ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นผมว่า คุณฝึกลดความตื่นเต้นให้ได้ก่อน โดยอาจจะมีการเตรียมตัวให้มากขึ้นกว่าเดิม หาข้อมูลที่ถูกต้อง ในการนำเสนอในที่ประชุม ผมเห็นด้วย ที่มีการเขียนสิ่งที่จะนำเสนอ มาล่วงหน้า แต่นอกจากเขียนแล้ว คุณต้องศึกษา และ อ่านสิ่งนั้นๆ ให้เข้าใจมากๆ เพื่อความเป็นธรรมชาติในการอธิบาย นำเสนอ หรือ หากมีเวลาเตรียมตัวน้อยจริง ๆ ผมแนะนำว่า ให้ลองเขียนสิ่งที่จะนำเสนอทั้งหมดเป็นภาษาพูดให้หมด เช่น สวัสดีค่ะ วันนี้ดิฉันจะมานำเสนอเรื่อง ........ นะคะ โดยรายละเอียดของวันนี้ ........... นอกจากเตียมส่วนแรกนี้แล้วแล้ว ก็ควรทำ รูปแบบ Power Point หรือ เอกสาร/รายงานแจกกรรมการ เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเตรียมตัว และ สไลน์ให้ดูดี เข้าใจง่าย เพื่อจะได้ดึงดูดความสนใจจากคุณไป แล้ว สิ่งที่คุณต้องทำก็ คือ อ่านตามที่เขียนไปเลย แต่ก็ควรมองหน้ากรรมการต่างๆ ด้วย เพื่อเช็คว่าเค้าเข้าใจที่คุณบรรยายไหมนั่นเองครับ ท้ายสุด ทำไปนานๆ คุณจะเริ่มๆเก่งไปเอง เป็นตัวของตัวเองมากๆครับ คิดก่อนออกทุกครั้งว่า วันนี้หล่ะครับ วันที่คุณจะได้แสดงผลงานอีกแล้ว เอาใจช่วยครับ จากคุณ : B2BEEP - [ 21 เม.ย. 50 20:40:52 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ฟังแล้วเห็นใจมากๆเลยครับ ผมว่าเรื่องความไม่มั่นใจเนี่ย สอนกันทางทฤษฏีไม่ได้หรอกครับ ได้มากี่วิธี ก็ต้องขึ้นอยู่กับการนำไปใช้จริง การฝึกฝนตนเองให้ชินกับสถานการณ์นั้นๆ ผมว่าคุณลองหา workshop สร้างบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจดีไหม มีจัดอยู่บ้างเหมือนกัน ลองถามตัวเองดูว่าความกลัวของคุณคืออะไร คุณกลัวที่จะอ่านรายงานต่อหน้ากรรมการเพราะอะไร 1.กลัวอ่านผิด 2.กลัวคนจะคิดว่าคุณโง่ พรีเซนต์เนื้อหาไม่ได้เรื่อง 3.ไม่ชอบให้คนเยอะๆมองและจ้องมาทางคุณ/ไ่ม่ชอบบรรยากาศในห้องประชุมที่เงียบๆและคุณต้องพูดผ่านไมโครโฟนเพียงคนเดียว 3.กลัวโดนซักถาม และคุณจะตอบไม่ได้ คณะกรรมการจะเห็นว่าคุณไม่มีความสามารถ 4. etc. แยกออกมาสิครับว่าคุณกลัวอะไร อะไรทำให้คุณสติแตกได้ทุกครั้ง ถ้าเป็นเพราะคุณไ่ม่ชอบอ่านอะไรให้ใครฟัง ไม่ชอบให้ตัวเองเป็นจุดสนใจ จะทำให้เกร็ง กลัวผิดพลาด - ลองหาทางแก้ดู ลองเริ่มจากไปเล่านิทานให้เด็กๆล้อมวงฟังดีไหม อย่าดูถูกนะครับ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเล่านิทานให้เด็กฟังแล้วพอใจได้ ถือเป็นระดับต่ำสุด , ถ้าคิดว่าสามารถอธิบายให้เด็กๆ และสต๊าฟผู้ใหญ่อีกสิบกว่าคนได้โดยไม่ประหม่า ก็ค่อยๆพัฒนา หาโอกาสค่อยๆเสริมสร้างความมั่นใจ ผมว่ามันต้องมีสักวันที่คุณทำได้ ผมเชื่อว่าคนทุกคนไม่มีใครเกิดมาพร้อมความมั่นใจ อยู่ที่ใครเก็บอาการไม่มั่นใจได้เก่งกว่ากัน ที่พูดเช่นนี้เพราะผมเคยนั่งเรียนวิชาภาษาอังกฤษตอนมอสี่ มีอาจารย์เข้ามาใหม่ หน้าฝรั่งแบบแขกขาว สำเนียงอังกฤษดี ดูมั่นใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เข้ามาพูดจาฉะฉาน เต็มสิบให้สิบสำหรับการมองแบบผิวเผิน ทุกคนคงคิดว่าครูใหม่นี่เซียนจริง ไม่ตื่นเด็กเลย แต่ผมที่นั่งหน้าสุด เห็นมือครูเค้าสั่นดิ๊กๆๆๆๆๆ ระหว่างที่พูดฉะฉานนั่นแหละ สั่นไม่หยุดเลยคุณเชื่อไหม ทำให้ผมรู้ตั้งแต่ตอนนั้นแหละว่า ทุกคนตื่นเต้นทั้งนั้น อยู่ที่ไหนปกปิดได้มากน้อยแค่ไหน นักพูดระดับประเทศ เค้ายังต้องซ้อม ต้องเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี พร้อมกับกลืนความตื่นเต้นความกังวลลงไป เก็บได้มิดที่สุด ที่เค้าได้รับความนิยมความชื่นชม เพราะเค้าคือมืออาชีพไงครับ ขนาดดาราออสการ์ค่าตัวเป็นสิบๆล้าน บทจะต้องขึ้นมากล่าวตอนรับรางวัล ก็พูดผิดพูดถูก ลิ้นพันกัน ลืมพูดสิ่งที่ควรพูดบ้าง ขอบคุณหมดทั้งบางแต่ลืมพูดถึงเมียตัวเองบ้าง ฯลฯ ฉะนั้น ทุกคนตื่นเต้นหมดแหละครับ พวกเค้าเหล่านั้นไม่ได้ตื่นเต้นน้อยไปกว่าคุณหรอก แต่อยู่ที่การควบคุมสติ ควบคุมตนเองให้อยู่หมัดนั่นแหละที่จะช่วยให้คุณคลายความตื่นเต้นได้ ยังไงคุณเริ่มจากการลิสต์สิ่งที่คุณกลัว แล้วค่อยๆหาทางแก้ไปดีไหมครับ :) เป็นกำลังใจให้คุณนะ. จากคุณ : Jamie - [ 21 เม.ย. 50 20:48:27 A:67.15.183.14 X: TicketID:115994 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามที่ความเห็น 2 บอกมาก สิ่งที่เรากลัว ข้อ 2, 3, 4 ใช่หมดเลยค่ะ ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 21 เม.ย. 50 21:07:31 A:58.136.18.199 X: TicketID:068002 ]

ความคิดเห็นที่ 4 แนะนำให้ไปฝึกที่ Toastmaster club สิครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องของประสบการณ์บนเวที ไม่ใช่ความรู้ทางทฤษฎี สนใจ รายละเอียดเพิ่มเติม ลองดูที่ เวปไซต์ www.toastmasters.org หรือ หลังไมค์ครับ จากคุณ : Pat (2connext) - [ 21 เม.ย. 50 21:21:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เจ้าของกระทู้ อาจจะยังอายุน้อยอยู่ พี่แนะนำตั้งแต่ขั้นตอนแรกเลย 1. แต่งตัวในชุดที่เรามั่นใจที่สุด แต่งหน้าให้สวย เพื่อให้เราไม่ต้องกังวล ในรูปลักษณ์ บางคนใส่เสื้อคอลึกและไม่มั่นใจเวลาพรีเซนต์ก็มัวแต่ปิดคอเสื้อ กังวทั้งสคริปทั้งเครื่องแต่งกาย อันนี้ก็สำคัญจ้า 2. สคริปพี่ให้เตรียมเป็นสคริปหยาบๆ ใส่เฉพาะหัวข้อพอ เพื่อเปิดโอกาสให้น้องได้อธิบาย บ้าง ทำให้การบรรยายมันสด มีชีวิตชีวา    พออ่านหัวข้อเสร็จ หนูจะไม่มีอะไรที่น่าสนใจในกระดาษ จะได้เงยหน้ามองผู้คน แต่ในระยะแรกๆหนูอาจจะต้องทดสอบตัวเองด้วยลดสคริป จาก 100% ลงเหลือ 70% แล้วลดไปเรื่อยๆ จนเหลือแค่หัวข้อ 2.สร้างบรรยากาศที่ดีในการบรรยาย ด้วยการยิ้ม การยิ้มทำให้เรามีเวลาอย่างน้อย 2 วินาทีเพื่อคลายความตื่นเต้น และจะทำให้ที่ประชุมต้องยิ้มตอบ กรณีเป้นคนไทย หนูจะได้กำลังใจเพิ่ม แต่ถ้าเป็นฝรั่ง อาจจะไม่ยิ้มตอบ ก็เป็นเรื่องธรรมดานะจ๊ะ 3. สร้างกำลังใจด้วยการ สบตา สบตาคนที่เป็นกำลังในห้อง มันคงมีใครซักคนที่มองหนูและให้กำลังใจ ให้กวาดสายตาไปรอบๆที่ประชุมโดยมอง คนๆนั้นก่อนเป้นคนแรก แล้ว ค่อยๆมองคนอื่น แล้วก็มาจบที่คนๆนี้อีกครั้ง   4. การซื้อเวลา เพื่อให้เราคลายความกังวล เช่น โยนคำถามให้ที่ประชุมตอบบ้าง เวลาที่หูอื้อ ไปต่อไม่ไหว ลองถามกลับสิคะ ว่า ไม่ทราบว่าหนูพูดเร็วไปหรือเปล่าคะ วันนี้ค่อนข้างตื่นเต้นต้องขอโทษด้วยน่ะค่ะ หนูอาจจะได้ซื้อเวลา ต่ออีกอย่างน้อย 3 วินาที ถ้าที่ประชุมส่ายหน้า หนูค่อย บอกว่า งั้นเรามาต่อกันที่หัวข้อถัดไปนะคะ  .... อันนี้เป็นพื้นฐานการพรีเซนต์นะคะ หวังว่าคงช่วยได้บ้างในระดับหนึ่ง จากคุณ : อำแดงเฟริ์น - [ 21 เม.ย. 50 22:47:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราก็เป็นค่ะ คือ ให้ได้รู้นะ ว่าวันนี้จะต้องออกไปพูดในที่ประชุม ใจก็สั่นไปทั้งวันแล้วค่ะ สิ่งที่ คห. 5 แนะนำมา เช่นข้อสอง เราเคยลองนะคะ การเตรียมแค่หัวข้อ พอออกไปเท่านั้นแหละค่ะ เราจับต้นชนปลายไม่ถูก ต้องเขียนทั้งหมดเตรียมไว้ (ตอนเราเขียนทั้งหมดไว้ เราก็รู้สึกว่าเนื้อหามันจะบีบให้เราต้องพูดอย่างที่เราเขียน แต่พอเราไม่เขียน มันก็นึกไม่ออกจริงๆว่าเราจะไปต่อยังไง) สรุป เลยต้องเขียนแล้วก็อ่านเอา เรื่องซื้อเวลานี้ยังไม่เคยค่ะ ข้อนี้จะลองไปปรับใช้ เพราะตอนนี้ idle time เราค่อนข้างเยอะเลยล่ะค่ะ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร จขกท.เป็นเหมือนกับเราไหมคะ จะได้มาปรับทุกข์กัน จากคุณ : hikawa - [ 21 เม.ย. 50 23:23:26 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แนะนำเพิ่มเติมนะครับ วิธีป้องกันการสติแตกเวลาพูดในที่ประชุม ลองชวนเพื่อนๆ ทั้งสนิทและ**ไม่สนิท**(ให้เพื่อนชวนคนที่คุณไม่รู้จักไปด้วยก็ดี) ไปเปิดห้องส่วนตัวร้องคาราโอเกะซิครับ เวลาคุณร้องเพลงให้ไปยืนข้างหน้า เปิดไฟให้สว่างเข้าไว้ ครั้งแรกรับรองคุณสั่นเหมือนตอนพูดในที่ประชุมเลย ฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวดีขึ้นเอง (ไปบ่อยๆ เปลืองตังค์หน่อย แต่สนุก) ถ้าคุณอ่านแล้วคิดว่า "เอะ ฉันก็ร้องคาราโอเกะเป็นประจำและทำแบบที่คุณว่าเนี่ย ก็ไม่เคยสั่นเลย"   ก็ให้ทำตามแบบคุณ คห.1 และให้คิดว่า นี่คือเนื้อเพลงที่คุณยังร้องไม่ได้ เวลาออกไปพูดในที่ประชุม ให้คิดว่า กำลังร้องคาราโอกะ ดังนั้น ไม่มีอะไรต้องกลัว เนื้อเพลงฉันก็จำได้แล้ว เวลาออกไปพูดในที่ประชุม ถ้าคุณจะรู้สึกเหมือนยืนไม่มั่นคง มันจะโงนเงนยังไงก็ไม่รู้ อยากมี 3 ขาจังเลย ให้พยายามยืนใกล้ๆ โต๊ะ หรืออะไรก็ได้ที่ดูมั่นคงแข็งแรง เอามือข้างหนึ่ง จับโต๊ะเอาไว้ หรือใช้นิ้วกดไว้ก็ได้ คุณจะรู้สึกดีขึ้นมาก (จริงๆ ไม่ควรทำ แต่พวกผู้ใหญ่เขาไม่ถือสาหรอก เพราะเขาทราบว่า คุณมือใหม่และพยายามอยู่) ผมว่า คุณออกไปพูดไม่เกิน 3 ครั้งหรอก จากนั้นก็ไม่ต้องพึ่งโต๊ะแล้ว ส่วนคนอื่นๆ แนะนำไว้ดีมากแล้ว อ่านดูแล้วประยุกต์ใช้กับตัวคุณนะครับ ผลเป็นอย่างไรมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ เผื่อคนอื่นๆ ที่มีปัญหาเช่นเดียวกับคุณ (ผมเชื่อว่ามีมากๆ) จากคุณ : ผู้เฒ่าไม่ยอมแก่ - [ 22 เม.ย. 50 01:30:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมเห็นชื่อกระทู้ นี่โดนเต็มๆ เลยครับ เลยเข้ามาอ่าน เช่นกัน ลักษณะงานของผมก็ต้อง present ให้กับกรรมการฟัง แต่เป็นรายเดือนมากกว่า ไม่บ่อยเหมือนของ จขกท. แต่เชื่อจริงๆ นะว่าถ้าวันไหนต้องนำเสนองานแล้ว เป็นอันเครียดๆ ใจไม่ค่อยเป็นสุขล่วงหน้า สองถึงสามวันเลย แต่หลังๆ เริ่มค่อยๆ ปรับตัวครับ ปกติปมเป็นคนพูดเร็วรัว ลิ้นพันกัน ประกอบกับความตื่นเต้น เลยจบเห่เลย หลังๆ ต้องเริ่มพูดให้ช้าลง ตั้งสติ สูดหายใจลึกๆ เว้นจังหวะลมหายใจให้ดี และที่สำคัญ ถ้า Presentation ทำออกมาดีแล้ว ก็ถือว่าสำเร็จไปมากกว่าครึ่งครับ ทำออกมาให้ง่าย คำพูดสั้นๆ แล้วใช้อธิบายตามความเข้าใจเอา เป็นธรรมชาติมากที่สุด อะไรที่ลืมพูดไปแล้ว ก็ผ่านเลยครับ เด๋วกรรมการจะกลับมาถามเราเองทีหลัง ยังไง ก็สู้  ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้กันนา.... จากคุณ : phaley13 - [ 22 เม.ย. 50 02:11:52 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ลองฝึกทำจิต  หรือทำสมาธิดูครับ  ก่อนเข้าไปพรีเซนท์ จากคุณ : IT_sale_man - [ 22 เม.ย. 50 02:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 กระทู้นี้ดีมากเลยครับ ขอเซฟเก็บไว้หน่อย แล้วก็ขอให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ขอให้พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เราต้องนำเสนอ หมั่นซ้อมพูดหน้ากระจก หรือเรียกคนที่บ้านมาฟัง ทำบ่อยๆ เข้า ความตื่นเต้นก็จะค่อยๆ ลดลงไป หรือไม่ก็ (อันนี้ได้คำแนะนำมาจากการ์ตูนที่อ่าน) ให้คิดว่าผู้ฟังเป็นตัวตลก หรืออะไรก็ได้ที่เราไม่ต้องกลัวเวลามองหน้า...คิดว่าได้ผลนะ จากคุณ : Pipatz - [ 22 เม.ย. 50 09:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ตามหลักแล้ว การทำ presentation ที่ดีต้องมี 4P (ไม่่ใช่ 4P marketing นะ).... 1. Preparation ควรมีการเตรียมตัวที่ดี (know the subject well)... analyze ว่าคนฟังมาเพื่อฟังอะไร... เตรียมว่าเราควร present ยังไงเพื่อให้คนสนใจ... ถ้าเป็นแบบไม่เป็นทางการมาก ก็เรียงเรื่องอย่างนึงเพื่อให้คนฟัง... แต่หากเป็นทางการก็หา supporting evidence ไว้... เช่น หากจะพูดอะไรก็ต้องรู้ว่าเอาข้อมูลมาจากใหน ถ้าบอกว่า GDP จะโตขึ้น x% ก็ต้องรู้ว่าเอามาจากใหน (หัดให้เป็นนิสัยโดยการเขียน source... จะำทำให้มั่นใจในการพูดออกมา)... หากจะบอกความเห็นส่วนตัวก็ควรบอกให้เป็นนัยๆ อย่าเหมารวมกับ fact.... ที่สำคัญมากๆคือการเขียน script แล้วลองหัดจับเวลาดู ทำซ้ำๆๆๆไปเรื่อยๆจนกว่าจะมั่นใจ แล้วย่อย script ลงมาให้เหลือแต่หัวข้อ เพราะจะทำให้มั่นใจขึ้น และการพูดก็จะสดขึ้น... ที่สำคัญที่สุด... professor ผมเคยสอนว่า.. "Get a good sleep the night prior the presentation".... หากเราดูไม่สดใส การนำเสนอของเราก็จะแย่ไปด้วย 2. Presenting (Body Language, Eye contact, use of visual aid) ควรหัดใช้ eye contact(เพราะอย่างนี้ล่ะ จึำงไม่ควรอ่านจาก script ตรงๆ)...อย่าไปกลัวคนฟัง... เขาต้องการจะรับฟังความเห็นที่เราเป็น expert.... เรา prepare มาแล้ว อย่าไปกลัว... ใช้ gesture เช่นมือ เลเซอร์อย่างจำเป็น อย่าพร่ำเพรื่อ และอย่ายืนเป็นหิน รวมทั้งการใช้น้ำเสียงที่ดังพอเหมาะ อย่าใช้เสียงเป็น monotone เพราะจะทำให้น่าเบื่อ... ทำให้ได้เหมือนตอนซ้อมในขั้นแรก.... แล้วก็แน่ล่ะครับ หากเตรียม visual aid (flow chart, powerpoint, overhead slides) ก็ควรจะใช้ให้เป็นประโยชน์.. "Visual aids are your friends" 3. People ข้อนี้ผมว่าคุณไม่มีปัญหามากหรอกครับ เพราะผมว่าคุณ respect the audience แล้วก็ know the audience แล้ว... คุณควรจะรู้ว่าใครเป็นคนฟัง ใครเป็น key person ที่คุณต้องมั่นใจว่าเค้าจะออกจากห้องแล้วได้ข้อมูลทุกอย่างที่คุณพูด (เช่น key decision maker, CEO, etc)....... ควรจะพยายามให้คนฟังมีบทบาท ให้เค้ารู้สึกว่าเค้ามีส่วนร่วม ส่วนได้ส่วนเสียกับสิ่งต่างๆที่ present ไปครับ 4. Probing ข้อนี้อาจจะเป็นข้อที่คุณกลัว.. แต่คุณควรจะสังเกตุดูว่า คนฟังรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่คุณ present....  ถ้าเห็นคนเริ่มทำคิ้วขมวด หน้าตาแบบ "ไอ้นี่พูดอะไรหว่า" ก็ต้อง discover ให้เป็น แล้ว elaborate ด้วย supporting evidence ที่ prepare มาครับ..... บางทีเราไม่ควรรอให้โดนถาม แต่ถ้าเราสังเกตุเห็น เราก็ควรจะขยายความเองเพื่อไม่ให้โดน interrupt.... Presenter ที่ดีไม่ใช่ว่าจะพูดอย่างเดียวครับ... ไม่อย่างนั้นอัดเทปแล้วไปกดเล่นก็พอแล้ว... แต่คนพูดที่ดีต้องฟัง (หรือสังเกตุ)คนดูได้ด้วยครับ ซึ่งก็จะเกิดขึ้นได้หากคุณทำ eye contact .... นอกจากนี้แล้วต้องทำ Question & Answer session ให้ตอนจบด้วย เพื่อให้โอกาสซักถาม.... อย่ากลัวครับ เพราะคุณทำข้อ 1 มาแล้ว.... หากอะไรไม่แน่ใจ อย่ากลัวครับ บางทีการบอกว่า ขอไปหาคำตอบให้ จะดีกว่าการเดาตอบไปอย่างไม่แน่ใจครับ อย่างที่ผมได้พล่ามมานาน... ผมว่าคุณอาจจะขาดข้อ 1 มากที่สุดครับ... หากเรา prepare ไม่ดีแล้วเนี่ย ยังไง presentation ก็ไม่มีทางดีหรอกครับ เพราะเราจะไม่กล้า ไม่มี responsibility ในการเป็น subject expert/owner.. ลองดูนะครับ จากคุณ : Blahz -_-' - [ 22 เม.ย. 50 10:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 หลังจากเตรียมตัวมาดีแล้ว  นาทีที่ออกไปยืนต่อหน้าผู้ฟัง  สูดหายใจลึกๆ มองและสบตาผู้ฟังทุกคนสัก2-3 วินาที  ยิ้มนิดๆ แล้วค่อยพูด  มันเรียกความมั่นใจได้มาก จากคุณ : floral_flory - [ 22 เม.ย. 50 12:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 13 หลัก อีกนิด ไม่ค่อยอยากแนะนำ เพราะ ใช้เมื่อตอนถูกกดดันมากๆ เช่น มีคู่แข่ง หรือ โดนสบประมาท ผมจะฮึด แล้วก็ศึกษาข้อมูลมากๆๆๆๆ แล้วก็บอกในใจว่า เราแน่ เราเจ๋ง เราสุดยอด เราต้องทำได้ เราต้องชนะ มันจะมีแรงขับเคลื่อนทางจิตวิทยา บางอย่างสะสมในตัว ให้เรารู้สึก ว่าต้องสำเร็จ แล้ว จะมีความมั่นใจ ตามมา ที่บอกว่าไม่อยากแนะนำ คือ บางทีมันจะทำให้เราดูแข็ง กระด้าง ยโสไปครับ จากคุณ : B2BEEP - [ 22 เม.ย. 50 13:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อยากบอกว่า วิธีการดีดี คำแนะนำดีดี คำพูดดีดี การเตรียมตัวดีดี ....เท่านี้ยังไม่พอ ต้องหมั่น ซ้อม...ฝึกฝน....ซ้อม....ฝึกฝน ด้วยตัวเอง เท่านั้นที่จะช่วยได้ มีหลาย ๆ สถาบันที่สอนการพูดในที่ชุมชน / ต่อหน้าสาธารณชน ถ้ายังไม่อยากไปเรียน ไปฝึก ก็ต้อง ฝึกด้วยตัวเองก่อน โดย 1. ทดลอง present ต่อหน้ากระจกที่บ้าน เป็นการส่วนตัวก่อน 2. ถ้ารู้สึกมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นแล้ว ขอเชิญ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ ๆ มาฟังการ present แล้วให้คำวิจารณ์ดู 3. ต่อไป ลองให้เพื่อนร่วมงาน หรือ พี่ที่ทำงานที่เราสนิท มาลองฟัง present และ วิจารณ์ดู ถ้าผ่านใน 3 ขั้นตอนแล้ว อย่างน้อยคุณจะลดความกลัว และ ความประหม่า ได้ ซึ่งเป็นผลให้คุณควบคุมอารมณ์ และมี สติ ได้ หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่คุณเตรียมมา ในการ present ให้ คณะกรรมการฟัง จะต้อง สื่อสารชัดเจน ใช้ถ้อยคำกระทัดรัด ไม่เยิ่นเย้อ ต้องรู้ว่ามีเวลาพูดในหัวเรื่องแต่ละเรื่องกี่นาที หลังจากนั้นก็ต้องเรียนรู้วิธี ดึงความสนใจของผู้ฟัง เช่น ถามคำถามผู้ฟัง หรือ พูดในแนวมีอารมณ์ขัน แบบพอประมาณ การ present บางครั้งต้องไม่ยืนหรือ นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ควรจะเปลี่ยนอิริยาบถ เปลี่ยนจุดที่ยืน present งานบ้างเป็นระยะ เพื่อดึงสายตาของผู้เข้าฟัง มิให้อยู่ที่จุดเดิมตลอด ในกรณีที่มีการ present ด้วย slide หรือ video ต้องระวังอย่าให้ตัวผู้ present ยืน ในลักษณะบังผู้รับฟัง หรือ มีเงาไปปรากฎอยู่บนจอภาพที่ฉาย ( ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ พยายามให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ) จริง ๆ มี ข้อควรปฏิบัติอีกหลายอย่าง ซึ่งอยากจะแนะนำให้เข้าฝึกอบรม จะทำให้การ present ออกมาดี ขอสรุปดังนี้ - ต้องมีการเตรียมตัวพูดมาอย่างดี - มีการใช้ถ้อยคำที่กระทัดรัด ได้ใจความไม่เยิ่นเย้อ - รวบรวมสติ ไม่ประหม่า ลดความกลัวทุกอย่างให้น้อยที่สุด - รักษาเวลาให้พอดี ไม่ใช้เวลาสั้น หรือ ยาว เกินไป จากคุณ : ชาวบ้านไทย - [ 22 เม.ย. 50 14:34:55 A:203.118.84.129 X: TicketID:125394 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คิดซะว่าพูดคนเดียวสิครับ ทุกคน ณ ที่นั่นเปนแค่ตัวประกอบฉาก....ที่สำคัญต้องมีความรู้ในเรื่องที่จะนำเสนอด้วย เพราะหากมีคนถามเราก็จะตอบได้ ซึ่งการที่เราตอบคำถามได้เนี่ยจะช่วยให้ลดความตื่นเต้นลงไปได้มากเลย.... อย่ากลัว มองหน้าทุกคน กวาดสายตาไปเรื่อย ๆ สลับกับการมองสคริป บางที่ควรจะมีการยิงคำถามไปยังผู้ฟังด้วย เช่น เห็นด้วยมั้ยคะ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง เป็นต้น ต้องพยายามดึงฝูงชนที่นั่งฟังมาเป็นพวกคุณให้ได้ พูดเสียงดังหนักแน่นเข้าไว้ แต่งตัวให้ดูดีน่าเชื่อถือด้วย ฟังดูเหมือนง่ายนะแต่มันก็คงยากสำหรับบางคน.... มันต้องอาศัยการฝึกฝน การฝืนตัวเองน่ะครับ อย่ากลัว เพราะเราทุกคนต้องเผชิญกับความกลัวอยู่แล้ว คิดซะว่าคุณแพ้ความกลัวไม่ได้............... จากคุณ : บอนน์ - [ 22 เม.ย. 50 23:34:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เคยเป็น เมื่อ ๑๐ กว่า ปีก่อน ขณะนี้สบายมากๆๆ บรรยาย คน เป็น พัน จากคุณ : supanut01 - [ 23 เม.ย. 50 07:57:47 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าในแนวคิดของผมนะครับ เราควรจะทำความเข้าใจกับเนื้อหาทั้งหมดก่อน จากนั้นคิดว่า เราควรจะพูดยังไงให้ตัวเองเข้าใจ จากนั้นก็ลองไปพูดให้กับคนใกล้ตวฟังว่าเข้าใจหรือเปล่า ถ้าไม่เข้าใจก็ลองเรียบเรียงใหม่ แล้วพูดจนกว่าจะเข้าใจ ผมคิดว่านะครับ หลักสำคัญมันอยู่ที่ว่า เราเข้าใจในเนื้อหามากแค่ไหน แล้วสามารถถ่ายทอดยังไงให้เข้าใจมากที่สุด ซึ่งถ้าเราลองพูดให้คนใกล้ตัวเราฟังก่อน ยังไงซะพวกคนในที่ประชุม ก็คนเหมือนกัน ยังไงก็ต้องเข้าใจครับ จากคุณ : ผมชื่อกานต์ - [ 23 เม.ย. 50 09:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เข้าใจและเห็นใจมากนะคะ ดิฉันก็เคยเป็น สิ่งที่อยากแนะนำนะคะ อันนี้เป็นวิธีที่ดิฉันเคยทำมานะคะ 1.ศึกษาข้อมูลที่คุณจะ present ให้ละเอียด ลองเตรียมคำถามถ้าคุณเป็นกรรมการหรือผู้ฟังเค้าจะถามอะไรบ้างลอง list รายการและเตรียมคำตอบเอาไว้นะคะ (เป็นวิธีการเตรียมข้อมูลนะคะ) 2.ลอง present หน้ากระจกดูมองตัวเองว่าเวลา present เป็นอย่างไรบ้าง ติดตรงไหนไม ดูแล้วเป็นอย่างไร จากนั้นลองคุยกับเพื่อนที่คุณคิดว่าสนิท เอาแบบว่าติกันได้ตรงๆ ว่ากันได้ จริงใจนะคะ มานั่งฟังคุณ(อาจจะเป็นเพื่อนที่ทำงานลักษณะใกล้เคัยงกันก็ได้ จะไดฟังดูว่าเค้า้เข้าใจคุณไหม) (เป็นวิธีการเตรียมบุคลิกภาพนะคะ) 3.หากวันไหนจะมี present ให้เตรียมชุด เครื่องประดับอะไรที่แบบเข้าชุดที่เหมาะกับคุณนะคะ เอาแบบพอดีนะอย่าแบบว่าเวอร์ไปให้คนที่ทำงานมองคุณมากไปแบบผิดปรกติก็ไม่ดี เตรียมคิดว่าหน้าผมจะแต่งอย่างไร(เป็นวิธีการเตรียมการแต่งกายนะคะ) 4.เมื่อคุณเตรียมพร้อมแล้วให้คิดว่าคุณต้องทำได้ให้กำลังใจตัวเองนะคะ ว่าต้องทำได้ อย่าไปสนใจหากมีอะไร คิดว่าเราทำดีแล้ว มั่นใจเข้าไว้นะคะ 5.ถ้ามีโอกาสก็ไปหาที่นั่งสมาธิบ้างก็ดีนะคะ จะช่วยให้คุณสงบ สุขุม มากขึ้น นีี่เป็นวิธีที่ดิฉันเคยทำมา คือดิฉันเป็น Sales นะคะ เคย Present ตั้งแต่ระดับล่างจนถึงผู้บริหาร เคยPresentตั้งแต่ 1-100 คนนะคะ ก็เคยเกร็งเสียสั่น บางทีพูดไม่ออกเลยคะ ต้องขอน้ำขิงเลยนะคะ อายมากเลย จากนั้นก็เริ่มฝึกอย่างที่บอก ที่สำคัญต้องบอกตัวเองว่า ฉันต้องทำได้ จากคุณ : tt - [ 23 เม.ย. 50 12:01:16 A:58.8.127.125 X: ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมใช้วิธีเหมือนกับ #12 แต่ผมเริ่มต้นจากดูไปหลังห้องสุดเลย แล้วกวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนได้ผลจริงๆ ครับ ลองดู จากคุณ : Reflog - [ 23 เม.ย. 50 22:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เยี่ยมทุก คห. ครับ ขออนุญาต add favorites จากคุณ : แมวหล่อ - [ 24 เม.ย. 50 20:31:51 A:125.25.198.248 X: TicketID:116340 ]