ความคิดเห็นที่ 1 รู้สึกจะจริง ผมเลยต้องบริหารกล้ามรถมันบ่อยๆ หน่อย พี่ผมเคยไปขับของเพื่อนเค้า แบบใหม่ๆ วิ่งน้อยประมาณหมื่นโล แต่เหยียบไม่ออกครับ เพราะเพื่อนเค้าจะขับอืดๆ ตลอดเวลา จากคุณ : ^^! (กะต่อ) - [ 21 มิ.ย. 48 15:39:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าจริงคงแย่นะคะ เพราะกรุงเทพฯ รถติดน่ะค่ะ ขับยังไงก้อไม่เคยเกิน 80 เลย จากคุณ : Analyst A - [ 21 มิ.ย. 48 15:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จริงครับใช้แต่ม้าตัวต้นๆตัวสุดท้ายมันเลยวิ่งไม่เป็น เกี่ยวกันเปล่าไม่รู้นะ อิอิ จากคุณ : -=อินทร์=- - [ 21 มิ.ย. 48 16:16:47 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เครื่องยนต์นะครับ ไม่ใช่กล้ามเนื้อ ที่ยิ่งออกแรง แล้วจะได้แข็งแรง ที่เขาบอกกันก็คือ ช่วงที่ รันอิน หรือ 1,000 กิโลแรก ควรที่ขับ ให้รอบเครื่องยนต์ ทำงานในทุกรอบ คือช้าบ้างเร็วบ้าง เพื่อที่ลูกสูบจะทำงานได้เต็มที่ ในทุกๆรอบเครื่องยนต์ แต่สาเหตุที่ม้าตกนั้น มักจะมาจาก อายุของเครื่อง ไส้กรอง ฟิลเตอร์ต่างๆซะมากกว่า สรุปง่ายๆก็คือ ม้าจะหายไม่หาย ก็อยู่ที่ดูแลรักษารถดีแค่ไหนครับ เหยียบซิ่ง บ่อยๆ ม้ามันอาจจะเร่งกระฉูดตามต้องการ แต่การสิ้นเปลืองต่างๆก็มากขึ้นตาม ลองชั่งดูครับ ว่าระหว่างประหยัดค่าใช้จ่ายกับเร่งแรงม้าได้ตามใจอันไหนคุ้มกว่ากัน จากคุณ : Niceguy_C - [ 21 มิ.ย. 48 16:25:46 A:61.90.104.159 X: TicketID:004452 ]

ความคิดเห็นที่ 5 หลายปีมาแล้วนะ(5-6ปี) ผมขับไซโคลนของพี่ได้เต็มที่120เพราะตั้งแต่ชื้อรถแกไม่เคยขับเกิน100  ส่วนของผมSD23เหยียบได้เกิน150(ถึงควันจะเยอะ)ทั้งที่เครื่องของพี่โตกว่า(2500/2300) จากคุณ : พี่หลวงแก่แล้ว - [ 21 มิ.ย. 48 16:58:36 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เคยไปขับรถน้าสาว (ที่ไม่เคยเหยียบเกิน 3,500 รอบ) ช่วงรอบสูงๆ จะขึ้นช้าครับ ไม่รู้เป็นไง หรือมันไม่เคย? เลยฝืด จากคุณ : ๙๙ (Drive_me_nut) - [ 21 มิ.ย. 48 17:10:23 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่รู้เหมือนกันนะ พ่อเอารถมาให้ใช้ แกก็บ่นว่าอืด พอเราเอามาขับแรกๆ มันก็อืดจริงๆ นั่นแหละ สุดท้ายทนไม่ได้ กดๆๆๆ ลากๆๆๆ ดูซิว่าจะเป็นไง ไหนบอก ว่า Vtec ลองดูซิ ทำบ่อยๆ เข้า เออ... มันก็วิ่งดีนี่นา น่าจะดีกว่าเดิมตาม ความรู้สึก (ไม่รู้ว่าชินกับมันหรือเปล่า)  ทุกวันนี้ก็ขับอยู่นี่ แหละ สัปดาห์ละครั้ง ต้องลากชนขีดแดงเสมอ กลัวมันอืดอีก ไม่กลัวค่าน้ำมันแพงนะ เพราะไม่ได้แช่ไว้นานๆ แค่ช่วงสั้น ด้วยเกียร์ต้นๆ เท่านั้นเอง ไม่เร็วมากนัก จากคุณ : มือเก่าหัดขับ - [ 21 มิ.ย. 48 17:29:51 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จริงครับ ขับช้า ทำให้ ซอกบ่าวาล์วมีเขม่าเกาะมาก พอร์ตไม่ลื่น กำลังอัดรั่ว และม้าหาย โดยเฉพาะรอบสูงๆ ม้าวิ่งเข้าป่าหมด ตรงนั้น บ่าวาล์วกะพอร์ตมีผลมากครับ จากคุณ : ฟหกด - [ 21 มิ.ย. 48 18:13:44 A:203.113.51.137 X:203.151.140.117 TicketID:037651 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ก็มีส่วนจริงครับ . . . โดยเฉพาะรถคาร์บิว เห็นชัด วิ่งช้าๆ รอบต่ำๆนาน น้ำมัน มันไปผสมกับอากาศได้ไม่ค่อยดีเท่าไร จุดระเบิดก็ไม่ค่อยหมดจด เขม่ามันก็เยอะ ไปจับในพอร์ทบ้าง ก้านวาล์วบ้าง . . . ที่สำคัญคือหัวเทียน สกปรก ที่ไม่ค่อยวิ่งก็หัวเทียนไม่ปิ้งนี่แหละครับ จุดระเบิดไม่ค่อยตูมตามเท่าไร . . . ต้องเอาออกไปอัดๆดูบ้าง ล้างเขม่าหัวเทียนซะหน่อย . . . แรงระเบิดดีขึ้น กระฉับกระเฉงขึ้นพอรู้สึกครับ รถขนันอัดบ้าง มันลื่นกว่า รถนานๆวิ่งทีจริงๆนะ . . . แต่จริงๆก็นิดหน่อยเองครับ ไม่ถึงกับหน้ามือเป็นหลังมือหรอก จากคุณ : A-Z - [ 21 มิ.ย. 48 18:46:07 A:210.86.148.66 X: TicketID:002452 ]

ความคิดเห็นที่ 10 หรือมันไม่เคย? เลยฝืด !!!??????!!!!! จากคุณ : rcs1 - [ 21 มิ.ย. 48 19:29:38 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ผมคิดว่าไม่จริง เพราะผมระยะนี่สองเดือนกว่าวิ่งไม่เกิน 120 แต่มีช่วงหนึ่ง ขับแซงก็อัดพรวดเดียวก็ได้ 140 แซงเสร็จก็มา 120 ได้ตามเดิม บนทางด่วนไม่นานนี้เอง รถที่ว่าอาจเก่ามั้ง ผมรถปี 2000 ยังใหม่อยู่ จากคุณ : K.Senior - [ 21 มิ.ย. 48 20:20:46 ]

ความคิดเห็นที่ 12 -*- จะตกไปเท่าไหนช่างมัน ประหยัดไว้ก่อน 555 จากคุณ : ต้นไม้ต้นเล็กๆ - [ 21 มิ.ย. 48 21:00:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นนะครับ กับรถตัวเองนี่แหละ ถ้าช่วงไหน ขับออกต่างจังหวัด วิ่งทางไกลบ่อย ช่วงนั้นรถวิ่งลื่นเชียว แต่ถ้าช่วงไหน (อย่างช่วงนี้) ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ขับไปทำงาน วิ่งได้ไม่เกิน 60 วันนึง 20 กม. พักนี้รถจะเริ่มอืดอ่ะครับ... วันนี้เห็นถนนว่างๆ ก็อัดซักนิด ลากรอบสักหน่อย ให้รถออกแรงครับ จากคุณ : เด็กบูรพา - [ 21 มิ.ย. 48 21:08:57 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อสิบปีที่แล้วคุณปู่ยกรถของท่านให้มา เป็นรถ BMW 2500 (E3) เกียร์ธรรมดาปี 1975 คุณปู่ไม่เคยขับเกิน 120 เลยตลอดมาตั้งแต่ใหม่ๆ ครั้งที่เร็วที่สุดคือ คุณพ่อขับไปเชียงใหม่ในปี 1981 ตอนนั้นวิ่ง 180 ในระยะสั้นๆ แค่นั้นเอง  รถคันนี้ตอนผมได้มา วิ่งมา 115000 กม.สภาพเครื่องเดินเรียบ ช่วงล่างแน่นดีทุกอย่าง แต่พอผมลองไปเหยียบบนโทลเวย์ขาไปดอนเมือง รถเร่งถึง 140 ในอาการปรกติ หลังจากนั้นขึ้นช้ามาก จนถึง 170 แล้วก็ไปต่อไม่ได้แล้ว ผมก็ไม่ยอมถอนคันเร่งเพราะในคู่มือรถมันว่าวิ่งได้มากกว่านี้ พอผมเหยียบค้างอยู่อย่างนั้นราว 3 นาที มันก็มีเสียงดังปุ้กๆและรถดูเหมือนสำลักอยู่ 3-4ครั้ง ระหว่างสำลัก ผมหันดูกระจกหลังเห็นควันเป็นก้อนสีดำๆมันทะลักมันเป็นก้อนๆตามเสียง หลังจากนั้นรถก็สามารถทำความเร็วขึ้นไปถึง 190 ตามในคู่มือที่โรงงานเคลมไว้โดยไม่ต้องรอคอยนานนัก พอขากลับผมลองเหยียบอีก คราวนี้ช่วง 120-160 ที่เคยอืด กลับทำความเร็วขึ้นได้อย่างง่ายดาย จากนั้นรถก็ไม่มีชะงักที่170 อีกต่อไป วิ่งถึง 190 แบบนิ่มๆจากนั้นผมก็จะพาไปอัดไล่เขม่าทุกเดือน รถมันก็กำลังไม่ตกอีกเลย ทุกวันนี้ไม่ได้ใช้งานประจำแล้ว แต่ก็พยายามพาเขาไปออกกำลังเท่าที่มีโอกาส จากคุณ : Maxspeed - [ 21 มิ.ย. 48 21:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าไม่เคยแล้วพบว่า"ฝืด"แนะนำให้ใช้นิ้วกับส่วนนั้นก่อนครับ.. ก็..ก็.. ใช้นิ้วกดปุ่ม O/D ก็ได้ไง ให้เครื่องมันพุ่งๆ แล้วก็เหยียบซักเล็กน้อย จะได้ไม่ฝืด คิดอะไรกันน่ะ?? จากคุณ : iNFeRNaL - [ 22 มิ.ย. 48 00:15:51 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ยืนยันตามพี่ iNFeRNaL ครับถ้าตอนแรกมันฝืดต้องใช้ "นิ้ว" ช่วยครับ จิ้มไปจิ้มมาแป๊ปเดียวลื่นซะ จากคุณ : IRRIDUCIBILI - [ 22 มิ.ย. 48 01:06:14 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ทุก คคห. ผิดหมดเลย เครื่องยนต์ใช้รอบต่ำกับรอบสูงเสื้อสูบจะสึกไม่เท่ากัน ใช้รอบต่ำนานๆหลายปีเสื้อสูบจะสึกต่ำจากฝาสูบกว่าปกติที่ใช้รอบสูง พูดง่ายๆจะมีรอยหยักเสื้อสูบต่ำกว่ารอบสูง ทำให้เวลาเร่งสูงสุดมันติดหยักตรงปลายนั้นไง ถ้าใช้รอบต่ำนานหลายปีเผลอเร่งสูงสุดอาจทำให้แหวนหักได้ จากคุณ : Blender - [ 22 มิ.ย. 48 02:16:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 #17 ทำไมสึกไม่เท่ากันล่ะครับ ช่วงชักมันไม่ได้แปรผันนี่ ปล. รถผมก็เป็นนะ พ่อเอาไปขับทีไร กลับมาวิ่งลื่น ๆ กว่าเดิมทุกที (พ่อผมเท้าหนักอะ ออกจากไฟแดงนี่ แตะ 4000 รอบตลอด) จากคุณ : Aop - [ 22 มิ.ย. 48 09:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เอกระทู้มันซักจะเบี่ยงเบนไปแล้วนะ ถ้ามันผืดมากก็ควรใช้อะไรมาหล่อลื่นด้วย เช่น น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพสูง หรือน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ ก็จะทำให้มีการหล่อลื่นได้ดีขึ้นลดความผืดได้มาก สมัยก่อนผมกับเพื่อนซื้อรถ Accord รุ่นเดียวกัน เพื่อนขับ ไปกลับ จากรังสิตไปทำงาน สนามบินดอนเมืองทุกวัน เครื่องไม่ได้ออกกำลังกายเลย ปรากฏว่า น้ำมันเครื่องฉีด ไปบนฝาวาวล์ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความฝืดของอุปกรณ์ กำลังตก และที่เสียก่อนเลยก็ แบริ่งครับ ส่วนรถผมวิ่งทาง ไกลตลอดไม่มีปัญหาอะไรเลย แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 48 09:38:59 จากคุณ : love EVO - [ 22 มิ.ย. 48 09:36:20 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เหมือนมี sex กับสาวครับ บ่อยๆมันก็ลื่น เข้าออกได้เร็ว ง่าย ลองนานๆที เข้าก็ยากชั่วชักออกก็ยาก ฝืดครับ จากคุณ : kapolo_club - [ 22 มิ.ย. 48 09:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาขำ #17 ครับ อยากให้คุณๆ ได้เห็นฝาสูบที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังจังครับ เขม่าเพียบ โดยเฉพาะด้านไอเสีย กะริมๆบ่าวาล์ว บางคันผมว่าหนาเป็นมิลได้ จากคุณ : ฟหกด - [ 22 มิ.ย. 48 10:03:52 A:203.113.51.137 X:203.151.140.113 TicketID:037651 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แล้วถ้าเร่งอยู่กับที่ให้รอบขึ้นไปที่ 4,000-5,000 รอบ จะไล่เขม่าได้เหมือนกันรึเปล่าครับ ถ้าไปวิ่ง 4,000-5,000 รอบ บนถนน มันไม่ค่อยมีที่ให้อัดยาวๆน่ะครับ จากคุณ : offer - [ 22 มิ.ย. 48 10:31:45 A:10.11.9.165 X:61.90.143.200 TicketID:026012 ]

ความคิดเห็นที่ 23 มันแล้วแต่ครับ ถ้ามันเกาะเป็นมิล ไล่ให้ตายก็ไม่ออกครับ ต้องเปิดฝามาล้าง หรือ...... พอร์ตทำมาดี เขม่าเกาะได้น้อย (ขัดมาจากโรงงาน) ก็ล้างง่ายหน่อย อาจแค่เร่งๆเครื่องก็หลุดแล้ว หรือ...... มุมบ่าวาล์ว มุมพอร์ต เป็นมุมที่ก่อให้เกิดเขม่าได้ง่าย อันนี้เครื่องถูกดีไซมาไม่ดีครับ ซวยไป ใครว่าเขม่า เกาะมีผลน้อยครับ ถ้าน้อย เค้าไม่เปิดฝาขัดพอร์ตหรอกครับ แค่ขยายวาล์วซักมิล ก็เห็นหน้าเห็นหลังกันแล้ว ลองคิดในทางกลับกันสิครับ เขม่าเกาะหนาเป็นมิล ..............อี้ จากคุณ : ฟหกด - [ 22 มิ.ย. 48 10:53:29 A:203.113.51.132 X:203.151.140.117 TicketID:037651 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เขม่าในเครื่องยนต์.... เป็นสาเหตุทำให้เกิดการชิงจุดระเบิดได้ด้วยหรือเปล่า.....? จากคุณ : nunimitr - [ 22 มิ.ย. 48 14:20:11 ]