Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
การรวมศาสนาพุทธ เต๋า และ ขงจื๊อ ติดต่อทีมงาน

ศาสนาพุทธ ขงจื๊อ และ เต๋า นั้นมีหลักธรรมที่แตกต่างกันมากหลายประการ ที่คล้ายคลึงกันนั้นมีน้อย
และมักไม่เป็นที่รู้จัก ท่านพระสังฆปรินายกองค์ที่ 6 เหวยหล่าง ของนิกายฌานของจีนได้กล่าวถึงความแตก
ต่างของหลักธรรมของสามศาสนาโดยสรุปได้อย่างน่าฟังว่า

“ขงจื๊ออยากอยู่ เต๋าไม่อยากตาย พุทธไม่อยากเกิด”

กล่าวคือ ท่านขงจื๊อซึ่งเป็นศาสดาของลัทธิขงจื๊อ มุ่งสอนแต่โลกีย์ธรรม เพื่อที่จะให้มนุษย์ที่เกิดมาแล้วในโลก
นี้จะมีชีวิตที่สมบูรณ์พูนสุข มีคุณธรรมและสังคมมีสันติสุข หลักคุณธรรมของขงจื๊อที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับและ
เป็นคุณธรรมพื้นฐานของสังคมจีนมาเป็นเวลาช้านานกว่าสองพันปีคือ คุณธรรม 8 ประการ ประกอบด้วย

(เหา)         ความกตัญญูกตเวทิคุณต่อบิดามารดาและผู้มีพระคุณ  
(ตี้)            ความเคารพรักใคร่ปรองดองระหว่างญาติมิตรพี่น้อง
(จง)           ความซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อผู้ปกครอง
(ซิ่น)          ความสัจจวาจา
(หวี่)          ความมีมารยาท
(อี้)            ความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่
(เนี้ยน)       ความบริสุทธิ์กายและใจ และ
(ฉี)            มีหิริโอตตัปปะ

ส่วนศาสนาเต๋าที่ว่าไม่อยากตายนั้นท่านเหลาจื๊อศาสดาของลัทธิเต๋าได้มองเห็นว่า ลาภ ยศ สรรเสริญ และชีวิต
ที่ทุกข์และสุขนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วประเดี๋ยวเดียว แล้วก็ผ่านไปเหมือนฝัน ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน และไม่มีมนุษย์
คนใดหนีพ้นความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ช่วงชีวิตมนุษย์สั้น และร่างกายไม่ทนทาน แต่ถ้ามนุษย์อยากมีชีวิตที่เป็น
อมตะยืนยาวคู่ฟ้าดิน มนุษย์ต้องละทิ้งโลกีย์วิสัย เจริญสมาธิ และฝึกจิต และพลังลมปราณในร่างกาย จะทำให้มี
ชีวิตยืนยาว หรือถ้าฝึกจิตสำเร็จเต๋า เป็นเทพ หรือเซียน ก็จะมีจิตที่เป็นอมตะอยู่ร่วมกับพลังของฟ้าและดินได้

ประการสุดท้ายที่กล่าวว่า “พุทธไม่อยากเกิด” นั้น เพราะสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนว่ามนุษย์ล้วนตกอยู่
ในกระแสของวิบากกรรมใน วัฎฏะสงสารซึ่งเป็นทุกข์ การเกิดเป็นทุกข์ การจะหลุดพ้นจากทุกข์ได้มีวิธีเดียวคือ
การหมดกิเลส หลุดพ้นจากวัฎฏสงสารจึงจะไม่เกิดอีก ฉะนั้น “พุทธจึงไม่อยากเกิด” ทั้งนี้เพราะสรรพสิ่งล้วน
เป็น อนิจจัง ทุกขัง และ อนัตตา

         ดังนั้น ถ้าพิจารณาหลักธรรมของสามศาสนานี้แล้ว ศาสนาพุทธมีหลักธรรมที่คล้ายคลึงกับศาสนาเต๋า
มากกว่าศาสนาขงจื๊อ แต่เมื่อพุทธศาสนาแพร่หลายเข้าไปในประเทศจีน ชาวจีนในระยะแรกเริ่มก็มองว่าพุทธ
ศาสนาเป็นศาสนาของคนต่างชาติไม่เหมาะสมกับชาวจีน และชาวจีนก็มีศาสนาของตนอยู่แล้วคือ ศาสนาขงจื๊อ
และ เต๋า จึงไม่จำเป็นต้องรับเอาศาสนาของคนต่างชาติ  จึงก่อให้เกิดความขัดแย้งอิทธิพลกันขึ้นในราชสำนัก
ระหว่างศาสนาพุทธ กับ ศาสนาขงจื๊อ และ เต๋า อยู่หลายครั้งในประวัติศาสตร์จีนที่ผ่านมา แต่พุทธศาสนา
มีข้อได้เปรียบตรงที่หลักธรรมมีความละเอียดลึกซึ้งและครอบคลุมกว้างขวางมากกว่าหลักปรัชญาของศาสนา
ขงจื๊อ และ เต๋า จึงเป็นที่ยอมรับของประชาชนจีนอย่างกว้างขวางนับตั้งแต่องค์จักรพรรดิ์ ข้าราชการ บัณฑิต
พ่อค้า และ เกษตรกร แต่พุทธศาสนาก็ถูกต่อต้านโดยนักพรตเต๋าและข้าราชการลัทธิขงจื๊อบางกลุ่มที่มอง
เห็นว่าพุทธศาสนาอาจเป็นภัยต่อวัฒนธรรมจีน และอำนาจของจักรพรรดิ์

การผสมผสานระหว่างปรัชญาของ ศาสนาพุทธ และ เต๋า กับวัฒนธรรม และอุปนิสัยของชาวจีนทำให้เกิดพุทธ
ศาสนานิกายใหม่ ๆ ขึ้นในประเทศจีน ในขณะเดียวกันผู้นำศาสนาเต๋า และ ขงจื๊อก็รับเอาปรัชญาพุทธศาสนา
ไปปรับปรุงคำสอนศาสนาของตน ทำให้เกิดการปฏิรูปของศาสนาเต๋าและขงจื๊อด้วย

การผสมผสาน และการปฏิรูปของศาสนาทั้งสาม ทำให้หลักธรรมของทั้งสามศาสนา มีความคล้ายคลึงกันมากขึ้น
และ เกิดขบวนการรวมสามศาสนาเข้าด้วยกันในยุคราชวงศ์ ซ่งและหมิง ชาวจีนส่วนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาว
จีนในภาคใต้จึงเคารพนับถือ  ศาสนาพุทธ เต๋า และ ขงจื๊อ รวมกันโดยไม่มีความรังเกียจมาจนถึงปัจจุบัน รวมทั้ง
ชาวจีนโพ้นทะเลต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่อพยพไปจากภาคใต้ของประเทศจีนสู่ประเทศเอเชียอาคเนย์ และ ประเทศอื่น ๆ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มาของข้อมูลนี้
http://www.asia.tu.ac.th/research/Abstract/abstract37_7%28surachai%29.htm


แสงเทียน

จากคุณ : Faraday
เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 55 03:37:01




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com