|
ขอตอบส่วนของผมนะครับ
1. ครูบาอาจารย์องค์ไหนที่ท่านยึดเป็นแนวทางอยู่
หลักๆ เป็นครูอาจารย์สาย(ที่ใช้อารมณ์หลักคือ)พองหนอยุบหนอ
ครูบาอาจารย์รุ่นก่อนก็ได้แก่ ท่าน มหาสี สยาดอร์, ท่าน สยาดอร์ อู บัณฑิตา ท่านภัททันตะอาสภมหาเถระ, ท่านเจ้าคุณโชดก คุณแม่สิริ, หลวงพ่อจรัญ
ครูบาอาจารย์รุ่นปัจจุบันก็ได้แก่ พระอาจารย์สมศักดิ์ โสรโท พระอาจารย์มหาทองมั่น สุทธจิตโต พระอาจารย์สว่าง ติกฺขวีโร พระอาจารย์ประจาก สิริวณฺโณ หลวงพ่อวีระนนท์ วีรนนฺโท แม่ชีขวัญ บางกระสอ อาจารย์ชาวต่างชาติที่เป็นศิษย์ท่าน ท่านสยาดอร์ อูบัณฑิตา ฯลฯ
2. ทำไมถึงเลือกแนวทางตามครูบาอาจารย์องค์นี้
ตอนเป็นวัยรุ่นเห็นพี่ชายไปปฏิบัติกับคุณแม่สิริเจ็ดวัน กลับมาเรียนเก่งได้ที่หนึ่งของห้อง เลยลองไปทำบ้าง ปรากฏว่าเกิดศรัทธาในพระรัตนตรัยขึ้นมาอย่างมาก
ต่อมาได้ไปกราบและได้พบกับ ท่านภัททันตะอาสภมหาเถระ รวมทั้งได้ศึกษาคำสอนของ ท่าน มหาสี สยาดอร์, ท่าน สยาดอร์ อู บัณฑิตา, ท่านเจ้าคุณโชดก
ทำให้เกิดความศรัทธาอย่างแรงกล้ามาก โดยเฉพาะท่านเหล่านี้ มีความสมบูรณ์ทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติอย่างบริบูรณ์ และทุกท่านเป็นผู้ที่เคารพ ปิฎกสาม, อรรถกถา, วิสุทธิมรรค, อภิธัมมัตถสังคหะ ฯลฯ
3. แนวทางตามครูบาอาจารย์องค์นี้ มีวิธีปฏิบัติอย่างไร ใช้กรรมฐานกองไหน
การใช้อารมณ์พองยุบเป็นอารมณ์หลัก จัดเป็นการเจริญ กายานุสติปัฏฐาน ในธาตุมนสิการบรรพ
โดยความตึงหย่อนการเคลื่อนไหวและการผลักดันของอาการพองยุบ จัดเป็น ธาตุลม หรือวาโยธาตุ(ธาตุโดยปรมัตถ์)
ในระหว่างที่ ตามดูสภาวะพร้อมบริกรรมอยู่ว่าพองหนอยุบหนอนั้น หากมีอารมณ์อื่นมาปรากฏเด่นชัดก็ให้ไปกำหนดรู้ตามอารมณ์นั้นๆตามเป็นจริง จนเมื่ออารมณ์คลายหรือลดลงไปจึงจะกลับมาที่อารมณ์หลักดังเดิม
4 ปฏิบัติตามแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ก้าวหน้าไหม
เท่าที่ปฏิบัติมาสิบกว่าปี ก็มีความก้าวหน้ามาตลอด ความศรัทธาในพระรัตนตรัยก็มีมากขึ้นมาเป็นลำดับ กิเลสที่ล่วงออกทางกายวาจา ก็น้อยลงมาตลอด ส่วนสภาวะธรรมที่ปรากฏก็เป็นปัจจัตตัง ผู้ใดปฏิบัติผู้นั้นก็ย่อมรู้ได้ตัวเอง
5 เคยปฏิบัติตามครูบาอาจารย์องค์อื่นมาก่อนหน้านี้ไหม แล้วทำไมถึงเปลี่ยน
ไม่เคย แต่ก็ศึกษาข้อดีของครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆหลายๆท่านแล้วนำมาประยุกต์ ใช้ตามเหมาะสม
แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 54 19:46:25
จากคุณ |
:
ชาวมหาวิหาร
|
เขียนเมื่อ |
:
10 มี.ค. 54 19:37:38
|
|
|
|
|