ในคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับภาษาอังกฤษในบทเดียวกันมีดังนี้
[ But the Comforter, which is the Holy Spirit , whom the Father will send in my name, he shall teach you all things, and bring all things to your remembrance, whatsoever I have said unto you ]
(John 14:26 )
แต่ในไบเบิ้ลฉบับภาษาอังกฤษอีกฉบับหนึ่ง จะใช้คำว่า the Holy Ghost แต่อย่างไรก็แล้วแต่เมื่อแปลเป็นภาษาไทยก็จะได้ความหมายว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์
แต่กระนั้นก็ตามถ้าเราได้วิเคราะห์ดูในคำพูดของเยซูให้ดี เราจะพบว่า เยซูได้บอกเอาไว้เป็นเงื่อนที่ไขชัดเจนว่า เพราะถ้าเราไม่ไป พระองค์ผู้ปลอบประโลมใจ ( comforter)ก็จะไม่เสด็จมาหาท่าน แต่ถ้าเราไปแล้ว เราก็จะใช้พระองค์มาหาท่าน นั้นก็คือเงื่อนไขที่พระองค์ผู้ปลอบประโลมใจ ( comforter) จะเสด็จมานั้นก็คือ พระเยซูจะต้องจากไปเสียก่อน เพราะถ้าเยซูยังไม่ได้จากไป เขาผู้นี้ก็จะยังไม่มา แต่เมื่อเราได้ตรวจสอบไบเบิ้ลดูเราก็จะพบว่าแม้แต่ก่อนการเกิดมาของเยซู พระวิญญาณบริสุทธิ( Holy Spirit)ก็ได้มีอยู่ก่อนเรียบร้อยแล้ว โดยจะไปๆมาๆอยู่ตลอด ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่จะยืนยันว่า พระวิญญาณบริสุทธิ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ พระบิดากับพระบุตรตามที่ไบเบิ้ลได้กล่าวเอาไว้นั้นได้มีมาก่อนหน้าที่เยซูจะเกิดเสียอีก คัมภีร์ไบเบิ้ลได้กล่าวเอาไว้ว่า :
[ เพราะว่าเขาจะเป็นใหญ่ในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะไม่ดื่มน้ำองุ่นหรือเหล้าเลย และเขาจะประกอบไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตั้งแต่ครรภ์มารดา ]
(ลูกา 1:15)
[ ต่อมาเมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำปราศรัยของมารีย์ ทารกในครรภ์ของเขาก็ดิ้น และนางเอลีซาเบธก็ประกอบไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ]
(ลูกา 1:41)
[ ฝ่ายเศคาริยาห์ผู้เป็นบิดาประกอบไปด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้วได้พยากรณ์ว่า ]
(ลูกา 1:67)
[ เมื่อเขาทั้งสองมาถึงภูเขานั้น ดูเถิด ผู้พยากรณ์หมู่หนึ่งพบกับท่าน และพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตกับท่าน และท่านก็พยากรณ์อยู่ในหมู่พวกเขา ]
(1 ซามูเอล 10:10)
[ เมื่อท่านได้ยินถ้อยคำเหล่านี้พระวิญญาณของพระเจ้าก็สถิตกับซาอูล และความโกรธของท่านเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ]
(1 ซามูเอล 11:6)
[ แล้วพระองค์ทรงระลึกถึงสมัยเก่าก่อน ถึงโมเสส ถึงชนชาติของพระองค์ว่า "พระองค์ผู้ทรงนำเขาทั้งหลายขึ้นมาจากทะเลพร้อมกับผู้เลี้ยงแพะแกะของพระองค์อยู่ที่ไหน พระองค์ทรงอยู่ที่ไหน ผู้ซึ่งบรรจุพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ท่ามกลางเขา ]
( อิสยาห์ 63:11 )
[ ดูเถิด มีชายคนหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มชื่อสิเมโอน เป็นคนชอบธรรมและเกรงกลัวพระเจ้า และคอยเวลาซึ่งพวกอิสราเอลจะได้รับความบรรเทาทุกข์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตกับท่าน พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงสำแดงแก่ท่านว่า ท่านจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นพระคริสต์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ]
( ลูกา 2:25-26 )
เนื่องด้วยเหตุนี้จึงทำให้เรารู้ว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่ได้ถูกกล่าวเอาไว้ใน ยอห์น 14:26 นั้นจึงไม่ใช่ คนๆเดียวกันกับ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ พระบิดาและพระบุตร อย่างแน่นอน เพราะสิ่งนั้นได้มีอยู่แม้แต่ก่อนที่เยซูจะมาเกิดเสียด้วยซ้ำไป และก็มีอยู่ แม้แต่ในช่วงที่เยซู ยังอยู่บนโลกนี้ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้ช่วยเหลือเยซูต่างๆนาๆ ดังนั้นที่ได้ถูกกล่าวเอาไว้ใน ยอห์น 14:26 ที่ถูกเรียกว่า พระองค์ผู้ปลอบประโลมใจ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า comforter จึงเป็นคนละคนกับ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ พระบิดาและพระบุตร และอีกอย่างที่สำคัญ ที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ไปในตัวว่า พระองค์ผู้ปลอบประโลมใจ (comforter) ที่จะมาภายหลังจากที่เยซูได้จากไป นั้นไม่ใช่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ พระบิดาและพระบุตร อย่างแน่นอน ก็คือ พระเยซูพูดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า :
[ เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะทรงประทานผู้ปลอบประโลมใจ ( comforter)อีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อพระองค์จะได้อยู่กับท่านตลอดไป ]
( ยอห์น 14:16 )
ในคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับภาษาอังกฤษในบทเดียวกันมีดังนี้
[ And I will pray the Father, and he shall give you another Comforter, that he may abide with you for ever ]
(John 14:16 )
เราจะเห็นได้ชัดเจนว่าพระเยซูได้ใช้คำว่า อีกผู้หนึ่ง หรือ อีกท่านหนึ่ง ซึ่งภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Another ซึ่งบ่งบอกไปในตัวเลยว่า มีมากกว่าหนึ่ง นั้นคือ ตัวเยซู หนึ่ง และ ผู้ที่จะมาหลังจากท่านอีกหนึ่ง แต่ถ้าเราจะถามว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ พระบิดาและพระบุตร ตามที่กล่าวกัน มีกี่ พระวิญญาณ แน่นอนเป็นที่รู้กันว่ามีแค่พระวิญญาณเดียวเท่านั้นเมื่อเป็นเช่นนี้เราจึงสรุปได้ว่า ผู้ปลอบประโลม (comforter) ที่ถูกกล่าวพยากรณ์เอาไว้ว่าจะมาหลังจากที่เยซูได้จากไป จึง ไม่ใช่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของ พระบิดาและพระบุตร ตามที่กล่าวอ้างกันอย่างแน่นอน และถ้าจะให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นก็ให้เราย้อนกลับไปดู คำว่า
Another ( อีกผู้หนึ่ง ) ในภาษากรีก เราก็จะพบว่าในภาษากรีกนั้นได้แยกการใช้คำๆนี้เอาไว้อย่างชัดเจนในสองกรณีด้วยกัน นั้นคือ 1.คำว่า Another ( อีกผู้หนึ่ง,อีกอันหนึ่ง,อีกท่านหนึ่ง,อีกสิ่งหนึ่ง,อีกหนึ่ง ) ที่ใช้กับสิ่งของหรือคนที่เป็นประเภทหรือชนิดเดียวกัน โดยภาษากรีกจะใช้คำว่า allos (al-las) และ 2. คำว่า Another ( อีกผู้หนึ่ง,อีกอันหนึ่ง,อีกท่านหนึ่ง,อีกสิ่งหนึ่ง,อีกหนึ่ง ) ที่ใช้กับสิ่งของหรือคนที่เป็นคนละชนิดกันหรือคนละประเภทกันซึ่งเป็นชนิดที่แตกต่างกัน ซึ่งในประเภทที่สองนี้ในภาษากรีกจะใช้คำว่า heteros ( het-er-os) เมื่อเข้าใจแล้วเราก็กลับไปดูในคัมภีรไบเบิ้ลบท ยอห์น 14:16 โดยดูว่าคำว่า Another ( อีกผู้หนึ่ง ) ที่ถูกใช้นั้นอยู่ในชนิดหรือประเภทไหนในภาษากรีกตามที่ไบเบิ้ลฉบับภาษากรีกได้มีบอกเอาไว้ เมื่อไปตรวจสอบดูแล้วก็จะพบว่า คำว่า Another ( อีกผู้หนึ่ง ) ในบทยอห์น 14:16 ถูกใช้เพื่อบ่งถึงประเภทหรือชนิดเดียวกัน (allos) นั้นก็คือ พระผู้ปลอบประโลม (comforter) ที่จะมาหลังจากเยซูได้จากไปแล้วนั้นจะเป็นผู้ที่เหมือนกันกับเยซู นั้นก็คือเป็นมนุษย์และได้รับตำแหน่งแห่งการเป็นศาสดา เหมือนกับที่คัมภีร์ไบเบิ้ลได้เยซูได้ยืนยันสถานะของตเยซูเอาไว้ว่า:
ท่านทั้งหลายผู้เป็นชนชาติอิสราเอล ขอฟังคำเหล่านี้เถิด คือ พระเยซูชาวนาซาเร็ธ ผู้เป็นมนุษย์ ผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดชี้แจงให้ท่านทั้งหลายทราบโดยการอัศจรรย์ การมหัศจรรย์และหมายสำคัญต่างๆ ซึ่งพระเจ้าได้ทรงกระทำโดยพระองค์นั้น ท่ามกลางท่านทั้งหลาย ดังที่ท่านทราบอยู่แล้ว
(กิจการ 2:22)
"Ye men of Israel, hear these words; Jesus of Nazareth, a man approved of God among you by miracles and wonders and signs, which God did by him in the midst of you, as ye yourselves also know."
[The Bible, Acts 2:22]
ด้วยเหตุว่า มีพระเจ้าองค์เดียวและมีคนกลางแต่ผู้เดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ คือ พระเยซูคริสต์ผู้ทรงสภาพเป็นมนุษย์
(1 ทิโมธี 2:5)
ดูเถิด มีคนหนึ่งมาทูลพระองค์ว่า "ท่านอาจารย์ผู้ประเสริฐ ข้าพเจ้าจะต้องทำดีประการใดจึงจะได้ชีวิตนิรันดร์" พระองค์ตรัสตอบเขาว่า "ท่านเรียกเราว่าประเสริฐทำไมเล่า ไม่มีผู้ใดประเสริฐนอกจากพระองค์เดียวคือพระเจ้า แต่ถ้าท่านปรารถนาจะเข้าในชีวิต ก็ให้ถือรักษาพระบัญญัติไว้
(มัทธิว 19:16-17)
[ พระองค์ตรัสถามเขาว่า "เหตุการณ์อะไร" เขาจึงตอบพระองค์ว่า "เหตุการณ์เรื่องพระเยซูชาวนาซาเร็ธ ผู้เป็นศาสดาพยากรณ์ ประกอบด้วยฤทธิ์เดชในการงานและในถ้อยคำจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า และต่อหน้าประชาชนทั้งหลาย ]
( ลูกา24:19 )
แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 53 12:36:01