ความคิดเห็นที่ 1 ถ่ายรูปบัตรประชาชนถ้าไม่เปิดหน้าจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นตัวจริง สิ่งที่ปกปิดสำหรับผู้หญิงในอิสลาม คือทั้งหมดยกเว้นใบหน้ากับฝ่ามือครับ ส่วนในชีวิตประจำวันถ้าเธอประสงค์ที่จะปิดใบหน้าเพื่อป้องกันตัวเองจากสายตาที่ละเมิดในความสวยงามของเธอ ก็เป็นสิทธิของเธอครับ จากคุณ : ghanee.s - [ 23 มิ.ย. 52 08:09:19 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ลองพิจารณาดูครับ จากคุณ : zakai - [ 23 มิ.ย. 52 10:14:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 บางครั้งก็น่าเห็นใจ จากคุณ : zakai - [ 23 มิ.ย. 52 10:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ Zakai...ครับ... จากภาพที่คุณนำมานั้น...มันเป็นเรื่องที่เค้าทำขึ้นมาเล่นๆ...เพื่อล้อเลียนครับ...ลองเข้าไปดูที่อากู๋นะ... เพราะตามประเพณีอาหรับเองก็ตาม...ชื่อที่ตามหลังจากชื่อจริงจะเป็นชื่อของบิดา...ซึ่งเป็นชื่อผู้ชาย...ส่วนชื่อตามในใบขับขี่ที่นำมาล้อเลียนกันนั้น...เป็นชื่อของผู้หญิงครับ... ส่วนคำว่า...โคมัยนี...เป็นฉายา...หมายถึง...บุคคลที่มาจากเมือง Khomein...ซึ่งเป็นเมืองทางตอนกลางของประเทศอิหร่าน...ซึ่งเป็นเมืองเกิดของ Rouhollah Mousavi Khomeini... ที่สำคัญก็คือ...ชื่อสมมติของผู้หญิงคนนี้...นำมาจากชื่อที่สื่อความหมายถึง บุคคลสำคัญ และ บุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกมุสลิม...3 ท่าน... 1. ท่านหญิงฟาฏิมะห์(ร.ฎ.)...บุตรีของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.)... 2. ท่านหญิงอาอิชะห์(ร.ฎ.)...ภรรยาของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ.ล.)... 3. ท่านอิหม่ามโคมัยนี...ผู้นำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน... ดังนั้น...หากคุณจะนำข้อมูลอะไรมาอ้างอิง...หรือ...เผยแพร่...กรุณาตรวจสอบข้อเท็จจริง...และ...ความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วยครับ... จากคุณ : Crescent ) - [ 23 มิ.ย. 52 12:09:52 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ที่เคยเห็นเค้าก็หน้าตรงปรกตินะครับ แง่บๆ. ผิดปรกติอย่างเีดียวตรง (ถ้าแขกขาวน่ะสวยง่ะ  แต่แขกดำแบบบ้านเรา หุหุ) จากคุณ : itoursab (itoursab) - [ 23 มิ.ย. 52 13:22:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ itoursab ครับ... แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับ...มะละกอ...เนี้ย!!!... จากคุณ : Crescent ) - [ 23 มิ.ย. 52 14:00:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 งั้นพวกเวบหาคู่ หรือสาวๆในอิหร่านออนเอ็ม ก็เห็นแต่ผ้าคลุมหน้าสิคับ จากคุณ : คุณฟิน - [ 23 มิ.ย. 52 14:02:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนในชีวิตประจำวันถ้าเธอประสงค์ที่จะปิดใบหน้าเพื่อป้องกันตัวเองจากสายตาที่ละเมิดในความสวยงามของเธอ ก็เป็นสิทธิของเธอครับ จากคุณ : ghanee.s  - [ 23 มิ.ย. 52 08:09:19 ] ปัญหาก็คือ... เป็นความประสงค์ของเธอเอง? คือเธอสามารถเลือกที่จะปิด หรือไม่ปิด ได้ด้วยตัวเธอเอง หรือเป็นความประสงค์ของคนรอบข้าง หรือสังคมที่เธอดำรงชีวิตอยู่ โดยอ้างศาสนา? ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังก็หมายความว่า เธอไม่มีโอกาสเลือกค่ะ จากคุณ : หนอนดาวเรือง - [ 23 มิ.ย. 52 22:51:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องศาสนาอิสลามอนุญาตให้เปิดเผยใบหน้าและฝ่ามือได้     ถ้าไม่ยอมเปิดหน้าเวลาทำบัตรประชาชน ก็ออกนอกประเทศไปซ่ะ ถือว่าไม่ใช่คนไทย(ปิดหน้า ผมไม่คิดว่านั้นคือทัศนะส่วนตัวแล้วไม่เคารพกติกาประเทศ) จากคุณ : bawon - [ 24 มิ.ย. 52 00:08:58 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับ คุณ หนอนดาวเรืองที่สุด เมื่อวานไปซื้อชานมแถวๆพัฒนาการ38 ซื้อเสร็จก็เดินมาตรงนั้นมืดๆหน่อยๆมีผู้หญิงมุสลิมเดินอกมาจากซอยมาจ๊ะเอ๋กันเราตกใจร้องเสียงดังเธอปิดเห้นแต่ตาสลัวๆก้กลัวเหมือนกันนะ จากคุณ : gaylove - [ 24 มิ.ย. 52 01:56:41 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอความสันติจงมีแด่ท่าน มีหลักฐานทางศาสนาระบุไว้ และเป็นไปด้วยความประสงค์ของเธอเอง เรื่องศรัทธาถึงขั้นปิดหน้านั้น ไม่มีใครไปกำหนดบังคับกะเกณฑ์เธอได้ค่ะ นอกจากศรัทธาส่วนตัวของเธอเอง..... เวลาปฏิบัติตามกฏระเบียบบ้านเมืองถ่ายรูปเธอก็ต้องเปิดหน้าสิคะ แล้วก็ปิดลงตามปกติ เพราะจะได้รู้ว่าใครเป็นใครนั่นเอง คนเราต้องการผลบุญ จำเป็นต้องไปบังคับให้คนอื่นทำบุญนั่นๆด้วยรึคะ ? เวลาเราคิดถึงเรื่องอื่น ที่มีหลักมาจากเรื่องศรัทธาเป็นหลักตั้งต้นนั้น เราไม่สามารถเอาความคิดเราไป ตีค่าศรัทธาเขาได้ แล้วบอดกว่าเขาผิดนะ แต่คุณถูก ต้องทำตามคุณสิ เพราะจุดยืนความรู้ความเข้าใจแตกต่างกัน ลองไปยืนตรวจุดของเขา ว่ามีเหตุและผลอันใด บนความเข้าใจจากจุดเดียวกันน่าจะดีกว่าค่ะ เหมือนดังเรามองตรงนี้เห็นสีส้ม แต่เขามองตรงจุดของเขา มันเป็นสีเหลือง และมันก็เป็นสีเหลืองจริงๆ   แต่เรากลับว่าเขามองสีผิด  นั่นเพราะเรา status แตกต่างกัน ดีของเรา กับดีของเขามันแตกต่างกันตรงนี้ แล้วเรามักเราดีของเราไปให้กับเขา ซึ่งมันอาจจะไม่ดีกับเขาก็ได้ เช่น เราซื้อไก่ทอดข้างทางที่มันทอดรวมๆกับหมู  หรืออาหารคนทำไม่ใช่มุสลิม(โดยเฉพาะของที่เกี่ยวข้องกับเนื้อสัตว์) เราก็ซื้อไปฝากเขา เข้าใจว่าเจตนาเราดี แต่เพื่อนเราก็ทานไม่ได้ (ถ้าคนที่รู้และเข้าใจศาสนาจะเลือกทานของที่ถูกต้องตามหลักศาสนาค่ะ) บางทีเราก็งง ทำไมเพื่อนไม่ทาน อุตส่าซื้อมาฝาก นั่นเพราะเราคิดเองว่าน่าจะ  "น่าจะ"  นั้นก็ต้องถามเขานิดนึง อย่างน้อยๆ คุณจะเป็นคนเอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วเพื่อนคุณก็จะตอบแทนคุณมากกว่าเดิม เพราะคุณเองก็ทำให้เห็นว่ามีน้ำใจค่ะ ยกตัวอย่างเรื่องของกิน น่าจะเข้าใจง่ายๆ(เนอะ) ด้วยความเคารพค่ะ จากคุณ : นะ(รก) - [ 24 มิ.ย. 52 06:25:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คุณหนอนดาวเรือง...และ...คุณgaylove...ครับ... ในเรื่องของการคลุมหน้านั้น...เป็นเรื่องของการสมัครใจ...อย่างที่คุณ ghanee.s , คุณนะรก...บอกไว้นะครับ... ผมเห็นว่าก็คล้ายๆกับ...แม่ชี...ในทางพุทธศาสนา...ครับ...แม่ชีก็คือ...สตรีที่นุ่งขาวห่มขาว โกนศีรษะ ถือศีล 8...แต่...สถานะของท่านก็ไม่ใช่นักบวชในทางพุทธศาสนา...แต่เป็นหนึ่งในพุทธบริษัทสี่ ...คือเป็น...อุบาสิกา...เท่านั้น... หากจะถามว่า...มีใครบังคับให้ท่านเหล่านั้นเป็นแม่ชีหรือไม่...ก็ไม่มี... หากจะถามว่า...ท่านเหล่านั้นก็ครองตัวเป็นคฤหัสถ์แล้วถือศีลตามนั้นได้หรือไม่...ก็สามารถทำได้...แต่...ท่านเห็นชอบกับการครองตนเป็นแม่ชีมากกว่า... หากจะถามว่า...แม่ชี...มีบัญญัติอยู่ในพุทธบัญญัติหรือไม่...ก็ไม่มี... สิ่งที่แม่ชีทั้งหลายได้ปฏิบัติอยู่นั้น...เป็นไปด้วยความสมัครใจ...สมัครใจในการครองตนเช่นนั้น... ขอนอกเรื่องไปหน่อยนะครับ...ว่า...ตามความรู้สึกของผม...แม่ชีก็คือ...สถาบันที่ตอบสนองความต้องการของสตรี...ที่จะเข้าสู่เพศบรรพชิต...แต่...ไม่สามารถก้าวข้ามผ่านประตูแห่งพระวินัยเพื่อเข้าสู่โลกแห่งบรรพชิตไปได้...จึงได้เพียง...เกาะรั้วของโลกแห่งบรรพชิตเท่านั้น... ลองดูเรื่องสถานะของแม่ชี...ในหัวข้อ...แม่ชี : โลกของผู้หญิงที่ถูกลืม...ตามนี้นะครับ... http://www.bookgang.net/paper/172 กลับเข้าเรื่องนะครับว่า...นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่มุสลิมะห์บางท่านจะปิดหน้าของตน...นอกเหนือจากการคลุมฮิญาบตามศาสนบัญญัติ...ซึ่งก็เป็นสิทธิของเธอที่จะกระทำได้...ก็เป็นไปด้วยความสมัครใจ...สมัครใจในการครองตนเช่นนั้น...เช่นกัน... ผมเองไม่ได้บอกว่า...มุสลิมะห์ที่คลุมหน้า...กับ...แม่ชีเหมือนกัน...แต่เพียงแค่ยกตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบเท่านั้นครับ... ในศาสนาอิสลาม...พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกล่าวไว้ในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานแล้วว่า...ไม่มีการบังคับในศาสนา...2:256 ... ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ...คุณควรที่จะต้องแยกให้ออกระหว่าง...ศาสนบัญญัติ...กับ...ทัศนะคติและความคิดเห็นส่วนบุคคล...ให้ออกจากกัน...อย่าชักพาตนเองให้เข้าสู่แนวคิดเหมารวมแบบผิดๆ...ซึ่งจะนำพาไปสู่...การสร้างแนวคิดและทัศนะคติที่ผิดๆ...จนก่อให้เกิดเป็น...อคติ...ขึ้นมาได้ครับ... จากคุณ : Crescent ) - [ 24 มิ.ย. 52 10:12:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 #6 ขออนุญาตนะครับ กร้ากกกกกกกกกกกก เข้าใจสรรหา .... เรากินเพื่อแก้หิวตอบสนองความต้องการรักษาร่างกาย หรือกินเพื่ออร่อยตอบสนองทางอารมณ์ เคยถามตัวเองมั๊ย.... มันมีการกินเพื่ออะไรที่มากกว่าแค่ตัวเองรึเปล่า คนที่มองไม่พ้นตัวเองจึงย่อมไม่สามารถเข้าใจได้ ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม จากคุณ : itoursab (itoursab) - [ 24 มิ.ย. 52 12:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องการรับประทาน...สำหรับมุสลิมแล้ว...มันเป็นการบริโภคมากกว่าเพื่อตัวเอง... ข้อปฏิบัติ - ข้อห้ามที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค...มีอยู่อย่างมากมาย...ทั้งหลายทั้งปวงนี้...มุสลิม...ได้ถือปฏิบัติไม่ใช่เพื่อตัวเอง...แต่ทั้งหมด...เพื่อพระผู้เป็นเจ้า... ก่อนการเริ่มต้นในการกระทำกิจกรรมต่างๆของมุสลิม...จะเริ่มด้วย...การกล่าวว่า... ด้วยพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้ทรงกรุณาปราณี พระผู้ทรงเมตตาเสมอ...ไม่เว้นแม้แต่การรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน... ดังนั้น...หากจะถามว่า...มันมีการกินเพื่ออะไรที่มากกว่าแค่ตัวเองรึเปล่า...คำตอบคือ...การกินด้วยศรัทธา เพื่อพระผู้เป็นเจ้า...ผู้ทรงสูงส่งยิ่ง...ครับ... ดังโองการจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน...ความว่า 6:162. จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด)ว่า แท้จริงการละหมาดของฉัน และการประกอบศาสนกิจของฉัน และการมีชีวิตของฉัน และการตายของฉันนั้น เพื่ออัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลกเท่านั้น จากคุณ : Crescent ) - [ 24 มิ.ย. 52 14:24:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 #14 ขอบคุณครับ ศรัทธากับงมงาย นิยายกับคัมภีย์ ต่างกันยังไงนะ? อัลลอฮวัลลัม แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 52 20:41:37 จากคุณ : itoursab (itoursab) - [ 24 มิ.ย. 52 20:40:39 ]

ความคิดเห็นที่ 16 Zakai กลับไปอยู่เผ่าของแกตามเดิมเหอะ อย่ามาโชว์เกรียนแถวนี้ จากคุณ : Sanmal - [ 26 มิ.ย. 52 08:52:08 ]