PANTIP.COM : Y8131551 5 ผู้ถูกธรณีสูบสมัยพุทธกาล []

5 ผู้ถูกธรณีสูบสมัยพุทธกาล

พระเทวทัต ถูกธรณีสูบ

โดยทั่วไป เราทราบกันว่า ในสมัยพระพุทธองค์มีคนที่ทำความชั่วจนถูกธรณีสูบไป 1 คน คือ พระเทวทัต แต่ความจริงมีถึง 5 ซึ่งทุกคนล้วนแต่ก่อกรรมทำเข็ญมุ่งร้ายต่อพระพุทธองค์และสาวกของพระองค์ทั้ง สิ้น

พระเทวทัต เป็นพระเชษฐาของพระนางยโสธราพิมพา ชายาของเจ้าชายสิทธัตถะ ตามพระพุทธประวัติกล่าวว่า พระเทวทัตตามล้างตามผลาญพระพุทธองค์มาแล้วหลายชาติ

แรกเริ่ม นั้น เมื่อครั้งพระเทวทัตเกิดเป็นพ่อค้า พระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพ่อค้าเช่นกัน ได้มีหญิงชราเป็นผู้ดีตกยากนำถาดทองสมบัติเก่าที่ยังเหลืออยู่ไปขายพระเท วทัต เพื่อจะหาเงินยังชีพ ด้วยนิสัยพ่อค้าที่คดด้วยเล่ห์ พระเทวทัตจึงบอกว่าถาดนั้นไม่ได้ทำด้วยทองแท้และตีราคาให้ต่ำ หญิงชราทราบดีว่าสมบัติเก่าของนางนั้นเป็นของมีค่า จึงไม่ยอมขายให้ พอดีกับพระพุทธองค์ขณะเสวยชาติเป็นพ่อค้าเสด็จผ่านมา หญิงชราจึงนำถาดทองเสนอขาย พระพุทธองค์เห็นว่าเป็นถาดที่ทำด้วยทองแท้ จึงให้ราคาสมกับค่าของถาด หญิงชราจึงได้ขายสมบัติชิ้นสุดท้ายนั้นให้พระพุทธองค์

เรื่องนี้ สร้างความโกรธแค้นแก่พระเทวทัตมาก เพราะถ้าไม่มีพระพุทธองค์ หญิงชราก็จำต้องขายให้ตนเพราะความยากจนบีบบังคับ พระเทวทัตจึงกำทรายขึ้นมา 1 กำมือ แล้วหว่านออกไปพร้อมกับประกาศว่า จะขอจองล้างจองผลาญพระพุทธองค์ไปทุกชาติ เท่ากับเม็ดทรายเม็ดละชาติ

จากนั้นพระ เทวทัตก็ติดตามจองเวรกับพระพุทธองค์มาหลายชาติ ชาติสุดท้ายก่อนเกิดเป็นพระเทวทัตจนถูกธรณีสูบ ได้เกิดเป็นชูชกขณะที่พระพุทธองค์เสวยชาติเป็นพระเวสสันดร

ในชาติที่ พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ พระเทวทัตก็มีจิตริษยาอาฆาตพระพุทธองค์มาแต่เยาว์วัย เมื่อพระพุทธองค์ทรงผนวช พระเทวทัตก็ออกผนวชด้วย และเมื่อพระพุทธองค์บรรลุพระโพธิญาณ พระเทวทัตก็สำเร็จโลกีย์ญาณ ได้อภิญญาสามารถแปลงกายและเหาะเหินเดินอากาศได้

จากคุณ : Mr.Terran

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 20:13:10

ความคิดเห็นที่ 1

แม้จะสำเร็จ ถึงขั้นนี้แล้ว พระเทวทัตก็ยังมุ่งประกอบการชั่วจองล้างจองผลาญพระพุทธองค์ตลอด ครั้งหนึ่งได้ส่งนายขมังธนูไปปลงพระชนม์ เพื่อจะตั้งตนเป็นพระศาสดาเสียเอง เมื่อไม่สำเร็จก็ยุยงให้พระเจ้าอชาติศัตรูที่เคยเลื่อมใสพระพุทธองค์ จนหลงผิดถึงขั้นปลงพระชนม์บิดาของตัวเอง และยังยุให้มอมเหล้าช้างนาฬาคีรีให้เมามันดุร้ายไปทำร้ายพระพุทธเจ้า ทั้งยังยุยงหมู่สงฆ์สาวกของพระพุทธองค์ว่าพระองค์ยังพัวพันกับกิเลส มัวหมองในพรหมจรรย์ ฉันพระกระยาหารที่ปรุงด้วยเนื้อสัตว์ ขณะที่พระเทวทัตหันไปฉันมังสวิรัติ และโอ้อวดว่ามีพรหมจรรย์ที่เหนือกว่า

ความชั่ว ร้ายต่างๆ ที่พระเทวทัตสะสมมาหลายชาติ ก็ได้บันดาลให้แผ่นดินลงโทษ เพราะไม่อาจจะแบกความชั่วไว้ได้ต่อไป แยกตัวออกสูบพระเทวทัตตกลงขุมนรกอเวจี หมกไหม้ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป

^{นายขมังธนูซึ่งพระเทวทัตส่งไปฆ่าพระพุทธองค์ ปลงอาวุธ ฟังธรรม สำเร็จมรรคผล}

จากคุณ : Mr.Terran

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 20:14:23

ความคิดเห็นที่ 2

ส่วนคนที่ 2 ซึ่งถูกธรณีสูบในสมัยพุทธกาลก็คือ สุปปะพุทธะ ซึ่งเป็นพระราชบิดาของพระเทวทัตและพระนางยโสธราพิมพา พระชายาของเจ้าชายสิทธัตถะนั่นเอง เมื่อรู้ว่าพระเทวทัตถูกธรณีสูบเพราะจองล้างจองผลาญพระพุทธองค์ แทนที่สุปปะพุทธะจะสำนึกในบาปบุญคุณโทษ กลับมีจิตโกรธแค้นอาฆาต ทั้งยังโกรธแค้นเจ้าชายสิทธัตถะที่ทอดทิ้งธิดาของตนออกผนวช จึงนำอำมาตย์ข้าราชบริพารไปนั่งดื่มสุรา ขวางทางที่พระพุทธองค์จะออกโปรดเวไนยสัตว์ ทำให้พระพุทธองค์เสด็จดำเนินไม่ได้เพราะมีทางออกอยู่ทางเดียว ถึงกับต้องอดพระกระยาหารไป 1 วัน

เมื่อพระอานนท์ทูลถามถึงความผิดของสุปปะพุทธะที่กระทำเช่นนั้น พระพุทธองค์ซึ่งทราบด้วยญาณ จึงตรัสว่า

"ดูกร อานนท์ หลังจากนี้ไปได้เจ็ดวัน สุปปะพุทธะจะลงอเวจีตามเทวทัตไป"

เมื่อสุปปะ พุทธะทราบถึงพุทธดำรัส จึงขึ้นไปประทับบนชั้น 7 ของปราสาท ทั้งยังให้นายทวารคอยขัดขวางไว้ไม่ให้พระองค์ออกจากปราสาทใน 7 วัน

สุปปะพุทธะ ประทับอยู่ในปราสาทชั้น 7 จนถึงวันที่ 7 ก็ได้ยินเสียงม้าแก้ว ซึ่งเป็นม้าที่ทรงโปรดร้องก้อง ด้วยความเป็นห่วงม้า สุปปะพุทธะจึงวิ่งลงมา เหล่านายทวารก็คิดว่าครบ 7 วันตามกำหนดแล้ว จึงไม่มีผู้ใดขัดขวางไว้

พอสุปปะพุทธะก้าวพ้นปราสาท เหยียบพระบาทลงบนพื้น ธรณีก็เปิดออก สูบสุปปะพุทธะลงสู่ขุมนรกอเวจีตามพุทธดำรัสที่ทรงรู้ด้วยญาณ

^{พิธีอภิเษกสมรส พระสิทธัตถะ กับ พระนางยโสธราพิมพา}
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 52 20:16:13

จากคุณ : Mr.Terran

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 20:15:32

ความคิดเห็นที่ 3

รายที่ 3 ที่ถูกธรณีสูบอีกคนก็คือ นันทมานพ แม้จะมิได้ทำร้ายต่อพระพุทธเจ้าโดยตรง แต่ก็ได้ทำผิดขั้นร้ายแรงต่อพระอรหันต์

เหยื่อของ นันทมานพ ก็คือ ท่านอุบลวรรณาเถรี สตรีผู้มีโฉมงดงาม เป็นที่หมายปองของชายผู้พบเห็นตั้งแต่พระราชาและเศรษฐี คหบดีทั่วไป แต่ท่านอุบลวรรณาเถรีเบื่อหน่ายในโลกีย์สุข ต้องการหาความสงบตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า จึงออกบรรพชาเป็นภิกษุณีตั้งแต่อายุได้ 16 ปี ในที่สุดก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

แม้ท่านอุบล วรรณาเถรีจะก้าวไปอยู่ในโลกแห่งความสงบ ปราศจากกิเลสใดๆ แล้ว แต่นันทมานพก็ยังฝังใจด้วยกิเลสตัณหา ปรารถนาจะลิ้มรสสวาทจากนางให้ได้ วันหนึ่งจึงไปแอบซุ่มอยู่ในป่าข้างกระท่อมที่ท่านอุบลวรรณา จำพรรษาอยู่ เมื่อเห็นว่าออกจากกระท่อมไปบิณฑบาตแล้ว นันทมานพก็เข้าไปซ่อนอยู่ใต้เตียง และเมื่อท่านอุบลวรรณฯ กลับมานันทมานพก็เข้าปลุกปล้ำ แม้ท่านอุบลวรรณฯ จะร้องให้คนช่วยก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะอยู่ในป่าเปลี่ยววิเวก พระอรหันต์อุบลวรรณาเถรีจึงได้กล่าวกับนันทมานพหวังจะเตือนสติให้เขาสำนึกใน การกระทำว่า

"จงอย่าทำเช่นนี้เลย ความหายนะจะมาสู่ท่าน"

นันทมานพก็หาฟังไม่ ปลุกปล้ำท่านอุบลวรรณฯ จนสำเร็จดังใจปรารถนา แต่พอเขาก้าวลงจากแคร่ ธรณีก็เปิดอ้าสูบลงไปในขุมนรกอเวจี เพราะกรรมที่เขาก่อกับพระอรหันต์นั้นหนักหนาสาหัสนัก

การที่ท่าน อุบลวรรณฯ ถูกกระทำเช่นนี้ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของภิกษุ ภิกษุณี และพุทธบริษัททั้งปวงว่า เมื่อท่านอุบลวรรณฯ ได้รับการสัมผัสเช่นนี้ ย่อมจะฝืนความยินดีให้คล้อยตามไปด้วยยาก พระพุทธองค์จึงตรัสบอกกับพุทธสาวกว่า

"พระอรหันต์ นั้นเป็นเช่นเดียวกับไม้ผุ ไม่มีกิเลสและไม่มีความยินดีในกิเลส เฉกเช่นตุ๊กตาที่ไม่มีความปรารถนาในการสัมผัสฉันใด พระอรหันต์ก็เป็นฉันนั้น..."

^{พระอุบลวรรณาเถรี}

จากคุณ : Mr.Terran

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 20:18:35

ความคิดเห็นที่ 4

รายที่ 4 ที่ถูกธรณีลงโทษเป็นหญิง และเป็นหญิงรายเดียวใน 5 รายที่ถูกธรณีสูบ ซึ่งได้ทำบาปกรรมต่อพระพุทธองค์โดยตรง นางนี้มีนามว่า จิญจมาณวิกา หลงผิดไปรับอาสาจากพวกปริพพาชก ผู้เชื่อถือศรัทธาในนิกายหนึ่ง ซึ่งเกิดความอิจฉาริษยาที่เห็นคนไปเคารพเชื่อถือในคำสอนของพระพุทธองค์ จึงว่าจ้างให้นางจิญจมาณวิกาแกล้งทำเป็นหญิงมีครรภ์ โดยเอาไม้กลึงนูนไปผูกรัดไว้ที่หน้าท้องในเสื้อผ้า ให้ดูเหมือนนางกำลังมีครรภ์ แล้วไปเต้นร้องต่อหน้าพระพุทธองค์ขณะที่กำลังเทศนาแก่สาวกว่า

"ท่านสมณะโคดม จะมัวมาเทศน์หน้านวลอยู่ไย ทำให้ฉันมีครรภ์เช่นนี้มิดูแล อย่ามัวเทศน์โปรดสัตว์อยู่เลย จงไปตัดฟืนไว้ให้ฉันดีกว่า เมื่อเวลาคลอดลูกจะมิลำบาก"

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสดับจึงหยุดเทศนา กล่าวกับนางจิญจมาณวิกาด้วยท่าทีสงบว่า

"ดูก่อนภักคินี เรื่องที่เธอกล่าวนั้น คนอื่นเขาไม่รู้ด้วยหรอก จะมีเธอกับฉันสองคนเท่านั้นที่รู้"

^{นางจิญจมาณวิกา ถูกธรณีสูบ}

จากคุณ : Mr.Terran

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 20:20:04

ความคิดเห็นที่ 5

เหล่าพุทธ บริษัททั้งหลายที่ได้ฟังต่างก็สงสัย ด้วยพระพุทธองค์ก็มิได้ทรงปฏิเสธ ร้อนถึงพระอินทร์ต้องแปลงร่างเป็นหนู ไปกัดเชือกที่หน้าท้องของนางจิญจมาณวิกา เมื่อเชือกขาดไม้ที่ทำให้ท้องนูนเหมือนคนท้องจึงหลุดลงท่ามกลางสายตาของพุทธ บริษัท นางตกใจวิ่งหนีไปแต่พอลับตา ธรณีก็สูบเอาลงขุมนรกอเวจีไปอีกราย

นางจิญจมาณวิกาผู้นี้ เมื่อชาติก่อนเกิดเป็นนางอมิตตา ภริยาชูชก หรือพระเทวทัตที่จองเวรพระพุทธองค์มาหลายชาติ

^{พระอินทร์แปลงร่างเป็นหนู ไปกัดเชือกที่หน้าท้องของนางจิญจมาณวิกา}

จากคุณ : Mr.Terran

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 20:20:59

ความคิดเห็นที่ 7

ส่วนรายที่ 5 ที่ถูกธรณีสูบไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นยักษ์ มีนามว่า นันทยักษ์ ซึ่งมีฤทธิ์เดชมาก วันหนึ่ง นันทยักษ์ได้เหาะเหินเดินอากาศมากับเหมตายักษ์ ผู้เป็นสหาย ครั้นผ่านมาถึงที่พระสารีบุตร สาวกของพระพุทธองค์กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ ทำให้อากาศธาตุในบริเวณนั้นว่างเปล่า ยักษ์สองสหายไม่สามารถเหาะผ่านไปได้ นันทยักษ์ผู้มีนิสัยพาล ชาติก่อนก็อาฆาตผูกพยาบาทพระเถระไว้ จึงทำปาณาติบาต ต่อพระสารีบุตรด้วยสันดานพาล เหมตายักษ์ ได้ทัดทาน แต่นันทยักษ์ก็ไม่ฟัง เหาะขึ้นกลางอากาศแล้วใช้กระบองซึ่งเป็นอาวุธประจำตน ฟาดลงมาหมายเศียรของพระสารีบุตร ความแรงของอิทธิฤทธิ์นันทยักษ์ทำให้ภูเขาระเนระนาดไปถึง 100 ลูก แต่พระสารีบุตรซึ่งอยู่ในสมาธิหาเป็นอันตรายอย่างใดไม่ ยิ่งทำให้นันทยักษ์เกิดเร่าร้อนในอารมณ์ ตะโกนก้องไปทั่วทิศว่า

"เราร้อน....เราร้อน"

ทันใดก็ตกลงมาจากอากาศ พลันแผ่นดินก็เปิด สูบเอานันทยักษ์ลงขุมนรกอเวจีไปอีกราย นับเป็นรายที่ 5 ในสมัยพุทธกาล

^{ที่มา www.dhammakid.com}

จากคุณ : Mr.Terran

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 20:37:50

ความคิดเห็นที่ 8

สมัยเด็กๆอ่านเรื่องแบบนี้แล้วงงมากว่าโลกนี้มันมีคนพาลไม่รู้ดีชั่วกันขนาดนี้เลยเหรอ

แต่ตอนนี้หายงงแล้ว

จากคุณ : qwe

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 21:30:18

ความคิดเห็นที่ 9

สาธุ..
เป็นไปตามกรรม

จากคุณ : น้องต๋าว

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 21:41:33

ความคิดเห็นที่ 10

ขอบคุณครับ ผม

จากคุณ : view2306

เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 52 22:55:32

ความคิดเห็นที่ 11

ได้ความรู้มากเลยครับ ห้องพันธ์ทิพย์มีผู้รู้ มากเลย
และอนุโมทนาบุญกับการเผยแผ่ธรรมะ ครับ

จากคุณ : ทะเลบุญ

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:09:30

ความคิดเห็นที่ 12

เรียงตามลำดับที่กล่าวมาเลยหรือเปล่าครับ

จากคุณ : ใจพรานธรรม

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 00:23:05

ความคิดเห็นที่ 13

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ เป็นความรู้ใหม่เลย ขออนุญาตเก็บไว้ด้วย เผื่อวันหลังจะได้ไปเผยแพร่ต่อ

จากคุณ : jintean

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 07:08:59

ความคิดเห็นที่ 14

ผมเองก็ยังไม่รู้ตั้งหลายอย่าง ได้มารู้วันนี้
อนุโมทนานะครับ

สิ้นเดือน กิฟท์หมด ไม่มีให้กู้ด้วยสิ

จากคุณ : จักรแก้ว

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 07:43:45

ความคิดเห็นที่ 15

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ smile

จากคุณ : Shoe_Shine

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 08:07:37

ความคิดเห็นที่ 16

ขอบคุณครับ

กรรมใดใครก่อ คนนั้นก็ต้องเป็นผู้รับ

กรรมใดไม่ได้ก่อ ก็ไม่ต้องรับ

จากคุณ : เผ่นพันลี้

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 09:28:48

ความคิดเห็นที่ 17

โอ้~~ Mr.Terran มาแนวนี้ด้วยหรือนี่

จากคุณ : Disorder

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 10:03:14

ความคิดเห็นที่ 18

สนุกดีค่ะ ชอบ

จากคุณ : nuch_tiew

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 10:17:03

ความคิดเห็นที่ 19

ผมว่า จิญจมาณวิกา โดนก่อนเพราะอยู่ในช่วงที่พระพุทธเจ้าแสดงปาฎิหารย์ เดียรถีไม่ชอบซึ่งเป็นช่วงต้นๆ

จากคุณ : Pu121

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 10:57:58

ความคิดเห็นที่ 20

ดีจังค่ะ
ชอบอ่านสาระความรู้สมัยพุทธกาลแบบนี้
อ่านแล้วรู้สึกดีค่ะ ชอบๆ
ขออนุญาต copy ไว้อ่านนะคะ

สงสัยนิดนึงค่ะ
ทำไม พระเทวทัต ทำบาปมากขนาดนี้
ทำไมถึงได้เกิดเป็นมนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่าได้อีก
แถมชาติสุดท้าย ได้เกิดเป็นถึงเชื้อเจ้า
เป็นพี่ชายของพระนางพิมพา
ใครพอรู้บ้างคะ

จากคุณ : snoopy21

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 11:19:44

ความคิดเห็นที่ 21

สังสารวัฏฏนี้ยาวนานนัก พระเทวทัตคงได้บำเพ็ญบารมีมามิใช่น้อย ในสมัยที่ไม่ได้เกิดร่วมพระชาติเดียวกับพระโพธิสัตว์ แต่เรื่องราวถูกยกขึ้นสู่พระบาลีเฉพาะสมัยที่เกิดร่วมพระชาติเดียวกับพระโพธิสัตว์ จึงทำให้ดูเหมือนว่าพระเทวทัตประกอบแต่กรรมชั่ว ผมเดาว่า จริง ๆ ก็มีทั้งดีทั้งชั่วปนกัน

มีพุทธทำนายว่าท้ายที่สุดแล้ว พระเทวทัตจะเป็นปัจเจกพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง

จากคุณ : wichaphon_me

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 11:36:40

ความคิดเห็นที่ 22

เคยฟังมาว่า พระเทวทัต ก็เป็นคนธรรมดาที่มีดีบ้างชั่วบ้าง
แม้นจะพยาบาทจองเวรพระโพธิสัตว์มาหลายชาติจนกระทั่งท่านได้เป็นพระพุทธเจ้า
แต่ตอนมีชีวิตในชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ก็เคยทำบุญ เคยแจกทานมามาก บุญก็อยู่ส่วนบุญ บาปก็อยู่ส่วนบาป

จากคุณ : zmen

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 11:47:40

ความคิดเห็นที่ 23

เข้ามาเพราะชื่อ จขกท ค่ะ

เข้ามาอ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย
เพิ่งรู้เหมือนกันค่ะว่ามีตั้ง 5 คน แถมมีผู้หญิงด้วย -*-

ขอบคุณนะค๊าาาาาา

จากคุณ : เลดี้ลิลิ

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 12:38:39

ความคิดเห็นที่ 24

สาธุ...

สาธุ...

สาธุ...

จากคุณ : กรรไกรรัตนะ

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 12:41:24

ความคิดเห็นที่ 25

ชอบครับ gift เหลือ แจกแทน คุณ จักรแกล้วครับผม

-----------------------------
เจริญธรรมครับ

จากคุณ : XeRaMos

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 13:11:29

ความคิดเห็นที่ 26

Mr.Terran มาแปลกจังครับรอบนี้

น่าจะมีประวัติมนุษย์ต่างดาวถูกธรณีสูบบ้างนะครับ

ผมล้อเล่นนะ ! แจกกิ๊ฟให้แล้วด้วย ^__^'

จากคุณ : macenjoy

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 14:05:24

ความคิดเห็นที่ 27

เคยได้ยินมาว่า พระเทวทัตได้สำนึกผิดก่อนจะตาย ได้ถวายกระดูกคางแก่พระพุทธเจ้า แล้วยอมรับโทษทัณฑ์ในอเวจี จากนั้นจะมาเกิดใหม่บำเพ็ญบุญจนได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในอีกหลายอสงไขยภายภาคหน้า

ปล. สงสารญาติๆ พระเทวทัต มีโอกาสได้สำนึกตัวบ้างไหมหนอ

จากคุณ : กระต๊อบน้อย

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 14:29:42

ความคิดเห็นที่ 28

เราทราบเเต่พระเทวทัต

ภาพประกอบของอาจารย์เหม เวชกรสวยดีค่ะ

ขอบคุณจขกทคุณMr.Terranค่ะ นกหนาว

จากคุณ : yaoicuty

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 14:45:28

ความคิดเห็นที่ 29

ดินแถวนั้นมันอ่อนเหรออ่ะ..

จากคุณ : 56789+ (Baritoreca)

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 15:56:36

ความคิดเห็นที่ 30

อีกกระทู้ที่เกี่ยวข้องครับ ของคุณ Pu121

http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y8134162/Y8134162.html

ลำดับการถูกธรณีสูบ พระเทวทัต ถูกสูบทีหลัง สุปปพุทธ

จากกระทู้ 5 ผู้ถูกธรณีสูบ
อยากทราบว่าใครโดนสูบคนแรก
ซึ่งผมเดาว่าน่าจะเป็น
1. นันทมานพ อันนี้ไม่ทราบแต่เดาเอาน่าจะ พรรษาที่ ๖
จำพรรษาที่ มกุลบรรพต แคว้นมคธ
- ห้ามพระภิกษุแสดงอิทธิปาฏิหาริย์
- ปรารภจะแสดงยมกปาฏิหาริย์เอง
ออกพรรษา
- เดียรถีย์สร้างสำนักหลังวัดเชตวัน พระเจ้าปเสนทิโกศล เปลี่ยนเป็นสร้างอารามสำหรับภิกษุณี เรียกราชการาม
- เพ็ญเดือน ๘ แสดงยมกปาฏิหาริย์ นอกเมืองสาวัตถี

2. จิญจมาณวิกา /[b] ประมาณ พรรษาที่ ๗
จำพรรษาที่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
- แสดงพระอภิธรรมโปรดพุทธมารดาตลอดไตรมาสจนบรรลุเป็นพระโสดาบัน
- เรื่องอังกุรเทพบุตรและอินทกเทพบุตร
- ลงจากชั้นดาวดึงส์ ที่ประตูเมืองสังกัสสะ หลัง
ออกพรรษา
- เสด็จกรุงสาวัตถี
- ปรารภเรื่องนางปฏิปูชิกา ภรรยาของมาลาภารีเทพบุตร
- นางจิญจมาณวิกา ใส่ความพระพุทธเจ้า ถูกธรณีสูบลงอเวจีมหานรก

[b]3. สุปปพุทธ พรรษาที่ ๑๕ เสด็จไปยังกรุงกบิลพัสดุ์ สุปปพุทธะถูกแผ่นินสูบเพราะขัดขวางทางโคจร

4. เทวทัต พรรษาที่๓๗ เทวทัตคิดปกครองสงฆ์
- วางแผนปลงพระชนม์พระศาสดา
- ปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสาร
- พระเทวทัตถูกธรณีสูบ

5. นันทยักษ พระบรมศาสดาประทับอยู่ที่พระเวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์
เดาว่า พรรษาที่ 2-4 เพราะยังมีการแสดงฤทธิ์
ถ้าเป็นพรรษาท้ายๆ ไม่น่าจะใช่ ท่าใดมีข้อมูลช่วยชี้แนะด้วย

ไม่ทราบว่าท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมบ้างครับ

จากคุณ : Pu121
เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 13:05:46
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 52 16:21:39
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 52 16:21:09
แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 52 16:20:31

จากคุณ : KornM

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 16:17:46

ความคิดเห็นที่ 31

ไม่รู้ว่าปัจจุบันยังมีคนถูกธรณีสูบอีกหรือเปล่า

จากคุณ : oui (chung oui)

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 19:46:03

ความคิดเห็นที่ 32

คห. 31
ดินถล่มนี่ครือกันไหมครับ มีข่าวอยู่บ้าง ช่วงหน้าฝนนี่แหละ
ธรณีสูบ กับแผ่นดินยุบน่าจะได้นะ

จากคุณ : in_my_metal

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 22:53:46

ความคิดเห็นที่ 33

มีคนเค้าเคยบอกว่าธรณีสูบคือโดนประชาทันฑ์นั่นเอง

แต่พูดให้มีดูดี งะ 555+

จากคุณ : ป้าซื่อตรง

เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 00:32:26

ความคิดเห็นที่ 34

ชอบมากครับ

จากคุณ : เจ้าชายมีมี่

เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 01:54:33

ความคิดเห็นที่ 35

ผู้ที่ถูกธรณีสูบหมายถึงผู้ที่ทำชั่วอันหนัก
ธรณีไม่อาจจะรองรับไหว
คนโบราณจึงบอกว่า อยู่ไปก็หนักแผ่นดิน

สมัยคนมีโทสะกันมาก ก็ฆ่ากันมาก ล้มตายไปจากแผ่นดิน
สมัยใดคนมีโลภะกันมาก คนก็จะอดอยาก ข้าวของแพง ผู้เคนล้มตายไปจากแผ่นดิน
สมัยคนมีโมหะกันมาก จะเกิดโรคระบาดร้ายแรง ผู้คนล้มตายไปจากแผ่นดิน

จากคุณ : ใจพรานธรรม

เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 11:18:06

ความคิดเห็นที่ 36

ได้ความรู้ดีมากเลย เนื่อเรื่องก็น่าอ่านน่าติดตาม อนุโมทนาบุญนะคะ
give หมดแล้วค่ะ

inlove

จากคุณ : น้อมเศียรเกล้า

เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 16:57:21

ความคิดเห็นที่ 37

ช่างน่าสยดสยองนัก

จากคุณ : SpiritWithin_HolyStream

เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 52 21:21:27

ความคิดเห็นที่ 38

การที่พระเทวทัตถวายกระดูกคางแด่พระพุทธเจ้า

จะเป็นผลบุญประการใดครับ

จากคุณ : อวดจำ

เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 16:21:59

ความคิดเห็นที่ 39

ขอบคุณค่ะ แจกกิ๊ฟอีกรอบ

จากคุณ : deer_na_ja

เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 52 23:24:56

ความคิดเห็นที่ 40

สงสารพระอินทร์ที่แปลงร่างเป็นหนูไปกัดเชือกที่หน้าท้องของนางจิญจมาณวิกา
ต้องพลอย...................ไปด้วย cry

จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า

เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 08:37:11

ความคิดเห็นที่ 41

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ

จากคุณ : หัวใจถวายวัด

เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 22:32:18

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป