ความคิดเห็นที่ 1 ตอนที่เจอกันนี่คือไปกินร้านที่น้องเค้าทำอยู่หรอคะ แล้วมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกันมากน้อยแค่ไหน ถ้าคุยกันไม่เยอะมาก แล้วขอเบอร์เค้า ก็ไม่แปลกที่จะถูกปฏิเสธมาอะค่ะ จากคุณ : เทเลทับขี้ เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 20:39:56

ความคิดเห็นที่ 2 คือจริงๆแล้วก็แทบไม่เคยรู้จักกันเลยครับ แต่พอดีตอนนั้นคิดว่าคงไม่ได้กลับมาที่ตัวอำเภอนั้นบ่อยๆ จึงคิดว่าลองดูกะว่าจะโทรคุย พอเป็นเพื่อนกันได้ครับ ก็จริงอย่างคุณ เทเลทับบี้บอกล่ะครับ ทีนี้ตอนนี้ผมเลยแวะไปกินข้าวที่้ร้านที่เธอทำงานอยู่ทุกวันเลย ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับ ว่ามันจะได้ประโยชน์อันใดจากการทำแบบนี้ แต่ก็แค่อยากจะพูดคุยได้บ้างนะครับ คือผมคงใจร้อนแล้วก็งี่เง่าไปหน่อยที่รีบร้อนขอเบอร์โทรขนาดนั้น แต่ส่วนหนึ่งก็เหมือนกับได้บอกความรู้สึกบางอย่างออกไปกลายๆว่าเราชอบเธอ ทีนี้ตอนนี้ที่ผมไปที่ร้าน เธอก็คงไม่ได้ถึงกับว่าจะรังเกียจอะไรผมนักครับ แต่ก็สงวนตัวและท่าทีจนรุ้สึกได้ว่า บางครั้งถ้าจะทำตัวตีสนิทหรืออะไรมากเกินกว่าลูกค้าปกติทั่วไป ผมอาจจะโดนเกลียดและรำคาญเอาได้ครับ ผมควรทำอย่างไรดีครับ รบกวนปรึกษาหน่อยสิครับ ผมไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย การขอเบอร์ครั้งนั้นแล้วโดนปฏิเสธจึงทำให้ขาดความมั่นใจไปมากครับ เฮ้อ จากคุณ : แงซาย เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 20:46:27 A:101.109.80.150 X: TicketID:353445

ความคิดเห็นที่ 3 อืมม แบบนี้เราว่าต้องพยายามสร้างความคุ้นเคยไปเรื่อยๆก่อนอะค่ะ อย่าเพิ่งแสดงทีท่าว่าจีบมากนัก ให้เหมือนเพื่อน เหมือนคนคุ้นเคยกันไปก่อนจะดีกว่าค่ะ จากคุณ : เทเลทับขี้ เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 20:54:19

ความคิดเห็นที่ 4 ครับ ความผิดพลาดที่เกิดจากความเร่งรีบจนเกินควรก็คือ การไปขอเบอร์โทรเธอทั้งที่ยังไม่ได้สนิทสนมหรือรู้จักมักจี่กันมาก่อนนี่หล่ะครับ มันเลยทำให้ทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นและจะเกิดขึ้นในอนาคตดูยากไปหมด ส่วนหนึ่งคือฝ่ายเธอเองก็สงวนท่าทีอย่างที่สุด หากเป็นลูกค้ารายอื่นๆสิ่งแรกที่เธอจะกระทำก็คือรอยยิ้มหวานๆ ใสๆของเธอ แบบที่เป็นมิตรอย่างที่สุด แต่สำหรับผมแล้ว มันแห้งแล้งเหลือเกินครับ ผมฝึกพูดภาษาพม่า อาทิคำว่าสวัสดีครับ มิงกละบา คำยา หรือคำว่าขอบคุณ อย่าง เจซูติน บาแด เธอก็ก้มหน้ารับ แต่ไม่มีรอยยิ้มปรากฏเลย จนกระทั่งเมื่อวาน ตอนที่ผมไปทานอีกครั้งนึง เมื่อเธอเห็นผมมาแต่ไกลก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่พอผมเดินไปใกล้เพื่อจะสั่งข้าว เธอก็กลับเก็บอาการนั้น และนิ่งอย่างที่สุดครับ หัวใจผมมันรู้สึกทั้งดีใจแล้วก็รู้สึกว่ามันช่างเป็นช่วงระยะเวลาที่ยาวนานเหลือเกินกว่าที่จะสำเร็จไปทีละขั้น ผมกำลังคิดว่าควรซื้อของไปฝากเธอบ้างจะดีไหมครับ พวกของประดับตกแต่งน่ารักๆหรือพวกนาฬิกาข้อมือ หรือว่าควรหาการ์ดอวยพรน่ารักๆซักใบ แล้วก็ฝึกเขียนภาษาพม่าให้ได้ แล้วก็ส่งไปให้เธอ เธอน่าจะปรับทำใจนะครับ แต่ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไรก่อนหลังดี มันใจร้อนไปหมดครับตอนนี้ จากคุณ : แงซาย เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 21:00:18 A:101.109.80.150 X: TicketID:353445

ความคิดเห็นที่ 5 เราว่าตอนนี้ทำให้คุ้นเคยกันก่อนดีกว่าค่ะ ให้เธอยิ้มให้คุณก่อนก็ได้ แล้วค่อยไปให้ของให้อะไร ถ้าให้ไปตอนนี้แล้วไม่รับ ก็จะเฟลอีกเปล่าๆ จากคุณ : เทเลทับขี้ เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 21:17:22

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มีประสบการณ์เลยครับแต่เห็นด้วยว่าคนทางนี้หน้าตาดีเย้อเยอะครับ เรื่องวัยเป็นอุปสรรคอยู่จริงๆแหละครับแต่ไม่ถึงกับมากในกรณีนี้ หากจขกทมีฐานะดีและมีรูปสมบัติอยู่บ้าง ผู้หญิงก็อาจจะอยากฝากชีวิตไว้นะครับแต่จะทำยังไงให้เธอมาสนใจเราก่อนเนี่ยสิ แต่ 18 ปีนี่ยังเด็กอยู่มากเลยครับ อาจจะรีบร้อนไม่ได้ค่อยๆจีบไปก็น่าจะดี วัยนี้คงยังไม่คิดไกลอะครับ ที่จขกททำอยู่ผมว่ามีรีบร้อนแค่ตรงขอเบอร์นะครับเพราะมันขัดกับวัฒนธรรมแบบทางเราน่ะครับแต่เรื่องอื่นๆก็ฟังดูน่ารักดีนะครับก็ลองดูสิครับไม่เสียหาย ผมว่าลองทำยังไงก็ได้ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าคุณปกป้องเธอได้และอยู่กับคุณแล้วสบายใจไม่อึดอัดหรือน่ารำคาญน่าจะดีที่สุดครับแต่ผมยังคิดไม่ออกนะแต่เรื่องที่คิดจะจีบเขาอ่านๆแล้วก็น่ารักอะครับ ก็ลุยครับ ลุยไปก่อนอย่าพึ่งคิดล่วงหน้าครับ ลุยไปให้รู้ว่าเธอจะมีปฏิกิริยาอย่างไรถ้าเป็นไปในทางบวกก็ยินดีด้วยครับแต่ถ้าเป็นไปในทางลบก็ต้องหาวิธีใหม่อะครับแต่ผมว่าเธอคงรู้อยู่แก่ใจนะว่าคุณกำลังจีบเธอแต่ที่เธอสงวนท่าทีอาจจะเพราะเธอไม่อยากเป็นไก่ให้หมาหยอกหรือเปล่าครับ บางทีคนเราการไม่มั่นใจในอนาคตบางอย่างก็ทำให้มีกำแพงขึ้นมากั้นไว้นะครับ มาติดตามต่อครับ เอาใจช่วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 55 22:10:44 แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 55 22:07:09 จากคุณ : Keichun เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 22:04:01

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณคุณ เทเลทับบี้ และคุณ Keichun มากเลยนะครับ สำหรับกำลังใจและคำแนะนำดีๆ และขอบคุณมากๆเลยครับ ผมต้องการกำลังใจจริงๆ ครับ ส่วนหนึ่งที่ต้องใช้เวลานั้น ผมมองอีกมุมว่าเป็นความรู้สึกว่า เธอมีคุณค่าบางอย่างในตัวเอง มีทัศนคติความคิดในแบบของตัวเอง ทั้งนี้ ทั้งท่าทางที่เธอวางตัวนั้นก็เป็นสิ่งที่ผมพึงพอใจอย่างที่สุด จริงๆแล้วไม่ใช่แค่ผมรายแรกหรอกนะครับ ที่เธอไม่เคยให้เบอร์โทร มีผู้ชายอยู่หลายคนพยายามที่จะมาขอเบอร์โทรและตามจีบเธออยู่เหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเคยได้ยินจากปากพี่เจ้าของร้าน หรือนายจ้างเธอก็คือ เธอยกหัวใจให้พ่อกับแม่เธอไปแล้ว ไม่อาจจะให้ใครได้อีกแล้ว มันเป็นคำพูดที่ตราตรึงในใจผมเหลือเกินครับ อายุเธอยังน้อยก็จริง แต่ผมสัมผัสได้ถึงความคิดที่ไปในทางที่ดีของเธอ และรับรู้ในกิริยาท่าทางการวางตัวทุกอย่าง จนรู้สึกว่านี่คือคนที่ตามหามานานครับ ในวันหนึ่งๆนั้นเธอไม่ได้พักผ่อนเลย ผมเคยนั่งเล่นเน็ทฝั่งตรงข้าม ทั้งคืนเพื่อรอจะเห็นหน้าเธอตอนเช้า เพราะเธอจะลุกมาทำงานตั้งแต่ตี 5 ครับ แล้วก็ไม่มีวันหยุดพักผ่อนเลย หากผมมีทุนรอนอยู่บ้างในอนาคตนั้น อยากเปิดร้านอาหารแบบที่เธอทำอยู่ครับ แล้วผมก็จะให้เธอมาดูแล ผลกำไรก็ยกให้เธอทั้งหมด เธอจะได้มีรายได้มากกว่าที่่ำทำอยู่ตอนนี้ ผมไม่ทราบว่าเธอจะมีรายได้มากแค่ไหน แต่กับการที่ต้องทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดเลย มันก็ดีในแง่ที่ว่า ผมสบายใจว่าตอนนี้เธอคงไม่มีใครแ่น่ๆ เพราะเธอก็พักอยู่บ้านนายจ้าง วันหยุดไม่มี เธอจึงแทบไม่ได้ไปไหนเลย นอกจากทำงานอยู่ที่ร้าน ตอนนี้ผมคงต้องฝึกพูดและเขียนภาษาพม่าให้ได้หรือไม่อย่างนั้นก็อยากจะเข้าใจให้มากๆครับ ผมอยากตะโกนบอกรักเธอเป็นภาษาพม่าเพื่อที่ว่าเราจะได้รับรู้กันอยู่สองคน เธอจะได้ไม่เขิลอาย หรือรู้สึกว่าผมทำอะไรเสร่อๆไป อย่างไรแ้ล้วจะมารายงานผลให้ทราบในเหตุการณ์ที่คืบหน้าขึ้นนะครับ ขอบคุณอีกครั้งที่รับฟังครับผม จากคุณ : แงซาย เขียนเมื่อ : 26 มี.ค. 55 22:35:28 A:101.109.80.150 X: TicketID:353445

ความคิดเห็นที่ 8 เป็นกำลังใจให้ค่ะ คืบหน้าไปถึงไหนแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ จากคุณ : Dr.Jiang เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 05:39:37

ความคิดเห็นที่ 9 เธอยกหัวใจให้พ่อแม่ไปแล้ว ประโยคนี้ตีความได้ลึกโค-ตรเลยนะครับ มันไม่ได้แปลว่าเธอไม่อยากมีสามีแต่มันแปลว่าเธอจะไม่มีสามีก่อนเวลาอันสมควรและไม่มีสามีกับคนที่ไม่ดีพอจนทำให้พ่อแม่ของเธอต้องเสียใจ เธอรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่และทำเพื่อใคร ประโยคนี้สุดยอดเลยนะครับ จขกทรีบไม่ได้จริงๆแหละครับแต่คนเราจะซึ้งใจกันเวลาช่วยเหลือกันในยามยากนะครับ ผมว่าถ้าจขกทมีความสุขที่ได้จีบเธอก็ทำไปครับแต่ไม่ต้องจีบมากจนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดน่ะครับ จีบไปดูท่าทีไปอะไรงี้น่ะครับ ถ้ามากก็ผ่อนลงมาแต่ของแบบนี้อยู่ที่วาสนาด้วยครับ สิ่งที่จขกทกำลังทำอยู่ผมไม่รู้ว่าเป็นคู่บุญหรือแค่คู่ทางผ่านของจขกทแต่ที่ตอบได้คือการที่จขกทจีบเธออยู่มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ ส่วนในท้ายที่สุดจะสมหวังหรือไม่สมหวังมันก็ไม่ใช่บังเอิญทั้งคู่อีกเหมือนกันครับเพียงแต่ผมไม่ใช่คนปฏิบัติตอบอนาคให้ไม่ได้ ถึงปฎิบัติจริงก็ใช่ว่าจะบอกได้อยู่ดีอนาคตไม่ใช่รู้แล้วจะบอกได้ทุกอย่างครับ เพราะชีวิตของคนเรามันจำเป็นต้องผ่านบุญและกรรมที่เขาวางไว้ครับ การรู้อนาคตบางอย่างหรือรู้ชัดมากเกินไปจะทำให้จิตของคนคนนั้นมันเปลี่ยนและไขว้เขวครับทำให้ไม่เดิมไปตามบุญตามกรรมที่เขาวางไว้อะ ยังไงก็คงพูดได้แค่ว่าให้โชคดีนะครับแต่ในท้ายที่สุดจะยังไงก็อย่าเสียใจ เพราะสิ่งที่จขกททำคือทำสิ่งดีๆให้กับคนคนหนึ่งซึ่งมันจะเกิดบุญเกิดกุศลอยู่แล้วครับแต่ทำดีกับใครก็อย่าให้เขาอึดอัดรำคาญใจนะครับไม่งั้นมันจะได้บาปแทน ยังไงมาอัพเดทเรื่อยๆได้นะครับ อยากอ่านและยินดีที่จะเข้าใจครับ :D แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 08:20:51 จากคุณ : Keichun เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 08:17:10

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณคุณ Keichun มากนะครับ ผมรุ้สึกว่าคุณเองคงสัมผัสบางอย่างได้ คงมีเซ็นส์พิเศษบางอย่าง หลายครั้งนั้นผมช่วยเหลือแนะนำคนอื่นได้ดีทีเดียวครับ แต่ในเรื่องของตัวเองครั้งนี้แล้ว มันก็มีความรู้สึกไม่มั่นใจ แล้วก็ผสมกับความมั่นใจเล็กๆของตัวเอง เพียงแต่จะคาดหวังให้เป็นทุกข์ก็ไม่อยากจะทำแบบนั้นครับ แต่สิ่งที่คุณสื่อมานั้น ผมมีความเข้าใจอย่างถึงที่สุด และรู้สึกว่าธรรมชาติของคนเรานี้จัดสรรบางอย่างให้ด้วยความไม่บังเอิญ ไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวัง สิ่งที่ได้รับมาคือความเข้าใจและเรียนรู้ในชีวิตมากขึ้นเป็นลำดับๆไป เป็นว่า ผมจะพยายามอย่างนุ่มนวลและไม่เร่งรีบ เร่งร้อนจนเกินไป จะทำอย่างพอดีๆสมเหตุและผลที่พึงมีพึงได้ ถ้าหากแม้นมีวาสนา่ต่อกันจริงในภายภาคหน้า ก็คงจะได้รับความรักจากเธอ ซึ่งความรักที่ได้มานั้น เป็นการเรียนรู้ชีวิตอย่างหนึ่ง อย่างที่ผมเรียนว่าผมไม่เคยมีแฟน ธรรมชาติบางอย่างต้องการให้เราเรียนรู้ความทุกข์จากความไม่เที่ยง โดยเฉพาะความรัก หรือกับคนที่เรารัก เราอาจจะสังเกตได้ดีที่สุด ถึงความเสื่อมสลายไป ทั้งจากขันธ์ทั้ง 5 หรือจากสภาพอื่นใดก็ตาม ไม่รู้ว่าความรู้สึกของผมที่มันบ่งบอกตอนนี้ จะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่านะครับ ขอบคุณมากอีกครั้งครับผม จากคุณ : แงซาย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 09:08:41 A:101.109.72.242 X: TicketID:353445

ความคิดเห็นที่ 11 นอกจากสาวคนนั้นรู้ว่าทำอะไรอยู่ และตั้งใจจะดำเนินชีวิตให้ดีแล้ว เธออาจจะเคยมีประสบการณ์ไม่ดีด้านความรัก หรือกลัวคนไทยหลอกมั้งคะ จากคุณ : พีแอร์ (peartutu) เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 19:10:14

ความคิดเห็นที่ 12 ครับ ได้ข้อมูลเพิ่มเติม ลองช่วยกันวิเคราะห์ดูนะครับ วันนี้มีโอกาสไปคุยกับอาซิ้ม(ความหมายของผมไว้แทนคุณยายท่านนึงแล้วกันนะครับ ผมไม่แน่ใจว่าใช้คำนี้ได้ถูกฝาถูกตัวไหม) แม่ของเจ้าของร้าน ท่านบอกว่าน้องคนนี้มาอยู่เมืองไทยถึง 3 ปีแล้ว(นี่คงเป็นเหตุที่เธอพูดไทยได้ชัด และพูด ฟังได้หลายๆประโยค) แรกๆเธอทำงานอยู่ภาคเหนือ คงเป็นแถวเีชียงใหม่ เชียงราย ต่อมาเมื่อซักประมาณหนึ่งปีเห็นจะได้ ญาติๆพี่น้องๆหรือคนรู้จักกัน ได้มาทำงานอยู่ฝั่งภาคใต้ก่อนแล้ว จึงติดต่อให้เธอลงมาทำงานที่นี่ (บ้านผมอยู่ปักษ์ใต้ เรื่องนี้เกิดเหตุกันที่สุราษฎร์ธานีครับ) คิดๆดูแล้ว นี่แสดงว่าเธอเข้ามาทำงานเมืองไทยตั้งแต่ช่วงอายุ 15 ปี หรืออาจจะไม่ถึง 15 ปีดีด้วยซ้ำไป ระยะเวลาแบบนี้ผมคิดว่ามันมีโอกาสมากทีเดียวที่เธอจะเคยมีแฟนมาก่อน ตรงอย่างความเห็นของคุณ พีแอร์ ครับ เพราะหนึ่งเธอก็มาอยู่ไกลบ้านตั้งแต่แรกๆ อาจจะเคยมีแฟนเป็นชาวพม่าด้วยกัน หรือยังไงก็น่าคิดอยู่ครับ ช่วงหนึ่งปีหลังมานี้ เธอมาพักกับนายจ้างที่นี่ ก็ไม่เคยมีชายใดมาหาเธอเลย มีแต่อาการโทรศัพท์พูดคุยในตอนกลางคืน ซึ่งอาจจะพออนุมานได้ว่า นั่นคือการคุยกับเพื่อนอย่างน้อยที่สุด และอาจจะคือแฟนของเธอเองที่ ณ ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน วันนี้ผมโทรถามเจ๊ที่เป็นเจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่า น้องฟ้า (ชื่อที่คนไทยที่นี่ใช้เรียกเธอครับ) เธอเคยออกจากร้านไปทำงานที่อื่นอยู่ครั้งนึง หลังจากที่อยู่ที่้ร้านนี้ได้ราว 8 เดือน เธอออกไปที่อื่นได้ประมาณ 2 เดือน จากนั้นเมื่อ 2 เดือนที่เพิ่งผ่านมานี้เอง เธอได้กลับมาทำงานที่นี่ใหม่อีกครั้ง ด้วยเหตุที่ว่าพี่เจ้าของร้านอีกคน(พี่น้องสองคนเป็นผู้หญิงภาคเหนือมีครอบครัวแล้วทั้งคู่ครับ) สามีเธอเสียไป เลยต้องไปจัดการเรื่องสามีที่เชียงราย เลยติดต่อให้น้องเขากลับมาทำงานที่เดิม โดยเสนอขึ้นเงินเดือนให้ ส่วนหนึ่งที่เธอกลับมามองว่าเป็นประเด็นเรื่องรายได้และก็เรื่องความเป็นอยู่บางอย่างที่ที่ใหม่ไม่อำนวยนัก อีกประการคงเป็นความกตัญญูและรู้สึกสงสารนายจ้างเก่า เธอเล่าให้ฟังว่า ตอนค่ำๆน้องฟ้าคนนี้ก็หอบหิ้วเอาผ้าของนายจ้างมาเข้าเครื่องซักผ้าโดยไม่คิดว่ามันเป็นหน้าที่ของเธอจริงๆหรือเปล่า เธอบอกว่าเธอคงแย่ถ้าหากว่าน้องเขาต้องมีเหตุย้ายออกไปไหนอีก เพราะเธอก็ไม่รู้จะหาใครขยันและดูรู้งาน รวมถึงนิสัยใจคอไว้ใจได้อย่างน้องฟ้าคนนี้ เจ๊คนนี้บอกให้ผมตัดใจดีกว่า อย่างไรเสียน้องคนนี้ก็ไม่มีทางหลงรักผมได้หรอก คำพูดนี้มันเสียดแทงจริงๆ มันอาจจะมีเหตุอยู่ 3 อย่าง 1.. ผมไม่มีคุณสมบัติในด้านรูปร่าง หน้าตา ผมหน้าตาืพื้นๆทั่วไป ผิวคล้ำ และต้องเรียนก่อนว่าจัดว่าอ้วนทีเดียวครับ 2.. ไม่ใ่ช่คนร่ำรวยอะไร เพียงแต่พอมีชีวิตอยู่อย่างไม่อัตคัตเกินไปนัก 3..เป็นคนไทย น่าเสียดายเหลือเกิน ที่ถ้าจะถูกตัดสินไปด้วยเหตุทั้ง 3 ข้อ โดยถูกมองข้ามในด้านของความจริงใจไป ก็เลยรู้สึกว่า คงต้องมาเปลี่ยนแปลงเหตุ 2 ข้อแรกก่อน แต่เหตุในข้อ 3 นั้น ทำยังไงก็คงเปลี่ยนไม่ได้ และก็รักในความเป็นคนไทย ชนิดที่ว่าถ้าจะต้องมาแบ่งแยกหรือเลืิอกที่จะไม่คบหาสมาคมด้วยเพราะเป็นคนไทย ก็พร้อมจะทิ้งความรักครั้งนี้ไปเสียครับ ข้อ 1 อาจเปลี่ยนไม่ง่ายนัก ก่อนอื่นคงต้องลดน้ำหนักตัว และหันมาดูแลตัวเองพอสมควร ข้อ 2 ก็ทำไ้ด้ไม่ง่ายในระยะเวลาสั้นๆครับ แต่ก็จะลองพยายามทำดู ............................................................... มองว่าไม่ใช่การขาดทุน หรือกำไร เหตุทั้งสองข้อ หากมีความใส่ใจและตั้งใจจริง ผลที่เกิดก็คือผลดีสำหรับตัวเอง .................................... แต่ว่ากำลังคิดว่า ผมมาสุดทางแล้วได้แค่นี้จริงๆเหรอครับ พยายามดูต่อเรื่อยๆอีกซักหน่อยดีไหม แต่ทางที่จะไปมันถูกปิดเกือบหมดเลย 1.. จะมีทางใดให้ได้ติดต่อเธอ หรือพูดคุยกันได้สนิทใจกว่ากับการไปทานข้าวที่ร้านเธอและทำได้แค่นั่งมองดูเธอเวลาที่เธอเดินผ่านมาที่โ๊ต๊ะ ซึ่งตอนนี้เวลาผมไปนั่งทานข้าว ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น เธอแทบไม่อยากเดินเฉียดผ่านมาเลย 2..ดูเหมือนเ้จ้าของร้านเองก็ไม่มีความพึงพอใจเท่าไหร่นัก ส่วนหนึ่งเธอก็มีความยินดีในความสุขของลูกจ้าง ถ้าผมไปทำให้เป็นการรบกวนอีกฝ่ายมากเกินไป จนน้องคนนี้เขารำคาญขึ้นมา และทิ้งร้านเธอไปอีกครั้ง เธอคงหนักใจและปวดหัวหน้าดู หรือหากจะมองในทางพิศดารเข้าข้างตัวเองอย่างที่สุด ก็ถ้าผมสมหวังขึ้นมา ก็คงดึงน้องฟ้าไปอยู่ด้วยกัน ไปสร้างครอบครัวด้วยกัน เธอเองก็คงไม่ปรารถานาให้เกิดเหตุการณ์ในช่วงเร็ววันนี้ 3..ระยะเวลาที่งวดเข้ามา ถ้ายิ่งเธอมีแฟนแล้ว มันก็คือเกมส์ครับ คงผิดหวังแน่นอน คงไม่คิดจะไปแย่งของใครมา อีกอย่างไม่มีกำลังมากพอจะไปสู้รบกับเขาครับ เดินหน้าหรือถอยหลังกลับดีครับทุกท่าน จากคุณ : แงซาย เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 20:28:11 A:101.109.72.242 X: TicketID:353445

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านแล้วกลุ้มแทน 555 ตอบให้ไม่ได้เลยครับของยังงี้แต่ถ้าถามมาว่าจะให้หมดหวังไหมผมว่าไม่ต้องหรอกครับ อะไรๆก็เป็นไปได้ในอนาคตทั้งนั้นอะครับ อีกอย่างของแบบนี้ถ้าจขกทจะเลิกชอบมันจะเลิกชอบเองโดยที่ไม่ต้องถามเลยอะครับ ฉะนั้นตอนนี้ยังตัดใจไม่ได้ก็ไม่ต้องเลิกชอบหรอกครับ มันก็มีความสุขอยู่บ้างมิใช่หรือ เรื่องรูปร่างหน้าตาผมว่าต่อให้รักกันที่นิสัยมันก็ยังเป็นอะไรที่สำคัญนะครับ เราเลือกเกิดมาหล่อไม่ได้แต่เลือกที่จะดูแลตัวเองให้ดูดีที่สุดตามพื้นฐานรูปร่างหน้าตาของเราได้ครับ ใครๆก็ชอบทั้งนั้นอะครับคนที่ดูดีและผมเชื่อว่าใครๆก็อยากให้แฟนของเราดูดีทั้งนั้น อาจจะไม่ต้องหล่อมากมายขั้นเทพหรอกแต่ก็ให้ดูดีหน่อยอะไรงี้อะครับ เรื่องรวยนี่ก็สำคัญ บางคนโลกสวยอาจจะบอกว่าไม่สำคัญแต่จริงๆมันสำคัญครับและมันคนละประเด็นกับเรื่องความพอใจในสิ่งที่เรามี เพราะ ถ้าไม่สำคัญจริงทุกคนก็คงไม่ต้องดิ้นรนทำงานหาเงินหรือพยายามไต่เต้ากันหรอกครับ ทำแค่พอซื้อข้าวกินไปวันๆก็พอจริงไหมแต่ของแบบนี้ต้องใช้เวลาจริงครับ ก็สู้ๆต่อไป ถ้ารักกันจริงก็น่าจะสู้ไปด้วยกันได้ ผมว่าไม่ต้องเครียดนะแต่ก็อย่าหยุดพัฒนาอะครับ อันนี้ผมคิดว่าถ้าจขกทไม่ถึงกับจนมากมายผู้หญิงที่รักจขกทด้วยใจจริงคงไม่คิดมากกับตรงนี้อะครับ เรื่องเป็นคนไทยเลิกคิดครับ 555 จริงๆผมก็วิเคราะห์ไปตามความคิดส่วนบุคคลด้วยอะนะครับแต่จะให้ฟันธงว่าจขกทจะทำอย่างไรนี่สำหรับผมผมทำไม่ได้เพราะไม่มีประสบการณ์มาก่อนเลยครับ คงเป็นได้แค่ให้กำลังใจครับ จขกทก็อย่าซีเรียสมากนะครับรู้ว่าชอบจริงแต่ทุกอย่างบนโลกเราต้องเผื่อใจไว้เสมอครับ ยิ่งอยากได้เท่าไรมันมักจะไม่ได้หรือถ้าได้ก็ได้มาแบบมีตำหนิครับ ทำให้เต็มที่แต่ไม่ต้องคาดหวังมาก ถึงผมพูดแบบนี้ไปก็ไม่ได้แปลว่าทำแล้วจะได้ชัวร์นะครับอยู่ที่ว่าสนาของจขกทเองครับแต่อย่างน้อยที่เห็นได้ชัดคือถ้าไม่คาดหวังมากก็จะไม่เจ็บมากเมื่อผิดหวังอะครับ แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 55 21:56:33 จากคุณ : Keichun เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 21:53:38

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ คุณ Keichun มากครับ ก็ตัดสินใจว่าตั้งแต่พรุ่งนี้จะเริ่มลดน้ำหนัก ให้เหลือซัก 70 - 75 กิโล ผมค่อนข้างโึีครงสร้างหรือกระดูกใหญ่ ถ้าน้ำหนักน้อยกว่านี้จะดูเหมือนคนเป็นโรคเลยครับ แล้วก็คิดว่าคงจะหารายได้อย่างอื่นเสริมเพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ คงต้องเริ่มเปลี่ยนสภาพตัวเองให้ไปในทางที่ดีขึ้น ทางตรงก็เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ัตัวเองก่อนครับ ก็คงเดินหน้าต่อไปแต่ก็คงต้องใช้เกียร์ต่ำ เพราะตอนนี้มันเหมือนขับรถขึ้นที่สูงหรือหน้าผาชัน คงต้องระวังซักหน่อย ไม่อยากจะมาอกหักแรงๆตอนที่อายุเยอะขนาดนี้เหมือนกันครับ ดังนั้นที่ผ่านมาออกตัวแรงไปหน่อยแล้ว ผมก็รักษาระดับความห่าง ให้พอได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ หรือทักทายบ้างเล็กน้อยไปก่อนแล้วกันครับ คิดว่าน่าจะมีความคืบหน้า ส่วนจะทางดีหรือทางร้ายนั้น ไว้จะเข้ามาปรึกษา รบกวนทุกท่านอีกครั้งนะครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : แงซาย เขียนเมื่อ : 28 มี.ค. 55 01:21:56 A:101.109.72.242 X: TicketID:353445

ความคิดเห็นที่ 15 วันนี้ผมไปทานข้าวที่้ร้านไม่ทัน ร้านปิดก่อนแล้ว แต่น้องฟ้ายังทำงาน ทำความสะอาดที่ร้านอยู่ครับ ผมตัดสินใจแวะซื้อขนมร้านที่คิดว่าอร่อยพอสมควรในละแวกนั้น ติดแต่ว่าอาจจะบรรจุหีบห่อไม่น่ารักเท่าไหร่นัก แต่ด้วยความเร่งรีบ จึงซื้อขนมมาสองชิ้น แล้วก็มายืนรอที่หน้าร้าน ผมยืนรออยู่ร่วม 20 นาที เพราะคิดว่าเธอน่าจะทำความสะอาดด้านในเสร็จแล้ว แล้วก็คงจะมาทำความสะอาดหน้าร้าน ยืนรอจังหว่ะอยู่นานทีเดียว ในระหว่างที่ดูแล้วว่าคนผ่านไปผ่านมาน้อยที่สุด ก็เลยเดินไปใกล้ที่เธอทำความสะอาดอยู่และเรียกเธอ เธอไม่ได้สนใจอะไรนักครับ ผมส่งถุงขนมที่ซื้อมาให้เธอก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป ผมจึงถอยหลังและเดินกลับออกมารอยืนที่เก่าประมาณ 10-20 เมตร จากนั้นซักพักเธอก็ออกมาทำความสะอาดหน้าร้าน ซึ่งอยู่ใกล้กับผมเพียงไม่กี่เมตร ผมจึงเดินเข้าไปใกล้ แล้วก็เรียกชื่อ '' ฟ้าครับ '' ระยะมันใกล้กันมากครับ 1 - 2 เมตรเท่านั้นเอง ไม่มีคำตอบ ไม่มีท่าที มีแต่ความนิ่งเฉยอย่างที่สุด ผมเรียกอีกครั้ง ''น้องฟ้าครับ'' เธอยังมีท่าทีเช่นเดิม ผมไม่อยากให้เธอรำคาญมากไปกว่านั้น จึงถอยออกมา เธอทำความสะอาดตรงนั้นต่อซักพักก็เดินเข้าร้านไป หมดหวังครับ สำหรับวันนี้ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี ก็เลยฝากขนมไว้กับอาซิ้มที่ออกมาหน้าร้านพอดี ฝากขนมให้เธอ ซึ่งยังไม่ทราบว่าหลังจากนั้นเธอรับขนมไว้หรือได้ทานมันบ้างหรือเปล่า เศร้าเนอะ T-T จากคุณ : แงซาย เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 17:43:26 A:101.109.79.155 X: TicketID:353445

ความคิดเห็นที่ 16 ทำใจไว้เลยก็ดีครับแต่เรื่องตัดใจน่ะไม่ต้องตั้งเป้านะครับถ้ามันจะตัดเดี๋ยวมันตัดได้เองไม่ต้องฝืนครับ จากคุณ : Keichun เขียนเมื่อ : 29 มี.ค. 55 21:26:18