ความคิดเห็นที่ 1 ฤทธิ์เดชไม่เท่าคนสองหน้าหรอกครับ จากคุณ : BerryzFC เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 21:01:06

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าอย่างนั้นทศกัณฐ์มีฤทธิ์มากกว่าหลายเท่าเลย เพราะมีตั้ง 10 หน้า 20 กร จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 21:06:27

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นนิยายทางศาสนา ที่ศาสนิกพราห์ม หรือ ฮินดู เชื่อถือว่าจริง แต่มีแตกแขนงไปต่าง ๆ กัน อีกมาก จากคุณ : Faraday เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 21:22:29

ความคิดเห็นที่ 4 พระพรหม เป็นผู้สร้าง (ตามคำสอนพระพุทธเจ้า เรียกว่า เกิดขึ้น) พระนารายณ์ เป็นผู้ปกครอง ทำให้เป็นระเบียบเรียบร้อย (ตามคำสอนพระพุทธเจ้า เรียกว่า ตั้งอยู่) พระศิวะ เป็นผู้ทำลาย (ตามคำสอนพระพุทธเจ้า เรียกว่า ดับไป) พอรวมร่างกัน 3 ท่าน เรียกว่า พระตรีมูรติ (ตามคำสอนพระพุทธเจ้า เรียกว่า พระธรรม หรือ กฎแห่งกรรม ทุกอย่าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นธรรมดา หรือเรียกอีกอย่างว่า กฎแห่งกรรม ถ้าเราสร้างกรรมไว้ เราก็ต้องรับผลกรรมนั้นเสมอ) ขออภัยที่ตอบไม่ตรงคำถามครับ จากคุณ : จงเลือกแล้วเดินให้สุดทาง เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 21:33:04

ความคิดเห็นที่ 5 เรื่องพวกนี้มีหลากหลายยุค ต่อเติมเสริมแต่งกันมาเรื่อยๆ สุดท้ายก็แตกแยกเป็นหลายความเชื่อ หลายแนวทาง ทำนองนิทานกรีก นิทานจีน เรื่องเค้าเดิมนั้นพอมีครับ ในชาดกก็มีบางเรื่องที่ไกล้เคียงกับความเชื่อเหล่านี้ แต่ไม่ได้ซับซ้อนพิศดารเหมือนเรื่องยุคหลังๆ นานๆไปยิ่งขยายกลายเป็นว่าคนสร้างตำนานขึ้นมาเอง และเลือกที่จะเชื่อกันตามแบบของตัวเองมากกว่า ไม่ต้องตำนานความเชื่อใหญ่ๆหรอกครับ เอาแค่เรื่องตำนานพื้นบ้าน แต่ละภาคแต่ละจังหวัดก็เล่าพิศดารไม่ตรงกัน แล้วเรื่องไหนจริง? ในทางพุทธ มีเรื่องเทวตานุสติ แต่ไม่ใช่เทียบว่าเทวดาองค์ไหนใครใหญ่กว่าเก่งกว่าใคร เป็นประมาณชื่นชมนิยมว่าเพราะท่านทำความดี มีหิริโอตตัปปะ จึงได้เป็นเทวดา ถ้าเทียบก็คงคล้ายๆคุณชอบก๋วยเตี๋ยวมากกว่า ยังไงก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยกว่าเกาเหลา แล้วคนที่ชอบเกาเหลาหละ เขาก็ว่าอร่อยกว่าก๋วยเตี๋ยวไง จากคุณ : BlueDelphi เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 21:42:21

ความคิดเห็นที่ 6 #2 กรณี ทศกัณฐ์ เป็นคำสาบพระนารายณ์ ที่พระนารายณ์พูดประชดนนทกครับ ไม่ได้กำเนิดจากบารมีตัวเองดังเทพองค์อื่นๆ หรือ แม้เทวดาชั้นจตุ ประมาณนี้เนาะตามความเข้าใจผม จากคุณ : Dr.New92 เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 21:51:29

ความคิดเห็นที่ 7 เท่าที่ได้รู้มาบ้าง. พระพรหมยังไม่ได้เป็นพระโพธิสัตว์ต่างจากเทพเจ้าพระศิวะ กับพระนารายณ์ พระพรหมคือพราหมที่ได้ปฏิบัติเพื่อไปเกิดเป็นพรหมที่เค้าเชื่อว่าสูงสุดแล้ว แท้จริงเป็นแค่ระยะเวลานานในการเสวยบุญ พระพรหมมีมากมาย ที่อยู่ในชั้นพรหม. นับด้วยบารมี พระศิวะเป็นพระอวโลกิเตศวร มากด้วยบารมี   พระนารายณ์  เป็นพระโพธิสัตว์. เท่าที่รู้ไม่ได้เป็นพระอวโลกิเตศวร หากมีส่วนใดไม่ถูกต้อง ก็แย้งกันได้เพื่อที่จะเข้าใจให้ถูกต้องทุกคน จากคุณ : จันตรีบุตร เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 23:11:41

ความคิดเห็นที่ 8 หน้าที่หนึ่ง ชื่อ เมตตา หน้าที่สอง ชื่อ กรุณา หน้าที่สาม ชื่อ มุทิตา หน้าที่สี่ ชื่อ อุเบกขา จากคุณ : จับแพะชนแกะ (สะอื้น) เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 55 23:21:30

ความคิดเห็นที่ 9 ฟังไว้เล่นๆ.......จำมาจากหนังสือสมเด็จโตเล่าไว้ที่สำนักปู่สวรรค์ จากมีผู้ถามปัญหาเอาย่อๆนะ   พระศิวะ พระนารายณ์ นั่นเป็นตำแหน่ง เป็นเทพนะ ยังมีพระชายาอยู่ คอยช่วยเหลือมนุษย์ แต่พรหมนั้นสูงกว่าส่วนมากจะไม่ยุ่งกับมนุษย์แล้ว บริสุทธิ์กว่าเพราะไม่มีพระชายา ตัดกิเลสกามได้หมด คงเหมือนกับเจ้านายชั้นสูง ท่านคงไม่มาคลุกคลีกับพวกอยู่ในสลัม คือ กายทิพย์จะละเอียดกว่าพวกเทพมาก จึงปรากฏตัวให้มนุษย์้เห็นยากเต็มที นอกจากมนุษย์ผู้นั้นมีกรรมพัวพัน หรือมีฌานขั้นสูงเห็นด้วยตาทิพย์  การที่เทพมีหลายหน้านั้น จะได้ระวังพวกมารได้ดีเพราะพวกมารชอบแอบเข้ามาปั่นป่วนในสวรรค์ จึงเนรมิตหลายหน้า หลายกร ไม่ใช่ว่า มีหลายหน้าจะเก่งมาก  ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ เป็นพรหม ไม่จำเป็นมีหลายหน้าเพราะกายท่านมีแสงรัศมีเหมือนดวงอาทิตย์อยู่แล้ว เวลาไปไหนมาไหนเหมือนดวงอาทิตย์เคลื่อนไป และเทวดาองค์ไหนถูกตัวท่าน ตัวจะไหม้ ศาสนาชินโตนับถือดวงอาทิตย์ เพราะแสงรัศมีกลบตัวท่าน นักบวชศาสนานี้มองเห็นแต่ดวงอาทิตย์ เขาจึงนับถือดวงอาทิตย์ ไม่รู้ว่าตัวท่านอยู่ข้างใน และท่านก็ไม่ต้องการให้เห็นด้วย  เวลาเทวดาเขาประชุมกัน ถ้าเทพตกลงกันไม่ได้ ต้องฟังพรหม เพราะพรหมสูงกว่า แต่สุดท้ายรวม 3 โลก พรหมโลก เทวโลก ยมโลก ยังตกลงกันไม่ได้ ก็ให้ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ เป็นผู้ตัดสินสุดท้าย  ที่จริงท่านไม่ชอบคบมนุษย์เพราะไม่รู้จักพอ แต่สมเด็จโตใช้อุบาย เชิญมาร่วมงานสำนักปู่สวรรค์ ปราบวิญญาณอสูรร้าย หรือมารซึ่งแม้แต่เทวดา มันไม่กลัว พอก่อนนะ ไปศึกษากันเอง.......ไม่ต้องเชื่อ จะได้จ่ายสด.....5555555 จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 09:32:51

ความคิดเห็นที่ 10 ว่าตามหลักเทววิทยา พรหมในที่นี้ของจขกท. คือพรหมในคติฮินดู ไม่ใช่พราหมณ์ เรื่องจำนวนกรที่ว่า เป็นเรื่องที่เสริมแต่งตามแต่ละนิกายที่จะโฆษณากัน เนื่องจากคติพรหม ไม่ขลังในยุคพุทธกาล จึงมีการเขียนนิยายมาลดชั้น และเพิ่มเทพพื้นเมือง คือศิวะ(สีแดง) และวิษณุ(ท้องฟ้า)-จิตร ภูมิศักดิ์ ซึ่งเป็นเทพพื้นเมืองของฑราวิทตอนใต้ จนรวมเป็นตรีมูรติ ยังมีคเนศ หนุมาน เทพดึกดำบรรพ์ที่ถูกจับลดชั้นสมัยต่อมา ศังกราจารย์ หนึ่งในคนแต่งคัมภีร์ปุราณะได้แต่งนิยายทั้ง ไศวนิกาย และไวษณพนิกาย ให้มีความสัมพันธ์แบบเกื้อกูลกัน และอวตารวิศนุที่เป็นหญิงช่วยร่วมอภิรมย์กับศิวะ เพื่อถอดพิษ พระวิษณุ จึงอวตารเป็น "นางโมหิณี" (อวตารนี้อยู่ร่วมกับพระศิวะหลายภารกิจ)มาร่วมอภิรมย์กับพระองค์จนคลายพิษออก พิษนั้นจึงบังเกิดเป็นดวงไฟรุทร อวตารปางที่11 ของพระศิวะเพื่อช่วยพระวิษณุอวตาร  ดวงไฟนั้นได้ไปสถิตอยู่ที่อาสรมฤาษีตนหนึ่ง(จำชื่อไม่ได้) http://www.hindumeeting.com/forum/index.php?topic=3630.5 พรหมถูกลดชั้น โดยนิยายที่กล่าวว่าแต่เดิมมี5หน้า ถูกไภรวะใช้กงเล็บตะบบทิ้งไป เพราะมัวแต่มาเมียที่ตนสร้างมาอย่างไม่วางตา เลยเหลือ4หน้า แต่ไภรวะต้องคำสาป ต้องถือกะโหลกพรหม จารึกจนหมดกรรม แต่บางแหล่งก็ไม่เหมือนกัน พรหม ถูกศิวะสาปไม่ให้มีเทวาลัย เพราะไปดูหมิ่นลึงคะ แต่วิษณุไม่ดูหมิ่น(เป็นการสร้างเรื่องลดชั้น เพราะพรหมในคติพุทธได้รับการยอมรับมากกว่า) แต่รากฐานที่พราหมณ์วางไว้แต่แรก ว่าพรหมธดาสร้างและลิขิตสรรพชีวิตแก้ไขไม่ได้ เพราะจะขัดแย้งกัน จึงแต่งเรื่องพรหมราตรี เพื่อให้สามเทพมีทีเด็ดพอๆกัน แต่สุดท้ายต้นกำเนิดเทพทั้งสามต่างแต่งให้เกิดขึ้นเองจะได้ไม่ต้องมาอ้างว่าใครใหญ่กว่า ในแต่ละนิกาย นิกายไหนก็ต่างเชียร์ว่าเทพของตนเหนือกว่า แถมลงท้ายว่าวรีกรรมนั้นๆ กระทำมาแล้วยังบริเวณเทวาลัยที่มีชื่อเสียง ซึ่งเทวาลัยดังๆจะจัดงานแทบทุกเดือน ส่วนเทวาลัยไม่ดังจะจัดปีละครั้ง จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 10:23:23

ความคิดเห็นที่ 11 ตกลงเทพนี้มีจริงเอามาเล่าต่อหรือเกิดจากมนุษย์แต่งขึ้นล้วนๆ. แต่พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่าทำดีได้ไปสวรรณ์ ก็มีจริงนะซิ จากคุณ : Dr.New92 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 11:33:40

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 11     ตกลงเทพนี้มีจริงเอามาเล่าต่อหรือเกิดจากมนุษย์แต่งขึ้นล้วนๆ. แต่พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่าทำดีได้ไปสวรรณ์ ก็มีจริงนะซิ จากคุณ : Dr.New92   ---------------- ก็คิดเป็นกลางๆ ว่าเป็นพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ก็จะคลายความสงสัยลงได้ครับ จากคุณ : จันตรีบุตร เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 11:48:42

ความคิดเห็นที่ 13 อ้าว...........ถ้านรกสวรรค์ ไม่มีจริง เลิกพระพุทธศาสนาได้เลย หันไปนับถือลัทธิคอมมิวนิสต์ได้แล้วเพราะ ราว 70 % ในพระไตรปิฏกล้วนแต่เป็นเรื่องของโลกวิญญาณหรือภพภูมิต่างๆ พระพุทธเจ้าท่านกล่าวถึงสวรรค์ชั้นต่างๆอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่หรือ จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 11:50:10

ความคิดเห็นที่ 14 คนละศาสนากันเลย  อย่าเอามาผสมโรงกัน (ยาวมาก พอควร  เขียนจากความทรงจำที่ได้เล่าเรียนมา) ความเชื่อของศาสนาพราหมณ์  มีวิวัฒนาการ มาพอสมควร 1.  ยุคแรก  ตั้งแต่ก่อนมีพุทธศาสนา   พวกพราหมณ์จะนับถือ เทพเจ้าหลากหลายพระองค์    เรียกว่า  พหุเทวนิยม   เช่น  พระพฤหัสบดีแห่งความรู้  พระอินทร์แห่งการรบ  พระอัคนีแห่งไฟ 2.  กาลต่อมา    เกิดวิวัฒนาการขึ้นใหม่   คือเริ่มมีการยกเทพองค์หนึ่งให้เหนือกว่าองค์อื่นตามสถานการณ์    เรียกว่า อติเทวนิยม   เช่น   เวลารบก็จะยกพระอินทร์ให้เหนือกว่าเทพอื่น   เวลาสอบหรือเล่าเรียนก็จะยกพระพฤหัสบดีให้เหนื่อกว่าองค์อื่น   3.  กาลเวลาต่อมา  เริ่มยกพระพรหม ว่าเป็นผู้ให้กำเนิด หรือผู้สร้าง โลก และยกพระอินทร์ให้อยู่เหนือกว่าเทพอื่นเป็นประมุขของเทพเจ้าทั้งปวง   เรียกว่า  เอกเทวนิยม    จึงมีการแต่งคัมภีร์  สามเวท   ถวายน้ำโสมแด่พระอินทร์โดยเฉพาะ   พระเวท ช่วงนี้มี 3 เล่ม  เรียกว่า  ไตรเวท (สมัยนี้ คำว่า พระอิศวร  พระนารายณ์  ยังไม่มี)   ช่วงนี้  ตรงกับสมัยพุทธกาล   จึงมีคติ พระอินทร์  พระพรหม  เข้ามา ในศาสนาอยู่บ้าง แต่ให้ทราบไว้ว่า พระพรหม ในคติพุทธศาสนา  ไม่ใช่ผู้สร้างแบบ ของพราหมณ์   แต่หมายถึงผู้ได้บำเพ็ญพรหมวิหาร หรือณาน สมาบัติ  จนได้ไปอยู่ในพรหมโลก 4.  หลังสมัยพุทธกาล   ราชวงศ์โมริยะ  พระเจ้าอโศกมหาราช  เผยแพร่ศาสนาพุทธ  นิกายเถรวาท  แพร่หลายทั่วชมพูทวีป  อิทธิพลของพราหมณ์ จึงด้อยลง 5.  พ้นราชวงศ์โมริยะ  คือ  ราชวงศ์กุษาณะ   พระเจ้ากนิษกะมหาราช  นับถือ  นิกายมหายาน   พระโพธิสัตว์มากมาย เริ่มเกิดขึ้นมา   พร้อมๆกับพวกศาสนาพราหมณ์  เริ่มแนวคิดใหม่  คือ เริ่มมีการใส่ปรัชญา  หลักคำสอน  เข้ามาในศาสนา  เพื่อต่อสู้กับพุทธ   และเริ่มมีความเชื่อเรื่องพระอิศวร และ พระนารายณ์   กำเนิดขึ้น มาแทนที่พระอินทร์   มีการ  ลดอำนาจพระอินทร์ เช่น บอกว่าพระอินทร์ไปมีชู้กับฤาษี  เลยโดนฤาษีสาปให้มีโยนีขึ้นตามตัวเป็น สหัสโยนี พระนารายณ์แผลงศร เป็นตาข่ายป้องกันฝนของกองทัพพระอินทร์ได้ (ไตรเวท แต่เดิมเน้นแต่บทสวดบูชา   กับพิธีกรรม  ไม่มีคำสอน หลักการ มากนัก) 6.  ต่อจากราชวงศ์กุษาณะ  คือ ราชวงศ์คุปตะ  นับถือ พราหมณ์ เต็มขั้น ยุคนี้  ศาสนาพรามหณ์ได้พัฒนาเป็นหลักฮินดู   เป็นยุคทองของฮินดู  เกิดความเชื่อแบบ  เอกนิยม   นับถือสภาวะยิ่งใหญ่หนึ่งเดียว   ที่เรียกว่า ปรมาตมัน     เกิด ความคิดว่า  ปรมาตมันนี้  เป็นสภาวะยิ่งใหญ่ ซึ่ง  มี 3 ภาค  เรียกว่าพระตรีมูรติ คือ 1)  พระพรหม  คือ  ผู้สร้าง 2)  พระนารายณ์ หรือ พระวิษณุ  คือ ผู้รักษาดูแล 3)  พระศิวะ หรือ พระอิศวร  คือ ผู้ทำลาย ส่วนใครจะมีอำนาจมากกว่ากันนั้น  ขึ้นกับ นิกาย ฮินดูมีหลายนิกายเช่นกัน นิกายไศวะ  นับถือ พระศิวะ ว่าเหนือสุด นิกายพรหมา  นับถือ  พระพรหม  ว่าเหนือสุด นิกายไวษณพ  นับถือ  พระวิษณุ  ว่าเหนือสุด บางนิกายก็นับถือเท่าเทียมกันหมด ฯลฯ พวกฮินดู ได้ทำการกลืนพุทธ  โดยอ้างว่า พระพุทธเจ้าเป็นพระนารายณ์อวตาร มา   เพื่อดึงผู้ที่ไม่ศรัทธา พวกนอกรีต  ให้ออกไปจากพราหมณ์-ฮินดู ศาสนาพุทธเริ่มเสื่อมไปจากชมพูทวีป  ตั้งแต่ราชวงศ์คุปตะเป็นต้นมา แก้ไขเมื่อ 14 ก.ย. 55 14:03:55 จากคุณ : ไจโรสโคป เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 14:01:48

ความคิดเห็นที่ 15 แต่ผมเห็นภาพตามวัดและประวัติต่างๆ ตอนที่เจ้าชายสิทฯประสูตร พรหม ศิวะ นาราย ยักษ์ พราม ต่างกันโปรยดอกไม้ลงมาจากสววรค์ ประมาณนี้นิครับ ก็น่าจะเกี่ยวกัน จากคุณ : Dr.New92 เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 20:22:01

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพวาดสมัยหลัง  จะใส่อะไรลงไปก็ได้  ขนาดโดเรมอน ยังมีเลย - - คนไทยบางส่วนมักใส่ ความเชื่อส่วนตัว แล้วก็แนวคิดทางพรามหณ์  ลงไปในงานศิลป์อยู่แล้ว   เรียกว่า แยกไม่ออกแล้วด้วยซ้ำ ว่าอันไหนพุทธแท้  อันไหนพรามหณ์ แต่ในพระไตรปิฏก หรือ คัมภีร์พระเวทยุคแรกๆ ที่นักประวัติศาสตร์ค้นพบจริง ไม่มีเอ่ยถึง พระศิวะ  หรือ พระนารายณ์ แม้แต่ครั้งเดียว จากคุณ : ไจโรสโคป เขียนเมื่อ : 14 ก.ย. 55 23:51:25

ความคิดเห็นที่ 17 ทั้งสามมหาเทพ(ตรีมูรติ)มีฤทธิ์คนละอย่างกัน มีหน้าที่คนละอย่างกัน ทั้งสามเทพ เกิดจากพระแม่ศักติ เป็นลูกแม่เดียวกัน พระศิวะหรือปรเมศวร มีชายาชื่อปรวตี เป็นภาคหนึ่งของพระแม่ศักติ พระหริวิษณุ หรือพระนารายณ์ มีชายาชื่อเทวีลักษมี พระมหาพรหม มีชายาชื่อ เทวี สุรัสวดี ต่างคนก็มีโลกของตนเอง พระศิวะอยู่เขาไกรลาศ พระหริวิษณุอยู่หริภพ พระพรหมอยู่พรหมโลก ที่ว่านี้เป็นไปตามความเชื่อแบบหนึ่งในหลายๆแบบที่มีอยู่ จากคุณ : เตาฟืน เขียนเมื่อ : 15 ก.ย. 55 20:16:20