ความคิดเห็นที่ 1 หากเป็นครั้งแรกที่คุณจะต้องทำหน้าที่นี้เป็นเรื่องธรรมดา ครั้งแรกผมก็อึดอัดเหมือนกัน พอทำบ่อยๆเข้าทั้งรับเข้ามาทำงาน,ให้ไม่พ้นโปร หรือไม่ก็ให้ออกและที่สุดคือไล่ออก ก็เลยมองเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงาน หากคุณคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทเป็นหลัก ดังนั้นผมว่าคุณอย่าไปคิดอะไรที่มันซับซ้อนมากเกินไป อย่าเอาความรู้สึกของเราเข้าไปเกี่ยวพันมาก มันอาจจะไม่ถึงขนาดที่เราคิด เช่นเราไปตัดอนาคตของน้องเขาหรือเปล่า แล้วน้องเขาจะทำอย่างไร ฯลฯ บางครั้งการทำตัวเป็นพี่ใหญ่ที่ใจดี ก็ไม่ได้ทำให้น้องๆเขาได้มีโอกาสเผชิญกับสิ่งที่จะต้องเจอในอนาคตและเติบโตเข้มแข็งขึ้น อย่างไรก็ตามเราก็ต้องทำตามหน้าที่ หากผู้ใหญ่สั่งมา มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว หาสถานที่เป็นกลางเช่นห้องประชุมเล็กหรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ห้องของคุณ ที่สามารถคุยกันได้เงียบๆ แล้วเราก็แจ้งน้องเขาไปตรงว่าเพราะอะไร ทำไม สั้นๆ ที่นี้ก็อยู่ที่ว่าปฏิกริยาของน้องเขาเป็นอย่างไร หากเขาฟังจบแล้วร้องไห้ คุณก็ไม่ต้องไปปลอบ ก็เดินออกมาปล่อยให้เขาทำใจยอมรับ  หากเขาฟังจบลุกออกไปก็ปล่อยไป ไม่ต้องตาม ผมว่ามันก็แค่นี้นะน่ะ อาจจะโหด แต่ชีวิตการทำงานก็เป็นแบบนี้ เชื่อผมเถอะคุณทำได้... แก้ไขเมื่อ 23 พ.ย. 50 22:44:31 จากคุณ : ทัพที่เก้า - [ 23 พ.ย. 50 22:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนที่จะตัดสินใจว่าลูกน้องของคุณไม่ผ่านทดลองงาน ไม่ทราบว่าทั้งคุณและผู้ใหญ่ให้เวลากับลูกน้องเพียงพอแล้วหรือยัง บางบริษัทกำหนดทดลองงานไว้ 3 เดือน แต่พอพนักงานทำงานไปได้เพียง 1-2 สัปดาห์ก็ไปตัดสินลงทัณฑ์ไปแล้วว่าเขาไม่เหมาะสม ถ้าเป็นเช่นนั้นก็อยากให้พิจารณาให้เวลาและให้โอกาสเขาอีกสักนิด และขอถามเพิ่มว่าก่อนที่จะตัดสินใจแจ้งว่าลูกน้องไม่ผ่านทดลองงาน คุณกิมก๊กหรือผู้ใหญ่เคยเรียกคุยเพื่อประเมินผลหรือตักเตือนเพื่อให้เขารู้ข้อบกพร่องและปรับปรุงตัวบ้างหรือไม่ หากได้ทำขบวนการขั้นต้นไปหมดแล้วและยังยืนยันว่าเขาไม่เหมาะสม และต้องเลิกจ้างสถานเดียว คุณกิมก๊กก็คงต้องดำเนินการไปตามหน้าที่ บอกเขาถึงข้อบกพร่องของเขาไปตรง ๆ เพื่อเขาจะได้ไปพัฒนาตัวเองสำหรับองค์กรใหม่ในภายภาคหน้า พร้อมกับคำแนะนำที่จะเป็นประโยชน์สำหรับเขาให้มากที่สุด และถ้าเป็นไปได้พยายามหาข้อดีหรือจุดเด่นของเขามาชี้ให้เห็นเพื่อให้เขารักษาข้อดีเหล่านั้น พร้อมกับการปรับปรุงจุดบกพร่องของตนเองต่อไป เป็นงานหินแต่คุณก็ต้องเรียนรู้ที่จะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จากคุณ : Destinyhurtsme - [ 23 พ.ย. 50 22:42:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 สำหรับผมจะตัดความรู้สึกส่วนตัวออกประเมินงานด้วยผลงานจริงๆ ใช้วิธิการสังเกตุเอง หรือคำรายงานจากหัวหน้างาน ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ว่าจะมีผู้ไม่ผ่านโปรเกิดขึ้น(ซึ่งมีโอกาสที่จะทราบล่วงหน้า ผมในฐานะฝ่ายบุคคลจะเรียกเข้ามาพูดคุยและซักถามในขั้นต้นก่อน อาจจะมีการกล่าวตักเตือนหรือให้คำปรึกษา) การพูดคุยเพื่อจุดประกายไฟในตัวนั้นเราสามารถทำได้ หากเกิดจากความบาดหมางภายในองค์กรคงยากกว่าเพราะจิตใจคนยากแท้หยั่งถึง จากคุณ : 35-25-36 - [ วันลอยกระทง 08:37:38 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ก่อนอื่นขอแสดงความชื่นชมคุณจขกท. ที่มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น   โดยเฉพาะผู้ใต้บังคับบัญชานะครับ  ถือว่าเป็นลักษณะที่ดีตามความเห็น ของผมนะครับ ส่วนเรื่องการแจ้งข่าว  ก็ให้แจ้งข่าวร้าย  แล้วตามด้วยข่าวดี  หรือมุมมอง ในแง่ดี  เช่น มันเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้ในโลกแห่งความจริง  และการ ค้นหาว่าอะไรเหมาะกับเรา(น้องคนนั้น)  การทำตรงนี้ได้ไม่ดี  ไม่ได้หมาย ความว่าไร้ความสามารถ  แต่อาจหมายถึงไม่เหมาะกับงานนี้เท่านั้น ทำให้เขารู้สึกดีกับตัวเองก่อนออก  จะได้มีกำลังใจสู้ต่อไป  แต่คงไม่ต้อง ถึงกับพยายามปลอบมากมาย(สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ)  เพียงใช้เวลาพูดคุย สักนิดสำหรับเด็กดีๆ ที่อาจจะได้บทเรียนการทำงานจากความผิดหวังครับ จากคุณ : Jimmy Walker - [ วันลอยกระทง 11:09:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 และต้องแจ้งเค้า เราควรจะทำไงดี รบกวนผู้เชี่ยวชาญ 1.  แจ้งล่วงหน้า 30 วัน ให้เขาหางานใหม่ 2.  ถ้าถึง 120 วัน คุณ ต้องให้เขาพ้น โปร ถ้า ไม่ให้ ต้อง ให้เขา 1 เดือน เพราะผ่าน โปร แล้วตามกฎหมาย 3.  ต้องแน่ใจ ว่า เขาผิดจริง และ บริษัท คุณ ไม่มเคยผิดกฏหมาย ได้ ๆ เลย ฯลฯ จากคุณ : supanut01 - [ วันลอยกระทง 11:20:29 ]

ความคิดเห็นที่ 6 จากประสบการณ์ที่ทำงานมา เข้าใจครับว่าในฐานะหัวหน้างานย่อมลำบากใจที่จะต้องบอกลาลูกน้องด้วยสาเหตุนี้  และในฐานะที่ทำงานในสาย HR ก็เข้าใจที่บางบริษัทต้องรับลูกต่อจากหัวหน้างานให้เป็นผู้บอกลาพนักงานแทน  หรือในหลาย ๆ ที่ก็ต้องทำงานนี้ร่วมกับหัวหน้างาน   มองเห็นว่าการทำหน้าที่ร่วมกับหัวหน้างานจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด สำหรับการกระทำดังกล่าว เพราะหัวหน้างานจะรู้ในจุดที่พนักงานบกพร่อง และเราจะรู้ในแง่ประเด็นของข้อกฎหมาย จะสอดประสานกันได้อย่างพอดี   อีกประเด็นหนึ่งก็คือ ตัวหัวหน้างานเองจะได้รับประสบการณ์ถึงความอึดอัดของบรรยากาศช่วงนั้น และจะระมัดระวังในการรับคนใหม่เข้ามามากขึ้น สถานที่ ควรเป็นที่ ๆ เราคุ้นเคย ผมใช้สถานที่ ที่ผมชำนาญหรือได้เปรียบที่สุด ไม่ควรมีอุปกรณ์ใด ๆ ที่อาจถูกหยิบฉวยเป็นอาวุธได้ และช่องว่างเอาไว้เผื่อมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นเพื่อที่จะหลบหลีกได้ทัน ระยะเวลา  ช่วงเวลาดังกล่าว ไม่ควรมีกำหนดเวลา เช่น 15 นาที 20 นาทีหรืออะไรทำนองนี้ จะกลายเป็นการกดดันตัวเอง  ปล่อยให้เวลาไปเรื่อย ๆ จนกว่าพนักงานที่ได้รับการแจ้งจะมีอารมณ์เย็นลง จึงจะปล่อยให้กลับบ้านไป เราทำงานกับคน ไม่ใช่เครื่องจักร   ถ้าเครื่องจักรเสีย ก็ถอดชิ้นที่เสียออก ใส่ชิ้นใหม่เข้าไป ก็จบ   แต่คนเสียนี่ ถอดชิ้นไหนเปลี่ยนไม่ได้ครับ เลยต้องใช้เวลาเป็นเครื่องช่วยบรรเทาแทน การแจ้งเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องไม่ดีสำหรับพนักงานผู้นั้น  เราไม่สามารถทราบถึงอารมณ์ในขณะนั้นของเขาได้  การแจ้งเรื่องและละทิ้งไปเฉย ๆ บางครั้งจะเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้ตามมาทีหลังได้  ถ้าคุณเจอคนที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ เขาอาจทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายคุณ ผมจึงไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้       ที่ใช้มาตลอดคือเมื่อแจ้งเรื่องแล้วสังเกตอาการของพนักงานผู้นั้นตลอด ถ้าแววตายังแข็งกร้าว ผมจะไม่ปล่อยออกไปเด็ดขาด ต้องพูดอธิบายไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะเย็นลงจึงจะปล่อยให้ออกไป มีอยู่ 2 ประโยคที่แนะนำก็คือ 1. คุณไม่ได้เป็นคนที่แย่ หรือไม่ดี เพียงแต่คุณไม่เหมาะกับที่นี่เท่านั้น........ 2. (กรณีเป็นพนักงานชาย) ผมแนะนำให้กลับบ้านเลย ไม่ต้องแวะที่ไหนทั้งนั้น แล้วเข้านอนเลยใช้เวลาพักผ่อนนอนไปเลยสัก 3 วัน แล้วค่อยกลับมานั่งคิดเรื่องอนาคตใหม่........... ทั้ง 2 ประโยคข้างต้นจะเป็นตัวช่วยให้ เรื่องราวผ่อนคลายไปในทางที่ดีของทั้งผู้บอก และผู้รับข่าวสาร จึงแจ้งมาเพื่อพิจารณา ปล. การบอกเลิกจ้างเนื่องจากไม่พ้นทดลองงานนี้ ต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 1 งวดการจ่ายค่าจ้างนะครับ  อย่าใช้มุขใด ๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินดังกล่าวเลย  เป็นบาปนะครับ จากคุณ : Paniti P (Paniti P) - [ วันลอยกระทง 11:24:02 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทำใจครับ บริษัทไม่ใช่กรมประชาสงเคราะห์ครับ แต่คุณได้สอนงานน้องเค้าบ้างหรือเปล่าครับ เด็กจบใหม่ควรมีพี่เลี้ยงคอย ดูแลชีวิตการทำงานและแนะนำการทำงาน และควรเรียกคุยเรื่องการทำงานทุกเดือนระหว่างทดลองงาน หากทำแบบบนี้แล้วไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องให้ออกครับ โปรดจำไว้ว่าคนทุกคนมีคุณค่า มีความสามารถเสมอ ขึ้นอยู่กับหัวหน้างาน ด้วยว่าจะดึงศักยภาพเค้าออกมาได้เท่าไร จากคุณ : กาล-อวกาศ - [ วันลอยกระทง 11:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ สอนเค้า ให้โอกาสเค้าเต็มที่หรือยัง ถ้ายัง ลองพิจารณาใหม่ จากคุณ : MiraSport - [ วันลอยกระทง 12:05:56 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คุณได้ให้โอกาสกับน้องเค้ารึยังคะ แบบที่เค้าเรียกกันว่า ต่อโปรให้เค้าได้แสดงฝีมืออีกหน่อย และที่คุณบอกว่าเห็นใจน้องเค้า คุณได้ fight ให้น้องเค้ารึยัง....เช่นขอโอกาสจากหัวหน้าคุณ จากคุณ : My love and Me myself - [ วันลอยกระทง 22:43:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ( มีอยู่ 2 ประโยคที่แนะนำก็คือ  1. คุณไม่ได้เป็นคนที่แย่ หรือไม่ดี เพียงแต่คุณไม่เหมาะกับที่นี่เท่านั้น........ 2. (กรณีเป็นพนักงานชาย) ผมแนะนำให้กลับบ้านเลย ไม่ต้องแวะที่ไหนทั้งนั้น แล้วเข้านอนเลยใช้เวลาพักผ่อนนอนไปเลยสัก 3 วัน แล้วค่อยกลับมานั่งคิดเรื่องอนาคตใหม่........... ปล. การบอกเลิกจ้างเนื่องจากไม่พ้นทดลองงานนี้ ต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 1 งวดการจ่ายค่าจ้างนะครับ ) เห็นด้วย   บางบริษัท คนเข้า ออก เป็นว่า เล่น  และ งานบุคคล คือหน้าด่าน เป็นการฝึกปรือฝ่ายบริหาร ให้ มีความเข้มแข็ง เขาบอกว่า เป็น แม่ทัพ  ต้อง เหี้ยม  แต่ระวัง โดน ตีหัวนะ จากคุณ : supanut01 - [ 25 พ.ย. 50 02:39:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ให้บอกว่าการประเมินผลงานของพนักงาน เป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการประเมินร่วมกันหลายคน ให้เน้นว่า มีหลายคน ซึ่งผลสรุปโดยรวมคือ พนักงานใหม่ไม่ผ่าน เพราะ ได้คะแนนไม่ถึงมาตรฐานที่บริษัท ตั้งไว้ ให้มีความรู้สึกคล้ายกับว่า เขาเองมีการเตรียมตัวไม่พร้อมในการสอบคัดเลือกเข้าเรียน เมื่อไม่ผ่านก็ต้องรับสภาพไปโดยปริยาย แล้วลองสังเกตปฏิกิริยาของเขา เพื่อการจัดการที่เหมาะสมต่อไป ส่วนเรื่องการจะให้มีการต่อเวลาทดลองงานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคุณที่ไปคุยกับผู้ใหญ่ในบริษัทแล้วเขาว่าอย่างไรบ้าง ถ้าคุณสงสารเขา ก็ให้โอกาสเขาแก้ตัว แต่ถ้าผู้ใหญ่ของคุณบอกว่าไม่ได้ ก็จำใจต้องจาก...ด้วยดี จากคุณ : ผ่านมา - [ 25 พ.ย. 50 21:57:26 A:61.90.22.106 X: TicketID:107517 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราเอง เคยโดนปสก.ตรงตอนทำงานที่แรกเลยค่ะ แปลกนะ บอกว่า ทำใจลำบากเวลาพูด แต่เวลาทำลงไป ไม่คิดถึงคนกินเงินเดือน 8 พัน ที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อนเลยบ้าง เราเองก็อยากจะแจ้งลาออกแล้ว แต่เราไม่รู้เรื่องกฎหมายหรือกฎอะไรเท่าไหร่ ว่าเราสามารถออกได้ในช่วงโปร เรามัวแต่รอจะบอกหัวหน้าตอนเดือนสุดท้ายว่าจะออก กะจะบอกล่วงหน้าอ่ะ แต่ในที่สุด พี่เค้าก็บอกเราในวันที่ 30 แล้วบอกว่า ไม่ต้องมาทำงานในวันที่ 31 แล้ว มันเสียความรู้สึกนะ รู้สึกหัวหน้าเราก็รุ่นพี่ที่คณะนี่แหละ เรารู้ตัวว่าเราทำงานได้ไม่ดี ใจมันไม่ได้แล้ว แต่ไม่ควรตัดอนาคตเรา และทำให้เราเสียความรู้สึกขนาดนี้ เจอกันครึ่งทางก็ได้ จะต่อโปร หรือบอกให้เราลาออกเองก็ได้น่ะ เวลาตอบคำถาม HR เวลาสัมภาษณ์เราเจ็บปวดนะ.... บางครั้งก็ต้องโกหก ซึ่งไม่ดีเลยค่ะ (เรื่องนานแล้วเน้อ) ป.ล. บริษัทนั้นก็ใหญ่นะคะ แต่ระบบจัดการภายในแย่มาก พนักงานเปลี่ยนหน้าบ่อย ทั้งๆที่เป็นองค์กรใหญ่ แต่เน่าในสุดๆ "การบอกเลิกจ้างเนื่องจากไม่พ้นทดลองงานนี้ ต้องจ่ายค่าบอกกล่าวล่วงหน้าอย่างน้อย 1 งวดการจ่ายค่าจ้างนะครับ  อย่าใช้มุขใด ๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินดังกล่าวเลย  เป็นบาปนะครับ" จากคุณ Paniti P พี่เค้าบอกก่อน 1 วันเองค่ะ เคว้งเลย ดีนะที่จ่ายเงินเดือน อ่อ..เราไม่รู้เรื่องประกันสังคมด้วยค่ะ เลยตกงานแบบโคตรจนอยู่ 2-3 เดือนเลยทีเดียว จากคุณ : pompoko - [ 25 พ.ย. 50 23:37:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณเป็นคนน่ารักมากๆเลยค่ะ ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่นขนาดนี้ ขนาดเรา โดนพูด ประมาณว่า จริงๆ อยากขยายโปร อีก แต่ตามระเบียบแล้วมันไม่มี คือพูดเหมือนกับว่าในความคิดเค้า เรายังไม่ผ่านเท่าไหร่ ... เค้ายังไม่อยากเซ็นต์ผ่านโปรให้ ไอ้ตำแหน่งที่เค้ารับเราเนี่ย เค้าต้องการคนมีประสบการณ์นะ อีกคนที่รับมาพร้อมเรา (ทำตำแหน่งคู่กันแต่ดูข้อมูลคนละด้าน) ก็มีประสบการมา 5-6 ปี แล้วดันมารับเด็กจบใหม่อย่างเรา มันก้คงมีอะไรขัดใจเค้าอยู่แล้วแหละ ... สรุป เราก็ผ่านโปร ตอนนี้ก็ยังทำงานอยู่ที่เดิม ตำแหน่งเดิม แต่ความรู้สึกแย่กับตัวเอง ในครั้งนั้น มันยังกัดกินหัวใจเราอยู่เลยค่ะ ยังจำหน้า จำเสียงพี่คนที่พูดได้อยู่เลย มันบั่นทอนความมั่นใจ และ ความเคารพในตัวเองกับเรามากๆ ++++++++++++++++++++++++++++++ ดังนั้น ยิ่งถ้าจะบอกน้องเค้าว่าไม่ผ่านโปร ... เลือกคำพูดดีๆนะคะ ไม่งั้น..หน้า น้ำเสียง และคำพูดคุณ อาจติดตา ติดหู น้องคนนั้นไปตลอดชีวิต แน่นอนค่ะ จากคุณ : ต้วนมันอ้า - [ 26 พ.ย. 50 09:31:35 ]

ความคิดเห็นที่ 14 น่าเห็นใจทั้งคนบอกและคนถูกบอกให้ออก  แต่ก็ต้องทำใจ   เป็นรสชาติหนึ่งของชีวิต   เดี๋ยวก็จะชาชิน  แต่อยากให้ทั้งสองฝ่ายคิดในแง่บวกเมื่อต้องจากกันคือ  บริษัทก็จะได้รับคนใหม่ที่เหมาะกับงานมากกว่า  ส่วนผู้ที่ถูกบอกให้ออกก็จะได้ไปทำงานในที่ใหม่ที่เหมาะกับตัวเองมากกว่าที่นี่   และอาจจะเจริญก้าวหน้ากว่าเยอะแยะ  เคยเห็นมีอยู่คนหนึ่งออกไปทำค้าขายเองจนร่ำรวยอย่างนี้ก็มี จากคุณ : แล้วแต่คุณ - [ 26 พ.ย. 50 15:36:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ผมชืนชมครับจขกท.ครับ ผมก็สไตล์จขกท.เหมือนกันครับ พอดีที่ทำงานมันสามารถขยายโปรฯได้ครับ เลยชี้แจงไป แนะนำ ฉลุยครับ จากคุณ : ตาชิโบ - [ 29 พ.ย. 50 13:52:35 ]