PANTIP.COM : V3033119 ขอถามเรื่องน้ำมันเครื่องที่ใช้กับ Vigo []

ความคิดเห็นที่ 4

เรื่องความหนืดของน้ำมันเครื่อง จะมีความรู้และความเชื่อเก่าๆอยู่ว่าน้ำมันใสหล่อลื่นไม่ดีเครื่องจะสึกหรอมาก
แม้ปัจจุบันร้านขายน้ำมันเครื่องต่างจังหวัด(ในกรุงเทพไม่รู้เป็นไง) ขายดีเกรด 20W-50 เพราะเข้าใจว่าบ้านเราร้อนต้องใช้หนืดมากหน่อยแม้พยายามแนะนำให้ใช้ 15W หรือ 10W เขาก็ไม่เอา
แต่ความจริงพื้นฐานไม่ได้ทำความเข้าใจกันว่า น้ำมันเหลวใสจะแทรกตัวเข้าไปในช่องว่างที่แคบมากๆของเครื่องยนต์ได้ดีกว่าของหนืด ในระหว่างเครื่องยนต์ทำงาน และโดยเฉพาะ เวลาสตาร์ทเครื่อง ซึ่งเป็นเวลาที่เครื่องยนต์สึกหรอมากที่สุดมากกว่าการขับในภาวะปรกติมาก
ถ้าน้ำมันใส 5W หรือ 10W น้ำมันจะขึ้นไปหล่อลื่นรีบเอาตัวเองเข้าไปขวาง ยอมตายก่อนก่อนที่โลหะสองชิ้นจะมาห้ำหั่นกันมาอัดมาสีกัน สังเกตุดีๆตอนสตาร์ทใหม่ๆโดยเฉพาะตอนเช้า จะมีเสียงดังจากเครื่องแก็กๆๆอยู่ระยะหนึ่ง ประมาณ 3-10 วินาที เพราะน้ำมันเครื่องยังไม่ขึ้นไปหล่อลื่น ซึ่งแล้วแต่ชนิดน้ำมันเครื่องและอุณหภูมิของอากาศ ถ้าหนืดมากอากาศเย็น โดยเฉพาะภาคเหนือตอนเช้า ก็ดังนานหน่อย
ส่วน ตัวเลขข้างหลัง 30 หรือ 40 หรือ 50 ก็คำนึงถึงตอนเครื่องร้อนว่ามันยังคงความหนืดไว้ได้ดีหรือไม่ คือไม่เปลี่ยนเป็นใสเกินไป ใช้ตัวไหนก็ให้ผลอยู่ในค่าที่ใกล้เคียงกัน ค่าควาหนืดของน้ำมันเครื่องที่ 100 องศา C ของตัว 30-50 อยู่ที่ 9.3 ถึง ต่ำกว่า 21.9 cSt เปรียบเทียบง่ายๆความหนืดของ ตัว 50 ที่อุณหภูมิ 100 องศาC ใกล้เคียงกับเกรดเดียว 15 w ตอนเครื่องเย็น40 องศาC
แต่ช่วงกว้างราคาแพงกว่า
ส่วนใหญ่อุณหภูมิการทำงานของเครื่องยนต์เขาจะออกแบบควบคุมให้มันอยูที่ ประมาณ 95 องศา C โดยอาศัยการทำงานของหม้อน้ำที่ออกแบบเผื่อไว้แล้วส่วนถ้าช่วงที่ความร้อนผลิตมายังน้อยกว่าประสิทธิภาพของหม้อน้ำมาก ตัวที่เข้ามามีบทบาทคือวาวน้ำ ป้องกันเครื่องเย็นลง หรือ พยายามควบคุมการไหลของน้ำ ทำให้มันอยู่ที่อุณหภูมิที่ออกแบบ และทำให้อุณหภูมิขึ้นถึงช่วงเหมาะสมเร็วขึ้น การเข้าใจว่าเครื่องยนต์ต้องไม่ร้อน หรือความหมายคือ"เย็น" ถึงจะดีนั้นไม่ถูกต้องนัก มันต้องเปลี่ยนเป็นคำว่า"ให้ร้อนพอดี" ฉะนั้นช่างเก่าๆร่วมสมัยมักบอกให้ถอดวาวน้ำ เป็นความเข้าใจที่ผิด ถ้าประสิทธิภาพของระบบระบายความร้อนต่ำลงเช่นเก่าเป็นสนิมภายใน ฝุ่นเกาะ หรือช่องระบายอุดตันมาก หรือปั้มน้ำไม่ดี ถอดวาวน้ำก็ช่วยไม่ได้
ตอนเครื่องร้อนก็เป็นช่วงที่เครื่องยนต์ทำงานที่รอบสูง ซึ่งก็ยังต้องการการไหลแทรกตัวได้เร็วและทันเวลาก่อนที่โลหะจะเข้ามาถูกันอีก ฉะนั้นเครื่องยนต์และคุณภาพของน้ำมันเครื่องปัจุบัน น้ำมันเครื่องที่ไหลได้เร็วจะให้ผลการป้องกันเครื่องยนต์เร็วและดีกว่า
ผมมีประสพการณ์เล่าให้ฟังในกระทู้อื่นแล้วถึงการใช้ความหนืดสูงเกินไปและใช้ผิดประเภท ปรากฎว่าแหวนลูกสูบหายไปหมดสองสูบยกเว้นแหวนกวาดน้ำมัน และลูกสูบทะลุอีกหนึ่งลูก จากการขับไปกลับ กทม-เชียงใหม่ เมื่อปี 2529 ครับ

จากคุณ : ยอดสยาม - [ 26 ก.ย. 47 07:54:33 ]