ความคิดเห็นที่ 1 อารายะ            ฟูจิ   ---------       -------- เบรกปีกผีเสื้อ      เบรกหมอบ จานหน้า3         จานหน้า2 ชุดขับMTB         ชุดขับหมอบ   ล้อ26              ล้อ700C ราคาอารายะไม่รู้  ฟูจิ24000 ก่อนหน้านี้มีตัวไม่R ถูกกว่าเยอะแต่เห็นว่าขายหมดแล้ว(นอกจากสีแล้วต่างกันไงไม่รู้) ฟูจิเร็วกว่า   อารายะปั่นสบายกว่าและเหมาะกับคนตัวเล็กมากกว่า ฟูจิติดได้เฉพาะตระแกรงท้าย  อารายะไม่รู้ เบรกปีกผีเสื้อเวลาโคลนเกาะติดยาง จะยังใช้งานได้ดีกว่าเบรกหมอบ อารายะมีมือเบรกเสริม(บางคันไม่ยักกะมี)  จับได้สองแบบถนัดๆ  เห็นว่ามีบังโคลนมาให้แล้วด้วยมั๊ง แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 22:29:28 จากคุณ : แมวเหมียวร่าเริง เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:28:56

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าจำไม่ผิด ARAYA ถูกกว่าเกือบหมื่่นครับ ติดตระแกรงหน้า-หลังได้ครับ บังโคลนพร้อม จากคุณ : CCHAIRATN เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:53:26

ความคิดเห็นที่ 3 ที่ว่ามือใหม่นี่ใหม่ขนาดไหนครับ 1 ไม่เคยขี่จักรยานมาก่อน 2 เคยขี่จักรยานแบบแม่บ้านหน้าปากซอย 3 ขี่จักรยานเสือภูเขาหรือเสือหมอบมาก่อน แต่เป็นมือใหม่สำหรับทัวริ่ง ----------------------------- ถ้าไม่เคยขี่จักรยานมาก่อนเลย และต้องการรถทัวริ่ง ต้องตอบคำถามตัวเองก่อนว่า ในรอบหนึ่งปี คิดว่าจะมีการขี่ทัวริ่งสักกี่วัน ถ้าคิดว่าจะขี่เกิน 20 วัน ก็ซื้อรถเพื่อการขี่ทัวริ่งแท้ๆ แต่ถ้าคิดว่า ไม่ถึง 20 วัน ใช้รถเสือภูเขา แฮนด์ตรงไปก่อน เพราะอะไร เพราะว่า การขี่ทัวริ่งในปัจุบัน คงเรียกว่าการขี่ทัวริ่งก็ยังคงเรียกได้ไม่สนิทใจนัก ส่วนมากจะเป็นการขี่จักรยานทางไกล ประมาณ 2-3 วัน อาจจะมีสัมภาระหรือมีรถเซอรวิสแบบนี้ใช้จักรยานเสือภูเขาก็ได้ เพราะมีความคล่องตัวสูงกว่า ทำความเร็วได้ดีกว่า ออกทริปกับเพื่อนๆกพอจะไปกับเพื่อนได้ทัน โดยธรรมชาติรถทัวริ่ง จะทำความเร็วได้ไม่ค่อยดี และหากเป็นล้อขนาด 700c รูปแบบการใช้เกล้ามเนื้อ ในการถีบลูกบันใดจะมีลักษณะหน่วงๆ ช้าๆ เพื่อสร้างแรงบิด การขี่แบบนี้ต้องมีการฝึกซ้อมพอสมควร ถ้าเป็นมือใหม่และต้องการขี่ทัวริ่งจริงๆ ควรเป็นล้อ 26 นิ้ว และควรดูที่จานหน้า และอัตราทด ของเกียร์ด้วย สำหรับมือใหท่อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะทำความเข้าใจแต่ถ้าตัวใจจริงก็ทำได้ ไม่ยากเกินไป ตามความเห็นของผม จากจักรยานทั้งสองรุ่น ARAYA ดีกว่า แต่ก็ไม่เหมาะสมในบางเรื่อง สำหรับมือใหม่ การใช้แฮนด์หมอบ อย่าว่าแต่มีสัมภาระเป็นกระเป๋าเลยครับ เอาแค่ขึ้นคร่อมรถแล้วถีบออกไปให้ได้นี่ก็ไม่ง่ายแล้วครับ หลายๆคนที่ผมรู้จักเป็นมือใหม่ต้องเปลี่ยนแฮนด์หมอบมาใช้แฮนด์ตรงสักระยะหนึ่งก่อน ในเมื่อร่างกายสร้างกล้ามเนื้อเพื่อรองรับการขี่จักรยานแล้ว ถึงเปลี่ยนมาเป็น แฮนด์หมอบหรือบางคนก็ใช้เป็นแฮนด์ตรงไปเลย จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 23:54:50

ความคิดเห็นที่ 4 ไหนๆก็เป็นเรื่องทัวริงแล้วขอตอบยาวๆหน่อยก็แล้วกันนะครับ เผื่อจะเป้นประโยชน์สำหรับท่านอื่นๆบ้าง เรามักจักเข้าใจว่า รถทัวริ่ง ต้องมีจานหน้าใหญ่ๆ 48 ฟัน 52 ฟัน หรือ ต้องใช้เฟืองหลัง เยอะๆ 11-36 แต่ในความเป็นจริงแล้วจานใหญ่หรือเฟืองอะไรไม่สำคัญ เพราะความสำคัญอยู่ที่อัตราทดของเกียร์หรีอความสัมพันธ์ระหว่าง จานหน้ากับเฟืองหลัง  ถ้าจานหน้า 48 เฟืองหลัง 11 บอกได้เลยครับว่า กดบันไดไม่ลงในทางเรียบ โอกาสที่จะใช้เกียร์ชุดนี้ ก็ต่อเมือรถลอยตัวมากๆๆๆ ในทางเรียบยาวๆ  หรือมีลมส่งท้าย หรือไหลลงเขาที่เราจะควงขาไปตามรอบบันได และถ้าเราขี่จักรยานทัวริงจริงๆ สมมุติว่าเราวางเส้นทาง กรุงเทพ - เชียงใหม่ เราคงใช้เกียร์ชุดนี้ได้ไม่เกิน 100 กม จากระยะทาง 700 กม และเมื่อเราใช้เกียร์ชุดนี้ เราก็ต้องเข้าใจ วิธีการกดลูกบันไดเพื่อสร้างแรงบิด เพื่อให้เราเดินทางด้วยการออกแรง ใน Aerobic Zone ด้วย เพราะถ้าเราไม่รักษาการออกแรงใน Zone นี้เอาไว้ เราขี่ไปไม่ถึงเขียงใหม่แน่นอนครับ เพราะเราจะมีกรดแลคติคเต็มตัว จนเราขี่จักรยานต่อไปไม่ไหว ตรงนี้คือข้อเสียของ ARAYA แต่ถ้านำมาใช้จริงๆถ้ากดบันไดไม่ไหวก็เปลี่ยนจานหน้าเพื่อทำให่อัตราทดเหมาะสม คือให้เบาขามากขึ้น เพื่อการทรงตัวที่ดี จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 00:06:58

ความคิดเห็นที่ 5 shifter เกียร์ หลายคนมักจะบอกว่า การขี่จักรยานทัวริ่ง จะเปลี่ยนเกียร์ไม่บ่อย ใช้แบบ สับถัง หรือ ปลายแฮนด์ก็ได้ อันนี้จริง แต่ไม่ทั้งหมด เพราะ 1 ถ้าเราขี่จักรยานทัวริ่ง ไปถึงที่หมายในแต่ละวัน เราอาจจะต้องไปตลาด ไปหาร้านอาหาร ไปหาที่พัก ซึ่งอาจะต้องเดินทางผ่านตัวเมือง ผ่านสภาพการจราจรที่หนาแน่นบ้าง ลองจินตนาการว่าเรามีรถทัวริ่งสับถังหรือปลายแฮนด์ ที่แบกน้ำหนักบนรถประมาณ 30 กก ขี่ผ่ากลางเมืองเชียงใหม่ ผ่านไนท์บาร์ซาร์ แล้วจะทุลักทุเลขนาดไหน นักจักรยานทัวริ่ง อาจจะทำได้ เมื่อมีประสบการณ์มากพอ แต่เป็นไปไม่ได้สำหรับมือใหม่ 2 การขึ้นเขาหรือเนินชัน การเปลี่ยนเกียร์ที่ฉับไว ช่วยให้การเดินทางขึ้นเนิน ทำได้ง่ายขึ้น ในประเทศไทย โดยเฉพาะเส้นทางทางภาคเหนือ บางครั้งเราอาจจะต้องเปลี่ยนเกียร์กลางเนิน หรือเราอาจจะต้องจอดพักกลางเนิน สับถังกับปลายแฮนด์ทไงนได้ไม่สะดวกนักและไม่น่าจะทำได้สำหรับมือใหม่ หรือแม้แต่มือเก่าที่ยังไม่ทราบวิธีการจอดกลางเนินเพื่อพัดเอาแรงแล้วเริ่มขี่ต่อไปใหม่ก็อาจจะทุลักทุเลพอสมควร จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 00:15:10

ความคิดเห็นที่ 6 แฮนด์หมอบ หรือแฮนด์ตรง อันนี้แล้วแต่ความถนัดและเทคนิคการขี่ทัวริ่งของต่ละคน หลายท่านมีความเห็นว่าการขี่ทัวริ่ง ใช้แฮนด์หมอบ มีประโยชน์ เพราะมีจุดจับมากกว่า ใช้พักมือเพื่อเปลี่ยนอิริยาบท และก้มหลบลมแรงๆได้ แต่ในอีกมุมหนึ่งของการขี่จักรยานทัวริ่งก็คือ นักทัวริ่ง จะไม่ขี่แบบกดดันตัวเอง ไม่ขี่แบบเอาเป็นเอาตาย จะค่อยขี่ไปเรื่อยๆ หน่วงๆ ช้า และมีการหยุดพักเป็นระยะๆ ถ้าในการเดินทาง 1 วัน ระยะทาง 120 กม นักทัวริ่งอาจจะวางแผนการขี่แบบ 50/5 (25 กม) คือพัก 5 นาทีทุกๆ การขี่ 50 นาที หรือ 25 กม แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน การขี่ทัวริ่งที่เหมาะสมมักจะใช้ระยะเวลามากำหนดเวลาหยุดพักมากกว่าระยะทางเพราะเส้นทางอาจจะมีขึ้นมีลง มีเนินมีเขา บางครั้งระยะทาง 10 กม อาจจะต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมง เมื่อนักทัวริ่ง มีเวลาพักบ่อยๆ อาการเมื่อยล้า จากการจับแฮนด์ก็จะไม่มาก เพราะการขี่ทั่วริ่งที่ดีและได้ผลคือ ดื่มก่อนกระหาย กินอาหารก่อนจะหิว หยุดก่อนมือชา พักก่อนเจ็บตรูด เอนหลังหลับทันทีเมื่อโอกาสอำนวย แล้วทำไมรถทัวริ่งถึงมีแต่แฮนด์หมอบ ตอบว่า ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าจะเดา ก็ขอเดาว่า รถทัวริ่งในสมัยโบราณนั้นไม่มี จักรยานมีอยู่สองประเภท คือ รถแบบเสือหมอบแบบที่ใช้แข่งขัน และจักรยานบรรทุกของ เป็นแฮนด์โค้งๆบาง มนๆบ้าง เมื่อมีการนำจักรยานมาใช้ท่องเที่ยวเดินทางไกล รถจักรยานทัวริ่งยุคนั้นจะใช้แฮนด์หมอบ เนื่องจากองศาการขี่จะทำให้เดินทางได้เร็วและประหยัดแรง มากกว่า จักรยานแบบบรรทุกของ ต่อมาเมื่อมีการทำรถ MTB แบบแฮนด์ตรงขึ้นมา รถทัวริ่งก็มีการใช้แฮนด์ตรงเหมือนกัน แต่แฮนด์หมอบมักจะเป็นอุปกรณ์ มาตราฐานที่ติดมากับรถเสมอ นักทั่วริ่งเดินทางรอบโลกหลายๆคน ก็ไม่ได้ใช้แฮนด์หมอบ แต่ใช้แฮนด์ตรง  (ไม่มีทฤษฎีอะไรเดาเอาล้วนๆ) จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 00:34:42

ความคิดเห็นที่ 7 อลูมีเนียม หรือ โครโมลี วัสดุสองชนิด ใช้ทำรถทั่วริ่งได้ทั้งนั้น แต่ความแตกต่างของวัสดุ ที่แตกต่างกันอยู่ที่ความยือดหยุ่นของตัวรถ อลูมิเนียม เมื่อใช้ทำรถทัวริ่ง เมื่อมีแรงสั่นสะเทือนจะสะเทือนไปทั้งคัน แต่ถ้าเป็นโครโมลีจะสะเทือนเป็นส่วนๆมีการกระจายแรงที่ดีกว่า ถ้าเป็นทัวริ่งระยะทางไม่ไกลมาก หรือ ระยะเวลาสั้นๆ 3-4 วัน วัสดุทั้งสองจะไม่แตกต่างกันมากในเรื่องของการสั่นสะเทือน การรับแรงสั่นสะเทือน บางท่านอาจจะบอกว่าอลูมิเนียมมีหลายเกรด ถ้าเกรดดีๆก็ซับแรงสะเทือนได้ดี ซึ่งหากการใช้งานในสภาพภูมิประเทศจริงแล้วถึงจะเป็นสุดยอดอลูมิเนียมก็ยังสะเทิอนสะท้ายอยู่ดี ส่วนโครโมลีก็สะเทือนเช่นกัน แต่การสะเทือนจะแตกต่างกับอลูมิเนียม การสะเทือนของโครโมลี จะมีอาการยวบยาบ ที่เรามักเรียกกันว่าการให้ตัว คือเมื่อ มีแรงสะเทือนที่ตะเกียบ ตะเกียบจะยุบตัวและถ่ายแรงออกไปตามเฟรมรถ ซึ่งก็รู้สึกได้ถึงความสะเทือนเหมือนกัน นำหนักของวัสดุสองชนิดแตกต่างกัน รถทัวริ่ง น้ำหนักที่มากของรถ ไม่ใช่ปัญหา เพราะชิ้นส่วนบางชิ้นของรถจักรยานไม่จำเป็นต้องเบา แต่จำเป้นต้องหนัก เพื่อให้เกิดแรงเฉื่อย เหมือนการที่เราออกแรงขว้างลูกปิงปองกับลูกกอล์ฟ ขว้างลูกกอล์ฟ จะไปได้ไกลกว่า เมื่อเมื่อใช้แรงเท่าๆกัน แต่เมื่อมีการผลิดรถโครโมลี ที่มีคุณภาพสูงขึ้น นั่นคือความพยายวามในการลดน้ำหนักของเฟรม แต่ยังคงความแข็งแรงมั่นคงเอาไว้ เพราะเมื่อประกอบเป็นรถทั่วริ่งขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าเฟรมจะเบาอย่างไร แต่น้ำหนักรวมก็ยังคงหนักมากอยู่ดี ทัวริ่งแบบ full load บางครั้ง น้ำหนักรวมของรถกับสัมภาระอาจจะถึง 50 กก การลดน้ำหนักของ เฟรม จึงไม่ค่อยมีผลมากนัก อลูมิเนียมเมื่อนำมาใช้เป็นรถทัวริ่ง ผลการขี่ก็ไม่แตกต่างไปจากโครโมลี จนเป็นที่สังเกตมากนัก การออกตัวในกรณีรถเปล่า อลูฯ อาจจะทำได้ดี แต่ถ้าน้ำหนัก 50 กก ก็ไม่แตกต่างกันเลย แรงขาตัวเองล้วนๆ เรามักจะได้ยินว่า โครโมลี ช่วงปลายจะไหล กว่าอลูฯ อันนี้จริง ในกรณ๊ที่เป็นรถเปล่า ไม่แบกน้ำหนัก แต่ถ้าแลกน้ำหนัก อลูฯก็ไม่ด้อยน้อยค่าอะไรนัก ใช้ได้เหมือนกัน ขอให้มีรถจักรยานขี่เถอะน่ะ ไปได้หมดทุกที่แม้ไม่มีถนน จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 00:53:30

ความคิดเห็นที่ 8 รถโครโมลีมีปัญหาเรื่องสนิมจริงหรือ   จริง มันเป็นสนิมจริงๆ เป็นได้ง่ายๆเสียด้วย แต่มันก็ไม่พังง่ายๆ Gary Fisher Zebrano คันนี้ อายุมากกว่า 20 ปี เดินทางมามากมาย ผ่านภูเขา ผ่านทะเล และน้ำท่วม มันก้เป็นสนิมตามการใช้งาน แต่มันก็ไม่พัง มันก็ยังมาเป็นรถทัวริ่งได้ แม้ว่ามันจะเป็นรถเสือภูเขา จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 01:06:33

ความคิดเห็นที่ 9 จขกท คงต้องตอบตัวเองก่อนครับ ว่า ต้องการซื้อรถทัวริ่ง หรือซื้อรถเพื่อขี่ทัวริ่ง สองอย่างนี้แตกต่างกันครับ ถ้าซื้อเพราะชอบเพราะมันเป็นรถทัวริง มันสวย มันเก๋ มีตังค์ก็ซื้อเลย แต่ถ้าซื้อเพื่อใช้งานขี่ทัวริง ต้องพิจารณาหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะถ้าเป็นมือใหม่ ไม่อย่างนั้นเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ แต่ถ้ามีเงินเหลือเฟือก็ซื้อไปเลยครับ ยี่ห้ออะไรก้ได้ ARAYA ดูเหมือนของจะหมดแล้ว กว่าจะเข้ามาอีกก็อีก 2-3 เดือน ส่วนฟูจิ ไม่ทราบครับ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 01:23:22

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ^ สุดยอดครับ เห็นตอนไปกาญฯ แล้วเจอทางเละที่ปั่นไม่ได้จนต้องแบกจักรยานเดิน (รวมน้ำหนักสัมภาระในกระเป๋าอีก) เป็นผมเจอถนนแบบนี้ คงถอดใจปั่นกลับ อ้อมไปทางอื่นแล้ว ไม่ทราบว่า นอกจากเหตุการณ์เฉพาะหน้าแบบนี้แล้ว มีครั้งไหนที่ต้อง service รถหนัก ๆ ระหว่างทางหรือเปล่าครับ จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 05:05:13 A:171.7.246.202 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับคุณ q_cosmo ทุกเรื่อง พี่ในกลุ่มปั่นมาเป็นสิบปี ทั้งเสือภูเขาและ ฟูลซัส พอเกษียณไปซื้อ surly LTH มาปั่น แกบอกเลยว่าปั่นไม่สนุกเลย เร่งไม่ ขึ้น มันไปเรื่อยๆ ควบคุมรถยาก เพราะ chainstay ที่ยาวเพื่อให้แขวนกระเป๋า หลังได้ เวลาปั่นจะได้ไม่เตะ ต้องมาปรับอยู่พักใหญ่ แต่ก็ยังไม่พอใจ ผมเองเอา trek 4300 เป็นเสือภูเขาธรรมดามาปรับแต่งเป็น touring ปั่นเล่นปกติ ถอดตะแกรงออก พอจะไปทัวร์ค่อยใส่เต็มที่ เวลาออกทริปไปได้ทั่วเหมือนกัน ครับ จากคุณ : แพะเมืองหงส์ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 08:04:15

ความคิดเห็นที่ 12 Araya ดีกว่า มีบังโคลน จากคุณ : nranee เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 08:52:15

ความคิดเห็นที่ 13 ทั้งสองคัน เป็นทัวริ่ง แฮนด์ หมอบ เกียร์ สับถังทั้งคู่ ราคาต่ากัน ประมาณ 10,000 บาท ล้อ 26 กับ 700C ซึ่งจริงๆ แล้วเวลาปั่นไม่ได้แตกต่างกัน ARAYA มาพร้อมบังโคลนหน้า/หลังเลยครับ... แต่ตัว FUJI น่าจะใส่บังโคลนลำบาก เพราะท่อนั่งกับล้อหลังติดกันมาก... ดูแล้วไม่น่าเป็นเฟรมทัวริ่ง... FUJI สีขาวสวยมากเลย... ชอบ.. แต่การจะใช้รถหมอบสับถังต้องคิดดีๆ ครับ เพราะการเปลี่ยนเกียร์ที่ติดอยู่กับเฟรม (สับถัง) เป็นปัญหาสำหรับมือใหม่เหมือนกัน... โดยเฉพาะในที่คับขัน เพราะต้องละมือจากเบรคและแฮนด์ มาเปลี่ยนเกียร์... เพราะผมเองเวลาเอาหมอบสับถังออกปั่นไม่เคยเข้าไปปั่นในที่จอแจ.. เพราะเวลาจะเข้าเมือง ก็จะเอารถพับไป พับขึ้นรถไฟ แบกขึ้น BTS แล้วปั่นต่อใกล้ๆ จากคุณ : pakakaew เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 08:54:24

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะค่ะ ปกติจะปั่นรถพับ รึจักรยานแม่บ้านทั่วไป ชอบปั่นรถเล่นบริเวณใกล้บ้านระยะทางใกล้ พอดีเพื่อนๆที่รู้จักกันชวนปั่นไปเที่ยวต่างจังหวัดบ่อยๆ(ทริป2-3วัน) เลยเริ่มสนใจอยากจะปั่นบ้าง   ทริปที่ไปบ่อยๆจะขับทางเรียบ เนินบางเล็กน้อยซึ่งรถทั้งสองคันน่าจะไม่แตกต่างกันมาก สรุปน่าจะซื้อ araya ดีกว่าใช่มั้ยค่ะ(ถูกกว่าหนึ่งหมื่น)? หรือถ้าพี่ๆมีจักรยานแบบอื่นแนะนำมั้ยค่ะ (ส่วนตัวชอบเสือหมอบวิจเทจหน่อยๆอ่ะค่ะ)                                                  ขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 55 09:26:21 แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 55 09:25:29 จากคุณ : M major เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 09:24:18

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าขี่ไปเที่ยวต่างจังหวัด 2-3 วัน จริงๆแล้วใช้รถอะไรก็ได้ ตามที่ตอบไป แต่ถ้าชอบแนวเสือหมอบ Vintage ควรจะเป็น Araya และถ้าชอบแนว Vintage แล้ว คงไม่มีคำแนะนำอื่นๆ เพราะ จขกท ก็มีคำตอบในใจอยู่แล้ว ที่เลือกรถ ส่วน performance ที่รถจะให้เราได้ ก็ตามที่บอกนั่นแหละครับ ขี่เล่นเก๋ๆก็พอได้ ปีหนึ่งขี่ทั่วริ่ง สัก สองทริป ทริปละ 3 วัน ไปถ่ายรูปเล่น พาลิโอ เขาใหญ่ หรือไปสวนผึ้งถ่ายรูปในฟาร์แกะ พร้อมๆกับจักรยานแสนสวย น่ารักๆ  ก็ซื้อได้เลยครับ เสือหมอบทั่วริ่งแบบ Vintage ผมก็มี เป็น Miyata Califonia สวยคลาสสิคมากๆ แต่ไม่ได้ขี่เลยครับ ขี่ไม่ไหว กดบันไดไม่ลง ตอนนี้จอดหยากไย่ขึ้นหมดแล้ว นานๆก็เอามาขัดถูๆแล้วไปขี่เล่น นิดหน่อย แล้วกลับมาบ้านปวดเมื่อยไปทั้งตัว ^^ จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 09:43:13

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณค้าาาาาา  สงสัยจะได้เป็น Araya federal แล้วค่ะ แต่รบกวนอีกนิดนึงนะค่ะซื้อร้านไหนได้บ้างค่ะ หรือต้องสั่งไว้ก่อนไม่รู้ว่าที่ร้านเค้ามีของรึป่าวค่ะ                              ขอบคุณค้าาาาาา จากคุณ : M major เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 10:03:54

ความคิดเห็นที่ 17 แหล่งซื้อก็หลังไมค์มาก็แล้วกันครับ แต่ดูเหมือนว่าของจะหมดแล้ว คงอีกสัก 2-3 เดือน ถึงจะมาใหม่มั๊ง (ไม่แน่ใจเหมือนกัน) จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 10:12:26

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ ได้ความรู้ในสิ่งที่อยากรู้พอดี และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อย ก็ได้มุมมองว่า ที่จริงแล้ว ทัวร์ริ่ง มันคืออะไรแน่ แล้วรถอื่นๆ ทัวร์ไม่ได้หรือ แล้วทำไม่รถทัวร์ริ่ง รูปแบบ ต้องเป็นแบบนั้น แล้วจำเป็นแค่ไหน ก็ได้คำตอบจากนักทัวร์ริ่ง จริงๆ จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 11:58:14

ความคิดเห็นที่ 19 ผมให้ลองดู Louise Garneau CT อีกตัวสองหมื่นต้น ได้เกียร์หมอบแบบมือรวม คุ้มกว่าเกียร์สับถัง และมี KHS Excel ออกใหม่อีกตัวที่ระดับราคาน่าสน ท่อดีโครโมลี Reynoldราคาไม่แรง แม้ไม่ใช่ทัวริ่ง แต่แทนกันได้เป็นรถ Commuter เหมาะกับขี่ถนน ทางไกลก็พอไหวครับ แฮนด์ตรงขี่ง่ายไม่ก้มมาก ใช้ขี่ทั่วไปน่าจะเพลินกว่าครับ มีจุดยึดตะแกรง ให้ด้วย ส่วนเกียร์แบบขี่ง่ายครับ จานหน้าสาม เฟืองหลังเสือภูเขา เรื่องเกียร์ ผมคิดว่าอยู่ที่เส้นทางมากกว่า รวมถึงกำลังขาของผู้ขี่ ตรงน้ขี่ไปเรื่อยๆจะทราบเอง แต่แรกๆซื้อเอาที่ใช้ได้กว้างๆอย่าง จานหน้าสามใบก็ดีครับ http://www.amornbicycle.com/product-th-877666-4728197-12+Urban+Excel+S+เฟรม+CrMo.html จากคุณ : หมาส้มสมหวัง เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 14:09:15

ความคิดเห็นที่ 20 LG CT ผมว่าถ้าชอบแบบนี้ ตัวนี้อะไหล่คุ้มครับ เอาแค่เผื่อไม่ต้องมาวิ่งหามือรวมมาแทนสับถังก็คุ้มแล้วครับ ขี่จริงๆจะขี้เกียจเอื้อมนี่สิครับ จะอยากได้มือรวมทีนี้ต้องมาหาอีก เสียเงินสองรอบครับ จากคุณ : หมาส้มสมหวัง เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 14:13:48

ความคิดเห็นที่ 21 ได้ความรู้เยอะเลยครับ กดเก็บเข้าคลังเรียบร้อย จากคุณ : ธรฏ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 16:13:55

ความคิดเห็นที่ 22 มาเก็บความรู้ค่ะ ขอบคุณ จขกท. ตั้งกระทู้โดนใจมาก กำลังหาข้อมูลพอดีเลยค่ะ รบกวนถามพี่ๆ ขาทัวร์ริ่งด้วยค่ะ เฟรม soma saga เป็นอย่างไงบ้างค่ะ กำลังหาข้อมูลค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : iconlaila เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 17:22:51

ความคิดเห็นที่ 23 Louis Garneau รุ่น LST-GMT มาแบบทัวร์ริ่งครบๆเลยครับ จากคุณ : เจรข้อ2011 เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 16:15:56