ความคิดเห็นที่ 1 บาปมากหรือน้อย...ตอบไม่ได้ครับเป็นอจินไตยครับ..รู้แต่ว่าบาปครับ..ซึ่งพยายามไม่ฆ่าหรือไม่ฆ่าจะดีกว่าครับ ใช้การป้องกันดีกว่าครับเช่นรักษาบ้านเรือนให้สอาด..นอนมุ้งเป็นต้น..ครับ.. ซึ่งผมใช้วิธีนี้อยู่ครับ จากคุณ : โกวิทย์ (โกวิทย์) เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:11:35

ความคิดเห็นที่ 2 เดือนนี้เราฆ่า ตบ เหยียบ กระทืบ แมลงสาบไปสิบกว่าตัวแล้ว รู้ว่าบาป แต่ทำไงได้ มันออกลูกออกหลานมาเร็วมาก เป็นตัวเล็กๆ วิ่งรอบบ้าน และไม่ใช่ว่าบ้านเราสกปรกหรอกนะครับ แต่มันมาจากกระเป้าเดินทางของพ่อแม่ที่มาจากต่างจังหวัดน่ะครับ เซ็งไปเหมือนกัน ไม่อยากทำก็ต้องทำ จากคุณ : Jeremizz เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:30:22

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ก่อนเราก็ตียุง เพราะมันมากัดลูกอ่อน ตอนนี้ไม่ตีแล้ว เราไม่อยากทำบาป ยิ่งตี ยิ่งกัด มีคนหวังดี เอาเครื่องดักยุงมาใส่ไว้ในห้อง ก็ไม่เอา เพราะบางทีมันก็ตาย หรือบางทีก็บาดเจ็บ ตอนนี้ก็พยายามป้องกันเท่าที่ทำได้โดยที่ไม่ไปทำร้ายมัน เรารู้สึกว่าถ้าเรายังฆ่ามัน แล้วเราจะไปสอนลูกได้อย่างไรว่าอย่าฆ่าสัตว์นะลูก ถ้าพยายามป้องกันแล้ว มันยังกัดอีก เราก็ว่าไม่ควรไปฆ่ามันอยู่ดีแหละ อดใจไม่ฆ่า ต่อไปก็จะชิน สามารถรักษาศีลห้าได้ มีเมตตา ดีไม่ดีมันอาจจะกัดลูกเราน้อยลงด้วย จากคุณ : PrincessPam เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:46:46

ความคิดเห็นที่ 4 ตรัสถามทีปายนดาบสว่า ดูก่อนบรรพชิต เหตุไรท่านจึงนั่งพิงหลาวอยู่?               ทีปายนดาบสตอบว่า มหาบพิตร อาตมภาพนั่งรักษาดาบสนี้อยู่ ก็มหาบพิตรทรงทราบแล้วหรือว่า ดาบสนี้ทำผิดหรือไม่ได้ทำผิด จึงได้ลงพระราชอาญาอย่างนี้               พระราชาตรัสบอกว่า ลงโทษไปโดยไม่พิจารณา               พระดาบสจึงกล่าวแก่พระราชาว่า มหาบพิตร ธรรมดาพระราชาควรจะพิจารณาก่อนแล้วจึงกระทำดังนี้ แล้วแสดงธรรมว่า คฤหัสถ์ผู้บริโภคกาม ถ้าเป็นคนเกียจคร้านแล้วไม่ดีดังนี้เป็นต้น               พระราชาทรงทราบว่า มัณฑัพยะดาบสไม่มีความผิด จึงรับสั่งให้ถอนหลาวออก พวกราชบุรุษไม่สามารถจะถอนหลาวออกได้               มัณฑัพยะดาบสทูลพระราชาว่า มหาบพิตร อาตมภาพถึงความพินาศย่อยยับอย่างนี้ก็ด้วยอำนาจกรรมที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อน ไม่มีใครอาจถอนหลาวออกจากตัวอาตมภาพได้ ถ้าพระองค์มีพระราชประสงค์จะพระราชทานชีวิตแก่อาตมภาพไซร้ ก็จงโปรดให้เอาเลื่อยมาตัดหลาวนี้ให้เสมอหนัง               พระราชารับสั่งให้กระทำตามนั้น ภายในร่างกายได้มีหลาวอยู่ภายในเรื่อยมา.               ได้ยินว่า ครั้งนั้น ดาบสนั้นเอาหนามทองหลางเรียวๆ เสียบก้นแมลงวัน หนามทองหลางติดอยู่ในตัวแมลงวัน แต่แมลงวันไม่ตายเพราะถูกเสียบ ตายเมื่อหมดอายุของตน ฉะนั้น ดาบสนี้จึงไม่ตาย พระราชาทรงนมัสการพระดาบสทั้งสองให้ขมาโทษแล้ว นิมนต์ให้อยู่ในพระราชอุทยาน ทรงบำรุงแล้ว http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=1380 จากคุณ : Nina_AnGeLic เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 22:58:01

ความคิดเห็นที่ 5 จขกท.น่าจะทราบคำตอบอยู่แล้ฝจึงได้ไม่สบายใจ เอาเป็นว่าที่ทำไปแล้วก็เลยตามเลยเพราะมันผ่านไปแล้วกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ จากนี้ไปก็หามาตราการป้องกันก็แล้วกัน เช่นติดมุ้งลวด เวลาอยู่ข้างนอกก็จุดสมุนไพรพวกตะไคร้ เปลือกส้ม น่าจะพอช่วยได้ ส่วนแมลงสาบ ไม่ทราบจะแนะนำอย่างไรเหมือนกัน เพราะที่บ้านก็เยอะเนื่องจากอยู่ใกล้ร้านอาหาร จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 54 23:12:29

ความคิดเห็นที่ 6 บาปนั้นบาปอยู่ จิตที่คิดจะฆ่านั้นเป็นจิตที่ดึงลงไปสู่ที่ต่ำ เมื่อทำบ่อยๆเข้า จิตจากที่เคยรู้สึกผิดจะเป็นความเคยชิน ทำให้รู้สึกธรรมดากับการฆ่า การทำชั่วอื่นจะทำได้ง่ายขึ้น เรื่องแมลงสาบ ขอให้จัดสถานที่ให้สะอาด แล้วมันจะไม่มากวนเอง เพราะมันต้องการอาหาร ในออฟฟิส ถ้ามีการนำอาหารเข้ามากิน ก็เป็นสาเหตุให้มันมา เรื่องยุง.. ทำไมไม่ติดมุ้งลวดละครับ สวดมนต์ ทำสมาธิ แล้วก็แผ่เมตตาบ่อยๆครับ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 07:34:26

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องยุงนี่มัวแต่ตบมันไม่ดีหรอก เพราะบางทีโดนกัดโดยไม่รู้ตัวก็มี เราเองตอนเด็กๆเคยเป็นไข้เลือดออก อาจจะไปโดนกัดจากโรงเรียน เพราะงั้นต้องระวังเรื่องยุงสำหรับเด็กๆนะคะ แนะนำให้ทายากันยุงสำหรับเด็กก็มี สำหรับผู้ใหญ่ซื้อสเปรย์ตะไคร้มาฉีดเลยค่ะ ฉีดใส่ตัวทั่วๆทุกสามสี่ชั่วโมง หอมดีด้วย เราซื้อจากพวกร้านโอท็อปร้านสมุนไพรยกแพ็คครึ่งโหลสองร้อยกว่าบาท จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 08:18:45

ความคิดเห็นที่ 8 บาปครับ หาทางป้องกันอย่างอื่น ๆ เช่นกำจัดแหล่งอาหารของมัน ปรับปรุงสถานที่ให้ เป็นแบบที่มันไม่ชอบ  มันจะค่อย ๆ หมดไป ใจเย็น ๆ อดทนแล้วจะดีเอง จากคุณ : Terawat เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 08:44:29

ความคิดเห็นที่ 9 แนะนำให้คุณจัดการกับแมลงสาบแบบไม่ผิดศีลดีกว่า เอาขวดน้ำปากแคบ ทาน้ำมันหมู วางในที่ๆ แมลงสาบเดิน วางนอนมุมเงยประมาณ 20 องศา แมลงสาบจะเดินเข้ากับดัก แต่ออกมาไม่ได้ พอเห็นปั๊บ ก็เอาไปปล่อย แค่นี้ก็หลีกเลี่ยงการฆ่าได้แล้วครับ เคยเห็นในโทรทัศน์ ชาวบ้านแถบอีสานใช้ข้าวคั่วเป็นเหยื่อล่อ ส่วนน้ำมันหมู ได้ข้อมูลมาจากห้องหว้ากอครับ จากคุณ : norapob เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 08:58:00

ความคิดเห็นที่ 10 แมลงสาบ อย่าให้มีอาหาร เศษอาหารในถังขยะอะค่ะ แล้วจะช่วยได้เยอะ ยุงใช้ติดมุ้งลวดเอาแล้วระวังหน่อย หรือใช้พวกโลชั่นหรืออะไรที่ทากันยุงแทนค่ะ เราเองใช้วิธีนี้มาได้นานแล้วนะคะ ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีแล้ว ยุงที่จะกัดก็เหลือน้อยลงมากแล้วค่ะ เลยไม่ผิดข้อปาณามาได้นานแล้ว แหะๆ ลองดูนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : สาวไกด์ใจซื่อ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 09:45:01

ความคิดเห็นที่ 11 บาปมากครับ ลองหาวิธีการอื่นๆ ดูสิ ทำแล้วต้องชดใช้ พร้อมจะชดใช้ไหมครับ เวรกรรม ยุติธรรมเสมอ  ทำแล้วไม่ขาดทุนแน่นอน จากคุณ : มะเดื่อสวนใน เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 10:25:07

ความคิดเห็นที่ 12 ยุงยังไม่เท่าไหร่ แมลงสาบนี่ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ปล.เมื่อเช้าจับไปปล่อย 2 ตัว ไม่รู้จะกลับมาอีกเปล่า จากคุณ : ltf06 เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 11:21:52

ความคิดเห็นที่ 13 ตัวบุญหรือบาปมันเกิดในจิต   นึกถึงกุศล เป็น บุญ เช่น การอนุโมทนา หรือ การนึแต่สิ่งดีๆ เช่น พระรัตนตรัย นึกถึงอกุศล เป็น บาป เช่น ไปนึกอาฆาตพยาบาท หรือ หมกมุ่นในบาปที่ทำไว้ในอดีต ยิ่งไม่สบายใจมากๆและบ่อยๆ ยิ่งทำให้จิตเศร้าหมองมาก บาปยิ่งมากไปด้วย สิ่งที่ทำไปแล้ว มันผ่านไปแล้ว กลับไปแก้อะไรไม่ได้  ไม่ต้องไปนึกหรือกังวล  สิ่งที่ทำได้ คือ การอุทิศบุญให้พวกเขาไป และอย่าลืมขอขมากันด้วยนะครับ  อย่าให้มาผูกเวรกันไม่รู้จบ  ต้องไปลืมว่าชีวิตในวัฏสงสารมันยาวนานมากๆเหลือเกิน  สัตว์เหล่านั้นอาจเป็นเจ้ากรรมนายเวรคุณในอนาคตหลายๆล้านชาติก็ได้ จากคุณ : น้องหมูใหญ่ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 54 13:55:15

ความคิดเห็นที่ 14 กรรมเกิดจากเจตนานะคะ วิธีที่จะหลีกเลี่ยงก็คือว่า อย่าให้การกระทำนั้น ครบองค์ประกอบ แห่งกรรมขึ้นมาได้ หากทำบาปก็เป็นการทำบาปที่ไม่ครบองค์ประกอบ ผลของกรรมหรือวิบากก็จะไม่ครบองค์ประกอบเช่นกัน ทุกวันนี้ ดิฉันยังจุดยากันยุง ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรมีฤทธิ์ในการ ไล่ยุง เจตนาเพื่อไล่ยุง ไม่ได้ จะฆ่ายุง บาปไหมไม่รู้      ทำไม ไม่รู้ เพราะ ดิฉันไม่เห็นมันตายสักตัว นี่สัตย์จริง ในเมื่อไม่มียุงตาย ก็ทำให้การกระทำของเราไม่ครบองค์กรรม ถามว่าเมื่อจุดแล้ว ไม่เห็น ยุงตาย แล้วเราจะบาปได้อย่างไร ในเมื่อเราตั้งเจตนาไว้ว่า เราจักทำการไล่ยุงเพื่อไม่ให้มากัด ลูกเราถูกไหมค่ะ ส่วนมด เราไม่ใช้ยาฆ่าแมลง ที่เขาเขียนว่าใช้ฆ่าแมลง แต่ กระป๋องไหน เขาบอกว่า ฉีดแล้ว มีฤทธิ์ไล่แมลง เราก็เอาอันนั้น ที่สำคัญอย่างไม่คิดถึงมันอีกค่ะ ถามสักคำ  คุณเห็นแมลงสาบตายไหม  ลูกน้องมีมารายงานไหม ว่าแมลงสาบตายไปกี่ตัว วันหลัง ใช้อันที่มีฤทธิ์ในการไล่แมลงสาบ ไม่ต้องถึงกับทำมันตาย ฉีดตรงที่มุมอับ ตรงที่แมลงสาบเดิน ก็อย่าฉีดโดนตัวมันก็สิ้นเรื่อง เข้าใจแล้วใช่ไหมค่ะ จริงอยู่ เราไม่ควรคิดแม้แต่น้อยเรื่องการฆ่า แม้แต่ยุงสักตัวก็อย่าคิดฆ่า นั่นถูกแล้ว แต่ว่าในเมื่อในฐานะที่เราเป็น พ่อแม่ เราก็ต้องดูแล ลูกไม่ให้ถูกยุงกัด เป็นภรรยา หรือสามี หน้าที่คือดูแลบ้าน หน้าที่ในที่ทำงาน ก็ต้องทำให้บริษัทสะอาด ต่อไปนี้ คุณก็แค่บอกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่า ให้ดูแลบริษัทให้สะอาดนะ อย่าเอาอาหาร มากิน ระวังอย่าให้มีแมลงสาบ ดูแลให้ดี ดี ด้วยละ   แต่ไม่ต้องถึงกับซื้อยาฆ่าแมลงให้เขานะคะ ไม่ควรทำ ให้เขาจัดการของเขาเอง คุณต้องการแค่ที่ทำงานสะอาด คุณสั่งแค่นั้น คุณไม่ได้ สั่งให้เขา ฆ่า อะไร ทั้งนั้น นี่ ต้องวางใจอย่างนี้ ดูแล ให้สะอาดเรียบร้อย ในเมื่อเราเห็นแมลงสาบเดิน เพ่นพ่านไปมา เราก็ต้องมีวิธีการ ที่จะป้องกัน ก็ต้องทำ ต้องขับไล่ก็ต้องทำ   เพราะบ้านเป็นที่อาศัยของเราไม่ใช่ ของแมลงสาบ เราเป็น คฤหัสถ์ ผู้ครองเรือน ก็ต้องทำหน้าที่ตรงจุดนี้ด้วย ตั้งเจตนาใหม่ แท้จริงคุณต้องการไล่มัน หรือว่า คุณต้องการจะฆ่ามันกันแน่   ต้องวางใจไว้ตรงนี้ค่ะ แล้วที่สำคัญที่สุด อย่าคิดถึงเรื่องอกุศลอีก ไม่อย่างนั้นจิตจะขึ้นวิถี อกุศลใหม่ ซึ่งเหมือนกับว่า เราได้ ฆ่ายุง หรือแมลงตัวนั้นอีกรอบ อย่าทำ มันเป็นการซ้อมไว้ตกนรก อยู่กับปัจจุบันค่ะ คำว่า ปุถุชน ผู้ซึ่งแปลว่า หนา อะไรที่หนา กิเลสไงค่ะที่หนา เป็นปกติที่ต้องเคย ตบยุงบ้างเป็นธรรมดา  อาจจะเพราะความไม่รู้ เพราะเราคิดว่า แหม ไม่เป็นไรหรอก ไม่บาปหรอก หรือบางที มันกินเลือดเราจนอิ่มแล้ว เกาะอยู่อย่างนั้นไปไหนไม่ได้ เราเอง รึก็ไม่ได้ ตั้งใจ คิดแค้นอาฆาตจะตบมันให้ชักดิ้นชักงอ ให้ตาย ไม่ได้จะเอาให้ตาย แต่ว่าเรารู้สึกว่า คันที่แขน สมมตินะคะ แล้วเราเอามือไปเกาแขน ปรากฎว่า มีเลือดติดมาที่มือ ดูอีกที ยุงนี่ว่า อ้าว ตายติดมือมาละ ตาย แล้ว ถามว่า บาปไหม ก็ตอบตรงๆ ค่ะว่า บาป เพื่อไม่ให้เป็นที่ถกเถียงกัน แต่ถามว่า มากไหม ไม่มาก เพราะว่า เราไม่ได้ ตั้งใจฆ่าแต่แรก ทำกรรมไม่ครบองค์กรรมค่ะ   ไม่มีใครหรอกค่ะ ที่แม้แต่ยุงก็ไม่เคยตบสักตัว จริงไหมค่ะ เรา เรา ท่าน ท่าน ต่างก็เคย ทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่วด้วยกันทั้งนั้น มากบ้างน้อยบ้าง แต่ที่สำคัญ เมื่อเรารู้แล้ว เราพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ทำกรรมไม่ดีอีก และกรรมไม่ดี ที่เคยทำไว้ ก็อย่าไปคิดถึงมันอีก หมั่น คิดถึง บุญกุศลเรื่อยๆ นะคะ สมมติว่า คุณฆ่าแมลงสาบไปตัวหนึ่ง แต่คุณไม่สบายใจ คิดทุกชั่วโมง คิดทุกวัน ทุกครั้งที่คุณคิด ก็เท่ากับว่า คุณกำลังฆ่าแมลงสาบตายเพิ่มขึ้น  ครั้งละตัว นั่นแหละค่ะ อย่าคิดถึง สิ่งไม่ดีอีก ไม่งั้น จิตมันจะขึ้นวิถี อกุศล ใหม่ทุกๆครั้ง จากฆ่า ตัวเดียว มันก็จะกลายเป็นหลายๆ ตัวได้นะคะ ไม่ต้องไปคิดถึงมันอีก .......... มันผ่านไปแล้วค่ะ ย้ำหลายหรอบหน่อยนะคะ เพื่อให้รู้ว่า สิ่งที่อันตรายกว่าการฆายุงหรือแมลงสาบ แต่จิตที่วนเวียนคิดถึง เรื่องอกุศ บ่อยๆ นั้นร้ายแรงกว่า เป็นการซ้อมไว้เพื่อตกนรก อย่าคิดซ้ำ ต้องการจะย้ำตรงนี้ต่างหาก แก้ไขเมื่อ 27 พ.ค. 54 14:16:02 จากคุณ : รุ่งฟ้าสาง เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 14:12:57

ความคิดเห็นที่ 15 ลองพิจารณาดูก่อนว่าอะไรคือบาป ได้ยินได้ฟังต่อๆกันมาใช่ไหมครับ  ว่าอย่างนี้บาป  อย่างนั้นบาป จากคุณ : Septu เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 19:31:01