Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    Amway ในความคิดของผม

    เรื่องของแอมเวย์ ก่อนอื่นอยากจะพอก่อนว่า แอมเวย์นั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิต การที่เราว่าอะไรเกี่ยวกับแอมเวย์นั้น มันก็เปรียบเหมือนกับ คนที่บอกว่าจุฬาไม่ดี ไฮโซ ทั้งๆ ที่ จุฬา ไม่ได้มีชีวิตเป็นแค่สถาบันการศึกษาเท่านั้น เพียงแต่ว่า มันอยู่ที่บุคคลากร หรือบุคคลที่อยุ่ในที่นั้นๆ นั่นคือ เด้กนั้นเรียนที่เรียนอยู่ในจุฬา หรือคนที่ทำแอมเวย์นั่นแหละ ซึ่งแต่ละคนมีความคิด นิสัยที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงอยากให้มองมุมมองที่ว่า อะไรไม่ดีนั้น มันอยู่ที่บุคคลมากกว่า

    แต่สิ่งหนึ่ง ที่ตัวข้าพเจ้าพบมา นั่นคือ บุคคลที่ทำแอมเวย์นั้น ส่วนใหญ่ กับมีแนวความคิดที่ค่อนข้างคล้ายกัน (มาก) ดังนั้น การที่ได้ยินคนว่า แอมเวย์นั้น จึงนับรวมเป็นบุคคลได้ เพราะว่า เค้าคิดเหมอืนกันจิงๆ นะ

    แนวความคิดของแอมเวย์นั้น ถ้าจะให้พูดกันจิงๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องของสัจธรรมของโลกเลยก็ว่าได้ แต่..ในความเป็นจริงแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคนมากกว่า

    ถ้าคุณเคยฟังการบรรยายของแอมเวย์ เค้าจะสอนวิธีและหลักการดำเนินชีวิต การวางแผน ฯลฯ ที่ดีต่อชีวิตของเรา มีการสอนเกี่ยวกับ อนาคตที่ดี เช่นอย่างเรื่องที่ผมไปฟังมา (ผมฟังมาบ่อยมากๆ แต่ผมฟังเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า) แอมเวย์เค้าสอนเกี่ยวกับ เรื่องของทรัพย์สิน ผมว่าเป้นสิ่งดีนะ เนื่องจากไม่มีที่ไหนสอน

    สอนให้รู้ว่า รายได้ที่สำคัญของชีวิตนั้น มาจากทรัพย์สิน เนื่องจากว่า ทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่สามารถหาเงินได้ด้วยตัวของมันเอง โดยที่เราไม่ต้องไปลงมือทำในยามที่เราแก่เถ่า

    ได้แก่พวก ที่ดิน บ้านเช่า หรือลิขสิทธิ์ต่างๆ เพราะว่า พวกนี้ มันจะทำเงินให้เราได้ตลอดไป

    เฉกเช่นเดียวกับแอมเวย์ ที่ถือเป้นทรัพย์สินเหมือนกัน นั่นคือ เมื่อยามที่เราแก่ตัวลงไปแล้ว เราทำงานไม่ไหว แต่ถ้าเรามีเครือข่ายของแอมเวย์ เราจะได้เงินปันผลมา ซึ่งทำให้เรามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ในยามแก่เถ่า

    แต่ผม...อยากให้ท่านที่ทำแอมเวย์อยู่ ได้ลองมองอีกมุม ดูบ้าง เพราะคนแอมเวย์ ผมว่ายังมองโลกอยู่แค่ด้านเดียวนะ หรือไม่ อาจจะมองหลายด้านแล้ว แต่ว่า ด้านที่คุณมองนั้นอาจจะถูกต้องสำหรับคุณ และเป็นมุมมองที่ข่อนข้างตรงข้ามกับผมนั่นเอง
    อย่างแรก ที่ผมมองคือ คุณภาพของสินค้าแอมเวย์ .... คุณคิดเสมอว่า ของแอมเวย์ดี แต่ผมกลับมองว่า ...ก็ดี

    เพราะอะไรนะเหรอ
    คนแอมเวย์ ใช้แต่สินค้าของแอมเวย์... ก็เปรียบเสมือนกบในกลานั่นแหละครับ ตราบใดที่คุณไม่เคยใช้ของยี่ห้ออื่น คุณก็จะบอกว่า สินค้าที่คุณใช้ย่อมดีที่สุด คุณอาจจะเถียงว่า ไม่จริง เพราะสินค้าแอมเวย์ มีการเปรียบเทียบกับสินค้าคู่แข่งอยู่ตลอด ........

    แต่ผมคนหนึ่งอยากจะบอกว่า คุณน่าจะลองเปรียบเทียบสินค้าแอมเวย์กับสินค้าอื่นที่มีราคาพอๆกันบ้าง เพราะที่ผมเห้นมาคือ คุณเปรียบเทียบสินค้าแอมเวย์(ที่ราคาก็ค่อนข้างสูง) กับสินค้าระดับล่าง (ราคาถูกกว่ามาก)

    นั่นคือสิ่งแรก ที่ผมอยากจะให้คุณลองมองดูว่า การเปรียบเทียบทางด้านสินค้าของคุณนั้น ถูกต้องแล้วหรือยัง
    อย่างที่สอง คุณมักจะบอกว่า สินค้าแอมเวย์ไม่ได้แพง เพราะคุณภาพดี ใช้เพียงนิดเดียวก็พอ และใช้ได้นานเลยทีเดียวเชียวแหละ

    ผมอยากจะบอกว่า ที่ต้องใช้นิดเดียว เพราะว่ามันแพงตังหากละครับในมุมมองของผม เพราะถ้าจะบอกว่าใช้นิดเดียวก็พอสำหรับสินค้าของแอมเวย์ ผมอยากจะบอกว่า สินค้าอื่นๆ ที่เป้นผลิตภัณท์คู่แข่งของแอมเวย์นั้น คุณลองใช้นิดเดียวเหมือนกันสิ มันก็ไม่ได้แตกต่างกันหรอกนะ

    อย่างเช่นยาสีฟัน บอกว่าให้ใช้นิดเดียว พอผมใช้ของแอมเวย์หมด ผมก็เปลี่ยนยี่ห้อ ก็ใช้นิดเดียวเหมอืนเดิม ฟันผมก็สะอาดเหมือนเดิมนะครับ เพียงแต่แอมเวย์อาจจะมาเป็นตัวกระตุ้นให้ผมเป็นคนใช้ของประหยัดขึ้นก็เท่านั้นแหละครับ

    อย่างที่สาม แอมเวย์มีผลตอบแทน ในขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไม่มี

    แอมเวย์ เมื่อเป็นสมาชิก ซื้อสินค้าถูกลง ยิ่งซื้อมาก ยิ่งถูกลง กำไรของแอมเวย์ ก็มีการปันผล แจกจ่ายให้กับ บุคคลในองค์กร ทำให้สินค้าที่คุณซื้อใช้ในชีวิตประจำวันนั้น เหมือนว่าคุณได้เงินปันผลจากของที่คุณใช้อยู่ทุกวัน

    นั่นแหละครับ สิ่งที่แอมเวย์ให้คุณ ในขณะที่ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซื้อแล้วคุณเสียเงินและรวมไปถึงเงินปันผลที่คุณควรจะได้ กลับไม่ได้ เงินหรือกำไรทั้งหมด ตกไปอยุ่กับผู้ผลิต ไม่ใช่ผู้บริโภค

    แต่ผมขอ ยกตัวอย่าง อย่างหนึ่งละกันนะครับว่า (มันเป็นแค่ตัวอย่างนะ) คุณซื้อยาสีฟันแอมเวย์หลอดละ 100บาท คุณจะได้ปันผลจากการใช้ยาสีฟันจนหมด 10 บาท ...(อุ้ย ดีใจจัง ใช้สินค้าแอมเวย์ก็ได้ เงินคืนมาด้วย ดีจังเลย ไม่มียี่ห้ออื่นคืนนะเนี่ย)...

    แต่ถ้าคุณ ซื้อยาสีฟันดีๆ สักหลอดใน 7-11 ราคาอาจจะอยู่ที่ 70 บาท ใช้ก็ดี คุณภาพก็ไม่ได้แพ้กัน และใช้หมดพร้อมกันด้วยซ้ำ (คุณก็บีบให้เท่ากับที่คุณใช้ของแอมเวย์นะ) คุณก็จะพบว่า คุณจ่ายของถูกลงไปถึง 20-30 บาท มันก็เปรียบเหมือนว่า คุณได้ส่วนลดขณะที่ซื้อสินค้าเลย ไม่เหมือนกับแอมเวย์ ที่จะต้องรอเวลา กว่าจะได้ส่วนลด และเงินปันผลที่ได้จากแอมเวย์นั้น ก็ยังไม่เท่ากับส่วนลดที่ซื้อสินค้ายี่ห้ออื่นเลยด้วยซ้ำ (อ๊ะ หรือจะเถียง)

    คนแอมเวย์มักจะพูดเสมอว่า กำไร ของแอมเวย์ คือกำไร ของทุกคนที่ทำแอมเวย์
    ในผมอยากถามคุณหน่อยว่า กำไรที่แอมเวย์ได้ไปนั้น 100 เปอเซน เป็นของพวกคุณหรือเปล่า
    ก็ไม่ใช่เลย เพราะอย่างไรก็ตาม คำว่าแอมเวย์ที่ใช้อยุ่เมืองไทยนั้น คนไทยไม่ได้เป้นคนคิด

    แน่นอนว่า จะต้องมีเรื่องลิขสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง และนั่นแหละ สิ่งที่รายได้แอมเวย์ประเทศไทยต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ให้กับเจ้าของผู้คิดคำว่าแอมเวย์ขึ้นมา

    แล้วมันเท่าไหร่หล่ะ แล้วคุณๆ ทีอยู่ในแอมเวย์ รู้หรือเปล่า ว่าต้องเสียไปเท่าไหร่ .. ผมตอบให้คุณก็ได้จากความคิดผมว่า พวกคุณก็ไม่รู้ ถึงแม้คุณจะอยู่ในแอมเวย์ก็ตาม ...

    เพราะอะไรหนะเหรอ ก็เพราะถ้าเค้าบอกตัวเงินที่ แอมเวย์ประเทศไทยต้องเสียให้กับเจ้าของแอมเวย์ทำไมหล่ะ มันจะทำให้คุณอาจจะไม่ทำแอมเวย์นะสิครับ แต่ก็มีบางส่วนหรือหลายส่วนที่ยังทำอยู่

    และอีกอย่างที่ผมอยากจะพูดคือ ทำไม คุณกลับไม่มองและหันมาใช้-บริโภคสินค้าไทยให้มันมากขึ้น เพราะสินค้าไทยในปัจจุบันนี้ที่เป้นของคนไทยมันเหลือน้อยมากแล้ว
    คุณกลับไม่สนับสนุน แถมยังใช้สินค้าในชีวิตประจำวันเกือบทุกชนิดเป็นของแอมเวย์ ทั้งๆ ที่เป้นของต่างประเทศ ..

    คุณอาจจะเถียงว่า มันเป็นของไทย เพราะมันคือ แอมเวย์ประเทศไทยจำกัด ... ถ้าอย่างนั้นคุณก็กลับไปอ่านหัวข้อลิขสิทธิ์ใหม่อีกรอบแล้วกันนะ
    และสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกคือ การที่คุณทำแอมเวย์แบบนี้อ่ะ มันทำให้ประเทศไทย สุญเสียรายได้ไปทุกๆ ปี เพราะมีคนทำแอมเวย์มากขึ้น และคนที่ทำแอมเวย์ ก็ไม่ใช้ของอย่างอื่นเลยหรือใช้น้อยมาก กับของที่ไม่ใช่ของแอมเวย์ และถ้าเป็นแบบนี้กันทุกคน คุณคิดว่า ประเทศไทยอยู่ได้ ฤๅ

    กับการที่ประเทศไทยต้องสูญเสียเงินออกนอกประเทศไปเรื่อยๆ
    และเมื่อถึงวันที่ประเทศไทย ..... บุคคลที่ทำเเอมเวย์ คงจะพูดว่า พวกเรานี่โชคดีนะ ที่ทำแอมเวย์ เพราะเราสร้างทรัพย์สิน ไว้แล้ว ทำให้ในภาวะที่ประเทศไทยวิกฤต พวกคุณจะมีเงินจากเครือข่ายในการอยู่รอด แต่ชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา จะต้องตกเป็นบุคคลชั้นล่างที่ทำงานหากินไปวันๆ ผมว่า คุณคิดแบบนี้ก็ไม่ผิดหรอกนะครับ ที่จะคิดว่าคุณโชคดีที่ทำเเอมเวย์

    แต่ผมอยากจะบอกว่า ถ้าประเทศไทยเกิดวิกฤตขึ้นมาจริงๆ สาเหตส่วนหนึ่งคงมาจากพวกคุณแหละครับ ที่ทำให้คนอื่นๆกลายเป็นชนชั้นล่าง


    ก็เปรียบเสมือนว่า คุณหยิบแผ่นดินประเทศไทยไปสร้างบ้าน ในที่ของคุณเอง จนถึงวันนึง ประเทศไทยไม่มีที่อยู่ ในขณะที่คุณมีบ้านเรียบร้อยแล้ว และความคิดคุณตอนนั้น ก็คงพูดว่า "ดีนะ ที่เรามีบ้านของตัวเองก่อนที่ประเทศไทยจะไม่มีที่อยู่” แต่คุณกลับไม่คิดเลย ว่าที่ประเทศไทยไม่มีที่อยู่ก็เพราะคุณนั่นแหละครับ แอมเวย์

    ขอขอบคุณทุกท่านมากนะครับที่อ่านมาจนถึงตรงนี้
    อย่างไรก็ตาม ผมขอย้ำว่า นี่คือความคิดของผมเท่านั้นนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณด้วยครับ

    จากคุณ : ขาจร - [ 11 ส.ค. 50 00:00:25 A:58.136.242.219 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom