ความคิดเห็นที่ 18

น้องghanee.s:
อย่าเข้าใจผิด เจ้า "ตัวความรัก" ที่เห็นในรูปนั้นนะ มันไม่ใช่ ติดต่อทางเพศได้อย่างเดียว มันติดต่อได้หลายทางเช่น, ทางขนรักแร้, หนวดเครา, เสื่อผ้า, เด็กนักเรียนที่เล่นด้วยกัน นั่งใกล้ๆกัน, มันเป็นตัวเหาชนิดหนึ่ง คล้ายๆกับ เหาที่อยู่ตามผมที่ศรีษะนั้นแหละ, การใช้ผ้าเช็ดตัว, ผ้าขาวม้า, ผ้าโสร่ง, ตะละกง ฯลฯ ร่วมกันก็ทำให้ ติดต่อถึงกันได้
เมื่อมันกระโดดข้ามมาที่เราแล้ว มันจะย้ายภูมิลำเนา ไปอยู่ที่ ขุมขนในบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ ไปขุดหลุมดูดเลือดกินเป็นอาหาร, ทำให้เกิดอาการคัน ยิ่งเกาก็ยิ่งเป็นแผลเน่าเฟะ ด้วยเหตนี้จึงเตือนให้ ว่า "เจ้าตัวปูแห่งโรแมนติค" นี้, มันอาจจะติดต่อกับมนุษย์ผู้ใดก็ได้...ต้องระวังหน่อย
น้องghanee.s ถ้าทำตาซุนนะห์ข้อนี้ได้อย่างสม่ำเสมอ พี่รับรองว่าจะปลอดภัย ตามหลักการผู้รู้เขาแนะนำให้ โกนขนทุกๆ 40 วัน ลองตรวจดู ฮาดีษ ซิว่าพี่จำผิดหรือไม่? และน้องทำตามซุนนะห์นี้หรือเปล่าละ? .................
พี่ยินดีที่น้องรู้จักและอ่านข้อเขียนของท่านผู้นี้ "ท่าน เชค yusuf al qaradowi"..แต่เท่านั้นไม่พอ ต้องนำมาคิดและมาใช้ปฏิบัติด้วย... .........
"ท่าน เชค yusuf al qaradowi" นี้พี่รู้จัก ชื่อเสียง และอ่านการเขียนของท่านตลอดมาเป็นอย่างดี เป้นเวลา นานปีมาแล้ว และคิดว่าเป็น มุสลิมผุ้เดียวที่เข้าใจ "อิสลามและหลักการสอน ของท่าน รอซุล มุฮัมมัด เป็นอย่างดี ต่างจากการสอนและการอธิบายของเวบไทยมุสลิมใหญ่ในสังคมไทยมุสลิมเรา การอธิบาย อัลกุรอาน หรือ อะฮาดีษ ต่างๆ ตรงกันข้ามกับ ผุ้รู้ในเวบ มรดก, มูรีด และ สติวเด้น ฯลฯ
มีเป็นบางความคิดเห็น เท่านั้น ที่พี่ไม่เคลียร์กับ ท่านผุ้นี แต่ 99.99% พี่นับถือในความคิดของท่านมากทีเดียว โดยเฉพาะ ความคิดเห็นของท่านผู้นี้ อาจจะช่วยให้ สังคม มุสลิมไทย เจริญ และรุ่งเรื่องทันสมัย, ทั้งในด้านการศึกษาและความเข้าใจ ศาสนาอิสลามที่ถุกต้อง ได้
สิ่งที่พี่เห็นด้วยกับท่านผู้นี้เป็นอย่างยิ่ง อย่างหนึ่งในหลายๆอย่าง คือการรักษา สมบัติปูชนียสถานโบราณ ที่เป็นประวัติศาสตร์ สำหรับเยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษา เช่น พีรามิด, สฟิงต์, เทวรูปต่าง รวมทั้ง พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่ถุก ตอลิบาลระเบิดทำลายไป ฯลฯ ซึ่งแสดงถึงความฉลาดและมองการไกลของท่านผู้นี้
ถ้าน้องศึกษาแนวความคิดและทำตามคำแนะนำของ "ท่าน เชค yusuf al qaradowi" ผุ้นี้แล้ว, น้องจะเป็นมุสลิมที่ทันสมัย กว่านี้ ไม่มานั่งเขียนรำพึงรำพัน เกี่ยวกับ อุดมคติในเรื่อง ความรักที่ มีแต่ความราบรื่นเพียงอย่าง เดียวในครอบครัวของท่านรอซูล , ซึ่งควรจะมีการอธิบายในด้าน ของการ แก้ไขปัญหา ของชีวิตจริง ในครอบครัว ซึ่งมุสลิมในสังคมเผชิญอยู่ ตามแบบฉบับและหลักการของอิสลามนั้นควรจะนำมา ชี้แจงควบคู่ไปด้วย
ในเรื่อง "ฮาดีษ" ต่างๆที่ท่านผุ้นี้นำมาอ้างอิง ส่วนมากจะไม่มีขัดกับตัวบทบัญญัติใน"อัลกุรอาน" ซึ่งอยู่ในทัศนเดียวกันกับที่พี่คิดอยู่เสมอ ในเมื่อมีฮาดีษ การสอน ของท่าน รอซูลที่ตรงกับ "บัญญัติในอัลกุรอานแล้ว", เพราะเหตุใด เราจึงต้อง แยกออกมาจาก อัลกุรอาน มาปะปน กับ เรื่อง "นิทานบอกเล่าต่างๆที่เหลวไหล หาหลักฐานและข้อมูลที่แท้จริงไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอนยุวชนมุสลิม ให้เดินถอยหลัง สวนกับความเจริญ ของสังคมภายนอก และสอนให้มุสลิม เข้าใจอิสลามว่า ผุ้ที่ศรัทธาอิสลาม นั้น "คือคนแปลกหน้าในโลกดุนยา" คือเป็นคนดีที่อยู่ในสังคมของ ความก้าวหน้า ทางวิทยาการ ที่พาไปสู่ความ ชั่วช้าต่างๆ, การสอนให้มุสลิมทำเพื่อตนเอง และสังคมมุสลิม เพื่อมุ่งหวังแต่เพียงความสุขส่วนตัว บนสวรรค์เท่านั้น, ซึ่งการสอนเช่นนี้ไม่อาจจะนำ สังคมมุสลิม ให้ก้าวหน้าและสามมารถจะแข่งขัน กับสภาวะเศรษฐกิจของ สังคมในปัจจุบันได้
พี่กล่าวอยุ่เสมอว่า การปรับปรุงสังคมมุสลิมนั้น ต้องแก้มาจากภายในสังคม มุสลิมเอง เริ่มจากการเรียนการสอนศาสนาที่ถูกต้อง ตามหลักการของอิสลาม รับฟังข้อ ติเตียน และจะต้อง นำมาไตร่ตรองอย่าง จริงจัง เพื่อหาทางแก้ไข และปรับปรุง หรือ ประยุกต์ ให้ถูกกับกาละเทศะ ซึ่งมีบรรทัดฐาน อยู่บนหลักการศรัทธาของศาสนาอิสลาม ให้ก้าวหน้าไปกับสังคมภายนอก
แต่การสอนของสังคมมุสลิมไทยเราและสังคมมุสลิม อื่นๆ ในประเทศด้อยพัฒนา ส่วนมากสอนหลักการของอิสลามให้ก่อเกิดประโยชน์ เฉพาะ แต่ในสังคม ฃองมุสลิมเท่านั้น, และไม่สนใจที่จะนำหลักการของอิสลามที่ ถูกต้องจากอัลกุรอาน มาอธิบายให้สังคมภายนอก เข้าใจ เพื่อจะได้มีการประยุกต์เอาหลักการ ของอิสลาม มาช่วยส่ง เสริม ความเจริญของสังคมภายนอก
ก่อนอื่นเราจะต้องสอนให้มุสลิมไทย เข้าใจความเป็นคนไทย รักประเทศไทย และวัฒนธรรมไทย ที่ไม่ขัดกับหลักการ ที่ถูกต้องของ อิสลาม , มุสลิมไทยจะต้องรักประเทศไทย และยอมสละชีวิตเพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทย ถึง แม้ว่า ศัตรูของประเทศไทย จะเป็น มุสลิมเช่นกันก็ตาม ไม่ใช่ช่วยกันปกปิดความเลวร้ายของมุสลิมที่บ่อนทำลายสังคมไทยและประเทศไทย ดังตัวอย่างที่เห็นได้ชัดๆ ในเหตุการณ์ร้ายแรงทางภาคใต้
การที่จะพัฒนาสังคมมุสลิมในประเทศไทยและในประเทศด้อยพัฒนาต่างๆนั้น ต้องเริ่มจากภายในสังคมของมุสลอมดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จะต้องเริ่มด้วยการ ศึกษาเป็นหลักสำคัญ ทั้งทางด้านความศรัทธาและวิทยาการควบคู่กันไป
การเริ่มการพัฒนาสังคมมุสลิมนั้น มุสลิมจะต้องถามตัวเองก่อนว่า เราต้องการจะมีความเจริญทางวิทยาการควบคู่ไปกับความศรัทธาที่มั่นคงต่ออิสลาม ให้ทัดเทียมและมีความเจริญหรือเป็นผู้นำของสังคมภายนอกหรือไม่?
ถ้าคำตอบ เป็นไปในทางที่มีความต้องการอย่างสูง เราก็ควรจะริเริ่ม เป็นขั้นๆไป ด้วยใจปรารถนาของมุสลิมเอง ไม่ใช่โดยการรอความช่วยเหลือของ สังคมภายนอก(สังคมมุสลิม),
วิธีการพัฒนาจะต้องเริ่มจากอาจารย์ผู้สอนศาสนาในสังคมมุสลิมที่ไม่มีการสอดแทรกจากผู้ออื่นภายนอก อาจารย์ ผู้สอนศาสนาจะต้องนำหลักการที่ ถูกต้องของอิสลาม มาสอน, ไม่ใช่โดยวิธีการมอมเมามุสลิมด้วยเรื่องที่ ไม่มีอยู่ในบัญญัติของ พระเจ้า เพื่อให้มุสลิมลืมเรื่องการทำประโยชน์ให้สังคม โดยทั่วๆไป เพื่อหวังจะไปสวรรค์เพียงอย่างเดียว
จากคุณ :
แมทท์
- [
19 มี.ค. 52 18:28:20
]
|
|
|