 |
ปัจจุบันอุปกรณ์จำพวกอิเลคทรอนิคสมองกลมีอยู่มากมายในรถยนต์ไม่ว่าค่ายจากฝั่งยุโรป หรือของญี่ปุ่น อุปกรณ์เหล่านี้แหละครับ ตัวปัญหาไม่เว้นแม้แต่รถราคาเกิน10ล้านขึ้นไป ต้องเจอกันทั้งนั้น แล้วของพวกนี้ซ่อมไม่ค่อยได้ ต้องเปลี่ยนบางทีเปลี่ยนแล้วก็ยังไม่หายจนแทบอยากทุบทิ้ง
ที่บ้านผมมีรถอยู่3คัน(W210,Chrysler Voyager Discovery1) ยุโรป2อเมริกา1 เมื่อก่อนเคยมี5(E34,E38)คันให้ญาติยืมไป1(E34)เอาไปสภาพเป็นรถ กลับมาสภาพเป็นเศษเหล็กอีกคันขายให้กับญาติอีกทาง(E38) สรุปที่เหลืออยู่3ครับ วิ่งได้ครับแต่ไม่เหมือนตอนถอยใหม่ๆ
W210 ใช้มา180,000 กว่าโล เมื่อกลางปีที่แล้วขับๆอยู่ก็มีอาการกระตุก เร่งไม่ขึ้น สั่นทั้งคัน ปล่อยแล้วดับ เข้าศูนย์ลุมพินี เช็คอาการช่างบอกว่าหัวเทียนมีปัญหาต้องเปลี่ยน ก็เปลี่ยนไป เอาออกมาก็ยังอาการเดิม ก็ไปคุยกับทางศูนย์ให้เช็คให้ละเอียดเค้าก็บอกว่า เกียร์พัง โอเวอร์ฮอลแสนกว่า
ผมก็เลยเอาไปให้อู่เกียร์แถวๆพระรามเก้า โอเวอร์ไป3หมื่นเฉียดๆ4หมื่น เอาออกมายังไม่หาย ก็กลับไปอีก หาไปหามาเกือบเดือนก็มารู้ว่าเป็นสมองกลเกียร์อีก เอาเข้าไปสุดท้ายก็เอาออกมาได้ไม่มีปัญหาอะไรวิ่งไปเหนือเมื่อต้นปีก็เอาไปเกือบตกเขา(ดีต้นไม้ใหญ่บังไว้) หน้าพัง ถุงลมไม่ทำงาน
แต่ที่รู้สึกดีกับเจ้าคันนี้คือมันยังคงวิ่งได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งๆที่ล่อชะแซสซีคดกลับวิ่งปล่อยมือได้ตรงไม่มีปัญหาขับมาจนถึงกรุงเทพก็เข้าอู่เช็คอะไหล่ที่ต้องใช้ รวมราคาแล้วแสนปลายๆ ซ่อมอยู่เกือบ6เดือน ซ่างประกอบสายไฟอย่างไรไม่รู้ทำสายไฟแอร์ซ๊อต ส่งผลทำให้จอแอร์พัง สอบถามราคาจอกับอู่ก็ราคาเหยีบแสนไม่รวมสายไฟอีกหมื่นกว่า(เซง)
ปัจจุบันรถคันนี้เอาออกมาขับได้ปกติ แต่แอร์ใช้ไม่ได้เท่านั้นเอง(ส่วนเรื่องจอแอร์ก็กำลังฟ้องร้องกับทางอู่อยู่ ทำจอแอร์ซ๊อตไม่พอ ยังทำซากหายอีก)
จากคุณ |
:
Pkawaree
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ก.ค. 54 01:08:35
|
|
|
|
 |