เนื้อแท้ที่ไม่อันตรธาน
ภิกษุ ท. ! พวกภิกษุบริษัทในกรณีนี้, สุตตันตะเหล่าใด ที่กวีแต่งขึ้นใหม่ เป็นคำร้อยกรองประเภทกาพย์กลอน มีอักษรสละสลวย มีพยัญชนะอันวิจิตร เป็นเรื่องนอกแนว เป็นคำกล่าวของสาวก, เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่; เธอจักไม่ฟังด้วยดี ไม่เงี่ยหูฟัง ไม่ตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และจักไม่สำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน. ส่วนสุตตันตะเหล่าใดที่เป็นคำของตถาคต เป็นข้อความลึก มีความหมายซึ้ง เป็นชั้นโลกุตตระว่าเฉพาะเรื่องสุญญตา, เมื่อมีผู้นำสุตตันตะเหล่านั้นมากล่าวอยู่; เธอย่อมฟังด้วยดี ย่อมเงี่ยหูฟัง ย่อมตั้งจิตเพื่อจะรู้ทั่วถึง และย่อมสำคัญว่าเป็นสิ่งที่ตนควรศึกษาเล่าเรียน จึงพากันเล่าเรียน ไต่ถาม ทวนถามแก่กันและ กันอยู่ว่า “ข้อนี้เป็นอย่างไร ? มีความหมายกี่นัย ?” ดังนี้. ด้วยการทำดังนี้ เธอย่อมเปิดธรรมที่ถูกปิดไว้ได้, ธรรมที่ยังไม่ปรากฏ เธอก็จะทำให้ปรากฏได้, ความสงสัยในธรรมหลายประการที่น่าสงสัย เธอก็บรรเทาลงได้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุบริษัทเหล่านี้ เราเรียกว่า บริษัทที่มีการลุล่วงไปได้ ด้วยการสอบถามแก่กันและกันเอาเอง, หาใช่ด้วยการชี้แจงโดยกระจ่าง ของบุคคลภายนอกเหล่าอื่นไม่; จัดเป็นบริษัทที่เลิศ แล. ทุก. อํ. ๒๐/๙๒/๒๙๒. แก้ไขเมื่อ 20 ก.ย. 54 19:15:43 จากคุณ | : light pad | เขียนเมื่อ | : 20 ก.ย. 54 19:13:51 | | |
|
|
|
ลองคิดดูนะครับ พระพุทธองค์ทรงสอนให้ อย่าไปฟัง ภาษิต ที่เป็นภายนอกศาสนา
ไม่เคยทรงห้าม ฟัง อรหันต์ภาษิตในพระศาสนาเลยครับ
การที่วัดนาป่าพง ตีความพระพุทธวจนะบทนี้ผิดพลาด แล้วมาสอนต่ออย่างผิดๆว่า
"อย่าไปฟังสาวกภาษิตในพระพุทธศาสนา"
เช่นนี้ ถือเป็นการเผยแพร่ ความเข้าใจผิดให้สังคม เป็นวงกว้าง
และเป็นบาปนะครับ เป็นการสร้างบาป ทุกวัน เลยนะครับ
ลองดูข้อความจาก พระไตรปิฎก พร้อมทั้งอรรถกถา และลองทำความเข้าใจให้ถูกกันนะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต ข้อ [๒๙๒]
ก็บริษัทที่ดื้อด้านไม่ได้รับการสอบถามแนะนำ
เป็นไฉน ภิกษุในบริษัทใดในธรรมวินัยนี้ เมื่อผู้อื่นกล่าวพระสูตรที่ตถาคตภาษิต
ไว้ซึ่งลึกล้ำ มีอรรถอันลึกล้ำ เป็นโลกุตระ ปฏิสังยุตด้วยสุญญตธรรม ไม่
ตั้งใจฟังให้ดี ไม่เงี่ยหูลงสดับ ไม่เข้าไปตั้งจิตไว้เพื่อจะรู้ทั่วถึง อนึ่ง ภิกษุเหล่า
นั้นไม่เข้าใจธรรมที่ตนควรเล่าเรียนท่องขึ้นใจ แต่เมื่อผู้อื่นกล่าวพระสูตรที่กวีได้
รจนาไว้ เป็นคำกวี มีอักษรวิจิตร มีพยัญชนะวิจิตร มีในภายนอก ซึ่งสาวก
ได้ภาษิตไว้ ย่อมตั้งใจฟังเป็นอย่างดี เงี่ยหูลงสดับ เข้าไปตั้งจิตไว้เพื่อจะรู้ทั่วถึง
อนึ่ง ภิกษุเหล่านั้นย่อมเข้าใจธรรมที่ตนควรเล่าเรียน ท่องขึ้นใจ
http://www.84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=20&item=292&items=1&preline=0&pagebreak=0
--------------------------------------------------------------------------------------------
ซึ่งข้อความเหล่านี้ แปลมาจากส่วนบาลี คือ
เย ปน เต สุตฺตนฺตา กวิกตา กาเวยฺยา จิตฺตกฺขรา จิตฺตพฺยญฺชนา พาหิรกา สาวกภาสิตา เตสุ ภฺมาเนสุ สุสฺสุสิสฺสนฺติ โสตํ โอทหิสฺสนฺติ อฺาจิตฺตํ อุปฏฺฐาเปสฺสนฺติ เต จ ธมฺเม อุคฺคเหตพฺพํ ปริยาปุณิตพฺพํ มฺิสฺสนฺติ ฯ |
|
|
เมื่อศึกษา คำอธิบาย จาก อรรถกถา ก็จะได้เข้าใจความหมายที่ถูกต้องว่า
บทว่า พาหิรกา ได้แก่ เป็นสุตตันตะนอกพระศาสนา.
บทว่า สาวกภาสิตา ได้แก่ ที่พวกสาวกของพาหิรกศาสดาเหล่านั้นกล่าวไว้.
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=287
--------------------------------------------------------------------------------------------
จะเห็นได้ว่า จากพระไตรปิฎกอรรถกถา ก็อธิบายไว้ชัดเจน และเข้าใจได้ไม่ยากเลย
ว่าที่ทรงไม่ให้ฟัง คือคำสอนนอกพุทธศาสนาครับ เห็นไหมครับว่า การศึกษาอรรถกถา
นั้นสำคัญแค่ไหน ช่วยทำให้เราไม่ตีความผิดเพี้ยนเข้าข้างความเห็นผิดต่างๆได้เลย
ส่วนการศึกษา ภาษิตสาวกในพระพุทธศาสนา
เช่น ภาษิต พระสารีบุตร ภาษิต พระอานนท์ เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสนับสนุนนะครับ
ดังตัวอย่าง