ความคิดเห็นที่ 1   จากที่เคยเป็นมาก่อน (ก็ยังเป็นอยู่) เห็นชัดๆ เลยนะครับ 1. บอกว่าตัวเองสุข (สะใจ) แต่ไม่เห็น "ทุกข์" เบื้องหลังที่คอยสั่งสมอยู่ คงภาวนายาก กิเลสตัวเป้งอยู่ต่อหน้า ยังไม่ยอมดู  แล้วจะวิปัสสนายังไง 2. จะสั่งสมนิสัย "ฟังไม่เป็น" แล้วจะได้ประโยชน์จากการฟังน้อย ทั้งที่ ทุกคำพูดล้วนเป็นทองคำ หากเข้าใจ แล้วนำมาปรับเปลี่ยนได้ 3. เมื่อฟังน้อย "เพื่อนก็จะน้อย" ตาม หรือมีแต่ คนพวกเดียวกันที่ไหลตามกัน หรือคนที่ หวังประโยชน์จากกัน หรือคนที่ หวังดี ที่ต้องอดทน ให้คอยเปลี่ยนนิสัย 4. เมื่อเพื่อนน้อย ก็จะมี "เพื่อนรังเกียจ" เพื่อนน้อยแล้ว เพื่อนบางกลุ่ม ก็จะไม่อยากเข้าใกล้ด้วย ไม่อยากให้ความช่วยเหลือ หรือขอความช่วยเหลือ จะมีแต่เอาไปพูดนินทาลับหลัง 5. เมื่อกรรมให้ผล "สะท้อนกลับ" อาจจะมี ทายาทหรือคนสำคัญ ที่พูด "ดูถูก" ให้เจ็บใจ และก็จะผูกใจเจ็บเพราะ เป็นเห็นเป็นคนสำคัญ เมื่อเหตุให้เจ็บใจมา  ก็จะเข้าใจความรู้สึกคนอื่นบ้าง 6. สมองจะถูก "กร่อน" เพราะจิตใจที่บิดเบี้ยว แต่มองไม่เห็น จะส่งผลกระทบต่อ สมอง เมื่อสมอง  ถูกกระทบ ย่อมส่งผลถึง ระบบประสาท เมื่อระบบประสาท  ถูกกระทบ ย่อมส่งผลถึง ร่างกายอวัยวะ อาจจะป่วยได้ 7. หน้าตา และบุคคลิกภาพจะ "เปลี่ยนไป" เพราะผลต่อเนื่องจาก ระบบของร่างกาย มีผลให้ เปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตา และบุคคลิกภาพ ทีละน้อย ทีละน้อย ๆ จนคนที่เห็น 100 เมตรก็จะไม่กล้าเข้าใกล้ ตามหลัก "ฮวงจุ้ย" หน้าตา ท่าทางแบบนี้ "คบไม่ได้" (แก้ไข... ฮวงจุ้ย เป็น โหงวเฮ้ง) ฯลฯ คนแบบนี้ ต้องเข้าใจเยอะๆ ต้องช่วยรับฟัง  ขอให้เค้าเปิดใจฟังเราบ้าง ควรจับไปเข้า คอร์ส "สุนทรียสนทนา"  เป็นการด่วน! แก้ไขเมื่อ 13 มี.ค. 53 23:06:22 จากคุณ : หน้ากาก ธรรมะ เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 00:34:15

ความคิดเห็นที่ 2   ผมเห็นด้วยกับคุณ หน้ากาก ธรรมะ นะ ผลกรรมสืบเนื่องจากความคิดที่อกุศลนี่ไม่ต้องรอชาติหน้าหรอก ชาตินี้แหละ แต่จะรู้ตัวเร็วรึช้าแล้วแต่บุญพาวาสนา ผมว่าก็เป็นกันเยอะนะเหน็บเล็กเหน็บน้อยนิ ส่วนตัวก็เคยเป็น เวลาว่ากล่าวชอบเหน็บเพื่อนไม่ค่อยคิดถึงความรู้สึกเท่าไร ช่วงนี้ก็ลดไปได้ มั่นใจว่าในอนาคตจะไม่มีอีก เพราะคิดว่ามาถูกทางแล้ว จากคุณ : มอสคุงอะครับ เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 00:49:07

ความคิดเห็นที่ 3   คห 1 โอะ...สุดยอด  ตอบตรรกะเป็นลำดับ  ได้ดีคับ ขอบคุณคับ คห 2 อนุโมทนาคับ จากคุณ : ramai เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 01:11:22

ความคิดเห็นที่ 4   ถ้าเราเป็นนักปฏิบัติธรรมตัวจริงนะ เราก็ควรที่จะแผ่เมตตาให้เขา และทำใจคิดเสียว่า เป็นเพราะเขายังมีกิเลสอยู่มาก ส่วนคนนั้นจะได้รับผลกรรมอย่างไร มันก็เป็นเรื่องของเขา ท่านจะไปสนใจทำไม เพราะเมื่อท่านรู้ว่าคน ๆ นั่นจะได้รับผลกรรมไม่ดีต่าง ๆ นา ๆ แล้วท่านก็สะใจ ละก็ ท่านก็จะไม่แตกต่างไปจากเขาแต่อย่างใดเหมือนกัน สวัสดี จากคุณ : kongsilp2000 เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 07:51:44

ความคิดเห็นที่ 5   ใจที่หนักอึ้งไปด้วยโทสะ โดนกิเลสลากถูแบบนั้น มันทุกข์จะแย่นะคะ ถ้าเราเจอคนแบบนี้ จะมองเป็นเวทนาไป น่าสงสารออก จิตเก็บไว้แต่โทสะ ริษยา ตายแล้วมันจะไปที่ดีได้อย่างไร อย่างไรก็ดีมองเขาแล้ว ก็ต้องมองตัวเองให้เท่าทันกิเลสตนเองด้วย ถ้ามัวแต่ไปแพ่งโทษ มานะ เห็นตัวเราดีกว่าเขา อันนี้ เราก็ไม่ได้เรื่องเช่นกัน ดูสิ่งภายนอกทุกอย่าง แล้วต้องมองกลับมาดูกายใจตนเองให้ทัน อย่าไปเว้นที่ให้ความคิด กลายเป็นกิเลสโทสะ โมหะ โลภะ กลับมาย้อมจิตย้อมใจเราได้ เจริญในธรรมทุกท่าน จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 10:18:28

ความคิดเห็นที่ 6   ผมเองก็ไม่เคยไปดูถูกใคร  มีแต่ให้กำลังใจคน ยามท้อแท้ เหนื่อยหน่าย  ขาดที่พึ่ง แต่ทำไมทุกวันนี้ เหมือนมีคนคุกคามจิตใจตลอดเวลา ทั้งๆที่ไม่เคยไปยุ่งเรื่องคนอื่น หรือด่าคนอื่น หรือจะเป็นกรรมเก่า??? จากคุณ : kamenriderkiva เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 10:18:59

ความคิดเห็นที่ 7   ก็ยังไงก็คงต้องดูใจ ตัวเองอยุ่แล้วคับ  ไม่งั้นอยู่ไม่ได้หรอก คิดมากตาย  แต่ก็แค่สงสัยคับ ว่าเค้าจะได้รับกรรมอะไรบ้าง   จิตสะสมความเคยชินแบบนี้ มันจะเป็นอย่างไรบ้าง  แค่นั่นแหละคับ  ใครมีประสบการณ์อะไรที่เห็นมาก็มาแชร์กัน.... ส่วน คห 6 เีนี่ย  คล้ายกันคับ  เราโดนดูถูกอะ ไม่เป็นไรหรอก  เราก็ดูใจ แล้วไม่ยุ่งอะไรกับเค้าหรอก   แต่ เข้ามา  เอาเปรียบ นี่ด้วยสิ ....สุดๆเลย ไอ้เราก็มองโลกในแง่ดี  ยังไงก็ไม่อยากยุ่ง    โดนตามเอาเปรียบ เอาแต่ผลประโยชน์ นี่เหนื่อยน่าดูเลย พับผ่าสิ! ยังไงก็ขอบคุณทุกความเห็นคับ จากคุณ : ramai เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 11:00:01

ความคิดเห็นที่ 8   อย่าไปถือโทษ ถือสาเขาเลย โทษที่กิเลสนี้นี่ล่ะ มันเป็นกิเลส ที่ชื่อว่ามานะ เราต่างคน ต่างก็มีเหมือนๆกัน ผู้ที่หมดจดจากกิเลสเขายังมีเมตตา ท่านยังไม่ถือว่าท่านหมดแล้วดีกว่าคนที่ยังมีมานะทิฏฐิ เมตตา ปราถนาให้เขาได้มีความสุขอันประเสริฐ ให้เขาได้พบกับพระธรรม เป็นแสงสว่างส่องนำจิตใจ อย่าได้มืดบอด และขอให้ได้มีดวงตาเห็นธรรม.. กุศลกรรมจะชักนำพาให้เราห่างไกลจากคนพาล เจตนาอันสร้างไว้เป็นกุศล จะเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนให้เราได้พบกับความสุข และสมความปราถนาในทางธรรม.. จากคุณ : ใจพรานธรรม เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 11:04:24

ความคิดเห็นที่ 9   ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมก็คือ มีแต่คนไม่ชอบเขาไงครับ คือเรื่องคนอื่นทำบาปกรรม เราเข้าใจยากครับว่าทำไมอะไรยังไง ดังนั้นคือถ้าเขาทำไม่ดี ก็คือทำไม่ดี อย่าไปเสียเวลาคิดมากเรื่องของเขาเลยครับ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 12 มี.ค. 53 12:46:08

ความคิดเห็นที่ 10   คนที่ชอบดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น พวกนี้เป็นพวกที่คิดว่าตัวเองวิเศษกว่าคนอื่น เคยเจอค่ะ คนแบบนี้ เป็นพวกหลงตัวเอง อีโก้สูง เป็นทั้งบ้านทั้งพ่อแม่ลูก สายเลือดเข้มข้น พ่อแม่เป็นตัวอย่างให้ลุกดู พวกนี้เจอพวกคนมีเงิน นามสกุลดัง ไฮโซ จะอ่อนปวกเปียก แพ้อำนาจเงินตรา คนจนไม่มีราคาสำหรับคนพวกนี้ ต่อให้ทำดีให้ตายก็ไม่มีคุณค่าอะไร เพราะแพ้เงิน ตัดสินคนจากทรัพย์สินเงินทอง คนพวกนี้ถ้าเจออย่าไปเกี่ยวข้องเพราะไม่มีประโยชน์อันใด  คนพวกนี้เวลาใกล้ตายน่าทุเรศมาก พอคิดได้ว่าเคยแสดงอะไรไม่ดีกับคนอื่นก็สายเกินไป เคยได้เข้าไปสัมผัสค่ะและก็ได้เห็นแล้วว่าเวรกรรมมีจริง ตอนมีชีวิตอยู่ก็สุดแสนจะร้ายกาจยิ่งกว่าละครน้ำเน่า  ทั้งกาย วาจา และใจ ออกมาหมดทุกอย่าง แสดงอย่างเต็มที่ไม่เคยมีเมตตากับใคร  เพราะคิดว่าตัวเองวิเศษเหนือมนุษย์ทั้งหลาย จิตใจไม่บริสุทธ์คิดอิจฉาริษยา พูดจาเหน็บแนมคนอื่นให้เสียหาย แต่พอเจ็บใกล้ตายอยากให้คนมาดูแล มันจะเป็นไปได้อย่างไร กรรมทันตาจริงๆนึกว่าจะรอดกลับไม่รอด  น่าสังเวชจริงๆคนพวกนี้ จากคุณ : ankura เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 53 15:12:42

ความคิดเห็นที่ 11   ^ ^ เหอะๆ เคย เห็นเหมือนกัน ยืนยันเป็นกันทั้งตระกูลจิงๆ สอนได้ดี มีมาตรฐาน.....สูง   การ QC ยอดเยี่ยมไม่มีด่างพล้อย จากคุณ : ramai เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 53 17:17:33