ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ทราบค่ะ ยังคิดอยู่ว่าถ้าเราตายเราน่าจะรู้ตัว ตัวเอวงยังคิดอยู่ว่าถ้าเราตายไปแล้วเราคงไม่มาเดินหาทางเก่าที่เราคเยไปหรอก จากคุณ : amikensai (amikensai) - [ 15 ธ.ค. 48 13:58:34 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผมรู้อย่างเดี่ยวตายเมื่อไร (ถ้าผีมีจริง) จะหลอกเพื่อน ๆ คนรู้จัก ให้ทั่วเลย อิ ๆ จากคุณ : 555 - [ 15 ธ.ค. 48 15:12:35 A:61.91.173.204 X: TicketID:035135 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอเบอร์หน่อย ถ้าผมตาย แล้วจะโทรมาบอก (ล้อเล่น) เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสัจจธรรม ครองโลกมานานแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมีเกิดย่อมมีดับเป็นธรรมดา จากคุณ : คนเมืองพุทธ - [ 15 ธ.ค. 48 15:37:19 A:172.16.2.209 X:202.28.82.22 TicketID:113317 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีเรื่องหนึ่ง (สวนชื่อ) ตายแล้วแต่ไม่รู้ตัวว่าตายก็ช่วยงานศพยกของไปช่วยเค้าทุกอย่างแต่ไม่มีใครเห็นลูกเมียก็ไม่เห็นแต่มารู้สึกตัวตอนที่กรวดน้ำเพราะได้รับบุญเป็นความรู้สึกที่แปลกจึงรู้ตัวว่าตายแล้ว ตอนนั้นน้องสาวเพิ่งคลอดลูกไม่ได้มาเพราะอยู่ไฟ ก็ไปเยี่ยมน้อง น้องสาวเห็นเข้าก็ตกใจกลัวไล่ โดนน้องสาวไล่ก็สลดใจอายเพราะตอนที่มีชีวิตอยู่ก็รักใคร่กันดี พอตายแล้วเป็นห่วงมาเยี่ยม กลับไล่ จากคุณ : cbr150r - [ 15 ธ.ค. 48 17:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ที่แน่นอนคือ  จิตจะไม่สามารถตั้งอยู่ในร่างกายเดิมได้อีก  นั่นก็เป็นสัญญาณให้ทราบแล้วว่า ไม่ได้มีชีวิตในร่างกายเดิมแล้ว การไม่ทราบว่าตนตาย  จึงเป็นไปไม่ได้   ความจริง  ทุกวันนี้ พวกเราก็เร่ร่อนเหมือนกัน   คำว่าเร่ร่อน วิญญาณเร่ร่อน  ในความเป็นจริง  ใช้กับทุกชีวิตบนโลก   หมายถึง  เร่ร่อน หาที่เกิดใหม่  ซ้ำแล้วซ้ำเล่า     ไม่ว่าสัตว์ แมว  คน  เทวดา พรหม   ก็ต่างเรียกว่าเร่ร่อน  หากไม่ได้ปฏิบัติชอบในมรรคมีองค์ 8 เพื่อทำลายวิญญาณเสีย จากคุณ : SpiritWithin - [ 15 ธ.ค. 48 18:23:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 บางกรณีในการตายด้วยอุบัติเหตุ อาจจะไม่รู้ตัวในตอนแรกว่าตายแล้ว คือไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่รู้ว่าเพียงความรู้สึกว่าวูบไปเฉยๆ แต่จะรู้ก็ตอนที่วิญญาณออกจากร่างแล้ว และหากเป็นการตายโดยกรรมหนักมาตัดรอน วิญญาญก็อาจถูกกักอยู่บริเวณที่ตายนั้นก็ได้ครับ ไม่ได้เร่ร่อนไปไหนครับ จนกว่าจะได้ผู้ที่มีความสามารถในการถอนวิญญาณมาดึงวิญญาณออกจากจุดนั้นไป ถึงจะกลายมาเป็นวิญญาณที่เร่ร่อนรอจนกว่าจะหมดอายุขัยอีกครั้งครับ ที่เล่ามาก็มาจากเหตุการณ์ตอนที่แฟนผมเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุครับ อีกเรื่องหนึ่งคือหากตัวเราที่มีชีวิตอยู่และผู้ที่ตายแล้วยังมีความผูกพันทางจิตใจอยู่ เขาก็จะมาหาเราอยู่นะครับ ที่รู้ก็เพราะตอนที่ผมนั่งสมาธิแล้วปรากฎว่ามีเสียงเปิดและปิดประตูห้องนอนผมเอง (เสียงดังฟังชัดครับ) โดยที่ห้องนั้นผมนอนอยู่คนเดียวและล็อคประตูเรียบร้อยแล้ว, เวลาเขามาใกล้เราจะมีความรู้สึกว่าขนลุกผิดปกติหรือมีเสียงแปลกๆในตอนกลางคืนครับ แต่จริงๆแล้วการตายโดยยังไม่หมดอายุขัยนั้น ดวงวิญญาณยังต้องการความช่วยเหลือจากผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อส่งบุญไปให้เขานะครับ ดังนั้นอย่ากลัวเขาเลยแต่สมควรที่จะช่วยเหลือเขานะครับ จากคุณ : เต่า - [ 15 ธ.ค. 48 20:44:51 A:203.149.61.114 X: ]

ความคิดเห็นที่ 7 อาจารย์ผมสอนให้ภาวนาทุกลมหายใจเข้าออก ไม่ว่าหลับหรือตื่น อาจจะภาวนาว่า "พุทโธ" ก็ได้ เพราะสติจะอยู่กับ พระพุทธตลอดเวลา ยังไงก็ไปในทางธรรม แน่นอน จากคุณ : ชีพชัย - [ 15 ธ.ค. 48 20:45:59 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ศาสนาพุทธเชื่อว่าตายแล้วเกิดทันที เพราะฉะนั้นเมื่อคุณใกล้ตายจะเกิดนิมิตรขึ้นให้เห็นภพภูมิที่คุณจะไป ที่ว่าตายปัจจุบันทันด่วนต่อให้ด่วนแค่ไหน จิตก็มีเวลาพอที่จะสร้างนิมิตรขึ้น เมื่อจิตดวงเดิมดับแล้วก็จะเกิดในที่ที่เห็นทันที ส่วนที่ว่าตายแล้วยังเห็นตัวเองไปช่วยงานศพอยู่ นั่นก็ไปเกิดใหม่แล้วเรียกว่าผุดเกิด(โอปปาติกะ) อยู่ในภพที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มากเช่น เทวดาชั้นต่ำ เปรตบางจำพวก ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะวนเวียนอยู่ใกล้เราอยู่ตลอดไป เพราะสักระยะเดียวเมื่อตระหนักถึงภพภูมิใหม่ได้แล้วเขาจะไปสู่ที่ชอบๆ (คือวิมานของเขาเองจะบนสวรรค์ หรือโคนไม้ หรือลอยอยู่ในอากาศ หรือหลายๆที่ที่เหมาะสมกับเขา) จากคุณ : tb - [ 15 ธ.ค. 48 20:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ณ ที่แห่งหนึ่ง ตรงตอม่อของสะพานข้ามแยก วิ่งจากเส้น สุวินทวงศ์เลี้ยวซ้ายเข้ามา  ทางที่จะไปสุขาภิบาล 3 มีอะไรบางอย่างติดอยู่ตรงตอม่อสะพานตรงนั้น  เป็นเงาดำๆ คล้ายเงาผู้ชาย  เมื่อ 3 - 4 เดือนที่ผ่านมา เมื่อผ่านไปทาง นั้นตอนกลางคืน จะเห็นเงานั้นเกือบจะทุกครั้ง ก็เลยพยายามทำบุญไปให้  แต่ตอนนี้ ไม่มีแล้ว ... ก็เคยไปสอบถามกับชาวบ้านที่อยู่แถวนั้น  เขาก็บอกว่าช่วงก่อนหน้านี้  มีมอเตอร์ไซค์ขับมาชนตอม่อสะพาน ... ตาย ... จากคุณ : faisara - [ 15 ธ.ค. 48 22:30:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าน่าจะรู้ตัวนะ   เพราะทางพุทธ  ตายแล้วเกิดทันทีในภพใหม่ เพียงแต่  อาจมีบ้างสัญญาเดิมๆยังทำงานอยู่ อันนี้ก็แล้วแต่ละบุคคล แต่ถ้าหากจะถามว่า  เวลาใกล้ตายผมจะรู้สึกยังใง   ผมว่าน่าจะรู้สึกตื่นเต้นนะ ที่เราจะได้พบกับสภาพแวดล้อมในภพใหม่ ที่เราไม่เคยสัมผัส   ผสมกับความอาลัยอาวรณ์ในภพที่กำลังจะจากไป มันเป็นสิ่งที่สิ่งมีชีวิตไม่ว่าหน้าไหนๆ   หนีไม่พ้นอยู่แล้ว เจริญในธรรมยิ่งขึ้นไปครับ จากคุณ : อำมาตย์ - [ 15 ธ.ค. 48 23:09:54 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตายไม่รู้ตัว เรารู้เองตอนหลังๆ พอไปงานศพเราเอง ไม่เคยฟัง The Shock หรือครับ ที่เค้าเล่ากันบ่อย ว่าคนตายไปแล้ว แต่ไม่ยอมไปไหน มีทั้งครูใหญ่ ยืนอยู่ในห้องเรียน หรือ เจอว่าเพื่อนมางานศพ  เยอะครับ แต่ถ้าตายโหง ผมว่า ไม่ได้ไปไหน เพราะว่าจิตไปติดอยู่ คิดอยู่ว่าต้องไปไหน ถ้าห่วงมากๆ เช่นเรื่องของ ครูใหญ่ ที่ไปยืนในห้องเรียน ตายไปนานแล้ว ก็ไม่ไปไหน ก็เพราะความห่วงนั่งเอง เราต้องมีสติ กับตัว  การที่เราตายไป นี่ จิตที่เราหลุดไปนี่ไม่ใช่ที่อยู่กับเรานะแต่จะไปเกิดใหม่ มันรวดเร็วมาก เมื่อจิตหลุดไป โดยไม่มีสติ ทำให้มืดมน ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน จึงยึดไปตามความคิดก่อนจะตายว่าจะไปไหน  คือตายไม่รู้ตัว และ ถ้าห่วงอะไร ก็จะไปอยู่แต่ที่นั่น ไม่ไปสุคติ จากคุณ : futuregamer - [ 16 ธ.ค. 48 00:04:13 ]

ความคิดเห็นที่ 12 แต่จะไปเกิดใหม่ หมายถึงเปลี่ยนสภาวะ มาเป็น วิญญาณ จากคุณ : futuregamer - [ 16 ธ.ค. 48 00:05:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอคุณมากๆทุกความคิดเห็น ...ค่อยหายกังวลหน่อย ^^ ขอถามต่ออีกนิดนะ.. ว่าเวลาเราตักบาตร แล้วทำไมต้องกรวดน้ำด้วย ถ้าไม่กรวดได้หรือป่าว แบบบ้างที ลืม.. อยากทราบเหตุผลว่ากรวดน้ำเพื่ออะไร ในเมื่อ ทำบุญใส่บาตรแล้ว จากคุณ : . (ก้าวกล้า) - [ 16 ธ.ค. 48 09:46:50 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอตอบคุณ ก้าวกล้า เพิ่มเติมนะครับ ว่าถ้าตายไม่รู้ตัวจะทำอย่างไร จะรู้ตัวได้หรือไม่ ตอบ การตายของคนเรา มี 4 รูปแบบใหญ่ๆ คือ 1. หมดบุญ เหมือนตะเกียงที่อากาศหมด ทำให้ไฟดับ ทั้งๆ ที่ยังมีน้ำมันเหลือเฟือ เปรียบดังคนที่ยังไม่แก่ แต่ตายไปเสียก่อน โดยไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงอะไร 2. หมดอายุ เหมือนตะเกียงที่น้ำมันหมด แม้อากาศจะมีก็ไม่มีประโยชน์ เปรียบดังคนที่แก่มากแล้ว แม้บุญยังมี แต่ร่างกายทรุดโทรมมากแล้ว 3. หมดทั้งบุญ และอายุ เหมือนตะเกียงที่น้ำมันและอากาศหมดพอดี เปรียบดังคนที่ทั้งแก่ทั้งหมดบุญ 4. กรรม(อดีตและปัจจุบัน) ตัดรอน เหมือนตะเกียงที่ถูกปัดหล่นตกแตก ไฟก็ดับด้วย เปรียบดังคนที่ประสบอุบัติเหตุ หรือป่วยด้วยโรคร้ายแรงต่างๆ จนเสียชีวิต ประเภทที่ 4 นี้แหละครับ ที่ตายด้วยอุบัติเหตุ ผู้ตายมักไม่รู้ตัวในตอนแรก แต่ต่อมาก็จะเริ่มรู้ตัว ด้วยเหตุต่างๆ ดังนี้ 1. ผู้ตายที่มีบุญอยู่บ้าง ตายแล้วก็จะวนเวียนไปยังที่ที่ตนคุ้นเคย เช่น บ้าน ที่ทำงาน ฯลฯ พวกนี้วันแรกๆ อาจไม่รู้ตัว แต่พอไปคุยกับใคร ไม่มีใครรู้เรื่อง ก็จะเริ่มรู้ตัวขึ้นมาว่า ตัวตายแล้ว 2. เจ้าหน้าที่มารับ สำหรับผู้ที่บุญกรรมไม่มาก มีพอๆ กัน ภายใน 7 วันจะมีเจ้าหน้าที่มารับตัว ไปพิพากษาบุญบาปที่ยมโลก ตอนนี้แหละครับ ที่จะรู้ตัว 3. ไปเกิดตามบุญบาปทันที พวกนี้ทำบุญมามาก หรือ ทำบาปมามาก ตายปุ๊บก็ไปสวรรค์หรือ นรกในทันที โดยไม่ต้องมีใครมารับ 4. ทำกรรมไม่มาก แต่ใจก่อนตายเป็นโมหะ (ความหลง) มากๆ จนไร้สติ เช่น ดื่มเหล้าหนักก่อนอุบัติเหตุตาย ผิดหวังในความรักฆ่าตัวตาย กรรมจนบันดาลให้งงๆ ก่งก๊ง วนๆ เวียนๆ อยู่เช่นนั้น จนกว่ากรรม จะเบาบางลง แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่มารับ ซึ่งอาจกินเวลาเป็นเดือน เป็นปี หลายปี ก็ได้ จากคุณ : หัดฝัน - [ 16 ธ.ค. 48 12:39:37 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณ คุณหัดฝัน มากๆ เลย จัดเจนมากๆ เข้าใจเห็นภาพเลย ขอบคุณ ค่ะ จากคุณ : .. (ก้าวกล้า) - [ 16 ธ.ค. 48 17:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แก้คำผิดค่ะ  จาก จัดเจน  เป็น ชัดเจนค่ะ จากคุณ : ก้าวกล้า - [ 16 ธ.ค. 48 18:23:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เป็นคำสอนของคุณครู ซึ่งเรียนรู้มาจาก พระบรมครู (พระสัมมาสัมพุทธเจ้าน่ะครับ) จากคุณ : หัดฝัน - [ 17 ธ.ค. 48 16:54:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ตายโดยไม่รู้ตัว เรียกว่า ขาดสติตอนใกล้ตาย ..เรียกว่าหลงตาย ... โอกาสจะไปเกิดในอบายภูมิ มีมากๆๆ จากคุณ : ชิฯ - [ 18 ธ.ค. 48 02:05:47 A:65.188.149.241 X: TicketID:000833 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านแล้วขนลุกครับ กึ๋ย (นึกถึงเรื่อง The Sixth Sense ขึ้นมาตะหงิดๆ) จากคุณ : Urim - [ 18 ธ.ค. 48 08:07:18 A:222.147.140.30 X: TicketID:047238 ]