ความคิดเห็นที่ 1 แก้ไขลิงค์ด้านบนนะครับ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2007/10/Y5916404/Y5916404.html จากคุณ : โอสถกัลป์ - [ 16 ก.ย. 51 00:18:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การหัดปฏิบัติเพื่อสมถะและวิปัสสนา สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก คัดจากเทปธรรมอบรมจิต ข้อความสมบูรณ์ อณิศร โพธิทองคำ บรรณาธิการ http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/somdej/sd-030.htm รายละเอียดหาศึกษาเพิ่มเติมในลิงค์นี้ครับ  มีอีกเยอะ ประตูสู่ธรรม หมวด : คำสอนอาจารย์ สมเด็จพระญาณสังวร http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/somdej/somdej-preach-index-page.htm จากคุณ : ม้าไม่มีชื่อ - [ 16 ก.ย. 51 03:16:40 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การฝึกจิต ให้ ควรแก่งาน การน้อมจิตให้สงบ ตั้งมั่น การยกระดับจิตให้บรรลุความอ่อน ปราศจาก อุปกิเลศ เรียกว่า สมถะ การตามเห็นความจริง ของ กาย เวทนา จิต และ ธรรม  สังขาร  ว่า เป็นไปตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจริง เรียก ว่าวิปัสสนา จากคุณ : เอก (aunemaek2) - [ 16 ก.ย. 51 06:05:53 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรียน จขกท. ขอตอบดังนี้ สมถะ ก็คือทำจิตให้รวมศูนย์ ดิ่งในสมาธิ ทำให้เกิดพลังจิต พลังจิตนี้ เอาไปใช้เพื่อให้เกิดผลเป็นคุณก็ได้ หรือใช้เพื่อให้เกิดผลโทษก็ได้ วิปัสสนา ก็คือเอาพลังจิตนั้นไปส่องดูขันธ์ห้า ว่ามันเป็นอนิจจัง ทืกข์ขัง และอนัตตา แล้วก็เอาสมาธิไปเจริญพรหมวิหารสี่ เป็นต้น เมื่อทำวิปัสสนาแล้วจะเกิด ปัญญาญาณ สรุปก็คือ วิปัสสนา = สมาธิ + ปัญญา ขอให้ท่านโชคดี และขอให้ทุก ๆ ท่านเจริญในธรรม หมายเหตุ การบรรลุธรรมได้นั้น ท่านต้องปฏิบัติระดับวิปัสสนา ไม่ใช่แค่ระดับสมาธิ แก้ไขเมื่อ 16 ก.ย. 51 08:52:02 จากคุณ : kongsilp2000 - [ 16 ก.ย. 51 08:50:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ที่ท่าน จขกท ใช้ก็คืออานาปานาสติ อยากลองให้ไปศึกษา อานาปานสติสูตร 16 ขั้น ไว้ด้วย ซึ่งก็จะมีทั้ง สมถะอย่างเดียว , สมถะ+วิปัสสนา และ วิปัสสนาล้วนๆ ซึ่งก็ครอบคลุม มหาสติปัฏฐานสูตร และอื่นๆไว้พร้อมหมด ค่อยๆศึกษาค่อยทำทีละขั้น ทีละตอน เรื่อยๆ ตามความก้าวหน้าที่เราพอทำได้ จากคุณ : Poonoi - [ 16 ก.ย. 51 09:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขออนุญาตใช้พื้นที่นิดหน่อยนะครับ ผมไม่ได้ตอบเจ้าของคำถาม ผมเขียนเพื่อคนเพียงคนเดียวครับ และหวังว่าการฝึกของเค้าและของผมจะมีสีสันมากขึ้น เมื่อเราฝึกมาถึงจุดจุดนึง ความรู้ชนิดหนึ่งจะเกิดขึ้นครับ หลีกไม่ได้ มันเกิดขึ้นเอง มันคือความเข้าใจอย่างชัดเจนว่า อะไรคือ สมถะ และอะไรคือ วิปัสสนา ซึ่งความรู้ตรงนี้ไม่ใช่ การพูดตามทฤษฏี แต่เป็นความรู้ที่มาจากการสังเกตสภาวะของแนวทางการฝึกจากการลองผิดลองถูกนับครั้งไม่ถ้วน หรือมาจากการล้มลุกคลุกคลานแบบสาหัส สำหรับผมแล้วสมถะ คือการตัน การไปต่อไม่ได้ เพราะจิตมันไปติดตัวที่จับ หรือตัวที่ผูกสติไว้ ตราบใดที่ยังมีฐานในการผูกสติ สำหรับผมโดยการส่วนตัว นั่นคือลักษณะของ สมถะ ทั้งหมด มันเป็นการโฟกัสจุด ไม่ว่าจะใช้กี่จุด ถ้ายังมีการโฟกัสนั่นยังไม่เวอร์ค ตรงนี้ผมคงไม่ต้องกล่าวอะไรต่อ เพราะเราเข้าใจตรงกันแน่อยู่แล้ว ผมจะข้ามไปเลยนะครับ ทีนี้นะครับ บุคคลที่เข้าใจ ว่าอะไรคือ สมถะ อะไรคือ วิปัสสนา อย่างชัดเจนแก่ใจ สภาวะจิตจะดิ่งไปที่วิปัสสนาอย่างเดียว ที่เป็นอย่างนั้น เพราะมันเห็นทางไปต่อได้ และจะมีทีท่าแสดงออกที่จะปฏิเสธสมถะ ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เอาสมถะ แต่ต่อมาผมกลับพบว่า แนวทางนั้นมันถูกครับมันไปต่อได้จริง แต่ในอีกแง่หนึ่ง จิตสำนึกกลับไม่เป็นอิสระ เพราะมันยังติดอยู่ในของคู่ มันเลือกที่จะอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง มันยังเห็นเป็นขาวกับดำอยู่ แม้ว่าเราจะอ่านคำสอนของครูบาอาจารย์ ว่าให้เดิน สมถะและวิปัสนาคู่กัน แต่ลึกๆแล้ว จิตจะยังไม่เข้าใจหรอกครับว่ามันเป็นยังไง เวลาที่เราฝึก เราจะรู้ว่า แบบนี้เป็นวิปัสนา แต่ลึกๆ จิตมันมันไม่อยู่ตรงกลางครับ เพราะมันจะโน้มไปในทางที่มันเข้าใจเอาเองว่าถูก ถ้าคนที่คุณรู้ว่าผมเขียนให้คุณ ผ่านการแบ่งแยกตรงนี้มาได้ สภาวะที่คุณใช้ฝึกจะไม่มีชื่อในหัวอีกเลย ว่ามันเรียกว่า สมถะ หรือ วิปัสสนา มีเพียงการเห็นล้วน เป็นวิธีที่ไร้วิธีการ และนี่เองที่เป็นอีกจุด จะไม่มีการแบ่งเลยว่านี่ถูกนี่ผิด และด้วยวิธีแบบนี้เอง มันถึงไปต่อได้ และการไปต่อของมันไม่ใช่ไปด้วยวิธีการอีกแล้ว แต่ไปเพราะสภาวะบนมรรค มันผลักไปเองโดยไม่ต้องทำอะไร นี่เองทำไมผมถึงกล่าวว่า 6 เดือน เพราะปัญญาตัวนี้ยังไม่เกิดกับคุณครับ และเมื่อไหร่ ก็ตามที่ปัญญาตัวนี้เกิดกับคุณ แล้วคุณไม่ยิ้มเยาะตัวเอง จงเอารองเท้ามาตบปากผมได้เลยครับ ยินดียื่นให้ ขอให้สนุกกับการฝึกนะครับ จากคุณ : koknam - [ 16 ก.ย. 51 10:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สมถะ = จิตนิ่ง วิปัสสนา = จิตมีสติ จากคุณ : Mankei - [ 16 ก.ย. 51 12:17:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 แนะนำอ่านบทที่ 2 ของเล่มนี้ครับ "การปฏิบัติธรรมคืออะไร" http://www.geocities.com/nonborn/ จะได้แยกสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานได้อย่างถูกต้อง ขอให้เจริญในธรรม จากคุณ : ต่อmcu - [ 16 ก.ย. 51 12:25:08 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ทั้งสองอย่างนี้ต่างกันอย่างไรครับ แล้วผลที่ได้ต่างกันแบบไหนครับ ========================= ในแง่ของการปฏิบัติ วิปัสสนา คือการพิจารณาอารมณ์รูปนาม ในขณะที่สมถะ ใช้เพ่งได้ทั้งอารมณ์รูปนาม  อารมณ์บัญญัติ  และอารมณ์นิพพานครับ อันนี้จากความเข้าใจที่ได้อ่านได้ฟังมานะครับ ส่วนความแตกต่างของผลนั้น สมถะทำให้จิตใจสงบ ในขณะที่วิปัสสนานำไปสู่ทางพ้นทุกข์ครับ  เพราะทำให้รู้ทุกข์และละสมุทัยได้ในที่สุด จากคุณ : Pee Kay (Pee Kay) - [ 16 ก.ย. 51 13:31:21 ]

ความคิดเห็นที่ 10 สมถะสมาธิ กับ วิปัสสนา ต่างกันอย่างไรครับ สมถะ คือ ความเพียรเพ่ง หรือเพื่อรู้ ในที่นี้คือจิตมีสมาธิมั่นคงแน่วแน่ระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา เช่น หายใจเข้าก็รู้ว่าหายใจเข้า และจิตมีราคะก็ระลึกรู้ว่าจิตมีราคะ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มีสติดี สติมั่นคง ไม่หวั่นไหว ในสิ่งที่เข้ามากระทบทุกทาง คือตาหูจมูกลิ้นกายใจและการสัมผัส วิปัสสนาคือการพิจารณาความไม่เที่ยงทั้งปวง เช่นการพิจารณา เวทนา ก็พิจารณตั้งแต่ก่อนเกิด กำลังเกิด หลังเกิด การดับ ความไม่เที่ยงในเวทนา จนรู้ว่า เวทนาไม่เที่ยงอย่างไร อะไรเป็นเหตุ และอะไรเป็นผลของเวทนา จากคุณ : รักดี - [ 16 ก.ย. 51 19:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขออนุโมทนา + ขอชื่นชม ในความพยายาม ครับ ดูรายละเอียดเพิ่ม ได้ที่นี่ครับ http://www.wimutti.net/books/patibudtham/main.htm?a=5 ไม่แน่ใจว่า จขกท. พักอยู่แถบไหนของ กทม. นะครับ ถ้าสะดวก มีเวลา ลองไปเรียน ที่ คณะ 5 วัดมหาธาตุฯ ท่าพระจันทร์ ที่ติดกับสนามหลวงก็ได้นะครับ มีสอนทุกวัน ตอน 13.00 - 16.00 น. ติดขัดอะไร สามารถสอบอารมณ์กับ พระอาจารย์ ที่นั่นได้ครับ ขอให้เจริญในธรรม ครับ จากคุณ : ever rich - [ 17 ก.ย. 51 19:39:22 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณครับ จากคุณ : โอสถกัลป์ - [ 17 ก.ย. 51 21:41:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เอาตามที่พระเถระครั้งปฐมสังคายนา ท่านรักษาสืบมา.. คำถาม ....สมถะสมาธิ กับ วิปัสสนา ต่างกันอย่างไรครับ พระพุทธวจนะตรัสว่า สมถะอบรมแล้ว จิตจะเจริญ จิตเจริญแล้ว (จิต) จะละ ราคะ ได้ วิปัสสนา อบรมแล้ว ปัญญา (เจตสิกประกอบจิต ที่ สมถะอบรมแล้ว) จะเจริญ ปัญญา เจริญแล้ว (จิต) จะละ อวิชชา (ความมืด จึงไม่เห็น อริยสัจ) ได้ ทีนี้ พิจารณา มรรคมีองค์ ๘ .... มรรคองค์ใด มีสภาวะคือ สมถะ หรือ สมาธิ?..เพื่อ เป็นทางมาของ การกำหนดว่า สมถะ กับ สมาธิ เหมือน / ต่างกัน หรือไม่ อย่างไร? แล้วจึงค่อยมาถึง วิปัสสนา ที่สำคัญ ...วิปัสสนา กับ สัมมาญาณ ...ใช่สภาวะธรรมเดียวกันหรือ? สรุป (แบบสั้นๆ....) สมถะ กับสมาธิ ต่างกัน เมื่อกำหนดที่อาการ......... สมถะ .....ละ ราคะ .........ตามพระพุทธวตนะ สัมมาสมาธิในองค์มรรค ที่แวดล้อมด้วยมรรคอีก ๗ องค์ เมื่อสมบูรณ์ ผลคือ สัมมาญาณ ตามสัมมัตตะ ๑๐ ............ตามพระพุทธวจนะ ฯลฯ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) - [ 17 ก.ย. 51 22:57:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 18 ก.ย. 51 00:31:56 ]

ความคิดเห็นที่ 15 .. ไม่ได้เข้ามาตอบกระทู้เสียนาน ขอร่วมหน่อยนึงครับ ผมได้ฟังธรรมะของ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต  (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ท่านเล่าว่า มีโยมมาถามว่า "ทำยังไง จึงจะเอาชนะทุกขเวทนาทางกายได้"   (คงจะถามว่า นั่งสมาธิแล้วปวดเมื่อย จะผ่านมันไปได้ยังไง จะชนะมันได้ยังไง หรือจะนั่งยังไงไม่ให้เจ็บ) ท่านก็ตอบ ประมาณว่า สมาธิน่ะเอาชนะไม่ได้หรอก ต้องเอาชนะด้วยปัญญา ผมเดาเอาเอง ว่าผมเข้าใจ  จะผิดจะถูกอย่างไรก็ยกไว้นะครับ (เพียงความคิดเห็นของผมเท่านั้น) ผมเข้าใจเอาว่า ความรู้สึกเจ็บจากเวทนามันหายไป เมื่อทำสมาธิไปถึงจุดๆ หนึ่ง หมายถึง เมื่อคุณนั่งสมาธิจนแน่วแน่ ร่างกายจะข้ามพ้นความเจ็บไป เหมือนไร้ความรู้สึก หรือกลายเป็นความสบายขึ้นมาก็แล้วแต่ (อันนี้ผมเข้าใจเอาว่า มันผ่านความเจ็บมาได้ เพราะสมถะนั่นเอง) ก็เลยขยายความให้ตัวเองเข้าใจว่า ที่ว่า ชนะด้วยปัญญา ชนะยังไง ได้คำตอบว่า ก็ทั้งๆ ที่รู้ๆ ว่ามันเจ็บนี่แหละ แต่มันรู้ว่า เจ็บก็ธรรมดา เรื่องของมัน ก็นั่งทับเส้นนาน มันก็เจ็บเป็นธรรมดา มันยังไม่หายเจ็บ  แต่มันชนะทุกขเวทนาได้แล้ว แค่ เข้าใจว่า มันเป็นธรรมดา  นี่แหละ ผมเข้าใจเอาว่า "เกิดปัญญา" ขึ้นแล้ว และ ที่จะเกิดปัญญาได้ มันก็มาจากการเห็นง่ายๆ ตามที่มันเป็นนั่นแหละ คือ วิปัสสนา .. จากคุณ : ไม่เป็นดั่งใจ - [ 18 ก.ย. 51 22:42:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 พอดีเพิ่งไปปฏิบัติมาอาจจะตอบผิดตอบถูกแต่มีคนถามคำถามนี้เหมือนกันและอาจารย์ก็ตอบว่า สมถะเหมือนเป็นการเพ่งสมาธิเพื่อให้จิตสงบนิ่ง เหมือนเราเอาหินทับความวุ่นวายไว้ได้ซักพัก วิปัสนาคือการที่เรารู้ตัวมีสติกับตัวเองว่าทำอะไรอยู่ หายใจเข้าก็พองหนอ หายใจออกก็ยุบหนอ เดินก็รู้ว่าเดินหนอ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญญา พอเกิดปัญญาก็จะสามารถขจัดความวุ่นวายในใจได้ตลอดไป ขออภัยมากๆค่ะถ้าตอบผิด เพราะเท่าที่ฟังมาคือเข้าใจว่าอย่างนี้ ผู้รู้ทุกท่านอย่าว่ากันนะคะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนรบกวนช่วยกันแก้ให้ด้วยนะคะ จะได้เข้าใจถูกต้องเหมือนกันค่ะ จากคุณ : I'm an ordinary girl - [ 23 ก.ย. 51 22:20:50 ]