ความคิดเห็นที่ 1 อนูโมทนาในความคิดที่ต้องการทำอภัยทาน อันเป็นทานที่สูงและเป็นกุศลสูงมาก เวลาที่จิตคุณเป็นกุศล เช่นหลังใส่บาตร หลังการช่วยเหลือคนหรือสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทน  หลังการทำสมาธิภาวนา หลังการสวดมนต์  ก็ให้แผ่เมตตาให้สัตวืโลกทั้งหลายเป็นสุข เป็นสุข ให้แผ่บ่อยๆ  ทำสม่ำเสมอ การแผ่มเตตาจะทำให้จิตใจจะอ่อนลง  ความพยาบาทของจิตลดลง  แต่ต้องให้เวลากะตนเองนะ ไม่ใช่แผ่ทีเดียวแล้วจะหายพยาบาท  มันไม่พอหรอก จิตพยาบาท เป็นจิตอกุศล เมื่อเสพย์ จิตก็ไม่เป็นสุข ถ้ารู้อย่างนี้แล้ว ก็จะเห็นโทษของการพยาบาทว่า ไม่ดีเลย ตนเองนั้นแหละจะเป็นผู้รับผลร้ายแห่งการพยาบาทนั้น ชาวพุทธหลายๆ ท่านที่ชอบทำอามืสทานเช่นการใส่บาตรประจำ ยริจาคเงินประจำ กุศลนี้ทำให้จิตลดจากการตรีหนี่ถี่เหนี่ยวก็เป็นกุศลอบ่างหนึ่ง   แต่ถ้าจิตยังติดพยายาทอยู่  กุศลจากอามิสทานก็ไม่อาจชนะจิดพยายาทได้เพราะการเสพย์มันรุนแรงกว่ากันแยะ ผลของพบาบาทจึงมากกว่า  ดังนั้น ถ้ารักการทำอามิสทาน ก็อย่าลืมการแผ่เมตตา มิฉะนั้น  ทำอามิสทานจนหมดตัว เวลาตายก็จะไม่เป็นสุขอย่างที่หวังว่าจะได้จากอามิสทาน สัพเพ สัตตา สุขีตา โหตุ ขอให้สัคว์ทั้งหลายเป็นสุข เป็นสุขเถิด ทำทานถูกวิธี จิตเป็นกุศล สุขคติเป็นที่ไปเมื่อสิ้นลม แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 48 14:24:49 จากคุณ : นมสิการ - [ 15 มิ.ย. 48 14:07:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอให้ปล่อยวาง เพราะจิตเราไม่เป็นสุขฝ่ายเดียว โดยที่อีกฝ่าย ไม่มีส่วนรับรู้อะไรทั้งสิ้น ให้อภัยไปดีกว่า เพราะกรรมของใคร คนนั้นย่อมได้รับผลเอง จากคุณ : Second impact - [ 15 มิ.ย. 48 14:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3             แนะนำ กระทู้ที่เคยตอบไว้ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y3490625/Y3490625.html                   พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔             อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต             อาฆาตวินยสูตรที่ ๑ http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=4329&Z=4341            อาฆาตวินยสูตรที่ ๒ http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=4342&Z=4422             หมวดหนังสือธรรมะ โดย อ. ประณีต ก้องสมุทร             เรื่อง อยู่ด้วยความรัก http://84000.org/tipitaka/book/bookpn07.html             เรื่อง ดับร้อน http://84000.org/tipitaka/book/bookpn08.php แนะนำ             อ่าน และค้นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม             พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์             พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/             พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม             สารบัญประเภทธรรม http://84000.org/tipitaka/dic/d_type_index.php?                   หมวดหนังสือธรรมะ http://84000.org/tipitaka/book/             หมวดหนังสือธรรมะ             เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html จากคุณ : ฐานาฐานะ - [ 15 มิ.ย. 48 14:42:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่เฉพาะคุณหรอกนะคะ มันยากกันทุกคนแหละค่ะ ดิชั้นว่าเราจะให้อภัยคนได้ ใจของเราต้องยอมรับจริงๆ ว่า เราเองได้สร้างเหตุที่สมควรจะถูกกระทำเช่นนั้นมาก่อน และสิ่งที่เราได้พบเจอนี้ ก็คือผลของการกระทำชั่วในอดีตของเราเอง ไม่ใช่การกระทำของผู้อื่น แม้มันจะดูเหมือนว่ามีคนมาทำร้ายเราอยู่ทนโท่ก็ตาม ดิชั้นเองนั้น ใช้วิธีดูความเลวของตัวเองที่เคยทำมา แล้วก็เห็นว่า ขนาดตัวเราเอง เราคิดว่าเราไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แถมยังมีความดีตั้งเยอะแยะ แต่เราก็เคยทำความเลว ความไม่ดีไว้ตั้งมากมาย ในสมัยที่เรายังไม่รู้จักดีรู้จักชั่ว ดังนั้น คนที่กำลังทำร้ายเรา ก็อาจจะยังไม่รู้จักดีรู้จักชั่วมากพอก็เป็นได้ ไม่จำเป็นว่า เขาจะต้องเป็นคนชั่วตลอดไป เมื่อเรายอมรับความเลวที่เราเคยทำได้ เราก็มีแนวโน้มที่จะเข้าใจผู้อื่น และให้อภัยได้ง่ายขึ้น เพราะเขากับเราก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่ เป็นคนที่โง่พอๆ กัน คือโง่พอที่จะทำร้ายคนอื่น ซึ่งมีค่าเท่ากับการทำร้ายตนเองในที่สุดนั่นเอง ก่อนโน้นเราทำไม่ดีกับคนอื่น ตอนนี้ก็มีคนมาทำไม่ดีกับเรามั่ง มันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่ว่าดิชั้นจะไม่เคยเจอเรื่องที่ดูเหมือนว่าถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งๆที่ดิชั้นออกจะดีกับคนๆ นั้น เจอมาจนอ่วมเลยด้วยซ้ำ คิดหาเหตุผลยังไงก็หาไม่เจอ ก็รักกันมาดีๆ แท้ๆ ใครๆ ก็บอกว่าคนๆ นี้เป็นคนดี ไหงถึงได้มาร้ายกะเราได้ถึงเพียงนี้ มันก็ต้องยอมรับว่า ใครบางคนคงเป็นเจ้ากรรมนายเวร เขาคงเกิดมาเพื่อเอาคืน เราคิดว่ามันไม่ยุติธรรมเพราะเราไม่เห็นเหตุ เห็นแค่ผลที่เรากำลังได้รับในตอนนี้ จริงๆ แล้ว กรรมมีความยุติธรรมเสมอ เราได้รับผลของสิ่งที่เราเคยทำ เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ และพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น เมื่อถูกทำร้าย และรู้ว่ามันเจ็บปวดอย่างไร เราก็ต้องทำใจของเราให้ถูกต้อง คือทำใจให้มีเมตตาต่อผู้อื่นว่า ขอใครๆ อย่าได้พบเจอกับความทุกข์เช่นนี้เลย ถ้าเราขืนไปโกรธแค้นไม่เลิก อยากให้เขาเจ็บปวดอย่างเราบ้าง ก็มีหวังได้เกิดมาจ๊ะเอ๋กันไม่จบ ทำร้ายกันไป ทำร้ายกันมา ไม่เห็นจุดที่จะยุติวงจรอุบาทว์ เราก็ต้องฉลาดเลือกทำในสิ่งที่จะให้ประโยชน์ต่อตัวเองสูงสุด คือให้อภัย ขออโหสิกรรมกันไปให้เรียบร้อย อย่าให้มีอะไรซุกซ่อนในใจอีก แล้วเราจะได้เดินออกจากฉากตลกคาเฟ่ฉากนี้เสียที เลิกเมามันกับการตีหัวกันไป ตีหัวกันมาแบบโง่ๆ ไร้สาระ แล้วเราก็จะได้มีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข ลดเวรลดภัยให้แก่ตัวเองไปได้อีกเปลาะหนึ่งไงคะ จากคุณ : :-D - [ 15 มิ.ย. 48 15:55:14 A:61.47.97.57 X: TicketID:091701 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทำยังไงถึงจะให้อภัยคนชั่วได้ ? ถ้าเราโกรธเค้าแล้วทำให้เค้าเดือดร้อนมากขึ้นได้หรือเปล่า ? ถ้าเราโกรธเค้าแล้วทำให้เค้าหายจากความสุขที่กำลังมีอยู่ได้หรือเปล่า ? ถ้าเราโกรธเค้า แล้วเรามีความสุข ได้รับประโยชน์จากความคิดแค้นใจนี้หรือเปล่า ? ป่าว.... เราโกรธคนอื่น ความโกรธก็ตกใส่หัวของเราเอง เพราะเค้าก็ไม่รับรู้ ไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนด้วย แต่คนที่จะเป็นลมก่อนคือเราเอง ผู้ที่ใจสูง และบริสุทธิ์ จะเอาหายจากความโกรธได้ง่าย เพราะได้สติ  เพราะมีสติ  และความพร้อมจะเป็นผู้ให้ - อามิสทาน เป็นการสงเคราะห์ผู้อื่นด้วยสิ่งของ - ธรรมทาน เป็นการสงเคราะห์ผู้อื่นด้วยความรู้ - อภัยทาน เป็นการสงเคราะห์ผู้อื่นด้วยความไม่ถือโทษ ไม่แค้นใจ ไม่โกรธ จากคุณ : SpiritDreamInside - [ 15 มิ.ย. 48 16:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ก็คนชั่ว ที่ทำชั่วเพราะในใจโง่เขลา ย่ำแย่มากๆอยู่แล้ว ไหนจะต้องรับผลกรรมชั่วที่เป็นทุกข์อีก แล้วเราจะใจจืดใจดำไปซ้ำเติมอะไรเขาอีก ไม่คิดให้เขาผ่อนคลายเบาบางจากความโง่ความผิด ความทุกข์นั้นหรือ ? การให้อภัย ส่วนภายนอกคิดช่วยผ่อนคลายความทุกข์ให้เขา ..ส่วนภายในคือการละความพยาบาทในใจเรา ซึ่งมีคุณานิสงส์มากมาย .... แล้วทำไมจะไม่ให้อภัย ?? จากคุณ : ชิฯ - [ 15 มิ.ย. 48 18:39:24 A:65.188.149.241 X: TicketID:000833 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อย่างที่ข้างบนบอกก็ดีครับ  สำหรับผมชอบคิดว่า เราเองก็เคยชั่วมาก่อน ไม่ว่าจะชาตินี้ หรือ ชาติก่อนๆ ผมเชื่อว่าผมต้องเคยเป็นอย่างเขา หรืออาจจะเลวกว่าเขาก็ได้ แต่โชคดีชาตินี้เราพอมีปัญญา เลยพอเป็นคนดีได้(บ้าง) จากคุณ : วีรวิชญ์ - [ 15 มิ.ย. 48 20:08:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 "แต่ภายหลังพอนึกถึงเรื่องที่เขาเคยทำกับเราก็เกิดโทสะอีก " รู้ได้ถึงขนาดนี้แล้ว ก็อย่านึกที่เขาเคยทำกับเราซีครับ เพราะโทสะ เกิดจากสิ่งนี้ ตอนที่คุณฟังธรรม ใจคุณเป็นปกติ ก็ไม่โกรธ จริงไหมครับ พยายามให้ประสาทสัมผัสทั้ง 6 ทำงานปกติเป็นปัจจุบันอยู่ใจเป็นปกติ ลมหายใจพอดี นั่นแหล่ะครับ มัฌชิมาปฏิปทา เมื่อลงตัวแล้ว จะเริ่มจับโทสะ หรือ ความคิดที่เนื่องให้เกิดโทสะได้มากขึ้นครับ จากคุณ : มัชฌิม - [ 15 มิ.ย. 48 20:39:51 A:203.170.161.247 X: TicketID:037950 ]

ความคิดเห็นที่ 9 1. ขอลอกประโยคนี้มาฝากไว้ ของใครก็ไม่รู้แต่ผมชอบ " เราไม่อาจจะดับไฟกองหนึ่ง ด้วยไฟอีกกองหนึ่ง “ 2. ขอแปะเสียงคุณ"ป้า"มาให้อ่านนะคับ ชอบคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ที่พูดไว้ว่า " เมื่อมีคนทำร้ายเรา ก็เหมือนเค้าเอามีดแทงเรา ๑ ครั้ง แล้วเราก็เอามีดนั้นมาแทงตัวเองอีกนับครั้งไม่ถ้วน " ถ้าเราวางมีด แล้วเราก็จะไม่เจ็บอีกต่อไป ชัดมั้ยคะ กับวิธีปฏิบัติแบบนี้ ต้องขอบคุณคุณฐิตินาถมากจริงๆ ฟังได้จากที่นี่ค่ะ http://dhamma.atspace.com/life_compass.htm จากคุณ : ป้า - [ 9 มิ.ย. 48 02:45:10 A:137.205.115.83 X: TicketID:005048 ] อ่านเรื่องที่คุณป้าแนะนำ ก็คงจะเข้าใจนะคับว่า "อย่าไปแทงตัวเองเลย เจ็บอยู่คนเดียวไปทำไม ไม่มีประโยชน์เลย" เอาอีกข้อไหมคับ ข้อ 3. เคยฟังเพลง "ก้อนหินก้อนนั้น" ไหมคับ (ไม่รู้ชื่อเพลงถูกหรือเปล่า) ที่เขาพูดถึงว่า หากเรากำหินก้อนนั้นไว้ในมือ มือเราก็เจ็บ ก็แค่แบมือออก แล้วโยนก้อนหินนั้นทิ้งไป เราก็ไม่เจ็บแล้ว ........ (จะกำมันไว้จนตายเลยหรือไง .............. อันนี้เติมเองคับ ) หวังว่าคงจะพอเอาไปใช้ได้สักข้อ ถ้าใช้ไม่ได้เลย ก็ช่วยไม่ได้แล้วคับ ต้องรอคำแนะนำจากท่านต่อไปข้างล่าง ....... จากคุณ : ใบไม้ร่วง - [ 15 มิ.ย. 48 21:58:50 A:203.118.125.123 X: TicketID:094725 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อีกอย่างคือ ให้รู้จักความกรุณา  ความปรารถนาดีให้ผู้อื่นพ้นจากทุกข์   คนชั่วนั้นน่าสงสารเพราะเห็นผิดเป็นชอบ ปรารถนาในความสุขกลับจะเดินทางไปหาในนรก   เมื่อเราเห็นอย่างนี้และมีใจกรุณาอย่างนี้ ย่อมอโหสิกรรมให้อภัยต่อเขาได้ง่ายขึ้น เมื่อทำบ่อยๆเราก็จะชำนาญในการให้อภัยไปเอง จากคุณ : มังกรใจเย็น - [ 16 มิ.ย. 48 07:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านอันนี้ชอบมากขอรับ จะเอาปรับใช้บ้าง ขอบคุณความคิด แต่ยากอ่ะที่ทำสำเร็จ จากคุณ : ปลาอ้วนกวนน้ำ - [ 16 มิ.ย. 48 16:19:59 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ จะพยายามนำไปใช้ให้ได้ครับ จากคุณ : จขกท. - [ 16 มิ.ย. 48 17:33:13 A:203.209.107.28 X: TicketID:014314 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ให้ทำความเข้าใจสภาวะจิตใจของผู้อื่นให้มาก พิจารณาให้ถี่ถ้วนถึงสาเหตุที่แท้จริงก่อน คนเราทำความเลวเพราะเขาจิตใจไม่เข้มแข็ง ไม่อาจต้านทานพลังของกิเลศ ตัณหา อุปาทาน ได้ ควรเข้าใจและให้อภัยเขาครับ ไม่มีใครอยากทำสิ่งไม่ดีหรอกครับ เขาแพ้กิเลศเท่านั้นเอง แต่เราเองต่างหากที่ควรฝึกตนให้แข้มแข็งกว่ากิเลศ ผมเองก็ยังทำได้ไม่ดีนัก ค่อยเป็นค่อยไปครับ พรหมวิหาร 4 นี่แหละดีเลิศ จากคุณ : bank - [ 19 มิ.ย. 48 02:39:06 A:202.183.158.96 X: TicketID:102203 ]