ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามารอ จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 09:43:13

ความคิดเห็นที่ 2 ปูสาดรอครับ จากคุณ : eping เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 09:44:06

ความคิดเห็นที่ 3 รออ่านอยู่นะครับบ พอดีสนใจ e39 อยู่ ต้องเก็บข้อมูล จากคุณ : T_Prdt เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 10:11:30

ความคิดเห็นที่ 4 อีกนิดก่อนเข้าเรื่อง หลายคนอาจจะสงสัย ทำไมผมไมไปเขียนในเว็บคลับของ BMW มาเกะกะตรงนี้ทำไม 1. บางเว็บคลับ เก็บเงิน ค่าเป็นสมาชิก ผมไม่เอาด้วย เลยไม่ได้เป็นสมาชิก 2. ไม่เป็นกลาง เพราะบางเว็บ เจ้าของเว็บเป็นเจ้าของอู่ และบางทีรับสปอนเซอร์มาเป็นร้านอะไหล่ หลายอย่างในนี้ผมเขียนราคาไปด้วย มันก็จะมีConflict ได้ เขียนไปก็คงมีปัญหา 3. เว็บ PANTIPมันกลาง ๆ แทบจะเรียกว่า เป็นกลุ่มคนที่เป็นตัวแทนของคนในประเทศ มีคนรู้เรื่องรถ BMW น้อยมาก ๆ ส่วนมาก เพิ่งหัดเล่น ฟังเขามา มีส่วนน้อยที่เป็นคนที่มาเล่นในนี้ แล้วรู้เรื่อง BMW สรุปว่ามีทุกกลุ่ม ผมหวังจะได้เห็นความเห็นหลากหลาย และกระจายความเห็นออกไปด้วย 4. อยากเขียน กลัวลืม เข้าเรื่องละ BMW 5-Series รหัส E39 เมื่อปี 1995 เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่ง ได้เข้าทำงานกับบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง ในอเมริกา ในปีนั้น มีการเปิดตัวรถรุ่นหนึ่ง ของBMW ซึ่งก็คือเจ้า E39 ตัวนี้พอดี สองเดือนหลังเปิดตัว เพื่อนผมตัดสินใจ ลาออกจาก บริษัทรถยนต์แห่งนั้น เพื่อไปสมัครงานกับ บริษัท BMW ในอเมริกา ผมสงสัยอดที่จะถามไม่ได้ว่า ทำไมต้องลาออกจากบริษัทใหญ่ ๆ ไปทำงานกับหน่วยงานเล็ก ๆ กับ BMW ตำแหน่งก็ไม่ได้ดีขึ้น เขาตอบว่า เพราะ E39 ทำไมล่ะ ? เพื่อนคนนั้นยิ้มๆ แล้วบอกกับผมว่า(ข้อความต่อไปนี้แปลจากภาษาอังกฤษ) E39 เป็นรถทีแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการผลิตรถยนต์ ของบริษัท BMW มากที่สุดรุ่นหนึ่ง และไม่มีรถรุ่นไหน ๆ ในขณะนั้น จะแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจนั้น และบริษัทที่จะทำแบบนั้นได้ ก็ต้องเล็งเห็นความสำคัญของพนักงานและองค์กรด้วย และนั่นทำให้ การทำงาน กับบริษัท BMW เป็นเรื่องน่าอถิรมย์ ที่สุด ตอนผมฟังครั้งแรก ผมว่า มันเวอร์ไปนิดนะ ผมไม่ได้คิดอะไรมาก จน BMW เปิดตัวรถรุ่นนี้ในเมืองไทย ปี 1997 ผมมีโอกาสได้ไปดูรถรุ่นนี้ในศูนย์บริการแห่งหนึ่ง แบบไม่ได้ตั้งใจ และก็ไม่ได้มีอะไรประทับใจมากเท่ากับคำพูดของเพื่อนผม และยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อแต่อย่างได แต่ไปออกเจ้า E36 Compact ราคาถูกเกือบที่สุดมาแทน ผ่านไป อีก 2ปีกว่า ๆ รถรุ่นนี้ออก Minor Change มา ผมกลับไปดูรถที่ศูนย์อีกครั้ง เพื่อให้เห็นกับตา และ ยังสงสัยถึงคำพูดของเพื่อนผมอีกครั้ง ว่ารถรุ่นนี้มันดีอย่างไร E39 นั้นเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 1995 ในยุโรป เป็นการออกตัวรถเพื่อทดแทนรถรุ่นเก่า E34 และเป็นการเปิดตัว เพื่อรองรับการมาของคู่แข่งอย่าง MB W210 การออกแบบรูปร่างหน้าตาของรถรุ่นนี้นั้นทำโดย Joji Nagashima (ออกแบบ E36 Z3 E90) คนญี่ปุ่น โตในญีปุ่น ไปออกแบบรถให้เยอรมัน และเขาก็ทำได้ดี เพราะรถที่เขาออกแบบนั้นเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกแทบทุกรุ่น จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 10:17:16 A:125.27.211.185 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 5 ปาด ........ แว๊บ บ บ บ ..... มารอฟังครับ ...... จากคุณ : ดร.จิม เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 10:33:10

ความคิดเห็นที่ 6 ถึงแม้ว่าการออกแบบจะให้รถมีทั้ง SEDAN และ TOURING แต่ที่ประกอบขายในไทยมีแค่ SEDAN เท่านั้น ตัว TOURING จะต้องนำเข้ามา ไม่ได้ประกอบขายในบ้านเรา ทำให้ราคาแพงกว่าตัว SEDAN อยู่มาก เครื่องยนต์ ที่มากับรถ BMW E39 นั้น แบ่งตามรหัสเครื่องยนต์ได้ดังนี้ -M47 หกสูบแถวเรียง 1991 cc 2171 cc(น้อยคันในเมืองไทย จำได้ว่า ไม่ได้เอามาขาย หรือ ประกอบในบ้านเรา) -M51S (ดีเซล) ไม่มีในไทย -M52 และ M52TU หกสูบแถวเรียง 2494 cc 2496 cc 2793 cc -M54 2979cc -M57 (ดีเซล) ไม่มีในไทยที่เป็น E39 -M62 และ M62TU แปดสูบวี 3493cc 4395cc (ไม่แน่ใจว่าเอาหัวตัดมาลง หรือเป็นรถเดิม ในไทยเอง) -S62 (M5) 4941cc จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 10:40:42 A:125.27.211.185 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 7 มารออ่านครับ จากคุณ : yutk (yutk) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 10:49:14

ความคิดเห็นที่ 8 พิมพ์นิยมที่พบเห็นในไทยมากที่สุด น่าจะเป็น M52 M52Tu ในตัว M52TU คือ ตัวที่เป็น VANOS ทั้งสองฝั่งแล้ว และเป็นตัวที่ผมบ้าจี้ไปกับเขา ซื้อมาใช้เหมือนกัน เพราะมันโม้ไว้เยอะเลยว่า ลดไอเสีย และเพิ่มอัตราเร่ง ลดการบริโภคเชื้อเพลิงได้ดีกว่าตัวเดิม ๆ M52 ยังมีรุ่น M52TUB24ด้วย(Minor Change) ก็แสดงว่าจะมีรุ่น M52TU ขนาด 2394cc ที่มีเฉพาะบางแห่งในโลกเท่านั้น ที่ไม่คำนึงถึงมาตรฐานไอเสียมากนัก.. -_-" ว่ากันตามเสปคเครื่องยนต์ สำหรับตัว 2.4 แรงม้า 135 kW (184 hp)ที่ 5800 รอบ และ แรงบิด 240 N·m (177 ft·lb) ที่ 3600 รอบสูงสุดไม่แดงที่6500 หากเป็นตัวเก่า M52TUB25 จะมีแรงม้า123 kW (170 hp) ที่ 5500รอบ และแรงบิด 245 N·m (181 ft·lb) ที่ 3500 น้อยกว่าB24 แต่ปล่อยไอเสียน้อยกว่าด้วยนะ เออ เอากับเขาสิ ตัวนี้คิดว่าไม่มีในไทย แต่จะมีเป็น M52B25 เฉย ๆ แรงม้าเท่ากันแต่แรงบิดจะช้ากว่าไปอยู่แถว ๆ 5500 รอบ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 10:52:27 A:125.27.211.185 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 9 ผมใช้ E34 อยู่ ยังอยากได้ E39 กับ E60 เลยครับ จากคุณ : therockmovie เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:03:00

ความคิดเห็นที่ 10 รอด้วยคนครับ จากคุณ : ktavee02 เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:12:20

ความคิดเห็นที่ 11 ผมชอบ E39 ครับ  ส่วน E60 ไม่ชอบ แต่ F10 นี่ชอบมาก ผมว่า F10 เหมาะที่จะมาสานต่อ E39 มากกว่า E60 เสียอีกครับ  เพราะเส้นสาย ลักษณะการออกแบบที่ดูเป็นเยอรมันมากกว่า รูปทรงที่ดูเหมือนจะได้รับการสานต่อจาก E39 ส่วน E60 ถามว่าสวยไหม สวยครับ แต่ดูเฉี่ยวไปหน่อย ไม่บึกบึนเหมือน E39 หรือ F10 ที่มีความเป็นเยอะมันมากกว่า อีกทั้ง รูปทรงออกแนวป่องๆไป จากคุณ : Hong_G เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:13:43

ความคิดเห็นที่ 12 ผมซื้อรถคันนี้มาสามเดือน ต้องเดือนทางไปต่างประเทศ 6 เดือน มันถูกจอดทิ้งไว้ ก่อนกลับมา เพื่อนผม ฝากของมาให้เป็นกล่องอะไหล่หนักประมาณ 1 กิโลกรัม เขียนโน๊ตสั้น ๆ ว่า ผมขอโทษแทน BMW เพราะรถรุ่นที่คุณซื้อจะมีการเรียกคืนเรื่อง VANOS เสียงดังในไม่ช้า ชิ้นส่วนเหล่านี้ เป็นของแทนคำเสียใจ แต่คุณต้องไปหาช่างใส่เอาเองที่เมืองไทย ซึ่งจะไม่มีการเรียกชิ้นส่วนเหล่านี้กลับมาแก้ไข เอาล่ะว้า รถยังไม่ทันใช้ จะมีปัญหาแล้วเหรอ นี่? ผมกลับมาเก็บอะไหล่กล่องนั้นไว้เฉย ๆ ถึง เกือบ ๆสามปี จนมีเสียงที่ว่าเกิดขึ้น และหาช่างทำให้ และก็ไม่ได้เจอปัญหานั้นอีกจนขายรถไปเมื่อสามปีให้หลัง อีกสองปีต่อมา เพื่อนคนเดิม โทรมาเล่าให้ฟังว่า GM แจ้งเรื่องวาลว์ของระบบเกียร์ A5S360R (รู้จักกันในนาม GM 5L50E)ที่อาจจะเสียก่อนวัยอันควร หากมีอาการเข้าเกียร์ได้แค่ 3 เกียร์ ขึ้นโค้ดในกล่องเกี่ยวกับ Solenoid valve ตัวไดตัวหนึ่ง พร้อมกับแนะนำการถ่ายน้ำมันเกียร์ มาด้วย ซึ่งในขณะนั้น อะไหล่ที่ว่ามาทุกชิ้น แพงมาก ไม่ว่าจะเป็น Valve น้ำมันเกียร์ และกรองเกียร์ ที่ควรจะเปลี่ยนพร้อมกัน โชคดีว่า ผมเองไม่เจอปัญหานั้น ตั้งแต่ซื้อรถ ถึงขายรถคันนั้นไป แต่สำหรับคนอื่น ๆ ก็คงต้องจ่ายกันหน่อย ซึ่งหากเป็นปัจจุบัน ปัญหานั้น แก้ได้ด้วยงบไม่เกิน 5000 บาท วาล์วตัวละ 1000 เสียตัวไหนเปลี่ยนตัวนั้น กรองเกียร์ 750 บาท ค่าน้ำมัน DEXRON III ตามแต่สะดวก ไม่เกิน 7 ลิตร แวะมาเรื่องน้ำมันเกียร์นิด เกียร์ที่ใช้กับ E39 นั้นมีหลายตัวมาก ๆ หลัก ๆ คือเกียร์ GM ที่จะ ใช้น้ำมันเกียร์ GM DEXRON III (GM เป็นคนกำหนดมาตรฐานนี้ขึ้นมา เพราะตัวเองผลิตเกียร์ด้วย) ยังไม่มี DEXRON VI เพราะ DEXRON VI นั้นออกมาเมื่อปี 2005 คิดเอาเองนะว่ารถที่ผลิตถึงปี 2003 จะไปบังคับใช้น้ำมันเกียร์มาตรฐานที่ออกมาในปี 2005ได้อย่างไร เพียงแต่ DEXRON III นั้น มีกลุ่มย่อย ๆ อีก ถึง -H ถ้าใช้ DEXRON III ทั่วๆ ไปกรุณาดูว่า รับรองโดย GM หรือ รับรองโดยบริษัทผู้ผลิตน้ำมันเองกันแน่ เพราะมันคนละเรื่องกันเลย น้ำมันเกียร์ผิด ก็ทำให้ผ้าคลัทช์ในเกียร์ หมดได้ กรองตันเร็ว เป็นปัญหาในชุด ACCUMULATOR อีก .... แต่หากคุณหาซื้อ Dexron VI ในราคาถูกได้ ก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะใช้ เพราะ เกียร์ของ GM จะสามารถใช้ Dexron VI ได้ หากเดิมใช้ DexronIII เรียกว่า ของใหม่แทนของเก่าได้ แต่ของเก่า แทนของใหม่ ไม่ได้ ย้ำว่าเฉพาะเกียร์ GM ใครขับ M5 เกียร์ของ Getrag ให้ดูรายละเอียดของมันต่างหาก ผมไม่มีข้อมูลละเอียดในมือ หากใครอยากรู้ว่า รถของท่านใช้เกียร์รุ่นได ให้นำ VIN ไปใส่ใน เว็บ realoem.com หรือ bmwfans.info แล้วเลือกดูหน้าเกียร์ (AUTOMATIC Transmission) จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:14:45 A:125.27.211.185 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 13 จะรออ่านจนจบนะครับ ส่วนตัวแล้วชอบ bmw รุ่นนี้มาก ขอบคุณ จขกท ด้วยนะครับ ขอเซฟไว้นะครับผม จากคุณ : SkyTrekker เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:23:26

ความคิดเห็นที่ 14 มิน่า ผมว่าทำไมทรง e90 มันดูต่างจากรถรุ่นอื่นที่ chris bangle ออกแบบจัง ที่แท้ก็คนละคนออกแบบนี่เอง ผมพึ่งทราบนะครับ จขกท รู้เรื่อง bmw ดีจริงๆ จากคุณ : SkyTrekker เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:33:20

ความคิดเห็นที่ 15 มาเก็บความรู้ครับ ขอบคุณ จขกท.ครับ จากคุณ : pdca เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:33:24

ความคิดเห็นที่ 16 ในต่างประเทศนั้น เกียร์ ธรรมดาของ E39มีให้เห็นในรถเกือบทุกรุ่น แต่สำหรับไทย ไม่เป็นที่นิยม เลยไม่มีการผลิตขายให้ได้ใช้กัน แฟน ๆ เกียร์ธรรมดาของ BMW ต้องไปหามาใส่กันเอง (ผมก็อยากนะ แต่หาไม่ได้) เกียร์อัตโนมัติของE39 นั้น เป็นระบบเกียร์ไฟฟ้า ที่เรียกว่า Hydramatic พัฒนาโดย GM'Cadilac และ Oldsmobile รู้อย่างนี้แล้ว คงหาทางออกเรื่องอะไหล่เกียร์กันได้บ้าง เพราะ Oldsmobile ก็คือ OPEL นั่นเอง อะไหล่หลายตัวสามารถไปหยิบยืมกับ OPEL ได้ และเกียร์รุ่นเดียวกันยังอยู่ในรถอีกหลาย ๆ รุ่น หลายยี่ห้อ เช่น RollRoyce Opel อะไหล่เกียร์เลยไม่น่าห่วงอีกต่อไป เพราะขายตั้งแต่รถแพง ๆ ยันรถถูก ๆเลย สิ่งที่น่าสนใจกับระบบเกียร์ไฟฟ้า ตัวนี้ นอกจากระบบ Manual แล้ว ยังมีส่วนที่เรียกว่า ADAPTIVE เกียร์Auto ทั่ว ๆ ไปนั้น จะถูกสั่งงานให้จับ Clutch และ เปลี่ยนเกียร์ ตามตำแหน่งรอบความเร็วที่กำหนดไว้ แต่ เกียร์ของ BMW นั้น มันเรียนรู้การขับขี่ของเจ้าของรถได้ ถ้าคุณได้รถมาใหม่ ๆ เกียร์จะถูกตั้งไว้ค่ากลาง ๆ แต่พอใช้ไปซักพัก เกียร์จะเรียนรู้จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสม และ Lock up clutch จะทำงานในจังหวะที่เหมาะสมด้วย อย่างไร ? สมมติว่า นาย ก ขับ E39 ในเมือง ตลอดเวลา ออกตัวรุนแรง เบรคแล้วจมรถหยุดกันไป รถจะเรียนรู้การขับขี่แบบนี้ โดยจะออกตัวด้วยเกียร์ 1 และลากเกียร์ 1-2 ยาว กว่าจะเข้าเกียร์ 3 ซึ่งอาจจะลากยาวไปถึง 70 km/h ก่อนจะเข้าเกียร์ 3 แต่ นาย ข ขับรถรุ่นเดียวกัน ไปต่างจังหวัด ค่อย ๆ ออกตัว วิ่งนิ่ง ๆ รถจะเข้าเกียร์ 5ให้ตั้งแต่ความเร็ว 60 km/h และlock clutch นิ่งไว้เลย ทำให้คนสองคนนี้ รับรู้การสิ้นเปลืองน้ำมันอย่างแตกต่างกัน นาย ข อาจจะได้ 15km/l นอกเมือง แต่นาย ก ได้แค่ 11 Km/l นอกเมือง ทั้ง ๆ ที่เป็นรถรุ่นเดียวกัน แต่หากนาย ข เอารถคันนี้ แวะไปในเมืองเมื่อไหร่ จะรู้สึกว่า รถ นั้นวิ่งอืดอาด ออกตัวช้ามากมาย เพราะ รถเข้าเกียร์ 3 ให้ตั้งแต่ 20 km/hr แล้วก็เป็นได้ ซึ่งหากไม่เข้าเมืองบ่อย ๆ ก็จะไม่มีการปรับค่าเหล่านี้ให้ นี่เป็นเหตุผลคร่าว ๆว่าทำไม บางคน ถึงใช้รถรุ่นนี้ มีอัตราสิ้นเปลือง อยู่ราว ๆ5 km/l ในเมือง และ 11km/l นอกเมือง ทั้ง ๆ ที่ spec และการทดสอบเคลมไว้ถึง 15 Km/l นอกเมือง ตัวผมเอง ไม่เคยเกิน 13km/l เลย ไม่เคยดีกว่านี้ ส่วนใหญ่อยู่แถว ๆ 11km/l นั่นแหละ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:34:44 A:125.27.211.185 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 17 ในหน้าปัทม์ ของ E39 นั้น จะมี การแสดงผลของ Board Computer รวมเข้าอยู่ด้วย เจ้า Board Computer นั้น จะเชื่อมต่อ ระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ ตั้งแต่การเปิดปิดล๊อกประตู ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ไฟส่องสว่าง ระบบเบรค เครื่องยนต์ ระบบกันขโมย นาวิเกชั่น ตำแหน่งพวงมาลัย เบาะไฟฟ้า กระจกข้างไฟฟ้า ซันรูฟ ABS ASC DSC ที่เกี่ยวกับการเบรค การทรงตัวขณะเลี้ยว การควบคุมอุณหภูมิ .. เป็นรุ่นแรก ๆ ที่รวม ทุกอย่างไว้ด้วยกัน และสร้างความซับซ้อนกับระบบไฟฟ้าเอามาก ๆ ซับซ้อนยังงัย ? สมมติว่า หลอดไฟหรี่รถขาด หรือ สายไฟหรี่ขาด รถจะรับรู้ได้ แจ้งเตือนคุณบนหน้าปัทม์ให้เช็กไฟหรี่ และ ตัวรถ จะเปิดไปเลี้ยวค้างไว้ แทนไฟหรี่ จะเกิดอะไรขึ้นหากคนไม่รู้เรื่อง ? ช่างบ้านนอก คงคิดว่า อ้า ไอ้นี่ ต่อไฟหรี่ผิด ดันไปต่อที่ไฟเลี้ยว ตัดต่อใหม่ก็คงหมดปัญหา...... ทีเหลือคงไม่ต้องเล่าต่อ นี่แค่เรื่องไฟหรี่ดวงเดียว ไม่ต้องนับไฟท้าย ไฟตัดหอก ไฟหน้า ไฟสูง ไฟเวลาดับเครื่องยนต์บิดกุญแจ ไฟในรถ..... อีกทั้งระบบกันลืมเปิดกระโปรงท้ายทิ้งไว้ ไฟดับเองได้อีก (ตัวรุ่นเก่า ๆ ต้องปิดสวิทช์ในกระโปรงท้ายหากอยากจะเปิดกระโปรงท้ายค้างแต่ไม่อยากให้ไฟเปิด) กระจกไฟฟ้า ที่ขึ้นลงได้ด้วย Remote กุญแจ ก็ด้วย มีมาตั้งแต่ 1995 แล้วเช่นกัน ระบบ IMMOBILIZER ของ E39 ก็จัดเป็นระบบไฟฟ้า ปราบเซียน อีกตัว ที่จะต้องระวัง เพราะ e39 เกิดในยุคเปลี่ยนแปลงระบบ ทำให้มี EWS ถึงสามรุ่น ใน body นี้ แค่รุ่นเดียว เวลามีปัญหาช่างก็ปวดหัวแล้ว รถ 15 ปีก่อน เป็นต้นแบบรถสมัยนี้ จริง ๆไม่เชื่อไปดู VW PASSAT CHEVROLET CRUZE หรือ NEW ALTIS หรือ จะเป็น FORD FIESTA หรือ จะ NISSAN TEANA MARCH ก็ได้ แทบจะถอดแบบระบบพวกนี้มาใช้เลย CAN เดียว คุมทั้งรถ ช่างจะซ่อมอะไรเกี่ยวกับไฟฟ้า ต้องรู้จัก CAN มากพอเลยล่ะ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:50:32 A:125.27.211.185 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 18 ช่วงล่างของ E39 นั้น แทบทุกชิ้น ทำจาก ALUMINUM ALLOY ซึ่งเป็นการลดน้ำหนักทั้งตัวรถเอง และ Unsprung Weight อีกด้วย หากใครเคยก้มดู E38 7-Series จะเห็นความคล้ายคลึงกันของ E39 และ E38 นั่นเป็นเพราะว่า ผู้ออกแบบรถได้เอา 7-series เป็นฐานในการออกแบบช่วงล่าง ให้ E39 ดังนั้น อะไหล่บางตัว สามารถหยิบยืมมาใช้กันระหว่างสองรุ่นนี้ได้ และ ก็อย่าแปลกใจ หากคุณขับ E39 แต่ให้ความรู้สึกเหมือน E38 นับเป็นความคุ้มค่าอีกอย่างสำหรับรถรุ่นนี้ ไม่เพียงชิ้นส่วนช่วงล่าง แต่ระบบบังคับเลี้ยว ก็ยังมีการใช้ ASC เข้ามาช่วยด้วย ทำให้คุณสามารถเข้าโค้ง หรือ ควบคุมรถ ในภาวะถนนเปียกลื่น หรือ เสี่ยงต่อการหมุน และไถล ได้ดีขึ้น เพราะ ASC/DSC จะอ่านข้อมูลการเคลื่อนที่ การเลี้ยว ของล้อ และ รอบเครื่องยนต์ แรงบิดเครื่อง เกียร์ มาประมวลผล เพื่อช่วยในการห้าม หรือ ออกแรงล้อ ได้เหมาะสมที่สุดด้วย ผมเอง ไม่เคยใช้หรอก ระบบนี้ อ่านมาเฉย ๆ รู้ไว้ว่ามี ขับช้า ๆเหมาะกับถนน ปลอดภัยที่สุด หลาย ๆ ท่าน ประสพปัญหา ASC/DSC ก็อย่าได้ตกใจ แก้เป็นจุด ๆ ไป เพราะ อย่างที่บอก มันอ่านข้อมูลแทบทุกอย่างเพื่อให้ Asc ทำงานให้ถูกต้อง ข้อมูลจากเซ็นเซอร์กว่า 30 ตัว ต้องถูกประเมิณผลทุก ๆ เศษเสี้ยววินาที แค่ ABS เซนเซอร์สกปรก ASC ก็มีการเตือนแล้ว ร้ายแรงที่สุดคือ ASC/DSC Module เสีย ก็มีคนซ่อมได้แล้ว พักเที่ยงครับ เดี๋ยวมาต่อใหม่ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 12:10:52 A:125.27.211.185 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 19 รอฟังต่อครับ จากคุณ : supat3925 เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 12:15:12

ความคิดเห็นที่ 20 ลงชื่อรออ่านต่อครับ จากคุณ : ซาตานกลับใจ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 13:11:02

ความคิดเห็นที่ 21 จากคุณ : Civic Mania เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 13:31:21

ความคิดเห็นที่ 22 ผมใช้E60 ประทับใจมากๆๆ  ทั้งอัตราเร่ง เกาะถนน เก็บเสียง จากคุณ : ORIGINAL.E.M. เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 14:21:17

ความคิดเห็นที่ 23 สิ่งที่ผมว่า ผมประทับใจกับช่วงล่างของรถรุ่นนี้มากที่สุดน่าจะเป้นวงเลี้ยว ตามสเปคนั้นเขียนว่า 11.1เมตร ใหญ่ไม่มากไปกว่า HONDA CIVIC ตาโตที่มีอยู่เท่าไหร่ และยิ่งเทียบกับ Hyundai Tiburon ก็นับว่าเล็กเลยทีเดียว สำหรับรถขนาดนี้ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะรถขับหลัง ส่วนใหญ่ วงเลี้ยวเล็ก ๆ เป็นทุนอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่นึกว่ารถขนาดนี้จะสามารถเลี้ยวกลับรถบนถนนสามเลนโดยไม่ต้องตีวงได้นี่แหละ * ข้ามไปนิด ใน E39 นั้นมีรุ่นพิเศษที่เรียกว่า Comfort Package ที่จะสังเกตได้ชัดตรงกระจกสองชั้น รุ่นนี้ หากใครเคยๆกับ W140 แล้วมานั่ง บอกได้เลยว่า ใกล้เคียงมาก ๆ กับความเงียบของภายในรถ หากแต่ความนุ่มนวลอาจจะด้อยกว่าอยู่บ้าง แต่คิดถึงค่าตัวที่ต่างกันมหาศาล มันก็เป็นตัวเลือกที่ไม่ด้อยกว่ากันเลยแม้แต่น้อย * โรคประจำตัวกับเครื่องยนต์ M52TU ที่สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ E39 ที่มีเลขไมล์เยอะ ๆ แล้ว คือเครื่องสั่น จริง ๆ แล้ว จะว่าไป รถเก่า ๆ เครื่องสั่น นั้น เป็นเกือบทุกยี่ห้อ แต่ สำหรับ M52 มีส่วนที่ต้องดูแลมากกว่ายี่ห้อ และรุ่นอื่น ๆ ตรง ที่เป็นวาล์วปล่อยแรงดันน้ำมันห้องแครงค์ (CCV) ซึ่งถ้าเป็นรถยี่ห้ออื่น ก็แค่วาล์วทางเดียว จากห้องแครงค์ไปปล่อยไว้แถว ๆ ฝาวาล์ว แต่ สำหรับ M52TU จะต้องเอา แรงดูด มาจากไอดี และมีวาล์วทางเดียวสองตัว ต่อวงจรกันไว้ ใครไม่เคยล้างวาล์วตัวนี้ แล้วมีปัญหาเครื่องสั่น ให้ตรวจสอบก็ดี เพราะผมเอง 1 แสนโลเจอพอดีเลย การล้างก็ไม่ยุ่งยาก แต่รื้อออกมาค่อนข้างเหนื่อยเอาการ เบาะหนังแท้ติดรถก็เป็นปัญหาเหมือนกัน เพราะหากโดนความชื้นบ่อย ๆ เบาะจะเปื่อย ลื่น แตก กลิ่นเหม็น ฟองน้ำยวบ ต้องไปหาหนังมาหุ้ม ฟองน้ำมาหนุนกันใหม่ ไม่เหมือนใน E46 ที่มีหนังเทียมให้เลือก ซึ่งจะมีอายุนานกว่า ทนน้ำและความร้อนได้ดีกว่า แต่ความนุ่มนวลอาจจะสู้หนังใหม่ ๆ ไม่ได้แค่นั้น วัสดุภายในคอนโซลลอก เป็นเรื่องที่เจ้าของ E39 ทุกท่านต้องหัดทำใจยอมรับ มีคนรับพ่นยางเคลือบวัสดุพวกนี้อยู่ ซึ่งก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เป็นยางสังเคราะห์เคลือบ แต่ถ้าใช้น้ำมันเคลือบทับบ่อย ๆ เดี๋ยวมันก็เสียอีก บางคนลอกทิ้งใส่ลายไม้ทับก็หมดปัญหาไป ของรถผมเองตรงเท้าแขนหัวเปิดมันก็ลอก ไม่ได้ทำอะไรกับมัน อะไหล่ช่วงล่างที่ผมหาถูก ๆ ไม่ได้ซะที คือโช๊ค ไม่ว่าจะหน้า หลัง คู่หนึ่งต้องมี 5 พันบาท (สมัยนั้นนะ) ตอนนี้ไม่รู้ราคาแล้วว่าไปถึงไหน ถูก หรือ แพงกขึ้นก็ไม่ทราบได้ แต่ที่ว่ามันแพงเพราะมันเป็น อลูมินัม แกนกลวงนั่นแหละ น้ำหนักเบา มาพร้อมราคาไม่เบา เซนเซอร์ที่ใกล้พื้น ใต้ท้องทุกตัว คือส่วนที่เจ้าของรถต้องรู้จักดูแลมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ พวกที่พารถไปล้างอัดฉีดบ่อย ๆ แล้วไปวิ่งคลุกฝุ่น คลุกโคลน หาก เซนเซอร์ล้อ หรือ เซนเซอร์เกียร์ สกปรก คุณจะเจอระบบเตือนมากมาย ตั้งแต่ ASC Transmission Fail Safe หรือ check brake line หรือ อะไรก็ตามที่มันต้องใช้เซนเซอร์ส่วนใต้ท้องรถทั้งหลาย และมันมักจะเป็นข้ออ้างการซ่อมที่ไร้เหตผล ไร้จรรยาบรรณของอู่ทั้งหลาย หากเจ้าของ ไม่มีความรู้เรื่องรถรุ่นนี้มากนัก 6 ปีกว่า ๆ ที่อยู่กับ E39 ผมเสียค่าบำรุงรักษาไปประมาณ 5 หมื่น ลูกปืนล้อ สวิทช์กระโปรงหน้า ซ่อมเบาะไฟฟ้า สวิทช์มันเสีย ฟิวส์ขาด เล็ก ๆ น้อย นับว่าไม่น่าเกลียดกับรถระดับสามล้านบาท แต่หากใช้มันต่อ ผมก็ไม่รู้จะเจออะไรอีก จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 14:29:20 A:125.27.211.185 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามารออ่านต่อ.. เครดิตภาพจาก  อากู๋ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 54 14:40:24 จากคุณ : ทำใจนิ่งๆ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 14:37:27

ความคิดเห็นที่ 25 แน่นอนว่า เครื่อง 6สูบนั้น จะต้องมีการดูแลรักษา หรือ ซ่อมบำรุงที่ยุ่งยากกว่า M43 แน่ ๆ แต่โชคดีกว่า M52นั้น ช่างไทยเล่นกันมานานพอที่จะรู้ทางเครื่องอย่างไม่ต้องกังวลมากนัก ส่วนที่ต้องระวังเพิ่มก็แค่พวกสายไฟ กับเซนเซอร์ต่าง ๆ ในห้องเครื่อง อย่าได้ไปทำร้ายมัน นอกนั้นไม่ว่าคุณจะเปิดฝาสูบ คว้านเสื้อ เปลี่ยนวาล์ว ถ่วงแครงค์ เปลี่ยนโซ่ ตั้งแคมไฮดรอลิก หรือ อะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับตัวเสื้อ ไม่ยากไปกว่ารถญี่ปุ่นในยุคนี้แน่นอน เพียงแต่ อะไหล่ต้องถูกเบอร์ ช่างต้องเข้าใจ ปี 2007 ผมตัดสินใจขาย E39 เพราะต้องใช้เงินก้อนนี้มาลงทุน แต่ผมก็ยังมี E46 E36 เก็บไว้ขับ แน่นอนว่า เครื่อง 4 สูบ แรงม้าน้อย ๆ คงไม่ได้เร้าใจเท่า E39 แต่มันก็ยังเป็นหนึ่งในตระกูล BMW สรุปว่า E39 ในมุมมองของผมนั้น เป็นรถที่ ล้ำสมัยตัวมันเองมานาน มีความน่าใช้ในการขับขี่ ไม่แพ้รถรุ่นใด ๆ ในราคาเท่า ๆ กัน และดีกว่ารถญี่ปุ่นในเวลานั้น มากมาย มีหลายคนบอกผมว่า ผมนี่ ท่าจะโง่นะ ซื้อ BMW ผมไม่ได้โกรธเขาหรอกนะ เพราะผมรู้แต่ว่า ผมชอบ ผมมีเงินซื้อได้ ไม่ต้องกู้ ไม่ต้องยืมใคร รถยี่ห้ออื่นผมก็มีใช้ รู้แล้ว ว่ามันเป็นอย่างไร ISUZU TFR ผมก็มี ยังเก็บไว้ใช้ส่งของ ถามว่า E39 จุกจิกกว่า TFR ไหม ? มันเทียบกันได้อย่างไร ? รถที่มี Sensorทั้งคัน เป็นร้อยตัว กับรถ ดีเซล ที่มีแค่เซนเซอร์วัดอุณหภูมิหม้อน้ำ ผมคงโชคดีที่ผมรักษารถเป็น หาที่ซื้ออะไหล่ได้ อะไรเสียก็ไม่ค่อยถูกมั่ว (เคยมาเยอะ) การได้ขับและเป็นเจ้าของ E39 ในเวลานั้น มันก็เหมือนเด็ก ๆ ได้กินไอศครีมที่อร่อยที่สุด ที่เข็นรถเข็นมาขาย พอโตมา ไม่มีขายแล้ว ความรู้สึกอยากกินก็ไม่มีอีกแล้ว ได้ทำสิ่งที่อยากตอนที่ทำได้ ดีกว่า อยาก ตอนที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว หรือ ไม่อยากทำแล้วแน่นอน ก่อนตายก็ไม่เสียดาย จบเท่านี้ดีกว่า ยินดีรับฟังความเห็น และ ขอตอบคำถามเฉพาะที่จะตอบได้ ขอบคุณที่อ่านจบ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 14:48:04 A:125.27.211.185 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 26 หนูอยากฟังเรื่องของ e90ด้วยค่า จากคุณ : I have a great mom เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 14:58:19

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณครับผม จากคุณ : f18hornet เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 15:36:00

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านแล้วได้ความรู้ขึ้นอีกเยอะเลย ขอบคุณครับ จากคุณ : เอกลาเต้ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 15:46:01

ความคิดเห็นที่ 29 ผมขาย e36 ไปเมื่อสิ้นปี เพราะมันเริ่มมีอายุเริ่มมากขึ้นแล้วมาใช้รถญี่ปุ่นใหม่ บอกได้เลยว่าคิดถึงอยู่เสมอครับ เมื่อมีโอกาสจะกลับมาใช้อีกแน่นนอน ยี่ห้อนี้ดูแลให้เป็นไม่จุกจิกอย่างที่คิดครับ จากคุณ : pv-zumo เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 15:46:46

ความคิดเห็นที่ 30 -เล่าๆ ต่อครับ....อยากฟังๆ....ชอบคุณ crayonz พูดถึงรถยุโรป...น่าฟัง... แต่ประมาณปี 1997 ผมว่า Opel Vectra b ก็สวยนา... อิอิ... จากคุณ : notans เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 15:48:29

ความคิดเห็นที่ 31 อ่านเรื่องราวของคนมีความสุขที่ได้ขับรถดีๆ น้อยคนที่จะเข้าถึงจุดนี้และมีกำลังพอจะจ่ายไหว รถที่น่าใช้ แต่ (อาจ) ไม่น่าซื้อ จากคุณ : Miami_Dolphin เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 15:55:56

ความคิดเห็นที่ 32 เจ๋งไปเลย ผมยิ่งอยากได้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฟังแบบนี้ถ้าเรารักษาและใช้เป็น มันก็ไม่น่ากลัวนะ แต่ก็นะคงไม่มีปัญญาอยู่ดี เพราะเราไม่ได้รักษามาตั้งแต่แรก ผมอยากได้ตัวปี 2004 ปีสุดท้ายที่เป็นตัว Sport ไทราบต่างจาก Comfort อะไรบ้างครับ จากคุณ : Impress_za เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 16:16:23

ความคิดเห็นที่ 33 สรุปคือ เป็นรถที่ดีเลยใช่ไหมครับ  เพื่อนเป็นวิศวะก็บอกว่า รุ่นนี้ Best of the best ของ BMW   ขอบคุณที่แบ่งปัน  เทียบกับรถใหญ่ค่ายญี่ปุ่น มันต่างกันไหมอ่ะครับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 54 17:36:44 จากคุณ : ต้อมMRP เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 17:35:12

ความคิดเห็นที่ 34 คนนี้ผมยกให้เป็นกูรูคนนึงด้าน bmw ประจำพันทิพย์เลยครับ ได้รับความรู้หลายอย่างจากคุณ crayonz ขอถามเกี่ยวกับเรื่องน้ำมันเกียร์สักหน่อยสิครับ ของผม e46 N42 เปลี่ยนไปเมื่อตอนประมาณ 73000 km ตอนที่เปลี่ยนผมให้ทางอู่เปลี่ยนพวกกรองเกียร์ด้วย ออกมาใช้น้ำมันไปประมาณ 6.5 ลิตร (Castrol 100,000 km) แต่บังเอิญไปอ่านเจอในเว็บ e46thailand เขาบอกว่าถ้าเปลี่ยนให้ถูกต้องจริงๆต้องมีเครื่องมือเฉพาะ เพื่อดันน้ำมันเก่าออกมาให้หมด ซึ่งจะใช้น้ำมันทั้งหมดประมาณ 8 ลิตร (ถ้าจำไม่ผิด) ไม่ทราบว่าคุณ crayonz มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 17:39:36

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับผม ได้ความรู้เยอะเลย จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 17:54:17 A:116.58.231.242 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 36 คห. 26 ผมเองเพิ่งได้ E90มาครอบครอง ไม่ถึงปี บอกเล่าอะไรยากครับ บอกได้แค่ข้อมูลในโบรชัวร์ คห. 30 Vectra ปีนั้น คนขายคนเดียวกับ Hyundai Tiburon จอดอยู่ในโชว์รูมเดียวกัน ผมคิดอยู่นาน ก่อนเลือก Tiburon แต่ Vectra ก็ยังสวยอยู่ครับ คห. 32 Sport กับ Comfort ต่างกันพวกอุปกรณ์ตกแต่ง ผมจำละเอียดไม่ได้ เพราะผมซื้อตัวถูกสุดในศูนย์ ไม่ใช่ทั้งสองรุ่นนั้นครับ ขออภัยตอบให้ไม่ได้ คห. 33 ครับ เป็นรถที่ดี Best of BMW หรือ ไม่นั้นผมว่า ยังไม่ใช่ เพราะ BMW ก็มีรถดี ๆ อีกเยอะ แต่ใช้เงินเยอะกว่า เทียบกับรถใหญ่ ญี่ปุ่น คงเทียบกับ Crown ในระบบขับเคลื่อน แต่ เรื่องการทรงตัว BMW ก็ยังกินขาด (ความเห็นส่วนตัว) รถขับหน้าอื่น ๆ ผมไม่ขอเทียบแล้วกัน ผมว่ามันคนละฟีล ผมชอบรถขับหลัง เวลาสะดุดตามพื้นถนนเมืองไทย แล้วรถไม่แถ นั่นแหละ ที่ผมชอบ รถญี่ปุ่นผมก็ซื้อมาแล้ว ACCORD G7 ขับได้สามปีก็ขายดีกว่า ใหญ่อย่างพวก Legend ผมก็คิดว่าไม่คุ้ม ยังงัยๆ วัสดุ การออกแบบ และ การทรงตัว ก็ยังสู้ E39 ไม่ได้ คห. 34 คนจะหมันไส้ผมเปล่า ๆ มีคนรู้มากกว่าผมอีก แต่เขาไม่ยอมมาพิมพ์ จริงไหมครับ ? E46 N42 ใช้เกียร์ลูกเดียวกันกับ M52TU ซึ่งเกียร์ตัวนี้ก็คือ เจ้า 5 speed steptronic Hydramatic ของ GM ที่เรียกว่า GM 5L50E รหัสของBMW ก็คือ A5S360R/390R 360 หรือ 390 คือตัวเลขบอกแรงบิด ไม่ว่าจะตัวไหน เกียร์รุ่นนี้ ผลิตมาตั้งแต่สมัย GM ยังใช้ DEXRON II เลย อะไรที่เป็นสังเคราะห์ก็ใช้ได้หมด(เน้นว่าน้ำมันเกียร์สังเคราะห์) เรื่องการถ่ายน้ำมันเกียร์ ตามคู่มือการ Service คือ ทำได้ตั้งแต่ 1 แสนกิโลเมตรแรก ถ่ายออกใช้น้ำมันเกียร์ ราว ๆ 5 ลิตร เปลี่ยนกรองเกียร์ ตรวจสภาพประเก็นอ่างที่เป็นโลหะ ถ้าไม่เสียหาย ใช้ต่อได้ ปิดก้นอ่างเป็นอันเสร็จ แต่ถ้าอยากให้สะอาดกว่านั้น ก็ทำได้ คือ ถอดชุดวาล์วบอดี้ออกมาล้าง ทำความสะอาด รุ่นนี้ทำง่าย เพราะวาล์วบอดี้แยกชุดไว้ให้ถอด มีสายไฟวาล์ว 5 คู่ ที่ต้องถอด วาล์ว 3 ตัวควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ วาล์ว 1 ตัวควบคุม Clutch ของ Torque converter และ วาล์วอีกตัวสำหรับ ควบคุมแรงดัน ถอดมาล้าง ไม่ยาก ตัวลูกปืนกลม ๆ อยู่ใน เวลาเปิดกล่องวาล์วก็ระวังมันร่วงหายด้วย ต่อด้วยการถอดสาย Oil Cooler ที่มีน้ำมันค้างประมาณ ลิตรกว่า ๆ ใน Oil Cooler และท่อ ตัวที่จะไม่ออกคือ Torque Converter บางคนใช้ไข แต่ผมแนะว่า ไม่ต้องไปยุ่งกับมันหรอก ถ้าคุณทำตามผมบอก คุณเหลือน้ำมันในTorque อีกแค่ 2 ลิตรกว่า น้ำมันใหม่ ๆ 7 ลิตร ไปละลายมัน กับกรองใหม่ๆ ล้างอ่างน้ำมันเกียร์ให้สะอาด แค่นี้ ก็เกินพอแล้วครับ พวกเครื่องมือ มันก็ดีครับ แต่พลาดขึ้นมาเกียร์พัง ร้านไม่รับผิดชอบหรอก หรือ รับผิดชอบก็จบไม่สวย เอาแค่คู่มือเขาทำก็พอ ตอนเติมน้ำมันเกียร์ให้เต็มอ่าง สตาร์ทรถ เข้า P แล้วเติมเพิ่มจนล้นรูเติม ไล่เกียร์ แล้วเติมซ้ำให้ได้ แค่นั้นเอง จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 18:17:08 A:101.108.166.55 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 37 ซูฮก ครับ วันหลัง ขอ E36 มั่งนะครับ ผมเคยได้ยินประโยคที่ว่า "E39 คือ Series-5 ที่ดีที่สุดเท่าที่ BMW เคยผลิตมา" จากคุณ : FyGI เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 19:45:51

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำ จากคุณ : นางฟ้าแก้มบุ๋ม (นางฟ้าแก้มบุ๋ม) เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 19:48:52

ความคิดเห็นที่ 39 รบกวนถาม จขกท หน่อยนะครับ ผมก็พึ่งทราบว่ามันมีแบบนี้ด้วย แบบนี้ สมมติว่า ผมไปซื้อ e39 มือสอง ของใครมาก็ตาม นิสัยของเกียร์ของรถรุ่นนี้มันจะเป็นแบบที่ เจ้าของเก่าใช้งานใช่มั้ยครับ แล้วแบบนี้เราสามารถรีเซ็ทใหม่ได้มั้ย จริงๆ อยากได้เกียร์ธรรมดามากกว่า พึ่งทราบว่า bmw รุ่นเก่าใช้เกียร์ของ gm ด้วยครับ นึกว่าใช้แต่ของ zf ซะอีก ขอบคุณครับ จากคุณ : SkyTrekker เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 20:06:35

ความคิดเห็นที่ 40 แต่ก่อนเคยได้มีโอกาสขับ E39  ตัว 530i อยู่ช่วงนึง รู้สึกว่าชอบมากมาย แต่ไม่มีปัญญาซื้อมาใช้ ^^ จากคุณ : Nokkao เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 20:13:42

ความคิดเห็นที่ 41 คห. 39 Hydramatic แบบที่มี Adaptive function นั้น จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาครับ แต่ต้องให้เวลามันหน่อย สำหรับรถที่เก่า ๆ แล้ว ผมได้รับคำแนะนำมาว่า ไม่ควรทำ Adaptation Value reset เพราะ การทำ reset กับเกียร์ที่มีอายุคลัทช์มาก ๆ นั้น เกียร์จะใช้เวลาในการเรียนรู้นานมาก ๆ และหากการขับขี่ไม่หลากหลายพอ เกียร์อาจจะไม่สามารถชดเชยคลัทช์ที่สึกหรอไปได้ ทำให้การขับขี่ไม่ราบเรียบเท่าที่ควร และอาจจะส่งผลเสียกับคลัทช์ด้วย เพราะ lock up clutch ไม่รู้จะจับตอนไหนดี ก็เลยอยู่ในช่วง Clutch learning ตลอด บริษัท ZF ผลิตเกียร์ให้ BMW มานานพอ ๆ กับ GM การเลือกใช้เกียร์ของ BMW นั้น ว่าจะมาจากบริษัทไหนนั้น เขาจะเลือกจากความเหมาะสมของเครื่องยนต์ ภูมิประเทศที่ขาย เป็นหลัก ในปัจจุบัน เกียร์ ZF จะมีบทบาทกับ BMW มากในเกียร์รถสปอร์ท เกียร์รถหรูหรารุ่นใหญ่ ๆ ของ BMW ครับ รถทั่ว ๆ ไปเช่น E90 ก็ยังใช้เกียร์จากทั้งสองบริษัท จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 21:02:39 A:101.108.166.55 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 42 คห. 37 E36 ยังมีอยากอ่านอีกเหรอครับ ? ผมไปสมัครเว็บ เขายังปิดรับสมัครแล้วเลยอะครับ คิดว่าคงอิ่มตัวกันแล้ว น่าจะรู้กันเยอะแล้ว ประโยค "E39 คือ Series-5 ที่ดีที่สุดเท่าที่ BMW เคยผลิตมา" ถ้าพูดก่อน E60ออกมา จริงแน่ ๆ ถ้าพูดก่อน F10 ออกมา ผมก็ยังเชื่อแต่ไม่ทั้งหมด แต่พอ F10 มา ผมก็ยังไม่ลอง แต่เห็นว่า F10 มีอะไรน่าสนใจมาก ๆ ตั้งแต่ระบบเกียร์ ระบบเครื่องยนต์ที่เคลมว่าประหยัดน้ำมันขึ้นมาก ๆ ถึง ร่วม ๆ 20% ในอัตราเร่งที่แสนเร้าใจ 8 เกียร์ ..... ขอหาข้อมูลมากกว่านีก่อนแล้วกันครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 21:24:38 A:101.108.166.55 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 43 แก้ไข ความเห็น 36 DEXRON III นะครับ ...ท่าน จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 21:28:07 A:101.108.166.55 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 44 เพิ่มอีกนิด กับคำตอบที่ี 36 การถ่ายน้ำมันเกียร์ออกนั้น คู่มือให้ทำที่อุณหภูมิปรกติ คือ จอดรถไว้แล้วจนเครื่องเย็นนั่นแหละครับ ไม่ควรทำตอนที่น้ำมันเกียร์ หรือ เสื้อเกียร์ร้อนอยู่ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 21:30:53 A:101.108.166.55 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 45 รอ E36 เหมือนกันครับ เพราะใช้ E36 323i เครื่อง M52B24 อยู่^^ (จริงๆอยากได้E39 แต่งบซ่อมบำรุงไม่ถึงเลยถอย) จากคุณ : Neon_Nerv เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 22:16:44

ความคิดเห็นที่ 46 ถามต่ออีกนิดนะครับ จริงๆ ผมชอบใช้เกียร์ manual มากกว่า auto นะครับ แม้จะมี tiptronics ให้เลือกเกียร์ได้แบบ manual แต่ผมชอบอารมณ์ขับตามใจตัวเองแบบเกียร์ธรรมดามากกว่า ที่จะถามคือ แล้วแบบนี้ มันจะพอหาเกียร์ manual จากเชียงกงของ e39 ได้มั้ยครับ ผมว่าถ้าเป็น ตปท. ญี่ปุ่น ยุโรป ก็ยังมีคนนิยมเกียร์ manual อยู่ไม่น้อยอ่ะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : SkyTrekker เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 22:35:11

ความคิดเห็นที่ 47 คห. 46 เกียร์ ธรรมดา สมัยนี้หาได้แล้วครับ แต่ก่อนผมหาไม่ได้ เพราะเซียงกงยังไม่มี ตัวเลือกเกียร์ ตอนนี้ 5-6 เกียร์ แล้วแต่จะหาเจอตัวไหน ใช้ไปหาไปก็ไม่เดือนร้อน ชิ้นส่วนต้องได้มาครบ ๆ 1. เกียร์ 2. แป้นคลัทช์ เบรค พร้อมหูยึดสมบูรณ์ ๆ สาย 3. คลัทช์ดีเลย์วาล์ว ปั๊มป์คลัทช์ (ผมเห็นมีคนแปลงเอาปั๊มรถกระบะมาใส่ มันก็แค่สร้างแรงดันครับ) ท่อส่งน้ำมันคลัทช์ทุกเส้น (อันนี้ก็อะไรก็ได้ส่งน้ำมันไปดันได้พอ) 4. เพลากลาง ตุ๊กตา ถ้าคุณทำให้เพลาของAUTO ยาวขึ้นได้ ก็ไม่ต้องหาใหม่ครับ 5. ส้อมคลัทช์ (เรียกแบบนี้รึเปล่านะ ?) 6. หัวเกียร์ ก้านเปลี่ยนเกียร์ ต้องครบ 7. ตัวกันความร้อนใต้กระปุกเกียร์ จะต้องเปลี่ยน ด้วย เพราะมันไม่เหมือนกัน 8. ตัวยึดเกียร์ กับตัวถังรถ 9. เฟืองท้ายเกียร์ธรรมดา 10. GT1 สำหรับบอกECU ให้รู้ว่า ไม่ใช่ EGS 11. ฟลายวีล (ตัวที่ต่อกับสตาร์ทเตอร์ ) ถ้าได้หัวตัด พร้อมเฟืองท้ายมาจะจบง่ายกว่า เพราะแค่ถอดแล้วย้ายมาใส่ โปรแกรมคอมใหม่ ราคาหัวตัดตอนนี้พร้อมเครื่อง 9xxxx บาท มาถึงที่แล้ว ผมว่า หลายคนอาจจะหาได้ถูกกว่านี้ด้วย เอาเครื่อง แก้ม กันชน ไฟหน้า กระจกบังลม คอนโซล กล่องต่าง ๆ เก๊ะ ที่วางแขน จิปาถะ ไปขายเป็นอะไหล่ต่อได้อีก เหลือค่าเกียร์ธรรมดา พร้อมกระปุกเกียร์สวย ๆ ไม่เกิน 1 หมื่นบาท ตัวผมเองก็วางแผนไว้เหมือนกันเรื่องเกียร์ธรรมดากับ E46 แต่ ตอนนี้มีคนอื่นมาร่วมขับบางครั้ง และเขาก็สำคัญมาก เลยไม่สามารถเปลี่ยนได้ หวังว่าคงสนุกนะครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 08:13:08 A:125.27.212.13 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 48 พอดีกล่องควบคุมไฟหน้าเสีย คือ ไฟสูงมันค้างเลยมาเปิดดูwab ไทยว่ามีใคร post วิธีแก้ไขไหม จึงผ่านมาเจอครับ แต่ใน wab ต่างประเทศมีวิธีการแก้ไขพร้อมราคาอาไหล่เรียบร้อยแล้วตรับ เลยพบว่าเมื่ออ่านแล้วให้ความรู้ดีกับ E39ครับ ผมใช้มาจนปัจุบัน 190,000 km.แล้วครับก็เริ่มมีเสียบ้างแต่ได้แพง MB W202 มากนั้นแต่ขับดีกว่ามาก ขับดีกว่า w210 ผมมี compact ก็ชอบมากเกาะถนนดี แต่งแล้วสวยมีหลายสำนัก แต่ส่วนตัวแต่ง M ดูดีนานที่สุดแล้วใช้สเปคโรงงานได้ ครับ ว่างๆเข้า wab ตอบกระทู้บ้างก็ดีครับแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันทั้งใน BMsociety หรือ e39 จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่ใช้รถ จากคุณ : phakorn เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 08:28:23 A:125.25.213.163 X: TicketID:316149

ความคิดเห็นที่ 49 เป็นกระทู้ที่ได้ความรู้มากๆค่ะ จากคุณ : Yuki เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 09:43:15 A:161.200.34.11 X: TicketID:037121

ความคิดเห็นที่ 50 -ผมชอบรุ่นนี้มาก  กะว่าจะซื้อมือสอง แต่รู้ตัวว่าคงดูแลไม่ไหว ระบบไฟ เซ็นเซอร์มันเยอะมากๆ  สุดท้ายซื้อรถญี่ปุ่นป้ายแดงดีกว่า   ขอบคุณครับที่มาreview  ถ้าถูกลอตเตอรรี่ จะหาE60มือสองมาใช้สักคันตามฝัน จากคุณ : niknot66 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 11:08:28

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีครับ จากคุณ : nk (naka_nk) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 14:34:04

ความคิดเห็นที่ 52 คห. 48 คิดว่าคงซ่อมได้แล้ว ? ความสวยคงแล้วแต่ความชอบ ชุดแต่งไหนก็ตามผู้ซื้อ ....ถ้าอ่านคห 4 ข้างต้นของผม คงไม่จำเป็นต้องชวนผมไปเข้าเว็บแล้วครับ คห. 50 ถ้ากลัว E39 เรื่องระบบไฟฟ้า ผมว่า E60 น่ากลัวกว่าเยอะครับ ความซับซ้อนของระบบไฟฟ้า กับรถสมัยนี้ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องให้เวลากับช่างในการเรียนรู้ E39 E46 E38 E36 Z3 ช่างเป็นกันเยอะมาก E60 E90(บางรุ่น) ต้องทำใจ ผู้ใหญ่ที่ผมรู้จักท่านหนึ่ง รถมีปัญหาระบบไฟ้ 7-Series start ไม่ติด พวงมาลัยก็ไม่ปลดล๊อก เข็นก็ไม่ได้ ศูนย์ยกคอมมาซ่อมให้ถึงบ้าน ยังซ่อมไม่ได้ ต้องทุลักทุเล ดัน ดึง เข็น ฉุดรถขึ้น flat bed กันเลยทีเดียว. จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 08:20:14 A:101.108.170.54 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 53 ขอรบกวนถามคุณ Crayonz หน่อยนะคะ 318I M-Technic E30 เกียร์ธรรมดา 5 speeds เครื่อง M40 1) ไฟถอยไม่ติด ตรวจดูฟิวส์ และหลอดก็ไม่ขาด ช่างบอกว่า ต้องรอยกเกียร์ แล้วค่อยแก้ไฟถอยทีเดียว บอกว่าสวิซท์ไฟถอยที่เสียอยู่ในห้องเกียร์ จริงไม๊คะ เราเองก็เลยต้องใช้รถโดยไม่มีไฟถอย แล้วจะแก้ปัญหาโดยติดไฟถอยต่างหาก จะทำยังไงดี ช่วยแนะนำด้วยค่ะ 2) มิเตอร์แสดงระยะทาง วิ่งบ้างไม่วิ่งบ้าง เลยกะระยะทางการใช้งานรถไม่ค่อยถูก ยังไม่ได้ถามช่าง ไม่ทราบว่าซ่อมยังไงคะ อย่างอื่นไม่มีอะไร รถติดแก็ส LPG หัวฉีด AG แล้วค่ะ สู้ค่าน้ำมันไม่ไหว แต่ลองเหยียบดูตอนวิ่งมอเตอร์เวย์ ท๊อปสปีดก็ยังได้ 190 แบบไม่ยากค่ะ เข็มไมล์แข็งประมาณ 3% ขอขอบคุณล่วงหน้านะคะ แล้วจะเปิดอ่านคำตอบเรื่อยๆ ค่ะ จากคุณ : DO THE BEST TODAY เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 20:57:48 A:183.89.91.115 X: TicketID:286693

ความคิดเห็นที่ 54 ข้อมูลดีมากครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : KOKISME เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 13:25:42

ความคิดเห็นที่ 55 Very fair review sir จากคุณ : เขียนบน iPhone (eka michigan) เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 20:08:42

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณ จขกท นะครับ จากคุณ : SkyTrekker เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:13:04

ความคิดเห็นที่ 57 คห. 53 1. ไฟถอย หาช่างซ่อมเกียร์ครับ เขาจะรู้ดีว่าตำแหน่งสวิทชย์ไฟถอย อยู่ข้างเกียร์ ไขออกได้เลย เรียกว่า เปลี่ยนช่างเถอะครับ แค่นี้ไม่รู้ ไม่ต้องซ่อมอะไรแล้ว มองไปซุ้มเกียร์ก็เห็นแล้ว ไม่ต้องยกเกียร์ลง อาจจะถอดแผ่นบังท่อไอเสีย แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร สวิทช์ก็ ซื้อไปรอได้เลยครับถ้ามั่นใจว่าเสีย 2.มิเตอร์แสดงระยะทางวิ่งบ้างไม่วิ่งบ้าง อาการนี้มันเป็นได้ ทั้งต้นสายหลังเครื่องต้นเกียร์ หรือ ส่วนที่เป็นหน้าปัทม์เอง หรือ อาจจะเป็นตัวสายเองก็ได้ E30รื้อไม่ยากครับ ถ้าทำเองไม่ได้ หาช่างครับ ช่างที่ไหนก็น่าจะทำให้ได้ ช่างแถวบ้านผมทำแต่รถกระบะซะส่วนใหญ่ ยังทำเป็นเลย ผมว่า คุณมีปัญหาเรื่องหาช่างทำรถแล้วล่ะครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 22:56:45 A:125.27.208.210 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 58 พอดีไปธุระเพิ่งกลับมาเปิดอ่าน สงสัยต้องหาช่างใหม่ ตอนนี้ก็ทนใช้ไปเพราะส่วนที่เสียไม่ได้จำเป็นอะไรนัก แต่ใจก็อยากทำให้ดีค่ะ ขอขอบคุณ คุณ Crayonz มากนะคะ ถ้ามีอะไรจะขอปรึกษาอีกค่ะ จากคุณ : DO THE BEST TODAY เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 16:49:20 A:125.25.131.180 X: TicketID:286693

ความคิดเห็นที่ 59 แก้ไขครับ เกียร์ที่ถูกต้องคือ 5L40E ครับ ไม่ใช่ 5L50E จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 21:52:55 A:125.27.208.210 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 60 คันต่อไปขอ E46 นะครับพี่ จากคุณ : aonly300 เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 54 22:17:31

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่่ช่วยแปะรูปครับ ทำให้กระทู้ดูมีสีสัน ขอไม่มาอ่านอันนี้แล้วนะครับ มีอะไรตั้งถามไว้หน้ากระทู้พันทิพ เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยตอบครับ จากคุณ : Crayonz เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 54 19:57:57 A:125.27.209.118 X: TicketID:158059

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณมาก จากคุณ : ayuhi292 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 11:05:14

ความคิดเห็นที่ 63 กำลงจะซื้อพรุ่งนี้เลยครับ ฮ่าฮ่าฮ่า จากคุณ : maxkungna เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 00:23:46

ความคิดเห็นที่ 64 ไม่ทราบว่า มีวิธีดู e39 มือสองไหมครับ คุณCrayonz จากคุณ : maxkungna เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 00:24:30