ความคิดเห็นที่ 1 การที่เราไม่รู้สึกเศร้านั้นเป็นเรื่องดี แต่เราก็ไม่จำเป็นจะต้องแสดงออกอย่างเย็นชานี่ครับ ในเมื่อเราก็รู้อยู่แล้วว่าคนทั่วไป ถ้าไม่รู้วาระจิตกันจริงๆ ไม่มีทางรู้หรอกว่าเราคิดยังไง ดังนั้น เราจึงจำเป็นจะต้องแสดงออกให้เหมาะสมกับกาละและเทศะอยู่บ้าง เพื่อความ ง่ายในการอยู่ร่วมกันในสังคม จขกท ลองเอาคำพูดผมไปพิจารณาดูละกัน จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 16:33:47

ความคิดเห็นที่ 2 คนทั่วไปมองว่าพวกปฏิบัติธรรม บ้า หลุดโลก น่ากลัว เป็นตัวตลก คนปฏิบัติธรรมมองคนประเภทนี้ว่า  น่าสงสารแกมตลกเหมือนกัน ... แค่ดูละครทีวีก็ถือเป็นจริงเป็นจัง เดี๋ยวร้องให้ เดี๋ยวหัวเราะ เดี๋ยวเกลี่ยด อยากตบนางร้าย ถึงละครจะจบไปเป็นชาติแล้วก็ตาม ... ยึดถือตัวเป็นสำคัญ ฉันนี่แน่ เจ๋ง ยิ่งใหญ่  ถึงเวลาก็นั่งขี้เหมือนกันทุกคน ... ดูข่าวโลกจะแตก ก็ลนลาน จะหาซื้อบ้านใหม่ที่อยู่ไกลรอยแยกแผ่นดิน ทั้งๆที่ก็ฟังเค้ามา จริงป่าวก็ไม่รู้  ทำยังกะถ้าโลกไม่แตกวันนี้ จะมีทางแก่ตายกันเลย  ว่างั้น  ไม่ได้ว่าเหมานะครับ  อันนี้คือที่เคยเจอเองกับตัว  อย่างเรื่องน้ำท่วมเข้าใจ จขกท.เลย ผมไม่ตื่นเต้นอะไรมากมาย  ก็รู้แล้วแค่เตรียมการให้ดีที่สุด ที่เหลือเราก็ต้องทำใจ ก็ถือว่าจะได้ไปเที่ยวยาว ไปปฏิบัติธรรม  อันนี้ผมตื่นเต้นกว่าอีก  คนรอบข้างหาว่าเราไร้สาระ ทั้งๆที่เราเตรียมการก่อนเขา ทุกวันต้องมาคุยกันเรื่องเดิมๆ ทั้งๆที่ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ก็ไม่เข้าใจว่าจะให้ร้องไห้ให้ดูหรือไง แต่ผมไม่ท้อนะ เฉยๆ แกมตลก จากคุณ : goodfriday เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 16:44:56

ความคิดเห็นที่ 3 @ Generals ผมก็อยากร้องไห้เสียใจ หรือ แสดงอาการมาบ้าง แต่มันก็ทำไม่ได้ เพราะ 1 ฝืนใจตัวเอง และ 2 กลัวเป็นบาปเพราะมันคือการหลอกผู้อื่น @ goodfriday ทุกวันนี้ผมก้ถูกคนรอบๆๆข่างว่าเป็นบ้า ก้มี ไม่มีหัวใจก้มี จนกลายเป็นทุกข์ไปแล้วตอนนี้อะ บางครั้งเริ่มตั้งคำถามตัวเองว่าสิ่งที่เีราทำมันไม่้ดีเหรอ จากคุณ : siambc031 เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 16:52:15

ความคิดเห็นที่ 4 อย่าคิดมากเลยครับ เป็นธรรมดาของโลกครับ นอกจากมีเกิดและต้องมีดับอย่างที่คุณเจ้าของกระทู้กล่าวแล้ว ยังมีโลกธรรม 8 คือสิ่งที่เป็นธรรมดาคู่โลกทั้ง 8 ประการ อันได้แก่ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ ทุกข์ นินทา สิ่งที่คุณ siambc031 พบเจอคือทุกข์ และนินทา เป็นสิ่งธรรมดาของโลกใบนี้ ไม่มีทางที่เราจะแสดงออกหรือตอบสนองจนถูกอกถูกใจคนไปเสียหมด ผมเคยลองมาแล้ว กลายเป็นว่า ทุกคนจะไม่เหลือความเกรงใจในตัวเราเลย และจะคิดว่าเราง่าย ขออะไรก็ได้ ใช้ให้ทำอะไรก็ทำได้ และต้องทำ ห้ามขัด ห้ามนอกคอก เมื่อเราไม่ทำให้เขาเหล่านั้นพอใจหรือได้ดั่งใจ เหมือนอย่างที่ผ่านๆมา ท้ายที่สุด เขาก็เคืองเราอยู่ดี รูปการณ์จะออกมาแบบนี้ อย่าว่าแต่ในแวดวงสังคมเลย แม้ในหมู่คนที่ปฏิบัิติธรรม ถ้าไม่ปฏิบัติธรรมเหมือนอย่างที่เขาชอบ เหมือนอย่างที่เขาประพฤติอยู่ ก็จะต้องถูกมองในแง่ลบเช่นกัน จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 17:02:47

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ได้ยินก็สักแต่ได้ยินสิครับ คำคนถ้าเราสนใจซะอย่างก็แค่นั้น สำรวจใจตัวเองก็พอ แรกสดคือเราทำไม่ดีกับใครหรือเปล่า  ถ้าเราทำไม่ดีสิค่อยเอาคำติมาคิด  ตอนยายผมตาย ในงานศพผมก็ไม่ร้องไห้นะ  แต่พอจะเข้านอน  คิดถึงยาย  ถาพตั้งแต่เด็กจนโตที่เราอยู่กับเขามามันไหลออกมาพรึ่ดๆเลย  ถึงร้องไห้ออกมา  แต่ก็ไม่มีใครเห็น  แต่ดีที่คนรอบข้างเข้าใจว่าผมเป็นแบบนี้อยู่แล้ว จากคุณ : goodfriday เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 17:07:48

ความคิดเห็นที่ 6 เราไง คนรอบข้างมองว่าบ้า พระท่านบอกว่า บ้าดี แล้วไม่ดีหรือไง จากคุณ : ต้นลูกตาล เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 17:07:52

ความคิดเห็นที่ 7 ปฏิบัติธรรมแบบไหน ถึงหลุดไปขนาดนั้น ป้าผมนุ้งขาวห่มขาวสวดมนต์นอนวัดกิน2มื้อแบบพระไม่เห็นมีใครว่าบ้านะ เพื่อนอีกคน กินมังสวิรัตแต่งตัวแนวสันติอโศก ใว้ผมยาวเปลียนชื้อ สะพ่ายย้าม ทำมา 20กว่าปีแล้ว โดนว่าบ้างแต่ไม่เห็นมันสนใจ คงถือดติทำดีไม่เดือดร้อนใคร ผมว่าถ้าคุณมั้นใจในสิ่งที่ทำมีความสุขกับมัน แผ่เมตตาให้คนอื่นแค่นีก็พอ จากคุณ : riding (riding) เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 17:10:01

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆแล้วหลักเบื้องต้นก็คือ อย่าไปสนใจคนอื่นมากนัก และเรียนรู้กับคำว่า โลกไม่ช้ำ ธรรมไม่ให้เสีย มีคนตายเราก็ต้องแสดงความเสียใจนะ เพราะคนอื่นเขาเป็นทุกข์ จากคุณ : sirnitfi เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 17:12:26

ความคิดเห็นที่ 9 จขกท คิดมากไปหรือเปล่าคะ เราไม่เคยร้องไห้ในงานศพไหน และไม่ได้สนใจเรื่องน้ำท่วมมากมาย ก็มีเตรียมของใช้จำเป็นตามปรกติ ทุกวันนี้ คุณแม่ป่วย จะตายเมื่อไรก็ไม่รู้ เราก็ไม่ได้เศร้าอะไรมาก ก็รักษาและดูแลอย่างดีที่สุด แต่ทุกคนก็ต้องตาย เมื่อไรเท่านั้นเอง ทำใจไปเรื่อยๆง่ายกว่านั่งเศร้า ไม่เห็นจะมีใครคิดว่าเราแปลกนะคะ หรือจะคิดก็ไม่รู้นะ แต่เราไม่ได้สนใจอ่ะค่ะ รู้กายรู้ใจของตัวเองก็พอ ดีกว่านะคะ จากคุณ : ธารน้ำ เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 17:36:50

ความคิดเห็นที่ 10 คุณยังเฉยไม่จริง  ถ้าเฉยจริง ต้องเฉยต่อคำพูดต่างๆนาๆด้วย  เพราะนั่น  ก็เกิดดับ เช่นกัน รวมทั้งเฉย  ต่อความไม่ชอบใจ ต่อโลกธรรม 8 ต่างๆนาๆนั้นด้วย จึงจะพบความสงบสุข  หากเฉยแค่ครึ่งๆกลางๆ  ก็จะมีความรู้สึกปรุงแต่งครอบงำ ทำให้มีเหตุผล  มีเรา มีเขา  มีเราผู้ถูกตำหนิ  มีเขาผู้ได้เปรียบ และอื่นๆอีกหมากมาย ตามมาไม่ขาดสาย  หาจุดจบไม่เจอ  หมดเรื่องนี้  ต่อเรื่องนั้น  ยันจบชีวิต ก็หาผู้พอใจเราตลอดเวลา  เที่ยงแท้ถาวรโดยไม่เปลี่ยนแปลง  ไม่เจอในโลกนี้ บุคคลผู้มีธรรมจะหวั่นไหวอะไร  กับแค่เรื่องใครจะคิดอย่างไร หากคุณมั่นใจว่าได้เจริญตามทางมรรคมีองค์ 8 ตามคำสอนพระพุทธองค์ เจริญในธรรมคะ จากคุณ : goodsthailand เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 18:54:05

ความคิดเห็นที่ 11 บ้าคืออะไร ไม่บ้าคืออะไร ??? อะไรถูก อะไรผิด ??? โลกก็หมุนไปของมันแบบนั้น เราก็แค่มองมันหมุน ถึงตัวจะหมุน แต่ใจไม่จำเป็นต้องหมุนตามนิครับ จากคุณ : สวรรค์รำไร เขียนเมื่อ : 22 พ.ย. 54 19:40:19

ความคิดเห็นที่ 12 การสร้าง กุศล  บุญ  บารมี ก็ต้องยากและเหนื่อยแบบนี้ในตอนแรกๆ  เหมือนการว่ายทวนไปหาต้นน้ำ จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 04:50:10

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นคนดีไม่จำเป็นต้องเฉยชา  แต่จำเป็นต้องมีปัญญา วิธีแก้ไขเมื่อมีคนตาย เราต้องช่วยเหลือญาติเค้าเต็มที่  ช่วยเหลือคนรอบข้าง ออกแรงกายแรงใจ ปลอบโยนเขา   ถ้าเราทำตัวอุเบกขาแล้วไม่ทำอะไรเลย ถือว่ายังไม่เข้าใจวิธีเป้นคนดี วิธีปฎิบัติธรรม อย่าลืมคำพูด  มีคุณอนันน์ มีโทษมหันต์   ยิ่งเป็นคำพูดของคนดี น่าจะเป็นคุณมาก อย่านิ่งเฉยเหมือนคนใบ้   คนมีปัญญา คนดี เขาวัดกันที่คำพูด และ การกระทำ ยิ่งคนอื่นว่าเราบ้าเรายิ่ง ต้องเอาความดี เอาความจริง เอาการเสียสละ ให้อภัย เข้าสุ้จึงถือว่า ผู้อยู่โดยธรรม จากคุณ : aunemaek2 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 04:52:36

ความคิดเห็นที่ 14 ดูตัวอย่างอาจจะดีกว่าคำพูด ไม่ได้มีคุณเพียงคนเดียว หลายๆคนในห้องนี้ ในอดีต ในสมัยพุทธกาล ก็ต้องพบกับปัญหา ที่เราเรียกง่ายๆว่า ความไม่เข้าใจในความจริงในคุณค่า ของความดี จากคุณ : aunemaek2 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 05:07:38

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณที่กระทู้ ขอบคุณทุกกำลังใจ ครับ จากคุณ : siambc031 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 10:18:49

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท. ก็ทำตามปกติแต่  เมื่อเกิดเรื่องเศร้ากับคนอื่น ก็พูด  หรือทำ อะไรที่แสดงความเห็นใจเค้า  อย่างน้อยก็พอเป็นพิธีก็ยังดี เป็นมารยาทน่ะครับ บางทีเมื่อเรายังครองเพศฆราวาส   ก็ยังต้องมีสังคมและมารยาทอยู่ จากคุณ : -tak- เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 11:23:08

ความคิดเห็นที่ 17 พยายามยึดสายกลางไว้ ทางธรรมเราก็ปฏิบัติแบบไม่ยึดมั่นถือมั่นน่ะดีแล้ว ส่วนทางโลกก็แสดงออกด้วยความใส่ใจ เห็นใจต่อคนรอบข้างบ้างอย่างมีสติ เรื่องถูกมองแปลกๆ จากคนรอบข้างเมื่อเราพยายามปฏิบัติธรรมนี่ เราเคยเจอกับตัว จนรู้สึกท้อมาแล้วเหมือนกัน แต่ท้อแค่ระยะสั้นๆ พอได้รับการเตือนสติจากเพื่อนๆ ห้องศาสนา เราก็ตั้งมั่นในการปฏิบัติธรรมต่อไป แต่รู้จักการวางตัวในสังคมให้มากขึ้น เพราะถ้าทำตัวเป็นพระ ทั้งๆ ที่ยังครองตนเป็นฆารวาส คนมักจะชอบมองไม่ดี มองว่าเพี้ยน สรุปว่า ต้องพยายามปรับตัวให้อยู่ทางโลกได้อย่างปกติสุข โดยที่ทางธรรมเราก็ยังยึดมั่นดำรงอยู่ จากคุณ : snoopy21 เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 11:42:34

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นกำลังใจให้นะครับ ถ้าคุณทำดีจริง ความดีจะปกป้องคุณ เสียงจากภายนอก ผ่านมาเดียวมันก็ผ่านไป(อย่าเก็บไว้ในใจ) ขอบคุณครับ จากคุณ : กรรไกรรัตนะ เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 16:18:39