เคยไปปฏิบัติธรรมที่วัด แม่ชีให้ช่วยทำงานมากมาย เหนื่อยมาก
แล้วก็เริ่มคิดว่า ทำไมเราต้องเหนื่อยทำอาหารถวายพระ แล้วก็เอาเศษอาหารให้หมาและแมววัดซึ่งมีหลายตัวมาก ๆ
พอเริ่มคิดว่าพระทำอาหารฉันเองไม่ได้ หมาก็เหมือนกัน ...ก็รีบหยุดคิดเพราะกลัวบาป เอาหมาไปเทียบพระ ...คิดได้ไง บาปจริง ๆ
พอเห็นพระมีอาหารจากบิณฑบาตเหลือเยอะ แต่... คนที่มาถือศีลที่วัดอย่างเรารวมถึงเด็กวัดที่มาอาศัยอยู่วัดก็มีข้าวกิน มีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนใกล้ ๆ มาหิ้วข้าว นม และขนมออกไป มีคนจรจัดมาหิ้วอาหารออกไป และท่านยังคลุกข้าวให้หมาแมวอีก ข้าวเหลือท่านก็เอาไปโปรยให้นก ผลไม้เหลือท่านไปวางตามคาคบไม้ให้กระรอกและสัตว์ต่าง ๆ
เรายังเห็นคนจรจัดบางคน กินอาหารที่พระให้ เลือกเฉพาะที่ตนชอบ ที่เหลือโยนลงถังขยะ แต่บางคนก็ทิ้งเกลื่อนตามพื้นถนน สาย ๆ พระท่านก็มากวาดเก็บ สุนัขกินแล้วก็เหลือเศษเกลื่อนกลาด พระกับคนอยู่วัดอย่างพวกเราก็ตามมากวาดเก็บ พอบ่ายคล้อย ก็ต้องตามไปกวาดเก็บขี้หมาอีก หมาบางตัวชอบคาบรองเท้าไปกัดเล่น เวลามันอิ่มมีแรง มันก็กัดรองเท้าเราเล่น แต่รองเท้าเราเสียจริง ๆ เรากำลังจะโกรธ พระท่านบอกว่า มันเป็นสัตว์เดรัจฉานนะโยม มันไม่รู้หรอกว่ามันทำผิดอะไร เราก็เลยไม่โกรธ
ประสบการณ์เราเป็นเช่นนี้ เราถึงเชื่อเรื่องผลของทานที่ต่างกันไปตามผู้รับทานนั้น แต่เราก็ไม่เคยลิกสงเคราะห์หมาแมว คนจรจัด หรือผู้รับทานที่เราเชื่อว่ามีอานิสงส์น้อย
เราทำทานไม่หวังอานิสงส์หรอก ไม่นึกอยากเป็น คุณนายบุญล้น ที่เคยแอบได้ยินคนในวัดเค้าใช้แอบเรียกคนที่ทำบุญคนนึง เขาชอบประกาศ ทำบุญชอบได้รับอานิสงส์เยอะ ๆ เวลาทำบุญแล้วคนไม่สนใจเท่าที่ควร เขาจะทุรนทุรายขนาดลงทุนเขียนใส่กระดาษหลาย ๆ แผ่นด้วยข้อความเดียวกันเพื่อประกาศให้ผู้คนฮือฮา แต่เราก็ได้พลอยอนุโมทนากับเขาทุกครั้ง
แต่เราชอบกระทู้นี้นะ ตีหมาคงไม่บาปเท่าตีพระ แน่นอน คอนเฟิร์ม 
แต่ถ้าจะให้ดี อย่าตีทั้งหมา อย่าตีทั้งพระ ...นะ