ต่อให้นะครับ
:: หมวด 2 การขับแซงและผ่านขึ้นหน้า
มาตรา 44 ผู้ขับขี่ซึ่งประสงค์จะขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นในทางเดิน รถซึ่งไม่ได้แบ่งช่องทางเดินรถไว้ต้องให้สัญญาณโดยกระพริบไฟหน้าหลายครั้ง หรือให้ไฟสัญญาณยกเลี้ยวขวา หรือให้เสียงสัญญาดังพอที่จะให้ผู้ขับขี่ซึ่ง ขับคันหน้าให้สัญญาณตอบตาม มาตรา 37 (3) หรือ มาตรา 38 (3) และ เมื่อเห็นว่าไม่เป็นการกีดขวางรถอื่นที่กำลังแซงแล้ว จึงจะแซงขึ้นหน้าได้
การแซงต้องแซงด้านขวาโดยมีระยะห่างจากรถที่ถูกแซงพอสมควร เมื่อ เห็นว่าได้ขับผ่านขึ้นหน้ารถที่ถูกแซงไปในระยะที่ห่างเพียงพอแล้ว จึงจะขับ ชิดด้านซ้ายของทางเดินรถได้
*หมายเหตุ มาตรา นี้ความเดิมได้ถูกยกเลิกไป และมีการเพิ่มเติมข้อความ ใหม่เข้าไปโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2535 ใน มาตรา 9 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 109 ตอนที่ 39 หน้า 46 วันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2535
มาตรา 45 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นด้านซ้าย เว้นแต่ ในกรณีต่อไปนี้
(1) รถที่จะถูกแซงกำลังเลี้ยวขวาหรือให้สัญญาว่าจะเลี้ยวขวา
(2) ทางเดินรถนั้นได้จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่สอง ช่องขึ้นไป
การขับแซงด้านซ้ายตาม (1) หรือ (2) จะกระทำได้เมื่อไม่มีรถอื่น ตามมาในระยะกระชั้นชิดและมีความปลอดภัยพอ
มาตรา 46 ห้ามมิให้ผู้ผู้ขับขี่ขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นในกรณีต่อไปนี้
(1) เมื่อรถกำลังขึ้นทางชัน ขึ้นสะพาน หรืออยู่ในทางโค้ง เว้นแต่จะมี เครื่องหมายจราจรให้แซงได้
(2) ภายในระยะสามสิบเมตรก่อนถึง ทางข้าม ทางร่วม ทางแยก วงเวียน หรือเกาะที่สร้างไว้ หรือทางเดินรถที่ตัดข้ามทางรถไฟ
(3) เมื่อมีหมอก ฝน ฝุ่นหรือควัน จนทำให้ไม่อาจเห็นทางข้างหน้าได้ ในระยะหกสิบเมตร
(4) เมื่อเข้าที่คับขันหรือเขตปลอดภัย
มาตรา 47 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแซงหรือผ่านขึ้นหน้ารถอื่นล้ำเข้าไปในเส้น กึ่งกลางของทางเดินรถที่กำหนดไว้ หรือที่มีเครื่องหมายจราจรแสดงเขต อันตราย หรือเขตให้ใช้ความระมัดระวังบนทางเดินรถ
ในกรณีที่ทางเดินรถด้านซ้ายมีสิ่งกีดขวาง ที่เป็นอุปสรรคแก่การจราจร และทางเดินรถด้านขวามีความกว้างเพียงพอ ผู้ขับขี่จะขับรถหลีกสิ่งกีดขวาง ล้ำเข้าไปในเส้นกึ่งกลาง ของทางเดินรถที่เจ้าพนักงานจราจรกำหนดไว้ก็ได้ ในเมื่อไม่กีดขวางการจราจรของรถสี่สวนทางมา
มาตรา 48 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถแซงหรือผ่านขึ้นหน้ารถคันอื่นล้ำเข้าไป ในช่องเดินรถประจำทาง เว้นแต่ในกรณีที่มีสิ่งกีดขวางการจราจรในทางเดิน รถข้างหน้า หรือเมื่อต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร แต่ทั้งนี้จะ ขับอยู่ในช่องเดินรถประจำทางได้เพียงเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
มาตรา 49 เมื่อได้รับสัญญาณขอแซงขึ้นหน้าจากรถคันที่อยู่ข้างหลัง ผู้ ขับขี่ซึ่งขับรถที่มีความเร็วช้า หรือรถที่ใช้ความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถอื่น ที่ขับไปในทิศทางเดียวกัน ต้องยอมให้รถที่ใช้ความเร็วสูงกว่าผ่านขึ้นหน้า ผู้ขับขี่ที่ถูกขอทางต้องให้สัญญาณตอบตาม มาตรา 37 (3) หรือ มาตรา 38 (3) เมื่อเห็นว่าทางเดินรถข้างหน้าปลอดภัย และไม่มีรถอื่นสวนทางมาในระยะ กระชั้นชิด และต้องลดความเร็วของรถและขับรถชิดด้านซ้ายของทางเดินรถ เพื่อให้รถที่จะแซงผ่านขึ้นหน้าได้โดยปลอดภัย
อันนี้จะเห็นว่า ไม่มีการกำหนดไว้ว่า การแซงขึ้นหน้านั้น ห้ามรถอะไรแซง ซึ่งถ้าตามความเข้าใจของผม ก็คือ รถทุกชนิดสามารถแซง รถคันที่วิ่งช้ากว่าได้ โดยให้ทำการแซงทางขวา ตามกฏครับ