ความคิดเห็นที่ 1 เป้นการฆ่าทั้งหมด 1. ฆ่าสัตว์ 2.  ทำให้ทรัพย์ผู้อื่นสลายไป คือฆ่าทรัพย์ 3. พรากก็คือฆ่าความรักของผู้อื่นเค้า 4. ฆ่าความจริงทิ้ง 5. ฆ่าสติ ฆ่าตับตัวเอง ฮ๋าๆๆๆๆ มาฮาครับ ไปและ แว่ปๆ จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:19:44

ความคิดเห็นที่ 2 คืออย่างนี้นะครับ เรื่องศีล ๕ จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องด้วยกันทั้งนั้น คือเรากำลังทำตัวให้เบียดเบียนตนเองและคนอื่น เป็นการควบคุมกายกรรมให้อยู่ในร่องในรอย ไม่ไปทำให้ตนเองและคนอื่นเดือดร้อน ธรรมในการควบคุมศีลที่ดี คือ เมตตากรุณา ครับ อย่างแรก ให้เมตตาต่อตัวเองก่อน คือจับอารมณ์ดูว่า ถ้ามีใครมาปฏิบัติกับเราแบบผิดศีล เราจะชอบมั้ย ก็ตอบว่าไม่ชอบ ข้อแรก ชอบให้ใครมาทำร้าย มาเ่ข่นฆ่าเรามั้ย ข้อสอง ชอบให้ใครมาขโมยของๆเรามั้ย ข้อสาม ชอบให้ใครมายื้อแย่งคนรักของเรามั้ย ข้อสี่ ชอบให้ใครมาโกหกต่อเรามั้ย ข้อห้า ชอบคุยหรือทำธุรกิจกับคนที่ดื่มเหล้าขาดสติมั้ย ก็ต้องตอบว่าไม่ชอบ (ถ้าใครตอบว่าชอบ ก็ไม่ต้องคุยต่อนะครับ) เรารักเราเมตตาตัวเอง เราก็ไม่ต้องการแบบนั้น คนอื่นๆเขาก็เหมือนกัน ถ้าเรามีเมตตา ต่อเขา เราก็ไม่ทำผิดศีลกับเขา ธรรมที่ควบคุมศีลได้ดีก็คือเมตตากรุณานี่เอง เรื่องโกหกนั้น ถ้าไม่มีเจตนาเบียดเบียน หรือขัดประโยชน์ของเขาก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาทำเป็นเจ้าเล่ห์เพทุบาย (จริงๆแล้วมันมีรายละเอียดเรื่องนี้นะ ผมจำไม่ได้ว่าเป็นยังไง) เช่น ไม่ใส่สารกันบูด (แต่ใส่สารกันเน่า) เวลาปฏิบัติธรรม เราจะเลือกทำแต่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตัวนี้ต้องใช้สติปัญญา พระท่านถึงได้ให้เจริญสติปัญญาเพื่อแก้ไขปัญหา ไม่ทำผิดศีลผิดธรรม จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 11:24:43

ความคิดเห็นที่ 3 ศีลข้อสี่ บอกว่าควรงดเว้นจากการพูดเท็จ แต่หลายๆคนเข้าใจผิดคิดว่าต้องพูดความจริงตลอดเวลา ก็เลยอึดอัดไม่สบายใจกับศีลข้อนี้ พาลหมดกำลังใจในการรักษา จริงๆแล้วถ้าไม่อยากบอก ก็แค่ไม่พูด เงียบไปเลยก็ได้ หรือ บอกตรงๆว่าไม่อยากพูดถึงก็ได้ มีตั้งหลายวิธีที่จะเลี่ยงไป ขอแค่ไม่พูดอะไรที่เป็นเท็จออกไปก็พอ เรื่องโกหกเพื่อให้สบายใจนี่ผมไม่เอาด้วยเด็ดขาด ยอมเงียบเป็นบ้าใบ้ ไปยังดีกว่า จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:17:49

ความคิดเห็นที่ 4 อยากทราบว่าในศีล 5 นี้ ศีลข้อไหนที่เราละเมิดแล้วจะได้รับผลกรรมหนักที่สุด? หรือหนักเท่ากันหมด แต่ไปคนละแบบ จากคุณ : ning JFK. เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:32:44

ความคิดเห็นที่ 5 คห.3 ครับ การพุดเท็จ นี่น่ะ สำคัญมาก มี สองน้ำหนักหลัก ๆ 1 คือ รู้ บอกไม่รู้ เก็นบอกไม่เห็น คือการ โป้ปดธรรมดา ไม่ผิดอะไรมากมาย 2 แต่ ถ้า ไม่รู้ บอกรู้ ไม่เห็น บอกเห็น ไม่เป็นบอกเป็น เนี่ย มันยิ่งกว่าการโกหก นะครับ ภาษาพระเค้าเรียก การอวด อุตริ อันนี้ น่ะ ผิดหนัก ขาดจากความเป็นอารยะเลยทีเดียว จากคุณ : greeny pony เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:39:05

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อไหนหนัก ผมเห็นว่าพิจารณาอนันตริยกรรม ไปเลยครับ(ไม่รวมกรรมจากความเห็นผิดนะครับ) อนันตริยกรรมก็ส่วนใหญ่เป็นข้อ 1 คือฆ่าพระอรหันต์ ทำพระพุทธเจ้าห้อเลือด ฆ่าพ่อแม่ อีกข้อก็ทำสงฆืแตกแยกน่าจะเป็นข้อ 4 มุสา สำหรับคนปุถุชนธรรมดาอย่างเราไม่ต้องถึงกับอนันตริยกรรม มีคนมาแย่งคนรัก บ้างถูกไฟไหม้บ้านไปทั้งหลัง ก็ร้องแล้ว แค่นั้นก็หนักแล้ว ผมว่าหนักหมดอ่ะสำหรับปุถุชนผู้ไม่มีสติไม่ปฏิบัติภาวนาเลย จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 12:59:13

ความคิดเห็นที่ 7 คนที่กล่าวโกหกได้ง่ายดายอย่างไม่ละอายใจ ไม่มีความชั่วไหนที่ทำไม่ได้ (จากความจำ)แม้บางครั้งพระโพธิสัตว์ย่อมผิดศีล ข้อ1,2,3,5 บ้าง เพราะสังสารวัฏฏ์ แต่ย่อมถือในสัจจะวาจาเป็นที่สุด ไม่มีด่างพร้อย แม้แต่น้อยเดียว จากคุณ : NotUndo เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 13:20:47

ความคิดเห็นที่ 8 คห.1 นี่ บอกว่ามา ฮา น่ะ แต่จริง ๆ แล้ว ผมว่า โดน เลย นะ ฮา น่ะ ก็ ฮา นะ แต่ก็ ใช่ นะ ฆ่า ทุกสิ่งจริง ๆ ขอบคุณครับ ที่ทำให้เห็นอีกมุมหนึ่ง ของศีล คิดว่า จะมีแต่ลักขโมย ซะแล้ว ยังมีการฆ่า อีกด้วย น่ะ จากคุณ : trialuck เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 14:21:24

ความคิดเห็นที่ 9 อ้อ  คุณสายสมเหงา  อย่าลืมฆ่าอกุศสจิต ด้วยนะจ๊ะ    ขอบคุณ จขกท. ค่ะ  ที่ทำให้ได้เห็นในอีกมุมมองนึงของศีล จากคุณ : ใจขึ้น เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 15:15:45

ความคิดเห็นที่ 10 พูดเหมือนถูกแต่ไม่ถูกค่ะ ไม่ได้เป็นการโขมย แต่ลึกๆของ คำว่าโขมยที่อยูท้าย คำ คือ ตัณหา ต่างหาก แบบนี้ ศีลเลยแบ่งออกได้อย่างขาดกัน จากคุณ : น้องฟลุ๊คน่ารัก ถักแต่โครเชต์ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 15:44:39

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนเรื่องศีล 5 ข้อ ข้อไหนละเมิดแล้วมีสิทธิ์หนักสุด ฟลุ๊ค คิดว่า การฆ่า ค่ะ อนันตริยกรรม 5 3 ข้อแรก ฆ่าพ่อ แม่ อรหันต์ (ศีลข้อ 1 รักษาไดก็รอดแล้ว) ทำสงฆ์แตกแยก นับไว้เฉพาะสงฆ์ ฆราวาสไม่เกี่ยว แบบนี้ก็รอด ข้อสุดท้าย ทำร้ายพุทธเจ้า ตอนนี้ไม่มีท่านแล้ว ไม่มีโอกาสเราก็รอด ดังนั้น ศีลข้อ 1 ทรงไว้ ปลอดภัยสุด จากคุณ : น้องฟลุ๊คน่ารัก ถักแต่โครเชต์ เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 15:46:50

ความคิดเห็นที่ 12 อ่ะ ช่วยกัน เป็นการผิดลูกเมียทั้งหมด 1. ผิดลูกเมียเขา พรากชีวิตลูก เมีย ผัวเขา 2. ผิดลูกเมียเขา พรากทรัพย์สิน ของลูก เมีย ของผัวเขา 3. ตรงๆตัว 4. มุสา ผิดลูกเมียเขา โกหกทำให้คนอื่นคิดว่า ลูกเขา เมียเขา ผัวเขาเป็นอย่างอื่น 5. สุรา ขาดสติทำให้ผิดลูกเมียเขา จากคุณ : โอ่อี๊โอ (oiooo) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 18:15:51

ความคิดเห็นที่ 13 จะมองอย่างนั้นก็คงได้แหละครับ ขอแชร์มุมของผมบ้าง ผมว่าศึล 5 สรุปรวมลงเป็นไม่เบียดเบียนผู้อื่นและก็ไม่เบียดเบียนตนเองครับ แต่จะว่าไปเอาตามที่เข้าใจกันโดยทั่วไปของแต่ละข้อก็สะดวกดีนะครับ ^^ จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 20:31:59

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อก่อนอ่านประวัติพระต่างๆ บอกว่าศีลทั้งหมดสรุปลงที่จิตตัวเดียว จากคุณ : kamas เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 07:27:25

ความคิดเห็นที่ 15 มีศีล คือใจปกติ ผิดศีล คือมีอาการผิดแปลกไปจากใจปกติ อยู่กับความปกติ แล้วจะแยกแยะได้ว่า อันไหนปกติ อันไหนผิดปกติ เมื่อเห็นอย่างนี้ จึงจะเป็นการมีศีล ที่เกื้อหนุนปัญญา ศีลเลนะ ที่ส่งไปถึง นิพพุติงยันติ เป็นไปได้ด้วยอาการนี้ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 54 09:42:16 จากคุณ : รู้สึกตัว เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 54 09:02:18

ความคิดเห็นที่ 16 ศีล 5 คือให้งดซึ่งการเบียดเบียน การกระทำใด ซึ่งมีเจตนาในการเบียดเบียน ให้ผู้อื่น เป็นทุกข์ พึง งด ค่ะ การลักขโมย (อทินนาทานา) ก็จัดเป็น ข้อ2 แต่รวมลงคือ ละซึ่งการเบียดเบียน ในทรัพย์สินของผู้อื่นที่มิใช่ของตน การรักษา ศีล 5 ให้เป็นปกติ ในชีวิตประจำวัน ให้ละซึ่งการเบียดเบียน ชีวิต ทรัพย์สิน ลูกเมียผู้อื่น วาจา การเสพสิ่งที่ทำให้ขาดซึ่งสติ ซึ่งข้อ5 ในมุมที่เราตระหนักมาก เป็นการนำมาให้ผิดได้ทุกข้อ สำหรับข้อ5ค่ะ จากคุณ : cartoon-clk เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 54 11:37:52