจะตกสู่พรรคที่ไม่ใช่พรรคตัวเองอีก ดังนั้นชั่วชีวิตผม คงไม่ได้เห็น เพราะผมยังมองไม่เห็นนักการเมืองคนไหนที่ มีเจตนาที่พัฒนาการเมืองอย่างบริสุทธิ์ (ทั้ง ท. อ. ส. น. และ...) ขออภัยกระทูเปลี่ยนแนว จากคุณ : เลขสาม เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 23:34:11

ความคิดเห็นที่ 17 รู้สึกจะมีคำถามแบบนี้มาเรื่อยๆนะ น่าจะเก็บเป็น FAQ ไปเลย จากคุณ : SkyTrekker เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 23:36:27

ความคิดเห็นที่ 18 ตามความเห็นห้าแหละครับ ประเทศที่กำลังพัฒนา ยังต้องใช้มาตรการนี้ แต่เมื่อพัฒนาไปได้ระดับนึง แล้ว มาตราการพวกนี้ ก็คงจะลดลงไปได้ จะว่าไป ภาษีเราก็ลดลงมาเรื่อยๆ หลายประเทศ รถยังแพงกว่าเราเนื่องจากภาษี่  อย่างประเทศเพื่อนบ้านเราทั้งพม่า  และสิงค์โปร จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 23:49:01

ความคิดเห็นที่ 19 ^ ^ แล้วเลิกคิดจะซื้อรถเลี่ยงภาษีหรือยังละครับ? จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 00:02:13

ความคิดเห็นที่ 20 http://www.chevrolet.com/cruze/build-your-own/ ลองเทียบราคาดูครับ ตัวถูกสุด 16275 เหรียญ ตีเป็นเงินไทยคูณ 35 เลย ราคาแค่  560625  บาท อันนี้คือราคาขายของเค้าที่รวมภาษีแล้ว ถ้าเทียบต้นทุนแล้ว แบบว่าไม่มีภาษีที่บ้านเค้า ราคาต้นทุนที่บ้านเรายังแพงกว่าเลย 560625+ภาษี 30% = 740512.5 รวม vat อีก 7% = 792348 ราคาต้นทุนเรายังแพงกว่าราคาขายเค้าอีก ที่มันแพงเพราะผู้ผลิตเค้าแจ้งราคาต้นทุนการผลิตไว้สูง หมายถึงกำไรมาก ไม่งั้นโรงงานผลิตรถในไทยจะโบนัสกัน 6 เดือนเหรอ ในต่างประเทศค่าแรงคนในโรงงานก็สูงกว่าบ้านเรา ตราบไดที่บ้านเราไม่มีรถที่เป็นของคนไทย ก็ใช้รถราคาแพงกว่าความเป็นจริงต่อไป จากคุณ : ตี๋แก้มป่อง เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 00:31:40

ความคิดเห็นที่ 21 ช่างเถอะครับ ซื้อครั้งเดียวใช้ไปนานหลายปี แพงหน่อยก็ช่างมัน จำเป็นต้องใช้แล้วนี่ครับ แต่ผมก็ภูมิใจที่ เดินไปตลาดซื้อกล้วยกินหวีละ 15 บาท ซื้อผลไม่กิน โลละ 30-40 บาท และซื้อกินทุกวัน ที่อเมริกา น้ำเปล่าขวด นึง ไม่รู้จะได้หรือเปล่า จากคุณ : กระท่อมชาวไร่ เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 00:52:56

ความคิดเห็นที่ 22 คิดหาภาษีแบบคคห 20  แบบนั้นมันไม่ถูกนะครับ ลองสังเกตุดีๆว่า  กรมภาษีของเราฉลาดมาก  เขาใช้คำว่าอัตราภาษี  และไม่ได้คิดภาษีแบบตรงๆ สำหรับอัตราร้อยละ 30  ผมเคยคิดตามสูตรของเขา เบ็ดเสร็จแล้วมันปาเข้าไป 45% โน้น จากคุณ : ton99 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 01:04:38

ความคิดเห็นที่ 23 น้ำมันที่นั้น ลิตรละ 100 กว่าบาทครับ จากคุณ : ohrin เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 02:17:22

ความคิดเห็นที่ 24 บ้านเรามีรถเป็นของตัวเองซะที่ไหน จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 02:21:22

ความคิดเห็นที่ 25 ผมเข้าใจในหลักเศรษฐศาสตร์ตาม คห.๕ และหลายๆ คห.อธิบาย ฉะนั้นคนเดินดินอย่างเราๆท่านๆ ต้องก้มหน้าจ่ายกันต่อไป ณ ตอนนี้ ภาษีรถยนต์เมืองไทยแพงกว่าประเทศอื่น ภาษีน้ำมันก็แพงกว่าหลายๆประเทศ แต่ทำไมถนนเมืองไทยห่วยกว่าประเทศเหล่านั้น เม็ดเงินที่จัดเก็บไปในอัตราที่สูงกว่า ก็ควรจะทำให้สาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ขนส่งมวลชน ทางเท้า และถนน ควรจะถูกพัฒนา และปรับปรุงให้ดีกว่าปัจจุบันนี้ ผมเชื่อว่า ถ้าเป็นแบบนั้นทุกคนก็ยินดีที่จ่ายภาษีกัน ก็จะไม่ออกมาบ่นแม้แต่น้อย ฟิ๊วววววว จากคุณ : cyber-ta เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 02:40:47

ความคิดเห็นที่ 26 คุณเลขสามตอบได้ดีมากครับ  อ่านแล้วเพลินเลย และจาก #16 ของคุณเลขสามนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์บ้านเราถึงยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ ไม่ยอมเกิดซักที เพราะโรงฯนิวเคลียร์โรงหนึ่ง กว่าจะวางแผนออกแบบก่อสร้าง เรียกว่าทั้งหมดทุกขั้นตอนนั้นถ้าลงมือจริงก็ไม่ทัน 4 ปี(1สมัย)   ถ้าสร้างเสร็จจริง ๆ หวยจะไปออกที่รัฐบาลชุดต่อไปซึ่งจะเป็นชุดของตัวเองหรือเปล่าไม่รู้   ถ้าเป็นก็ดีไป   แต่ถ้าเกิดอำนาจเปลี่ยนมือความดีความชอบก็จะกลายเป็นของรัฐบาลชุดต่อไปได้ ผมก็มองเหมือนกันว่าไม่มีนักการเมืองคนไหนจริงใจกับการบริหารประเทศซักคน  เอาแต่พวกพ้องของตัวเอง แต่อย่าไปว่าเค้าเลยครับ  พวกเค้าก็คือคนไทย  คนไทยรักพวกพ้องกันทุกคน  ใครเป็นพวกเราเราก็ต้องช่วยถึงแม้บางทีเค้าจะผิดก็ตาม   คุณว่าจริงไหม? อ่อ.. คุณเลขสามครับ  ตัวย่อ  ท. และ อ. ผมเดาได้ว่าเป็นใคร   แต่อีกสองท่านที่เหลือนี่ขยายความหน่อยได้ไหม?   ปล.เห็นลากเข้าการเมือง  แต่ยังไม่มีกองเชียร์กีฬาสีลงมาสนามนี้เลย   แสดงว่าคนเริ่มเข้าใจนิยามคำว่ารัฐบาลคืออะไร   ไม่ได้หมายถึงว่าเป็นใครแล้ว     ผมก็เลยโดดลงมาแจมนิดหน่อย แต่ถ้าเกิดคุณเลขสามเอาการเมืองมาแหย่ ๆ แล้วเกิดกองเชียร์กีฬาสีเข้ามาแปรขบวนผมก็คงไม่ลงมาเล่นเช่นกัน เบื่อกีฬาสีที่สุด จากคุณ : siLvan เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 04:59:49

ความคิดเห็นที่ 27 คห ที่ 23 คะ ที่อเมริกานี่แกลลอนละร้อยกว่าบาทค่ะ ไม่ใช่ลิตรละร้อยกว่าบาท ค่ะ วันนี้ดิฉันเพิ่งเติมมาแกลลอนละสามเหรียญกว่าค่ะ จากคุณ : เจ้ามะลิลา เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 06:27:26

ความคิดเห็นที่ 28 ราคาขนาดนี้ ยังเต็มถนน หากราคาขายหารสอง รถจะเพิ่มอีกเท่าไหร่ จากคุณ : พันละที เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 07:15:45

ความคิดเห็นที่ 29 คห 27 1 แกลลอน มี 4.546 ลิตร ตกลิตรละ 100/4.546 = 22 บาท อือ รถเค้าถูก น้ำมันเค้าก็ถูก  รายได้เค้าก็สูง ถนนเค้าก็ดี หันกลับมามองบ้านเรานิด น้ำมันเราโคตะระแพง รายได้ก็ต่ำ ถนนก็ห่วย มนุษย์เงินเดือนบางคนเห้นแล้วอนาถ ค่าน้ำมันปาไปร่วม 30% ของรายได้ แล้วจะอยู่ได้ยังไง ถ่าไม่พัฒนาระบบขนส่งให้ดีกว่านี้ ถนนมันเท่าเดิม แต่เป้ายอดขายของบริษัทรถมันสูงขึ้นทุกปีๆ ทำไม่ไม่จำกัดรถให้มันใช้ได้แค่ 5-7 ปีแล้วไปลดภาษีให้ราคาลดมันสมเหตสมผลกับรายได้ประชาชนเหมือนประเทศอื่นๆ บวกกับไปเร่งพัฒนาขนส่งมวลชน และกระตุ้นให้บริษัทห้างร้าน ศูนย์ราชการย้ายไปอยู่ทีตามเขตอื่นบ้าง โดยให้เงินช่วยเหลืออะไรก็ว่าไป จากคุณ : NAN_KUNG เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 07:41:41

ความคิดเห็นที่ 30 เห็นด้วยในความเห็นที่ ห้าของคุณ เลขสามนะ แต่ไม่ทั้งหมด ผมเห็นด้วยในส่วนของ..ภาษี ที่เรียกเก็บแพง ..สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย หรือสินค้าที่เป็นโทษ.. อาทิ เหล้า เบียร์ บุหรี่..(พวกนี้เป็นสิ่งเริงรมณ์ บริโภคก็ได้..ไม่บริโภคก็ไม่ตาย) แม้ในส่วนของภาษี รถ ..มันดุจะเหลื่อมล้ำ ในส่วนของผ้มีรายได้น้อยก็ตาม..แต่ เก็บแพงๆ ก็ถือว่า เหมาะสม..เพราะรถยิ่งเยอะ งบประมาณในการจัดสร้างถนนหนทางก็มากตาม.. แต่ในส่วนราคาน้ำมัน.. ผมว่า..ประเทศ เรา ..คนจน ยังเยอะกว่าคนรวยนะ..ทุกๆ บาท ที่เพิ่ม ขึ้น มีคนเดือดร้อนจากค่าน้ำมัน..มากมาย.. ประชาชนที่มีรายได้น้อย ในบ้านเรายังเยอะแยะ.. กรุงเทพ ไม่ใช่ประเทศไทย...ชนชั้นกลางแบบเราๆ ก็ไม่ใช่คนส่วนมากของประเทศ แน่นอน..ต่อให้ น้ำมัน ลิตร ละ ห้าสิบ ..ลิตรละ ร้อย..ผมเชื่อคนในห้องนี้ ก็มีมีปํญญาเติม. หรือ ยังไง ก็ ยังมีความสามารถหามาเติมได้.. แต่มีคนจำนวนไม่น้อย ของประเทศนี้..ที่รายได้ต่อวันของเค้า..ซื้อน้ำมันได้แค่ ไม่กี่ลิตร. และ น้ำมัน.. เป็นต้นทุน ของสินค้า..และค่าขนส่ง.. การเก็บภาษีราคาน้ำมัน ในราคาสูงๆ .มันไม่เพียงกระทบแค่ค่าน้ำมันเท่านั้น..แต่มันกระทบ ถึง..ปัจจัยต้นทุนสินค้า..จำนวนมากมาย.. ถ้ารัฐบาล ที่คิดว่า..ต้นทุนพลังงาน ไม่ควรถูก ต้องให้ น้ำมันแพงเพื่อคนจะได้ประหยัด..ประชาชน กว่าค่อนประเทศ คงเดือดร้อนกันหมด .. คงเปรียบเทียบ กับมาตรฐาน เงินเดือน กับ อเมริกา หรือชาติที่เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ไม่ได้ หร๊อก ฉะนั้น ถ้ารัฐยืนกราน จะ ใช้นโยบาย พลังงานราคาสูงเพื่อให้คนประหยัด.. ก็คงต้องพัฒนา..ระบบขนส่งมวลชนให้ครอบคลุม.. หรือ จัดหาพลังงาน..ทางเลือก ที่..มีราคาถูก มาเพื่อประชาชน ส่วนที่ยังก้าวไม่ทัน กับกระแสเศรษฐกิจ เหล่านี้ด้วย. จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 09:17:51 A:223.204.133.22 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 31 ส่วนเรื่องปริมาณ รถ ..กับ..อัคราภาษี รถยนต์ เนี่ยะ..จริงๆ มันเป็นเรื่อง ที่ วนเป็นลูกโซ่.. ภาษีแพง......รัฐก็ไม่อยากลดภาษี.. ไม่มีมาตรการควบคุม การออกมาของรถ..เพราะ รายได้เข้ารัฐเยอะ..แต่ลืมนึกไปว่า รถยิ่งมาก...งบคมนาคม ยิ่งงอกตาม.. แต่ถ้าอยากลด งบ คมนาคม....ก็ควบคุมปริมาณรถ ....เงินเข้ารัฐน้อย...รัฐไม่แฮ๊ปปี้.. เพราะจริงๆ ..ถ้าควบคุมระบบไฟแนนท์ ในไทยได้....ผมว่าปริมาณรถยนต์ ลดลงเกินกว่าครึ่ง.. แค่ว่า อนุญาตให้ผ่อนไม่เกิน สี่ปี และดาวน์ขั้นต่ำ 25%ก็พอแล้ว.. ถ้าทำได้.. เด็กจบใหม่..อาจจะต้องใช้เวลาสักนิด เพื่อเก็บเงินดาวน์ เป็นการส่งเสริมการออมไปในตัว ด้วย.. แต่ ก้ย้อนกลับมาที่....ควบคุมระบบไฟแนนท์ ไม่ได้ เพราะรายได้..รัฐจะลดลง.. มันก็วนๆ กัน เป็นงูกินหางแบบนี้.. ถ้าไม่กล้าฟัน..ก็แก้ยาก.. จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 09:33:24 A:223.204.133.22 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 32 ลองดูราคาที่ USA ครับ .......ส่วนอยู่ไทยเห็นขายอยู่ 5,500,000 บาท ครับ COUPE Starting @ 22,680 $ X 30 บาท = 680,400 บาท  อยู่ไทยซื้อ Optra 1.6 LS เกือบไม่ได้ CONVERTIBLE Starting @ 29,150 $ X 30 บาท = 874,500 บาท  ได้รถเปิดประทุนอย่างสวย ขับไปไหนสาวขอนั่งไปด้วยตรึม จากคุณ : sia cha เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 09:57:28

ความคิดเห็นที่ 33 CAMARO SS Price @ 32,570 $ X 30 บาท = 977,100 บาท V8 6.2 Liters 400 HP Engine  โอ้ววว...คงจะแรงน่าดู จากคุณ : sia cha เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 09:58:03

ความคิดเห็นที่ 34 เพราะบ้านเรา คนจน ใช้ของแพง คนรวย ใช้ของถูก จริงๆ นะ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 10:06:48

ความคิดเห็นที่ 35 เห็นแว๊บๆ จากหนังสือพิมพ์วันนี้เอง(หัวข้อคือ คนผลิตรถเค้าขอเวลาปรับตัวหน่อย เพราะรัด ถะ บาน จะปรับโครงสร้างภาษีรถที่ผลิตในประเทศ ) ดูเอาครับ ตอนนี้ภาษี(ผมก็ไม่รู้นะว่าอันนี้ภาษีหน้าโรงงานหละมั้ง,คงไม่เอา vat มารวม) จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 10:10:34

ความคิดเห็นที่ 36 ^ ^ และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมซื้อปิคอัพใช้ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 10:15:07

ความคิดเห็นที่ 37 คห. 29 คำนวนผิดครับ 1 US gallon = 3.78541178 litre ครับ จากคุณ : napatn เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 12:25:22

ความคิดเห็นที่ 38 ตามน้าพัด ครับ.. 1 us gallon มี 3.785 ลิตร.. จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 13:10:42 A:223.204.133.22 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 39 ที่ตารางเห็น 30 - 40% นี่ยังไม่หมดนะครับ เราต้องเสียภาษี 2 ต่อ ซึ่งรวมๆกันแล้ว ภาษีรถยนตร์นำเข้าจะกลายเป็น 200-300% ไม่ใช่แค่ 30-40% อย่างที่เห็น Bmw series 3 ที่เมกาขายอยู่ 8-9แสน มาพี่ไทย ป้ายแดงประมาณ 3ล้าน เห็นเพื่อผมที่ทำธุรกิจรถนำเข้า grey market บอกว่าภาษีรถนำเข้าของไทยสูงที่ 2 ของโลกไม่รู้จริงรึเปล่า จากคุณ : funfaith เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 13:30:46

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ funfaith ที่เห็น 30-40% เป็นอัตรา สำหรับ รถที่ผลิตประกอบในประเทศครับ.หรือที่ เรียก ว่า CKD ส่วนรถนำเข้า..ที่เรียก ว่า CBU ..โดน 200-300% แล้วแต่ประเภท ครับ.. แต่..บริษัทนำเข้า มีลูกเล่น ลูกล่อ ลูกชน เยอะครับ เสียมาจริงๆ น่าจะไม่ถึงหรอก จากคุณ : ~cupid~ เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 13:36:39 A:223.204.133.22 X: TicketID:230028

ความคิดเห็นที่ 41 บ้านเรารถแพง เพราะภาษี แต่ก็ต้องแพง เพราะบ้านเราไม่ได้มีรถเป็นสินค้าของตัวเอง   แต่ก็แพงไปนิด จากคุณ : puylogin เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 14:07:31

ความคิดเห็นที่ 42 ตารางใน คห. 35  เป็นเฉพาะ " อัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับรถยนต์ที่มีการผลิตในประเทศไทย " เท่านั้นนะ ถ้าเป็นรถยนต์ผลิตต่างประเทศ แล้วนำเข้ามาทั้งคัน ก่อนอื่นเลย จะโดนเก็บภาษีศุลกากร ณ จุดนำเข้า เช่น ท่าเรือแหลมฉบัง ก่อนครับ แล้วค่อยโดนภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ตามภาพนั้น โดยคำนวณจากฐาน ราคารถที่นำเข้า+ภาษีศุลกากร แล้ว อีกต่างหาก เค้าถึงพูดกันว่า ภาษีรถบ้านเรา เก็บซ้ำเก็บซ้อน   ผมเดาว่า  ถ้าเป็นรถนำเข้าทั้งคัน จะโดนภาษีซ้ำซ้อนกัน 3 ตลบ ( ( ( รถนำเข้า x ภาษีศุลกากร ) x ภาษีสรรพสามิต ) x VAT ) + กำไรคนนำเข้า  จึงเป็น ราคาขายรถหน้าศูนย์/โชว์รูม ครับ ปล. copy มาจากสูตรการคิดราคาน้ำมันหน้าปั๊มครับ จากคุณ : P_Wut เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 15:35:27

ความคิดเห็นที่ 43 ปีนี้จ่ายภาษีไป 90,000 กว่า รู้สึกเสียดายมาก ๆ กับการบริหารที่ย่ำแย่ไร้ทิศทาง จบนอกไม่ได้ฉลาดทุกคนหรอกนะ คนไทยโชคดีที่ได้ ............ จากคุณ : Freedom02 เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 16:25:55

ความคิดเห็นที่ 44 แล้ว ตปท. เขาเสียภาษีประจำปีรถกันเท่าไร??? จากคุณ : ไก่แก้ว สาริกา เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 17:13:57

ความคิดเห็นที่ 45 เดี๋ยวต้องไปถามพี่สาวอีกที เห็นเคยบอกลิตรละ ร้อยกว่าบาท ว่าหน่วยเป็นลิตร หรือ แกลลอน จากคุณ : ohrin เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 17:46:02

ความคิดเห็นที่ 46 ชักหน้ามาโปะหลัง ก็ยังงี้แหละ ฝนตกไม่ทั่วฟ้า ได้บ้างเสียบ้าง ก็ทำอะไรไม่ได้นี่ จากคุณ : โอไซริส เขียนเมื่อ : 19 ก.พ. 54 18:36:22

ความคิดเห็นที่ 47 ประเทศเรามันกำลังพัฒนาอยู่  ก็เลยต้องจ่ายแพง แต่อาหารการกินถูก เลือกเอา จากคุณ : SuperunknowN เขียนเมื่อ : 21 ก.พ. 54 08:37:03

ความคิดเห็นที่ 48  ความเห็นที่ 5 ... ถูกใจที่สุดคะ จากคุณ : Lamillabo เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 54 09:34:44