ความคิดเห็นที่ 1 อ้างอิง [อายะห์อัลกุรอาน ที่บอกว่า ฆ่าจิ้งจกแล้วได้บุญ] ไม่มี [ฮาดิษ] ท่านสะอีด  อิบนุ  อัลมุซัยยับ  ได้รายงานจากอุมมุชะรีกว่า ‏أَنَّ النَّبِيَّ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏أَمَرَهَا بِقَتْلِ ‏ ‏الْأَوْزَاغِ ‏ "แท้จริงท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซั้ลลัม  ได้ใช้ให้นางฆ่าจิ้งจก"  รายงานโดยอัลบุคอรีย์ (3062) รายจากอะบูฮุร็อยเราะห์  ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ  ว่า قَالَ رَسُولُ اللَّهِ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏مَنْ قَتَلَ ‏ ‏ وَزَغَةً ‏ ‏فِي أَوَّلِ ضَرْبَةٍ فَلَهُ كَذَا وَكَذَا حَسَنَةً وَمَنْ قَتَلَهَا فِي الضَّرْبَةِ الثَّانِيَةِ فَلَهُ كَذَا وَكَذَا حَسَنَةً لِدُونِ الْأُولَى وَإِنْ قَتَلَهَا فِي الضَّرْبَةِ الثَّالِثَةِ فَلَهُ كَذَا وَكَذَا حَسَنَةً لِدُونِ الثَّانِيَةِ ท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ได้กล่าวว่า  "ผู้ใดฆ่าจิ้งจกในการตีครั้งแรก  เขาจะได้ผลบุญเท่านั้นเท่านี้  และผู้ใดฆ่ามันในการตีครั้งที่สอง  เขาจะได้ผลบุญเท่านั้นเท่านี้ซึ่งน้อยกว่าครั้งแรก  และผู้ใดที่ฆ่ามันในการตีครั้งที่สาม  เขาจะได้ผลบุญเท่านั้นเท่านี้  แต่น้อยกว่าครั้งที่สอง"  รายงานโดยมุสลิม (4156) จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 01:52:17

ความคิดเห็นที่ 2 [ฮาดิษ] ในบางรายงานของมุสลิมระบุว่า مَنْ قَتَلَ ‏ ‏ وَزَغًا ‏ ‏فِي أَوَّلِ ضَرْبَةٍ كُتِبَتْ لَهُ مِائَةُ حَسَنَةٍ وَفِي الثَّانِيَةِ دُونَ ذَلِكَ وَفِي الثَّالِثَةِ دُونَ ذَلِكَ "ผู้ใดที่ฆ่าจิ้งจกในการตีครั้งแรก  เขาถูกบันทึกหนึ่งร้อยผลบุญแก่เขา  และในการตีครั้งที่สองเขาจะได้ผลบุญน้อยกว่าครั้งแรก  และในการตีครั้งที่สามเขาจะได้ผลบุญน้อยกว่าครั้งที่สอง" บางรายงานของมุสลิมระบุอีกว่า ‏عَنْ النَّبِيِّ ‏ ‏صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ‏ ‏أَنَّهُ قَالَ ‏ ‏فِي أَوَّلِ ضَرْبَةٍ سَبْعِينَ حَسَنَةً จากท่านนบี  ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม  ท่านกล่าวว่า  "ในการตีครั้งแรก  เขาได้เจ็บสิบผลบุญ" ท่านอิมามอันนะวาวีย์ได้อธิบายว่า وَأَمَّا سَبَب تَكْثِير الثَّوَاب فِي قَتْله بِأَوَّلِ ضَرْبَة ثُمَّ مَا يَلِيهَا فَالْمَقْصُود بِهِ الْحَثّ عَلَى الْمُبَادَرَة بِقَتْلِهِ , وَالِاعْتِنَاء بِهِ , وَتَحْرِيض قَاتِله عَلَى أَنْ يَقْتُلهُ بِأَوَّلِ ضَرْبَة , فَإِنَّهُ إِذَا أَرَادَ أَنْ يُضْرِبهُ ضَرَبَات رُبَّمَا اِنْفَلَتَ وَفَاتَ قَتْله . وَأَمَّا تَسْمِيَته فُوَيْسِقًا فَنَظِيره الْفَوَاسِق الْخَمْس الَّتِي تُقْتَل فِي الْحِلّ وَالْحَرَم . وَأَصْل الْفِسْق الْخُرُوج , وَهَذِهِ الْمَذْكُورَات خَرَجَتْ عَنْ خَلْق مُعْظَم الْحَشَرَات وَنَحْوهَا بِزِيَادَةِ الضَّرَر وَالْأَذَى "สำหรับสาเหตุผลบุญมากในการฆ่าจิ้งจกในการตีครั้งแรกและถัด ๆ ไปปนั้น  เป้าหมายของมันก็คือ  ส่งเสริมให้สนใจและรีบฆ่าจิ้งจกนั่นเอง  และยังส่งเสริมให้ผู้ทำการฆ่าจิ้งจกนั้นทำการตีเพียงครั้งเดียว  เพราะเมื่อเขาต้องการจะตีหลายครั้ง  บางทีมันอาจจะหนีและพลาดโอกาส  สำหรับการที่ท่านนบีได้เรียกจิ้งจกว่า  "ฟุวัยซิก"  (สัตว์ที่สร้างความเดือดร้อนตัวเล็กนั้น)  มันก็เหมือนกับบรรดาสัตว์ที่สร้างความเดือนร้อนทั้งห้า (คือ อีกา , เยี่ยว , แมงป่อง , หนู , สุนัขบ้า) และรากศัพท์เดิมคำว่า ฟิสก์  หมายถึง การออก  กล่าวคือบรรดาสัตว์ที่ถูกกล่าวมาแล้วนี้ได้ออกจากบรรดาแมลงส่วนใหญ่และสัตว์อื่น ๆ ในแง่ของการที่พวกมันจะเพิ่มโทษและสร้างความเดือดร้อน"  ชัรห์ซอฮิห์มุสลิม จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 01:53:20

ความคิดเห็นที่ 3 ที่มา ของฮาดิษ http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?topic=3721.0 ช่วยตรวจสอบ ฮาดิษที่ยกมาด้วยนะครับว่าถูกต้องหรือเปล่า ยกมาจากเว็บเค้าทั้งดุ้น แตเช็กเว็บอื่นๆแล้วก็ประมานเดียวกัน ขอบคุณครับ [เพิ่มเติม] สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบว่า ทำไมอิสลามมีหลายกลุ่ม อ่านกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y9464820/Y9464820.html ฮาดิษคืออะไร http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y9465184/Y9465184.html กระทู้โต้เถียง ว่า ฮะดิษ ควรใช้ หรือ มีสถาณะอย่างไรในอิสลาม ..หาไม่เจอละ สงสัยเก่าลองหากันดูนะครับ เพราะมีโต้เถียงกันบ่อยๆ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 02:02:08 จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 01:54:33

ความคิดเห็นที่ 4 ...เยี่ยม จากคุณ : สองนิ้วชี้ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 04:39:23

ความคิดเห็นที่ 5 ผมพึ่งรู้ว่าฆ่าจิ้งจกได้บุญ จากคุณ : narin (Narin-nar) เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 09:01:11

ความคิดเห็นที่ 6 เยี่ยมครับ ตอนเด็ก ๆ เด็กแถวบ้านผมก็เคยทำเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้ทำเพราะสงสารมัน ก็คิดอยู่เสมอว่าการฆ่าสัตว์นี่มันจะได้บุญได้ยัง ก็ไม่เคยถามผู้ใหญ่เลยสักที จากคุณ : Esma Man Armin เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 09:42:20

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ทราบว่า จขกท.เป็นอิสลามหรือเปล่า ถ้าใช่..... ขอยกนิ้วว่าเยี่ยมค่ะ ที่ไม่จำเป็นต้องทำตามศาสนาบังคับทุกอย่าง ในเมื่อเราเห็นว่าไม่ถูกต้อง (ในเรื่องจริง) ดิฉันไม่เห็นด้วยเลยว่า  การฆ่าสัตว์นี่มันจะได้บุญยังไง จากคุณ : nice_piggyy เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 10:44:11

ความคิดเห็นที่ 8 เพิ่งเคยได้ยินว่าฆ่าจิ้งจกได้บุญ เราอ่านแล้วเข้าใจว่าหมายถึงการฆ่าสัตว์ที่สร้างความเดือดร้อนมากกว่าจะส่งเสริมการฆ่าจิ้งจกนะคะ จากข้อความ จขกท.ที่ว่า ผมพูดได้เต็มปากว่า ใครก็ตามที่คิดว่า การฆ่าจิ้งจกแล้วได้บุญ มีโอกาส สูงมากที่จะกลายเป็นคนคลั่งศาสนา ฆ่าคนเพื่อเอาผลบุญ จากความเชื่อของตัวเอง เราว่าไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยนะ แบบนี้ถ้าเชือดกุรบ่านซึ่งทำแล้วได้บุญก็ทำให้คลั่งศาสนาหรือคะ ทำไมเราอ่านเหตุผลจขกท.แล้วเหมือนมันจับแพะชนแกะยังไงไม่ทราบ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 11:34:05 จากคุณ : LuNaTicCaT เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 11:28:03

ความคิดเห็นที่ 9 การฆ่าสัตว์(หรือคน) ไม่ได้บุญหรอกครับ การฆ่าก็คือการทำลาย เป็นการทำความชั่ว จึงไม่ได้บุญแน่นอนครับ ไม่ว่าจะสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ และคนที่ฆ่าจะมีจิตที่มีโทสะมากยิ่งฆ่ามากก็จะมีโทสะมากขึ้นๆไปเรื่อยๆ นำไปสู่การฆ่าคนได้ง่ายครับ(เมื่อมีโทสะมากเท่าไหร่ ความเมตตาต่อสัตว์ก็จะน้อยลงไปเท่านั้นครับ) ส่วนการฆ่าสัตว์เพื่อแจกจ่ายเนื้อสัตว์ที่ฆ่าเป็นทานนั้น ก็ได้บาปเมื่อฆ่าสัตว์ และได้บุญเมื่อแจกจ่ายเนื้อสัตว์เป็นทาน ต้องแยกกรรมแต่ละครั้งที่ทำไปครับ คุยกันด้วยเหตุและผล นะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : กรรไกรรัตนะ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 12:46:33

ความคิดเห็นที่ 10 #8 ค่อยๆพิจรณานะครับ ผมไม่ได้พูดเกินเลยจริงๆ ผมนั่งคุยกับน้องคนนึง เค้าอยู่ พื้นที่สงขลา ตอนเด็กๆก็มีการสอนว่ายิงจิ้งจก แล้วได้บุญ ยิ่งยิงวันศุกร์จะยิงได้บุญมากคำพูดนี้ผมไม่เจอในฮาดิษ แต่เป็นคำที่เค้าพูดกันในท้องถืิ่น น้องผู้หญิงคนนี้ ก็เอากะเค้าด้วย ติดหนังติ๊กไล่ยิงจิ้งจกกันเป็นทีม  เพื่อ เอาบุญ   ไม่ได้ถามเหตุว่าทำไมต้องสังหาร แล้วเด็กๆ ที่ซึมซับสิ่งเหล่านี้เข้าไปทุกวัน ยิ่งเด็กที่ไม่ได้ออกมาเจอสังคมภายนอกเลยละครับ โตขึ้นมาจะเป็นอย่างไร เรื่องความรำคาญนั้น เป็นข้ออ้าง มากกว่า ถ้าผมรำคาญอะไรผมก็ คิลได้หมดหรือเปล่าเพื่อเอาบุญ เรื่องการเชือด ผมดูคร่าวๆแล้ว มีในอายะห์ และทีสำคัญ เป็นการ สังหารเพื่อทาน จะเอามารวม กับการยิงจ้ิงจกไม่ได้หรอกครับ ที่ผม ผ่านตา ยังมีหมาดำ หรือ อะไรอีกมากมายที่มีในฮาดิษ ไว้มีเวลาจะเอามา เขียนให้อ่านนะครับ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 15:28:05

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่าจะไม่ยุ่งในเรื่อง นืทานหลอกเด็กและขาดเหตุขาดผล ของบุคคลในสมัย 1400 กว่าปี ที่อุปโลกเรื่องต่างๆที่ โกหก เกี่ยวกับ ท่านรอซูล มาหลอกมุสลิม  ซึ่งผมเห็นว่าเป็น "ชริก" ในเรื่องการถือโชคลาง   มุสลิมที่เชื่อและแต่งเรื่องราวในการฆ่าจิ้งจก ตุ๊กแกเหล่านี้ ขอพูดตรงๆ ในสมัยนี้ สำหรับผู้ที่ อ้างว่ามีความรู้มากกว่าฝูงลิง,   เขาเหล่านี้ขาดความเข้าใจ ในเรื่อง ชีววิทยาว่าพระเจ้าสร้างสิ้งมีชีวิตต่างๆขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันโดยเฉพาะ ประโยชน์ต่อมนุษย์    ในเรื่องจิตวิทยาผมเห็นด้วยกับ เจ้าของกระทู้ ร้อยเปอร์เซนต์เต็ม ว่า การฆ่าเล็กๆน้อยๆจนเคยชินจะทำให้ใจโหดเหี้ยมขึ้นทีละน้อย ในที่สุดเมื่ถูกหลอกว่าทำ จิฮาดฆ่าคนศัตรูของอิสลาม แล้วจะได้กกตุ๊กตายางถึง 72 ตัว ก็จะหลงเชื่อทำตาม    เพื่อนผมมีลุกชาย 7-8 ขวบซื้อปืนลมให้ลูกเล่นไล่ยิง กระรอกกระแต ในที่สุด ไป แอบยิงคนขับรถตามถนนตาย 2-3 คน ด้วยปืนลูกกรด .22 ของพ่อ ติตตรางตั้งแต่อายุ 10-12ปี      แต่ผมอยากจะต่อเติมในเรื่อง "Biological Control"  ในบ้านเมืองร้อน , การสุขาภิบาล การควบคุม แมลงและสัตว์ที่ก่อให้เกิดความรำคาญ ไม่ รัดกุมเท่ากับในประเทศหนาว หรือทางตะวันตก อเมริกา ยุโรป    เมื่องไทยเราเลี้ยงปลานกยูงไว้กินลูกน้ำปราบยุง, เลี้ยงแมวไว้กจับหนู  งูในนาช่วยกินหนูกินแมลงที่ทำลายต้นข้าว, จิ้งจก จับแมลงกินกลางคืน      ผมพาลูกไปพักที กะตะธาณี ที่ภุเก็ต ลูกมันเห็นจิ้งจกเต็มไปหมด  มันแปลกใจเพราะไม่มีในอเมริกาตามบ้านเรือน เนื่องจากไม่มีแมลงเม่า, แมลงตัวเล็กๆ ให้มันกิน แมลงวันก็หายาก      พูดง่ายๆก็คือ จิ้งจกช่วย ควบคุมการขยายพันธ์ของแมลง, และ สัตว์เช่นแมวก็ช่วยควบคุม การแพร่พันธ์ของ จิ้งจก   เรื่องจิ้งจกนี้เป็นเรื่องโกหกพกลมทั้งสิ้น  ถ้าใครเชื่อเรื่องนี้ ก็เชื่อว่า "ลิงมีการแต่งงานกันและมีชู้ได้เหมือนสังคมมนุษย์"   ขอความเจริญจงมีแด่เจ้าของกระทู้ที่มีใจเมตตาเป็นพื้นฐานตามความเตตากรุณาจากพระเจ้า จากคุณ : แมทท์ เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 16:17:50

ความคิดเห็นที่ 12 ขออนุญาตแส่แม้ว่าผมจะไม่ใช่มุสลิม และขออนุญาตไม่หาหะดิษมาอ้าง ผมตอบได้แค่ว่า หะดิษนั้นจริง เพียงแต่การพิจารณาหะดิษ ต้องเข้าใจว่าหะดิษคือ คำบอกเล่าผ่านมุมมองคนๆหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่ง แล้วมาบันทึกโดยคนๆหนึ่ง การจะยกรึอ้างหะดิษจึงต่างจากกรุอ่านโดยสิ้นเชิง เมื่อมีมุสลิมหัวให้พูดอะไรก็ตาม คำพูดมุสลิมไทยๆหัวโบราณที่ผมได้ยินบ่อยคือ "แน่ใจแล้วหรือว่าครบถ้วน" ทำนองเดียวกัน หะดิษเรื่อง จิ้งจก เท่าที่ผมเคยอ่านผ่านตา ยังอีกบท(รึสอง..หรือสาม..หรือสี่ ตามแต่...) กล่าวเพิ่มเติมว่า มีีจิ้งจกอุจาระรดนบีขณะท่านกำลังละหมาดในมัสยิต ุัึึุดังนั้นเงื่อนไขการได้บุญจากการฆ่าจิ้งจก จึงไม่น่าจะใช่แค่เจอแล้วฆ่า เพราะในหะดิษหลายๆบทดังที่พูดไป ส่งผลให้เกิดการทำความสะอาดมัสยิต ทำให้ไม่มีแมลงเข้ามา ส่งผลให้จิ้งจกก็ไม่เข้ามารบกวน ในมัสยิทเช่นกันเพราะไม่มีเหยื่อของมัน ดงันั้น การฆ่าจิ้งจกบาปรึไม่ ได้บุญรึเปล่า กลับไปที่คำถามง่ายๆ วัวสีเหลืองตัวนั้นเป็นอย่างไรบ้าง แง่บๆ จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 00:01:29

ความคิดเห็นที่ 13 #12 ผมกลับมองว่า มันก็ไม่สมเหตุสมผล  ถึงเรื่องมันจะจบที ความโหดสูงสุด ที่ชีวิตจ้ิงจกจะทำได้คือ  จิ้งจกขี้ใส่ ตอนนบีทำละหมาด กลายเป็นเหตุผล ที่ต้อง ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ จิ้งจก   ผมมองว่ามันไม่ใช่บุญ มันยิ่งเป็นบาป ถ้าพิจรณา คือ การทำการฆ่าอันด้วยเหตุของ โทสะ? คุณกำลังจะบอกว่า เพราะมันขี้ใส่มันถึงต้องตาย ถ้าแบบนั้น อิสลาม ก็ไม่ควรใช้คำว่าสันติ ถ้ามีฮาดิษหนึ่งอ้างว่า คนคริสต์ ขัดขวางไม่ให้ นบีทำละหมาด  ก็เลย เกิดฮะดิษให้ล้างเผ่าพันธ์คนคริสต์ จะเกิดอะไรขึ้น คุณคิดว่า สิ่งนี้ควรจะเรียกว่า บุญไหม เงื่อนไขต่างกัน แค่คนกับจิ้งจก  ถ้าคุณบอกว่า การสังหารจิ้งจกได้บุญ คุณต้องบอกว่าการสังหารคน ที่กระทำแบบเดียวกับจิ้งจก ได้บุญด้วย ผมไม่สนหรอกว่า มันจะจริงจะเก่าแก่ หรือ จะอ้างโดยใคร ผมสนใจแค่เนื้อหากับประโยชน์ของมัน เมื่อพิจรณาด้วยใจที่เป็นกลางผมมองไม่เห็นประโยชน์ และกลับยิ่งเห็นความโหดร้ายของอิสลาม ซึ่งผมมั่นใจว่า มันผิดทาง อะไรคือความจริง นั่งนิ่งๆ แล้วพิจรณาเหตุปัจจัย กับ เรื่องเล่าที่สืบทอดกันมาว่าใข่ ลองพิจรณานะครับ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 00:17:45

ความคิดเห็นที่ 14 หลายๆครั้ง ที่ผมอ่านเจอใน อายะห์ อัลกุรอาน ในการสืบค้นเรื่องต่างๆ คำที่จะเจอบ่อย คือ เมตตา กรุณา  รวมทั้งความ ประเสริฐ ของท่านร่อซูล และการให้อภัย แม้แต่คนที่ไม่น่าให้อภัยอย่างที่สุด การที่จิ้งจก ขี้ใส่แล้วต้องตายยกครัว รวมทั้งสิ้นลูกสิ้นหลาน ผมว่าขัดต่อ บุคลิกลักษณะของท่านนบีมากๆ ใครสร้างความรำคาญแล้วต้องตาย  นั่นคือ อิสลามหรือ สำหรับผมว่าไม่ใช่ ดังนั้นด้วยเหตุปัจจัยนี้ ผมขอยึดตามอัลกุรอาน ดีกว่า ส่วนฮะดิษจิ้งจก ผมขออนุญาตโยนลงถัง จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 00:39:17

ความคิดเห็นที่ 15 - 14 กร้าก.... ไม่ได้หมานถึงนบีให้ฆ่าล้างโครตจิ้งจกหรอกครับ แต่ผมเชื่อว่า นบีมีุคุณลักษณเมตตา และมีเหตุผล ดังนั้น การให้ฆ่าจิ้งจกนั่นน่าจะจริง แต่ในสถานะการณ์ใดแค่นั้นเอง ไม่ใช่เดินไปเจอจิ้งจกแล้วฆ่าได้เลย อันนี้ไม่น่าใช่แระ เอาเป็นว่ารับฟังหะดิษนี้ไว้ ไว้ฟังหลายหะดิษหลายๆสายประกอบ จนพอควรก่อนแ้้ล้วกัน ค่อยตัดสินใจ ดังนั้นเมื่อรู้หะดิษไม่ครบว่าให้ฆ่าในสถานะการณ์ไหน (เหมือนดังเช่นหะดิษ "ฟุวัยซิก" ที่คุณยกมา) ก็มีสองทางเลือก ทำ รึไม่ทำ คนที่เลือกทำเลยเพราะบอกว่าเป็นหะดิษต้องเชื่อ ก็แสดงว่า ปฏิเสธคุณลักษณะอันมีเมตตาของนบี ซึ่งนบีก็ได้รับมาจากอัลลอฮ์ ก็แสดงว่า่เขา ปฏิเสธว่าอัลลอฮทรงเมตตา... และนั่นคือเรื่องของเขาในวันตัดสิน การเลือกไม่ทำตามเพราะยังไม่มั่นใจในความครบถ้วนของเรื่องนั้นๆ แบบที่คุณเลือกทำอยู่ ผมก็ว่าเซฟดีกว่าเสี่ยงทำไป เพราะเป็นผมก็เลือกทางนี้ แต่นั่นแหละครับผมไม่ใช่มุสลิม ผมไม่เข้าใจแนวคิดจริงๆของมุสลิม หรอกว่า ในทางสองแพร่งนั้น เขาใช้เหตุผลตรรกะใดในการตัดสินใจเลือกว่า จะทำรึไม่ทำ จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 08:45:32

ความคิดเห็นที่ 16 ............... อุปมาคนตาบอดย่อมไม่เคยเห็นแสงสว่าง จากคุณ : เรียกข้าว่า เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 19:05:04

ความคิดเห็นที่ 17 การวิเคราะห์ซีโรวาร์ของ Salmonella  ในจิ้งจกจากชุมชนแออัดคลองภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร -------------------------------------------------------------------------------- Analytical Serovars of Salmonella  in Lizards From the Slum Areas in Pasricharaen, Bangkok อุษณีย์ ดำคำเพราะ1 บัญญัติ สุขศรีงาม1 อรุณ บ่างตระกูลนนท์2 สังกัด :      1. ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ บางแสน      2. กองพยาธิวิทยาคลีนิค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สถานะภาพของผลงานวิจัย :      ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปีที่ 4 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม-สิงหาคม 2532 หน้า 59-69 ที่นำเสนอข้อมูล :      - รูปแบบของการนำเสนอ :      - บทคัดย่อ      การทดลองนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจนับจำนวนแบคทีเรียในจิ้งจก โดยวิธี Viable plate count โดยใช้จิ้งจกจากอาคารบ้านเรือนริมคลองภาษีเจริญ แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เดือนละ 5 ตัวอย่าง เป็นระยะเวลา 4 เดือน รวม 20 ตัวอย่าง เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2531 ถึงมกราคม 2532 พบจำนวนแบคทีเรียต่อลำไส้จิ้งจก 1 กรัมในแต่ละเดือนเท่ากับ 4.54 x 108, 46.93 x 108, 14.33 x 108 และ 3.60 x 108 เซลล์ตามลำดับ โดยพบเชื้อในเดือนพฤศจิกายนสูงที่สุด จำนวนเฉลี่ยของแบคทีเรียทั้งหมดในระยะเวลา 4 เดือนเท่ากับ 17.35 x 108 เซลล์ต่อกรัมของลำไส้ สำหรับการวิเคราะห์เซอโรวาร์ของ Salmonella  ในจิ้งจก ใช้จิ้งจกเดือนละ 50 ตัวอย่าง จำนวน 4 เดือน รวม 200 ตัวอย่าง พบ Salmonella  81 ตัวอย่าง (ร้อยละ 40.5 ) จำนวน 6 เซอโรวาร์ ได้แก่ S. Weltevreden, S. Lexington, S. Brunei, S. IV. 43:z4, z23 :-, S. Derby และ S. I 8,20 : y :-      จากการทดลองนี้จะเห็นได้ว่าการติดเชื้อ Salmonella  ในจิ้งจกมีอันตรายค่อนข้างสูง โดยเฉลี่ยเกือบครึ่งหนึ่งของจิ้งจกที่นำมาศึกษาวิจัย และเซอโรวาร์ที่พบยังสามารถพบได้บ่อยในผู้ป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วง คือ S. Derby และ S. Weltevreden จากข้อมูลนี้ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Salmonella  ในจิ้งจกและมนุษย์ได้เป็นอย่างดี จนอาจกล่าวได้ว่า จิ้งจกเป็นพาหะที่สำคัญประการหนึ่งในการแพร่ระบาดของเชื้อ การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือระวังไม่ให้มาสัมผัสกับอาหาร น้ำดื่ม อุปกรณ์ในการปรุงอาหารโดยการกินหรือขับถ่ายอุจจาระลงไป นอกจากนี้ควรดูแลอนามัยส่วนบุคคล ภาวะสุขาภิบาลและภาวะแวดล้อมอื่นๆ ด้วย ARSTRACT      The purpose of the experment was to count bacteria in intestinal tract of lizards from the Slum Areas in month, 4 months , making 20 totals samples. Average to count bacteria each month was 4.54 x 108, 46.93 x 108, 14.33 x 108 and 3.60 x 108 cells. A total of 4 months counted bacteria 17.35 x 108 cells/ gm, in intestinal tract of lizards. An analyzed serovar of Salmonella  in lizards used samples in the same areas , 50 samples per month , 4 months. A total of 200 samples from October 1988 - January 1989. Salmonella  was found in 81 samples ( 40.5%). There were 6 serovars; S. Weltevreden, S. Lexington, S. Brunei, S. IV. 43:z4, z23 :-, S. Derby and S. I 8,20 : y :- ---------------------------------------------------------------------- การส่งเสริมให้กำจัดพาหะของโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ ก็ไม่แปลกที่พระเจ้าจะตอบแทนด้วยผลบุญ เพียงแต่ความรู้มนุษย์ที่ยังไปไม่ถึงก็จะไม่เข้าใจวัตถุประสงค์ และต่อต้านตามพื้นฐานที่ตนเองมีอยู่แล้วเดิม ก็เช่นเดียวกับเรื่อง การขลิบหนังหุ้มปลาย การกดปีกแมลงวันสองข้าง หรือการไม่บริโภคสิ่งต้องห้ามต่างๆในอิสลาม ที่วิทยาศาตร์มาไขข้อข้องใจ 14 ศตวรรษถัดมา จากคุณ : ตาสว่าง (laliklalee) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 12:02:00

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าคุณไม่ได้ศึกษาเรื่องฮาดิษมาโดยตรงคุณอย่าวิจารณ์โดยใช้ความคิดของคุณเองเถอะครับว่ามันถูกหรือผิด จากคุณ : เจือจาง เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 12:11:20

ความคิดเห็นที่ 19 ^^ เราจึงไม่ได้วิจารณ์ฮาดีษโดยความคิดเพียงลำพังงัยครับ ต้องเอาคำวิจารณ์ของผู้ที่เรียนหรือรวบรวมฮาดีษมาเป็นบรรทัดฐานพิสูจน์ความแท้จริงของฮาดีษก่อน ส่วนเหตุผล และข้อมูลอื่น ก็เป็นสมมติฐานที่นำมาประกอบกันเท่านั้นครับ เช่น การขลิบหนังหุ้มปลาย การงดอาหารต้องห้ามชนิดต่างๆ ศาสนกิจรูปแบบต่างๆ หรือ ชารีอัตอิสลาม คุณประโยชน์ทางตรง หรือ ทางอ้อมที่มาสู่มนุษย์เองนั้น เป็นสิ่งที่อัลลอฮ์สั่งใช้ให้มนุษย์พิจารณาเองได้ครับ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ทยอยมายืนยันในยุคปัจจุบันย่อมพิสูจน์ความจริงในข้อนี้ดี จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 15:44:19