ความคิดเห็นที่ 1 ช่วยให้ชีวิตมีสมาธิมากขึ้น มีสติ ที่จะคิดไตร่ตรองมากขึ้น สวดชินบัญชรอยู่ ความหมายดี และเป็นบทยาวๆ ช่วงที่สวด  เรื่องราวต่างๆ บางเรื่องจะเข้ามาให้ได้คิด เมื่อเรามีสมาธิได้คิดไตร่ตรอง ก็จะทำทุกอย่างด้วยสติ ทุกอย่างก็จะดีขึ้นค่ะ จากคุณ : ไม่สวยแต่จน เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 13:27:39

ความคิดเห็นที่ 2 ขอแสดงความเห็นตามปัญญาที่มีแบบนี้ครับ การสวดมนต์--ไม่ว่าจะบทไหน--นั้นเป็นอุบายในการฝึกสติ และสมาธิ---ถ้าสวดได้ถูกนะครับ ไม่ใช่สวดผิดๆ ถูกๆ ขาดสติ สวดไปคิดเรื่องโน่นนี่ไป แบบนี้ผิด ปัญญาไม่เกิด ปัญหาไม่ถูกแก้ด้วยปัญญา แต่จริงๆ แล้วก็มีอีกหลายวิธีแทนการสวดมนต์ได้ เช่นการเดินจงกรม การนั่งทำสมาธิ เป็นต้น ถนัดแบบไหนไม่ถนัดอะไรก็เลือกครับ พอสติเกิด สมาธิตามมา สมองจะปลอดโปร่ง คิดอะไรได้ดีขึ้น แก้ปัญหาได้ฉับไวและแม่นยำ ปัญหาก็หมด ทุกข์ก็ลด มันเป็นเหตุเป็นผลกันแบบนี้ครับ สรุป การสวดมนต์เป็นอุบายให้จิตมีสติ และมีสมาธิ มีิวิธีอื่นๆ เช่นกันครับ แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 53 13:33:39 จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 13:32:38

ความคิดเห็นที่ 3 การบอกว่าการสวดมนต์ทำให้ชีวิตดีขึ้นได้  ผมว่าเหมือนกับที่ผมบอกลูกชายว่าการเรียนหนังสือทำให้ต่อไปชีวิตเขาจะสบายขึ้นอ่ะครับ จริงๆ มันเป็นคำกล่าวที่ Generalize มากๆ ขึ้นกับวิธีสวดมนต์  ความศรัทธาและความเคารพที่ผู้สวดมีต่อพระพุทธศาสนาและพระรัตนตรัย  รวมทั้งการที่ผู้สวดให้คำนิยามของคำว่า "ชีวิตดีขึ้น" ด้วยครับ ศาสนาพุทธเป็นศาสตร์แห่งการพ้นทุกข์  ถ้าคุณสวดทุกวันอย่างสม่ำเสมอ  ถือศีล  มีศรัทธาในพระศาสนา อย่างน้อยผมว่าจิตใจคุณจะสงบและร่มเย็นมากขึ้นตามลำดับ  ถ้าสิ่งเหล่านี้คือความหมายของชีวิตที่ดีขึ้นของคุณ  และคุณทำอย่างที่ผมบอก  โอกาสที่ชีวิตคุณจะดีขึ้นมีมากเลยครับ :-) แก้ไขเมื่อ 19 ส.ค. 53 13:57:29 จากคุณ : Pee Kay เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 13:43:20

ความคิดเห็นที่ 4 คนเวลาตกต่ำ จิตจะเศร้าๆ  ภาษาพระเรียก จิตเป็นอกุศล  หมองๆ ไม่เบิกบาน การสวดมนต์ เป็นอุบายอย่างหนึ่ง ให้จิตไปสนใจกับบทสวดมนต์ ซึ่งถ้าทำได้นานพอ จิตจะเข้าสู่ความสงบ  ภาษาพระเรียกว่า จิตเป็นอกุศลดับไป แล้วเกิดจิตเป็นกุศลขึ้นมาแทน คนเราเวลาจิตเป็นกุศล แล้ว  ก็จะมีแรงกาย แรงใจ แรงสมอง คิดหาทางแก้ไขปัญหาที่มี ได้ครับ แต่ทั้งหมด เป็นแค่การสร้างกุศลกรรมส่วนหนึ่งไว้  ถ้าไปก่อหนี้ไว้ สิบล้าน แล้วไม่ทำมาหากิน  เจ้าหนี้มาตาม บอกชีวิตตกต่ำ ขอสวดมนต์หนึ่งบทเพื่อให้ดีขึ้น แล้วก็ไม่ทำมาหากินต่อไป อย่างนี้ คงไม่ได้นะครับ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 14:29:31

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาเป็นกำลังใจค่ะ จากคุณ : งามหลาย เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 15:28:38

ความคิดเห็นที่ 6 นั่นเป็นเพราะ เป็นการเปล่งวาจาสัตย์ ที่เป็นจริง ในแต่ละ ถ้อยคำที่สวดมนต์ ค่ะ อยากให้สวดมนต์ บทพุทธคุณ ที่ขึ้นต้นด้วย อิติปิโส ภควา ..... ธรรมคุณ สังฆคุณต่อมาเป็น ชัยมงคลคาถาหรือ บทพาหุงมหากา ชินบัญชร หากคุณสวดบท พาหุง แล้วแปลด้วย จะพบแนวทางการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน อย่างไม่น่าเชื่อ แท้ที่จริง มันไม่ได้ ยากอย่างที่เราคิด หากเจอปัญหา ลักษณะนี้ ควรที่จะน้อมนำวิธีการใดมาใช้แก้ในชีวิตประจำวัน ของตนเอง  อย่างอัศจรรย์ ใจ อัศจรรย์ในที่นี่ หากสวด พาหุง พร้อมคำแปล และเอาใจจดจ่อมากพอ บางที บางปัญหา บางเรื่อง คำตอบอยู่ในบทสวดมนต์นั้น ว่า พระพุทธองค์ ทรง ชนะมาร ได้ ด้วยวิธีใดบ้าง ลองดูนะคะ  ลองสวดมนต์ ดูสักระยะ แล้ว ใช้ปัญหาในชีวิต ที่คุณเจอมาเป็น ตัววัด ว่า ที่เขา ว่า  ว่า กัน ที่เขาร่ำลือกัน มันจริงเท็จแค่ไหน รู้ได้ ด้วยตัวเอง ค่ะ ต่อให้ใครมาบอกว่า ดี นะ ก็อย่าเพิ่งเชื่อค่ะ ให้ได้ รู้ได้ เห็นด้วยตัวเอง ดีที่สุดค่ะ จากคุณ : รุ่งฟ้าสาง เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 16:17:45

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบแบบส่วนตัว คุณจะมีความสุขมากขึ้น การสวดมนต์ทำให้เรามีสมาธิ แม้เพียงเวลาสั้นๆ แต่ทำทุกวันเหมือนการฝึก อาจทำให้ใจเย็นขึ้น หงุดหงิดน้อยลง เพราะใจได้รับการฝึกแล้ว ชีวิตดีขึ้นนี่หมายถึงด้านวัตถุหรือเปล่า? ถ้าแบบนั้น ไม่น่าจะ จากคุณ : หนูธันย์ เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 16:19:53

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกท่านครับผมพอจะเข้าใจแล้วครับ จากคุณ : น้องเงิน เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 18:09:40

ความคิดเห็นที่ 9 การสวดมนต์เป็นอุบายอย่างหนึ่งที่ได้สมาธิ ทำให้จิตใจคุณสงบ นำมาซึ่งสติและปัญญา เป็นการสวดมนต์ที่ได้สติ แต่ถ้าอยากได้เพิ่มเติมมากว่าที่กล่าวมา ..ถือว่าเป็นการยกระดับของจิต เป็นการสวดมนต์ที่ได้ทั้งสติและปัญญาด้านธรรมพร้อมๆกัน ก็ลองสวดมนต์แบบแปลดูนะค่ะ ยิ่งทำให้เราเข้าใจในหลักธรรมของพระศาสดา มากยิ่งขึ้น...หรือไม่ก็ลองไปปฏิบัติจริงๆถือศีล 8 ร่วมกับครูบาอาจารย์ดูซักครั้ง..อนิสสงค์ที่จะจะเพิ่มพูลทวี..ขอให้เจริญในธรรมคะ.. จากคุณ : ไทยธรรม เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 19:18:01

ความคิดเห็นที่ 10 ลืมบอกไปครับ  ถ้ามีปัญหาชีวิตเรื่องเงินๆทองๆ  ให้ลองทบทวนดูว่า เราเป็นคนไม่ค่อยทำบุญด้วยการให้ทานหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ให้หัดทำบุญด้วยการให้ทานให้มากขึ้นครับ การทำบุญด้วยการให้ทาน ให้อานิสงฆ์เป็นทรัพย์สินเงินทอง  มากน้อยแล้วแต่กำลังของทาน และผลของการให้ทานนั้นครับ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 19:58:23

ความคิดเห็นที่ 11 ^ จขก เขาทำทาน อย่างมากคะ ช่วยเหลือ แมว หมาด้อยโอกาส ใจนั้นมีเมตตาบริบูรณ์ แต่เจอวิบาก ตามกฎแห่งกรรม เป็นการเริ่มต้นที่ดีคะพี่ต้น  เริ่มสวดไปเรื่อยๆ ใส่ใจในคำที่สวดออกมา ไม่ต้องเร่งรีบให้จบๆไป  ธรรมะนั้นเป็นของละเมียดละไม สนใจหาคำแปลมาอ่าน ศึกษาคุณพระพุทธเจ้า พระรัตนตรัย อย่าไปคิดว่าจะได้อะไร แต่ให้สวดไปดูความรู้สึกของตัวเองไป วันหนึ่ง ใจจะซึมซับความสุข จากสมาธิที่ได้จากการสวดมนตร์ ตัวสมาธินี่แหละ คือ กุศล คือ ใจที่มีความสุข กำลังบุญจะหนุนนำให้ชิวิตดีขึ้น แต่ก็ต้องให้วิบากกรมของชิวตนั้นผ่านไปก่อน บางสิ่งก็ไม่สามารถฝ่ากฎแห่งกรรมได้ แต่กำลังบุญ ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้นะคะ ปุ๋มคิดว่าอย่างนั้น สิ่งเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้น พี่จะเข้าใจชิวิต และมีความสุขมากขึ้น และยอมรับทุกข์ได้มากขึ้นด้วย เมื่อยอมรับทุกข์ได้ ใจจะทุกข์น้อยลง จะให้ดีถือศีล5 ด้วย คนทำทาน ถือศีล และภาวนา ชิวิตมีแต่ดีขึ้น อนุโมทนาบุญล่วงหน้านะคะพี่ จากคุณ : น้องต๋าว เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 20:36:15

ความคิดเห็นที่ 12 สวดไปเหอะดี  รักษาศีล กับ ขยันทำงาน แล้วก็ทำบุญด้วย   เดี๋ยวจะมีอะไรช่วย...แต่อันนี้ต้องสังเกตเอาเอง ไม่อยากพูดใหเป็นปาฏิหารย์ ส่วนการสวดมนต์ บอกเคล็ดลับให้ละกัน สวดด้วยความผ่อนคลาย สบายๆ ไม่เคร่งเครียด (เพราะจิตจะได้สมัครใจเป็นสมาธิได้ง่าย แต่ต้องตั้งใจด้วยนะ)   แล้วก็มนต์อันไหนชอบเป็นพิเศษ จะสวดบ่อยๆ ก็ได้คับ  ยิ่งได้สมาธิ ดีทุกมนต์แหละคับ สวดไปเถอะคับ ไม่ต้องคิดมาก จากคุณ : ramai เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 21:29:57

ความคิดเห็นที่ 13 ในสังสารวัฏ  มีเรื่อง บุญและบาปที่คอยแข่งกันช่วงชิงส่งผล  แนะนำให้อ่านหนังสือ ‘ชีวิตนี้น้อยนัก” ของสมเด็จพระสังฆราช http://www.fungdham.com/book/prasungkarad.html จะเข้าใจการส่งผลของบุญบาปมากขึ้นค่ะ   เวลาที่กรรมไม่ดีส่งผลเราต้องสร้างบุญเพื่อตัดรอนบาปอกุศลให้เบาบางลง    เหมือนน้ำเกลือจะให้เจือจางก็ต้องเติมน้ำสะอาดเข้าไป การสร้างบุญ  ทาน ศีล ภาวนา ส่วนที่ได้บุญมากที่สุดคือภาวนา (แนะนำอ่าน “วิธีการสร้างบุญบารมี” ของสมเด็จพระสังฆราช http://www.fungdham.com/book/prasungkarad.html   การสวดมนต์คือสมาธิภาวนาแบบหนึ่ง   ที่ได้บุญก็เพราะส่งผลถึงจิตใจให้สงบระงับดับความฟุ้งซ่านในช่วงหนึ่ง   ฝึกสมาธิทำให้เรามีสติ   เมื่อมีสติก็แก้ไขปัญหาด้วยสติมากกว่าอารมณ์   ชีวิตจะดีขึ้นก็เพราะสติดีตามลำดับค่ะ   เมื่อสติมาปัญญาเกิด  ทีนี้อยากได้ผลเช่นไรก็ต้องประกอบเหตุให้ตรงเช่นอยากประสบผลสำเร็จแล้วเอาแต่สวดมนต์ จะไหวไหม?  ก็ต้องประกอบเหตุโดยใช้ หลักธรรมอิทธิบาท 4  ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา  ธรรมเพื่อความสำเร็จเป็นต้นค่ะ   โดยมีสติ (ที่ฝึกจากสวดมนต์ สมาธิ ภาวนา) เป็นพี่เลี้ยงประคองจิตใจให้เข้มแข็งยามคับขันค่ะ คนดีต้องช่วยตัวเองก่อนแล้วจะมีคนหรือสิ่งดีๆ มาช่วยคุณค่ะ  สวดเข้าไปเถอะค่ะ ดีทั้งนั้น จากคุณ : Tiger Bood เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 21:47:45