ความคิดเห็นที่ 1 อิสลามไม่มีนักบวชครับ จากคุณ : monsternb - [ วันรัฐธรรมนูญ 12:30:28 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มุสลิมทุกคนคือนักบวชในศาสนาอิสลาม อิสลามไม่ได้ห้ามให้อสุจิเคลื่อน เคลื่อนได้เคลื่อนไป แต่ต้องมีขอบเขต การทำให้อสุจิเคลื่อน เรียกว่ามีฮาดัสใหญ่ ไม่สามารถละหมาด หรือกระทำอะไรหลาย ๆ อย่าง ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาได้ ดังนั้นหากอสุจิเคลื่อน ไม่ว่า ฝันเปียก สำเร็จความใคร่ ร่วมประเวณี (ยุนุบ) ฯลฯ ต้องทำความสะอาดอาบน้ำชำระล้างร่างกายทั้งตัวซะก่อน ก่อนจะปฏิบัติศาสนกิจที่ห้ามไว้ เรียกว่า อาบน้ำวาญิบ หรืออาบน้ำยกฮาดัส จากคุณ : ดาบจันทร์เสี้ยว - [ วันรัฐธรรมนูญ 13:03:38 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขออนุญาติ ขยายความของ คุณดาบฯนะครับ - คืออิสลามอนุญาติการเคลื่อน(อสุจิ) แบบ ฮาลาล (ที่อนุญาติทางศาสนา) เท่านั้น ครับ - ส่วนการเคลื่อนแบบ ที่ไม่อนุมัติทางศาสนา (ฮารอม) เช่น ร่วมประเวณี กับใครก็แล้วแต่ ที่ไม่ใช่ภรรยาตน นี่ก็ บาปร้ายแรงนะครับ แค่อาบน้ำไม่ทำให้ล้างบาปได้ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ ด้วยความนับถือ จากคุณ : muslim - [ วันรัฐธรรมนูญ 14:40:07 A:203.113.77.36 X: TicketID:109440 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ดี จากคุณ : อาจารย์แมว - [ วันรัฐธรรมนูญ 16:19:26 A:203.188.54.7 X: TicketID:077427 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ของคาทอลิคไม่ได้ห้ามอสุจิเคลื่อนนะครับ   แต่ให้รักษาศีลพรหมจรรย์ และดำรงชีวิตให้บริสุทธ์(ไม่สามารถร่วมประเวณีได้ ไม่สามารถช่วยตัวเองได้)   ความจริงการดำรงชีวิตให้บริสุทธนี่คริสตชนทุกคนต้องปฏิบัติตามอยู่แล้วด้วยครับ จากคุณ : princess of wands (น้องปั้ม) - [ วันรัฐธรรมนูญ 21:42:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าของคาทอลิค ห้ามช่วยตัวเอง ถ้ายังไม่บวชเป็นคุณพ่อ เป็นแค่บราเดอร์นี่ก็ห้ามใช่ไหมครับ จากคุณ : คันฉ่อง - [ 11 ธ.ค. 48 03:25:56 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อสุจิเคลื่อนแบบฮาลาลคืออะไรครับ คุณ muslim ปล.ไม่ได้แค่มาจอบ จากคุณ : เข้ามาจอบ - [ 11 ธ.ค. 48 18:21:47 A:203.144.187.18 X: TicketID:111778 ]

ความคิดเห็นที่ 8 อ๋อ....อสุจิเคลื่อนแบบฮาลาล(อนุญาติ) คือ การหลับนอนกับภรรยาตัวเองไงครับ... จากคุณ : muslim - [ 11 ธ.ค. 48 19:39:49 A:203.113.77.36 X: TicketID:109440 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อิสลามไม่มีนักบวช ว่ากันตามกฎหมายไทยที่พวกมุสลิมแจ้งสถานะต่อทางราชการ โต๊ะอิหม่าม อุส๖ซ และตำแหน่งอื่นๆในอิสลามไม่ใช่นักบวช มีสิทธิในการเลือกตั้งตามกฏหมาย ขณะที่พระสงฆ์ บาทหลวงไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้ พวกมุสลิมอย่ามั่วสิครับ เรื่องแค่นี้คุณต้องทราบอยู่แล้ว อยากได้สิทธิเลือกตั้ง ก็ต้องยอมรับว่าศาสนาคุณไม่มีนักบวชเหมือนศาสนาอื่น จากคุณ : สุเมธ - [ 12 ธ.ค. 48 20:55:20 A:202.133.131.143 X: TicketID:113162 ]

ความคิดเห็นที่ 10 งงว่าคุณสุเมธอยากจะบอกอะไร ช่วยขยายความให้ชัดเจนหน่อยได้มั๊ย จากคุณ : Carroth - [ 13 ธ.ค. 48 00:03:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตอบคุณคันฉ่องคหที่ 6 นะครับ ใช่แล้วครับไม่ว่าจะเป็นบราเดอร์หรือว่าคริสต์ชนธรรมดาๆก็มิควร รม 13:11-14   ท่านทั้งหลายจงรู้เถิดว่า เวลาที่จะประพฤติปฏิบัติเช่นนี้มาถึงแล้ว บัดนี้ถึงเวลาที่จะต้องตื่นขึ้นจากความหลับ ขณะนี้ความรอดพ้นอยู่ใกล้เรามากกว่าเมื่อเราเริ่มมีความเชื่อ  กลางคืนล่วงไปมากแล้ว กลางวันก็ใกล้จะมาถึง ดังนั้น เราจงละทิ้งกิจการของความมืดมนเสีย แล้วสวมเกราะของความสว่าง  เราจงดำเนินชีวิตอย่างมีเกียรติเหมือนกับเวลากลางวัน มิใช่กินเลี้ยงเสพสุราเมามาย มิใช่ปล่อยตัวเสพกามอย่างผิดศีลธรรม มิใช่วิวาทริษยา  แต่จงดำเนินชีวิตโดยสวมพระเยซูคริสตเจ้าเป็นอาภรณ์ อย่าทำตามความต้องการของเนื้อหนัง 1ปต 2:11-12   ท่านที่รักยิ่งทั้งหลาย ข้าพเจ้าวอนขอท่านผู้เป็นเสมือนคนต่างด้าวและคนพลัดถิ่น ให้ละเว้นจากกิเลสตัณหาของเนื้อหนังซึ่งทำสงครามสู้รบกับวิญญาณ  จงมีความประพฤติดีงามในหมู่คนต่างศาสนา แม้เขาจะใส่ร้ายท่านว่าประพฤติชั่วร้าย เขาจะต้องยอมรับว่ากิจการที่ท่านทำนั้นเป็นกิจการดี และจะสรรเสริญพระเจ้าในวันที่พระองค์เสด็จม 1คร 3:16-17   ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าร่างกายของท่านเป็นพระวิหารของพระเจ้า และพระจิตของพระเจ้าทรงพำนักอยู่ในท่าน  ถ้าใครทำลายพระวิหารของพระเจ้า พระเจ้าจะทรงทำลายเขา เพราะพระวิหารของพระเจ้านั้นศักดิ์สิทธิ์ และท่านก็คือพระวิหารนั้น ดังนั้นการปล่อยให้ตัวเองอยู่ภายใต้อำนาจของตัณหานั้น คงไม่ดีนะครับ ^^ จากคุณ : princess of wands (น้องปั้ม) - [ 13 ธ.ค. 48 00:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 .       ก็ว่ากันไปแหละครับ  คำว่า "นักบวช"       ก็เหมือนกับพวกก่อการร้ายเขาตีความคำว่า "ศาสนา"  ว่าแบบไหน  เหมือนกับที่วิญญูชนทั้งโลกเขาเข้าใจหรือไม่      คำว่านักบวชก็เช่นกัน  ถ้าเอาตามความหมายของพุทธนั้น  ท่านเน้นที่การรักษาศีลเป็นเบื้องต้น  นักบวชนั้นย่อมรักษาศีลที่เคร่งครัดกว่าฆราวาสเป็นธรรมดา ประเภทที่เอาแต่ฆ่า ๆ นั้นคงไม่ใช่นักบวชแน่นอน  (อย่าลืมครับว่าผมไม่ได้นับรวมพวก "นอกแถว" นะครับ)      ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ "พรหมจรรย์"  ความประพฤติที่บริสุทธิ์  ทั้งกาย วาจา ใจ (และอย่าลืมอีกครั้งผมไม่นับพวก "นอกแถว") ด้วยอีกประการหนึ่ง  และมุสลิมท่านก็บอกเองว่าไม่มีนักบวช ไม่มีนักบวช และไม่มีนักบวช ... จากคุณ : สุธี - [ 13 ธ.ค. 48 10:32:37 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วมีมุสลิมคนไหนบอกว่า อิสลามมีนักบวชล่ะเนี่ย มีแต่บอกว่ามุสลิมทุกคนถือเป็นนักบวชหมด มันก็เป็นคำเปรียบธรรมดาๆว่า หน้าที่สำคัญทางศาสนา เป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกคนไม่มีการแบ่ง ผมว่านี่คือสิ่งที่มุสลิมเน้นเลยนะว่า อิสลามไม่มี นักบวช พระ หรือชนชั้นพิเศษ ทำไมยังมีคนไม่เข้าใจอีก จากคุณ : Carroth - [ 14 ธ.ค. 48 00:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 .    ถ้าจะเอาความหมาย ดังที่เคโหระพูดมา ทุกศาสนาไม่ว่าพุทธ คริสต์ ฮินดู  สิกซ์ เชน โซโรอัสเตอร์ (ถ้ายังเหลือนะ) บาไฮ ฯลฯ ฯลฯ  ทุกผู้ทุกคนที่นับถือศาสนา ๆ นั้นก็คือ "นักบวช"  กันหมดสิ้นแหละครับเคโหระ อันนี้ไม่นับพวกนอกแถวนะ (และแน่นอนอิสลามนอกแถวย่อมมี  และไม่ขอนับนะครับ)     เป็นอันว่าคำว่า "นักบวช" นั้นคือความหมายเดียวกับคำว่า "ศาสนิก" นั้น ๆ นั่นเองในความเข้าใจของเคโหระ และดาบฯ ส่วนคำ ๆ นี้ มุสลิมคนอื่น ๆ จะมีความหมายในความเข้าใจแบบเดียวกับเคโหระและดาบฯ หรือไม่ไม่รู้นะครับ ลองแสดงความเห็นดูนะครับ     *** ซึ่งความจริง ในบรรทัดสุดท้ายของเคโหระ ที่ว่าออกมานั้น เคโหระก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำว่า "มุสลิมทุกคนถือเป็นนักบวชหมด"  อันนี้เลย  ถ้าจะเปรียบก็เหมือนชาวพุทธบอกว่า  ชาวพุทธทุกคนคือผู้สร้าง  ชาวพุทธทุกคนคือพระผู้เป็นเจ้า ชาวพุทธทุกคนก็คือพระบิดา  ชาวพุทธทุกคนก็คือผู้เป็นใหญ่เหนือโลก ฯลฯ  นั่นเองแหละ *** จากคุณ : สุธี - [ 14 ธ.ค. 48 07:10:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จะไม่มีเรื่องก็ให้มันเป้นเรื่องจนได้สินะ โอเคได้เลยครับตามที่เรียกร้อง อ่านดีๆนะครับผมจะสื่ออะไร ผมจะสื่อว่า อิสลามไม่มีนักบวช หรือไม่งั้นอิสลามก็เป็นนักบวชกันหมด เพราะ มุสลิมทุกคนไม่มีใครมีสิทธิพิเศษเหนือใคร ทุกคนมีสถานะเท่าเทียมกันหมดดังนั้น มุสลิมทุกคนจึงทำหน้าที่เหมือนนักบวชในศาสนาอื่นได้ คือเทศนาได้ เรียนเรื่องศาสนาในระดับลึกซึ้งได้ทุกคน สืบทอดศาสนาได้ทุกคน ไม่ต้องพูดถึงการถือพรหมจรรย์ เพราะนักบวชไม่จำเป็นต้องถือพรหมจรรย์ครับ นักบวชในญี่ปุ่นบางพวกก็มีเมียได้ ดังนั้นตัดประเด็นพรหมจรรย์ทิ้งไปได้เลย มันอยู่ที่การักษาศีลของศาสนา และมุสลิมก็มีข้อปฏิบัติเท่าเทียมกันอยู่แล้ว พูดง่ายคือการเปรียบเทียบครับ ไม่ใช่ว่าจะต้องให้คนอื่นมาเคารพกราบไหว้ แต่ศาสนาบางศาสนาจะบอกอย่างนั้นไม่ได้ครับ เพราะศาสนาเหล่านั้น(ยกเว้นโปรแตสแตนท์หรือศาสนาอื่นที่ไม่ได้มีสถานะนักบวชของตัวเอง) มีสถานะนักบวชของตัวเองอยู่แล้ว  มีการแบ่งชัดเจนว่านี่พระนะต้องบวชก่อนแล้วก็มีหลักปฏิบัติต่างกันไป นี่ฆราวาสนะแล้วก้มีข้อบฏิบัติต่างจากนักบวชอีก ดังนั้นจะมาเปรียบเทียบว่าพุทธ คริสต์ ฮินดู โซโรแอสเตอร์ จะมีสถานะเป็นนักบวชทุกคนเหมือนอิสลามไม่ได้แน่นอนมัน ผิดหลัก ตรรกะชัดเจน แล้วบรรทัดสุดท้ายนี่แสดงธาตุแท้ออกมาอีกแล้วนะครับ ขอยกเอาคำพูดของคุณมาเพื่อกันการลบทิ้ง "  *** ซึ่งความจริง ในบรรทัดสุดท้ายของเคโหระ ที่ว่าออกมานั้น เคโหระก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำว่า "มุสลิมทุกคนถือเป็นนักบวชหมด"  อันนี้เลย  ถ้าจะเปรียบก็เหมือนชาวพุทธบอกว่า  ชาวพุทธทุกคนคือผู้สร้าง  ชาวพุทธทุกคนคือพระผู้เป็นเจ้า ชาวพุทธทุกคนก็คือพระบิดา  ชาวพุทธทุกคนก็คือผู้เป็นใหญ่เหนือโลก ฯลฯ  นั่นเองแหละ *** จากคุณ : สุธี   - [ 14 ธ.ค. 48 07:10:30 ] " คุณเอาสิ่งสูงสุดของศาสนาอื่นมาพูดแบบไม่ระมัดระวังอีกแล้ว ผมขอถามตรงๆไม่อ้อมค้อมไม่สร้างภาพกันเลยนะครับว่า นี่คือสัญชาติญาณของคุณที่แก้ไม่หายหรือครับ การที่อาศัยช่องนิดหน่อยเพื่อ เหยียดศาสนาอื่นหรือ ก่อปัญหาก่อความแตกแยกอยู่เนืองๆ มันมีความจำเป็นอะไรที่ต้องเอามาเทียบกับผู้สร้าง ผมไม่เคยบอกนะครับว่า มุสลิมทุกคนเป็นพระพุทธเจ้า มุสลิมทุกคนคือนิพพาน ไม่ทราบว่าคำว่านักบวชมันไปสะกิดใจอะไรคุณหรือเปล่า ถึงต้องเอาพระเจ้ามาเล่นแบบนี้   ขอทราบเจตนานะครับเอาแบบเน้นเนื้อหาไม่ต้องเอาน้ำท่วมทุ่ง เพราะมีหลายรอบแล้ว ตั้งแต่เรียกศาสดาผมว่าหัวหน้าแก๊งมั่ง มุฮัมมัดแอนด์เดอะแก๊งบ้าง อาเลาะห์บ้าง(ทั้งๆที่ทุกคนในที่นี้ที่ไม่ใช่มุสลิมไม่เคยมีใครเรียกแบบนี้ ไม่เคยมีโรงเรียนสอนคำนี้ ไม่เคยมีหนังสือเล่มไหนเขียนคำนี้) เรียกโป๊บว่าหัวหน้าลัทธิบ้าง มันส่อเจตนาว่าคุณไม่คิดจะให้เกียรติคนต่างศาสนาเลย ผมว่าจะผมไม่อยากมีเรื่องแล้วนะแต่พฤติกรรมคุณไม่เคยเปลี่ยนจริงๆ ถ้าคุณยังเป็นลูกผู้ชายผมขอคำตอบนะครับว่ามีเหตุผลอะไร เอาพระเจ้าไปเทียบกับชาวพุทธแบบนั้น มันจำเป็นนักหรือ คิดก่อนหรือเปล่าว่ามันสมควรหรือไม่สมควร มีคำเปรียบเทียบอื่นหรือไม่ เช่นพุทธทุกคนเป็นอิหม่ามก็ได้ พุทธทุกคนเป็นอะไรๆก็ว่าไป ทำไมต้องผู้สร้าง พระบิดา ขอเน้นนะครับว่าอย่าหนีปัญหาด้วยการลบความเห็นทิ้งหรือลบกระทู้ทิ้ง หรือแก้ไขกลบเกลื่อนไปก่อน มาเคลียร์กันเลยให้ทุกคนได้มาอ่านด้วย โอเคมั๊ยครับ จากคุณ : Carroth - [ 14 ธ.ค. 48 07:51:34 ]

ความคิดเห็นที่ 20 .         หึหึ เคโหระ คุณต่างหากคอยจับผิดผมและคอยหาเรื่องบนคราบของสุภาพบุรุษ           ทางฝ่ายคุณเองไม่ใช่เหรอครับ  ที่เอาคำว่า "นักบวช" ซึ่งในศาสนาพุทธและศาสนาอื่นเขาเคารพมาใช้เปรียบเปรยคนธรรมดาของมุสลิมทั้งหมดว่าเป็น "นักบวช"  ซึ่งคำ ๆ นี้เป็นคำที่ชาวพุทธ (หรือศาสนาอื่นหรือไม่นั้นไม่แน่ใจ) เราเคารพนับถือ         ซึ่งในความประพฤติของ "นักบวช" (หรือพระสงฆ์) นั้นท่านบำเพ็ญได้บริสุทธิ์กว่าฆราวาสหลายเท่านัก  ชาวพุทธเราจึงอยู่ในฐานะที่เคารพกราบไหว้         ทางคุณเองมิใช่หรือที่ลากเอาคำสูงมาใช้เปรียบเทียบ  และผมก็ได้เปรียบเทียบกลับในความเข้าใจของทางคุณอีกเช่นกันว่า  ถ้าจะเอาตามความหมายของเคโหระนั้น ก็เป็นแบบนี้ ๆ  แบบนั้น ๆ         เป็นการแปลความจากความเข้าใจ ในข้อความที่ทางฝ่ายคุณได้แสดงออกมาเอง  ซึ่งถ้าจะเอาแค่ความหมายของมุสลิมตามที่เคโหระพูดมานั้น  มันก็คือ "อุบาสกและอุบาสิกา"  นั่นเอง  ไม่ใช่ถึงกับนักบวช         หวังว่าเคโหระและผู้มีความคิด มีใจเป็นธรรม เป็นกลาง จะเข้าใจในเรื่องราวอันนี้ด้วย           **** มิใช่ว่าคิดจะพูดอะไรก็ไปคว้าอะไรมาพูดมั่ว ๆ ได้ **** จากคุณ : สุธี - [ 21 ธ.ค. 48 11:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คำว่านักบววชเป็นคำกลางๆครับ ผมและคุณดาบฯก็ไม่ใช้คำว่าพระด้วยเพราะไม่ได้คิดจะให้ใครมากราบไหว้ คริสต์เองก็มีนักบวช ซึ่งพวกเขาก็ไม่กราบไหว้บรรดานักบวชของเขา ศาสนาอื่นๆก็มีนักบวช ก็มีแต่พุทธนี่แหละมั๊งที่กราบไหว้นักบวชของตัวเองแถมไม่มีชาวคริสต์คนไหนมาท้วงติงเรื่องนี้ด้วย นี่ต่างหากที่แสดงให้เห็นถึงความอคติและจ้องจะหาเรื่องอยู่เสมอของคุณ นอกจากนี้แล้วคุณเองยังพยายามไม่ให้ชาวคริสต์ใช้คำว่าพระเพื่อแยกกันระหว่างพระที่คุณคิดว่าสูงส่ง ออกจากนักบวชชาวคริสต์ นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าคำว่านักบวชไม่ได้มีนัยยะใดๆที่สำคัญเท่ากับคำว่าพระในจิตใจของคุณเลย ดังนั้นคุณจึงไม่มีเหตุผลอันสมควรใดๆทั้งสิ้นที่จะมาเอาพระเจ้าลงมาย่ำยีเล่นเหมือนในกระทู้นี้ เรื่องการเปรียบเทียบผมก็อธิบายไปแล้วว่า ศาสนาที่ใช้คำเทียบเคียงแบบนี้ได้ก็มีแต่อิสลาม กับคริสต์โปรแตสแตนท์ เพราะไม่มี การแบ่ง เป็นนักบวชและคนทั่วไป  ทุกคนจึงทำหน้าที่ของคนปรกติได้และทำหน้าที่ของนักบวชได้เช่นกัน เป็นคำเปรียบเทียบปรกติสามัญ ที่คนทั่วไปรับรู้เข้าใจ และไม่มีปัญหา เพิ่งจะมีก็คุณนี่แหละ ทั้งๆที่ผมและมุสลิมคนอื่นๆไม่ได้ใช้คำว่าพระสักคำเดียว และไม่ใช่แค่มีปัญหาเท่านั้นคุณยังก่อปัญหาอีกด้วย ด้วยการเอาสิ่งที่สำคัญสูงสุดของศาสนาอื่นมาเปรียบเทียบโดยขาดความระมัดระวัง ขาดการให้เกียรติ ซึ่งถ้านี่ เป็นไปด้วยเจตนาดี ก็แสดงว่าคุณขาดการอบรมด้านมารยาทอย่างรุนแรงถึงเอาสิ่งสูงสุดของศาสนาคนอื่นมาใช้โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยแบบนี้ คิดดูสิถ้าผมเอาพระพุทธเจ้า เอานิพพาน มาเปรียบบ้างว่า มุสลิมทุกคนเปรียบเหมือนพระพุทธเจ้า หรือมุสลิมทุกคนเปรียบเหมือนอยู่ในสภาวะนิพพาน จะเป็นอย่างไร ผมคงโดนอัดไม่เหลือดี และ คงมีคนลากเอาทั้งพระเจ้าทั้งศาสดา ผมมาด่าเหมือนที่เคยทำในกระทู้ก่อนๆแล้วล่ะมั๊ง เอางี้ถ้าอยากรู้ว่าการกระทำของคุณมันเหมาะสมกับบรรทัดฐานที่ปัญญาชนเค้ายอมรับกันหรือไม่ ลองตั้งกระทู้ link มายังกระทู้นี้ดีมั๊ยครับ ให้ช่วยกันพิจารณา ว่าการกระทำของคุณมันเป็นอย่างไร ผมจะได้ถามชาวคริสต์ที่มีนักบวชด้วยว่าคิดเห็นอย่างไร กับคำเปรียบเทียบนี้ และสมควรแก่เหตุหรือไม่ ที่ต้องเล่นกันถึงขั้นเอาสิ่งเคารพสูงสุดของศาสนาอื่นลงมาเกี่ยวข้องอย่างไม่สมควรเหมือนที่คุณได้กระทำ ผมจะรอคำตอบคุณนะครับ ถ้าไม่ตอบผมจะทำ link ซะก่อน ก่อนที่กระทู้จะตกไป เคลียร์ให้มันจบซะเลยดีกว่า จากคุณ : Carroth - [ 21 ธ.ค. 48 21:02:02 ]

ความคิดเห็นที่ 22 .        คุณเข้าใจผิดในเรื่องคำว่า "พระ"  เขาใช้คำว่า "พระสงฆ์" ครับคุณเคโหระ        ผมเองก็ไม่ได้กล่าวหาคุณ "ก่อน" ในเรื่องคำว่านักบวชเลย  เพียงแต่ผมตั้งข้อสังเกตเท่านั้นในคราวแรกว่า คำว่า "นักบวช" ในความเข้าใจของคุณและพวกพ้องนั้นหมายความอย่างไร  ซึ่งแตกต่างจากทางของผมและของศาสนาอื่น ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วสิ่งแรก ๆ ที่นักบวชพึงกระทำได้คือ การรักษาพรหมจรรย์ (อันนี้แล้วแต่ละศาสนาจะแตกต่างกันออกไป)        ส่วนเรื่องศาสนาคริสต์จะกราบไหว้หรือไม่นั้น อันนี้อยู่ที่ประเพณีวัฒนธรรมของแต่ละชาติมากกว่า  จะให้ฝรั่งมาพนมมือ  หรือก้มเบญจางคประดิษฐ์หรือไงครับ  ผมก็เคยเห็นชาวคริสต์ก็ยกมือพนมไหว้บาทหลวงคนไทยหรือฝรั่งมากไปนี่ครับ  อันนี้คุณคงสับสนอีกครั้งเกี่ยวกับการ "แสดงความเคารพ"        ซึ่งคุณนั่นเองเป็นคน  ขยายผลเป็นเดือดเป็นแค้น เป็นร้อนไปเองแท้ ๆ กับคำว่านักบวช  ซึ่งถ้าจะว่าไปทางฝ่ายมุสลิมเองนั่นแหละที่ประกาศอย่างอหังการว่า  "ไม่มีนักบวช"  แต่แล้วทางคุณอีกนั่นเองที่บอกว่ามุสลิมทุกคนก็คือนักบวช  ไม่ทราบว่าพูดกลับไปกลับมาแบบนี้สติสัมปชัญญะยังคงอยู่กับตัวอยู่หรือไงครับ        สำหรับเรื่องการลากเอาสิ่งเคารพลงมาดังคุณว่านั้นผมได้ชี้แจงไปใน คห.20  แล้ว  และดูเหมือนคุณจะไม่ยอมใช้สติใด ๆ ทั้งสิ้นในการคิดพิจารณา  คุณต้องการแต่ให้ผมแพ้ ยอมรับผิดให้จงได้  โดยไม่ได้พิจารณาเนื้อหาสาระที่ผมได้เรียนชี้แจงไปเลย  คำตอบมันมีอยู่ในตัวแล้ว  ผมจะไม่พิมพ์ชี้แจงตรงนี้อีก แต่ผมจะของลอกข้อความใน คห.20 ลงมาให้คุณได้เพ่งสายตา  และใช้ขะหมองพิจารณาอีกครั้งดังนี้        "... ทางฝ่ายคุณเองไม่ใช่เหรอครับ  ที่เอาคำว่า "นักบวช" ซึ่งในศาสนาพุทธและศาสนาอื่นเขาเคารพมาใช้เปรียบเปรยคนธรรมดาของมุสลิมทั้งหมดว่าเป็น "นักบวช"  ซึ่งคำ ๆ นี้เป็นคำที่ชาวพุทธ (หรือศาสนาอื่นหรือไม่นั้นไม่แน่ใจ) เราเคารพนับถือ        ซึ่งในความประพฤติของ "นักบวช" (หรือพระสงฆ์) นั้นท่านบำเพ็ญได้บริสุทธิ์กว่าฆราวาสหลายเท่านัก  ชาวพุทธเราจึงอยู่ในฐานะที่เคารพกราบไหว้        ทางคุณเองมิใช่หรือที่ลากเอาคำสูงมาใช้เปรียบเทียบ  และผมก็ได้เปรียบเทียบกลับในความเข้าใจของทางคุณอีกเช่นกันว่า  ถ้าจะเอาตามความหมายของเคโหระนั้น ก็เป็นแบบนี้ ๆ  แบบนั้น ๆ        เป็นการแปลความจากความเข้าใจ ในข้อความที่ทางฝ่ายคุณได้แสดงออกมาเอง  ซึ่งถ้าจะเอาแค่ความหมายของมุสลิมตามที่เคโหระพูดมานั้น  มันก็คือ "อุบาสกและอุบาสิกา"  นั่นเอง  ไม่ใช่ถึงกับนักบวช        หวังว่าเคโหระและผู้มีความคิด มีใจเป็นธรรม เป็นกลาง จะเข้าใจในเรื่องราวอันนี้ด้วย"   ..... แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 06:25:59 จากคุณ : สุธี - [ 22 ธ.ค. 48 06:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ลองพิจารณากันให้ดีนะครับว่าผมพยายามยกมุสลิมให้เป็นนักบวชเพื่อข่มศาสนาอื่นหรือ ว่าเปรียบเทียบว่าอิสลามไม่มีนักบวชดังนั้นมุสลิมทุกคนก็ต้องทำหน้าที่ทั้งผู้คนปรกติและนักบวชไปด้วย มีแต่คุณนั่นล่ะครับที่มองไปว่ามุสลิมพยายามเอาตัวไปเทียบกับสิ่งที่ผู้อื่นเคารพยกย่อง ซึ่งโอเคถ้ามีคนอึดอัดเรื่องนีหรือแม้แต่มีคุณคนเดียวที่อึดอัดก็แย้งมาได้ครับ ด้วยเหตุและผล ไม่ใช่การเอาพระเจ้าของศาสนาอื่นมาเปรียบเทียบโดยขาดความระมัดระวังแบบนี้ มาดูกันที่ละข้อความเลยดีกว่า ผมเองก็ไม่ได้กล่าวหาคุณ "ก่อน" ในเรื่องคำว่านักบวชเลย  เพียงแต่ผมตั้งข้อสังเกตเท่านั้นในคราวแรกว่า คำว่า "นักบวช" ในความเข้าใจของคุณและพวกพ้องนั้นหมายความอย่างไร  ซึ่งแตกต่างจากทางของผมและของศาสนาอื่น ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วสิ่งแรก ๆ ที่นักบวชพึงกระทำได้คือ การรักษาพรหมจรรย์ (อันนี้แล้วแต่ละศาสนาจะแตกต่างกันออกไป) - ปัญหาที่ต้องมีเรื่องกันยืดยาว นั่นเพราะคุณใช้คำไม่เหมาะสมและจงใจจะหาเรื่องครับ การตั้งข้อสังเกตุของคุณนั้นผมไม่มีปัญหาอะไรและตอบไปแล้วด้วยว่าทำไมคุณดาบฯถึงเปรียบเทียบว่ามุสลิมทุกคนคือนักบวช และเรื่องพรหมจรรย์ก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะนักบวชบางที่ก็มีเมียได้ อันนี้มันอยู่ที่ความเข้าใจของแต่ละคน คุณอ้างความเข้าใจของผมต่างจากศาสนาอื่นนั้น ก็ไม่เห็นว่าใครจะข้องใจอะไร ก็มีแต่คุณเท่านั้นเองที่พยายามทำให้มันเป็นปัญหา และการเปรียบเทียบว่าเป็นนักบวชมันก็เหมาะสมแล้ว เพราะองค์ประกอบของศาสนาอื่นคือมีทั้ง คนทั่วไปและนักบวชแต่ศาสนาผมไม่มีฐานันดรนี้ ทุกคนจึงต้องทำหน้าที่ของทั้งสองฐานันดรไปพร้อมกัน ศาสนาอื่นนักบวชมีหน้าที่ นำสวด สืบทอดศาสนา ศึกษาวิชาการศาสนาเพื่อเผยแผ่สั่งสอน ศาสนาอิสลามคนปรกติก็ต้องทำหน้าที่เหล่านี้เช่นกัน ทุกคนจึงต้องทำหน้าที่ของนักบวชโดยปริยายเพียงแต่ไม่ได้บวชเท่านั้นเอง คำว่ามุสลิมทุกคนคือนักบวชก็คือคำเปรียบเทียบที่ ปรกติและไม่ได้เป็นการดูถูกใครและเป็นเหตุพอที่จะให้คุณมีสิทธิเอาพระเจ้าลงมาเปรียบเทียบอย่างไม่เหมาะสม ส่วนเรื่องศาสนาคริสต์จะกราบไหว้หรือไม่นั้น อันนี้อยู่ที่ประเพณีวัฒนธรรมของแต่ละชาติมากกว่า  จะให้ฝรั่งมาพนมมือ  หรือก้มเบญจางคประดิษฐ์หรือไงครับ  ผมก็เคยเห็นชาวคริสต์ก็ยกมือพนมไหว้บาทหลวงคนไทยหรือฝรั่งมากไปนี่ครับ  อันนี้คุณคงสับสนอีกครั้งเกี่ยวกับการ "แสดงความเคารพ" - ไม่ทราบว่าใครกันแน่ครับที่สับสน คุณสับสนหรือเปล่าระหว่างการทำความเคารพดุจดั่งพระเจ้า กับการให้ความเคารพในฐานะเด็กกับผู้ใหญ่ ขอตัวอย่างภาพหรืออะไรก็ได้ครับที่ยืนยันว่าชาวคริสต์เคารพยกย่องนักบวชของเขาดุจดั่งพระผู้เป็นเจ้าจนเป็นเหตุให้คุณเอาพระเจ้ามาเปรียบโดยขาดความระมัดระวัง   เพราะถ้าแค่ไหว้อย่างที่คุณพูดนะครับ ผมก็ไหว้ครับ พระสงฆ์ด้วยของพุทธนี่แหละเพราะพระอายุมากกว่าผมและรู้จักกับพ่อผม ไม่ใช่การเทิดทูนเหมือนที่ชาวพุทธทำ ถึงขนาดก้มลงกราบเท้า ขาดพ่อแม่ยังต้องกราบลูกตัวเองเลย ไม่ทราบว่าชาวคริสต์พ่อแม่ต้องกราบลูกตัวเองที่เป็นนักบวชหรือเปล่า นี่ล่ะครับมันเห็นกันชัดๆเลยว่าคนละเรื่อง ผมก็เลี่ยงคำว่าพระเพื่อไม่ให้เปรียบเทียบกับสิ่งที่คุณเคารพคุณยังไม่พอใจสรุปว่าจะเอาอะไรกันแน่ ซึ่งคุณนั่นเองเป็นคน  ขยายผลเป็นเดือดเป็นแค้น เป็นร้อนไปเองแท้ ๆ กับคำว่านักบวช  ซึ่งถ้าจะว่าไปทางฝ่ายมุสลิมเองนั่นแหละที่ประกาศอย่างอหังการว่า  "ไม่มีนักบวช"  แต่แล้วทางคุณอีกนั่นเองที่บอกว่ามุสลิมทุกคนก็คือนักบวช  ไม่ทราบว่าพูดกลับไปกลับมาแบบนี้สติสัมปชัญญะยังคงอยู่กับตัวอยู่หรือไงครับ - อ่านดีๆครับผมต้องต่อความยาวให้มันปวดหัวเช่นนี้เพราะอะไร เพราะคำว่านักบวชรึ เปล่าเลย ตั้งแต่ความเห็นที่ 18 แล้วที่ ผมเน้นเรื่องคุณดึงพระเจ้าลงมาเปรียบเทียบเป็นชาวพุทธอย่างไม่สมควร ทั้งๆที่มันไม่เหตุผลอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวที่ต้องทำอย่างนั้น ถ้าผมเปรียบว่า มุสลิมทุกคนเป็นพระพุทธเจ้าสิถึงสมควร แต่นี่ผมใช้คำว่านักบวช คำว่าพระก็ยังไม่ใช้เลย คุณเองนั่นแหละครับ มีปัญหาอะไร คิดอะไรอยู่ มีเจตนาอะไรถึงทำแบบนี้ ส่วนเรื่องไม่มีนักบวชกับทุกคนเป็นนักบวชผมก็อธิบายไปไม่รู้กี่รอบแล้วว่าเป็นการเปรียบเทียบเข้าใจมั๊ยว่าเปรียบเทียบน่ะ ไม่ใช่เป็นแบบเรียนให้นักเรียนเรียนกันว่าในอิสลามทุกคนเป็นนักบวชนะ ไม่ได้ออกเป็นกฏกระทรวงให้ทุกคนเข้าใจว่ามุสลิมทุกคนคือนักบวช ผมล่ะงงจริงๆว่ามันเป็นปัญหาอะไรนักหนา เอางี้ โหวตกันไปเลยดีไหมครับว่า อยากให้มุสลิมใช้คำเปรียบเทียบแบบนี้มั๊ย ถ้าไม่ ผมจะยอมรับเลยครับ เพราะมันสะกิดใจคน ผมจะได้หยุดซะที ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว สำหรับเรื่องการลากเอาสิ่งเคารพลงมาดังคุณว่านั้นผมได้ชี้แจงไปใน คห.20  แล้ว  และดูเหมือนคุณจะไม่ยอมใช้สติใด ๆ ทั้งสิ้นในการคิดพิจารณา  คุณต้องการแต่ให้ผมแพ้ ยอมรับผิดให้จงได้  โดยไม่ได้พิจารณาเนื้อหาสาระที่ผมได้เรียนชี้แจงไปเลย  คำตอบมันมีอยู่ในตัวแล้ว  ผมจะไม่พิมพ์ชี้แจงตรงนี้อีก แต่ผมจะของลอกข้อความใน คห.20 ลงมาให้คุณได้เพ่งสายตา  และใช้ขะหมองพิจารณาอีกครั้งดังนี้ - นี่แหละครับประเด็นว่ามันเหมาะสมไหมที่เอาพระเจ้าลงมาเล่นแบบนี้ ผมใช้คำว่านักบวช ไม่ใช้คำว่าพระซึ่งคุณเองพยายามเหลือเกินที่จะสงวนคำว่าพระไว้กับเฉพาะชาวพุทธ ผมกับคุณดาบฯก็เลี่ยงแล้วกับคำนี้ และก็ไม่ปรากฏว่า ชาวคริสต์คาทอลิกจะเคารพกราบไหว้ สักการะ นักบวชตัวเองประดุจพระเจ้า จนเป็นเหตุให้คุณต้องเอาคำว่าพระเจ้าลงมาเปรียบเทียบได้ มันคนละความรู้สึก คนละประเด็น น้ำหนักต่างกันอย่างเทียบไม่ได้ ผมจึงสงสัยว่าคุณมีเจตนาอะไรถึงต้องทำสิ่งเลวร้ายแบบนี้ มันสมควรกับมารยาทมั๊ย คุณอ้างว่าคำว่านักบวชเป็นคำสูงแล้วมันสูงเท่ากับพระเจ้ามั๊ย สมควรมั๊ย มีใครนอกจากคุณหรือเปล่าที่คิดแบบนี้  คำอื่นเพื่อยกตัวอย่างมีมากมาย ต้องใช้ด้วยหรือคำว่าพระเจ้าด้วยหรือ แล้วเปรียบเทียบเพื่ออะไร มีประโยชน์กับการสนทนาตรงไหน ทำไมไม่เปรียบเทียบกับอิหม่าม แต่กลับเอาพระเจ้ามาระบายอารมณ์ คุณไม่ต้องอ้างหรอกครับว่าผมพยายามจะเอาชนะ  เพราะคำพูดของคุณก็ไม่ไปไหน ไม่มีเหตุผลอะไรเพียงพอที่จะเอาพระเจ้ามาเทียบ ที่จริงมันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะมีย่อหน้าเจ้าปัญหานั้นด้วยซ้ำ เพราะมันไม่มีประโยชน์กับบริบท มันเป็นข้อความไร้ประโยชน์ที่มีไว้เพื่อก่อความแตกแยกเท่านั้นเอง   ผมตั้งคำถามตรงนี้ครับว่าคุณมีเจตนาอะไรถึงใส่เจ้าย่อหน้านั้นเข้าไป การกระทำของคุณไม่เคยเปลี่ยนเลยตั้งแต่ คุยเรื่องอิสลามกับความรุนแรงแล้วคุณพยายามเหลือเกินที่ จะให้ท่านศาสดาผมเป็นหัวหน้าแก๊งค์บ้าง หัวหน้าโจรบ้าง ชั่วอย่างนั้น เลวอย่างนี้ สุดจะหามาประณาม โป๊ปก็เหมือนกันนักบวชที่ศาสนาอื่นให้ความาเคารพนั่นล่ะคุณก็เรียกว่าหัวหน้าลัทธิ พระเจ้าของผม ไม่เคยมีใครเขาสั่งเขาสอนว่า ชื่อ อะเลาะห์ คุณก็พยายามเรียกให้มันตลกเพื่อเหยียดซะแบบนั้น พระยะโฮวา ของคริสต์ คุณเรียกตรงๆเฉยเลยว่า ยะโฮวา ประดุจเพื่อนเล่น  เหล่านี้มันเป็นตัวสะสม บ่มเพาะความเป็นตัวตนของคุณในกระดานสนทนาห้องศาสนา ล่าสุดคุณก็เอาพระเจ้าลงมาเปรียบเทียบโดยไม่ระมัดระวังในข้อความเจ้าปัญหานั่นอีกแล้ว ผมจึงตั้งข้อสงสัยไงครับว่าคุณมีเจตนาอะไรกันแน่ คุณมีปัญหาอะไร กับศาสนาอื่นนักหนา คุณถึงไม่เคยให้เกียรติศาสนาอื่นเลย พร้อมทั้งถกกันถึงความเหมาะสม ความชอบธรรม ในข้อความของคุณ มาวิเคราะห์กันชัดๆ  มันไม่ใช่การหาเรื่องแน่นอนครับ บอกตรงๆว่าถ้าไม่จำเป็นผมก็ไม่อยากจะ วิสาสะด้วยเพราะ มันเหนื่อยและเสียอารมณ์ทุกที แต่คุณไม่เคยที่จะเลิกราเหตุการณ์มันถึงเป็นอย่างนี้อย่าโทษคนอื่นเลยครับ จากคุณ : Carroth - [ 22 ธ.ค. 48 07:52:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 .         การที่คุณเห็นว่าผมใช้คำเปรียบเทียบแบบนั้น ผมหมายถึงถ้าคุณเห็นคำว่า "นักบวช" มีค่าเทียมเท่าแค่ "ศาสนิกชน" ที่ดีเท่านั้น                   หะแรกผมแค่ตีความตามคำเปรียบเทียบของทางฝ่ายคุณเองที่ว่าไม่ค่อยถูกต้องนัก  และก็คิดว่าคำว่า "นักบวช" ในความเข้าใจของคุณ (ที่คุยว่าสามารถปฏิบัติเท่าเทียมกัน ซึ่งจะจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ) ตามที่คุณจารนัยมานั้น  ลองเปรียบเทียบกันดู  นั้นก็คือ "ศาสนิกชน"  ที่ดีของแต่ละศาสนานั่นเอง  หาได้มีค่าสูงส่งเท่านักบวชไม่                 เนื่องจากทางอิสลามไม่มีนักบวช  แต่ความประพฤตินั้นเป็นความประพฤติธรรมดีของศาสนิกชนที่ดีงามพึงกระทำในแต่ละศาสนา  ซึ่งไม่เห็นจะวิเสโสตรงไหนเลยในแง่ของสถานะ  (ซึ่งคุณอาจจะอ้างว่าทุกผู้ทุกนามของมุสลิมสามารถเข้าถึงสิ่งสูงสุดได้  ผมก็อ้างได้เช่นกันว่า  ชาวพุทธที่ดี และปฏิบัติดี สามารถเข้าถึงสิ่งสูงสุดได้โดยไม่ต้องบวชได้เช่นกัน แต่ในทางเทคนิคแล้วเมื่อถึงระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นระดับสูงแล้ว จะบวชกัน)                 อันนี้ผมได้บอกไปแล้วว่า  คำว่า "นักบวช" ในความเข้าใจของมุสลิม (ซึ่งจากสิ่งที่เป็นจริงแล้วก็มีสถานะเพียงแค่ "ศาสนิกชน" เท่านั้น เพราะศาสนิกชนศาสนาอื่นก็มีความประพฤติที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันและสามารถเข้าถึงสิ่งสูงสุดได้เช่นเดียวกัน)  ในความเข้าใจตามที่ได้อ้างกันไปในกระทู้นี้ว่า  เขาเข้าใจว่าคือคนธรรมดาที่ทำดีตามหลักศาสนาเท่านั้น                 ในเรื่องที่คุณยกเอาการเคารพยยกย่องบาทหลวงของคริสต์นั้นมาเทียบ  ผมก็ได้ให้คำตอบไปแล้วว่าผมเทียบเอาได้ตามที่คุณเทียบคำว่า "นักบวช" มาเท่าเทียม "ศาสนิกชน" ธรรมดา ๆ   ผมว่าคุณเทียบนักบวชเท่าคนธรรมดาได้  ตามทฤษฎีของฝ่ายคุณ ผมก็เอาทฤษฏีของฝ่ายคุณนี่แหละ มาเทียบโดยเอาสิ่งที่สูงกว่า "คนธรรมดา" หรือ "ศาสนิกชนธรรมดา" ไปเปรียบเทียบสิ่งที่สูงกว่าได้  ฉันใดก็ฉันนั้น                 ส่วนคำของคุณที่ว่าเหมาะสมหรือไม่ในคำเปรียบเทียบของผม  ผมก็อยากจะย้อนถามคุณเช่นเดียวกัน  ที่ว่าเหมาะสมไหมที่ไปลากเอาความประพฤติของศาสนิกชนธรรมดา ๆ (ที่ประพฤติดีงาม  ตามหลักศาสนานั้นๆ) มาเปรียบเทียบกับนักบวชซึ่งมีศีล มีพรหมจรรย์ มีความประพฤติที่ดีงามกว่า บริสุทธิ์กว่า  มาเทียบเท่า "ฆราวาส" หรือ "อุบาสิกา" (ผมเทียบเอาหมายถึง "ศาสนิกชน" ที่ดีงาม)  ทำไมครับ คุณทำได้  คนอื่นทำไม่ได้หรือไงครับ  และผมก็ทำบ้างโดยยึดเอาทฤษฏีของคุณเป็นแม่แบบนั่นเอง                 ในความเข้าใจของคุณนั้น  คำว่านักบวชของคุณเปรียบเทียบเสมอ  นักบวช  ทุกประการ  ก็เท่ากับบอกว่า  มุสลิมทุกคนมีศักดิ์มีศรีเท่านักบวช (อันนี้ผมหมายถึงของพุทธ แต่ของศาสนาก็ไม่ทราบเหมือนกัน)  หมายความว่าพระอริยะบุคคลเอย  พระอัครสาวกเอย เหล่านี้มีค่าเท่ากับมุสลิมธรรมดาใช่หรือไม่ (อย่าลืมว่าพวกนอกแถวผมไม่นับรวมด้วย)  ใครกันแน่ครับที่เปรียบเทียบอย่างไม่ระมัดระวัง  โดยความจริงแล้ว  มุสลิมก็รู้ตัวอยู่ว่าไม่มีนักบวช  แต่ดันเอานักบวชมาเปรียบเทียบเท่ากัน  คุณทำได้เพราะคุณไม่ได้มีความเคารพเยี่ยงเดียวกับชาวพุทธเคารพนักบวช  และโดยนัยกลับกันโดยเอาทฤษฏีดังว่ามาเทียบกัน  ผมเองก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพราะตามความเชื่อของผมไม่มีพระเป็นเจ้า  ฉันใดก็ฉันนั้น  ใจเขาใจเราเฉกเช่นเดียวกันครับ                   คุณเองเตือนผมให้ระมัดระวัง  ผมเองก็เตือนคุณให้ระมัดระวังโดยนัยกลับกันเช่นเดียวกัน                 ถ้าคุณว่าไม่เห็นจะเสียหายอะไร เพราะคุณไม่ได้เสียหาย  ผมก็ "สามารถ" ว่าโดยนัยกลับกันได้ว่า ไม่เห็นเสียหายอะไรผมก็เปรียบเทียบตามหลังคุณมาติด ๆ นั่นเอง  เพราะผมเองก็ไม่เสียหายอะไรแบบคุไม่เสียหายเช่นเดียวกัน โดยทฤษฎีของทางฝ่ายคุณเอง         ในสุดท้ายนี้ผมก็อยากจะถามคุณและพวกว่า  มีเจตนาอะไรกันแน่ที่ศาสนาตัวเองไม่มีนักบวช  แต่กลับเอาคำว่านักบวชมาเทียบ                   และผมก็ขอใช้คำของคุณเหมือนกัน บอกตรง ๆ ผมเองก็ไม่อยากเสวนะวิสาสะอะไรกับคุณเลย  มันก็เหนื่อยเหมือนกันแหละ   ทางผมนั้นไม่ได้เริ่มก่อนเลย  เพราะทางคุณเปรียบเทียบคำว่านักบวชเอง ซึ่งทางอิสลามนั้นค่อนข้างไม่ยอมใครเหมือนกันถ้าไปลบหลู่  แต่สามารถลบหลู่คนอื่นได้โดยสร้างภาพว่านั่นไม่ใช่  นั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา  โดยไม่เห็นใจคนอื่นใด ๆ และไม่รับรู้สิ่งใด ๆ คำท้วงติงใด ๆ ทั้งสิ้น  แต่เมื่อตัวเองโดนเข้านิดเดียวเท่านั้นประท้วงกันใหญ่โต                   ในเมื่อเปรียบเทียบไม่ระมัดระวังเองก่อน จะมาโทษใครได้อย่างไรเฉกเช่นเดียวกัน ... แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 09:11:29 แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 48 09:07:22 จากคุณ : สุธี - [ 22 ธ.ค. 48 09:04:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 หะแรกผมแค่ตีความตามคำเปรียบเทียบของทางฝ่ายคุณเองที่ว่าไม่ค่อยถูกต้องนัก  และก็คิดว่าคำว่า "นักบวช" ในความเข้าใจของคุณ (ที่คุยว่าสามารถปฏิบัติเท่าเทียมกัน ซึ่งจะจริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ) ตามที่คุณจารนัยมานั้น  ลองเปรียบเทียบกันดู  นั้นก็คือ "ศาสนิกชน"  ที่ดีของแต่ละศาสนานั่นเอง  หาได้มีค่าสูงส่งเท่านักบวชไม่           เนื่องจากทางอิสลามไม่มีนักบวช  แต่ความประพฤตินั้นเป็นความประพฤติธรรมดีของศาสนิกชนที่ดีงามพึงกระทำในแต่ละศาสนา  ซึ่งไม่เห็นจะวิเสโสตรงไหนเลยในแง่ของสถานะ  (ซึ่งคุณอาจจะอ้างว่าทุกผู้ทุกนามของมุสลิมสามารถเข้าถึงสิ่งสูงสุดได้  ผมก็อ้างได้เช่นกันว่า  ชาวพุทธที่ดี และปฏิบัติดี สามารถเข้าถึงสิ่งสูงสุดได้โดยไม่ต้องบวชได้เช่นกัน แต่ในทางเทคนิคแล้วเมื่อถึงระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นระดับสูงแล้ว จะบวชกัน)                อันนี้ผมได้บอกไปแล้วว่า  คำว่า "นักบวช" ในความเข้าใจของมุสลิม (ซึ่งจากสิ่งที่เป็นจริงแล้วก็มีสถานะเพียงแค่ "ศาสนิกชน" เท่านั้น เพราะศาสนิกชนศาสนาอื่นก็มีความประพฤติที่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันและสามารถเข้าถึงสิ่งสูงสุดได้เช่นเดียวกัน)  ในความเข้าใจตามที่ได้อ้างกันไปในกระทู้นี้ว่า  เขาเข้าใจว่าคือคนธรรมดาที่ทำดีตามหลักศาสนาเท่านั้น - เรื่องประเด็นนักบวชนั้น ผมบอกแล้วไงครับว่านี่คือการเปรียบเทียบว่าในเมื่อ ศาสนาอิสลามไม่มีนักบวชแล้ว มุสลิมทุกคนก็ย่อมทำหน้าที่ของนักบวชไปด้วย ผมไม่เคยกล่าวอย่างที่คุณยัดเยียดให้ผมว่ามุสลิมถ้าปฏิบัติดีก็มีค่าเท่านักบวช หรือสูงส่งเท่านักบวชแม้แต่นิดเดียว  ผมเน้นแล้วเน้นอีกว่า เมื่อไม่มีฐานันดรของนักบวชมุสลิมทุกคนย่อมต้องทำหน้าที่นี้ดังนั้นมุสลิมทุกคนก็คือนักบวชไปในตัวเนื่องเพราะต้องทำหน้าที่เฉกเช่นเดียวกัน มีตรงไหนหรือไม่ที่ที่ผมไปเข้าใจว่านักบวชคือคนธรรมดาที่ทำดีตามหลักศาสนา หรือ ถ้ามุสลิมทำดีก็มีสถานะเท่านักบวช? จะต้องให้ย้ำอีกกี่ทีครับ ว่าที่เปรียบเทียบนั่นเพราะ หน้าที่การกระทำ มุสลิมทุกคนคือนักบวชเป็นการเปรียบเทียบ ให้เห็นได้ชัดว่า มุสลิมทุกคนต้องทำหน้าที่ในศาสนาโดยไม่แบ่งกัน ไม่ว่าหน้าที่นั้นจะสำคัญหรือไม่สำคัญ ไม่ทราบว่าคุณอ่านข้อความของผมหรือเปล่า เพราะคุณเน้นย้ำเหลือเกินว่ามุสลิมเข้าใจว่า คนธรรมดาทำดีก็เป็นนักบวชได้ มันคนละเรื่องกันเลยครับ ในความเข้าใจของคุณนั้น  คำว่านักบวชของคุณเปรียบเทียบเสมอ  นักบวช  ทุกประการ  ก็เท่ากับบอกว่า  มุสลิมทุกคนมีศักดิ์มีศรีเท่านักบวช (อันนี้ผมหมายถึงของพุทธ แต่ของศาสนาก็ไม่ทราบเหมือนกัน)  หมายความว่าพระอริยะบุคคลเอย  พระอัครสาวกเอย เหล่านี้มีค่าเท่ากับมุสลิมธรรมดาใช่หรือไม่ (อย่าลืมว่าพวกนอกแถวผมไม่นับรวมด้วย)  ใครกันแน่ครับที่เปรียบเทียบอย่างไม่ระมัดระวัง  โดยความจริงแล้ว  มุสลิมก็รู้ตัวอยู่ว่าไม่มีนักบวช  แต่ดันเอานักบวชมาเปรียบเทียบเท่ากัน  คุณทำได้เพราะคุณไม่ได้มีความเคารพเยี่ยงเดียวกับชาวพุทธเคารพนักบวช  และโดยนัยกลับกันโดยเอาทฤษฏีดังว่ามาเทียบกัน  ผมเองก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน เพราะตามความเชื่อของผมไม่มีพระเป็นเจ้า  ฉันใดก็ฉันนั้น  ใจเขาใจเราเฉกเช่นเดียวกันครับ - ตรงไหนครับที่ผมบอกว่า มุสลิมเปรียบเทียบเสมอทุกประการ ไม่มี และไม่เคยมีมาก่อน อย่ามากล่าวหาครับ และขอบอกไว้เลยว่ามุสลิมไม่เคยคิดจะอยากมีศักดิ์ศรีเท่านักบวชเพราะศาสนาไม่อนุมัติ   ที่สำคัญผมเลี่ยงคำว่าพระไปใช้นักบวชแทน เพราะพวกคุณกราบไหว้พระกัน แต่เปรียบเทียบเป็นนักบวชซึ่งคนศาสนิกอื่นไม่มีปัญหาเรื่องนี้เลย ไม่เชื่อลองไปดูกระทู้โหวตได้ครับ ว่ามีคาทอลิกท่านไหน มีปัญหากับการเปรียบเทียบเช่นนี้ บางท่านก็ว่าดีซะอีก นี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ผมและคุณดาบฯไม่มีเจตนาใดๆที่จะเอาตัวเองไปเป็นที่เคารพสักการะกราบไหว้ อย่างที่คุณใส่ความ และถามหน่อยว่า คำว่า นักบวชมีค่าเทียบเคียงพระเจ้าหรือไม่ คำว่าอิหม่าม หรืออื่นๆ ก็มีเยอะแยะแต่คุณไม่ใช้คำนี้ แต่กลับเอาพระเจ้ามาเล่น ถามหน่อยว่า ถ้าผมใช้คำว่า มุสลิมทุกคนคือพระพุทธเจ้าจะว่าอย่างไร ? หรือมุสลิมทุกคนเข้าถึงนิพพานแล้วจะว่าอย่างไร มันส่อเจตนาอะไรกันแน่ครับ ลอมาดูกันว่า มันเข้าคู่แหละเหมาะสมกันหรือเปล่า มุสลิมทุกคนคือนักบวช (ที่บางศาสนาก็ไม่ได้เคารพกราบไว้สักการะ) กับ ชาวพุทธทุกคนคือผู้สร้าง  ชาวพุทธทุกคนคือพระผู้เป็นเจ้า ชาวพุทธทุกคนก็คือพระบิดา  ชาวพุทธทุกคนก็คือผู้เป็นใหญ่เหนือโลก ฯลฯ   มันเหมาะสมกันมั๊ย ระหว่างพระเจ้าสิ่งสูงสุดของศาสนาอย่างน้อยสามศาสนา กับนักบวชที่บางศาสนาก็ไม่ได้ให้ความเคารพยกย่องประดุจพระเจ้าที่ต้องกราบกรานทุกครั้งที่เจอ แม้แต่พุทธเองก็ไม่ได้เทียบกันถึงขั้นพระพุทธเจ้า พระธรรม เลย แถมคุณยังเอาคำว่าพระบิดา ของคริสต์พ่วงมาด้วย แบบนี้มีเจตนาอะไรครับ ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์สักนิด คนที่เปรียบเทียบเฉยๆเค้าใช้คำแบบนี้กันหรือ? มันเหมาะสมกับมารยาทมั๊ย ปัญญาชนเค้ายอมรับกันหรือ วิธีเปรยบเทียบชุ่ยๆของคุณ การเตือนให้ระมัดระวัง โดยมารยาทแล้วควรเตือนกันด้วยถ้อยคำดูถูกศาสนาอื่นเช่นนี้หรือ ถ้าคุณว่าไม่เห็นจะเสียหายอะไร เพราะคุณไม่ได้เสียหาย  ผมก็ "สามารถ" ว่าโดยนัยกลับกันได้ว่า ไม่เห็นเสียหายอะไรผมก็เปรียบเทียบตามหลังคุณมาติด ๆ นั่นเอง  เพราะผมเองก็ไม่เสียหายอะไรแบบคุไม่เสียหายเช่นเดียวกัน โดยทฤษฎีของทางฝ่ายคุณเอง - อ่านดีๆว่าผมใช้คำว่าอะไร ผมเลี่ยงคำว่าพระที่คุณกราบไหว้กันไม่ใช่หรือ และมีชาวคริสต์คนไหนออกมาบอกว่ามันเสียหายบ้างทั้งๆที่เขาก็มีนักบวช และมันเหมาะสมหรือที่ใช้คำว่าพระเจ้า    มันเทียบกันได้หรือไม่ ผมถามคุณมาหลายรอบแล้วครับ แต่คุณก็เลี่ยงไปเลี่ยง ผมถามว่ามันเหมาะสมมั๊ยเทียบกับได้มั๊ย คำว่านักบวชกับพระเจ้า นี่ถ้าผมใช้คำว่า มุสลิมทุกคนคือพระพุทธเจ้า หรือมุสลิมทุกคนเข้านิพพานได้ก้อว่าไปอย่าง คุณลองใช้สติสัมปชัญญะ ไตร่ตรองดู ว่ามันควรหรือไม่ควร ที่คุณถามว่าผมมีเจตนาอะไร ผมตอบว่ามีเจตนาเปรียบเทียบให้เห็นว่ามุสลิมทุกคนต้องทำหน้าที่นักบวชในศาสนาไปด้วยเพราะศาสนาไม่ได้กำหนดให้มีนักบวช เพื่อทุกคนได้เห็น ภาพ โดยที่ผมไม่ทราบมาก่อนเลยว่า คำนี้มันจะไปสะกิดต่อหมวกไตใครเข้า และเน้นนะครับ เน้น ว่าศาสนาที่มีนักบวชอื่นๆ ก็ไม่มีใครมีปัญหากับคำนี้ หรือถ้ามี เค้าก็ไม่เอาคำว่าพระเจ้าลงมาเล่นเพื่อระบายอารมณ์แบบคุณ แต่คุณล่ะมีเจตนาอะไร ที่เอาพระเจ้ามาใช้เทียบ มันมีประโยชน์อะไรกับ บริบทการสนทนา คำเปรียบเทียบอื่นๆที่ถูกกาละเทศะไม่มีแล้วหรือ คุณจะอ้างหรือว่าไม่ทราบว่า พระเจ้าเป็นสิ่งสูงสุดของศาสนาอิสลามและคริสต์ คุณจะอ้างหรือว่าไม่คิดมาก่อนเลยว่าคำพูดของคุณจะกระทบทั้งสองศาสนา และคงไม่มีชาวคริสต์คนไหน ชอบใจแน่ที่คุณเอาพระบิดา ของเขาลงมาย่ำยีเล่น ทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวของอะไรกับการสนทนานี้เลย นี่ต่างหากที่ควรถูกสงสัย เพราะมันผิดทั้งกาละเทศะไม่มีเหตุผลที่ต้องใช้ คำเปรียบเทียบอื่นที่เหมาะสมมีมากมาย ไม่ยอมเลือกลับเลือกคำที่มันจะก่อปัญหา   แบบนี้แล้ว ใครกันล่ะที่ไม่ระมัดระวัง มีมนุษย์คนไหนบ้างที่เค้าจะยอมรับคำเปรียบเทียบชุ่ยๆของคุณครั้งนี้ และผมก็ขอใช้คำของคุณเหมือนกัน บอกตรง ๆ ผมเองก็ไม่อยากเสวนะวิสาสะอะไรกับคุณเลย  มันก็เหนื่อยเหมือนกันแหละ   ทางผมนั้นไม่ได้เริ่มก่อนเลย  เพราะทางคุณเปรียบเทียบคำว่านักบวชเอง ซึ่งทางอิสลามนั้นค่อนข้างไม่ยอมใครเหมือนกันถ้าไปลบหลู่  แต่สามารถลบหลู่คนอื่นได้โดยสร้างภาพว่านั่นไม่ใช่  นั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา  โดยไม่เห็นใจคนอื่นใด ๆ และไม่รับรู้สิ่งใด ๆ คำท้วงติงใด ๆ ทั้งสิ้น  แต่เมื่อตัวเองโดนเข้านิดเดียวเท่านั้นประท้วงกันใหญ่โต - ผมไปลบหลู่ใครตรงไหนครับ ผมใช้คำว่าพระมั๊ย คำว่านักบวชมีกี่ศาสนาครับ และทั้งพุทธและคริสต์นั้นมีกี่คนที่ไม่พอใจนอกจากคุณ และมีกี่คนที่ใช้คำพูดไม่เหมาะสม ไม่ถูกกาละเทศะ และ ถ้านี่คือการแก้แค้นให้สาแก่อารมณ์ ถามว่า การแก้แค้นของคุณ มันถูกต้องหรือเปล่า ระหว่าง พระเจ้า กับ นักบวช ถามหน่อยครับ คุณกล่าวหาว่าผมไม่รับรู้สิ่งใดๆ ไม่รับคำท้วงติงใดๆ เนี่ย ไม่ทราบว่า ใครกันแน่ครับ ผมยอมรับคำท้วงติงและพร้อมถกด้วยเหตุผล แต่คุณล่ะ ใช้คำพูดแบบปัญญาชนหรือไม่ ผมเองแค่คุณคนเดียวที่ไม่พอใจผมก็พร้อมจะตรวจสอบตัวเองแล้ว ถ้าคนส่วนใหญ่ที่มีนักบวชเขาไม่พอใจผมก็พร้อมจะยอมรับครับ แต่คุณล่ะ เคยคิดจะตรวจสอบตัวเองกับสารพัดคำลบหลู่ที่มันออกมาจากคุณหรือไม่ ทั้งๆที่คนท้วงติงคนนี่ก็แทบจะเรียกได้ว่าส่วนใหญ่ของพันทิพ คุณก็ไม่สะดุ้ง ดื้อด้านหลับหูหลับตาบอกว่า ข้าไม่ผิด ดังนั้นประโยคทองที่ว่า   สามารถลบหลู่คนอื่นได้โดยสร้างภาพว่านั่นไม่ใช่  นั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา  โดยไม่เห็นใจคนอื่นใด ๆ และไม่รับรู้สิ่งใด ๆ คำท้วงติงใด ๆ ทั้งสิ้น  แต่เมื่อตัวเองโดนเข้านิดเดียวเท่านั้นประท้วงกันใหญ่โต มันควรเป็นของคุณ คนเดียวเลยครับ ล้วนๆ ไม่ได้โดนใครเลย ในเมื่อเปรียบเทียบไม่ระมัดระวังเองก่อน จะมาโทษใครได้อย่างไรเฉกเช่นเดียวกัน ... - นี่คือการแก้แค้นใช่มั๊ยครับ นี่ไม่ใช่การถกด้วยปัญญาเหตุผลเพื่อหาข้อสรุปใช้มั๊ยครับ  การเอาพระเจ้าลงต่ำมาเทียบในกระทู้ก็เพื่อ การนี้โดยเฉพาะสินะไม่ได้มีเจตนาอะไรนอกจากระบายอารมณ์สินะ ก็ดีครับที่คุณยอมรับ ด้วยตัวคุณเอง หน้ากากเริ่มหลุดออกมาทีละชิ้นแล้วนะครับ จากคุณ : Carroth - [ 22 ธ.ค. 48 21:32:56 ]

ความคิดเห็นที่ 26 .         จากการที่โต้ไปโต้มาสองสามรอบ แสดงให้เห็นชัดว่า  คุณและพวกไม่ได้เข้าใจและยอมรับอะไรเลยในการที่เอาความหมายที่ชาวโลกส่วนใหญ่เขาเข้าใจไปใช้อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว  เพียงแค่ต้องการจะโอ่นิดหน่อยเอาว่า  ศาสนิกของตัวเองดีกว่าตรงที่ไม่จำต้องพึ่งพาอะไร มีเสรีภาพ อะไรทำนองนั้น         และไม่ยอมรับในอกเขาอกเรา  เมื่อตัวเองเปรียบอะไรได้โดยเห็นว่าไม่เสียหายอะไร เพราะไม่ตัวเองไม่ได้เสียหาย  แต่พอเสียหายบ้าง  แล้วร้องโวยวาย  ไม่ได้เอาใจเขามาใส่ใจเรา                 ในเรื่องตอบโต้ไปในทำนองเดียวกัน  คุณเคโหระไม่เคยทำหรือไงครับ  ผมเพียงแต่ทำตามที่คุณทำเท่านั้น  เมื่อคุณเห็นว่าการกระทำของคุณสามารถหมิ่นคนอื่นได้โดยเสรี  โดยอ้างว่าเป็นเรื่องที่คุณมีสิทธิที่จะพูดได้ทำได้  โดยไม่แคร์ว่าสิ่งที่ทำนั้นจะถูกต้องหรือไม่  แต่ขอให้ถูกใจของตัวเองก็พอ  ผมก็เพียงแต่ทำตามคุณบ้าง  ไม่ได้เชียวหรือ  หรือว่าทำได้คนเดียว         ผมก็ไม่แปลกใจอะไรนักที่คุณสามารถอ้างได้ไปเรื่อย ๆ ศัพท์ต่าง ๆ ก็สามารถใช้ตามใจฉันได้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร  จะใช้ถูกต้องหรือไม่  ขอให้ได้แสดงความอวดโอ่  ยกยกพวกเดียวกันก็เป็นใช้ได้         ขนาดพระเยซูที่ชาวคริสต์ถือว่าเป็นพระผู้เป็นเจ้าที่เขาเคารพยกย่องสูงสุด  ทางอิสลามก็ยังกล้าลดเกียรติของท่านลงมาเป็นแค่ นบี  แม้จะอ้างว่ามีศักดิ์ศรีเท่ากับมะหะหมัดก็ตาม  แต่หางเสียงท่าทีก็บ่งบอกอยู่ในทีว่า  ต้องมะหะหมัดเท่านั้นที่ยอดกว่า         เพราะในความจริงที่ชาวคริสต์เขาเชื่อว่า  พระเยซูนั้นคือพระเป็นเจ้าสูงสุด  ชาวคริสต์ที่นับถือจริงจังได้ยิน  ได้ฟังก็คงเจ็บปวดหัวใจเหมือนกัน         ในกลุ่มเดียวกันยังพอทำเนา  บางเวบไซต์ยังกล้าเอามะหะหมัดยกมาเทียบเท่าพระโพธิสัตว์  พระศรีอาริย์อีก  โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย  ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ก็ยังอุตส่าไปเขียนหลักฐานปลอมประจานตัวเองหน้าตาเฉย           ผมจึงไม่แปลกใจว่า  ขอให้ยกตัวเองข่มคนอื่นเอาไว้ก่อนก็พอ  อย่างอื่นค่อยไปหาเหตุผลหักล้างด้วยวาทะเอาในภายหลัง         ไอ้เรื่องที่คุณพร้อมที่จะตรวจสอบตัวเองอย่ามาโม้ให้เหม็นขี้ฟันเลยครับ  แค่กระทู้นี้กระทู้เดียวคุณก็ยังดื้อเพ่ง  ดื้อดึงดันอย่างนี้ไม่เลิก  และไม่มีทีท่าจะอ่อนโยนลงสักนิดเดียว  มันขัดกับที่คุณว่าพร้อมจะตรวจสอบตัวเอง           เท่านั้นไม่พอ  คุณยังเที่ยวไปล่ารายชื่อเพื่อจะให้คนอื่นยอมรับในสิ่ง ๆ นี้อีก (ซึ่งแน่นอนคุณตั้งไว้แต่แรกแล้วว่า ทัศนะของคุณนั้นถูกล้านเปอร์เซ็นต์  โดยไม่สนว่าคำ ๆ นั้นแปลว่าอะไร  และมีความหมาย  มีผลอย่างไร  ใครจะคิดยังไง  ใครจะเจ็บปวดยังไง)         แสดงให้เห็นชัดว่า  คุณไม่ได้คิดที่จะตรวจสอบตัวเองแม้แต่นิดเดียว           หน้ากากของมุสลิมอย่างคุณก็หลุดมาทีละชิ้นเหมือนกันนะครับ เคโหระ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 48 07:30:35 จากคุณ : สุธี - [ 23 ธ.ค. 48 07:23:40 ]

ความคิดเห็นที่ 27 จากการที่โต้ไปโต้มาสองสามรอบ แสดงให้เห็นชัดว่า  คุณและพวกไม่ได้เข้าใจและยอมรับอะไรเลยในการที่เอาความหมายที่ชาวโลกส่วนใหญ่เขาเข้าใจไปใช้อย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว  เพียงแค่ต้องการจะโอ่นิดหน่อยเอาว่า  ศาสนิกของตัวเองดีกว่าตรงที่ไม่จำต้องพึ่งพาอะไร มีเสรีภาพ อะไรทำนองนั้น - ใครกันแน่ครับที่ไม่ยอมเข้าใจ ผมบอกแล้วว่าการเปรียบเทียบว่ามุสลิทุกคนคือนักบวชก็เพราะศาสนาผมไม่มีนักบวชน่ะสิครับ ทุกคนจึงต้องทำหน้าที่ของนักบวชไปโดยปริยายเป็นการ เปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพว่ามุสลิมถ้าไม่มีนักบวชแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง จริงๆผมไปอ่านในกระทู้ของผมที่ตั้งถามเรื่องนักบวช มอร์ม่อนเองก็เช่นกัน ผู้ชายทุกคนเป็นนักบวชและทำหน้าที่ของนักบวชได้ด้วย   อย่างนี้ก็เห็นชัดๆแล้วนะครับว่าใครไม่ยอมเข้าใจ และเจตนาของผมตรงไหนเหรอครับที่แสดงถึงการโอ่ ว่าศาสนาผมดีกว่าตรงที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งสิ่งใด เพราะจริงๆแล้วมุสลิมบอกย้ำอยู่เสมอว่าต้อง พึ่งพระเจ้า จะมีก็แต่พุทธนี่แหละที่ชอบโอ่ว่าไม่ต้องพึ่งพระเจ้าพึ่งแต่ตัวเอง นี่มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ และไม่ยอมรับในอกเขาอกเรา  เมื่อตัวเองเปรียบอะไรได้โดยเห็นว่าไม่เสียหายอะไร เพราะไม่ตัวเองไม่ได้เสียหาย  แต่พอเสียหายบ้าง  แล้วร้องโวยวาย  ไม่ได้เอาใจเขามาใส่ใจเรา - จนแล้วจนรอดคุณก็ไม่ยอมบอกว่า มันเหมาะสมไหมกับการเปรียบเทียบของคุณ มันเหมาะสมมั๊ยกับการที่ผมใช้คำว่านักบวช แต่คุณเล่นไปถึงพระเจ้า คำเปรียบเทียบของผมและคุณดาบฯก็เป็นคำที่ปรกติธรรมดาที่เปรียบเทียบกันหลายรอบก็ไม่มีใครทักท้วง และผมไม่ทราบเลยจริงๆว่า คำคำนี้จะไปกระทบจิตใจใคร ถ้ามันกระทบผมก็พร้อมจะหยุด แต่คุณล่ะเอาคำว่าพระเจ้ามาใช้ในครั้งนี้เพื่ออะไร คุณอ้างได้หรือว่าคุณไม่ทราบเลยว่าการเปรียบเทียบของคุณไม่เหมาะสม อีกทั้งมันยังไม่มีประโยชน์อะไรกับใคร นอกจากความสร้างแตกแยกเท่านั้น ใครกันแน่ครับที่ไม่ยอมรับ เรื่องอกเขาอกเรา ลองบอกสิครับ ว่าคนที่ทำคนอื่นได้แต่พอตัวเองโดนนิดเดียวแล้วโวยวายเนี่ยจริงๆแล้วคือใคร ใครกันที่มักเล่นเอาถึงสิ่งเขาเคารพสูงสุดของศาสนาอื่นมาลงต่ำโดยไม่เอาใจเขาใส่ใจเราอยู่เนืองๆ ในเรื่องแก้แค้น  หรือว่าตอบโต้ไปในทำนองเดียวกัน  คุณเคโหระไม่เคยทำหรือไงครับ  ผมเพียงแต่ทำตามที่คุณทำเท่านั้น  เมื่อคุณเห็นว่าการกระทำของคุณสามารถหมิ่นคนอื่นได้โดยเสรี  โดยอ้างว่าเป็นเรื่องที่คุณมีสิทธิที่จะพูดได้ทำได้  โดยไม่แคร์ว่าสิ่งที่ทำนั้นจะถูกต้องหรือไม่  แต่ขอให้ถูกใจของตัวเองก็พอ  ผมก็เพียงแต่ทำตามคุณบ้าง  ไม่ได้เชียวหรือ  หรือว่าทำได้คนเดียว - ลองยกตัวอย่างหน่อยสิครับ ผมเคยแก้แค้นใครอะไรตรงไหนผมเคยลามปามไปถึงพระพุทธเจ้าบ้างไหม ผมเคยหรือครับที่เพียงแค่คำว่านักบวชก็หาเรื่องเล่นลามไปถึงพระเจ้าได้แบบนี้ ถ้าคุณจะทำก็ทำสิครับผมแค่อยากทราบว่าคุณเจตนาจะแก้แค้นใช่ไหม ไม่ต้องมาอ้างผมครับ ถ้าอ้างก็อ้างให้มันถูกต้องหน่อยนะ ผมไม่เคยคิดจะดูหมิ่นใครได้โดยเสรีเพราะถ้ามีคนไม่พอใจก็เอาเหตุผลมาท้วงกันครับ หรือแม้แต่ไม่อยากให้ใช้คำนี้ก็ตักเตือนกันได้ผมพร้อมจะหยุดใช้ถ้ามันไปพาดพิงกับคนส่วนใหญ่เข้า คำว่าพูดจาดูหมิ่นใครต่อใครได้โดยไม่แคร์สิ่งใด ขอให้ถูกใจตัวเองก็พอ มันไม่ใช่ใครหรอกครับนอกจากตัวคุณเอง คุณไม่ได้ทำตามผมหรือคนอื่น คุณน่ะทำตามนิสัยดั้งเดิมของคุณอยู่แล้ว ตั้งแต่ศาสนาทะเลทราย อะเลาะห์ ไปจนถึง จิกหัวเรียกพระเจ้าของคริสต์ว่า ยะโฮวา เฉยๆ นี่มันเป็นตัวตนแท้ๆของคุณครับไม่ใช่คนอื่น กรุณาอย่าเอาผมหรือใครไปอยู่ในพวกคุณเลยครับ ผมก็ไม่แปลกใจอะไรนักที่คุณสามารถอ้างได้ไปเรื่อย ๆ ศัพท์ต่าง ๆ ก็สามารถใช้ตามใจฉันได้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจว่าใครจะคิดอย่างไร  จะใช้ถูกต้องหรือไม่  ขอให้ได้แสดงความอวดโอ่  ยกยกพวกเดียวกันก็เป็นใช้ได้ ไอ้เรื่องที่คุณพร้อมที่จะตรวจสอบตัวเองอย่ามาโม้เห็นเหม็นขี้ฟันเลยครับ  แค่กระทู้นี้กระทู้เดียวคุณก็ยังดื้อเพ่ง  ดื้อดึงดันอย่างนี้ไม่เลิก  และไม่มีทีท่าจะอ่อนโยนลงสักนิดเดียว  มันขัดกับที่คุณว่าพร้อมจะตรวจสอบตัวเอง - เรื่องผมใช้ศัพท์ถูกต้องมั๊ยเนี่ยผมบอกแล้วว่าพร้อมจะสนทนาด้วยเหตุและผล แต่ปัญหามันมาจากตัวคุณเองที่ไม่คิดจะสนทนาด้วยเหตุผล เริ่มแสดงความเห็นครั้งแรกก็ เริ่มด้วยการ จาบจ้วงสิ่วสูงสุดของศาสนาผม (แถมลากเอาพระบิดาของคริสต์มาด้วยเรียกได้ว่า ซัดทั้งคู่ในความเห็นเดียว)ซะแล้ว ปัญหามันเริ่มตรงนี้ครับ เจตนาเรื่องอวดโอ่ผมก็ไม่เคยมีถ้ามียกมาด้วยนะครับว่าตรงไหนอย่างไรและที่แน่ๆไม่ใช่ศาสนาผมอย่างเดียวที่คิดว่าทุกคนเป็นนักบวชล่ะครับ แสดงว่ามันเป็นเรื่องปรกติ เรื่องตรวจสอบกับการถกกันด้วยเหตุผล มันคนละเรื่องการตรวจสอบความเห็น ผมพร้อมเสมอเพราะ คำว่านักบวชมันกระทบหลายศาสนาถ้ามีคนเดือดร้อนผมก็พร้อมจะถามว่า มันเหมาะสมมั๊ย ถ้าไม่ผมจะหยุด แต่ในกระทู้นี้ผมมีเหตุผลของผมก็ต้องพูดไป ทำไมผมต้องยอมคุณด้วยล่ะครับในเมื่อเหตุผลของคุณมันใช้ไม่ได้ และประเด็นเรื่องการจาบจ้วงของคุณเองก็ยังไม่จบ คุณก็ยังไม่ยอมรับ แถมเลี่ยงจะตอบคำถามผมด้วยว่ามันเหมาะสมไหม ที่เพียงเพราะเกิดความไม่พอใจกับคำว่านักบวชซึ่งไม่ใช่สิ่งสูงสุดของทั้งศาสนาคุณและศาสนาคนอื่น ก็ถึงกับเอาพระเจ้าที่เป็นสิ่งสูงสุดของศาสนาอย่างน้อยสามศาสนาลงมาต่ำอย่างที่คุณทำ อีกทั้งคุณยังอ้างไม่ได้ด้วยว่าการกระทำครั้งนี้ไม่มีเจตนารู้เท่าไม่ถึงการ นี่จึงเป็นประเด็นร่วมในกระทู้ว่าคุณมีเจตนาอะไรกันแน่ถึงต้องหยาบคายขนาดนี้ เท่านั้นไม่พอ  คุณยังเที่ยวไปล่ารายชื่อเพื่อจะให้คนอื่นยอมรับในสิ่ง ๆ นี้อีก (ซึ่งแน่นอนคุณตั้งไว้แต่แรกแล้วว่า ทัศนะของคุณนั้นถูกล้านเปอร์เซ็นต์  โดยไม่สนว่าคำ ๆ นั้นแปลว่าอะไร  และมีความหมาย  มีผลอย่างไร  ใครจะคิดยังไง  ใครจะเจ็บปวดยังไง)  แสดงให้เห็นชัดว่า  คุณไม่ได้คิดที่จะตรวจสอบตัวเองแม้แต่นิดเดียว - ไม่ทราบว่าคุณยังมีสติดีหรือไม่หรืออคติมันบดบังความคิดความอ่านคุณไปหมดแล้ว ถึงกล่าวหาว่า การที่ผมถามถึงความเหมาะสมในการใช้คำเปรียบเทียบเรื่องนักบวช เพื่อที่ผมจะได้ใช้ในการตัดสินใจว่าควรใช้ต่อหรือหยุด คือการล่ารายชื่อเพื่อให้คนอื่นยอมรับ? ผมมีอิทธิพลขนาดนั้นเลยหรือ ผมสามารถบังคับให้ทุกคนเห็นด้วยกับผมหรือไง? ผมตั้งไว้ตอนไหนว่าทัศนะของผมถูกต้องล้านเปอร์เซ็น ผมเพียงแค่บอกว่าการเปรียบเทียบนี้มันถูกต้องในทัศนะผมเองซึ่งใครจะไม่เห็นด้วยก็ตามใจสิครับ  ยิ่งข้อหาที่ว่าผมไม่สนใจว่าผลจะเป็อย่างไร ใครจะเจ็บปวดยิ่งน่าเกลียดที่สุด เพราะถ้าผมไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน ผมจะไปถามความเห็นชาวบ้านเขาทำไมครับ ถ้าผมไม่สนใจและเห็นใจผู้อื่นอย่างที่คุณกล่าวหาจริงล่ะก็ผมจะทำเหมือนกรณี ศาสนาจากทะเลทรายเลยครับ คือใครด่ายังไงก็ไม่สน ใครบอกว่าไม่พอใจก็ไม่รับรู้ จะยังคงหลับหูหลับตาใช้ต่อไป โดยไม่ฟังคำทัดทานแถมใครแย้งเป็นด่ากลับอีกต่างหาก นี่สิครับ แบบนี้ถึง เป็นพวกไม่สนใจว่าใครจะเจ็บปวดของจริง และไม่ใช่แค่ไม่พร้อมจะให้ใครตรวจสอบ แต่แบบนี้มันประกาศชัดๆเลยว่าใครคิดตรวจสอบข้า คนนั้นต้องโดนด่าให้สาสม สุดท้ายหน้ากากผมจะหลุดมั๊ยก็รอดูกันต่อไปครับ แต่ถ้าจำไม่ผิดมีคำพังเพยของจอมยุทธ์กล่าวไว้ว่า ทรชนที่แสร้งทำดีกับผู้อื่นได้ตลอดชีวิต ย่อมประเสริฐกว่าวิญญูชนที่ไม่เคยทำดีอะไรกับผู้ใดเลย เอาเป็นว่า ถ้าผมใส่หน้ากากจริง ผมจะไม่ถอดมันครับ เพราะผมคิดว่าหน้ากากที่ผมใส่ก็ไม่ได้ทำร้ายใครอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเหมือนที่คนบางคนกำลังทำ จากคุณ : Carroth - [ 23 ธ.ค. 48 08:22:35 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ตามมาอ่านค่ะ และขอแสดงความชื่นชมกับคำอธิบายของคุณ Carroth จากคุณ : aiwen^mei - [ 29 ธ.ค. 48 11:41:31 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณครับคุณเม่ย พอดีผมตั้งกระทู้โหวตแล้วมีคนไม่พอใจเกิน 40% เพื่อความสบายใจผมก็ตัดสินใจเลิกเปรียบเทียบด้วยคำนี้ดีกว่าครับ เพราะนอกจากเหตุผลแล้ว เรื่องความรู้สึกของผู้อื่นก็สำคัญ ตกลงตามนี้ล่ะครับสำหรับผมแต่สำหรับคนอื่นผมไม่ทราบเหมือนกัน จากคุณ : Carroth - [ 29 ธ.ค. 48 20:43:06 ]