ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มต้นจากขึ้นฐานพระก่อนนะคะ ข้างในกลวงค่ะ เวลาเผาจะได้ไม่แตก ขึ้นรูปมาเป็นทางกระบอกก่อนก็ได้ค่ะ แล้วก็บีบๆแต่งๆให้ได้เป็นฐานรูปนั่ง จากนั้นก็แต่งทรงให้ได้เป็นรูปขาและเท้านะคะ ได้ทรงแล้ว ก็มาแต่งรูปขาและเท้าให้ชัดขึ้นนิดนึง จะได้กะสัดส่วนถูก เอาพลาสติก wrap ห่อส่วนบนไว้ก็ได้นะคะ เดี๋ยวจะแห้งเกินไป แล้วจะต่อดินเพิ่มขึ้นไปแล้วจะติดไม่สนิทกันค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 08:41:37 จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:34:08

ความคิดเห็นที่ 2 ได้ทรงขาและเท้าแล้ว ก็ขึ้นตัวพระต่อได้เลยค่ะ ได้ความสูงของตัวตามต้องการ ก็ปิดไหล่และขึ้นคอได้เลยค่ะ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:42:15

ความคิดเห็นที่ 3 รอชมต่อไปนะ เอาใจส่งไปช่วยแปะดินค่ะ จากคุณ : ต้นสนซ้ายมือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:42:31

ความคิดเห็นที่ 4 ได้ตัว และคอแล้ว ทีนี้ก็ไล่มาปั้นทรงเศียร ไหล่ และแขนค่ะ ตรงแขนอันก็ปั้นไม่ค่อยกลวงเท่าไหร่ มันยากค่ะ ก็ค่อนข้างตันเหมือนกัน คงไม่เป็นไรมั้งคะ คงไม่แตก :) มันไม่หนามาก จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:55:43

ความคิดเห็นที่ 5 พอได้ทรงคร่าวๆทั้งองค์แล้ว ทีนี้งานเริ่มละเอียดขึ้นแล้วล่ะค่ะ เป็นการแต่งรายละเอียดรูปหน้า มือ และเท้า แล้วก็จีวร คร่าวๆค่ะ ขึ้นรูปเศียรคร่าวๆ แล้วก็เติมส่วนประกอบของหน้าค่ะ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:56:32

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนนี้ก็มีแต่แต่งรายละเอียดค่ะ ช่วงนี้แหละ นานที่สุด :D แต่งไปเติมไปเรื่อย ทุกรายละเอียดเท่าที่จะทำได้แหละค่ะ ตอนนี้จบเท่านี้ก่อน ไว้มาดูตอนต่อไป จะเริ่มติดเม็ดเกศาที่เศียรนะค จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 08:59:04

ความคิดเห็นที่ 7 เริ่มจากเกศา ถ้าจะเอาละเอียดๆ ก็ปั้นเม็ดกลมๆไว้ก่อนนะคะ อันปั้นไว้เยอะเลยทีเดียว อันนี้ต้องอดทนและละเอียดนิดนึง พยายามให้เม็ดเท่าๆกันค่ะ กะให้ดีๆ ใช้จำนวนเยอะเหมือนกันค่ะ กว่าจะติดได้เต็มเศียร จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:00:35

ความคิดเห็นที่ 8 มาดูภาพวิธีติดเม็ดเกศากันละเอียดๆเลยนะคะ เริ่มจากใช้เครื่องมืออะไรก็ได้ แข็งๆหน่อย เจาะเศียรเข้าไปให้เป็นรู เพื่อให้ยึดกันได้อย่างทนทาน ไม่งั้นจะแยกตัวกันค่ะจากนั้นก็ทาดินโคลนลงไปตรงรูที่เจาะไว้ ตัวนี้จะเป็นเหมือนกาวเชื่อมนะคะ แล้วก็นำเม็ดเกศาที่ปั้นไว้มาแปะลงไปค่ะ พอโคลนแห้ง เม็ดเกศาก็จะติดกับเศียรแน่นหนาดีค่ะ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:02:27

ความคิดเห็นที่ 9 ปั้นๆๆๆๆๆ แปะๆๆๆๆไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆค่าาาาา จำไม่ได้ว่าทำนานเท่าไหร่เลยค่ะ :D จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:03:52

ความคิดเห็นที่ 10 ค่อยๆไล่ติดไปเรื่อยๆ หมดก็ปั้นใหม่ :D ตรงกรอบหน้าก็ไล่กรอบไปตามรูปหน้า ตามที่ต้องการเลยค่ะ จากนั้นก็เก็บรายละเอียดใบหน้า ตรงนี้อันใช้พู่กันขนาดเล็ก แต้มดินโคลนแล้วค่อยๆเติมส่วนที่ต้องการนะคะ แต่ใครจะใช้วิธีไหนตามถนัดก็ได้หมดค่ะ ไม่มีผิดไม่มีถูก :) จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:04:50

ความคิดเห็นที่ 11 เก็บรายละเอียดหน้าและเศียรไปหมดแล้ว เหลือแต่ฐาน ตรงนี้อันทำเป็นฐานดอกบัวค่ะ พระพุทธเจ้าประทับบนดอกบัว อันว่าเข้ากันดี ชอบค่ะ :D  ก็เหมือนเดิม ปั้นกลีบบัวทีละกลีบ ค่อยๆติดที่ฐานไปนะคะ วิธีการติดก็เหมือนติดเม็ดเกศาเลยค่ะ อันทำเป็นดอกบัวสองชั้นค่ะ พอได้ไหม :) ดูเป็นดอกบัวอยู่เนอะคะ :P จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:05:47

ความคิดเห็นที่ 12 ติดครบแล้ว ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ :D  ตรงนี้อันจะเอาพู่กันจุ่มดินโคลน ทาบางๆทั่วองค์อีกทีนะคะ เพื่อให้ผิวเรียบขึ้นหน่อยค่ะ เสร็จเรียบร้อยได้ดังภาพข้างล่างนี้นะคะ เอามาโชว์ทุกมุมเลย :)  เศียรใหญ่กว่าที่ตั้งใจไว้นิดนึง พอดีกะไม่ค่อยถูก เติมไปเติมมา เติมแก้มที เติมคางที กลับมาเติมแก้มอีก เศียรใหญ่ หน้าอิ่ม (บุญ) กันเยอะนิดนึงนะคะ :) จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:06:31

ความคิดเห็นที่ 13 แถมอีกรูปนึง จากนี้ก็ต้องรอให้แห้งสนิท แล้วก็นำไปเผาเพื่อทำพิมพ์ต้นแบบนะคะ ยังไม่เคยลองเหมือนกัน ไว้มาลุ้นด้วยกันค่ะ เดี๋ยวคืนนี้จะนำรูปตอนเผาเสร็จแล้ว กับทำพิมพ์มาลงนะคะ มาช่วยกันลุ้นหน่อยค่า..... :D จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:08:54

ความคิดเห็นที่ 14 Bookmark.... จากคุณ : คนพิการ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:27:46

ความคิดเห็นที่ 15 งามครับ จากคุณ : สิบพฤษภาคม เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:40:30

ความคิดเห็นที่ 16 เก่งมากๆ เลยค่ะ :D จากคุณ : P_JUNG_PIGLET เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 09:54:58

ความคิดเห็นที่ 17 อนุโมทนาครับ _/\_ จากคุณ : ฮิมาวาริซซัง เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 10:43:40

ความคิดเห็นที่ 18 อานิสงค์การสร้างพระพุทธรูป ในวัฏฏังคุลีชาดก กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า พระเจ้าปเสนทิโกศล ถวายนมัสการสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วทูลถามว่า "บุรุษสตรีผู้หนึ่งผู้ใด เมื่อได้สร้างพระพุทธปฏิมากร กระทำรูปเปรียบจำลองพระพุทธองค์ ขึ้นไว้ จะได้ประมาณอานิสงส์เช่นไรพระพุทธเจ้าข้า" สมเด็จพระบรมศาสดามีพระพุทธดำรัสว่า "ดูกร มหาบพิตร ผู้เป็นมหาราชบุรุษหรือสตรีผู้ใดผู้หนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยศรัทธา เมื่อได้สร้างพระพุทธปฏิมากรไว้ในพระพุทธศาสนา พระพุทธปฏิมากรนั้น บุคคลจะสร้างด้วยดินเหนียว หรือศิลาก็ตามหรือทำด้วยโลหะแลทองแดงก็ตาม จะทำด้วยไม้ แลสังกะสี ดีบุกก็ตาม จะทำด้วยรัตนะ เงินทองก็ตาม ผู้ที่สร้างทำนั้น จักได้อานิสงส์ผลอันมากพ้นที่จะนับประมาณ การที่สร้างพระพุทธปฏิมากร หรือปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปก็ดี เป็นประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้งหลายซึ่งยังเวียนว่ายในวัฏฏสงสาร ครั้งเมื่อตถาคตเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ได้เห็นนิ้วพระหัตถ์พระพุทธปฏิมากรซึ่งทำด้วยดินเหนียวหักขาดไปนิ้วหนึ่ง จึงนำเอาดินเหนียวมาปั้นทำให้เป็นบริบูรณ์เป็นปกติ แล้วทำการสักการบูชาด้วยมาลาแลของหอม ครั้งทำลายเบญจขันธ์ ก็ได้เสวยสมบัติในสวรรค์ ได้เป็นบรมกษัตริย์ในมนุษย์โลก สิ้นกาลนาน ภายหลังเมื่อโพธิสมภารพุทธการกธรรมเต็มบริบูรณ์แล้วก็ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า" แล้วทรงเทศนาถึงอดีตชาติของพระองค์ ดังนี้ ในอดีตกาล มีพ่อค้าคนหนึ่งชื่อ กุลภัทรกุมาร ไดัชักชวนพ่อค้าทั้งหลายเดินทางไปค้าขายยังต่างเมือง ระหว่างทางเขาเห็นพระพุทธปฏิมากรทำด้วยดินเหนียวองค์หนึ่ง ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอาราม ในป่าชัฏ พระพุทธปฏิมากรนั้น มีนิ้วพระหัตถ์หักไปนิ้วหนึ่ง จึงเอาดินเหนียวมาขยำกับน้ำอ้อย ปั้นนิ้วพระหัตถ์พระพุทธปฏิมากรปฏิสังขรณ์ให้เต็มบริบูรณ์ทั้ง ๕ นิ้ว แล้วเอาเงิน ๕ กหาปนะ ให้หญิงทาสีคนหนึ่ง คอยปฏิบัติรักษา พระพุทธปฏิมากรนั้น และให้มูลค่าประทีป เทียน แลมาลา ของหอม สำหรับบูชาพระปฏิมากรนั้นด้วย ครั้นบูชาแล้ว จึงตั้งความปรารถนาด้วยว่า "อานิสงค์ที่ข้าพเจ้าได้ปฏิสังขรณ์นิ้วพระหัตถ์นี้ ขึ้นชื่อว่าข้าศึกศัตรูทั้งปวง อย่าให้มีเฉพาะหน้าข้าพเจ้าเลยอนึ่งขอให้ข้าพเจ้าได้ตรัสรู้เป็นสัพพัญญูพระพุทธเจ้าในอนาคตด้วยเถิด" นับแต่นั้นมา ข้าศึกศัตรูและ ร้ายทั้งหลายทั้งหลาย แม้แต่งู ตะขาบ และแมลงป่อง เป็นต้น ก็มิได้กล้ำกลายกุลภัทรกุมาร เมื่อตายไปได้เกิดเป็นเทพในสวรรค์ พวกอสูรในเทวโลกก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ พากันหนีหมด เมื่อปฏิสนธิในครรภ์พระอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี เทพบุตรซึ่งเป็นบริวารพันหนึ่งก็มาเกิดในครรภ์ของภรรยาพวกอำมาตย์ เมื่อประสูติพระกุมารแล้ว ในกาลนั้น ทั้งหลายมีช้าง แลม้าเป็นต้น แม้จะดื้อเพียงใด เมื่อพระราชกุมารยกนิ้วพระหัตถ์ชี้มาในกาลใด เหล่านั้นก็ซวนเซล้มลงพระราชกุมารจึงได้พระนามว่า "วัฏฏังคุลีราชกุมาร" เมื่อได้ครองราชย์เป็น "พระเจ้าวัฏฏังคุลีราชโพธิ " ประกอบด้วยเมตตากรุณา ไม่เคยเบียดเบียนชีวิตใดเลย ตั้งมั่นอยู่ในศีล ในกาลนั้นพระยาร้อยเอ็ดทั้งหลายในชมพูทวีปจึงปรึกษากันจักไปชิงราชสมบัติ ของพระเจ้าวัฏฏังคุลีราช เพราะเห็นว่าพระองค์ไม่ฆ่า เลย คงได้เมืองมาโดยง่ายเมื่อยกทัพมาประชิดเมืองของพระเจ้าวัฏฏังคุลีราช พระองค์เพียงชี้นิ้วพระหัตถ์ พวกพระยาร้อยเอ็ดและเหล่าทหารก็ตกจากยานพาหนะและหกล้มระเนระนาด พระยาร้อยเอ็ดจึงสวามิภักดิ์ยอมเป็นประเทศราชของพระโพธิ สมเด็จพระทศพลจึงตรัสพระคาถาว่า บุคคลผู้สร้างพระพุทธรูปนั้น จะได้เป็นพระอินทร์ ๘ ครั้ง จะได้เป็นสมเด็จบรมจักรพรรดิ ๘๐ ชาติหรือ ๑๐๐ ชาติ จะได้เป็นพระราชานับประมาณไม่ได้ ผลแห่งการปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมพระพุทธรูปนั้น ไม่ควรคิดว่ามีค่าเท่าใดเพราะเป็นอจินไตย ประมาณไม่ได้ บุคคลผู้ก่อสร้างพระพุทธรูปด้วยปีติเลื่อมใสแล้วจะเกิดในสวรรค์สิ้นกาลนาน ผู้ปลูกมหาโพธิ์ นรชนผู้บวชตน นรชนผู้สร้างพระปฏิมากร นรชนสามจำพวกนี้ จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเที่ยงแท้..... 0kd http://www.jetovimut.com/index.php/anisong/93-anisong-sangpra.html จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 11:01:56

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณทุกท่านและสาธุอนุโมทนากับคุณสติค่ะ กำลังว่าจะไปหาอานิสงค์การสร้างพระพุทธรูปมาโพสอยู่เลยล่ะค่ะ แต่ไม่ทันคุณสติ :D มาร่วมกันโมทนานะคะ ได้อานิสงค์เหมือนคนปั้นทุกประการค่า.... แถมรูป องค์พระองค์แรกที่ปั้นในชีวิต อิอิ ประมาณปีที่แล้วค่ะ ไปนั่งปั้นที่ "บ้านแม่ปั้นดิน พ่อทำสวน" เชียงใหม่ค่ะ ได้มาตามรูป ^^ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 11:26:09

ความคิดเห็นที่ 20 อิอิ ส่วนองค์ข้างๆเป็นของแฟน ไปปั้นพร้อมๆกันค่ะ ใช้เวลาประมาณ  6-7 ชั่วโมงกันค่ะ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 11:28:57

ความคิดเห็นที่ 21 องค์นี้ปั้นเป็นองค์ที่สอง ต่อจากองค์ข้างบน องค์นี้เผา ทำสี แล้วก็ติดคริสตัลเป็นเครือ่งทรงจักรพรรดิค่ะ ดูเต็มๆที่เวบอันก็ได้นะคะ เขียนเล่าไว้ตั้งแต่ต้นเลยค่า ^^ hทีทีp://www.buddhabucha.net/category/handmade-heartthink/handmade-sculpture/ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 11:31:15

ความคิดเห็นที่ 22 เก่งจังเลยค่ะ  จากคุณ : คนจีนตัวน้อย เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:09:08

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบมากกกเลยค่ะ ฝีมือดีจริงๆค่า เคยคิดจะปั้นเองนานแล้ว แต่ยังไม่ได้หาวิธีการเป็นชิ้นเป็นอัน ^^'' ขอบคุณที่ช่วยจุดประกายอีกครั้งนะคะ จากคุณ : JeyZ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:15:33

ความคิดเห็นที่ 24 จากคุณ : temjung99 เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:26:12

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ JeyZ เริ่มเลยค่า ขอให้ได้ลงมือ เดี๋ยวทุกอย่างไปเองค่า มีดินป่าวค๊า อยู่เชียงใหม่รึเปล่า หลังไมค์ได้นะคะ ถ้าได้ปั้นแล้ว เอารูปมาแชร์กันนะคะ ^^ ช่วยเชียร์ ทุกอย่างเป็นไปได้จริงๆค่ะ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 12:52:55

ความคิดเห็นที่ 26 มาอนุโมทนาด้วยครับ ปั้นได้สวยมากๆเลยครับ จากคุณ : Garcinia เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 13:45:14

ความคิดเห็นที่ 27 พระดินปั้น ขอให้มีศรัทธา ใครๆก็ทำได้ ... จากคุณ : ผู้ยังต้องศึกษา เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:16:17

ความคิดเห็นที่ 28 ปั้นไว้ทำบุญใส่บาตรทุกวัน ไว้รวบรวมไปทำบุญที่วัดทุกอาทิตย์ และ เมื่อมีงานกุศลที่เหมาะสม ..... ปั้นพระไม่ยากใครๆก็ทำได้ ขอให้มีศรัทธา ..... จากคุณ : ผู้ยังต้องศึกษา เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:18:10

ความคิดเห็นที่ 29 เวลาปั้น ก็บริกรรม ภาวนาไปด้วย ถือว่าทำเหตุพร้อม ด้วย กาย วาจา ใจ .. จากคุณ : ผู้ยังต้องศึกษา เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:19:06

ความคิดเห็นที่ 30 ภาพองค์แรก  แล้วก็องค์ต่อไป ต่อไป ต่อต่อไป ..... ใครก็ปั้นเองได้ ขอให้มีศรัทธา และพุทธานุสติอยู่ในจิตในใจ  .. จากคุณ : ผู้ยังต้องศึกษา เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:29:40

ความคิดเห็นที่ 31 จขกท. เก่งจังเลย  จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:19:09

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณทุกท่านและสาธุอนุโมทนากับคุณสติค่ะ กำลังว่าจะไปหาอานิสงค์การสร้างพระพุทธรูปมาโพสอยู่เลยล่ะค่ะ แต่ไม่ทันคุณสติ :D มาร่วมกันโมทนานะคะ ได้อานิสงค์เหมือนคนปั้นทุกประการค่า.... -------------------- ^ สาธุครับ อนุโมทนาบุญครับ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:50:20

ความคิดเห็นที่ 33 เย่ ภาพตอนเผาเสร็จแล้วค่า....แต่เดี๋ยวก่อน... ยังมีอีกหลายขั้นตอนค่า จากองค์ที่เผานี้แล้ว จะต้องให้ช่างไปถอดพิมพ์ให้ได้ต้นแบบขี้ผึ้งออกมาเพื่อทำต้นแบบสำหรับพิมพ์หล่อค่า จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 17:48:42

ความคิดเห็นที่ 34 นี่ค่ะ ได้ต้นแบบขี้ผึ้งออกมา แต่จะไม่เนียนเลยนะคะ เป็นรูเพียบเลย และมีขอบต้องตัดออกด้วย ที่จ๋อยเลยก็คือ ฐานดอกบัวใช้ไม่ได้ค่า T_T เพราะดอกบัวบานออก ช่างจะถอดพิมพ์ไม่ได้ ช่างเลยทำฐานเรียบๆมาให้ ให้ทำดอกบัวขี้ผึ้งติดไปใหม่ค่ะ @_@ ก็ด้ายยยยย จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 17:51:10

ความคิดเห็นที่ 35 ให้ดูชัดๆค่า แหว่งไปหมดเรย เศียรก็หายไปบางส่วน ต้องเอาขี้ผึ้งเติม แล้วทำให้เรียบค่า จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 17:56:03

ความคิดเห็นที่ 36 ช่างทำบล็อกมาให้ ก็เอาขี้ผึ้งมาลนไฟให้อ่อนๆ แล้วอัดลงไปในบล็อก ได้กลีบดอกบัวมาทีละกลีบค่า จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:02:26

ความคิดเห็นที่ 37 แอ่นแอ๊นนน....มาแล้ว อันนี้ช่างช่วยเก็บรายละเอียดให้อีกทีค่า เอาปูนมาแต่ง เนียนเชียวค่ะ องค์นี้จะเป็นต้นแบบในการทำพิมพ์หล่อค่ะ ซึ่งก็จะต้องเก็บไว้ให้ดี เพราะพิมพ์หล่อมีอายุการใช้งานไม่นานมาก หล่อได้ประมาณ 50 องค์ก็ต้องทำพิมพ์ใหม่อีก เพราะฉะนั้น องค์นี้ต้องรักษาสุดชีวิตค่าา... :D จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:05:30

ความคิดเห็นที่ 38 อีกรูปนึง ฐานดอกบัวเป็นแบบใหม่ละค่ะ กลีบไม่โค้งมาก จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:07:20

ความคิดเห็นที่ 39 ตอนนี้ก็รอๆๆๆค่า ใช้เวลาทำพิมพ์ต้นแบบ หล่อ แต่ง เผา ประมาณ 2 อาทิตย์เป็นอย่างน้อย มาลุ้นกันนะค๊าาาา :D จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:11:42

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบชื่อ "รักศีล" จังครับ ขออนุโมทนากับการรักษาศีลด้วยอีกทางหนึ่งครับ แต่จริงๆก็น่าจะเรียกว่า "รักพุทธศิลป์" ได้อีกชื่อหนึ่งนะครับ ^_^ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:27:01

ความคิดเห็นที่ 41 :D ชอบชื่อ สติ เหมือนกันค่า จริงๆแล้วก็ต้องรักษาทั้งสองอย่างเลยเนอะคะ ทั้งศีล ทั้ง สติ ตั้งชื่อไว้เตือนตัวเองแหละค่ะ จะได้ไม่ลืม รัก (ษา) ศีล :D จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:46:02

ความคิดเห็นที่ 42 เยี่ยมครับ จากคุณ : นายลำพู เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 19:00:55

ความคิดเห็นที่ 43 ......................... จากคุณ : chobchingchai เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 19:28:39

ความคิดเห็นที่ 44 โมทนาบุญอุ่นใจกันไปแล้ว มีงานบุญมาฝากในกระทู้นี้ด้วยนะคะ ผ้าป่าสร้างมุ้งลวดวัดร่ำเปิง เชียงใหม่ค่ะ หลวงพี่ที่เป็นพระพี่ชายบวชอยู่ที่นี่ค่ะ ลองไปดูรายละเอียดกันค่า :) http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y9765656/Y9765656.html#8 จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 21:22:07

ความคิดเห็นที่ 45 งามมากครับ ... สัมผัสได้ถึงความสงบ ความตั้งใจเลย อนุโมทนาด้วยในความตั้งใจ จากคุณ : the_architect เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 21:27:55

ความคิดเห็นที่ 46 งานศิลปะที่ดี ๆ นะ ...ต้องใช้ความเพียรมากกว่าปกติ แต่งานศาสนาที่ดีๆ ...... ต้องปฎิบัติมาก ๆ จากคุณ : Detente เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 23:10:43

ความคิดเห็นที่ 47 งานศิลปะที่ดี ๆ นะ ...ต้องใช้ความเพียรมากกว่าปกติ แต่งานศาสนาที่ดีๆ ...... ต้องปฎิบัติมาก ๆ ---------------------- อนุโมทนา สาธุ และเห็นด้วยกับคุณ Detente ค่า จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 08:14:19

ความคิดเห็นที่ 48 "ทำงานศิลปะให้เป็น งานศาสนา คนปั้นดิน ดินปั้นใจ" "ปั้นดินให้เป็นพระ ปัันคุณพระให้เกิดที่ใจ" จากคุณ : ผู้ยังต้องศึกษา เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 09:10:22

ความคิดเห็นที่ 49 ผมเพิ่งทราบว่า เขาปั้นวันละนิดละหน่อยได้ นึกว่าเป็นดิน ต้องปั้นรวดเดียวให้เสร็จ ไม่งั้น ดินไม่แข็งเป็นเนื้อเดียวกัน จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 16:54:25

ความคิดเห็นที่ 50 สวยงามมาก ๆ ครับ ทำด้วยใจนี่หละ มีคุณค่ายิ่งกว่าไปเช่ามาอีกครับ  จากคุณ : indysoft เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 18:01:33

ความคิดเห็นที่ 51 ขออนุโมทนาด้วยครับ ปั้นได้งดงามจริงๆครับ _/|\_ จากคุณ : Ueijiro เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 19:05:47

ความคิดเห็นที่ 52 คุณป้อมคะ งานปั้นดินสามารถเก็บไว้ปั้นต่อได้ค่ะ มีเทคนิคการเก็บก็คือ เอาน้ำเปล่าใส่กระป๋องสเปรย์ ฉีดให้ดินชุ่มน้ำตอนเราปั้นเสร็จในวันนั้นๆ แล้วเอาพลาสติก wrap อาหารเนี่ยค่ะ พันไว้ไม่ให้น้ำระเหย ดินจะอุ้มน้ำไว้ และนิ่มพอ ให้เรามาแต่งต่อในวันต่อไปค่ะ จากคุณ : ศรัทธาในธรรม เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 19:08:55

ความคิดเห็นที่ 53 ขออนุโมทนาด้วยครับ จากคุณ : กายใจ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 19:47:35

ความคิดเห็นที่ 54 พอทำต้นแบบด้วยดินเหนียวแล้ว คุณรักศีลนำไปเผาที่ไหน แล้วให้ที่ไหนทำพิมพ์ต้นแบบให้อะคะ? จากคุณ : JeyZ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 22:07:59

ความคิดเห็นที่ 55 ขออนุโมทนาด้วยครับ จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 23:37:57

ความคิดเห็นที่ 56 เข้าไปชมรูปเพิ่มเติมและขั้นตอนได้ที่ www.buddhabucha.net นะจ้ะ แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 53 08:38:35 จากคุณ : ผู้ยังต้องศึกษา เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 08:37:17

ความคิดเห็นที่ 57 สวยมากเลยครับ จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 18:59:19

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณค่ะ  อนุโมทนาบุญนะคะ จากคุณ : ผักผลไม้รวม เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 21:23:04

ความคิดเห็นที่ 59 ขออนุโมทนาด้วยครับ และกระทู้นี้จุดประกายให้ผมอยากทำตามเลยครับ เมื่อก่อนเป็นคนชอบเครื่องรางของขลัง พระเครื่อง ประมาณนั้น แต่เดี๋ยวนี้ศึกษาแต่พระธรรมอย่างเดียว แต่อ่านกระทู้นี้แล้ว รู้สึกสัมผัสได้ว่า การได้ปั้นพระพุทธรูป ด้วยศรัทธา ด้วยความเพียร ด้วยสติ ด้วยความอดทน และเป็นพุทธานุสติที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีประมาณจริงๆ จากคุณ : kuromonkey เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 22:34:26

ความคิดเห็นที่ 60 อนุโมทนาบุญ  งามจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : chickenja เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 22:44:06

ความคิดเห็นที่ 61 อนุโมทนาบุญ  งามจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : chickenja เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 22:44:25

ความคิดเห็นที่ 62 อนุโมทนาครับ จากคุณ : Voldemort เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 11:01:17

ความคิดเห็นที่ 63 ระหว่างรองานพระดินเผาคุณรักศีล เค้าฝากงานนี้มาโพสให้ดูกันเล่นๆก่อนค่า เป็นงานพระอุ้มบาตรดินปั้น องค์นี้ไม่ได้เผา ปั้นแล้วรอแห้ง และทาสีทองเลยค่า องค์นี้ร่วมด้วยช่วยกันปั้น รักศีลกับแฟน แฟนปั้นมาให้ก่อน แต่แตกเสียหายเล็กน้อย เลยมาซ่อม และทาสีเพิ่มค่ะ ติดลูกปัดสีทองที่เศียรเป็นเกศาด้วยค่ะ ลองดูเป็นไอเดียกันนะคะ เผื่อไปลองทำ จากคุณ : ศรัทธาในธรรม เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 14:07:03

ความคิดเห็นที่ 64 ตอบคุณ JeyZ - ไม่ทราบอยู่ที่ไหนคะ เชียงใหม่หรือกรุงเทพ ยังไงลองหาพวกมหาลัย หรือศูนย์ฝึกอาชีพที่เค้ามีแผนกเครื่องปั้นดินเผาน่ะค่ะ ลองเข้าไปถามเค้าดู ส่วนมากจะมีเตาเผา ถ้าไม่มี เค้าก็จะแนะนำได้ค่ะ เค้าจะรู้จักกันในวงการเครื่องปั้นดินเผาเค้า อันก็ทำแบบนี้เหมือนกัน เดินเข้าไปถามเอาเลย แล้วเค้าก็แนะนำต่อๆกันไป หรืออยากถามอะไรอันเพิ่มก็ได้นะคะ ที่อันรู้อันจะบอกค่า โมทนากับคุณ kuromonkey ด้วยค่ะ เอาสิคะ มาลองลงมือกันเลย อันก็ไม่เคยปั้น ลุยเล้ย.... :D ลองอ่านเพิ่มเติมในเวบอันก็ได้นะคะ จะพยายามลงไว้เป็นขั้นตอนๆ Buddhabucha.net ค่ะ ได้เริ่มปั้นแล้ว ส่งรูปมาให้ดูบ้างนะค๊า :) จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 15:48:08

ความคิดเห็นที่ 65 หลวงพ่อเงินล้านทันใจค่า เพราะปั้นไปบริกรรมคาถาเงินล้าน (หลวงพ่อฤาษี) ไปด้วย ปั้นแบบทันใจ วันเดียวเสร็จค่ะ องค์นี้มีคนปั้นให้ค่ะ ไม่ได้ปั้นเอง เค้าให้มาปิดทองวันละแผ่น ตอนนี้เต็มองค์แล้วนะคะ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 19:30:16

ความคิดเห็นที่ 66 แบบนี้ ปั้นยากไหมครับ พอดีอ่านเวบเที่ยวอินเดีย เห็นว่าสวยดีครับ แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 53 20:56:37 จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 20:55:58

ความคิดเห็นที่ 67 สุโก้ยมากค่ะ ..... เยี่ยมจริงๆ ^^ จากคุณ : สายลมแห่งความทรงจำ เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 01:35:42

ความคิดเห็นที่ 68 เอ....ไม่แน่ใจนะคะคุณป้อม อันก็ไม่ใช่มืออาชีพ แต่อันว่าทุกอย่างเป็นไปได้นะคะ ลองเอาภาพนี้เป็นแรงบันดาลใจ ปั้นตาม ไม่เหมือนก็ใกล้เคียงล่ะน่า.... :D ถ้าเป็นอันลองปั้น อันคงขึ้นรูปเป็นแผ่นให้ได้เค้าโครงตามแบบ เพราะดูแล้วตามรูปเหมือนกับว่าข้างหลังจะแบนๆแบบว่าเป็นแผ่นติดผนังรึเปล่าหนอ... ขึ้นรูปแผ่นแบนๆแล้วก็แต่งๆๆให้ได้เค้าโครงประมาณนี้ แล้วเติมดินให้นูนขึ้นเป็นโครงองค์พระ กะให้ได้สัดส่วนก่อน เช่นสัดส่วนวงกลม สัดส่วนองค์พระ มีเศียร มีองค์ และสัดส่วนของเข่า ตรงเทวดาองค์น้อยก็ กะวางก้อนดินไว้ให้ได้สัดส่วน พอได้สัดส่วนคร่าวๆของทั้งงานแล้ว ก็ค่อยๆเก็บรายละเอียดค่ะ คิดว่าอย่างนี้นะคะ อันนี้ก็คิดเอาเองแบบว่าถ้าเป็นอัน คงจะลองทำแบบนี้ล่ะค่า คุณป้อมลองดูไหมคะ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 07:11:35

ความคิดเห็นที่ 69 เก่งค่ะ สวยงามมาก จากคุณ : ฟ้าเดียวกัน เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 09:19:02

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณทุกคนมากค่า ทีเป็นกำลังใจให้ค่ะ ตอนนี้อันรอองค์พระที่เผาอยู่นะคะ ระหว่างนี้เลยไปซื้อผ้าสีทองมา เดี๋ยวจะลองเย็บจีวรรอไปก่อน เผื่อพระเสร็จ จะได้มีจีวรผ้าสีทองเป็น option เสริมค่า.... :D เดี๋ยวพรุ่งนี้ถ่ายรูปให้ดูนะคะ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 19:34:44

ความคิดเห็นที่ 71 ผมปั้นไม่เป็นหรอกครับ  ฝีมือผมทางนี้ไม่ค่อยมี  :) แต่วันนี้ผ่านไปทางเสถียรธรรมสถาน เห็นร้านด้านหน้า มีพระพุทธรูปสีทอง แบบเดียวกับรูปที่ผมเอามาให้ดูในความเห็น 66 เนี่ยแหละครับ น่าจะจำลองมาเลย จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 20:19:37

ความคิดเห็นที่ 72 เมื่อก่อนก็แวะไปเสถียรธรรมสถานอยู่หลายครั้งเหมือนกันค่ะ ร่มเย็นมากๆ และท่านแม่ชีศันสนีย์ก็จัดกิจกรรมเพื่อสังคมและครอบครัวเยอะมากจริงๆค่ะ นับถือท่านจริงๆ ทำงานไม่มีหยุดเลย ครอบครัวพ่อแม่ลูก น่าพากันไปวันหยุดมากๆ จะปลูกฝังธรรมะให้เด็กๆได้โดยธรรมชาติเลยค่ะ มีกิจกรรมให้เด็กๆเยอะมาก ใครไปก็ได้รับความสงบ ร่มเย็น ชื่นใจกลับบ้านกันทั้งนั้นเลยนะคะ :) จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 21:16:37

ความคิดเห็นที่ 73 ดีจัง... อนุโมทนาสาธุค่ะ ชอบมาก เห็นรูปความคิดเห็นที่ ๑๐ แล้วยิ้มเลยนะนี่ ผลงานที่ทำด้วยใจ งดงามเช่นนี้เอง จากคุณ : silly เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 23:17:04

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณมากค่ะ ที่นำภาพมาลงกัน ก็อยากให้เห็นถึงความตั้งใจนี่แหละค่ะ เพราะไม่ใช่มืออาชีพอยู่แล้ว อาศัยตั้งใจ อดทน จริงๆก็เรียกได้ว่ามีฉันทะ (พอใจในการได้ทำ) วิริยะ (แน่นอน...พยายามม๊ากกก :) ) จิตตะ (ตั้งใจในสิ่งที่ทำ ทำด้วยความคิด เพราะจะเจอปัญหาอยู่เรื่อยๆค่ะ) และสุดท้าย วิมังสา (ไตร่ตรอง ทดลอง ลองผิดลองถูกวิธีนั้น วิธีนี้ เพราะก็ไม่ทราบมาก่อนเหมือนกัน) เพราะมีอิทธิบาท 4 (ในการปั้นพระองค์นี้) จริงๆเลยนะคะเนี่ย องค์พระถึงสำเร็จออกมาเป็นองค์ได้ ยิ่งซาบซึ้งถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า ถูกต้องใช้ได้จริงทุกประการโดยไม่ต้องสงสัยเลย อย่างนี้ใครอยากให้งานอะไรสำเร็จ ก็ดูแลตัวเองให้มีอิทธิบาท 4 ให้ครบ เริ่มจาก ฉันทะ พอใจในงานที่ทำ ทำงานอย่างพอใจ ทุกอย่างสำเร็จแน่นอนค่ะ....อันเชื่อ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 06:40:57

ความคิดเห็นที่ 75 ระหว่างรอองค์พระที่หล่อและเผานะคะ อันก็ไปซื้อผ้าสีทองมาค่ะ ซื้อมาสองแบบ แบบมีลายไทย ก็จะเย็บขอบติดกระดุมธรรมดา อีกผืนเป็นสีทองล้วนระยิบระยับ ไม่มีลาย อันก็ซื้อขอบสีเงิน-ทอง มาเย็บติดขอบทั้ง 4 ด้านเพื่อเพิ่มลวดลายค่ะ เดี๋ยวหาเวลาว่างๆจากงาน แล้วจะเริ่มลงมือนะค๊า... :D จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 15:11:56

ความคิดเห็นที่ 76 อ้าว ลืมบอก ข้างบนที่ซื้อผ้ามา จะเอามาเย็บจีวรห่มองค์พระดินเผานี่ล่ะค่า..... :D จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 15:14:18

ความคิดเห็นที่ 77 เย็บจีวรเสร็จเอามาโชว์โตย ^^ จากคุณ : ผู้ยังต้องศึกษา เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 53 12:17:09

ความคิดเห็นที่ 78 หลังจากจบขั้นตอนการปั้น การเผา และการขึ้นพิมพ์ต้นแบบแล้ว ขอไปเล่าเรื่องราวการทำสีองค์พระในกระทู้ใหม่ แตกประเด็นจากกระทู้เดิมนี้นะคะ จากคุณ : รักศีล เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 06:19:36