และบางครอบครัวตามต่างจังหวัด พ่อแม่อยากได้เงินจากลูกสาวเพื่อหาซื้อของใช้ให้ดีกว่าข้างบ้าน เพื่อสร้างบ้านให้หลังใหญ่ เพื่อหน้าตาทางสังคม และสามารถที่จะคุยโวโอ้อวดเพื่อนๆได้ โดยไม่สนใจว่าลูกสาวนั้นจะทำอาชีพอะไร จะต้องทุกข์ทรมานแค่ไหน นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเธอเหล่านั้นต้องหาเงินมาโดยวิธีง่ายๆ ในสังคมที่จอมปลอมและหลอกลวง
นี่คือรูปของเหล่านางที่คิดว่างามยืนโชว์สัดส่วนอยู่บนเวทีที่จัดฉากคล้ายตู้โชว์สินค้า และพวกเธอก็ยืนแสดงท่าทางตามที่ผู้จัดการประกวดอยากให้เธอโชว์รูปลักษณ์
ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมและไม่สมควรจะนำมาลงให้ได้เห็นในหนังสือเล่มนี้
ผู้เขียนจึงอยากให้ผู้อ่านได้ใช้จินตนาการพร้อมกับอ่านคำบรรยายข้างล่างนี้
นี่หรือคือความสวยงามของเหล่าสตรี
หรือมันคือสินค้าที่หาค่าไม่ได้ในตู้โชว์
นี่หรือคือศักดิ์ศรีแห่งความเท่าเทียม
หรือมันคือการมองอย่างดูถูกเหยียดหยาม
นี่หรือคือการแสดงออกของความศิวิไลซ์
หรือมันคือความต่ำทรามของสังคมมนุษย์
นี่หรือคือความกล้าหาญของพวกเธอ
หรือมันคือการหมดสิ้นความไร้ยางอาย
นี่หรือคือความหมายของคำว่าเสรีภาพ
หรือมันคือการกดขี่ บังคับ และข่มเหง
นี่หรือคือรอยยิ้มที่สวยงามของเหล่าสตรี
หรือมันคือ การฝืนทนจนเหงือกแห้ง
นี่หรือคือความฝันอันสวยงามของเธอ
หรือมันคือ ลมที่พัดผ่านมาในหน้าแล้งและมันก็พัดผ่านไป
เพราะหลังจากนี้ต่อไปพวกเธอก็จะหาคุณค่าอะไรไม่ได้เลย !!
มุสลิมะห์ นั้นไม่สมควรเปิดเผยความสวยงาม ไม่ควรอวดโฉมให้เป็นความสวยสาธารณะ หน้าตา และ ผิวพรรณของ สตรี นั้นควรจะเก็บไว้ให้ผู้ที่สมควรแก่การชื่นชมนั่นคือ สามี ของเธอ พวกเธอไม่ควรออกจากบ้านถ้าไม่มีความจำเป็นและไม่มีญาติไปด้วย และการออกจากบ้านเพื่อเดินเที่ยวเตร็ดเตร่ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรนอกจากการเสียเงิน
แต่ก่อน ยุซรอนั้นไม่เคยอยู่ติดบ้าน ต้องออกไปเดินห้างสรรพสินค้าใช้เงินทุกวัน วันหนึ่งเฉลี่ยแล้วประมาณ 300-500 บาท เฉพาะจ่ายค่าอาหาร ค่าขนม และชอบเดินห้างหรูเพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไม่เสียเงิน
ตอนนี้ ถ้าไปข้างนอกจะเกรงกลัวอันตรายต่างๆ ที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะมีแต่ข่าวข่มขืนแล้วฆ่าผู้หญิงทุกวัน ไม่มีความปลอดภัยเลย และ ที่สำคัญเกรงว่าจะไม่ได้ ละหมาด เพราะ มุสลิมต้อง ละหมาด 5 เวลา จึงไม่ออกไปไหนไกลและนาน เพราะต้องรีบกลับบ้านมา ละหมาด ก็ห้างสรรพสินค้าในกรุงเทพอันใหญ่โต มีน้อยห้างที่จัด ห้องละหมาด ให้มุสลิม ทำไมไม่เห็นความสำคัญของมุสลิมนะ ?
และจงอยู่ในบ้านเรือนของพวกเธอ และอย่าได้โอ้อวดความงาม (ของพวกเธอ) เช่นการอวดความงาม (ของพวกสตรี) แห่งสมัยงมงายในยุคก่อน และจงดำรงการละหมาด และจ่ายซะกาต และจงภักดีต่ออัลลอฮ์ และเราะซูลของพระองค์ อัลลอฮฺเพียงแต่ต้องการที่จะขจัดความโสโครกออกไปจากพวกเจ้า โอ้ สมาชิกของวงศ์ตระกูล(นะบี)เอ๋ย และทรง(ประสงค์)ที่จะขัดเกลาพวกเจ้าให้สะอาดบริสุทธิ์(Al-Quran 33:33)
ความฉลาดของมนุษย์นั้นจะเพิ่มขึ้นเมื่อเราได้ใช้เวลาอยู่คนเดียวในแต่ละวันเพื่อคิดทบทวนเรื่องต่างๆโดยไม่มี มารร้ายชัยฏอน มาหลอกล่อให้ไขว้เขว ด้วยความเมตตาจากพระองค์ อัลลอฮ์ ทำให้ยุซรอ มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีไม่มีความวุ่นวายสับสน ไม่มีความกังวลใดๆไม่ต้องไปโหยหาความรักจากใคร และตอนนี้ยุซรอเจอผู้ที่ค้นหามานาน ผู้ที่สามารถรับฟังได้ทุกเรื่องและไม่ต้องกลัวว่าเรื่องของเราจะไปถึงคนอื่น
ยุซรอรัก และ ศรัทธาต่อ อัลลอฮ์ พระองค์อยู่ใกล้หัวใจ ยุซรอไม่ต้องไปวิ่งหาที่ไหนเพราะคนที่เรารักอยู่กับเราตลอดเวลา ยุซรอจะคุยปรึกษาเรื่องต่างๆ เมื่อถึงเวลา ละหมาด ทุกอย่างฝากไว้กับพระองค์ ยุซรออยากให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ความรู้สึกที่ซาบซึ้งแห่งความศรัทธา แต่ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกอันละเอียดอ่อนออกเป็นตัวหนังสือได้ นอกจากพวกท่านพร้อมที่จะรับความรู้สึกนี้ด้วยตนเอง
และพระองค์เป็นผู้สร้างสัมผัสการฟังและการเห็น และหัวใจเพื่อเข้าใจแก่พวกเจ้า แต่เพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าขอบคุณ (Al-Quran 23:78)
บรรดาผู้ศรัทธาและจิตใจของพวกเขาสงบด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮ์ พึงทราบเถิด ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮ์เท่านั้น ทำให้จิตใจสงบ (Al-Quran 13:28)
ผู้หญิงหลายคนที่ติดการช็อปปิ้งนั้นน่าสงสารมากกว่าน่าอิจฉา ยูซรอรับรู้ถึงความรู้สึกนั้นได้เพราะเคยเป็นแบบนั้น ความเหงา อ้างว้างไม่รู้จะไปหาใครจึงใช้เงินเพื่อซื้อความสุข เพื่อแต่งตัวสวยๆอวดโฉมในที่สาธารณะ เพื่อที่จะได้มีคนมารักโดยการโชว์รูปลักษณ์ภายนอก
แต่ความรักที่ได้นั้นเป็นความรักที่จอมปลอม พวกผู้ชายเหล่านั้นรักเธอนะหรือ ไม่ใช่เลยพวกเขารักเงินและอยากได้ตัวของเธอต่างหากหละ เพราะถ้าไม่อวดให้เขารู้ว่าเธอมีอะไรบ้าง ผู้ชายแบบนั้นจะเข้ามาหาเธออย่างนั้นหรือ
จงกินตามใจชอบ และจงนุ่งห่มตามใจชอบตราบเท่าที่ห่างจากทั้งสองนี้ คือการฟุ่มเฟือย และการเย่อหยิ่งจองหอง (บันทึกโดย บุคอรีย์)
เมื่อได้รับรู้ว่าพระองค์ อัลลอฮ์ นั้นเป็นห่วง มุสลิมะห์ มากแค่ไหน ยุซรอเริ่มมีความรู้สึกว่าทำไมพวกเธอถึงโชคดีอย่างนี้ที่พระองค์ อัลลอฮ์ ได้คุ้มครองพวกเธอตั้งแต่เริ่มเกิดมา ไม่มีศาสนาไหนที่มีข้อปฏิบัติตนให้พร้อมเสร็จตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย และ ยังชีวิตหลังความตาย
แม้แต่เรื่องเล็กน้อยของผู้หญิงพระองค์ยังเข้าใจ แต่ในขณะที่ยุซรอมีความรู้สึกอิจฉาพวกเธอเหล่านั้น มุสลิมะห์บางคนกลับไม่ยอมรับความรักจากพระองค์ ไม่ยอมรับการปกป้องคุ้มครองจากพระองค์ พระองค์ทรงดูแลห่วงใยและรักพวกเธอมาก พวกเธอมีเพชรอยู่ในมือแต่กลับมองไม่เห็นคุณค่าของเพชร กลับปล่อยเพชรเม็ดงามให้มัวหมองไม่เจียระไนให้มันงดงามและมีค่ามากยิ่งขึ้น
อาจเป็นเพราะค่านิยม ตะวันตก ที่เข้ามาทำให้ไขว้เขว แต่พวกเธอหารู้ไม่ว่าตอนนี้ในประเทศชาติตะวันตก มหาอำนาจทั้งหลายประชากรกลุ่มหนึ่งได้รับแสงสว่างจากพระองค์ อัลลอฮ์ ศาสนาที่เติบโตเร็วที่สุดในมหาอำนาจคือศาสนาแห่งความจริง ศาสนาอิสลาม
และไม่มีสิ่งใดที่จะยับยั้งมนุษย์จากการศรัทธา เมื่อแนวทางที่ถูกต้องได้มายังพวกเขา และการขออภัยโทษต่อพระเจ้าของพวกเขา เว้นแต่จะให้เป็นแบบอย่างแต่เก่าก่อน(การลงโทษ)มายังพวกเขา หรือจะให้การลงโทษมายังพวกเขาต่อหน้าต่อตา (Al-Quran 18:55)