ปาราชิกกัณฑ์ ปฐมปาราชิกสิกขาบท เรื่องพระสุทินน์
[๑๐] ก็โดยสมัยนั้นแล ณ สถานที่ไม่ห่างจากพระนครเวสาลี มีบ้านตำบลหนึ่ง ชื่อ กลันทะ
ในบ้านนั้นมีบุตรชาวบ้านกลันทะผู้หนึ่ง ชื่อ สุทินน์ เป็นเศรษฐีบุตร
ครั้งนั้น สุทินน์ กลันทบุตรได้เดินธุระบางอย่างในพระนครเวสาลีกับสหายหลายคน ขณะนั้นแล
พระผู้มีพระภาค อันบริษัทหมู่ใหญ่แวดล้อมแล้วประทับนั่งแสดงธรรมอยู่ สุทินน์ กลันทบุตรได้แลเห็น
พระผู้มีพระภาคอันบริษัทหมู่ใหญ่แวดล้อมประทับนั่งแสดงธรรมอยู่
เพราะได้เห็น ความตรึกนี้ ได้มี แก่เขาว่า ไฉนหนอเราจะพึงได้ฟังธรรมบ้าง
แล้วเขาก็เดินผ่านเข้าไปทางบริษัทนั้น ครั้นถึงแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ความรำพึงนี้ได้มีแก่เขาผู้นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งฉะนี้ว่า ด้วยวิธี
--------------------------------------------------------
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เราจักบัญญัติสิกขาบทแก่ภิกษุทั้งหลาย
อาศัย อำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ คือ เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ ๑ เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์ ๑ เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก ๑ เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก
๑ เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิด ในปัจจุบัน ๑ เพื่อกำจัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑ เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่ เลื่อมใส ๑
เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ๑ เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม ๑ เพื่อถือตามพระวินัย ๑
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:
พระปฐมบัญญัติ
๑. ก็ภิกษุใดเสพเมถุนธรรม เป็นปาราชิก หาสังวาสมิได้
ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอันพระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุทั้งหลายด้วยประการฉะนี้
สิกขาบทที่๑ ปาราชิก เสพเมถุน ได้มีขึ้นเท่าที่แว่วมาคือประมาณพรรษาที่ 12
คุณลองไปหาข้อมูลดูนะค่ะและนำมาเปิดเผยว่าจริงไหมเราอาจผิดก็ได้
ถ้าจริง วัขชีปุตตสูต ก็ไม่ได้สนทนาในพรรษาที่5แน่นอน
------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนวัชชีปุตตสูตรจะตรัสในพรรษาที่ 5 จริงไหมน่ะแต่ว่า จากที่คุณชาวมหาวิหารโพสต์ไว้ในกระทู้ข้างล่างนี้
และขอ โค๊ชคำพูดของคุณชาวมหาวิหารมาให้ดูเพราะยืนยันหนักแน่นว่าท่านเจ้าคุณปยุตให้ข้อมูลไว้ว่าทรงตรัสช่วงกลางพุทธกาล
ประมาณพรรษาที่ 25
นั่นก็คือ......
วัดนาป่าพง หารู้ไม่ว่า ในพระสูตรนี้ เป็นบทสนทนาที่เกิดขึ้นช่วง
"กลางพุทธกาล" ตอนพรรษาที่ ๒๕
ซึ่งตอนนั้น พระพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติปาฏิโมกข์มาเรื่อยๆจนได้เพียง ๑๕๐ ข้อ
แต่ๆๆๆๆๆๆหลังจากนั้น พระพุทธองค์ ก็ยัง
บัญญัติ พระปาฏิโมกข์ เพิ่มต่อไปเรื่อยๆ จนได้ ๒๒๗ ข้อ เมื่อสิ้นพุทธกาล
(ฟัง คลิ๊ปท่านเจ้าคุณที่ 33:06 และให้ดู อรรถกถา วัชชีปุตตสูตร)
------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลถูกโพสต์ไว้ในกระทู้ข้างล่าง
http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y10662595/Y10662595.html
-------------------------------------------------------------------------------
จากที่โพสต์ทั้งหมดก็ขอให้ จขกท ไปตรวจสอบดูเพื่อเป็นความเข้าใจว่าถูกหรือผิดอย่างไรทั้งคุณและเรา
ส่วน วัชชีปุตต ตรัสช่วงกลางพุทธกาลในพรรษาที่ 25ก็ลองตรวจสอบกับ คุณชาวมหาวิหารอีกครั้งนะเขาไม่ได้บอกไว้ในคหข้างบน